Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ บทที่ 55 ปีศาจเพลิงหลั่งน้ำตา

Now you are reading Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ Chapter บทที่ 55 ปีศาจเพลิงหลั่งน้ำตา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 55 ปีศาจเพลิงหลั่งน้ำตา

เมื่อยามราตรีเข้าปกคลุม เยี่ยฉวนจากไปอย่างรวดเร็วโดยมีปีศาจเพลิงตามติด ทิ้งคนจากสำนักเครื่องนิลไว้เบื้องหลัง

เยี่ยฉวนผู้นำหน้าแตะแกนผลึกแก้วจากอสุรกายพันขาในอกเสื้อ

น่าเสียดายที่การมาอ่าวกลืนน้ำในครั้งนี้ไม่ได้เบาะแสของเมล็ดชิ่งหยางดังใจหวัง แต่ระหว่างทางเขาบังเอิญได้รับแกนผลึกแก้วจากอสุรกายพันขาซึ่งดีพอจะชดเชยได้ ช่างเป็นเรื่องคาดไม่ถึงอันน่าพึงใจ

เยี่ยฉวนสามารถขัดเกลายาเม็ดเชียนหยางจากแกนผลึกแก้วนี้พร้อมทั้งสมุนไพรอีกจำนวนหนึ่งเพื่อเร่งฟื้นฟูและเสริมความแข็งแกร่งให้กับจิตวิญญาณ

เยี่ยฉวนสงบนิ่ง อดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้เมื่อครุ่นคิดถึงยาเม็ดเชียนหยางที่ไม่ได้ขัดเกลามาเป็นเวลานาน เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อนึกถึงร่างอ้อนแอ้นนวลเนียนราวกับหยกอีกทั้งท่าทางเขินอายและโกรธเคืองแต่แสดงออกมาไม่ได้ของโท่วป่าเซียงเนียว

“ท่านชาย…”

เสียงแหบพร่าของปีศาจเพลิงดังขึ้นจากข้างหลัง

เยี่ยฉวนชะงักฝีเท้าและหันกลับไปมอง จึงเห็นว่าสภาพของปีศาจเพลิงนั้นไม่สู้ดีนัก ทั้งกายนั้นสั่นเทิ้ม “ปีศาจเพลิง เจ้าบาดเจ็บงั้นหรือ?”

สีหน้าของเยี่ยฉวนกลับเคร่งเครียด เขาพุ่งไปข้างหน้าเพื่อประคองปีศาจเพลิงไว้ก่อนจะเอื้อมมือไปกดบริเวณหัวใจเพื่อถ่ายทอดปราณวิญญาณพิสุทธิ์เข้าสู่กาย อาการของปีศาจเพลิงค่อยๆ ทุเลาลงและไม่สั่นสะท้านอีกต่อไป เยี่ยฉวนม้วนแขนเสื้อของปีศาจเพลิงขึ้นจึงเห็นว่าแขนของเขาอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง กระดูกใต้ข้อศอกแทบจะถูกบดละเอียด

ณ อ่าวกลืนน้ำ พลังอันร้ายกาจของปีศาจเพลิงทำให้โลกตะลึง เพียงกระบวนท่าเดียวก็เปลี่ยนหม้อสัมฤทธิ์หนักหนึ่งหมื่นจินของปีศาจเฒ่าถงปี่ให้เป็นเหล็กหลอมเหลวทันที แม้แต่ปีศาจเฒ่าถงปี่ผู้ชั่วร้ายก็ยังตกใจสุดขีดและได้แต่มองดูทั้งสองจากไปโดยไม่เปล่งเสียงใด เมื่อมองจากภายนอก ขั้นการฝึกตนของปีศาจเพลิงนั้นสูงส่งไม่มีผู้ใดเทียบ แต่ความจริงแล้วเขาโดนพลังตีกลับจากหม้อสัมฤทธิ์และได้รับบาดเจ็บสาหัส

ยามศัตรูน่าเกรงขามกำลังจับจ้องราวกับพยัคฆ์ร้ายเตรียมขย้ำ ปีศาจเพลิงมีท่าทีสงบนิ่งและแสร้งว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่ทันทีที่จากอ่าวกลืนน้ำมาเขาไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป

ด้วยความช่วยเหลือของเยี่ยฉวนทำให้เขาสามารถรอดพ้นหายนะจากโรคภัยที่คุกคามตนมานานนับปี แต่อย่างไรปีศาจเพลิงก็สูญพลังไปไม่น้อย ในเวลานี้เขาอ่อนแอกว่าแต่ก่อนนัก โชคดีที่เมื่อครู่สามารถข่มขวัญให้ปีศาจเฒ่าหวาดกลัวได้ด้วยกระบวนท่าเดียว หากอีกฝ่ายมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งทั้งเขาและเยี่ยฉวนคงจะถูกฝังอยู่กลางป่าแน่นอน!

“ไม่เป็นไร ฐานรากของเจ้าไม่เสียหายมากนัก เจ้าแค่สู้กับใครไม่ได้อีกพักหนึ่งเท่านั้น”

ปีศาจเพลิงฝืนกายขึ้นยืนและออกปากเร่ง “ท่านชาย รีบไปเถอะ เราต้องรีบไปจากที่นี่แล้ว”

“ได้ เจ้าแข็งใจไว้อีกนิด”

เยี่ยฉวนพยักหน้า ประคองแขนของปีศาจเพลิงไว้บนบ่าและจากไป

เทือกเขาหมอกเมฆาทอดยาวออกไปกว่าหนึ่งหมื่นลี้และมีสัตว์อสุรกายเพ่นพ่านอยู่โดยทั่ว สถานที่แห่งนี้อันตรายนักแม้ในเวลากลางวัน นับประสาอะไรกับเวลากลางคืนที่พวกเขาอาจเผชิญหน้ากับอสุรกายดุร้ายได้ทุกเมื่อ คนของสำนักเครื่องนิลก็โหดเหี้ยมราวกับฝูงหมาป่าและพยัคฆ์ร้าย ปีศาจเฒ่าถงปี่เป็นคนเจ้าเล่ห์ เป็นไปได้สูงว่ามันจะส่งพรรคพวกมาไล่ตามพวกเขาเพื่อดูสถานการณ์ ยิ่งการเดินทางล่าช้ามากเพียงใดก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น

คล้อยหลังเยี่ยฉวนและปีศาจเพลิงไม่นานนัก ศิษย์ชั้นเลิศแห่งสำนักเครื่องนิลกำลังไล่ตามพวกเขาและสำรวจดูสถานที่ที่ทั้งสองเพิ่งหยุดพักไปเมื่อครู่ เขามองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกคลางแคลงใจ รอยเท้าของเยี่ยฉวนและปีศาจเพลิงแลดูยุ่งเหยิง เห็นได้ชัดว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นที่นี่แต่กลับไม่พบรอยเลือดแม้แต่น้อยจึงไม่อาจบอกได้ว่าทั้งสองบาดเจ็บหรือไม่

หลังค้นหาจนถี่ถ้วนแล้วศิษย์ชั้นเลิศแห่งสำนักเครื่องนิลก็ไล่ตามต่อไป เคราะห์ร้ายที่ความล่าช้าทำให้เขาตามเยี่ยฉวนและปีศาจเพลิงไม่ทัน เมื่อเห็นทางเข้าภูเขาแห่งสำนักหมอกเมฆาอยู่เบื้องหน้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมล่าถอยไป

เยี่ยฉวนและปีศาจเพลิงเร่งรีบตลอดทาง แต่ยังไม่ทันไปถึงยอดเขาเมฆาอินทนิลปีศาจเพลิงก็ทนไม่ไหวเสียแล้ว

เยี่ยฉวนไม่อยากรอช้าจึงรีบหาถ้ำเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของปีศาจเพลิง เขาเก็บสมุนไพรจำนวนหนึ่งมาบดเพื่อทำเป็นยาพอกบนแขนขวาก่อนจะตรวจดูร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า สีหน้าของเขากลับเคร่งเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ สภาพของปีศาจเพลิงย่ำแย่กว่าที่คิด อาการบาดเจ็บจากอาวุธสังหารอย่างหม้อสัมฤทธิ์ของปีศาจเฒ่าถงปี่ยังไม่เลวร้ายเท่าผลข้างเคียงจากพลังกายสุริยันแผดจ้า หรือพูดให้ถูกคือปีศาจเพลิงยังไม่ผ่านพ้นหายนะความเป็นความตายไปโดยสมบูรณ์

“ท่านชาย หายนะของข้ายังไม่ผ่านพ้นไปใช่หรือไม่?” ปีศาจเพลิงถามขึ้น ความเจ็บป่วยเรื้อรังได้เปลี่ยนคนไข้ให้กลายเป็นหมอ ตอนนี้เขารู้จักสภาพร่างกายตัวเองดีที่สุด

“อืม จะว่าเช่นนั้นก็ได้ แต่ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เจ้ายังพักผ่อนไม่มากพอ” เยี่ยฉวนชะงักครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “โชคร้ายที่ข้าอยู่เพียงขั้นอูเจ๋อจึงมีหลายวิธีที่ใช้การไม่ได้ ปีศาจเพลิง จงจำไว้ว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งปะทะกับใครและอย่าได้ฝืนฝึกตน พักผ่อนให้เพียงพอไประยะหนึ่งก่อนและค่อยๆ ฟื้นตัวด้วยปราณอายุวัฒนะแห่งยอดเขาเมฆาอินทนิล”

สีหน้าของปีศาจเพลิงไม่สู้ดีนัก เขากล่าวคำออกอย่างผิดหวัง “ท่านหมายความว่าการฝึกตนของข้าจะหยุดอยู่เท่านี้ จะไม่บรรลุขึ้นไปมากกว่านี้แล้วหรือขอรับ?”

ผู้ที่ฝึกตนจนบรรลุกายสุริยันแผดจ้าจะมีพลังรุนแรงน่าหวาดหวั่นยิ่ง ทว่าขั้นตอนการฝึกตนนั้นกลับอันตรายเกินไป พวกเขามักเผชิญกับความทุกข์ทรมานทุกๆ แปดถึงสิบปี ตราบใดที่พวกเขาไม่สามารถผ่านพ้นหายนะของตนไปได้ความพยายามที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า ระหว่างทางที่ผ่านมานั้นปีศาจเพลิงได้ผ่านพ้นอุปสรรคมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้เขาอดไม่ได้ที่จะเสียขวัญ

“ไม่ เพียงแค่ช่วงนี้เท่านั้น ข้าจะบอกเจ้าว่าต้องทำอย่างไรต่อไปเมื่อข้าบรรลุขั้นซิวฉือได้สำเร็จ รับขั้นตอนการฝึกตนนี่ไปเสีย แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งเร่งฝึกนัก จงศึกษาความลึกซึ้งของมันให้ถี่ถ้วนเสียก่อน” เยี่ยฉวนหยิบสมุดเล่มบางออกมาจากอกและยื่นให้ปีศาจเพลิง

“นี่มัน…”

ปีศาจเพลิงเปิดสมุดดูก่อนจะร้องออกมาด้วยความตกใจ ยิ่งมองดูมันมากเท่าใดก็ยิ่งตกตะลึงมากเท่านั้น เขาพูดเสียงตะกุกตะกัก “ท่านชาย นี่… นี่มัน เคล็ดวิชากลสุริยันแผดจ้าฉบับสมบูรณ์งั้นหรือ? ไม่ ไม่สิ รายละเอียดลึกซึ้งกว่านั้นซ้ำยังมีเนื้อหามากมาย ท่านชาย นี่คือ…”

“ใช่ นี่คือเคล็ดวิชากลสุริยันแผดจ้าที่แท้จริง เคล็ดวิชาเดิมของเจ้านั้นไม่สมบูรณ์และยังมีข้อบกพร่องอยู่มาก ผู้ฝึกตนอาจเดินเข้ากองไฟแล้วกลายเป็นมารร้ายไปได้ ปีศาจเพลิง จงฝึกตนให้ถูกทางเถิด”

เยี่ยฉวนพูดอย่างเรียบเฉย ทั้งคำถามและความตื่นตระหนกของปีศาจเพลิงเป็นสิ่งที่เขาคาดไว้แล้ว

เยี่ยฉวนเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นในเวลาว่างเมื่อสองวันที่ผ่านมา สำหรับปีศาจเพลิงแล้วเคล็ดวิชากลสุริยันแผดจ้าฉบับสมบูรณ์เป็นสิ่งที่ไม่อาจประเมินค่าได้เงินทองเท่าใดก็ไม่อาจแลก เคล็ดวิชานี้เป็นเคล็ดวิชาลับเฉพาะประจำสำนักที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายทอดต่อและเป็นเคล็ดวิชาพื้นฐานที่เขาใช้ในแดนอรัญญิก แต่ไม่ได้มีค่าอะไรนักสำหรับเยี่ยฉวนผู้เคยซ่อนเร้นสวรรค์ไว้ได้ด้วยสองมือ เขาสามารถเรียกใช้ได้แม้แต่เคล็ดวิชาฝึกตนของนักปราชญ์โดยปราศจากปัญหาใด

“ไม่ผิดแน่ นี่คือเคล็ดวิชากลสุริยันแผดจ้าฉบับสมบูรณ์ เคล็ดวิชากลสุริยันแผดจ้าที่แท้จริง!”

ปีศาจเพลิงพินิจดูอีกครั้งด้วยความตื่นเต้นไม่รู้จบ เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเยี่ยฉวนด้วยความเคารพ ดวงตากร้านโลกถึงกับหลั่งน้ำตา “สวรรค์โปรด ในที่สุด อี้เหยี่ยนจื่อ ศิษย์รุ่นที่เจ็ดสิบสามแห่งสำนักสุริยันแผดจ้าค้นพบเคล็ดวิชากลสุริยันแผดจ้าฉบับสมบูรณ์แล้ว ข้าเติมเต็มความปรารถนาอันยาวนานของสำนักเราได้สำเร็จ ท่านชาย โปรดรับการคารวะของอี้เหยี่ยนจื่อผู้นี้ด้วย นับจากวันนี้ไป เป้าหมายของอี้เหยี่ยนจื่อไม่ใช่การไปสู่จุดสูงสุดของการฝึกตน หากแต่เป็นการติดตามท่านชายไปทุกหนแห่งไม่หนีหายจนกว่าชีวิตจะหาไม่”

หลายปีที่ผ่านมาปีศาจเพลิงท่องไปทั่วจักรวรรดิต้าฉินและซ่อนกายในตลาดมืดโดยมีความปรารถนาเพียงสองประการในแดนอรัญญิกอันกว้างใหญ่นี้ ประการแรกคือการเยียวยาภัยร้ายอันเป็นผลข้างเคียงจากกายสุริยันแผดจ้า ประการที่สองคือการค้นหาเคล็ดวิชากลสุริยันแผดจ้าฉบับสมบูรณ์ที่แท้จริง ซึ่งเป็นความปรารถนาก่อนตายเพียงหนึ่งเดียวของอาจารย์ของเขาและเป็นความปรารถนาอันยาวนานของเจ้าสำนักสุริยันแผดจ้าอีกด้วย

เป็นเวลาหลายปีที่เขาถูกครอบงำด้วยมารแห่งโรคร้าย ปีศาจเพลิงท้อแท้ใจไปทุกขณะและหมดสิ้นความหวังที่จะได้พบเคล็ดวิชากลสุริยันแผดจ้าฉบับสมบูรณ์ที่แท้จริง เขาคิดว่าเขาคงต้องจากไปอย่างหดหู่เช่นเดียวกับอาจารย์ของเขา และไม่เคยคาดคิดเลยว่าเยี่ยฉวน ศิษย์พี่ใหญ่แห่งสำนักหมอกเมฆาผู้ที่ครั้งหนึ่งเป็นคนธรรมดาไร้ชื่อเสียงใดจะช่วยให้เขาบรรลุความปรารถนาอันยาวนานได้สำเร็จ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด