Scholar’s Advanced Technological System 826 เซิร์น

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 826 เซิร์น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่โจววานให้ผู้ช่วยจ้าวชงกาแฟให้เขาอีกถ้วย เขาใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการฟังประสบการณ์ของหลัวเหวินเซวียนที่เซิร์นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาอย่างเงียบๆ

“การดีไซน์เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ส่วนใหญ่ทำโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนและสถาบันวิศวกรรมอวกาศ อย่างไรก็ตามสถาบันวิจัยของจีนนั้นไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนดังนั้นเราจึงติดต่อไปหาเซิร์น…”

สาขาการวิจัยเชิงทฤษฎีเก็บความลับได้น้อยมาก เพราะเมื่อใดก็ตามที่เซิร์นมีข้อมูลอยู่ในมือมากๆ พวกเขามักจะส่งข้อมูลให้กับสถาบันวิจัยอื่นๆ ทั่วโลก และนี่คือที่มาของอินเทอร์เน็ต สถาบันวิจัยมักจะทำตามสัญญากันแม้ว่าที่ใดที่หนึ่งจะมีความสามารถในการแข่งขันในด้านผลการวิจัยที่ก้าวล้ำกว่าก็ตาม

แต่หลังจากที่ชาวยุโรปรู้ว่าจีนกำลังวางแผนที่จะสร้างเครื่องชนอนุภาคแฮดรอน พวกเขาก็มีความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้นกว่าชาวจีนเสียอีก พวกเขาส่งวิศวกรตรวจจับ LHCb และ ALICE ที่ดีที่สุดไปยังปักกิ่ง จากนั้นก็ส่งไปที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนอีกสิบแห่ง

แน่นอนว่าทั้งหมดนั้นไม่ได้ฟรี

เพราะเหตุผลที่เซิร์นกระตือรือร้นที่จะช่วยนั้นก็คือความหวังว่าจะร่วมมือกับจีนในการวิจัยฟิสิกส์อนุภาค เพราะเกือบครึ่งหนึ่งของการทดลองฟิสิกส์พลังงานจะถูกดำเนินการในอวกาศ หลังจากการสร้างเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนเสร็จแล้ว สมมติฐานที่ไม่เคยตรวจสอบได้ ตอนนี้สามารถทดสอบในอวกาศได้แล้ว

ในบรรดาเหล่านักวิชาการหลายคนจากสถาบันฟิสิกส์พลังงานสูง หลัวเหวินเซวียนคือคนที่ทำงานให้เซิร์นเป็นเวลานานที่สุดแล้ว และเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้นำกลุ่มผู้เยี่ยมชมงานวิจัยของจีนอีกด้วย

เขามีหลายอย่างที่จะพูดหลังจากที่ใช้เวลาไปสองเดือนที่เซิร์น

“เอ็ดเวิร์ด วิทเทนไม่ได้อยู่ที่นั่นมานานแล้ว หลังจากที่ฉันได้ถามพนักงานที่เซิร์น เขาออกจากเซิร์นไปแล้วและตอนนี้เขาย้ายไปทำงานที่พรินซ์ตันแทน”

“ไม่ใช่แค่วิทเทนแค่นั้น แต่อาจารย์ที่เก่งคนอื่นๆ ก็จากไปเช่นกัน ฉันเดินไปรอบๆ อาคารบรรยาย แต่ก็จำอาจารย์คนไหนในนั้นไม่ได้เลย”

หลัวเหวินเซวียนมองดูไอระเหยที่ลอยขึ้นมาจากถ้วยกาแฟ และเขาก็ถอนหายใจด้วยความเศร้า

เขาต้องการที่พบเพื่อนเก่าที่เซิร์นแต่ส่วนใหญ่เพื่อนๆ เหล่านั้นได้ออกไปหมดแล้ว พวกเขาแก่เกินไปที่จะทำงานต่อ หลายคนๆ ไปทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ หรือบางคนก็ไปทำงานที่สถาบันวิจัยอื่นแทน

“มันเป็นเรื่องปกติของเซิร์น คนในสาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎีส่วนใหญ่จะทำงานที่นั่นในช่วงชีวิตหนึ่งๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะจบลงที่ไหน” ลู่โจวกล่าว เขาหยิบถ้วยกาแฟของตัวเองแล้วพูดว่า “มันก็เหมือนกับฟิสิกส์เชิงทฤษฎี เมื่อมีสิ่งใหม่เข้ามาแล้วของเก่าก็ต้องหายไปเป็นธรรมดา”

“อย่าพูดถึงเรื่องที่น่าเศร้าแบบนี้เลย” หลัวเหวินเซวียนยิ้มและส่ายหัว เขากล่าวว่า “แต่ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ล่ะก็ ฉันเจอสิ่งที่น่าสนใจในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา”

ลู่โจวกล่าวว่า “เรื่องอะไร?”

หลัวเหวินเซวียน “นายจำได้ไหม? คนใหญ่คนโตที่เซิร์นชอบเรียนภาษาฝรั่งเศสเป็นงานอดิเรก”

ลู่โจวยิ้มแล้วพยักหน้า

“ฉันพอจะจำได้รางๆ”

เซิร์นเป็นสถานที่รวมคนฉลาดที่สุดในโลกมาอยู่ด้วยกัน เมื่อใดก็ตามที่วางกลุ่มคนฉลาดอยู่ด้วยกันก็ย่อมมีการแข่งขันกันเสมอ

และพวกเขาไม่สามารถที่จะแข่งกันในด้านวิชาคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์ได้ เพราะพวกเขาทั้งหมดเก่งที่สุดในศาสตร์ของตัวเองอยู่แล้ว อีกทั้งยังไม่สามารถเปรียบเทียบผลการวิจัยกับคนอื่นได้ เพราะมันจะเหมือนกับการเปรียบเทียบระหว่างแอปเปิลกับส้ม

แต่ถ้าใครก็ตามที่สามารถเรียนรู้ภาษาได้ภายในหนึ่งเดือนหรือหนึ่งหรือสองสัปดาห์ นั่นย่อมเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความฉลาดที่เหนือคนอื่นอย่างไม่ต้องสงสัย

นี่อาจฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อ แต่คนเหล่านั้นที่ทำงานที่เซิร์นมักจะเรียนภาษาฝรั่งเศสให้สามารถในสนทนาภาษาฝรั่งเศสได้ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

และโรงงานของเซิร์นครึ่งหนึ่งตั้งอยู่ในฝรั่งเศส ดังนั้นการเรียนภาษาฝรั่งเศสและการบรรยายเป็นภาษาฝรั่งเศสจึงเป็นหนึ่งใน ‘งานอดิเรก’ ที่พวกเขาโปรดปราน

เมื่อลู่โจวไปเยี่ยมเซิร์นเป็นครั้งแรก เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในงานอดิเรกแบบนี้ เขาได้ยินเรื่องนี้จากอาจารย์คนอื่นๆ ที่ทำงานที่นั่น

ตัวอย่างเช่น แฟรงก์ วิลกเซคที่เคยโม้กับลู่โจวว่าเขาสามารถเรียนภาษาฝรั่งเศสได้ภายในสองสัปดาห์…

“ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปนะ” หลัวเหวินเซวียนยิ้มและพูดว่า “การเรียนภาษาฝรั่งเศสตอนนี้ไม่ทันสมัยอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าการเรียนภาษาจีนคือวิธีใหม่ในการคุยโวความฉลาดตัวเองไปแล้ว”

“เรียนภาษาจีนงั้นเหรอ?”

“ใช่” หลัวเหวินเซวียนยิ้มและกล่าวว่า “เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้ภาษาราชการของปราสาทจันทราเป็นภาษาจีน และผลการวิจัยปราสาทจันทราก็ได้โพสต์ออนไลน์เป็นภาษาจีนอีกด้วย และการแปลฟิสิกส์เชิงทฤษฎีในกูเกิ้ลถือเป็นหายนะมาก ทำให้เหล่านักวิชาการจำนวนมากเริ่มเรียนภาษาจีนมากขึ้น”

“… ช่างโชคร้ายเหลือเกิน”

ลู่โจวยิ้มและลูบจมูกของเขาอย่างเชื่องช้า

ดูเหมือนว่านี่เป็นความผิดของเขาเสียแล้ว

แม้ว่าจะไม่มีกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดว่าวิทยานิพนธ์ที่ผลิตในปราสาทจันทราต้องเป็นภาษาจีน แต่ข้อมูลและผลการทดลองที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของปราสาทจันทรานั้นเป็นภาษาจีนทั้งหมด

ทำให้ชีวิตนักวิชาการหลายชาติๆ อยู่ยากขึ้นมาก…

แต่อย่างไรก็ตามจีนนั้นเป็นประเทศที่สร้างปราสาทจันทราขึ้นมา ดังนั้นพวกเขาจึงมีสิทธิ์เผยแพร่ในภาษาของตนเองอย่างแน่นอน

และในแง่หนึ่ง นี่คือพลังการขับเคลื่อน

ภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่จะต้องเชี่ยวชาญการใช้มัน แต่การปรับปรุงอิทธิพลของภาษาพื้นเมืองในโลกวิชาการก็เป็นความรับผิดชอบของนักวิชาการเช่นกัน

หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนและปราสาทจันทราจะจัดตั้งวารสารอิสระขึ้นเพื่อเผยแพร่เฉพาะผลการวิจัยจากปราสาทจันทรา

และเมื่อถึงเวลานั้น ไม่เพียงแต่ข้อมูลการวิจัยจะเป็นภาษาจีน แต่วารสารต่างๆ ก็จะเป็นภาษาจีนอีกด้วย

“ก็ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น แม้ว่าฉันจะไม่เห็นเพื่อนของตัวเองที่เซิร์นแต่ฉันก็เห็นเพื่อนของนายนะ”

ลู่โจว “เพื่อนของฉัน?”

“ศาสตราจารย์แฟรงก์ วิลกเซค” หลัวเหวินเซวียนยักไหล่และยิ้ม เขาพูดว่า “เขาบอกให้ฉันถามนายว่างานวิจัยของนายเกี่ยวกับสัญญาณ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์เป็นอย่างไรบ้าง? เซิร์นทำการทดลองอีกครั้ง แต่ไม่พบแม้กระทั่งสัญญาณ 1 ซิกมาด้วยซ้ำ”

ลู่โจวยิ้ม “คราวหน้าบอกเขาด้วยว่าหลังจากที่เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนเสร็จสิ้นฉันจะให้คำตอบเขา…”

หลัวเหวินเซวียนยิ้มและพูดว่า “โอ้ จริงเหรอ? ฉันจะรอดูตอนมันเสร็จนะ”

……………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Scholar’s Advanced Technological System 826 เซิร์น

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 826 เซิร์น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่โจววานให้ผู้ช่วยจ้าวชงกาแฟให้เขาอีกถ้วย เขาใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการฟังประสบการณ์ของหลัวเหวินเซวียนที่เซิร์นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาอย่างเงียบๆ

“การดีไซน์เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนบนดวงจันทร์ส่วนใหญ่ทำโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนและสถาบันวิศวกรรมอวกาศ อย่างไรก็ตามสถาบันวิจัยของจีนนั้นไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนดังนั้นเราจึงติดต่อไปหาเซิร์น…”

สาขาการวิจัยเชิงทฤษฎีเก็บความลับได้น้อยมาก เพราะเมื่อใดก็ตามที่เซิร์นมีข้อมูลอยู่ในมือมากๆ พวกเขามักจะส่งข้อมูลให้กับสถาบันวิจัยอื่นๆ ทั่วโลก และนี่คือที่มาของอินเทอร์เน็ต สถาบันวิจัยมักจะทำตามสัญญากันแม้ว่าที่ใดที่หนึ่งจะมีความสามารถในการแข่งขันในด้านผลการวิจัยที่ก้าวล้ำกว่าก็ตาม

แต่หลังจากที่ชาวยุโรปรู้ว่าจีนกำลังวางแผนที่จะสร้างเครื่องชนอนุภาคแฮดรอน พวกเขาก็มีความกระตือรือร้นเพิ่มขึ้นกว่าชาวจีนเสียอีก พวกเขาส่งวิศวกรตรวจจับ LHCb และ ALICE ที่ดีที่สุดไปยังปักกิ่ง จากนั้นก็ส่งไปที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนอีกสิบแห่ง

แน่นอนว่าทั้งหมดนั้นไม่ได้ฟรี

เพราะเหตุผลที่เซิร์นกระตือรือร้นที่จะช่วยนั้นก็คือความหวังว่าจะร่วมมือกับจีนในการวิจัยฟิสิกส์อนุภาค เพราะเกือบครึ่งหนึ่งของการทดลองฟิสิกส์พลังงานจะถูกดำเนินการในอวกาศ หลังจากการสร้างเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนเสร็จแล้ว สมมติฐานที่ไม่เคยตรวจสอบได้ ตอนนี้สามารถทดสอบในอวกาศได้แล้ว

ในบรรดาเหล่านักวิชาการหลายคนจากสถาบันฟิสิกส์พลังงานสูง หลัวเหวินเซวียนคือคนที่ทำงานให้เซิร์นเป็นเวลานานที่สุดแล้ว และเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้นำกลุ่มผู้เยี่ยมชมงานวิจัยของจีนอีกด้วย

เขามีหลายอย่างที่จะพูดหลังจากที่ใช้เวลาไปสองเดือนที่เซิร์น

“เอ็ดเวิร์ด วิทเทนไม่ได้อยู่ที่นั่นมานานแล้ว หลังจากที่ฉันได้ถามพนักงานที่เซิร์น เขาออกจากเซิร์นไปแล้วและตอนนี้เขาย้ายไปทำงานที่พรินซ์ตันแทน”

“ไม่ใช่แค่วิทเทนแค่นั้น แต่อาจารย์ที่เก่งคนอื่นๆ ก็จากไปเช่นกัน ฉันเดินไปรอบๆ อาคารบรรยาย แต่ก็จำอาจารย์คนไหนในนั้นไม่ได้เลย”

หลัวเหวินเซวียนมองดูไอระเหยที่ลอยขึ้นมาจากถ้วยกาแฟ และเขาก็ถอนหายใจด้วยความเศร้า

เขาต้องการที่พบเพื่อนเก่าที่เซิร์นแต่ส่วนใหญ่เพื่อนๆ เหล่านั้นได้ออกไปหมดแล้ว พวกเขาแก่เกินไปที่จะทำงานต่อ หลายคนๆ ไปทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ หรือบางคนก็ไปทำงานที่สถาบันวิจัยอื่นแทน

“มันเป็นเรื่องปกติของเซิร์น คนในสาขาฟิสิกส์เชิงทฤษฎีส่วนใหญ่จะทำงานที่นั่นในช่วงชีวิตหนึ่งๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะจบลงที่ไหน” ลู่โจวกล่าว เขาหยิบถ้วยกาแฟของตัวเองแล้วพูดว่า “มันก็เหมือนกับฟิสิกส์เชิงทฤษฎี เมื่อมีสิ่งใหม่เข้ามาแล้วของเก่าก็ต้องหายไปเป็นธรรมดา”

“อย่าพูดถึงเรื่องที่น่าเศร้าแบบนี้เลย” หลัวเหวินเซวียนยิ้มและส่ายหัว เขากล่าวว่า “แต่ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ล่ะก็ ฉันเจอสิ่งที่น่าสนใจในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา”

ลู่โจวกล่าวว่า “เรื่องอะไร?”

หลัวเหวินเซวียน “นายจำได้ไหม? คนใหญ่คนโตที่เซิร์นชอบเรียนภาษาฝรั่งเศสเป็นงานอดิเรก”

ลู่โจวยิ้มแล้วพยักหน้า

“ฉันพอจะจำได้รางๆ”

เซิร์นเป็นสถานที่รวมคนฉลาดที่สุดในโลกมาอยู่ด้วยกัน เมื่อใดก็ตามที่วางกลุ่มคนฉลาดอยู่ด้วยกันก็ย่อมมีการแข่งขันกันเสมอ

และพวกเขาไม่สามารถที่จะแข่งกันในด้านวิชาคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์ได้ เพราะพวกเขาทั้งหมดเก่งที่สุดในศาสตร์ของตัวเองอยู่แล้ว อีกทั้งยังไม่สามารถเปรียบเทียบผลการวิจัยกับคนอื่นได้ เพราะมันจะเหมือนกับการเปรียบเทียบระหว่างแอปเปิลกับส้ม

แต่ถ้าใครก็ตามที่สามารถเรียนรู้ภาษาได้ภายในหนึ่งเดือนหรือหนึ่งหรือสองสัปดาห์ นั่นย่อมเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความฉลาดที่เหนือคนอื่นอย่างไม่ต้องสงสัย

นี่อาจฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อ แต่คนเหล่านั้นที่ทำงานที่เซิร์นมักจะเรียนภาษาฝรั่งเศสให้สามารถในสนทนาภาษาฝรั่งเศสได้ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

และโรงงานของเซิร์นครึ่งหนึ่งตั้งอยู่ในฝรั่งเศส ดังนั้นการเรียนภาษาฝรั่งเศสและการบรรยายเป็นภาษาฝรั่งเศสจึงเป็นหนึ่งใน ‘งานอดิเรก’ ที่พวกเขาโปรดปราน

เมื่อลู่โจวไปเยี่ยมเซิร์นเป็นครั้งแรก เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในงานอดิเรกแบบนี้ เขาได้ยินเรื่องนี้จากอาจารย์คนอื่นๆ ที่ทำงานที่นั่น

ตัวอย่างเช่น แฟรงก์ วิลกเซคที่เคยโม้กับลู่โจวว่าเขาสามารถเรียนภาษาฝรั่งเศสได้ภายในสองสัปดาห์…

“ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปนะ” หลัวเหวินเซวียนยิ้มและพูดว่า “การเรียนภาษาฝรั่งเศสตอนนี้ไม่ทันสมัยอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าการเรียนภาษาจีนคือวิธีใหม่ในการคุยโวความฉลาดตัวเองไปแล้ว”

“เรียนภาษาจีนงั้นเหรอ?”

“ใช่” หลัวเหวินเซวียนยิ้มและกล่าวว่า “เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้ภาษาราชการของปราสาทจันทราเป็นภาษาจีน และผลการวิจัยปราสาทจันทราก็ได้โพสต์ออนไลน์เป็นภาษาจีนอีกด้วย และการแปลฟิสิกส์เชิงทฤษฎีในกูเกิ้ลถือเป็นหายนะมาก ทำให้เหล่านักวิชาการจำนวนมากเริ่มเรียนภาษาจีนมากขึ้น”

“… ช่างโชคร้ายเหลือเกิน”

ลู่โจวยิ้มและลูบจมูกของเขาอย่างเชื่องช้า

ดูเหมือนว่านี่เป็นความผิดของเขาเสียแล้ว

แม้ว่าจะไม่มีกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดว่าวิทยานิพนธ์ที่ผลิตในปราสาทจันทราต้องเป็นภาษาจีน แต่ข้อมูลและผลการทดลองที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของปราสาทจันทรานั้นเป็นภาษาจีนทั้งหมด

ทำให้ชีวิตนักวิชาการหลายชาติๆ อยู่ยากขึ้นมาก…

แต่อย่างไรก็ตามจีนนั้นเป็นประเทศที่สร้างปราสาทจันทราขึ้นมา ดังนั้นพวกเขาจึงมีสิทธิ์เผยแพร่ในภาษาของตนเองอย่างแน่นอน

และในแง่หนึ่ง นี่คือพลังการขับเคลื่อน

ภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่จะต้องเชี่ยวชาญการใช้มัน แต่การปรับปรุงอิทธิพลของภาษาพื้นเมืองในโลกวิชาการก็เป็นความรับผิดชอบของนักวิชาการเช่นกัน

หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีนและปราสาทจันทราจะจัดตั้งวารสารอิสระขึ้นเพื่อเผยแพร่เฉพาะผลการวิจัยจากปราสาทจันทรา

และเมื่อถึงเวลานั้น ไม่เพียงแต่ข้อมูลการวิจัยจะเป็นภาษาจีน แต่วารสารต่างๆ ก็จะเป็นภาษาจีนอีกด้วย

“ก็ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น แม้ว่าฉันจะไม่เห็นเพื่อนของตัวเองที่เซิร์นแต่ฉันก็เห็นเพื่อนของนายนะ”

ลู่โจว “เพื่อนของฉัน?”

“ศาสตราจารย์แฟรงก์ วิลกเซค” หลัวเหวินเซวียนยักไหล่และยิ้ม เขาพูดว่า “เขาบอกให้ฉันถามนายว่างานวิจัยของนายเกี่ยวกับสัญญาณ 750 จิกะอิเล็กตรอนโวลต์เป็นอย่างไรบ้าง? เซิร์นทำการทดลองอีกครั้ง แต่ไม่พบแม้กระทั่งสัญญาณ 1 ซิกมาด้วยซ้ำ”

ลู่โจวยิ้ม “คราวหน้าบอกเขาด้วยว่าหลังจากที่เครื่องชนอนุภาคแฮดรอนเสร็จสิ้นฉันจะให้คำตอบเขา…”

หลัวเหวินเซวียนยิ้มและพูดว่า “โอ้ จริงเหรอ? ฉันจะรอดูตอนมันเสร็จนะ”

……………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+