Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ 578

Now you are reading Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ Chapter 578 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 578 ลองทรมานขั้นสอง ระบายอารมณ์หน่อย

“รอให้พวกเขาเปิดผนึกก่อน เจ้าค่อยลงมือเถอะ” องค์หญิงจิ่งโหลวพูดกับชู่มู่เสียงเบา

ชู่มู่ย่อมรู้วิธีนี้ เขาในตอนนี้จึงคอยสังเกตการณ์เงียบ ๆ อยู่ด้านข้าง

ชู่มู่มองไปยังมังกรจำศีลมรกตตัวนั้น ขนาดตัวของมังกรจำศีลมรกตแข็งแรง ทั้งตัวเต็มไปด้วยพลัง ดวงตาดุร้ายคู่นั้นได้เผยความไม่เป็นมิตรออกมาต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ

มังกรจำศีลมรกตยังคงมีความแตกต่างจากมังกรจำศีลอัมพรมรกตอยู่ ผิวของมังกรจำศีลอัมพรมรกตจะเข้มกว่า เกล็ดมังกรปกคลุมทั่วทั้งตัว เหมือนเกราะที่สร้างจากโลหะสีเขียว ปกคลุมบนร่างอันทรงพลังของมัน เผยให้เห็นโครงของกล้ามเนื้อ บวกกับลำตัวใหญ่โตของมัน ทันทีที่บินขึ้นบนฟ้า เหมือนเป็นผู้บงการสรรพสิ่ง !

ส่วนในด้านพลังและรูปร่างภายนอกของมังกรจำศีลมรกตยังคงด้อยกว่ามังกรจำศีลอัมพรมรกตอยู่ ชู่มู่สังเกตเห็นตอนที่เจอกับมังกรจำศีลมรกตตัวเต็มวัยที่เมื่องหลีตัวนั้น

มังกรจำศีลมรกตเต็มวัยที่เมืองหลีตัวนั้นได้ผ่านการเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยตัวเองจนอยู่ในระดับราชัน ความสามารถเหนือกว่ามังกรจำศีลมรกตของลี่ฮวังอีก มังกรจำศีลมรกตตัวเต็มวัยย่อมเทียบกับมังกรจำศีลอัมพรมรกตไม่ได้ แต่ตอนที่ได้รับบาดเจ็บในเมืองหลีแล้วยังสู้กับราชันแข็งแกร่งทั้งสองและการล้อมโจมตีของจักรพรรดิชั้นยอด พลังแข็งแกร่งนั้น ทำให้ชู่มู่สะเทือนใจไม่น้อย

เมื่อเทียบกับมังกรจำศีลมรกตตัวนี้ของลี่ฮวัง ชู่มู่กลับรู้สึกได้แค่ความดุร้ายเท่านั้น…

“พี่ลี่ฮวัง นี่เหมือนจะเป็นผนึกดาวคู่ ต้องหาจุดดาวอีกสองอันถึงจะเปิดออกได้” ชายเสียงเล็กแหลมก่อนหน้านี้พูดขึ้น

ชายที่มีเสียงเล็กแหลมคนนี้ชื่อจ้าวมู่หลิง เป็นผู้แข็งแกร่งวัยหนุ่มด้านการควบคุมสิ่งมีชีวิตตระกูลพืช แม้ความสามารถจะไม่อยู่ในสิบอันดับแรกของขั้นหนึ่ง แต่มีชื่อเสียงไม่น้อย

“ตลก ในเมื่อข้ามาที่นี่ได้ จะไม่รู้วิธีเปิดได้อย่างไร” ลี่ฮวังหัวเราะออกมา

ตอนพูด ลี่ฮวังได้เดินไปตรงกลางสุดของเจดีย์ป่ามรณะ เริ่มใช้ร่ายวิญญาณของตัวเองเปิดผนึกใต้เจดีย์ป่ามรณะนี้ พยายามที่จะคลายผนึกออก

ตามที่ร่ายวิญญาณของลี่ฮวังแพร่ลงไป ยอดเจดีย์ระหว่างป่ามรณะแห่งนี้กลับมีพลังสีดำส่องประกายขึ้น พลังเหล่านี้มีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้พวกมันเชื่อมต่อกัน เริ่มเกิดเป็นลายเส้นผนึกสีดำอย่างหนึ่ง

พลังสีดำชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากผ่านไปไม่นาน โครงของทั้งผนึกนี้ปรากฏด้านบนเจดีย์ป่ามรณะแห่งนี้ ตามที่พลังนี้รวมกัน ลายเส้นผนึกต่าง ๆ รูปภาพต่าง ๆ เริ่มปรากฏขึ้น…

และแล้ว ผนึกถูกลี่ฮวังเปิดออกแล้ว !

ชู่มู่แอบรู้สึกแปลกใจ ทำไมเจ้าลี่ฮวังนี้สามารถเปิดผนึกได้โดยไม่ผ่านจุดดาวคู่ หรือว่าเป็นเพราะตัวเองได้ทำลายจุดดาวคู่แล้ว ลี่ฮวังถึงเปิดผนึกนี้ได้

ผนึกได้เปิดออกแล้ว เห็นประตูมิติพิเศษที่เกิดจากลายเส้นสีดำเหนือเจดีย์ป่ามรณะได้ชัดเจน สิ่งมีชีวิตในผนึกบินออกมาได้ สิ่งมีชีวิตนอกผนึกก็บินเข้าไปได้

“พวกเราเข้าไปเถอะ ข้าได้ยินว่า มังกรวายุอลวนตัวนี้เป็นมังกรชั้นหนึ่ง ไม่รู้ว่าถูกผนึกไว้นานขนาดนี้แล้ว ฟันหลุดหมดหรือยัง ฮะ ฮะ ฮะ” ลี่ฮวังหัวเราะออกมา

ตอนพูด เขาได้กระโดดขึ้นหลังของมังกรจำศีลมรกตแล้ว จะให้มันกรจำศีลมรกตบิรเข้าไปในผนึกทันที

เห็นสามคนนี้กำลังจะบุกเข้าไปในผนึกของมังกรวายุอลวน ชู่มู่รู้สึกว่าถึงเวลาต้องลงมือแล้ว

“ถ้าไม่อยากตายละก็ ออกจากผนึกนั้นเดี๋ยวนี้ !” ชู่มู่เดินออกจากกำแพงพืชที่อยู่ด้านข้าง ตะโกนห้ามสามคนนี้ที่คิดร้ายกับมังกรวายุอลวน

ลี่ฮวัง จ้าวมู่หลิงและผู้คุมดวงวิญญาณอีกคนกำลังจะขี่ดวงวิญญาณของตัวเองบินขึ้นไป หลังจากได้ยินเสียงนี้ ต่างตกใจขึ้น รีบทำการป้องกัน !

ทั้งสามคนนี้ก็นับว่ามีสติอยู่ ในด่านที่สิบนี้ คาดว่าจะมีผู้แข็งแกร่งมากมาย พวกเขาเองก็อาจถูกคัดออกได้ ดังนั้นหลังจากได้ยินเสียงจึงทำการโต้ตอบทันที

ทว่า ในตอนที่สามคนนี้พบว่าฝ่ายตรงข้ามมีแค่คนเดียว ต่างนิ่งอึ้ง

“น่าแปลก คนนี้คือใคร เหมือนจะไม่เคยเห็นมาก่อน” วัยหนุ่มอีกคนหนึ่งมองไปยังชู่มู่อย่างประหลาดใจ

“เหมือนจะคุ้น…อ้อ ข้านึกออกแล้ว คือคนที่ท้าทายข้ามขั้น เอาชนะโอรสน้อยวังมารนิรย ผู้ที่มีชื่อเสียงในขั้นสอง ชู่เฉิงตำหนักวิญญาณ !” เสียงแหลมของจ้าวมู่หลิงพูดขึ้น จากใบหน้าของเขาพอจะมองเห็นความประหลาดในใจของเขา

ผู้เข้าแข่งขั้นสองมาที่ด่านสิบของพวกเขาได้อย่างไร

ถ้าเดินผิด ก็คงเดินผิดมากไปหน่อย อย่างน้อยเขตของด่านที่เก้าและด่านที่สิบนี้ห่างกันตั้งหลายวัน ระหว่างทางถูกกั้นไว้อย่างแน่นหนา

“เจ้าเด็กตำหนักวิญญาณ เมื่อกี้เจ้าบอกว่าอะไร” ลี่ฮวังยักคิ้วขึ้น เขาเหมือนจะจำชู่มู่ได้บ้าง แต่กลับไม่สนใจชู่มู่

ชู่มู่รู้ว่าคำพูดของตัวเองไร้ประโยชน์ การตะโกนแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้พวกเขาเข้าไปในมิติผนึกของมังกรวายุอลวน

แน่นอนว่า ชู่มู่รู้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แทบไม่ต้องพูดอย่างเกรงใจ” ให้พวกเจ้าไสหัวออกไป !”

มีดวงวิญญาณระดับราชัน ในรุ่นวัยหนุ่ม ชู่มู่ยังต้องเกรงใจใครอีก

“ฮะ ฮะ ฮะ ท่าทางเจ้าเด็กนี้แทบไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน !” จ้าวมู่หลิงหัวเราะออกมาทันที

สามคนนี้ได้ยินน้ำเสียงของชู่มู่ เดาว่าผู้แข็งแกร่งวัยหนุ่มชั้นสองคนนี้ยังคิดว่า ตัวเองอยู่ด่านที่เก้า ยังไม่รู้ว่า ตัวเองเข้ามาในด่านสิบอย่างเง่าเขลา แล้วยังเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งด่านที่หนึ่งอย่างพวกเขา !

“เมืองอมตะมีเส้นทางเดินมากมายขนาดนี้เจ้ากลับไม่เดิน เจ้าเหยียบลายเส้นสีแดงก็ได้ แต่กลับเข้ามาในด่านที่สิบ แล้วยังตะโกนใส่พวกข้าอีก เจ้าหาที่ตายเหรอ !” ผู้คุมดวงวิญญาณที่ไม่รู้ชื่อคนนั้นพูดขึ้น

“ฟังไว้ ที่นี่เป็นด่านที่สิบ เป็นสนามประลองของขั้นหนึ่งพวกข้า!คนที่แข็งแกร่งที่สุดของขั้นสองพวกเจ้า แทบไม่อยู่ในสามสิบอันดับแรกของพวกข้า ดวงวิญญาณแข็งแกร่งที่สุดในขั้นสองของพวกเจ้าเป็นแค่ตัวตลกในสายตาของพวกข้า!”จ้าวมู่หลิงเสียงแหลมพูดเยาะเย้ย

“จ้าวมู่หลิง จัดการเขา อย่าให้ขยะตำหนักวิญญาณคนหนึ่งเสียเวลาของข้า” หลังจากลี่ฮวังรู้ตัวตนของชู่มู่แล้วแทบไม่มองเขา ไม่ปกปิดท่าทีเย่อหยิ่งนั้นแม้แต่น้อย

จ้าวมู่หลิงยิ้มเล็กน้อย แอบคิดในใจ ผู้แข็งแกร่งทุกคนในด่านที่สิบนี้ล้วนแข็งแกร่งมาก ทำให้ช่วงเวลานี้เขาตึงเครียดอย่างมาก ตอนนี้มีผู้เข้าแข่งขันขั้นสองคนหนึ่งโผล่มา ได้จังหวะพอดี ทรมานเจ้าเด็กนี่ ระบายอารมณ์หน่อย

“ให้เจ้ารู้ความแตกต่างของขั้นหนึ่งกับขั้นสอง เจ้าเด็กชู่เฉิง เชื่อไหมว่าดวงวิญญาณตัวเดียวของข้าก็จัดการเจ้าทั้งหมดได้แล้ว” จ้าวมู่หลิงก็ไม่รีบร้อน ดวงวิญญาณหมวดพืชของเขาอยู่ใต้ดิน แค่เขาออกคำสั่ง มันจะพุ่งออกทันที

ชู่มู่ก็ไม่กลัว เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งขั้นหนึ่งอย่างแน่นิ่ง

องค์หญิงจิ่งโหลวไม่ปรากฏตัว ยืนดูอยู่ด้านข้าง หลังจากได้ยินคำพูดนั้นของจ้าวมู่หลิง กลับพูดขึ้นเสียงเบาว่า “น่าจะเป็นชู่มู่ที่ใช้ดวงวิญญาณตัวเดียวจัดการพวกเจ้าทั้งหมด”

“มั่วเย้ ต่อสู้ !” ชู่มู่ออกคำสั่ง

“อู อู อู”

มั่วเย้กระโดดลงจากไหล่ของชู่มู่ อัคคีแห่งโทษบนตัวลุกโชนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง พลังลึกลับนั้นกระจายไปทั่ว เมื่อเทียบกับร่างจิ้งจอกอัคคีเก้าหางมงกุฎเพลิงแล้ว พลังนี้รุนแรงกว่ามาก !!!

ฝ่ายตรงข้ามมีดวงวิญญาณตระกูลพืช ดังนั้นมั่วเย่ไม่ได้ใช้ลายเส้นแห่งโทษ แต่ใช้อัคคีแห่งโทษห่อหุ้มทั้งตัวเอาไว้ หลังจากหางเก้าเส้นกางออก มั่วเย้เพิ่มความเร็วทันที ระเบิดออกราวกับลาวาของภูเขาไฟ พุ่งขึ้นด้วยความร้อนและความเร็วสูง !!!

พลังราชันของมั่วเย๋กระจายออกราวกับทะเลเพลิง แผดเผาเจดีย์ป่าสีดำแห่งนี้ พวกลี่ฮวังต่างนิ่งอึ้ง แทบไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น !!!

จักรพรรดิพืชตัวนั้นของจ้างมู่หลิงซ่อนอยู่ใต้ดิน มั่วเย้เองได้เล็งไปยังดวงวิญญาณตัวนี้ มันพุ่งตรงไปยังร่างหลักของดวงวิญญาณพืชตัวนี้ !

จ้าวมู่หลิงแทบไม่ทันได้ทำการโต้ตอบ ก็เห็นอัคคีแห่งโทษสีแดงเข้มปรากฏตัวในตำแหน่งที่ดวงวิญญาณของเขาซ่อนตัวเอาไว้ !!!

“กรงเล็บอัคคีแห่งโทษ !!!”

ลำตัวอัคคีแห่งโทษสีแดงเข้มของมั่วเย้ระเบิดออก เปลวไฟที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นตีบนตัวทั้งสามคน !

ท่ามกลางอัคคีแห่งโทษงดงามนี้ พลังของมั่วเย้กระจายออก หมุนตัวอย่างสง่างาม กรงเล็บดุร้ายตวัดลงพื้นก่อเป็นกริดดวงจันทร์ที่มีเปลวไฟลึกลับสีแดงเข้มลุกโชนอยู่ !!!

“ซ่า !!!”

กริดดวงจันทร์ที่ลุกโชนนี้มีความยาวถึงสองร้อยเมตร พื้นสีดำที่แข็งแรงยิ่งกลับถูกฉีกออกง่ายดายราวกับผิวน้ำ ลึกลงไปยังตำแหน่งร่างหลักของจักรพรรดิหมวดพืชตัวนั้น !!!

จักรพรรดิพืชตัวนั้นแทยไม่สามารถหลบได้ พลังของการฉีกขาดทำลายร่างหลักเถาวัลย์ไม้ของมัน อัคคีแห่งโทษขั้นห้านี้ได้พุ่งเข้าร่างของมัน ทำให้ร่างของมันบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น !!!

การทำลายขั้นหนึ่งของมั่วเย้ระดับราชันก็เพียงพอที่จะฆ่าจักรพรรดิพืชนี้ในเสี้ยววนาทีได้แล้ว อีกทั้งยังมีหมวดไฟเป็นการทำลายเพิ่ม !!!

“ฮู ฮู ฮู ฮู”

รอยแผลรูปจันทร์พาดผ่านทั้งสามคนอย่างน่ากลัว ความร้อนของอัคคีแห่งโทษ ใต้รอยแผลนี้ พลังชีวิตของจักรพรรดิพืชของจ้าวมู่หลิวลดลงอย่างมาก ถูกอัคคีแห่งโทษเผาจนเหลือแค่เถ้าถ่าน ในเวลาอันสั้นนี้ !

การโจมตีนี้ มีพลังมากเพียงใดกัน อุณหภูมิสูงแค่ไหนกัน ผู้แข็งแกร่งขั้นหนึ่งทั้งสามที่อยู่ในระยะใกล้นี้สัมผัสได้อย่างชัดเจน !

ในตอนนี้ ลี่ฮวัง จ้าวมู่หลิง และสมาชิกกลุ่มอีกคนหนึ่ง พวกเขาอึ้งอย่างมาก !

เพราะวินาทีที่ดวงวิญญาณเต็มไปด้วยอัคคีแห่งโทษทั้งตัวโจมตี พวกเขารู้ทันทีว่า นั่นเป็นพลังราชัน !!!

สีหน้าของจ้าวมู่หลิงเกิดการเปลี่ยนแปลงชัดเจนจากการฉีกขาดของสัญญาวิญญาณ แต่กลับไม่สามารถเทียบกับความสะเทือนใจได้…

ในเมื่อกี้จ้าวมู่หลิงยังคิดอยู่ ได้เจอผู้เข้าแข่งขันขั้นสองคนหนึ่ง จะทรมานเขาเพื่อระบายอารมณ์ได้

แต่ความจริงกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คนที่ถูกทรมานไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นตัวเขา !

เผชิญหน้ากับดวงวิญญาณระดับราชัน อารมณ์ของเขาไม่ได้ผ่อนคลายลง แต่แทบจะเป็นบ้า !

เหลือเชื่อ เหลือเชื่อจริง ๆ ต่อให้เป็นลี่ฮวังก็ไม่นิ่งไปกว่าจ้าวมู่หลิง ต้องรู้ไว้ว่าดวงวิญญาณของชู่เฉิงตำหนักวิญญาณเป็นระดับราชัน แม้แต่มังกรจำศีลมรกตที่ไร้ศัตรูในจักรพรรดิยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของระดับราชันได้ !

แต่ว่าทำไมดวงวิญญาณระดับราชันถึงอยู่ในมือของวัยหนุ่มได้ อีกทั้งยังเป็นตัวละครที่นิรนามแบบนี้ !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด