Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 13 ยอดฝีมือในรอบพันปี

Now you are reading Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ Chapter บทที่ 13 ยอดฝีมือในรอบพันปี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 13 ยอดฝีมือในรอบพันปี

กระบี่วิเศษเปล่งประกายแสงเจิดจ้า ฝุ่นตลบคลุ้งอยู่รอบกายหนานเทียนตู

ทักษะการใช้กระบี่แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานการฝึกตนที่แข็งแรง! ลูกศิษย์ที่เข้าสำนักในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับหนานเทียนตูไม่อาจแตะต้องได้แม้ฝุ่นของเขา! บรรดาศิษย์อุทานด้วยความชื่นชมระคนตกใจ บ้างก็รู้สึกสลดใจในชะตากรรมของเยี่ยฉวน

ยามนี้จูซือเจียรู้สึกกังวลใจยิ่ง เห็นเยี่ยฉวนกำลังจะถูกฆ่านางควรรู้สึกยินดีเพราะเคยถูกเขากระทำหยาบคายนับครั้งไม่ถ้วน แต่เหตุใดกลับรู้สึกเป็นห่วงเขาเสียได้?!

ฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายอยู่โดยรอบหนานเทียนตูจางลง เมื่อภาพตรงหน้าปรากฏชัด ทุกคนต่างเบิกตากว้างอย่างตะลึงลาน!

เยี่ยฉวนถูกกระบี่แทงเข้าที่ศีรษะ! ทว่ายังคงยืนหยัดประจัญหน้ากับคู่ต่อสู้! ร่างกายไม่มีแม้ร่องรอยบาดแผล…มีเพียงชุดที่สวมใส่เท่านั้นที่ขาดวิ่น!

“เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”

“เหตุใดเขาจึงไม่เป็นอะไรเลย?!”

เกิดข้อสนทนาในกลุ่มฝูงชนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเยี่ยฉวนและหนานเทียนตู ทุกคนต่างเต็มไปด้วยรู้สึกประหลาดใจ!

แม้คู่ต่อสู้เป็นถึงศิษย์ยอดฝีมือที่บรรลุขั้นซิวฉือก็ไม่อาจหลบหลีกกระบี่ของหนานเทียนตูได้! ทว่าเยี่ยฉวนบรรลุเพียงขั้นอูเจ๋อระดับห้า เขารอดชีวิตได้อย่างไร?!

หนานเทียนตูก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เขามองเยี่ยฉวนอย่างไม่เชื่อสายตา!

หลายปีมานี้มีเพียงผู้บรรลุขั้นสูงกว่าขั้นอูเจ๋อที่หลบเลี่ยงกระบี่ของเขาได้! ข่าวลือว่าศิษย์พี่ใหญ่ไร้ความสามารถทำให้เขาประเมินอีกฝ่ายต่ำไป!

“ทักษะเพลงกระบี่เป็นเลิศ! แต่เสียดายจริง…การเคลื่อนไหวของเจ้ายังเชื่องช้า!”

เยี่ยฉวนปัดฝุ่นตามร่างกายออกพลางยกยิ้มมุมปากพร้อมหยิบไม้กวาดขึ้นตั้งรับการโจมตี!

เมื่อครู่ทุกคนต่างคิดว่าศิษย์พี่ใหญ่ต้องถูกคมกระบี่ของหนานเทียนตูแน่! ทว่าร่างกายของเขากลับพลิ้วไหวหลีกเลี่ยงอันตรายได้ราวผ้าฝ้าย!

แม้ร่างปัจจุบันของเยี่ยฉวนเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเทียบไม่ได้กับร่างในภพชาติก่อน เรื่องวิทยายุทธยิ่งเทียบไม่ได้ ทว่าความทรงจำในสิ่งที่เขาเคยเป็นยังครบถ้วน ดังนั้นเมื่อตกอยู่ในห้วงความเป็นความตายร่างกายจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง! แม้เยี่ยฉวนบรรลุเพียงแค่ขั้นอูเจ๋อระดับห้าแต่ร่างกายกลับแข็งแกร่งกว่าจ้าวต้าจื่อที่บรรลุขั้นอูเจ๋อระดับเจ็ดเสียอีก! ในที่สุดผลจากการค่อยๆ บ่มเพาะรากฐานฝึกตนก็สำแดงฤทธิ์!

หนานเทียนตูยังเคลื่อนที่ไม่เร็วพอ…หากปราดเปรียวเท่าศัตรูในสมัยหนึ่งพันปีก่อนสักหน่อย แม้เขาจะมีประสบการณ์มากเพียงใดก็คงทำได้เพียงหลบหลีกเท่านั้น!

อวดดี! ยังแสร้งอวดดีอีก!

ตกอยู่ในสภาวการณ์คับขันเช่นนี้ยังคิดอวดดี!

ฝูงชนล้วนนิ่งอึ้ง หนานเทียนตูสมควรยิ่งที่จะแสดงความจองหองเพราะมีความสามารถและฝีมือเป็นที่ประจักษ์! ทว่าศิษย์พี่ใหญ่ที่อวดโอหังและทะนงตนในยามนี้เล่า?! เขามั่นใจเพียงใดว่าสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้?! ทำแบบนี้ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรือ?!

“ฮ่าๆๆ! ประเสริฐ! เช่นนั้นก็ดี!”

หนานเทียนตูหัวร่อด้วยความโกรธาที่ทวีขึ้น เขาพลันพุ่งไปด้านหน้าพลางตวัดกระบี่ขึ้นหมายแทงเยี่ยฉวน “เช่นนี้เร็วพอหรือยัง?!”

หัวใจของทุกคนต่างบีบรัดขึ้นกะทันหัน!

ครั้งนี้กระบี่ของหนานเทียนตูตวัดเร็วทั้งยังดุดันกว่าเดิม!

จูซือเจียกำมือแน่นอย่างตกประหม่า เหงื่อผุดออกทั่วฝ่ามือ ครั้งหนึ่งนางใคร่จะท้าประลองกับหนานเทียนตูเพื่อตัดสินว่าผู้ใดแข็งแกร่งกว่า ครั้นเห็นท่าจ้วงกระบี่เมื่อครู่…ความคิดนั้นพลันมลายสิ้น!

จินหัวที่ยืนอยู่ด้านหลังฝูงชนหัวเราะร่าเมื่อความหวังก่อเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อครู่เยี่ยฉวนแค่เคราะห์ดีที่หลบการโจมตีได้ทัน ครั้งนี้เขาไม่เชื่อว่าเจ้านั่นจะโชคดีเป็นครั้งที่สอง!

‘ชิ้ง!’ เสียงอาวุธปะทะกันดังสนั่นชัดเจนเสียจนแสบแก้วหู

หนานเทียนตูตกตะลึงพลางร้องอุทานอย่างตกใจ! เขามองเยี่ยฉวนราวอีกฝ่ายเป็นปีศาจ!

เยี่ยฉวนซวนเซไปด้านหลังสองสามก้าว แม้สภาพของเขาน่าสมเพชทว่าร่างกายกลับไร้บาดแผล ขณะที่อีกฝ่ายถือกระบี่พุ่งจู่โจมเขาก็โบกไม้กวาดในมือเพื่อปัดป้อง!

เป็นที่รู้ดีภายในสำนักว่ากระบี่คู่กายหนานเทียนตูไม่ธรรมดา กระบี่นิลสลักมีน้ำหนักเกือบแปดร้อยจิน คนทั่วไปไม่สามารถยกได้ ใบดาบสลักชื่อจอมยุทธ์โบราณไว้หลายชื่อ ทั้งกระบี่เล่มนี้ยังเป็นสมบัติล้ำค่าที่หนานเทียนตูเลือกจากหอศาสตราวุธในตอนที่เขาอายุเพียงแปดปี! กระบี่นี้ไร้คม…อาศัยเพียงน้ำหนักในการฆ่าศัตรู เมื่อถูกกระบี่แทงแล้วแม้อสุรกายอายุนับหมื่นปียังกลายเป็นเนื้อสับ! แล้วเยี่ยฉวนปัดป้องมันได้อย่างไร?!

หากเอ่ยออกไปแล้วใครจะเชื่อว่าเขาสามารถใช้ไม้กวาดธรรมดาที่วางทิ้งไว้บนพื้นปัดป้องกระบี่นิลสลักได้?!

แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดเชื่อ! ทว่าความจริงปรากฏชัดอยู่ตรงหน้า…ทำให้บรรดาศิษย์หมดหนทางโต้แย้ง!

“คราลงยันต์สำเร็จ เพียงนึกคิด…สวรรค์จะถูกกลืนกิน!”

เยี่ยฉวนพึมพำเบา ใบหน้าพลันเกิดแสงวาววับพาดผ่าน!

หนานเทียนตูฟาดกระบี่ลงมาเป็นครั้งที่สองอย่างมั่นคงและดุเดือดเป็นเท่าทวี เคราะห์ดีที่ยันต์ครึ่งใบที่อยู่ภายในตัวเยี่ยฉวนช่วยกู้สถานการณ์ไว้ทัน! เพียงโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์สำเร็จ…พลังของมันจะปะทุออกมาทันที!

ยันต์กลืนกินสวรรค์ถูกสร้างขึ้นเพียงครึ่งใบเท่านั้น! หากก่อตัวเต็มใบเมื่อใด…ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเหลือประมาณ!

เยี่ยฉวนค้นพบเป็นครั้งแรกว่าเคล็ดวิชาขัดเกลาปีศาจกลืนกินสวรรค์นั้นลึกซึ้งกว่าทุกวิชาที่เคยรู้จัก ดังนั้นเขาจึงวาดหวังเส้นทางการฝึกตนครั้งใหม่ยิ่ง!

สีหน้าของจินหัวทั้งผิดหวังและไม่คาดคิด!

เขาและเหอไท่ซวีใช้ทุนทรัพย์จำนวนมากเพื่อยุยงยอดฝีมือแห่งสำนักเช่นหนานเทียนตู หวังจะได้เห็นภาพศัตรูวิงวอนขอชีวิตและถูกฆ่าตายด้วยตาตนเอง แต่สถานการณ์กลับพลิกผันผิดคาด! เป็นเพราะเยี่ยฉวนแอบไปฝึกตนอย่างลับๆ ก่อนหน้านี้โดยไม่มีใครรู้หรือเพราะหนานเทียนตูจงใจอ่อนข้อให้อีกฝ่ายกันแน่?!

เขาเริ่มร้อนรนและอยากจะลงมือฆ่าเยี่ยฉวนด้วยตนเองเสียเดี๋ยวนี้! แทบกระอักเลือดที่วางแผนและลงทุนไปมากโขทว่ายังกำจัดเยี่ยฉวนไม่ได้!

“ประเสริฐ! สมเป็นศิษย์พี่ใหญ่! แท้จริงแล้วเจ้ามีความสามารถไม่น้อย…มาเถิด! ข้ามีเพลงกระบี่นาม กระบี่สะท้านสวรรค์! ต้องการให้ศิษย์พี่ใหญ่ชี้แนะ!”

จิตสังหารอันท่วมท้นของหนานเทียนตูแผ่ปกคลุมทั่วบริเวณ สีหน้าพลันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกขณะก้าวออก!

ครั้งนี้หนานเทียนตูไม่ได้รีบร้อนเข้าจู่โจมแต่กลับโน้มกายไปด้านหลัง กระบี่นิลสลักส่งเสียงกระหึ่ม! ตัวอักษรโบราณที่สลักอยู่บนใบดาบค่อยๆ สว่างเรืองขึ้น! จิตสังหารที่ลอยอยู่ในอากาศเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ!

เก้ากระบี่สะท้านสวรรค์หรือ?!

เยี่ยฉวนตกตะลึงพลางเผยสีหน้าเคร่งเครียด เขาจับจ้องหนานเทียนตูที่กำลังรวบรวมพลังเพื่อโจมตีโดยไม่คลาดสายตา!

ในฐานะที่เคยเป็นมหาปราชญ์กลืนกินสวรรค์ เขาจึงรู้อานุภาพของเก้ากระบี่สะท้านสวรรค์เป็นอย่างดี  หลายพันปีก่อน…มันเคยเป็นเคล็ดวิชาของจอมยุทธที่มีสมญาว่า ‘มหาปราชญ์สะท้านสวรรค์’

ยุคสมัยที่เขายังครองโลกมหาปราชญ์สะท้านสวรรค์เคยท้าประลองเขาเช่นเดียวกับจอมยุทธ์คนอื่นๆ ทั้งสองต่อสู้กันบนยอดเขากลืนกินสวรรค์ถึงสามวันสามคืน ท้ายที่สุดอีกฝ่ายก็พ่ายแพ้และหายตัวไป…จากนั้นก็ไม่เคยมีใครพบเจอมหาปราชญ์สะท้านสวรรค์ในดินแดนรกร้างอีกเลย…

เรื่องราวในอดีตไหลเข้ามาในห้วงความคิดของเขาราวระลอกคลื่น การประลองครานั้นยังกระจ่างชัดอยู่ในความทรงจำ

เดิมทีเขาคิดว่าหลังมหาปราชญ์สะท้านสวรรค์พ่ายแพ้และเดินทางออกจากแดนรกร้างแล้วคงไม่ได้พบกันอีก… ไม่คาดคิดว่าหนึ่งล้านปีต่อมา เขาได้เห็นเคล็ดวิชาของมหาปราชญ์สะท้านสวรรค์อีกครั้ง!

จิตสังหารและพลังยุทธ์ที่แปรปรวนอยู่ในอากาศเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ บรรดาลูกศิษย์ที่มุงดูอยู่พลันถอยห่างออกไปราวหนึ่งกิโลเมตรด้วยความหวาดกลัว!

หนานเทียนตูยังยืนนิ่งไม่ลงมือ ทว่าทุกคนคาดเดาได้ว่าการโจมตีในอีกไม่ช้าต้องสั่นสะท้านโลกาเป็นแน่! หากเข้าไปพัวพันเพียงนิดอาจถูกลูกหลงและบาดเจ็บหนัก!

“ดี! เช่นนี้สิถึงสมเป็นยอดฝีมือในรอบพันปี! เยี่ยฉวน…ครั้งนี้เจ้าไม่มีทางรอดแน่!”

จินหัวขบกรามแน่นอย่างรอคอยขณะสัมผัสถึงพลังที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของหนานเทียนตู เขาเฝ้าดูฉากสุดท้ายของเยี่ยฉวนด้วยใจจดจ่อ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด