Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 347 ศึกระหว่างพี่น้อง

Now you are reading Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ Chapter บทที่ 347 ศึกระหว่างพี่น้อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 347 ศึกระหว่างพี่น้อง

ริ้ว! ธงชัยโลหิตกล้าพุ่งแหวกอากาศไปทางด้านหลังของหลงเอ๋อร์น้อย

เยี่ยฉวนท้าประลองเพราะต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของเคล็ดวิชากระบวนจอมทัพ เขาจึงใช้พลังเพียงสามในสิบของร่างกาย และไม่ได้ใช้พลังงานทั้งหมดจากยันต์กลืนกินสวรรค์ทั้งแปดใบ

หลงเอ๋อร์น้อยเร่งความเร็วเพื่อหลบหลีกการโจมตีจากเยี่ยฉวนอีกครั้ง เด็กน้อยว่องไวปานลมกรด ธงหนักอึ้งจึงฟาดถูกเพียงภาพติดตาของเขาเท่านั้น
“พี่ใหญ่เยี่ยฉวน ข้ามาแล้ว!”

หลงเอ๋อร์กางกรงเล็บพุ่งไปทางเยี่ยฉวน นิวทั้งห้าของมังกรน้อยงองุ้มราวกับตะขอคมกริบ หากตะปบโดนอีกฝ่ายเข้าคงทําให้ผิวหนังและเนื้อฉีกขาดหลุดลุ่ยเป็นแน่!

“เข้ามาเลย!”

เยี่ยฉวนปรับเปลี่ยนกระบวนท่าฉับพลัน ท่าทางฟาดฟันลงเมื่อครู่กลับกลายเป็นการวาดออกจนธงผืนยักษ์กระแทกกับลําตัวด้านซ้ายของหลงเอ๋อร์ วินาทีนั้นข้อมือของเยี่ยฉวนรู้สึกชาแปลบ เสาธงสั่นสะเทือนพร้อมเสียงดังฟัง ขณะที่หลงเอ๋อร์น้อยกระเด็นออกไป ทว่าเขามัวนตัวกลับมาได้โดยไร้ร่องรอยบาดเจ็บ การปะทะกันครั้งแรกนับว่าสูสี ธงชัยโลหิตกล้านั้นทรงพลัง หากแต่ร่างมังกรปีศาจของหลงเอ๋อร์ก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน

“เอาล่ะ เข้ามาอีก!”

เยี่ยฉวนกระโดดขึ้นไปบนฟ้าพร้อมจ้วงแทงธงในมือใส่หลงเอ๋อร์ราวกับหอก หนนี้เขาเพิ่มพลังขึ้นถึงห้าในสิบ!

หลงเอ๋อร์น้อยตั้งรับการโจมตีนี้โดยตรง ความเร็วของเขาน่าอัศจรรย์เหมือนเช่นเคย มังกรน้อย ม้วนตัวหลบเมื่อเห็นธงชัยโลหิตกล้ากําลังจะแทงทะลุตนก่อนพุ่งผ่านด้ามธงไปทางเยี่ยฉวน แววตาของเยี่ยฉวนลุกโชน เขาไม่ได้หลบหลีกเช่นกันหากแต่ฉวยโอกาสนี้ควงด้ามธงลง พลังงานมหาศาลปะทุขึ้นระหว่างที่หลงเอ๋อร์น้อยอยู่ในระยะประชิดทําให้ร่างของเขากระเด็นลอยออกไปอีกครั้งอย่างไม่ทันตั้งตัว

โฮก! หลงเอ่อร์น้อยชูคอคํารามก่อนบินวกกลับมาด้วยจิตวิญญาณนักสู้ที่ทวีคูณขึ้น เคราะห์ร้ายที่ไม่ว่าเขาจะพุ่งเข้ามาจากทิศใดและรวดเร็วเพียงใดก็ถูกฟาดเข้าทุกครั้ง ธงชัยโลหิตกล้าคอยยับยั้งเขาเอาไว้จนไม่อาจเข้าประชิดตัวเยี่ยฉวนได้เลย เยี่ยฉวนควงธงชัยที่ใหญ่โตและหนักอึ้ง ราวกับป้อมปราการไร้พ่าย การบ่มบ่ามพุ่งเข้าไปไม่เพียงทําให้การโจมตีล้มเหลว หากแต่ยังทําให้มังกรน้อยถูกฟาดกลับมาอีกด้วย โชคดีที่เยี่ยฉวนใช้พลังงานเพียงห้าในสิบเท่านั้น มิเช่นนั้นร่างของหลงเอ๋อร์คงสะบักสะบอมหมดสภาพไปแล้ว

อันที่จริงกายหยาบของมังกรปีศาจนั้นแข็งแกร่งมาก น่าเสียดายที่หลงเอ๋อร์น้อยยังเยาว์นัก หากเทียบกับมังกรปีศาจโตเต็มวัยที่มีชีวิตอยู่มานานหลายปีแล้วเขายังเป็นเพียงมังกรทารกเท่านั้น เด็กน้อยยังห่างไกลจากการแสดงพลังที่แท้จริงของทักษะโดยกําเนิดประจําเผ่าพันธุ์นี้ ในอาณาจักรสวรรค์เขาสามารถยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างเยี่ยฉวนได้อย่างมั่นคงและทนต่อฤทธิ์กัดกร่อนของหมอกพิษได้อย่างง่ายดายโดยอาศัยความทนทานของร่างกาย แต่บัดนี้เมื่อเยี่ยฉวนก่อรวม ยันต์กลืนกินสวรรค์ใบที่แปดและบรรลุสู่ขั้นปรมาจารย์แห่งเต่ระดับสามได้สําเร็จ หลงเอ๋อร์น้อยก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ําสมเนื้อสําหรับเขาอีกต่อไป

การต่อสู้ดุเดือดบนยอดเขาดึงดูดความสนใจของทุกคนอย่างรวดเร็ว ไม่นานจูซื้อเจีย เจ้าอ้วน และคนอื่นๆก็พร้อมใจกันเร่งรุดมายังที่แห่งนี้

ทุกคนต่างโล่งใจอย่างสุดซึ้งเมื่อเห็นว่าเยี่ยฉวนหายดีแล้วโดยเฉพาะจซื้อเจีย นางรู้สึกว่า ความยากลําบากและความเหน็ดเหนื่อยตลอดหลายวันที่ผ่านมาช่างคุ้มค่าเสียเหลือเกิน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจเมื่อประจักษ์พลังของธงชัยโลหิตกล้าในมือเยี่ยฉวนกับตา

เคล็ดวิชากระบวนจอมทัพ… ไม่มีผู้ใดแม้แต่ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินเคยได้ยินหรือพบเจอเคล็ดวิชาที่โดดเด่นและรุนแรงถึงเพียงนี้มาก่อน แม้อาวุธสังหารขนาดยักษ์จะตกมาอยู่ในมือของเยี่ยฉวน ทว่าพลังของมันกลับไม่ได้ลดน้อยลงจากตอนที่อยู่ในมือของบรมครูเจียงเฉินเชิงเลยแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่หลงเอ่อร์… แม้แต่ปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับสูงสุดอย่างปีศาจเฒ่าหลัวเต่อก็ต้องพบกับจุดจบอันเลวร้ายหากเผชิญหน้ากับเยี่ยฉวนในยามนี้

หลงเอ๋อร์น้อยหยุดพักเพื่อหอบหายใจ

เยี่ยฉวนที่ถือธงชัยโลหิตกล้าหนักกว่าหนึ่งแสนจนแลดูปราศจากความเหน็ดเหนื่อย ขณะที่หลงเอ่อร์น้อยเหนื่อยหอบเกินกว่าจะนึกโกรธเคืองได้ไหว การโจมตีรุนแรงในแต่ละครั้งย่อมใช้พละกําลังอย่างมาก หากแต่ต้องขึ้นอยู่กับความทนทานและการควบคุมด้วย หากควบคุมได้ไม่ดี อาจต้องใช้กําลังกายเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในการโจมตีแบบเดียวกัน แม้ขั้นการฝึกตนของเยี่ยฉวนจะอยู่เพียงขั้นปรมาจารย์แห่งเต่ระดับสาม ทว่าทั้งพละกําลังความทนทาน และการควบคุมของเขาล้วนแต่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ทําให้เขาเหนือชั้นกว่าผู้ฝึกตนในระดับเดียวกันแทบทุกด้าน

ทันใดนั้นเสียงคํารามก๊กก่องดังมาจากหุบเขามังกรปีศาจ

“ศิษย์พี่ใหญ่ ระวังให้ดี!”

เสียงของหนานเทียนโตวดังขึ้นก่อนมังกรยักษ์สีแดงเพลิงจะบินตรงมา ล่าตัวยาวกว่าหนึ่งพันเมตรเคลื่อนที่อย่างว่องไวราวสายฟ้าฟาด

“ฮ่าๆๆ ดีมากศิษย์น้องเทียนโตว วันนี้เราสองพี่น้องมาประลองกันสักสามร้อยรอบดีกว่า!”

เยี่ยฉวนหัวเราะสุดเสียงพลางโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ภายในร่างจนกระแสพลังงานพุ่งสูง

หนานเทียนโตวไม่ใช่ลูกมังกรเช่นหลงเอ่อร์ เขาได้หลอมรวมจิตวิญญาณกับมังกรปีศาจที่ถูกกักขังอยู่ในหุบเขามานานนับหลายปีจนมิอาจล่วงรู้ มิหนําซ้ําฐานการฝึกตนของเขาในปัจจุบันยังเหนือกว่าปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินอยู่หนึ่งขั้น การต่อสู้กับหนานเทียนโตวจึงไม่จําเป็นต้องออมมือและทุ่มโจมตีสุดกําลังได้ ซึ่งเยี่ยฉวนกําลังอยากทดสอบพลังของเคล็ดวิชากระบวนจอมทัพโดยไม่ต้องยั้งแรงอยู่พอดี

เสียงหวีดหวิวดังเสียดแทงแก้วหู หนานเทียนโตวไม่เพียงมีร่างกายใหญ่โตหากแต่ยังว่องไวจนน่าเหลือเชื่อ เขามาถึงยอดเขาที่เยี่ยฉวนยืนอยู่ในพริบตา

เยี่ยฉวนแหงนหน้าก่ร้องพร้อมชูธงชัยโลหิตกล้าขึ้นสูง เมื่อก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งธงในมือของเขาสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงหึง ก้าวที่สองก่อเกิดเสียงละม้ายคล้ายเสียงกลองศึกที่ปลุกเร้าให้ผู้คนเลือดร้อน และเมื่อก้าวไปอีกก้าวธงชัยผืนนี้พลันกวาดไปทางหนานเทียนโตวราวกับสายฟ้าฟาด!

ต้ม! เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวดจภูเขาสองลูกพุ่งชนกัน

ธงในมือเยี่ยฉวนกระเด้งกลับและงอเกือบเก้าสิบองศา พังผืดระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ของเขา ฉีกขาดจนเลือดกระเซ็น ส่วนหนานเทียนโตวส่งเสียงครวญครางแผ่วเบา ร่างของเขากระเด็นไปไกลพอควรทว่าไม่มีร่องรอยบาดเจ็บปรากฏให้เห็น หากเป็นหลงเอ๋อร์ที่อยู่ตรงนี้ร่างมังกรของเขาคงถูกทําลายไปกว่าครึ่ง!

“เคล็ดวิชาจอมทัพขั้นที่สอง เทพปีศาจหวนไห้!”

เยี่ยฉวนไม่แยแสโลหิตที่ไหลหลั่ง เขาสืบเท้าไปข้างหน้าพลางยกธงชัยโลหิตกล้าขึ้นสูงก่อนจะฟาดลงมาอย่างโหดเหี้ยม!

โฮก!

หนานเทียนโตวเปล่งเสียงคํารามอีกครั้ง เขาไม่ได้หลบหลีกหากแต่เลือกที่จะตั้งรับตัวต่อตัว

คลื่นกระแทกรุนแรงที่มองไม่เห็นสาดกระจายไปทั่วบริเวณทันใด

จซื้อเจียและคนอื่นๆ ที่ยืนเฝ้าดูการต่อสู้อยู่ด้านข้างแทบทรงตัวไม่อยู่ คลื่นกระแทกเกือบส่งพวกเขากระเด็นตกหน้าผา ขณะที่เจ้าอ้วนจ้าวต้าจ่อถึงกับต้านไว้ไม่ไหวและลอยออกไป โชคดีที่ปีศาจเฒ่าแห่งเทือกเขาหยินคว่าร่างอวบอ้วนไว้ได้ทันก่อนที่จะร่วงตกหน้าผา จากนั้นบรรดาสาวกจึงพากันถอยห่างจากการประลองทันที

“ศิษย์น้องเทียนโตว ระวังไว้ให้ดี!”

เยี่ยฉวนหยุดเพื่อโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ทั้งแปดใบก่อนพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง หนานเทียนโตวไม่ได้ล่าถอยแต่อย่างใด เขาพุ่งตรงมาข้างหน้าเพื่อปะทะกับอีกฝ่ายตาต่อตาฟันต่อฟัน!

คลื่นกระแทกที่รุนแรงกว่าเดิมปะทุขึ้น จนอากาศบนยอดเขาไหวกระเพื่อมและบิดเบี้ยวราวกับจะฉีกขาด!

ร่างมังกรมหึมาของหนานเทียนโตวกระเด็นลอยออกไปหนึ่งพันเมตร รอยแผลโชกเลือดปรากฏขึ้นบนศีรษะ เยี่ยฉวนเองก็กระเด็นไปอีกทางจนแทบหยุดที่ขอบหน้าผาไม่ทัน เขาคุกเข่าลงเพื่อกอบโกยอากาศหายใจโดยใช้ธงชัยโลหิตกล้าช่วยพยุงร่าง

การโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ทั้งแปดทําให้พลังหนึ่งแสนสี่หมื่นจนปะทุขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจเอาชนะหนานเทียนโตวได้
เยี่ยฉวนตกตะลึงเมื่อได้ประสบความแข็งแกร่งของหนานเทียนโตวภายหลังการเกิดใหม่

ด้านหนานเทียนโตวนั้นประหลาดใจเสียยิ่งกว่า ศิษย์พี่ใหญ่เยี่ยฉวนมีฐานการฝึกตนขั้นใดกัน? เขาบรรลุถึงเพียงขั้นปรมาจารย์แห่งเต๋ระดับสามแต่กลับแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ หากบรรลุสู่ขั้นปรมาจารย์แห่งเต่ระดับสูงสุดแล้วจะมีผู้ใดต่อกรกับเขาได้นอกจากยอดฝีมือขั้นกึ่งปราชญ์ขึ้นไป?!

ทั้งสองพี่น้องน่าอัศจรรย์ในแบบฉบับของตน พวกเขาต่างตกตะลึงและชื่นชมในฝีมือของกันและกัน หนานเทียนโตวเป็นเลิศด้านความทนทานของร่างกายและการฝึกตน ขณะที่เยี่ยฉวนมีชัยด้วยอาวุธสังหารอันน่าสะพรึงกลัวในมือ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด