Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 215 กระดานหมากราชาปีศาจ

Now you are reading Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ Chapter บทที่ 215 กระดานหมากราชาปีศาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 215 กระดานหมากราชาปีศาจ

 

ประตูของวังจ้าวเทียนค่อยๆ เปิดออกพร้อมกับพื้นดินที่สั่นคลอน ทุกคนจับจ้องเข้าไปด้านในแต่กลับมองไม่เห็นสิ่งใด เพราะมีเพียงความมืดปกคลุม

 

เฟิงเหรินและโท่วปาเซียงผู้แข็งแกร่งพุ่งทะยานเข้าไปด้าน ในอย่างไม่รีรอ ร่างของทั้งสองหายวับไปเมื่อพ้นหลังประตูใหญ่ ทั้งศิษย์ของทั้งสองสํานักที่ตามมาพลันเร่งตามเข้าไปจนหายวับไปทีละคนราวกับระลอกคลื่น

 

“คุณชายเยี่ย ข้าขอตัวก่อน… โปรดดูแลตัวเองให้ดี!”

 

โท่วปาเซียงเนียวเหลือบมองเยี่ยฉวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพุ่ง ทะยานตามผู้เป็นบิดาเข้าไป แต่ก่อนที่นางจะหลบตา แววตาฉายความซับซ้อนไม่อาจหยั่งรู้ได้ออกมา นางทั้งกังวลและไม่เต็มใจที่จะแยกจากเยี่ยฉวน ความเศร้าโศกปรากฏแจ่มชัดในสีหน้าที่ถูกเผยออก

 

“เสี่ยวเนียว…. จงดูแลตัวเองให้ดีเช่นกัน!”

 

เยี่ยฉวนโบกมืออยู่ไกลๆ ก่อนหน้าเขาคิดว่าจะหยอกล้อ นางด้วยการเรียกหาว่าภรรยาอีกสักครั้ง แต่เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วน เขาก็หยุดการกระทํานั้นไว้

 

เป็นไปได้อย่างไรที่หมีดํายักษ์อย่างโท่วปาเซียงจะให้กําเนิด บุตรสาวที่งามงดดั่งนกน้อยเช่นนี้

 

เยี่ยฉวนส่ายศีรษะเบาๆ พร้อมกับจับจ้องร่างของโท่วปาเซียงเนียวที่หายวับเข้าประตูไปอย่างไร้ร่องรอย

 

เมื่อเทียบกับความคล่องแคล่วและตัดสินใจได้เด็ดขาดของจูชื่อเจีย โท่วปาเซียงเนียวนั้นแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกันและสัมผัสชิดใกล้สองถึงสามวัน เขาก็เข้าใจได้ว่าทั้งสองคนนี้ไม่มีสิ่งใดเหมือนกันเลยแม้แต่น้อย

 

มีเพียงแสงสีดําสนิทปรากฏบนประตูทางเข้า ฉับพลันท่อนขายาวเรียวขาวผ่องหยุดยืนอยู่ตรงทางเข้า

 

“เยี่ยฉวนข้าจะรอท่านอยู่ข้างในวังจ้าวเทียน รีบตามเข้ามาด้วย อย่าทําให้ข้าผิดหวังซะล่ะ!”

 

เสียงหวานอันร้ายกาจดังขึ้น

 

ท่อนขาเรียวยาวพร้อมด้วยดวงตาทอประกายเข่นฆ่าหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้า หลังพูดจบนางพุ่งตัวเข้าไปด้านในอย่างไม่รอฟังคําตอบ

 

หลังจากที่โท่วปาเซียงเพียวเข้าไปแล้ว หลิวหงยังหยุดยืนที่เดิม… สุดท้ายนางเร่งกระโดดขึ้นกระบบินสีดําพร้อมกับเข้าไปในวังจ้าวเทียนโดยลําพัง ไม่มีแม้ศิษย์แห่งสํานักเบญจลักษณ์สักคนเคียงข้าง

 

เหล่าศิษย์ของสํานักเบญจลักษณ์ที่อยู่ที่นี่ในตอนนี้ล้วน แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญและยืนอยู่เคียงข้างกับอาวุโสเฟิงเหริน อีกทั้งตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้นี้ไม่ได้มีสัมพันธ์อันดีกับพ่อของนางแม้แต่น้อยและเขายังหมายปองตําแหน่งจ้าวสํานักมาเนิ่นนาน หากได้เปรียบเทียบ…. ตัวเขาคงเปรียบได้กับอาวุโสที่สามแห่งสํานักหมอกเมฆาซึ่งก็คือไปเยี่ยนหู ภายในอาณาเขตสวรรค์แห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายในทุกหนแห่ง แม้ว่าหลิวหงไม่เต็มใจที่จะไปพร้อมกับเฟิงเหริน แต่นางก็อาศัยติดตามพวกเขาจากระยะไกล อย่างไรแล้ว เคล็ดวิชาขนนกปักษาสีครามทําให้ความเร็วของนางสามารถติดตามทั้งกลุ่มได้อย่างง่ายดาย

 

หลิวหงระมัดระวังตัวเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าอาวุโสเฟิงเหริน แต่สําหรับเยี่ยฉวนแล้วทั้งหมดเป็นความริษยา ความเกลียดชังนี้เกิดขึ้นเพราะไม่ว่านางจะทําอย่างไรก็ไม่อาจยั่วยวนเยี่ยฉวนได้เลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดจึงกลายเป็นความเกลียดชัง ริษยาและหึงหวงในคราวเดียว ยิ่งระดับการฝึกฝนของเยี่ยฉวนสูงขึ้นมากเท่าไหร่ ความเนื้อหอมของเขาก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้น เช่นนั้นความเกลียดของนางก็ยิ่งจะเพิ่มพูนด้วยเช่นกัน

 

เยี่ยฉวนเพียงแสยะยิ้มเย้ยหยันออกมาในขณะที่มองร่างบางของหลิวหงหายลับไปในวังจ้าวเทียน

 

ยิ่งหลิวหงแสวงหาการแก้แค้นมากเท่าใด นางก็ยิ่งจะกลายเป็นโหดเหี้ยมมากขึ้นเท่านั้น นางมองว่าเยี่ยฉวนคือศัตรูที่น่าเกรงขาม แต่สําหรับเยี่ยฉวนแล้วกลับมองว่านางเป็นเพียงศิษย์ทั่วไปภายในสํานักเบญลักษณ์เท่านั้น คู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเขาคือเฟิงเหริน! ส่วนนางมารร้ายหลิวหงคนนี้ยังไร้คุณสมบัติ อย่างไรก็ตาม สตรีผู้นี้หมายมั่นที่จะทําลายเขามาแล้วหลายครั้งหลายครา ทุกสิ่งที่นางกระทําล้วนแต่ไร้เหตุผล เมื่อสถานการณ์บานปลายเช่นนี้เยี่ยฉวนจึงไม่รังเกียจที่จะทําลาย นางให้ย่อยยับด้วยเช่นกัน!

 

ณ ที่ห่างไกล หมอกสีเทายังพวยพุ่งออกพร้อมกับมีคนกลุ่มใหญ่ปรากฏขึ้นอยู่เนืองๆ เหล่าศิษย์จากสํานักต่างๆ สวมชุดคลุมพร้อมกับผู้ฝึกตนไร้สังกัดยังโผล่หน้าออกมาให้เห็นตลอดเวลา ทุกคนต่างพากันวิ่งเข้าสู่ประตูวังจ้าวเทียนอย่างไม่หวั่นไหวใด  ราวกับกลัวว่าหากช้าไปกว่านี้คงจะไม่ทันการ

 

เจ้าอ้วนเดินออกไปมองหน้าหลังพร้อมปาดเหงื่อบนหน้าผาก เมื่อครู่นี้ทั้งโท่วปาเชียงและเฟิงเหรินต่างแข็งแกร่งกว่าผู้ใด จึงทําให้เขาและศิษย์คนอื่นๆ ต่างหวาดกลัวจนตัวสั่น แต่ในตอนนี้ทุกคนเข้าไปด้านในแล้ว เขาจึงกล้าก้าวขาออกพร้อมเอ่ยปากถาม “ศิษย์พี่ใหญ่ ข้างหน้านี้คือเขตหวงห้ามของอาณาจักรสวรรค์ ถ้าเราไม่เข้าไปตอนนี้แล้วรอกระทั่งสมบัติทั้งหมดถูกแย่งชิงไปจะไม่เป็นไรงั้นหรือ… ข้าว่าเราควรเข้าไปก่อนที่จะสายเกินแก้ดีกว่าหรือไม่?”

 

เมื่อจับจ้องวังจ้าวเทียนที่ยิ่งใหญ่ค่อยๆโผล่พ้นออกมาจาก หมอกสีเทาทึบอย่างแช่มช้า เหล่าศิษย์แห่งสํานักเบญจลักษณ์ และสํานักเครื่องนิลต่างก็รีบเร่งเข้าไปข้างใน เหล่าศิษย์จากสํานักหมอกเมฆาแม้ว่าจะขี้ขลาดแต่ก็ต้องการสมบัติไม่แพ้กัน แม้ในใจจะหวาดกลัวแต่ก็อยากลองเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนอันคุ้มค่า

 

“ไม่ต้องรีบร้อนใด ให้พวกเขาเข้าไปก่อนเถิด ยิ่งไปกว่านั้น ที่แห่งนี้ไม่ใช่อาณาจักรข้าวเทียนสวรรค์ มันเป็นแค่วังรองเท่านั้น”

 

เยี่ยฉวนไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใด เขายังนั่งไขว่ห้างอยู่ที่เดิม พร้อมกับจับจ้องจูซื้อเจียในชุดเกราะสีแดงเพลิงอยู่นานก่อนจะเอ่ยปาก “เจียเจีย…. ปกป้องกายหยาบของข้าให้ดี ข้าต้องการเข้าไปตรวจสอบอาณาจักรสวรรค์สักครู่หนึ่ง หลังจากนี้นับไปหนึ่งชั่วโมงหากศิษย์จากสํานักอื่นยังไม่กลับมาเราจึงจะออกเดินทางทันที แล้วถ้าไม่มีคําสั่งใดจากข้า… ห้ามทุกคนเคลื่อนไหวโดยเด็ดขาด!”

 

สําหรับคนหมู่มาก สถานที่แห่งนี้คือที่ๆรวบรวมมรดก สมบัติล้ําค่ามากมายเอาไว้อย่างแน่นอน แต่หลังจากที่เยี่ยฉวนได้พบกับมังกรปีศาจน้อยในปาหมื่นอสูรความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อนึกถึงภาพโลงหินที่อยู่ตรงทางเข้าอาณาจักรสวรรค์ทุกสิ่งก็ยิ่งชัดเจน เขารู้สึกว่าที่คืออาณาจักรสวรรค์มังกรปีศาจในตํานาน แม้จะมีขุมทรัพย์อยู่ในวังจ้าวเทียนจริง แต่มันย่อมไม่ใช่สมบัติที่แท้จริงภายในอาณาจักรสวรรค์มังกรปีศาจในตํานานแน่นอน นอกจากนี้เขาเกรงว่าภายในจะอันตรายยิ่งกว่าปาหมื่นอสูรเสียอีก หมายความว่ายิ่งเข้าไปเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งตายเร็วเท่านั้น!

 

เยี่ยฉวนจําได้ว่ามังกรปีศาจน้อยก่อนหน้านี้พุ่งเข้าไปในวังจ้าวเทียนด้วยเช่นกัน

 

ถึงเขาไม่อาจยืนยันได้ แต่อย่างน้อยมังกรปีศาจน้อยตัวนั้นก็รับมือได้ยากยิ่งแม้ยังไม่โตเต็มวัยก็ตาม ร่างกายของมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าจะจินตนาการได้ แม้โท่วปาเชียงร่วมมือกับเฟิงเหรินยังไม่อาจต่อกรกับมัน สําหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในปาหมื่นอสูรก่อนหน้านี้ หากเขาไม่ได้เรียกภูตทะเลไหลี่ลี่ออกมาก็คงไม่อาจรับมือมันได้อย่างแน่นอนและจุดจบคงมีเพียงถูกอสูรเศียรพยัคฆ์ฉีกทิ้งเป็นเศษเนื้อ!

 

อีกทั้งผู้พิทักษ์อสรพิษปีศาจทั้งสองตัวที่ยืนอยู่หน้าประตู ทําให้หัวใจของเขาสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน

 

แสงสีฟ้าวูบไหวอยู่รอบร่างกายของเยี่ยฉวน หากผู้คนมองดีๆ แล้วจะเห็นว่ามีตะเกียงสีฟ้าส่งแสงอ่อนจางลอยอยู่เหนือศีรษะของชายหนุ่มตลอดเวลา

 

วูบ! แววตาของทุกคนสั่นไหวเมื่อเห็นว่าจิตวิญญาณของเยี่ย ฉวนแยกออกจากร่างกาย ทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยสีฟ้าอ่อนจา งบางๆ ในพริบตาวิญญาณของเขาพุ่งตรงเข้าไปในวังจ้าวเทียน โดยพลัน!

 

หลังจากทะลวงสู่ขั้นซิวฉือระดับสี่และกลั่นเลือดมังกรปีศา จสําเร็จ ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก หลังจากที่หลุดออกจากกายหยาบ เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานได้ ลักษณ์ละเอียดอ่อนรอบกายได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งใบหน้าที่ตื่นตระหนกของศิษย์สํานักหมอกเมฆาก็เด่นชัดในสายตาด้วยเช่นกัน ความผันผวนของหมอกสีเทาทึบซึ่งอยู่ไกลออกไปก็สามารถสัมผัสถึงมันได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าอะไรที่อยู่ใกล้กับวังจ้าวเทียนเขาล้วนแต่สัมผัสถึงมันได้หมดสิ้น

 

“เข้าประจําตําแหน่งปกป้องศิษย์พี่ใหญ่!”

 

จูชื่อเจียออกคําสั่งอย่างรวดเร็วและศิษย์ของสํานักหมอกเมฆาเริ่มจัดตั้งกระบวนดาบพร้อมปกป้องเยี่ยฉวนในทันที

 

อาณาจักรสวรรค์เต็มไปด้วยอันตรายและไม่มีใครหยั่งรู้ได้ว่ามีปีศาจร้ายที่ตนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ แม้แต่การจับกลุ่มเพื่อสํารวจยังอันตรายยิ่ง แต่การถอดจิตออกจากร่างเป็นการกระทําที่อันตรายยิ่งกว่า แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋าก็ยังไม่กล้าทําการทุ่มบ่ามเช่นนี้ ทว่าเยี่ยฉวนกลับลงมือหน้าตาเฉย เขาเริ่มออกสํารวจอาณาจักรสวรรค์ตรงหน้าและค้นหาเส้นทางที่ปลอดภัย แต่หากประมาทเพียงเล็กน้อย ดวงจิตของเขาจะแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ และไม่สามารถกลับมาได้อีกตลอดกาล!

 

ผู้พิทักษ์อสรพิษปีศาจที่ยืนประจําตําแหน่งเฝ้าประตูเต็มไปด้วยความเย็นชาและปราศจากพลังชีวิต แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ผันผวนอยู่ภายใน มันคล้ายกับว่ามีบางสิ่งกําลังซุกซ่อนอยู่ ทั้งหมดรอเพียงแค่โอกาสที่จะพุ่งทะยานออกมาเท่านั้น!

 

ด้านหลังประตูมืดสนิทไร้ซึ่งแสงใด อีกทั้งอากาศก็ยังบิดเบี้ยวอย่างน่าอึดอัด ดูเหมือนว่ามีพายุใหญ่กรรโชกอยู่ภายใน แต่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า มันคล้ายโลกอีกใบที่แตกต่าง จากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ไม่ว่ามนุษย์หน้าไหนที่กล้าบุกเข้ามา ก็ล้วนแต่จะถูกส่งไปยังโลกแห่งความว่างเปล่าหรืออาจถูกฉีกร่างกายออกเป็นชิ้นๆ

 

ข้างหน้ามีอาณาเขตที่อันตรายยิ่ง บรรยากาศโดยรอบชวนให้อัดอัด สถานที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยรูปปั้นพร้อมกับหุบเหวกระจัดกระจายออกอย่างไม่เป็นระเบียบ บรรยากาศที่น่าพิศวงนั้นยิ่งมองยิ่งน่าหวั่นเกรง… มันคือสิ่งใดกัน? กระดานหมากรุกงั้นหรือ? นั่นคือกระดานหมากราชาปีศาจในตํานานหรือไม่?

 

ภาพตรงหน้าสร้างความตื่นตระหนกให้กับเยี่ยฉวนยิ่ง ความทรงจําในภพก่อนพลันผุดขึ้นมา ภาพที่เขาตัดศีรษะราชันภูตอสูรกายปรากฏแจ่มชัดในความทรงจําทันที แต่ขณะที่เขาคิดจะใช้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สํารวจมันต่อ ความเจ็บปวดพลันแล่นขึ้นศีรษะ พร้อมกับมีบางอย่างดูดกลืนจิตวิญญาณของเขาให้กลับคืนออกมาด้านนอกอย่างฉับพลัน!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด