Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1774 มิติอนัตตา เขตแดนตัดขาด

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1774 มิติอนัตตา เขตแดนตัดขาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ราชันพยัคฆ์สวรรค์มีสีหน้าสุดช้ำใจ ตอนนี้เขาเสียใจกับเรื่องที่ทำลงไปอย่างมาก

หากเขารู้ว่าวันนี้จะมาถึง มีหรือที่เขาจะไม่รอคอยก่อน?

อย่างน้อยๆ หู่ชิงก็ยังไม่ได้ตายไปจริงๆ นี่?

แต่การเข้าไปยังถ้ำเนตรวิเศษนั้นมันเป็นอะไรที่ผู้คนหรืออสูรใดๆ ไม่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้

มันเป็นสถานที่ที่แม้แต่เทพสวรรค์หยุนหลิงก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปด้านใน!

ตอนนั้นเองที่หู่ชิงกลับเปิดปากพูดออกมา “ท่านพ่อให้ข้าไปเถอะ!”

ราชันพยัคฆ์สวรรค์ตกใจจนตัวสั่นสะท้าน เขาหันไปถามหู่ชิง “หากเจ้าไปแล้วมันย่อมไม่มีโอกาสออกมาอีก!”

หู่ชิงถอนหายใจยาว “ท่านพ่อ หู่ชิงได้มีโอกาสใช้ชีวิตที่สองนี้ด้วยอารมณ์ที่มากมายหลากหลาย! เรื่องครั้งนี้เป็นพวกเราเองที่ลงโทษผู้บริสุทธิ์มาแต่ต้น เราเป็นฝ่ายผิดท่านพ่อ แต่ท่านเย่หยวนกลับเป็นคนที่รักยึดมั่นในสายสัมพันธ์ กล้าที่จะเข้าถ้ำเนตรวิเศษไปช่วยเหลือน้องชายอย่างไม่เกรงกลัว แล้วมีหรือที่หู่ชิงคนนี้จะยังต้องกลัว? หากนายท่านตายไปภายใน ข้าก็จะตามติดท่านไป! พวกเราพ่อลูกติดค้างหนี้เขามากขนาดนั้น!”

ในวินาทีนั้นพวกสัตว์อสูรลูกน้องราชันพยัคฆ์สวรรค์ต่างมองมายังหู่ชิงราวกับเป็นคนแปลกหน้า

ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นหู่ชิงเป็นอสูรที่ยิ่งยโสโอหัง ดูถูกดูแคลนทุกสิ่งอย่างเหมือนดั่งเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโต

แต่เมื่อได้เจอประสบการณ์เฉียดเป็นเฉียดตาย มันกลับทำให้ตัวเขาคนนี้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เย่หยวนหันไปมองหู่ชิงด้วยท่าทางตกใจไม่น้อยเช่นกัน ไม่นึกไม่ฝันว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้อาสาตามติดเขาเข้าไปด้านในแทน

แต่ไม่นานนักเขาก็พอเข้าใจได้

ระหว่างเส้นความเป็นและความตายมันมักจะสั่งสอนบทเรียนให้ผู้คนได้อย่างมาก

สภาพของหู่ชิงในตอนนี้ก็เหมือนเขาเมื่อก่อน

การเข้าถ้ำเนตรวิเศษในครานี้ หากเขาไม่ตายไปหู่ชิงย่อมสามารถที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้ในวันหน้า

ราชันพยัคฆ์สวรรค์ได้แต่ทำหน้าตาลังเลไม่รู้ว่าต้องตัดสินอย่างไร จนสุดท้ายเขาก็ถอนหายใจยาว “ช่างเถอะ เจ้าไปกับเขาเสีย!”

เมื่อมาถึงหน้าถ้ำเนตรวิเศษเย่หยวนก็ได้พบว่ามันเหมือนเป็นปากที่อ้าออกมากลืนกินทุกสิ่ง แทบจะกลืนกินเขาทั้งลูกลงไปในถ้ำ

แสงที่ด้านนอกนั้นมันสุดจะสว่างชัด แต่ภายในถ้ำที่ใหญ่ขนาดนั้นมันกลับมืดมิดจนไม่สามารถมองเข้าไปด้านในได้เลย!

ในถ้ำนี้มันคือความมืดมิดไร้จุดจบ

ราชันพยัคฆ์สวรรค์มองดูที่หน้าปากถ้ำด้วยท่าทางสั่นกลัว “นี่แหละคือถ้ำเนตรวิเศษ ไม่มีใครรู้ว่าด้านในเป็นอะไรและไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปเช่นกัน”

ดูท่าแล้วเขาก็คงกลัวถ้ำเนตรวิเศษนี้อย่างมาก

เย่หยวนพยักหน้ารับและค่อยๆ เดินไปสู่ปากถ้ำเนตรวิเศษ

หู่ชิงจึงหันมาค้อมตัวแก่ราชันพยัคฆ์สวรรค์ “ลูกขอตัวลา ท่านพ่อรักษาตัวด้วย!”

พูดจบหู่ชิงก็เดินตามหลังเย่หยวนไปติดๆ

เมื่อมาถึงถ้ำเนตรวิเศษ ร่างของหนึ่งคนหนึ่งเสือก็เหมือนถูกดูดหายเข้าไปในปากยักษ์ หายไปจนไม่เหลือร่องรอยใดๆ

เย่หยวนรู้สึกถึงความมืดมัวที่เบื้องหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดตามองอีกครั้ง ตอนนี้มันจะยังเหลือเงาของเทือกเขาเทพอสูรอยู่อีกหรือ?

“นายท่าน เรา… เหมือนเข้ามาอีกมิติหนึ่งเลย!” หู่ชิงบอก

เย่หยวนพยักหน้า “ดูท่าเจ้าถ้ำที่เรียกว่าถ้ำเนตรวิเศษนี้แท้จริงแล้วจะเป็นทางเข้าสู่อีกห้วงมิติหนึ่ง ที่สำคัญมันยังเป็นทางเข้าแบบด้านเดียว เราไม่สามารถกลับออกไปทางนี้ได้แล้ว”

หู่ชิงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นดีใจขึ้นทันทีที่ได้ยิน “เช่นนั้นแล้วที่แห่งนี้ก็หาใช่ดินแดนแห่งความตาย บางทีอิ้งหมัวหู่นั้นอาจจะยังมีชีวิตรอดอยู่ก็ได้?”

แต่เย่หยวนไม่ได้มีท่าทางดีใจใดๆ เพราะเขาดูท่าจะไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องดีเหมือนหู่ชิง

“ที่แห่งนี้ไม่ใช่สรวงสวรรค์ แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีความหวัง หวังว่าจะสามารถหาเขาให้พบเจอได้ ตอนนี้เจ้ากินมันแล้วบรรลุสู่ระดับสี่ขั้นปลายก่อนเถอะ หลังจากเจ้าบรรลุได้แล้วเราค่อยเดินทางกันต่อ”

พูดจบเย่หยวนก็โยนโอสถหนึ่งไปให้แก่หู่ชิง

หู่ชิงกล่าวขึ้นอย่างตื่นตกใจ “นี่มัน… โอสถสุริยันคลั่งนภาเพลิงขั้นเทวะโมฆะ! หรือว่าโอสถเม็ดนี้นายท่านจะเป็นคนหลอมมันขึ้นมากัน?”

เย่หยวนหันกลับมามอง “หากข้าไม่มีปัญญาจะหลอมโอสถระดับนี้มีหรือที่ข้าจะรักษาเจ้าให้ฟื้นจากสภาพปางตายนั้นได้?”

เมื่อหู่ชิงได้ยินเขาก็ต้องตอบกลับมาด้วยท่าทางอายๆ “ฮ่าๆ ก็จริง แต่ว่านายท่านไม่โทษข้าหรือเรื่องที่อิ้งหมัวหู่ต้องมาเจอเคราะห์ร้ายเช่นนี้?”

เย่หยวนตอบ “เรื่องนี้แต่เดิมมันก็ไม่ใช่ความผิดเจ้า ข้านั้นโกรธพ่อเจ้าที่ทำอะไรพลการ ลงโทษผู้บริสุทธิ์อย่างไม่คิดตรวจสอบ แต่ว่าทุกความเลวร้ายมันก็ย่อมมีผู้กระทำ หนี้ทุกหนี้ก็มีลูกหนี้เป็นของตัวเอง เรื่องเช่นนี้จะมาโทษเจ้าคงไม่ได้”

เมื่อหู่ชิงได้ยินเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “จริงๆ แล้วพ่อข้า…”

เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัด “เจ้าไม่ต้องอธิบาย หากอิ้งหมัวหู่ยังปลอดภัยเรื่องราวมันย่อมคลี่คลายได้ไม่ยาก”

หู่ชิงไม่กล้าที่จะพูดใดๆ ต่อไปอีก และได้แต่หวังในใจว่าอิ้งหมัวหู่จะปลอดภัย

เขากินเม็ดโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์นั้นไปและเริ่มทำการนั่งบรรลุทันที

สำหรับเผ่าอสูรแล้ว การจะบรรลุจากระดับสี่ขั้นกลางไปขั้นปลายนั้นมันเป็นคอขวดที่แสนยากเย็นกว่าของมนุษย์มาก

เพราะฉะนั้นในเผ่าอสูรนี้นักบวชจึงมีจุดยืนที่สูงมาก

เพราะแม้แต่ราชันพยัคฆ์สวรรค์ที่คิดจะสังหารล้างเมืองจักรพรรดิพยัคฆ์ใส เขาก็ไม่คิดที่จะลงมือทำอะไรต่อวิหารนักบวชแม้แต่น้อย

ไม่เช่นนั้นเขาคงได้รับรู้ถึงรสชาติแห่งความตายอย่างแท้จริง

หู่ชิงนั้นมีพลังเทียบเท่ากับเฮ่อตงและอิ้งหมัวหู่ ตอนนี้อิ้งหมัวหู่ได้พัฒนาตนเองมาจนมีพลังบ่มเพาะระดับสี่ขั้นกลางแล้ว

ช่องว่างนี้มันไม่สามารถจะเอาสมบัติที่ได้รับมาช่วยผ่านไปได้ง่ายๆ

แต่ตอนนี้เมื่อเย่หยวนมอบโอสถสุริยันคลั่งนภาเพลิงขั้นเทวะโมฆะเพื่อช่วยให้หู่ชิงได้บรรลุมันย่อมกลับกลายเป็นเรื่องง่ายดายที่สามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็น

หลังจากหู่ชิงเข้าสู่การเก็บตัวแล้วเย่หยวนก็เริ่มกางค่ายกลและสำรวจพื้นที่รอบๆ ทันที

ที่แห่งนี้มันเป็นสถานที่ว่างเปล่าและตัดขาดจากโลกภายนอก พื้นดินเต็มไปด้วยหินดินทราย

ที่สำคัญมันยังถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ไม่สามารถที่จะมองเห็นได้แม้แต่นิ้วมือของตัวเอง

“ผู้อาวุโส ที่แห่งนี้มันคืออะไรกัน?”

หวู่เฉินนั้นมีประสบการณ์และความรู้อันมากมายมหาศาล เมื่อต้องมาเจอกับสถานที่แปลกหูแปลกตาเช่นนี้เย่หยวนย่อมเลือกที่จะพึ่งพาความรู้ของเขา

หวู่เฉินส่ายหัวออกมา “ข้าเองก็ไม่เคยพบเจอสถานที่เช่นนี้มาก่อน แต่หากมองดูแล้วมันก็คล้ายจะเป็นเขตแดนตัดขาดที่เชื่อมระหว่างมหาพิภพถงเทียนและมิติอนัตตา”

“มิติอนัตตา? เขตแดนตัดขาด?” เย่หยวนนั้นเพิ่งจะเคยได้ยินคำเหล่านี้และย่อมไม่สามารถรู้ได้ว่ามันคืออะไร

หวู่เฉินบอก “มหาพิภพถงเทียนนั้นมันตั้งอยู่มานานไม่รู้กี่ล้านต่อกี่ล้านปี โลกใบเล็กที่ถูกทิ้งไว้นั้นมีจำนวนมากมายมหาศาล แต่โลกใบเล็กเหล่านั้นมันก็จะค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลา แต่ยอดฝีมือบางคนที่สามารถเชื่อมต่อโลกใบเล็กของตัวเองกับมหาพิภพได้ก็จะสามารถรวมตัวกับมหาพิภพถงเทียน พร้อมๆ กันนั้นมันก็จะแยกตัวเป็นอิสระจากมหาพิภพถงเทียนด้วย โลกใบเล็กเหล่านี้มันค่อนข้างจะมั่นคงและไม่จางหายไปตามกาลเวลา พวกเขาที่ทิ้งมรดกไว้เบื้องหลังก็จะกลับไปจุติลงยังโลกเหล่านั้น ใช้ชีวิตสืบตระกูลไปตามปกติ สถานที่เช่นนั้นเราเรียกมันว่ามิติอนัตตา และสถานที่ที่เชื่อมต่อระหว่างมิติอนัตตาและมหาพิภพถงเทียนเราจะเรียกมันว่าเขตแดนตัดขาด! สถานที่เช่นนี้มันจะมีเอกลักษณ์ของตนและมักจะให้กำเนิดตัวตนสุดแสนทรงพลังขึ้นมา”

เย่หยวนนั้นตื่นตกใจไม่น้อย ไม่นึกไม่ฝันว่ามหาพิภพถงเทียนจะยังมีมถานที่เช่นนี้อยู่

โลกใบนี้มันช่างเต็มไปด้วยเรื่องราวมหัศจรรย์จนเกินกว่าที่จะคาดคิดจริงๆ!

แต่ว่าเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา “ไม่แปลกใจเลยที่ข้ารู้สึกได้ว่าที่แห่งนี้มันปกคลุมไปด้วยอันตราย ดูท่าในเขตแดนตัดขาดนี้จะมีตัวตนบางอย่างที่แสนทรงพลังอยู่!”

หวู่เฉินพยักหน้าบอก “ข้าเกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น!”

จู่ๆ เย่หยวนก็หน้าเปลี่ยนสีไป เพราะมีเงาร่างสีดำขนาดใหญ่กำลังพุ่งตรงฝ่าความมืดเข้ามาหาหู่ชิงที่นั่งบรรลุอยู่

โดยไม่คิดจะลังเล เย่หยวนได้พุ่งตัวเข้าไปพร้อมดาบยาวในมือและกลับเป็นฝ่ายเข้าถึงก่อนทั้งๆ ที่ออกตัวทีหลัง แทงเข้าใส่เงาร่างสีดำนั้นอย่างแรง

ปึก!

เงาร่างสีดำนั้นถูกเย่หยวนซัดกระเด็นไปในดาบเดียว

“เอ๋ง! เอ๋ง!”

ร่างสีดำนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

แต่เย่หยวนก็ต้องทำหน้าเครียดทันที เพราะตอนนี้เขาสัมผัสได้แล้วว่ามันคือหมาป่าสีดำ

เป็นหมาป่าสีดำที่มีพลังถึงระดับสี่ขั้นปลาย

ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้เย่หยวนตื่นตกใจที่สุดก็คือการที่มันรับดาบไปเต็มๆ แต่กลับไม่มีบาดแผลใดๆ เลย!

เย่หยวนจ้องมองออกไป เจ้าหมาป่าตัวนี้มันหิวกระหายมีตาสีแดงเลือด น้ำลายยืดย้อยลงมาจากปากของมันและกำลังอยู่ในสภาพคุ้มคลั่ง

ตอนนั้นเองที่มีเงาดำตัวอื่นๆ ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นมาตามๆ กัน

เย่หยวนหรี่ตามองดูรอบๆ ตัวและพบว่าเขากับหู่ชิงได้ตกอยู่ในวงล้อมของสัตว์อสูรนับร้อยไปเสียแล้ว

และเหล่าสัตว์อสูรทุกตัวนี้มันก็มีสภาพไม่ต่างไปจากเจ้าหมาป่าดำสักเท่าไหร่

……………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด