Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์บทที่ 141 อาวุโสเถียน

Now you are reading Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ Chapter บทที่ 141 อาวุโสเถียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 141 อาวุโสเถียน

 

บทที่ 141 อาวุโสเถียนกู่

 

ฮั่วชานได้ฝ่าฝืนกฏว่าด้วยการห้ามปลิดชีพผู้อื่นทันทีหลังเห็นร่างของฮั่วหยวนชางผู้เป็นบุตรชาย ทว่าเขากลับไม่รีบร้อนลงมือเมื่อฆาตกรอย่างเยี่ยฉวนยืนอยู่ตรงหน้า!

 

ทะเลสาบมังกรนิทราถูกปกคลุมด้วยความเงียบสงัด

 

ทุกคนไม่กล้าปริปากเอ่ยคําใดเมื่อเยี่ยฉวนและชั่วชานต่างนิ่งเงียบ… เงียบสงัดจนได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจของตนเอง แต่จิตสังหารเย็นเยียบถึงกระดูกกลับหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ

 

ฉับพลันเกิดระลอกคลื่นบนทะเลสาบใสกระจ่างแม้ไม่มีลม ผืนน้ำที่เคยราบเรียบราวกระจกไหวกระเพื่อมด้วยจิตสังหารแรงกล้าในอากาศ

 

“ไอ้หนู เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ามีบุตรตอนอายุเท่าใด?” ฮั่วชานเอ่ยทําลายความเงียบก่อนก้าวออกมาข้างหน้า แววตาแดงฉานทอประกายวูบไหว เขาไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปเมื่อความมุ่งมั่นหมายจะตัดหัวเยี่ยฉวนทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ

 

“ข้าไม่รู้” เยี่ยฉวนสั่นศีรษะ

 

“เจ็ดสิบสามปี”

 

ฮั่วชานย่างเท้าเข้าใกล้จนอยู่ห่างจากเยี่ยฉวนเพียงเจ็ดก้าวก่อนกล่าวออกอย่างเย็นชา “ในที่สุดสวรรค์ก็เห็นใจข้าเมื่ออายุเจ็ดสิบสามปีและมอบบุตรชายให้แก่ข้า”

 

“ไม่เลวน สวรรค์คงเห็นใจเจ้าจริงๆ จึงมอบบุตรชายให้เจ้ายามแก่เฒ่าเช่นนี้ แต่เจ้าต้องการจะบอกอะไรหรือ?”

 

เยี่ยฉวนมองดูชั่วชานผู้เกรี้ยวกราดด้วยสายตาเย็นเยียบ “ต้องการจะบอกว่ากว่าเจ้าจะมีบุตรนั้นไม่ง่ายและข้าไม่ควรฆ่าเขางั้นหรือ? หรือจะบอกว่าอายุเจ็ดสิบสามแล้วก็ยังไม่มีน้ำยากันแน่?”

 

ฝูงชนที่มุงดูอยู่พากันส่งเสียงเซ็งแซ่ทันที บางคนที่กลัดกลุ้มในตอนแรกถึงกับอยากหัวเราะออกมา

 

บรรยากาศหนักอึ้งแปรเปลี่ยนไปเพราะคําพูดของเยี่ยฉวน

 

จ้าวต้าจื่ออยากหัวเราะแต่กลับหัวเราะไม่ออก ศิษย์สํานักอสูรเมฆาเร่งรุดมาถึงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ยินข่าวและขั้นการฝึกตนของพวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน จิตใจของเจ้าอ้วนสั่นระรัวเพราะไม่ว่าใครก็ล้วนแต่เอาชนะเขาได้ทั้งสิ้น!

 

ใบหน้าของฮั่วชานขึ้นสีแดงกําราวกับตับหมู เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยความโกรธก่อนกล่าวออกอย่างดุดัน “ไอ้สารเลว! เจ้ารู้บ้างหรือไม่ว่าข้าเลี้ยงดูฝึกฝนฮั่วหยวนชางให้เป็นยอดฝีมือด้วยก้อนผลึก เม็ดยา และความอุตสาหะมากมายเพียงใด?! เจ้ารู้บ้างหรือไม่ว่าข้าสูญเสียไปมากเท่าใด?!”

 

หัวใจของฮั่วชานปวดร้าวเมื่อนึกถึงบุตรชายที่ตายตกไปอย่างกะทันหัน หลายปีที่ผ่านมาเขาทุ่มเทความพยายามในการเลี้ยงดูฮั่วหยวนชางด้วยหวังว่าบุตรชายจะได้เข้าสู่หอชั้นเลิศและได้รับเลือกเป็นศิษย์สายตรงของผู้อาวุโสเมื่อเติบใหญ่ ทว่าใบมีดของเยี่ยฉวนกลับบดขยีความฝันและความอุตสาหะที่ผ่านมาจนหมดสิ้น จะมีผู้ใดเข้าใจความเจ็บปวดนี้หรือไม่?

 

“ข้าไม่รู้!”

 

เยี่ยฉวนตอบตามตรงพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “น่าเสียดายนัก หากใช้ก้อนผลึกและยาเม็ดเหล่านั้นเลี้ยงพวกหมูคงได้อสุรกายหมูที่มีประโยชน์ไว้ปกป้องสํานัก

แทน”

 

ในที่สุดก็มีคนหัวเราะออกมาท่ามกลางฝูงชนอย่างอดไม่

 

ฮั่วหยวนชางผู้อ้างตนว่าเป็นผู้เฒ่าชั่วมีฉายาที่เรียกกันอย่างลับๆ ในหมู่ศิษย์รุ่นเยาว์สํานักอสูรเมฆาว่า “หมูฮั่ว” เขาไม่เพียงมีรูปลักษณ์เหมือนหมูหากแต่ยังโง่เขลาเหมือนหมูอีกด้วย บรรดาศิษย์รุ่นเดียวกันที่เริ่มฝึกตนพร้อมกับเขาล้วนแต่บรรลุขั้นซิวฉือระดับเจ็ดด้วยตนเอง ทว่าเขากลับต้องใช้ก้อนผลึกและยาเม็ดมากมายอีกทั้งยังใช้อํานาจของบิดายึดครองทรัพยากรจํานวนมาก ถึงกระนั้นก็ยังบรรลุเพียงขั้นซิวฉือระดับห้าเท่านั้น ฮั่วหยวนชางจึงเป็นตัวตลกของสํานักอสูรเมฆามาโดยตลอด

 

เยี่ยฉวนไม่รู้ฉายาของฮั่วหยวนชาง แต่การเปรียบเปรยถึงหมูนั้นบังเอิญตรงกับความคิดของศิษย์สํานักอสูรเมฆาหลายคนจนน่าขัน

 

ฮั่วชานโกรธจัดจนใบหน้าเป็นสีม่วง เดิมที่เขาต้องการทรมานเยี่ยฉวนอย่างเชื่องช้าก่อนลงมือสังหาร แต่การโดนหัวเราะเยาะทําให้เขาอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป ชายชราพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมส่งเสียงคําราม “ไอ้สารเลว! ข้าจะฆ่าเจ้าในดาบเดียว!”

 

แสงกระบี่ที่ว่องไวและดุดันพาดผ่านท้องฟ้า ศิษย์สํานักอสูรเมฆาที่ยืนห่างออกไปร้อยเมตรยังสัมผัสได้ถึงคมกระบี่เย็นเฉียบที่กดลงบนลําคอ พวกเขาต่างหวาดกลัวและรีบถอยกรูดออกไปทันที

 

“ศิษย์พี่ใหญ่ระวัง!”

 

จ้าวต้าจื่อกรีดร้องยังไม่ทันขาดคําก็ถูกเยี่ยฉวนเตะกระเด็น “ชิ้ง!” รอยกระบี่ลึกปรากฏขึ้นบนพื้น หากเยี่ยฉวนช้ากว่านี้เพียงนิดทั้งสองคงถูกฟันขาดสองท่อนเป็นแน่!

 

ทรงพลังนัก!

 

เพียงดาบเดียวของผู้พิทักษ์ฮั่วชานอาจปลิดชีพได้แม้แต่ปรมาจารย์ระดับเดียวกัน! ฉายา “จ้าวกระบี่สังหาร” ใช่ว่าได้มาโดยเปล่า!

 

หัวใจของเหล่าศิษย์ที่เฝ้าดูอยู่สั่นระรัวเมื่อประจักษ์พลังของผู้พิทักษ์ฮั่วชานกับตา เจ้าอ้วนล้มลุกคลุกคลานไปกอดร่างของผู้พิทักษ์หยางเทียนกวงที่บาดเจ็บสาหัสไว้ เขามองดูชั่วชานผู้โหดเหี้ยมและแข็งแกร่งก่อนจะสวดภาวนาให้เยี่ยฉวน ทั้งกายอวบอ้วนสั่นสะท้าน

 

“ผู้พิทักษ์สํานักประสาอะไรฝีมือกระจอกเช่นนี้? มีความดุดันก็จริงแต่กระบวนท่ายังอ่อนหัดนัก ใช้กระบี่ปีศาจยังไม่ถูกต้องเลย! เฮ้อ… มีเคล็ดวิชาชั้นยอดแต่กลับไม่มีผู้ใดในสํานักเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยหรือ?”

 

เยี่ยฉวนสั่นศีรษะพลางถอนหายใจ

 

ขั้นการฝึกตนที่ห่างชั้นกันมากทําให้เยี่ยฉวนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮั่วชานในการปะทะตัวต่อตัว สถานการณ์คงสิ้นหวังกว่านี้หากยั่วชานใช้เคล็ดวิชาอื่น แต่ถ้าหากยั่วชานใช้เพียงกระบี่ ปีศาจอันเป็นเคล็ดวิชาขึ้นชื่อของเขาเยี่ยฉวนก็ยังเบาใจได้

 

เคล็ดวิชากระบี่ปิศาจของฮั่วชานแลดูสมบูรณ์จนถึงขั้นสูงสุดในสายตาของผู้อื่น ทว่าในสายตาของเยี่ยฉวนผู้คิดค้นนั้นยังห่างไกลนัก

 

เคราะห์ร้าย ฮั่วชานได้ละเมิดข้อห้ามอันยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับบุตรชายโดยไม่รู้ตัว!

 

“ไอ้เด็กเหลือขอ! แน่จริงก็อย่าหลบ! ข้าจะฆ่าเจ้าในดาบเดียว!”

 

ชั่วชานตะโกนลั่นด้วยโทสะและเปิดฉากการโจมตีดุเดือดอีกครั้ง…ฟาดฟันอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า!

 

ในตอนแรกเยี่ยฉวนหลบหลีกการโจมตีของฮั่วชานอย่างชํานาญและง่ายดายด้วยสายตาดีเลิศ ทว่าความแตกต่างระหว่างขั้นการฝึกตนของพวกเขาส่งผลทีละน้อยจนสถานการณ์เริ่มอันตรายขึ้นเรื่อยๆ แม้จะรู้ทันการจู่โจมของฮั่วชานว่าคมกระบีจะมาจากทิศใดก็ไม่อาจหลบหลีกได้ดังใจ

 

เยี่ยฉวนทอดถอนใจอยู่ภายใน เขารู้ดีว่าขั้นการฝึกตนของเขาด้อยเกินไปจึงเริ่มโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ในร่างอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้นแว่วเสียงตะโกนจากที่ห่างไกลก่อนที่เขาจะปล่อยไพ่ตายใบสุดท้าย! “หยุดเดี๋ยวนี้!”

 

แรงกดดันหนักอึ้งจนแผ่นดินสะท้านพลันกดลงมาจากเส้นขอบฟ้า!

 

ทุกคนที่อยู่ข้างทะเลสาบมังกรนิทรารวมถึงเยี่ยฉวนและฮั่วชานรู้สึกถึงแรงอันหนักอึ้งราวกับถูกกดทับด้วยภูเขามหึมาที่มองไม่เห็น

 

ปรมาจารย์ยอดฝีมือแห่งสํานักอสูรเมฆาอย่างนั้นหรือ?

 

แววตาของเจ้าอ้วนลุกโชนด้วยไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย ส่วนเยี่ยฉวนหรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

 

“ฆ่ามัน!”

 

ฮั่วซานตกตะลึง พละกําลังและความเร็วของเขาลดลงอย่างมากภายใต้แรงกดดันที่ไม่อาจบรรยายนี้ ชายชราคิดว่ายอดปรมาจารย์แห่งสํานักคงรู้เรื่องแล้วเป็นแน่ เขาหยุดชะงักไปเพียงเล็กน้อยก่อนพุ่งตัวไปสุดกําลังเพื่อฉวยโอกาสปลิดชีพเยี่ยฉวนก่อนที่ยอดฝีมือจะมาถึง! บุตรชายของเขาตายตกไปแล้ว เขายินดีถูกกักขังเป็นร้อยปีเสียดีกว่าไม่ได้ฆ่าเยี่ยฉวนด้วยน้ำมือตนเอง เขาต้องฆ่าเยี่ยฉวนให้จงได้!

 

“บังอาจนัก!”

 

น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้นก่อนบางสิ่งจะพุ่งผ่านท้องฟ้ามายังร่างของฮั่วชาน ผู้พิทักษ์สํานักขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับหนึ่งล้มลงกับพื้นและคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดทันใด! บาดแผลฉกรรจ์เป็นทางยาวปรากฏบนร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ได้เกิดจากของวิเศษอันใดหากแต่เป็นกิ่งไม้แห้งธรรมดา!

 

เสียงผิวปากดังขึ้นท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรีก่อนร่างยักษ์สูงราวเจ็ดเมตรจะปรากฏขึ้น ทั้งร่างมหึมาห่อหุ้มด้วยเกราะลักษณะคล้ายเปลือกไม้ขนาดใหญ่ เกิดแรงกดดันหนักอึ้งขึ้นในอกของทุกคนจนแทบหายใจไม่ออก

 

“ท่านอาวุโสเถียนกู่อย่างนั้นหรือ?”

 

“ศิษย์ผิดไปแล้ว! ศิษย์จึงเคารพท่านอาวุโสเถียนกู่!”

 

สีหน้าของเหล่าศิษย์สํานักอสูรเมฆาแปรเปลี่ยนทันทีที่เห็นยักษ์ตนนี้ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความเคารพ แขนขาของฮั่วชานรวมถึงหัวใจเย็นยะเยือกราวน้ำแข็ง อีกเพียงนิดเดียวก็จะสังหารเยี่ยฉวนได้แล้วแต่กลับถูกหยุดเอาไว้! บัดนี้เขาเคียดแค้นจนแทบกระอักเลือด!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด