True Martial World พิภพเทพยุทธ์ 1151 ผลเก็บเกี่ยวอันไม่คาดคิด

Now you are reading True Martial World พิภพเทพยุทธ์ Chapter 1151 ผลเก็บเกี่ยวอันไม่คาดคิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
บทที่ 1151 ผลเก็บเกี่ยวอันไม่คาดคิด

“ไม่ทราบว่าท่านมาทำอะไรเจ้าคะ…”

หรูเอ๋อร์เห็นผู้อาวุโสชุดฟ้าผู้หนึ่งเข้ามาในห้องหออวิ๋นซินจึงออกมาต้อนรับทันที ตอนนี้หรูเอ๋อร์คุ้นชินแล้ว ห้าวันมานี้นอกจากฮูเหยียนชางกับจั่วชิวเฮ่าอวี้ก็ไม่มีลูกค้าคนใดอีก นางไม่คาดหวังอะไรจากลูกค้าที่เข้ามาอย่างฉับพลัน

“คุณชายของเจ้าล่ะ? ข้าอยากให้เขาช่วยหลอมโอสถ”

เจ้าสำนักต่งรู้เรื่องความขัดแย้งระหว่างอี้อวิ๋นกับฮูเหยียนและจั่วชิวเฮ่าอวี้อยู่ก่อนแล้ว เขานับถือเด็กหนุ่มที่ชาติกำเนิดธรรมดาแต่กลับกล้าต่อต้านหอเซียนสรรพสิ่งและโรงโอสถฟ้าประทานผู้นี้มาก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้คิดว่าอี้อวิ๋นจะชนะ

ทว่าวันนี้เขาถูกบีบให้ไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ

“โอ้? เจ้าจะหลอมโอสถอะไร?” อี้อวิ๋นเดินลงจากชั้นบน “เจ้าเป็นลูกค้าอย่างเป็นทางการคนแรกที่มาขอให้ข้าหลอมโอสถในห้าวันมานี้”

ห้าวันมาแล้ว อี้อวิ๋นรู้สึกว่าห้องหออวิ๋นซินของเขาล้มเหลวเกินไป หากไม่ใช่เพราะมีจั่วชิวเฮ่าอวี้กับฮูเหยียนชางมาโฆษณาให้ในวันแรก เช่นนั้นห้องหออวิ๋นซินนี้ก็คงต้องปิดตัวไปแล้ว

“คุณชายอี้” เจ้าสำนักต่งโค้งคำนับ “ข้าน้อยต่งเส่าชิงจากสำนักคลื่นหยกขอรับ”

“ยินดีที่ได้พบเจ้าสำนักต่ง” อี้อวิ๋นประสานมือพูด “บอกก่อนว่าข้าไม่ชดเชยค่าวัตถุดิบหากหลอมพลาด หากเจ้ารับเงื่อนไขนี้ได้ข้าก็จะเปิดหม้อหลอม”

“ข้าย่อมรู้กฎเรื่องนี้ดี บอกตามตรงว่าข้ามาที่นี่เพราะไม่มีทางเลือก ได้แต่ลองทุ่มเดิมพันทั้งหมด” ต่งเส่าชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา ต่อให้ฮูเหยียนชางจะไม่ได้สั่งห้ามไม่ให้โรงโอสถอื่นๆ หลอมโอสถให้เขา แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่มีเวลามาเก็บรวบรวมค่าหลอมโอสถอยู่ดี หากลูกสาวยังเสียเวลาต่อไปอีก พรสวรรค์ที่นางมีก็จะสูญเปล่าแล้ว

“ฮ่าฮ่า” อี้อวิ๋นไม่เพียงไม่ได้ไม่พอใจที่ต่งเส่าชิงพูดความจริง เขายังหัวเราะด้วยซ้ำ “เจ้าสำนักต่งมีคำขออะไรก็พูดมาเถอะ”

ต่งเส่าชิงพูดว่า “คุณชายอี้ ข้าต้องการหลอมโอสถชำระร่างให้บุตรสาว วัตถุดิบข้าเตรียมไว้หมดแล้ว ส่วนค่าตอบแทนกลับมีไม่มากนัก ก่อนหน้านี้ฮูเหยียนชางให้ข้าไปหาหญ้าน้ำค้างสวรรค์มาก็จะลงมือหลอมโอสถให้ แต่ตอนนี้เขากลับผิดคำพูด ข้ามีเพียงหญ้าน้ำค้างสวรรค์ต้นนี้ หากคุณชายอี้สนใจก็นำไปเถอะ หลังจากนี้ร้อยปีข้าจะรวบรวมเงินจำนวนหนึ่งแสนอักขระมามอบให้ท่านเพื่อตอบแทน แต่หากคุณชายไม่ต้องการก็ช่างมันเถอะ”

“หญ้าน้ำค้างสวรรค์?”

อี้อวิ๋นตกใจเล็กน้อย เขาเห็นว่าเจ้าสำนักต่งนำกล่องหยกใบหนึ่งออกมา เมื่อเปิดกล่องออกก็เห็นหญ้าสีเหลืองต้นเล็กๆ ที่ดูเหี่ยวเฉามานานมากแล้วอยู่ภายใน แต่ที่แปลกคือบนใบหญ้ามีน้ำค้างเม็ดใสแวววาวเกาะอยู่

“เป็นหญ้าน้ำค้างสวรรค์จริงๆ ด้วย…” อี้อวิ๋นคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอหญ้าน้ำค้างสวรรค์

ในคัมภีร์ของเทพโอสถ หญ้าน้ำค้างสวรรค์เป็นสมุนไพรที่หายากมากชนิดหนึ่ง ต่อให้ขึ้นเขาลงทะเลไปทั่วทั้งสี่ทิศก็ยากจะเจอสักต้น

คัมภีร์ของเทพโอสถบอกไว้ว่าหญ้าน้ำค้างสวรรค์สามารถใช้เป็นโอสถหลักในการหลอมโอสถที่ใช้พัฒนาระดับจิตวิญญาณ โอสถนี้มีชื่อว่า…โอสถน้ำค้างสวรรค์เลี้ยงวิญญาณ

ปกติแล้วระดับจิตวิญญาณของจอมยุทธ์จะสอดคล้องกับระดับยุทธ์ที่ตัวเองมีในปัจจุบัน

แต่ระดับจิตวิญญาณของอัจฉริยะผู้เป็นเอกจะสูงกว่าระดับยุทธ์ของตัวเองหนึ่งถึงสองระดับเล็กๆ

อี้อวิ๋นศึกษากฎวิถีใหญ่ถึงสี่สาย หลังจากที่รวมผลวิถีเก้าใบสี่ผลและสร้างวังวิถีเก้ามุม พลังจิตวิญญาณของเขาก็เทียบเท่ากับคนระดับอรหันต์ครึ่งก้าวได้เลย

แต่หากจะบอกว่าจิตวิญญาณเขาไร้คู่ต่อสู้ในจอมยุทธ์ระดับเดียวกันก็ยังเร็วเกินไป

อย่างไรเขาก็ไม่ใช่จอมยุทธ์ที่ฝึกฝนจิตวิญญาณเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่นเทพธิดาโยวฉิน วิถีฉินที่นางฝึกมีการโจมตีทางจิตกำเนิดขึ้น นางฝึกฝนจิตวิญญาณมาตั้งแต่เด็ก กำลังจิตพัฒนาถึงขั้นที่จอมยุทธ์ระดับเดียวกันไม่อาจจินตนาการได้นานแล้ว เทียบกับอี้อวิ๋นก็เหนือกว่าเช่นกัน

ปกติแล้วจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งจะสะท้อนอยู่บนการรับรู้ การส่งหรือรับแรงโจมตีทางจิต รวมไปถึงการศึกษากฎต่างๆ มันไม่อาจเพิ่มพลังต่อสู้ได้โดยตรง ดังนั้นจอมยุทธ์ที่ฝึกจิตวิญญาณเป็นหลักจึงไม่ได้เปรียบในการต่อสู้แต่อย่างใด

แต่หากเป็นปรมาจารย์โอสถ เป็นปรมาจารย์อสูร เช่นนั้นข้อเรียกร้องด้านกำลังจิตก็จะสูงมาก ปรมาจารย์โอสถที่จิตวิญญาณแข็งแกร่งจะหลอมโอสถได้คุณภาพดีกว่าปรมาจารย์โอสถธรรมดา ทั้งยังลองหลอมโอสถหลายอย่างที่มีความยากสูงขึ้นได้เช่นกัน

อี้อวิ๋นคาดการณ์ว่าเมื่อมีหญ้าน้ำค้างสวรรค์นี้ สักวันหนึ่งจิตวิญญาณของเขาก็จะค่อยๆ พัฒนาจากระดับอรหันต์ครึ่งก้าวมาเข้าใกล้ระดับอรหันต์จริงๆ

เวลานั้นเขาก็จะหลอมโอสถวิญญาณเปล่าได้อย่างมั่นใจมากขึ้น อี้อวิ๋นคิดแม้กระทั่งว่าจะใช้สมุนไพรอื่นมาแทนที่รากคืนวิญญาณได้หรือไม่

“คุณชายอี้ ข้ารู้ว่าหญ้าน้ำค้างสวรรค์นี้อาจไม่มีประโยชน์อะไรต่อท่านมาก แต่นอกจากหญ้านี้แล้วข้าก็ไม่มีอะไรอีกจริงๆ”

เจ้าสำนักต่งพูดอย่างละอายใจ

อย่างไรเขาก็ถูกฮูเหยียนชางหลอกมา เขารู้ว่าอี้อวิ๋นกับฮูเหยียนชางมีความแค้นต่อกัน เขามาหาอี้อวิ๋นก็เพราะฮูเหยียนชางไม่ยอมหลอมโอสถให้ ตอนนี้ยังมานำสมุนไพรที่ฮูเหยียนชางไม่ต้องการออกมาอีก จะไม่รู้สึกละอายได้อย่างไร

ประโยชน์ไม่มากหรือ?

อี้อวิ๋นตกใจเล็กน้อย เขานึกถึงคำที่ต่งเส่าชิงพูดเมื่อครู่ เดิมทีฮูเหยียนชางบอกว่าต้องการหญ้าน้ำค้างสวรรค์ แต่ต่อมากลับผิดคำพูด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นสมุนไพรต้นนี้ในสายตาจริงๆ

เหตุใดปรมาจารย์โอสถในปัจจุบันจึงไม่เห็นค่าหญ้าน้ำค้างสวรรค์?

หรือว่า…โอสถน้ำค้างสวรรค์เลี้ยงวิญญาณจะเป็นเทียบโอสถที่เทพโอสถมีเพียงลำพัง คนอื่นไม่รู้เรื่องนี้?

อี้อวิ๋นคิดแล้วก็รู้สึกว่าแบบหลังมีความเป็นไปได้มากกว่า เทียบโอสถหลายชนิดถูกคิดค้นโดยตัวปรมาจารย์โอสถเอง ส่วนใหญ่แล้วเป็นความลับที่ไม่ถ่ายทอดให้ใคร หากปรมาจารย์โอสถผู้นี้ไม่มีผู้สืบทอดหรือตัวผู้สืบทอดมีฝีมือจำกัดจนไม่อาจทำตาม เช่นนั้นเทียบโอสถนี้ก็จะค่อยๆ หายไป

เห็นได้ชัดว่าโอสถน้ำค้างสวรรค์เลี้ยงวิญญาณหายสาบสูญไป

ด้วยเหตุนี้หญ้าน้ำค้างสวรรค์จึงกลายเป็นสมุนไพรที่แม้จะหายากแต่ก็ไม่มีประโยชน์ต่อปรมาจารย์โอสถมากนัก

หากเป็นเช่นนี้จริงๆ เขาก็ได้กำไรครั้งใหญ่แล้ว

ตอนแรกอี้อวิ๋นรู้สึกว่าเขาจะไม่คิดค่าหลอมโอสถจากลูกค้าอย่างเป็นทางการคนแรกของเขา แต่เมื่อเห็นหญ้าน้ำค้างสวรรค์เข้าก็อยากได้จริงๆ

อีกอย่าง หากเรื่องราวเป็นดังที่ต่งเส่าชิงพูดมา ปรมาจารย์โอสถที่ต้องการหญ้าน้ำค้างสวรรค์คงมีน้อยจนไม่รู้จะน้อยอย่างไร ตกอยู่ในมือคนอื่นก็เป็นไข่มุกสุกสกาวที่โดนฝุ่นจับเปล่าๆ คงน่าเสียดายเกินไป

อี้อวิ๋นคิดไปคิดมาแล้วก็พูดว่า “เจ้าสำนักต่ง ข้าขอบอกตามตรงว่าข้าบังเอิญต้องการหญ้าน้ำค้างสวรรค์นี้อยู่พอดี ข้าหลอมโอสถชำระร่างให้เจ้าได้ ส่วนเรื่องที่จะจ่ายเงินหนึ่งแสนอักขระให้ภายในร้อยปีก็ช่างมันเถอะ”

อี้อวิ๋นไม่ปิดบัง ต่งเส่าชิงฟังแล้วก็ดีใจ แม้เขาจะไม่แน่ใจว่าอี้อวิ๋นจะหลอมโอสถชำระร่างสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุดก็มีความหวัง

เขามอบหญ้าน้ำค้างโอสถให้อี้อวิ๋น อี้อวิ๋นรับหญ้ามาอย่างระมัดระวัง

“วัตถุดิบ”

 อี้อวิ๋นยื่นมือออกมา เจ้าสำนักต่งมอบแหวนมิติวงหนึ่งให้อี้อวิ๋นอย่างไม่ลังเล

“คุณชายอี้ ให้ข้ามารับโอสถเมื่อไรดีขอรับ?”

เจ้าสำนักต่งถามอย่างเป็นกังวล วัตถุดิบในแหวนมิติวงนี้เป็นสมบัติทั้งหมดที่เขามี หากบอกว่าไม่กังวลที่มอบให้อี้อวิ๋นเช่นนี้ก็คงโกหก

อี้อวิ๋นมองเจ้าสำนักต่งอย่างรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หากเจ้าไม่สบายใจก็ตามข้ามาที่ห้องโอสถ ข้าจะมอบให้เจ้าทันทีหลังจากที่หลอมเสร็จ”

 ………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด