Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์บทที่ 86 สุนัขจนตรอกกระโดดข้ามกําแพง

Now you are reading Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ Chapter บทที่ 86 สุนัขจนตรอกกระโดดข้ามกําแพง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 86 สุนัขจนตรอกกระโดดข้ามกําแพง

 

หลังเจ้าสํานักโท่วป่าเซียงเดินจากไป บรรดาศิษย์ของสํานักเครื่องนิลก็ทยอยแยกย้ายกันไปด้วยความรู้สึกหดหูและสิ้นหวัง ส่วนคนของสํานักเบญจลักษณ์ก็เดินตามหลังอาวุโสตู๋จากไปเช่นกันด้วยไร้เหตุผลที่จะอยู่ต่อ

 

ความมืดสลัวยามราตรีปกคลุมท้องนภาอย่างรวดเร็ว

 

บริเวณที่พักของสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์จุดไฟสว่างเพียงไม่กี่กระโจม บรรยากาศปกคลุมไปด้วยความหม่นหมองไร้ชีวิตชีวา แตกต่างจากที่พักของสํานักหมอกเมฆาที่กําลังเฉลิมฉลองอย่างรื่นเริง…ทุกกระโจมจุดไฟสว่างไสว!

 

วันนี้เป็นวันที่พวกเขามีความสุขที่สุดนับตั้งแต่การประลองครั้งใหญ่ระหว่างสามสํานักเริ่มต้นขึ้น ผลการประลองเมื่อครู่เป็นที่น่าพอใจยิ่ง!

 

เมื่อวานนี้ทุกคนต่างรู้สึกเศร้าหมองและวิตกกังวลที่แพ้การประลองสองครั้งติดต่อกัน ทว่าวันนี้พวกเขากลับพลิกสถานการณ์กลับมาชนะคู่ต่อสู้ถึงสามครั้งรวด ทั้งยังมีชัยเหนือศิษย์พี่ใหญ่แห่งสํานักเครื่องนิลอีกด้วย! เช่นนี้จะไม่ให้พวกเขาตื่นเต้นได้อย่างไร?!

 

นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่สํานักหมอกเมฆาซึ่งเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ และถูกอีกสองสํานักกดขี่ข่มเหงมาโดยตลอดรู้สึกภาคภูมิ

 

ชัยชนะทั้งมวลจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากไหวพริบอันล้ำเลิศของศิษย์พี่ใหญ่เยี่ยฉวน!

 

ก่อนหน้านี้ทั้งสํานักหมอกเมฆาตกอยู่ในบรรยากาศเศร้าโศกเพราะไม่มีผู้ใดเชื่อว่าเยี่ยฉวน จะนําพาสํานักให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ในการประลองครั้งนี้ บรรดาอาวุโสต่างผลักไสความรับผิดชอบและไม่ให้การสนับสนุนพวกเขาแม้แต่น้อย…เพียงส่งผู้พิทักษ์ระดับกลางให้ติดตามมาด้วยพอเป็นพิธี ต่างจากสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์ที่มีเจ้าสํานักและผู้อาวุโสนาทัพเข้าร่วมการประลองด้วยตนเอง ทั้งยังมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี

 

จ้าวต้าจื่อ จูซือเจีย และศิษย์ร่วมสํานักคนอื่นๆ ต่างปีติยินดีและดื่มกินฉลองชัยชนะอย่างรื่นเริงตลอดคืน รวมถึงศิษย์คนอื่นๆ ที่รู้ข่าวดีและตามมาสมทบในภายหลังต่างเข้ามาแสดงความยินดีและคํานับศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเขาที่กระโจมอย่างต่อเนื่อง

 

แม้ในการประลองวิทยายุทธทั้งห้าครั้งเยี่ยฉวนไม่ได้เป็นผู้ลงสนามประลองด้วยตนเอง แต่นั่นก็ไม่ทําให้ความน่าเชื่อถือที่บรรดาศิษย์มีต่อตัวเขาลดลง ตราบใดที่เขาสามารถนําพาสํานักหมอกเมฆาให้มีชัยชนะเหนือสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์ได้นับว่าประเสริฐมากแล้ว!

 

บรรยากาศที่พํานักของสํานักหมอกเมฆาเต็มไปด้วยความสนุกสนานครื้นเครง ผู้คนต่างร้องรําทําเพลงอย่างมีความสุขตลอดทั้งคืน บรรดาศิษย์ที่เดินทางมาสมทบมีจํานวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาต่างรอคอยการประลองอีกสองครั้งที่ยอดเยี่ยมที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้อย่างจดจ่อและคาดหวัง

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

วันรุ่งขึ้นสําคัญยิ่งเพราะเป็นวันสุดท้ายของการประลองครั้งใหญ่ ทุกคนต่างจับตามองว่าสํานักหมอกเมฆาจะสามารถเอาชนะการประลองเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีหรือไม่?! สํานักเบญจลักษณ์และสํานักเครื่องนิลจะส่งยอดฝีมือที่เก่งกาจเพียงใดเป็นตัวแทน?! หรือสองสํานักใหญ่ดังกล่าวจะใช้แผนการสกปรกกลั่นแกล้งจนการต่อสู้ไร้ความราบรื่นเช่นช่วงเย็นที่ผ่านมา?

 

การประลองที่ทุกคนไม่เคยกังวลว่าจะมีผู้ใดคิดเล่นตุกติกกลับต้องหวาดระแวง พวกเขาตั้งตารอการประลองในวันพรุ่งนี้จนแทบทนไม่ไหว

 

เยี่ยฉวนปล่อยให้ศิษย์น้องเฉลิมฉลองกันอยู่ด้านนอก ส่วนเขานั่งขัดสมาธิฝึกตนอยู่ภายในกระโจมอย่างเงียบเชียบ…

 

การประลองทุกครั้งตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้อยู่ในเป็นไปตามแผน เขาจงใจไม่ส่งหนานเทียนโตวเข้าร่วมการประลองในสองครั้งแรก ทว่าการประลองในวันถัดมา…ยอดฝีมือในรอบพันปีเช่นหนานเทียนโตวลงสนามและชนะการต่อสู้ถึงสามครั้งติดต่อกันทําให้ฝูงชนตกตะลึงยิ่ง! ด้วยเคล็ดวิชากระบี่สะท้านสวรรค์อันทรงพลังยิ่งรวมถึงยันต์ทั้งสองใบ ไม่มีเหตุผลใดเลยที่สํานักหมอกเมฆาจะพ่ายแพ้การประลองเหล่านั้น!

 

วันนี้อาจเอาชนะได้ถึงสามหน แต่วันพรุ่งนี้เล่า?

 

เยี่ยฉวนที่นั่งอยู่บนพื้นครุ่นคิดเงียบๆ การประลองครั้งยิ่งใหญ่ยังไม่สิ้นสุด แม้วันนี้สามารถเอาชนะทว่าวันพรุ่งนี้ไม่อาจวางใจ…สงครามยังไม่จบดังนั้นไม่ควรรีบนับศพของศัตรู ทั้งเจ้าสํานักโท่วป่าเซียงแห่งสํานักเครื่องนิลและอาวุโสแห่งสํานักเบญจลักษณ์ไม่มีทางอยู่เฉยรอรับความพ่ายแพ้เป็นแน่! พวกเขาหรือจะยอมให้สํานักหมอกเมฆาไต่ภูเขาขึ้นไปจนถึงยอดสูงสุด ขณะที่ผู้อื่นต่างเฉลิมฉลองอย่างรื่นเริง แต่เขากลับใช้ความคิดอย่างหนักเพื่อวางแผนสําหรับวันพรุ่งนี้

 

สภาพอากาศยามราตรีไม่เอื้ออํานวยนัก งานเลี้ยงรื่นเริงเพิ่งเริ่มไปไม่ถึงครึ่งคืนกลับมีฝนตกโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง เสียงหยดน้ำกระทบกระโจมดังไปทั่วบริเวณ

 

ถึงกระนั้นกลิ่นหอมหวานของสุราก็ยังอบอวลอยู่ในอากาศ ผู้คนต่างร่ำสุรากันโดยเปลี่ยนที่จากกลางแจ้งกระเถิบเข้าใต้ชายคา ทันใดนั้นเยี่ยฉวนผู้นั่งสมาธิฝึกตนอยู่ในกระโจมได้ยินเสียงดังประหลาด เสียงนั้นไม่ใช่ทั้งเสียงฝนหรือเสียงฝีเท้าคน แต่เป็นเสียงคลื่นในแม่น้ำไหลกระทบก้อนหิน

 

เขานั่งนิ่งสงบเช่นเคยทว่ากลับเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ…โสตประสาทแยกแยะเสียงโดยรอบได้อย่างชัดเจน

 

ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรศิษย์ของสํานักหมอกเมฆาสามสี่คนเดินโซซัดโซเซอยู่บนทางเดินที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ บางคนเมามายจนเกือบลื่นล้มลงกับพื้น

 

ห่างออกไปสามสิบเมตร…จ้าวต้าจื่อผู้มีสภาพมึนเมาหัวเราะโวยวายเสียงดัง ทั้งยังฉวยโอกาสล่วงเกินศิษย์น้องหญิงอย่างไร้สติ

 

ห่างออกไปสิบเมตร.จูชื่อเจียกําลังนอนพลิกตัวไปมาอย่างกระสับกระส่ายอยู่ในกระโจมข้างๆ นางยังกังวลเกี่ยวกับการประลองสองครั้งสุดท้ายในวันรุ่งขึ้น

 

ห่างออกไปห้าเมตร…ศิษย์ชั้นนอกอู่หย่งกําลังวุ่นอยู่กับการแจกจ่ายอาหารให้กับศิษย์พี่ศิษย์น้อง มือของเขาถือถาดใบใหญ่ที่มีจานอาหารร้อนๆ วางอยู่

 

เยี่ยฉวนส่งกระแสจิตออกไปสํารวจโดยรอบ ทว่าเขาไม่สัมผัสถึงความผิดปกติใดๆ มีเพียงเสียงกรอบแกรบของใบไม้แห้งที่ปลิวว่อนเท่านั้น

 

ทุกอย่างปกติเสียจนเขาคิดว่าเมื่อครู่เพียงหูฝาดไป แต่ไม่นานนักสถานการณ์เลวร้ายพลันปรากฏขึ้น!

 

พื้นดินด้านนอกกระโจมพลันปรากฏรอยแยกเป็นทางยาวเสมือนเบื้องล่างมีอสุรกายยักษ์ซ่อนกายอยู่ ดินทั้งสองข้างปริแยกออกเป็นสองฝั่งอย่างรุนแรงต่อเนื่องราวคลื่นในทะเล รอยแยกนั้นพุ่งตรงไปทางกระโจมของเยี่ยฉวนอย่างรวดเร็วท่ามกลางความมืดสลัวก่อนระเบิดอย่างรุนแรง! ชายสวมชุดดําเจ็ดคนกระโดดขึ้นมาเหนือพื้นดินหลังแรงระเบิดในมือของทุกคนถืออาวุธครบมือและสะพายดาบไว้บนหลัง!

 

อู่หยงที่เพิ่งแจกจ่ายอาหารในกระโจมเสร็จและเดินออกมาเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนกเมื่อเห็นภาพนั้น! ขณะที่เขากําลังจะอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือลูกธนูอันเขื่องกลับพุ่งเสียบทะลุอกของเขาจนเลือดสีแดงฉานพุ่งกระฉูดทันที! ร่างสูงทรุดลงกองกับพื้นโดยแรง ถ้วยชามร่วงหล่นลงแตกกระจาย อาหารจานร้อนที่เขาปรุงอย่างพิถีพิถันหกเลอะไปกับพื้นและถูกสายฝนชะล้าง

 

ฉึบ! ฉึบ! ลูกธนูหลายดอกพุ่งผ่านอากาศเสียงดังก่อนเจาะทะลุกระโจมของเยี่ยฉวน!

 

ครั้นลูกศรหมดชายชุดดําจึงโยนคันธนูทิ้งอย่างเร่งร้อนก่อนชักดาบที่สะพายอยู่ด้านหลังออกกวัดแกว่งไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นจึงฉีกผ้าคลุมกระโจมจนขาดกระจุยก่อนบุกเข้าไปด้านในโดยไม่ปริปากแม้แต่คําเดียว! สายตาของพวกเขาเย็นชาและโหดเหี้ยม การเคลื่อนไหวของเขารุนแรงและเด็ดขาด ชัดเจนว่าคนเหล่านี้เป็นมือสังหารชั้นเลิศ!

 

หลายกระโจมถูกพังราบเป็นหน้ากลอง ควันไฟหนาทึบลอยขึ้นเหนือท้องฟ้า กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เสียงคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดดังขึ้นจากทุกหนแห่ง

 

“มือสังหาร! มือสังหารบุกรุก!”

 

“คุ้มกันศิษย์พี่ใหญ่!”

 

บรรดาศิษย์ของสํานักหมอกเมฆาตะโกนดังลั่นก่อนชักอาวุธออกมาทันที่ก่อนพุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว! ศิษย์บางรายเหยียบกระบี่บินทะยานขึ้นไปบนอากาศ เป้าหมายเดียวของพวกเขาคือกระโจมที่ศิษย์พี่ใหญ่พํานักอยู่!

 

จูซือเจียที่พํานักอยู่ในกระโจมข้างๆ ลุกขึ้นจากเตียงพร้อมคว้าอาวุธโดยเร็วก่อนวิ่งเข้าไปในกระโจมของเยี่ยฉวนโดยไม่ทันคว้าเสื้อคลุมมาสวมใส่ แม้ทั้งสองกระโจมตั้งอยู่ไม่ห่างกันมากนักทว่านางไม่ใช่คนแรกที่ไปถึงมีศิษย์หลายคนอยู่ในกระโจมก่อนแล้ว ถึงกระนั้นก็ยังช้าเกินไปเพราะพวกเขาไม่ทันเห็นมือสังหารชุดดําเหล่านั้นแม้แต่ผู้เดียว!

 

ภายในกระโจมเงียบเชียบไร้ร่องรอยของการต่อสู้ มีเพียงควันหนาทึบที่ลอยปกคลุมเหนือพวกเขาเท่านั้น!

 

“เยี่ยฉวน! ศิษย์พี่ใหญ่! ศิษย์พี่ใหญ่…”

 

จูซือเจียเรียกหาเยี่ยฉวนดังลั่น…ดวงตาที่ฉายแวววิตกกังวลของนางแดงก่ำ จากนั้นหยกน้ำตาก็เริ่มเอ่อล้นไหลลงอาบแก้ม

 

ในสถานการณ์ปกตินางไม่ชอบใจในตัวเขานัก ทว่าตอนนี้ที่นางไม่เห็นแม้แต่ร่างของเขากลับอดไม่ได้ที่จะกระวนกระวาย หัวใจของนางร้าวรานราวถูกพรากสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดออกไปจากชีวิตโดยไม่ทันตั้งตัว!

 

“ศิษย์พี่ใหญ่! ท่านยังไม่ตายใช่หรือไม่? ศิษย์พี่ใหญ่เป็นความผิดของข้าเองที่ร่ำสุราจนลืมหน้าที่ โธ่..ศิษย์พี่ใหญ่”

 

จ้าวต้าจื่อวิ่งเข้ามาในกระโจมอย่างเร่งร้อนพร้อมร้องไห้คร่ำครวญปานใจจะขาดราวสูญเสียบุพการีน้ำตาไหลอาบแก้มราวสายน้ำ เขายกฝ่ามือหนาตบหน้าตนเองหลายครั้งเพื่อเรียกสติ

 

อันที่จริงค่ำคืนนี้เป็นเวรยามของเจ้าอ้วนที่ต้องคุ้มกันหน้ากระโจมของศิษย์พี่ใหญ่ ทว่าเขากลับดื่มสุราหลายจอกจนมึนเมาไร้สติและมอบหมายให้ศิษย์อีกคนทําหน้าที่แทน ไม่คาดคิดว่าเวลาเพียงชั่วครู่จะเกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายถึงเพียงนี้!

 

บรรดาศิษย์ของสํานักหมอกเมฆาที่รู้ข่าวและกรูกันเข้ามาเห็นสภาพกระโจมที่กระจัดกระจายเช่นนั้น จิตใจของทุกคนต่างหนักอึ้งทันที มีเพียงอี้สั่วผู้ซ่อนกายอยู่ในความมืดมิดที่เผยสีหน้ายิ้มเยาะอย่างชั่วร้าย ร่างกายของเขาเปียกโชกจนผิวหนังเย็นเฉียบ..ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับเยือกเย็นยิ่งกว่า!

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด