The Conquerors Path 462 Looks Like A Monster Awoke
ไม่กี่นาทีผ่านไปขณะที่ผมวางหัวลงบนไหล่ของมิร่าซึ่งมีแขนอันอ่อนโยนของเธอโอบไว้ ร่างกายที่สั่นเทาของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอเก็บกักอารมณ์ไว้มากแค่ไหน และดูเหมือนเธอจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถ ‘เข้าใจ’ ความรู้สึกของผมได้อย่างแท้จริง
“มันต้องลำบากมากแน่ๆ”
เธอกระซิบข้างหูผมพร้อมลูบหลังผมช้าๆ
ผมยิ้มแล้วเงยหน้าขึ้นมองตาเธอ
“มันไม่ลำบากหรอกครับ การได้รู้ว่าเรื่องที่ตัวเองกำลังทำอยู่ช่วยปกป้องพวกคุณทุกคนทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมครับ”
ขณะที่ผมพูดไป ความรู้สึกมากมายของผมก็เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่มิร่า ซึ่งดวงตาของเธอดูเหมือนจะพร่ามัว
ผมยกมือขึ้นจับหน้ามิร่าเบาๆ ขณะที่ถามขึ้นมา
“ทำไมถึงทำหน้าเศร้าหล่ะครับ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม เธอก็ส่ายหัวก่อนจะยิ้มออกมาบนใบหน้าขณะตอบกลับมา
“ไม่มีอะไรหรอกจ่ะ น้าแค่รู้สึกภูมิใจในตัวเธอหน่ะ”
‘ดี…’
ยิ่งเธอซ่อนความจริงที่ว่าเธอสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของผมนานเท่าไร มันก็เข้าทางตามแผนของผมมากขึ้นเท่านั้น เมื่อทุกอย่างกระจ่างขึ้น ทุกอย่างก็จะดีขึ้น
“ผมต้องไปแล้วหล่ะครับ ผมยังต้องทำให้อีก 2 คนใจเย็นลงอีก…”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม มิร่าก็พยักหน้า โดยไม่ได้ห้ามอะไรขณะที่ผมเดินออกจากออฟฟิศไป ในขณะที่กำลังเดินอยู่ผมก็สร้างภาพลวงตาให้กับตัวเองเพื่อใช้เวลาเดินไปตามท้องถนนก่อนที่จะมาถึงคฤหาสน์ของครอบครัว ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่เกรซไม่อยู่ที่นี่ หลังจากมาส่งอาเรียอย่างปลอดภัยแล้ว ผมก็ออกจากคฤหาสน์ไป
ด้วยสกิลทำให้ผมรีบออกจากโรงเรียนและเข้าสู่เมืองบาบิโลนอันกว้างใหญ่ การเคลื่อนไหวของผมนั้นบางเบาขณะเดินไปรอบๆ อย่างรวดเร็วขึ้นสถานีขนส่งจนมาถึงหอคอยของสมาคมยิงธนูที่ยังคงสูงตระหง่านเหมือนลูกธนู
เมื่อมองดูมันซักพักแล้ว ผมก็รวบรวมสติก่อนจะเดินเข้าไปในสมาคม โดยที่ในขณะที่ผมกำลังเดินอยู่นั้นก็ได้มีดวงตาหลายคู่ที่จับจ้องมองมา
“นายน้อยคะ”
ผู้หญิงคนหนึ่งเรียกผม
เมื่อหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นเธอโค้งคำนับเบาๆ ให้ผมขณะพูดขึ้นมา
“โปรดตามฉันมาด้วยค่ะ…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ผมก็เดินตามเธอไปขณะพยักหน้าเบาๆ ให้ทุกคนที่ตัวเองเห็น พวกเขาโค้งคำนับด้วยความเคารพแก่ผมเช่นกันเมื่อผมเดินผ่าน ตอนนี้สถานะของผมถูกเปิดเผยแล้ว ทำให้ทุกคนอยากจะแสดงด้านดีๆ ของตัวเองให้ผมเห็น
หลังจากเดินอย่างเงียบๆ อยู่ไม่นานผมก็มาถึงประตูห้องทำงานของเอเลนอร์
ผู้หญิงที่นำทางผมมาที่นี่โค้งคำนับเบาๆ ให้ผมก่อนจะเดินจากไป เมื่อเห็นเช่นนั้นผมก็หายใจเข้าลึกๆ แล้วเข้าไปในห้อง ซึ่งหลังจากเข้ามาข้างในแล้วก็พบกับเอเลนอร์ที่กำลังมองออกไปทางหน้าต่างบานใหญ่อยู่ โดยที่ความงามของเธอถูกเน้นด้วยแสงที่ส่องเข้ามาภายใน
ผมไม่ได้พูดอะไรสักคำขณะเดินเข้าไปในห้องทำงานของเธอก่อนจะเอื้อมมือไปข้างหลังเธอเพื่อจับเอวเธอไว้เบาๆ ซึ่งเอเลนอร์เองก็ไม่ได้ปฏิเสธการสัมผัสของผม ขณะที่ร่างของเธอค่อยๆ ตกลงสู่อ้อมกอดของผมโดยที่ดวงตาของเธอยังคงมองออกไปสู่โลกภายนอก เราอยู่ในความเงียบเช่นนั้นซักพักเพื่อเพลิดเพลินกับทัศนียภาพภายนอก จนกระทั่งอยู่ดีๆ เอเลนอร์ก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา
“รู้ไหม ฉันไม่เคยคิดเลยว่าการตกหลุมรักลูกศิษย์ของตัวเองจะเป็นความคิดที่ดี แต่สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นและฉันก็ไม่เคยมีความสุขไปกว่านี้เลย…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ผมจึงหอมแก้มเธอเบาๆ
เธอยอมรับมันด้วยรอยยิ้มแล้วพูดต่อ
“เอาจริงๆ มีหลายครั้งที่ฉันสงสัยในความสัมพันธ์ของเรา กลัวว่ามันจะจบลงอย่างไร แต่เมื่อฉันเห็นเธอ ความสงสัยเหล่านั้นก็จางหายไป…”
พูดจนมาถึงตรงนี้แล้วเธอก็หันกลับมาพร้อมกับใช้แขนโอบรอบคอของผม โดยที่ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องมาที่ผมขณะที่เธอพูดต่อ
“ฉันคิดว่าชีวิตของตัวเองหยุดอยู่กับที่ตั้งแต่วันที่ฉันออกผจญภัย จนกระทั่งมาพบกับเธอ ถึงทำให้เวลาที่หยุดอยู่ของฉันเริ่มเดินใหม่อีกครั้ง ก่อนจะถึงตอนนั้น ฉันถูกขังอยู่ในกรอบปิด และฉันจะเสียใจมากถ้ายอมแพ้…”
“พูดอะไรของเธอเนี่ย?”
ผมถามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเข้าใจ
เธอหัวเราะเบาๆ กับคำพูดของผมก่อนจะพูดต่อ
“หมายความว่าฉันจะค้นหาทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับภารกิจของเธอไง ฉันไม่ต้องการให้เธอบอกฉัน และฉันไม่ต้องการให้เธอปกป้องฉัน ถ้าฉันแข็งแกร่งกว่าเทพเจ้า พวกเขาจะได้เห็นว่าฉันทำอะไรได้บ้าง?”
คำพูดที่เอเลนอร์พูดนั้นทรงพลัง แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ แต่แค่ความตั้งใจเบื้องหลังคำพูดนั้นก็เพียงพอที่จะเผาผลาญโลกทั้งใบแล้ว ดวงตาของเธอส่องประกายในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน และมีบางอย่างบอกผมว่าตัวเองได้ทำสิ่งที่ไม่ควรทำไปซะแล้ว
[ คุณคิดว่าไงหล่ะ? ]
[ คุณรับอัจฉริยะที่เกิดมา 1 ในรอบ 1,000 ปีมาเป็นผู้หญิงของตัวเองซึ่งดูเหมือนจะมีทุกสิ่งที่เธอต้องการ และแสดงให้เธอเห็นความเป็นจริงที่ว่าเธอไม่แข็งแกร่งพอที่จะอยู่กับคุณ หรือแย่กว่านั้นคือเธออาจจะสูญเสียคุณไปก็ได้ คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหล่ะ? ]
คำถามของระบบทำให้ผมเงียบไป ผมรู้ว่าการกระทำของตัวเองจะสร้างแรงกระตุ้นให้เธอและทำให้เธอลงมือทำซักอย่าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากแผนของผมสำหรับคนอื่นๆ ที่จะทำตามเส้นทางที่ผมทิ้งไว้ข้างหลัง เพื่อพัฒนาทฤษฎีการกระทำของผมที่แตกต่างกันออกไปซึ่งอาจหรืออาจจะไม่ลงตัวระหว่างสาวๆ แต่ละคนก็ได้
‘แต่นี่มันแตกต่างจากที่เราคิดไว้เลย…’
ผมคิดในใจขณะมองเข้าไปในดวงตาของเอเลนอร์ที่ดูสดใสและสวยงามกว่าที่เคย ตาดำเหล่านั้นตอนนี้ดูมืดลงกว่าที่เคย
‘เอ่อออ…ว่าแต่ค่าความรักของเธอตอนนี้อยู่ระดับไหนแล้ว?’
[ ชื่อ : เอเลนอร์
ความรัก : 125%
หมายเหตุ : เป็นทางการแล้ว คุณจะต้องตายด้วยน้ำมือของผู้หญิงบ้า ]
‘ให้ตายสิ…’
ผมคาดหวังที่จะผลักดันความคิดถึงการสูญเสีย ความคิดที่ว่าเอเลนอร์อาจไม่มีพลังมากพอที่จะเทียบเคียงกับผมได้จะจุดประกายความร้อนแรงในตัวเธอ แต่ผมไม่ได้คาดคิดว่ามันจะมาถึงระดับนี้ ตรรกะความคิดไม่เคยถูกเลยต้องในตอนที่รับมือกับผู้หญิงเหล่านี้ ตรรกะของผม…
“เอาหล่ะออสตินที่รัก เธอสามารถเป็นผู้กล้าที่เธอต้องการได้ แต่อย่าคิดแม้แต่วินาทีเดียวว่าฉันจะไม่อยู่ตรงนั้นเพื่อเธอ ฉันรักเธอและยอมตายดีกว่าเห็นเธอเป็นไรอะไป…”
“เอเลนอร์…”
ผมตอบด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจขณะพูดต่อ
“ผมรักเธอ…”
ด้วยคำพูดเหล่านี้ ริมฝีปากของเราก็ประกบกันเป็นจูบที่สวยงามซึ่งเริ่มเร่าร้อนในไม่ช้า
มุมมองบุคคลที่สาม :
อารมณ์ระหว่างออสตินกับเอเลนอร์นั้นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขายืนอยู่และจ้องมองกันด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ความรุนแรงของอารมณ์ทั้งความสุข, ความโกรธและความโศกเศร้า กระตุ้นให้เกิดความปรารถนาซึ่งกันและกัน ในขณะนั้นขอบเขตระหว่างลูกศิษและอาจารย์ก็เริ่มพร่ามัว เหลือเพียงแรงดึงดูดอันเร่าร้อนระหว่างชายหญิง
ออสตินโน้มตัวเข้ามาจูบริมฝีปากของเอเลนอร์โดยไม่ลังเลใจด้วยจูบที่แผดเผา ปากของพวกเขาประสานกันพร้อมกับลิ้นที่พันกันด้วยการเต้นรำแห่งความปรารถนา มือของเอเลนอร์บีบแน่นไปรอบๆ ออสตินพร้อมกับดึงเขาเข้ามาใกล้มากขึ้น ในขณะที่มือของเขาเอื้อมไปจับก้นอันแสนหวานของเธอและบีบมันแน่น
ทั้งห้องเต็มไปด้วยลมหายใจหนักหน่วงขณะที่พวกเขายังคงสำรวจปากของกันและกันด้วยความหิวโหยที่เพิ่มมากขึ้นทุกวินาทีที่ผ่านไป ออสตินซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากช่วงเวลาอันเข้มข้นนั้นยกเอเลนอร์ขึ้นจากเท้า โดยมีขาโอบรอบเอวของเขา ริมฝีปากของพวกเขาไม่ได้แยกออกจากกันเลย เขาอุ้มเธอไปที่โต๊ะที่มีหน้าต่างบานใหญ่อยู่ด้านหลังที่เปิดให้เห็นทิวทัศน์อันเย้ายวนใจของโลกภายนอก
โต๊ะตัวนั้นปัจจุบันกลายป็นสนามเด็กเล่นแบบกะทันหันของพวกเขาแล้วยินดีต้อนรับรูปร่างของเอเลนอร์ขณะที่ออสตินวางเธอลงอย่างอ่อนโยน พื้นผิวที่เย็นสบายกดทับแผ่นหลังของเธอ ทำให้เกิดความแตกต่างอันน่าตื่นเต้นกับความร้อนที่แผ่กระจายระหว่างทั้งสอง
ริมฝีปากของพวกเขาแยกออกอย่างไม่เต็มใจ แต่ดวงตาของพวกเขายังคงจ้องมองกันด้วยการสื่อสารที่ไม่จำเป็นต้องพูด
ด้วยการสัมผัสที่ค่อยเป็นค่อยไป มือของออสตินก็ลดต่ำลงจากขาของเอเลนอร์ ลูบไล้ต้นขาที่เรียบเนียนและกระชับของเธอ นิ้วของเขาลากไปตามเส้นทางทำให้ขนลุกชูชันขึ้นมา จนเมื่อเขาเข้าใกล้ความเปียกชื้นของเธอ อากาศก็หนาแน่นขึ้นด้วยความปรารถนาที่ไม่มีใครพูดออกมา สัมผัสของออสตินเข้มข้นขึ้น โดยปัดไปตามรอยพับของเธอผ่านผ้ากางเกงชั้นในของเธอ ความชื้นที่เขาพบบอกทุกสิ่งที่เขาจำเป็นต้องรู้
ข้อตกลงที่ไม่ได้พูดของพวกเขาดังไปทั่วทั้งห้องเมื่อออสตินถอดเสื้อผ้าของเขาออก ตามมาด้วยเอเลนอร์ที่ระบายความยับยั้งชั่งใจของเธอ สายตาของพวกเขาไม่ได้หวั่นไหวในขณะที่ออสตินประหลาดใจกับหน้าอกที่สวยงามของเธอซึ่งหลุดออกมาจากขอบเสื้อชั้นใน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้าไปดูดนมพวกมัน สลับระหว่างปากและนิ้วของเขา ชื่นชมกับการตอบสนองอันหนักหน่วงที่เขาได้รับจากเอเลนอร์
ร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไหวประสานกันในขณะที่กระโปรงของเอเลนอร์ถูกถอดออก เผยให้เห็นความตื่นตัวอันเปล่งประกายของเธอ ความคาดหวังของออสตินเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่มังกรที่สั่นเทาก็ถูกกางเกงรัดจนหมดหวังที่จะได้รับการปล่อยตัว ออสตินลดตัวลงมาพร้อมกับริมฝีปากที่ทิ้งรอยจูบไว้ตามขาของเธอ ในขณะที่สูดกลิ่นอันหอมหวานของความเร้าอารมณ์ของเธอ
ในที่สุดปากของออสตินก็พบจุดหมายปลายทาง ลิ้นของเขาเจาะเข้าไปในถ้ำที่เปียกโชกของเอเลนอร์ รสชาติของเธอที่หยดลงบนลิ้นของเขาช่างทำให้มึนเมา ซึ่งเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาสำรวจส่วนลึกของเธอด้วยการใช้ลิ้นเล่นอยู่เหนือจุดอ่อนไหวของเธอทำให้เสียงครวญครางของเอเลนอร์ดังก้องไปทั่วอากาศ ก่อให้เกิดเป็นเพลงซิมโฟนีแห่งความยินดีที่กระตุ้นให้ออสตินเจาะลึกลงไปอีกพร้อมกับนิ้วหัวแม่มือของเขาที่ร่วมต่อสู้เพื่อทำให้เธอพึงพอใจมากยิ่งขึ้น
นิสัยที่ป่าเถื่อนของเอเลนอร์ปรากฏออกมา โดยละทิ้งการวางตัวตามปกติของเธอเมื่อเผชิญกับความสุขอันล้นหลามที่ไหลผ่านเส้นเลือดเข้ามา เสียงครวญครางของเธอทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อออสตินใช้เวทมนตร์ของเขาอย่างเชี่ยวชาญ ทำให้เธอเข้าใกล้จุดสุดยอดมากยิ่งขึ้น สะโพกของเธอโยกไปที่ใบหน้าของเขาเพื่อแสวงหาลิ้นของเขาและตักตวงความสุขอันวิจิตรงดงามให้ได้มากยิ่งขึ้น
ท่ามกลางการถึงจุดสุดยอดของเอเลนอร์ ออสตินก็ถอยออกมาอย่างไม่เต็มใจด้วยใบหน้าที่เปล่งประกายจากน้ำหวานของเธอ ความปรารถนาของเขาลุกโชนอย่างรุนแรงและไม่สามารถรอได้อีกต่อไป ขณะที่เอเลนอร์นอนอยู่บนโต๊ะด้วยร่างกายที่ยังคงสั่นสะท้านจากการปลดปล่อย ออสตินก็วางตัวเองไว้ที่ทางเข้าของเธอ ดวงตาของพวกเขาประสานกันอีกครั้งด้วยความเข้าใจอันเงียบงันที่ผ่านไประหว่างพวกเขา
ทุกการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลแต่ละครั้ง ออสตินได้ดันตัวลึกเข้าไปในเอเลนอร์จนร่างกายของพวกเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกัน คลื่นแห่งความยินดีแล่นผ่านพวกเขาทั้งสองขณะที่พวกเขาเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่อกัน ร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไหวอย่างกลมกลืน เสียงกระแทกกันของผิวปะปนกับเสียงหอบหายใจและเสียงครวญคราง ทำให้เกิดท่วงทำนองแห่งความปรารถนา
เวลาเหมือนถูกหยุดไว้เมื่อพวกเขาสูญเสียความเป็นตัวเองไปตามจังหวะของการร่วมรักกัน แรงผลักดันของออสตินนั้นทรงพลังและแม่นยำ แต่ละครั้งทำให้พวกเขาเข้าใกล้จุดสุดยอดมากขึ้น ในขณะที่เล็บของเอเลนอร์เจาะเข้าไปในหลังของเขาพร้อมกับขาของเธอที่พันรอบตัวเขาอย่างแน่นหนาเพื่อดึงเขาให้เข้าไปลึกยิ่งขึ้นและกระตุ้นให้เขากระแทกต่อไป
ร่างกายของพวกเขาเปล่งประกายด้วยเหงื่อ ห้องเต็มไปด้วยเสียงร้องแห่งความยินดีอย่างแรงกล้า ออสตินกำโต๊ะไว้แน่นขึ้นในขณะที่แรงผลักดันของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้นเพื่อระบายความเสียว เอเลนอร์ตอบสนองทุกการเคลื่อนไหวของเขาด้วยตัวเธอเอง ร่างกายของพวกเขาถูกกักขังอยู่ในอ้อมกอดที่เร้าอารมณ์
จากนั้นราวกับทั้งจักรวาลร่วมกันส่งเสริมเพื่อให้พวกเขาได้รับความเพลิดเพลินสูงสุด พวกเขาถึงจุดสุดยอดถาโถมออกมาพร้อมกับร่างกายที่กระตุกวูบพร้อมกัน ขี่คลื่นแห่งความสุขที่ซัดผ่านพวกเขา เสียงครวญครางแห่งความปีติยินดีดังไปทั่วห้องขณะที่พวกเขากอดกันด้วยหัวใจที่เต้นแรงและร่างกายที่สั่นเทาด้วยความพึงพอใจ
ขณะที่การหายใจช้าลงและยังคงพันกันอยู่เพื่อดื่มด่ำไปกับแสงแห่งการเผชิญหน้าอันเร่าร้อน พวกเขาจูบกันอย่างแผ่วเบาด้วยริมฝีปากที่ประกบกันอย่างอ่อนโยน ออสตินถอนตัวออกจากร่างของเอเลนอร์ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงไม่ขาดตอน
ความรักของพวกเขาซึ่งครั้งหนึ่งเคยซ่อนเร้นอยู่ใต้ผิวเผิน ตอนนี้เบ่งบานออกมาฝ่าฝืนศิลธรรมและความคาดหวัง ในช่วงเวลานั้นขณะที่พวกเขานอนอยู่ด้วยกัน เอเลนอร์ก็รู้ว่าตัวเองได้พบบางสิ่งที่หายากและล้ำค่าแล้ว นั่นคือความรักที่ก้าวข้ามขอบเขตและจุดประกายจิตวิญญาณของเธอ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต\
Comments