Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1901 ฆ่าไม่เลี้ยง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1901 ฆ่าไม่เลี้ยง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คลื่นปราณเทวะอันหนาแน่นและอบอุ่นค่อยๆ ไหลเข้ามาในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเจียงไห่ถังผ่านเส้นชีพจรของนาง

การทำลายผนึกเช่นนี้ออกมามันง่ายดายเหมือนกวาดเศษใบไม้

ทำให้ตอนนี้นางเริ่มรู้สึกได้ถึงปราณเทวะที่ไหลเข้าสู่แขนขาอีกครั้ง

เจียงไห่ถังมองดูเย่หยวนด้วยดวงตาตื่นตะลึง

“นี่มัน… นี่มันคือผนึกเฉพาะของดงปิติ ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือนถาสวรรค์เก้าดาวก็ไม่อาจจะทำลายผนึกนี้ลงได้ง่ายๆ แต่เจ้าทำได้อย่างไรกัน?”

ดินแดนแห่งความสำราญอย่างดงปิตินี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยหญิงบริการที่มีการบ่มเพาะสูง

ส่วนเรื่องการจะควบคุมหญิงเหล่านั้นอย่างไรนั้นทางดงปิติย่อมมีวิธีการที่เด็ดขาดของตน

ผนึกนี้มันเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วๆ ไปไม่อาจจะแตะต้องได้ ไม่ต้องพูดถึงการทำลายลงเลย

ต่อให้เป็นแขกผู้มีพลังบ่มเพาะอาณาจักรนภาสวรรค์เก้าดาวมันก็ไม่อาจจะทำลายผนึกนี้ลงได้ง่ายๆ

แต่เย่หยวนกลับปัดมันออกเหมือนแค่กวาดเศษใบไม้

“แค่ผนึก ไม่ใช่เรื่องใหญ่ใดๆ ไปกัน” เย่หยวนยิ้มขึ้น

เจียงไห่ถังนั้นได้แต่นั่งนิ่งและสุดท้ายก็ส่ายหัวออกมา “เราเดินออกไปเช่นนี้ไม่ได้! ดงปิตินี้มันมีจวนเจ้าเมืองหนุนหลังอยู่ และที่แห่งนี้ยังมีนภาสวรรค์เก้าดาวเป็นผู้ควบคุม! ไม่ใช่สถานที่ที่ใครคิดจะพาคนออกไปก็สามารถทำได้”

ในเมืองหลวงจักรพรรดินั้นเทพถ่องแท้เป็นตัวตนที่อยู่สูงที่สุด

ในงานดูแลทั่วๆ ไปเช่นนี้มันย่อมไม่มีเทพถ่องแท้คนไหนจะลดตัวลงมาทำ

และในความเป็นจริงแล้วแค่นภาสวรรค์เก้าดาวมันก็มากพอที่จะจัดการนักยุทธส่วนใหญ่ของเมืองหลวงจักรพรรดิได้ง่ายๆ

ที่สำคัญผู้อยู่เบื้องหลังกิจการของดงปิตินี้มันคือจวนเจ้าเมือง จะมีใครกล้ามาก่อเรื่องราวในที่แบบนี้กัน?

แต่เย่หยวนกลับแค่ยิ้มตอบ “หากข้าอยากพาเจ้าออกไปมันย่อมไม่มีใครจะหยุดได้”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่สนใจอีกต่อไปว่าเจียงไห่ถังจะยอมร่วมมือด้วยหรือไม่และลากพาตัวนางเดินออกประตูไปทันที

เอี้ยด!

เมื่อบานประตูถูกเปิดออกเขาก็พบว่ามีชายร่างกำยำห้าคนยืนรออยู่ที่ด้านนอก

แม่เล้าคนเดิมมองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย้ย “ข้ารู้ตั้งแต่ที่ท่านถามหานางนี่แล้วว่าท่านคงไม่ได้มาดีแน่ หากท่านนั้นแค่มาเพื่อหาความสนุก ดงปิติเราย่อมพร้อมต้อนรับอย่างดี แต่หากท่านคิดจะลักพาตัวผู้คนไป เรื่องนั้นดงปิติเราคงยอมไม่ได้ ช่วยทำอะไรให้ฉลาดหน่อยเถอะ”

เย่หยวนหันไปมองแม่เล้าคนนั้นพร้อมพูดขึ้น “ข้าอยากไถ่ตัวแม่นางไห่ถัง ว่าราคามา”

เมื่อแม่เล้าคนนั้นได้ยินนางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา “ต้องขอโทษท่านลูกค้าด้วยแต่เบื้องบนสั่งการกำชับมาว่านางผู้นี้ห้ามขายออก! ข้าว่าท่านวางนางลงก่อนจะดีกว่า พวกท่าน…ออกไปจากที่นี้พร้อมกันไม่ได้ ท่านดูพวกเขาทั้งหลายนี้สิ พวกเขาต่างมีใบหน้าท่าทางดุดัน หากพวกเขาต้องลงมือทำร้ายท่านแล้วมันคงจบไม่สวยแน่”

เมื่อได้เห็นเหล่าชายกำยำทั้งหลายเจียงไห่ถังก็หน้าซีดเผือดลงทันที

“เย่หยวน เจ้า…เจ้าไปเองเถอะ!”

เหล่าชายร่างกำยำทั้งหลายนี้ต่างมีพลังฝีมือที่ไม่ธรรมดา ล้วนแล้วต่างเป็นถึงนภาสวรรค์ขั้นกลางทั้งสิ้น

การที่จะมาเป็นผู้ดูแลของหอนางโลมนี้ได้มันย่อมต้องเป็นนักยุทธที่มีพลังฝีมือไม่น้อย

เย่หยวนมองดูด้วยท่าทางเฉยชา “เรอะ? หากไม่ขายเช่นนั้นข้าคงได้แต่ต้องใช้กำลังพานางออกไปแล้ว”

พูดไปเย่หยวนก็ดึงตัวเจียงไห่ถังเดินออกไปด้านนอกทันที

แม่เล้าคนนั้นที่ได้เห็นก็หมดความอดทนลงทันที นางร้องตะโกนสั่ง “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา จัดการมันเสีย!”

ชายร่างกำยำทั้งห้านี้เดินมุ่งหน้าเข้ามาหาเย่หยวนในทันที

ผัวะ!

เสียงตบดังสนั่นขึ้นส่งร่างของแม่เล้าคนนั้นปลิวลงจากชั้นสองทันที

เหล่าชายกำยำทั้งหลายเองก็ได้แค่จับความอากาศ ไม่อาจแตะต้องได้แม้แต่ชายเสื้อของเย่หยวน

“พระเจ้าช่วย! เจ้ายอดคนนรกส่งนี่! ไปเรียกท่านฝางคุนมาเร็ว! มีคนมาก่อเรื่องแล้ว!”

ที่ด้านล่างมีเสียงแหลมสูงของแม่เล้าดังลอยขึ้นมา

เย่หยวนเองก็ไม่ได้ช้าหรือเร็วจนเกินไป ค่อยๆ เดินพาตัวเจียงไห่ถังลงตามบันไดมา

ดงปิติแห่งนี้มันมีค่ายกลขนาดใหญ่ติดตั้งไว้ภายใน ปิดกั้นมิตินี้ออกจากภายนอก

ต่อให้จะเป็นเทพถ่องแท้ก็ไม่อาจจะย้ายร่างหนีออกไปจากที่แห่งนี้ได้

ไม่เช่นนั้นแล้วใครจะกล้ามาประกันว่าจะไม่มีคนที่ลักพาตัวนางโลมหนี หรือเสร็จกิจแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน?

เพราะฉะนั้นแม้ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจและเข้าใจในแนวคิดแห่งห้วงมิติเพียงใดเขาก็ไม่อาจพุ่งพาตัวออกไปได้ในพริบตาจากที่แห่งนี้

แต่ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้นมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขานั้นไม่อาจใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาได้

การยกย้ายมิติมุมต่างๆ ภายในตัวตึกนี้มันไม่ได้เป็นปัญหาเลย

เจียงไห่ถังที่เดินตามเย่หยวนออกมาได้แต่มองแผ่นหลังนี้ราวกับว่าตัวเองได้ฝันไป

ยามเฝ้านับไม่ถ้วนมุ่งหน้าเข้ามาแต่สิ่งที่นางเห็นกลับเป็นเพียงแค่แสงสว่างขึ้นมาในเสี้ยวพริบตา

เหล่านภาสวรรค์ขั้นกลางทั้งหลายนั้นถูกสังหารลงด้วยดาบเดียว!

แม้แต่นภาสวรรค์หกดาวขั้นสุดก็ยังไม่อาจรอดดาบเดียวนี้ไปได้

เจียงไห่ถังนั้นเดิมทีคิดว่าเย่หยวนเป็นเพียงแค่นภาสวรรค์ห้าดาวคนหนึ่งคงไม่ได้เก่งกาจมากกว่าตัวนางมากมาย

แต่ตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าความคิดนั้นมันผิดไปมากเพียงใด

พลังของเย่หยวนนี้มันเหนือกว่าที่นางคาดคิดจินตนาการไปมากมาย

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาทั้งหลายก็ไม่อาจรอดพ้นจากดาบเดียวนี้ไปได้

สภาพของเย่หยวนในสายตาของเจียงไห่ถังตอนนี้มันเหมือนวีรบุรุษแห่งยุคสมัย

ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้นอย่างเรียบร้อยและอยู่ในการคำนวณ ทุกสิ่งอย่างนั้นง่ายดายไม่ต้องพยายามใดๆ ราวกับว่าโลกใบนี้มันได้อยู่ในกำมือของเขาแล้ว

ในเวลานี้ดวงตาของเจียงไห่ถังจึงเกิดแสงแห่งความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

บางทีเช่นนี้พ่อของนางอาจจะรอดไปได้จริงๆ!

และไม่นานนักมันก็ไม่มีใครจะกล้าเดินเข้ามาขัดขวางอีก

เหล่ายามทั้งหลายต่างกลัวกันจนหัวหดหน้าซีดเผือด ที่ใดที่เย่หยวนเดินผ่านพวกเขาทั้งหลายย่อมจะเปิดทางกว้างด้วยความกลัวที่ว่าจะถูกเย่หยวนเข่นฆ่าสังหารลง

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

จนในที่สุดก็มีเงาร่างปรากฏขึ้นมาขวางทางเย่หยวนอีกครั้ง

คนที่นำหน้ามานั้นเป็นถึงนภาสวรรค์แปดดาว

ในคนทั้งสี่ที่ขึ้นมาปิดทางไว้นี้ คนที่อ่อนแอที่สุดยังเป็นถึงนภาสวรรค์เจ็ดดาว!

“หึๆๆ! ยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่ พวกเจ้ามาได้ถูกเวลาพอดี รีบจัดการฆ่าสังหาร…”

แม่เล้าคนนั้นกำลังพูดจาอย่างผู้เหนือกว่าก่อนที่จะถูกดาบแสงพุ่งทะลุร่างจนทุกสิ่งอย่างดับเงียบลง

ตอนนี้หัวและลำตัวของนางมันไม่ได้ติดต่อกันอีกต่อไปแล้ว

นภาสวรรค์แปดดาวคนนั้นเบิกตากว้างเพราะเมื่อสักครู่นี้เขาไม่ได้เห็นว่าเย่หยวนขยับตัวเลยแม้แต่น้อย!

เย่หยวนมองดูที่พวกเขาทั้งหลายและตะโกนไล่ “ไปให้พ้น!”

พูดไปเย่หยวนก็ดึงพาตัวเจียงไห่ถังเดินออกไปอีกครั้ง

เมื่อได้รับรู้เรื่องราวของเจียงไห่ถังแม้ภายนอกเย่หยวนจะยังคงดูเย็นชาไม่สนใจใดๆ แต่ภายในใจของเขานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นอย่างร้อนแรง

ตอนนี้เขาจึงกำลังมองหาคนที่จะระบายอารมณ์ทั้งหลายนี้ออกมา

และดงปิติที่มีจวนเจ้าเมืองเป็นคนหนุนหลังนี้มันช่างเหมาะเจาะที่จะระเบิดความโกรธออกมาเสียเหลือเกิน

เมื่อเห็นท่าทางดุดันนั้นของเย่หยวนยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่ต่างถอยหลังกันไปคนละก้าวอย่างไม่ได้นัดหมาย

เย่หยวนขยับเคลื่อนอีกครั้ง พวกเขาก็ถอยหลังไปอีกครา

จนในที่สุดนภาสวรรค์แปดดาวที่นำหน้ามานั้นไม่อาจทนเห็นสภาพนี้ได้อีกต่อไปจึงตะโกนร้องสั่งขึ้น “โจมตีมัน! สังหารมันเสีย!”

นั่นทำให้ดาบสี่เล่มพุ่งลงมาพร้อมๆ กับพลังโลกทั้งสี่ก่อให้เกิดเขตแดนแปลกๆ ล้อมตัวเย่หยวนและเจียงไห่ถังไว้อย่างหนาแน่น

นี่คือท่าสังหารอย่างไม่ต้องสงสัย!

ผู้พิทักษ์ทั้งสี่นี้ดูท่าแล้วคงฝึกฝนร่วมกันมาไม่น้อยเพราะการร่วมมือของทั้งสี่นั้นดูเป็นแบบแผนอย่างมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพลังโลกที่พวกเขาปล่อยออกมานั้นมันกลับผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวทำให้เกิดคลื่นพลังที่หนาแน่นกว่าเดิมขึ้นมามาก

“เจ้าหนุ่มคนนี้มันมาจากไหนกัน? ถึงได้มีพลังเหนือล้ำขนาดนี้!”

“ใช่ไหมเล่า? เป็นแค่นภาสวรรค์ห้าดาวคนหนึ่งแต่กลับฟันนภาสวรรค์ขั้นกลางคนอื่นๆ เสียราวกับว่าเป็นแค่เศษกระดาษ”

“แต่เขาเองก็บ้าบิ่นเกินไป ยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่นั้นมิใช่ตัวตนที่จะท้าทายเล่นๆ ได้! เมื่อพวกเขาทั้งสี่รวมพลังกันเช่นนี้แล้วแม้แต่นภาสวรรค์เก้าดาวพวกเขาก็เคยฆ่าสังหารลง! แถมยังมีท่านฝางคุนที่ไม่ได้ลงมือใดๆ เลยด้วยอีก!”

“หึๆ โกรธแค้นขนาดนี้เพื่อผู้หญิงคนเดียว ข้าล่ะชอบน้ำใจของมันจริง!”

พลังฝีมือที่เย่หยวนแสดงออกมานั้นมันเหนือล้ำ

แต่เมื่อต้องมาเจอกับยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่เช่นนี้แล้วพวกเขาคงไม่มีใครจะคิดเข้าข้างเย่หยวนอีก

ห่างกันหลายต่อหลายดาว ทั้งยังเป็นการต่อสู้แบบสี่ต่อหนึ่ง แถมคนทั้งสี่นั้นยังฝึกฝนร่วมกันมาอย่างดี

ไม่ว่าจะมองอย่างไรเย่หยวนก็ไม่มีโอกาสจะชนะได้เลย

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1901 ฆ่าไม่เลี้ยง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1901 ฆ่าไม่เลี้ยง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คลื่นปราณเทวะอันหนาแน่นและอบอุ่นค่อยๆ ไหลเข้ามาในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเจียงไห่ถังผ่านเส้นชีพจรของนาง

การทำลายผนึกเช่นนี้ออกมามันง่ายดายเหมือนกวาดเศษใบไม้

ทำให้ตอนนี้นางเริ่มรู้สึกได้ถึงปราณเทวะที่ไหลเข้าสู่แขนขาอีกครั้ง

เจียงไห่ถังมองดูเย่หยวนด้วยดวงตาตื่นตะลึง

“นี่มัน… นี่มันคือผนึกเฉพาะของดงปิติ ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือนถาสวรรค์เก้าดาวก็ไม่อาจจะทำลายผนึกนี้ลงได้ง่ายๆ แต่เจ้าทำได้อย่างไรกัน?”

ดินแดนแห่งความสำราญอย่างดงปิตินี้มันเต็มเปี่ยมไปด้วยหญิงบริการที่มีการบ่มเพาะสูง

ส่วนเรื่องการจะควบคุมหญิงเหล่านั้นอย่างไรนั้นทางดงปิติย่อมมีวิธีการที่เด็ดขาดของตน

ผนึกนี้มันเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วๆ ไปไม่อาจจะแตะต้องได้ ไม่ต้องพูดถึงการทำลายลงเลย

ต่อให้เป็นแขกผู้มีพลังบ่มเพาะอาณาจักรนภาสวรรค์เก้าดาวมันก็ไม่อาจจะทำลายผนึกนี้ลงได้ง่ายๆ

แต่เย่หยวนกลับปัดมันออกเหมือนแค่กวาดเศษใบไม้

“แค่ผนึก ไม่ใช่เรื่องใหญ่ใดๆ ไปกัน” เย่หยวนยิ้มขึ้น

เจียงไห่ถังนั้นได้แต่นั่งนิ่งและสุดท้ายก็ส่ายหัวออกมา “เราเดินออกไปเช่นนี้ไม่ได้! ดงปิตินี้มันมีจวนเจ้าเมืองหนุนหลังอยู่ และที่แห่งนี้ยังมีนภาสวรรค์เก้าดาวเป็นผู้ควบคุม! ไม่ใช่สถานที่ที่ใครคิดจะพาคนออกไปก็สามารถทำได้”

ในเมืองหลวงจักรพรรดินั้นเทพถ่องแท้เป็นตัวตนที่อยู่สูงที่สุด

ในงานดูแลทั่วๆ ไปเช่นนี้มันย่อมไม่มีเทพถ่องแท้คนไหนจะลดตัวลงมาทำ

และในความเป็นจริงแล้วแค่นภาสวรรค์เก้าดาวมันก็มากพอที่จะจัดการนักยุทธส่วนใหญ่ของเมืองหลวงจักรพรรดิได้ง่ายๆ

ที่สำคัญผู้อยู่เบื้องหลังกิจการของดงปิตินี้มันคือจวนเจ้าเมือง จะมีใครกล้ามาก่อเรื่องราวในที่แบบนี้กัน?

แต่เย่หยวนกลับแค่ยิ้มตอบ “หากข้าอยากพาเจ้าออกไปมันย่อมไม่มีใครจะหยุดได้”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่สนใจอีกต่อไปว่าเจียงไห่ถังจะยอมร่วมมือด้วยหรือไม่และลากพาตัวนางเดินออกประตูไปทันที

เอี้ยด!

เมื่อบานประตูถูกเปิดออกเขาก็พบว่ามีชายร่างกำยำห้าคนยืนรออยู่ที่ด้านนอก

แม่เล้าคนเดิมมองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย้ย “ข้ารู้ตั้งแต่ที่ท่านถามหานางนี่แล้วว่าท่านคงไม่ได้มาดีแน่ หากท่านนั้นแค่มาเพื่อหาความสนุก ดงปิติเราย่อมพร้อมต้อนรับอย่างดี แต่หากท่านคิดจะลักพาตัวผู้คนไป เรื่องนั้นดงปิติเราคงยอมไม่ได้ ช่วยทำอะไรให้ฉลาดหน่อยเถอะ”

เย่หยวนหันไปมองแม่เล้าคนนั้นพร้อมพูดขึ้น “ข้าอยากไถ่ตัวแม่นางไห่ถัง ว่าราคามา”

เมื่อแม่เล้าคนนั้นได้ยินนางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา “ต้องขอโทษท่านลูกค้าด้วยแต่เบื้องบนสั่งการกำชับมาว่านางผู้นี้ห้ามขายออก! ข้าว่าท่านวางนางลงก่อนจะดีกว่า พวกท่าน…ออกไปจากที่นี้พร้อมกันไม่ได้ ท่านดูพวกเขาทั้งหลายนี้สิ พวกเขาต่างมีใบหน้าท่าทางดุดัน หากพวกเขาต้องลงมือทำร้ายท่านแล้วมันคงจบไม่สวยแน่”

เมื่อได้เห็นเหล่าชายกำยำทั้งหลายเจียงไห่ถังก็หน้าซีดเผือดลงทันที

“เย่หยวน เจ้า…เจ้าไปเองเถอะ!”

เหล่าชายร่างกำยำทั้งหลายนี้ต่างมีพลังฝีมือที่ไม่ธรรมดา ล้วนแล้วต่างเป็นถึงนภาสวรรค์ขั้นกลางทั้งสิ้น

การที่จะมาเป็นผู้ดูแลของหอนางโลมนี้ได้มันย่อมต้องเป็นนักยุทธที่มีพลังฝีมือไม่น้อย

เย่หยวนมองดูด้วยท่าทางเฉยชา “เรอะ? หากไม่ขายเช่นนั้นข้าคงได้แต่ต้องใช้กำลังพานางออกไปแล้ว”

พูดไปเย่หยวนก็ดึงตัวเจียงไห่ถังเดินออกไปด้านนอกทันที

แม่เล้าคนนั้นที่ได้เห็นก็หมดความอดทนลงทันที นางร้องตะโกนสั่ง “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา จัดการมันเสีย!”

ชายร่างกำยำทั้งห้านี้เดินมุ่งหน้าเข้ามาหาเย่หยวนในทันที

ผัวะ!

เสียงตบดังสนั่นขึ้นส่งร่างของแม่เล้าคนนั้นปลิวลงจากชั้นสองทันที

เหล่าชายกำยำทั้งหลายเองก็ได้แค่จับความอากาศ ไม่อาจแตะต้องได้แม้แต่ชายเสื้อของเย่หยวน

“พระเจ้าช่วย! เจ้ายอดคนนรกส่งนี่! ไปเรียกท่านฝางคุนมาเร็ว! มีคนมาก่อเรื่องแล้ว!”

ที่ด้านล่างมีเสียงแหลมสูงของแม่เล้าดังลอยขึ้นมา

เย่หยวนเองก็ไม่ได้ช้าหรือเร็วจนเกินไป ค่อยๆ เดินพาตัวเจียงไห่ถังลงตามบันไดมา

ดงปิติแห่งนี้มันมีค่ายกลขนาดใหญ่ติดตั้งไว้ภายใน ปิดกั้นมิตินี้ออกจากภายนอก

ต่อให้จะเป็นเทพถ่องแท้ก็ไม่อาจจะย้ายร่างหนีออกไปจากที่แห่งนี้ได้

ไม่เช่นนั้นแล้วใครจะกล้ามาประกันว่าจะไม่มีคนที่ลักพาตัวนางโลมหนี หรือเสร็จกิจแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน?

เพราะฉะนั้นแม้ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจและเข้าใจในแนวคิดแห่งห้วงมิติเพียงใดเขาก็ไม่อาจพุ่งพาตัวออกไปได้ในพริบตาจากที่แห่งนี้

แต่ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้นมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขานั้นไม่อาจใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาได้

การยกย้ายมิติมุมต่างๆ ภายในตัวตึกนี้มันไม่ได้เป็นปัญหาเลย

เจียงไห่ถังที่เดินตามเย่หยวนออกมาได้แต่มองแผ่นหลังนี้ราวกับว่าตัวเองได้ฝันไป

ยามเฝ้านับไม่ถ้วนมุ่งหน้าเข้ามาแต่สิ่งที่นางเห็นกลับเป็นเพียงแค่แสงสว่างขึ้นมาในเสี้ยวพริบตา

เหล่านภาสวรรค์ขั้นกลางทั้งหลายนั้นถูกสังหารลงด้วยดาบเดียว!

แม้แต่นภาสวรรค์หกดาวขั้นสุดก็ยังไม่อาจรอดดาบเดียวนี้ไปได้

เจียงไห่ถังนั้นเดิมทีคิดว่าเย่หยวนเป็นเพียงแค่นภาสวรรค์ห้าดาวคนหนึ่งคงไม่ได้เก่งกาจมากกว่าตัวนางมากมาย

แต่ตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าความคิดนั้นมันผิดไปมากเพียงใด

พลังของเย่หยวนนี้มันเหนือกว่าที่นางคาดคิดจินตนาการไปมากมาย

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาทั้งหลายก็ไม่อาจรอดพ้นจากดาบเดียวนี้ไปได้

สภาพของเย่หยวนในสายตาของเจียงไห่ถังตอนนี้มันเหมือนวีรบุรุษแห่งยุคสมัย

ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้นอย่างเรียบร้อยและอยู่ในการคำนวณ ทุกสิ่งอย่างนั้นง่ายดายไม่ต้องพยายามใดๆ ราวกับว่าโลกใบนี้มันได้อยู่ในกำมือของเขาแล้ว

ในเวลานี้ดวงตาของเจียงไห่ถังจึงเกิดแสงแห่งความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

บางทีเช่นนี้พ่อของนางอาจจะรอดไปได้จริงๆ!

และไม่นานนักมันก็ไม่มีใครจะกล้าเดินเข้ามาขัดขวางอีก

เหล่ายามทั้งหลายต่างกลัวกันจนหัวหดหน้าซีดเผือด ที่ใดที่เย่หยวนเดินผ่านพวกเขาทั้งหลายย่อมจะเปิดทางกว้างด้วยความกลัวที่ว่าจะถูกเย่หยวนเข่นฆ่าสังหารลง

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

จนในที่สุดก็มีเงาร่างปรากฏขึ้นมาขวางทางเย่หยวนอีกครั้ง

คนที่นำหน้ามานั้นเป็นถึงนภาสวรรค์แปดดาว

ในคนทั้งสี่ที่ขึ้นมาปิดทางไว้นี้ คนที่อ่อนแอที่สุดยังเป็นถึงนภาสวรรค์เจ็ดดาว!

“หึๆๆ! ยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่ พวกเจ้ามาได้ถูกเวลาพอดี รีบจัดการฆ่าสังหาร…”

แม่เล้าคนนั้นกำลังพูดจาอย่างผู้เหนือกว่าก่อนที่จะถูกดาบแสงพุ่งทะลุร่างจนทุกสิ่งอย่างดับเงียบลง

ตอนนี้หัวและลำตัวของนางมันไม่ได้ติดต่อกันอีกต่อไปแล้ว

นภาสวรรค์แปดดาวคนนั้นเบิกตากว้างเพราะเมื่อสักครู่นี้เขาไม่ได้เห็นว่าเย่หยวนขยับตัวเลยแม้แต่น้อย!

เย่หยวนมองดูที่พวกเขาทั้งหลายและตะโกนไล่ “ไปให้พ้น!”

พูดไปเย่หยวนก็ดึงพาตัวเจียงไห่ถังเดินออกไปอีกครั้ง

เมื่อได้รับรู้เรื่องราวของเจียงไห่ถังแม้ภายนอกเย่หยวนจะยังคงดูเย็นชาไม่สนใจใดๆ แต่ภายในใจของเขานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นอย่างร้อนแรง

ตอนนี้เขาจึงกำลังมองหาคนที่จะระบายอารมณ์ทั้งหลายนี้ออกมา

และดงปิติที่มีจวนเจ้าเมืองเป็นคนหนุนหลังนี้มันช่างเหมาะเจาะที่จะระเบิดความโกรธออกมาเสียเหลือเกิน

เมื่อเห็นท่าทางดุดันนั้นของเย่หยวนยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่ต่างถอยหลังกันไปคนละก้าวอย่างไม่ได้นัดหมาย

เย่หยวนขยับเคลื่อนอีกครั้ง พวกเขาก็ถอยหลังไปอีกครา

จนในที่สุดนภาสวรรค์แปดดาวที่นำหน้ามานั้นไม่อาจทนเห็นสภาพนี้ได้อีกต่อไปจึงตะโกนร้องสั่งขึ้น “โจมตีมัน! สังหารมันเสีย!”

นั่นทำให้ดาบสี่เล่มพุ่งลงมาพร้อมๆ กับพลังโลกทั้งสี่ก่อให้เกิดเขตแดนแปลกๆ ล้อมตัวเย่หยวนและเจียงไห่ถังไว้อย่างหนาแน่น

นี่คือท่าสังหารอย่างไม่ต้องสงสัย!

ผู้พิทักษ์ทั้งสี่นี้ดูท่าแล้วคงฝึกฝนร่วมกันมาไม่น้อยเพราะการร่วมมือของทั้งสี่นั้นดูเป็นแบบแผนอย่างมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพลังโลกที่พวกเขาปล่อยออกมานั้นมันกลับผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวทำให้เกิดคลื่นพลังที่หนาแน่นกว่าเดิมขึ้นมามาก

“เจ้าหนุ่มคนนี้มันมาจากไหนกัน? ถึงได้มีพลังเหนือล้ำขนาดนี้!”

“ใช่ไหมเล่า? เป็นแค่นภาสวรรค์ห้าดาวคนหนึ่งแต่กลับฟันนภาสวรรค์ขั้นกลางคนอื่นๆ เสียราวกับว่าเป็นแค่เศษกระดาษ”

“แต่เขาเองก็บ้าบิ่นเกินไป ยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่นั้นมิใช่ตัวตนที่จะท้าทายเล่นๆ ได้! เมื่อพวกเขาทั้งสี่รวมพลังกันเช่นนี้แล้วแม้แต่นภาสวรรค์เก้าดาวพวกเขาก็เคยฆ่าสังหารลง! แถมยังมีท่านฝางคุนที่ไม่ได้ลงมือใดๆ เลยด้วยอีก!”

“หึๆ โกรธแค้นขนาดนี้เพื่อผู้หญิงคนเดียว ข้าล่ะชอบน้ำใจของมันจริง!”

พลังฝีมือที่เย่หยวนแสดงออกมานั้นมันเหนือล้ำ

แต่เมื่อต้องมาเจอกับยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่เช่นนี้แล้วพวกเขาคงไม่มีใครจะคิดเข้าข้างเย่หยวนอีก

ห่างกันหลายต่อหลายดาว ทั้งยังเป็นการต่อสู้แบบสี่ต่อหนึ่ง แถมคนทั้งสี่นั้นยังฝึกฝนร่วมกันมาอย่างดี

ไม่ว่าจะมองอย่างไรเย่หยวนก็ไม่มีโอกาสจะชนะได้เลย

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+