Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2059 พ่ายแพ้ราบคาบ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2059 พ่ายแพ้ราบคาบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“น-น-นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน? พี่ดันหยู่ ท่านจะปล่อยเราตายไปเช่นนี้ไม่ได้นะ! เย่หยวน… เย่หยวนมันต้องคิดล้างแค้นกับข้าแน่!”

เมื่อได้ยินข่าวทั้งหลายที่หลั่งไหลเข้ามาเทพสวรรค์ออหยุนก็แทบสิ้นสภาพยอดคน

เพราะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้พันธมิตรแดนใต้ได้พ่ายแพ้ลงอย่างราบคาบ

โดยเฉพาะดินแดนใต้การดูแลของเขาที่ถูกโจมตีหนักที่สุด

หอมหาสมบัตินั้นถึงขั้นประกาศลดราคาโอสถลงสามเปอร์เซ็นต์ในดินแดนของเขา ที่สำคัญโอสถที่ส่งไปในดินแดนของเขานั้นมันยังมากกว่าดินแดนอื่นๆ มาก

เรื่องราวเช่นนี้มันไม่เกิดขึ้นในดินแดนอื่นใด

เพราะในเวลานี้โอสถของหอมหาสมบัตินั้นมันได้กลายเป็นของหายากไปในที่สุด ต่อให้ราคามันจะขึ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ มันก็ยังเป็นการยากที่จะหาซื้อมันเพราะความต้องการที่มากล้น

แม้ว่าหอมหาสมบัติจะเตรียมการมาอย่างดีแต่พวกเขาก็ย่อมไม่อาจจะตอบสนองความต้องการของนักยุทธทั้งตลาดได้

ไม่ว่าโอสถนั้นจะดีเด่นแค่ไหน มันก็ไม่อาจจะตกไปถึงมือของนักยุทธทุกผู้คนได้

ไม่ว่าอย่างไรเสียสัดส่วนนักยุทธต่อนักหลอมโอสถมันก็แตกต่างกันมากเกินไป

แต่ในเวลานี้ดินแดนของเทพสวรรค์ออหยุนนั้นถูกหอมหาสมบัติกดดันอย่างหนักหน่วงจนไม่อาจจะเปิดร้านขายโอสถของตนได้อีกต่อไป

ต่อให้เป็นคนตาบอดโง่เง่าเพียงใดก็ยังเข้าใจได้ทันทีว่านี่คือการจงใจของหอมหาสมบัติและเย่หยวนที่คิดขยี้เทพสวรรค์ออหยุน

เทพสวรรค์ดันหยู่ขมวดคิ้วแน่น “ช่วยเจ้า? ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกของเรายังจะเอาตัวไม่รอด! เจ้ากลับบอกให้เราหันหน้าไปช่วยเจ้า? เจ้าไม่ได้ยินรายงานหรือว่ายอดเมืองหลวงจักรพรรดิรั้วบูรพานั้นได้ตกอยู่ในมือของหอมหาสมบัติไปอย่างสมบูรณ์แล้ว?”

ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิรั้วบูรพานั้นมันคือจุดยุทธศาสตร์การค้าของเทพสวรรค์ดันหยู่ มีความสำคัญไม่ต่างจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิวาโยนิรันดร์ของทางหอมหาสมบัติ

ตอนนี้แม้แต่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิรั้วบูรพายังแตกพ่ายลง แค่นั้นมันก็ชัดเจนแล้วว่าสถานการณ์กำลังวิกฤตขนาดไหน

ในเวลานี้เทพสวรรค์เหวินหลานจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนลั่นขึ้น “หึ! ออหยุน เจ้ายังจะมีหน้ามาพูดจาเช่นนั้นอีกหรือ? หากไม่ใช่เพราะเจ้าแล้วเรื่องราวทั้งหลายนี้มันคงไม่เกิดขึ้นแน่! หากเจ้าแค่ยอมก้มหัวขอโทษเย่หยวนไปดีๆ ในตอนนั้นเรื่องราวมันจะบานปลายมาถึงขั้นนี้หรือ?”

เพราะตัวเขาเองก็เสียผลประโยชน์ไปมหาศาล แน่นอนว่าอารมณ์ของเขาย่อมจะขุ่นเคืองอย่างมาก

เมื่อได้เห็นเทพสวรรค์ออหยุนพูดแสดงหน้าขึ้นมาเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะตวาดว่าไป

เทพสวรรค์ออหยุนที่ได้ยินก็ร้องขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เหวินหลาน เจ้ากลับมาว่าข้าเสียแล้ว? ตอนนั้นใครกันเล่าที่มันทุบโต๊ะโห่ร้องขึ้นคิดอยากได้ส่วนแบ่งจากดินแดนของเย่หนวนน่ะ!”

“เจ้า!” เทพสวรรค์เหวินหลานผงะไปทันทีอย่างที่ไม่อาจจะตอบโต้ใดๆ เทพสวรรค์ออหยุนได้

เมื่อตอนที่เย่หยวนถอนตัวจากพันธมิตรแดนใต้ มันเป็นเทพสวรรค์เหวินหลานเองก็ยกมือขึ้นโห่ร้องดีใจ

ที่สำคัญแม้ตอนแรกๆ เขาจะยังไว้หน้าผู้คนบ้าง ไม่ได้ล่วงมือเข้าไปล้ำเขตแดนของเย่หยวนจริงๆ จังๆ

แต่ไม่นานนักเขาก็เริ่มลึกคืบเข้าไปค้าขายในแดนของเย่หยวนจริงๆ

“พอแล้ว!” เทพสวรรค์ดันหยู่ตะโกนลั่น “มาเถียงโทษกันเวลานี้มันจะได้อะไร? หากเจ้ามีเวลามาโทษกันแล้วทำไมไม่เอาเวลามาคิดแก้สถานการณ์ที่เราเจอตอนนี้เล่า?!”

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงกล่าวขึ้น “ตอนนี้มันมิใช่ปัญหาแค่ความพ่ายแพ้! เพราะเพื่อการศึกของเราครั้งนี้พวกเราได้ใช้นักหลอมโอสถของแดนใต้เกือบทั้งหมดทั้งสิ้นมาช่วยกันหลอมโอสถปริมาณมหาศาล หากโอสถพวกนี้ไม่อาจขายได้อีกมันคงได้เน่าคาโกดังเราแน่”

เทพสวรรค์ลี่หยางพูดขึ้นตามด้วยใบหน้าหนักใจ “และครั้งนี้มันแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ไปมาก เมื่อก่อนหากเราเก็บโอสถไว้ดีๆ สักวันมันก็จะขายออกได้ แต่ครานี้โอสถที่เย่หยวนสร้างขึ้นมาใหม่นี้มันจะค่อยๆ กลืนกินแดนใต้เราเข้าไป หากวันหนึ่งโอสถเหล่านี้มันได้กลายเป็นโอสถสามัญไปแล้ว โอสถของเรามันย่อมไม่มีทางจะกลับมาชายออกได้แน่!”

เทพสวรรค์เหลียวหมิงถอนหายใจยาว “ข้าก็ห้ามไว้แล้ว แต่พวกท่านก็ไม่คิดฟัง ตอนนี้จะมาเสียใจมันก็สายไปแล้ว!”

คนอื่นๆ ทั้งหลายได้แต่เงียบปากลง

เพราะเทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นเป็นคนเดียวที่บอกว่าเย่หยวนมีความเข้าใจต่อเต๋าโอสถอย่างลึกล้ำ การจะสร้างโอสถชนิดใหม่ขึ้นมานั้นมันมิใช่เรื่องยากเย็น แต่มันกลับไม่มีใครคิดเชื่อถือคำของเขา

แต่เวลานี้เทพสวรรค์เหลียวหมิงเองก็ยังตื่นตะลึงไม่หาย

เขานั้นคิดว่าตนเองมองเย่หยวนสูงล้ำไว้อยู่แล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงเย่หยวนจะยังเก่งกาจกว่าที่เขาประเมินไปมาก

เมื่อใดที่โอสถทั้งหลายนั้นมันกระจายไปทั่วแดนใต้ความคิดของเหล่านักยุทธทั้งหลายมันก็จะเปลี่ยนแปลงไปทันที ทั้งแดนใต้นี้จะได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

กับเหล่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกนั้น เรื่องราวเช่นนั้นมันย่อมจะเป็นหายนะดีๆ นี่เอง

เทพสวรรค์ดันหยู่เปิดปากขึ้นพูดอย่างหนักแน่น “เมื่อมันมาถึงเวลานี้แล้วเราคงไม่มีทางเลือกอื่น! สั่งให้ทุกร้านลดราคาโอสถลงครึ่งหนึ่ง! หากยังไม่พออีกก็ให้ลงลดไปเหลือแค่สี่สิบหรือสามสิบเปอร์เซ็นต์! หากเราชนะเรื่องคุณภาพไม่ได้ เราก็ต้องสู้ด้วยราคานี่แหละ! มีหรือที่พันธมิตรแดนใต้อันยิ่งใหญ่ของเราจะพ่ายแพ้แก่คนผู้เดียว? เช่นนั้นเราคงได้กลายเป็นตัวตลกของชาวบ้านไปทั่วฟ้าดินแล้ว!”

ได้ยินคำของเทพสวรรค์ดันหยู่คนอื่นเองก็สั่นสะท้านไปทั้งใจ

เพราะเสียกำไรมันก็ยังดีกว่าให้โอสถเน่าคาโกดัง

พันธมิตรแดนใต้นั้นได้ใช้ทุกสิ่งอย่างออกมาในศึกครั้งนี้ โอสถแต่ละชนิดนั้นมันมีมากพอจะส่งเลี้ยงค่ายสำนักใหญ่ทั้งหลายให้ใช้ได้ยาวนานนับสิบปี

แต่เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมเป็นการทำร้ายคู่แข่งอย่างไม่ได้กำไรเอง มันน่าไม่อายจนเกินไป

เพียงแค่ว่ามาถึงเวลานี้แล้วเหล่าคนใหญ่คนโตทั้งหลายย่อมไม่อาจคิดถึงความหน้าไม่อายใดๆ ได้อีก

เพราะฉะนั้นศึกอันยาวนานของพันธมิตรแดนใต้และหอมหาสมบัติมันจึงได้เริ่มต้นขึ้น

หอมหาสมบัตินั้นมีโอสถที่เหนือล้ำฟ้าสวรรค์ ทำให้เหล่านักยุทธทั้งหลายได้เบิกหูเบิกตาอย่างแท้จริง

เมื่อโอสถกว่าสิบชนิดนี้ได้ถูกปล่อยขายออกมามันก็ย่อมจะสร้างชื่อได้รับคำชมไปทั่วทั้งแดนใต้ในทันที

เทียบกันแล้วโอสถของทางพันธมิตรนั้นมันห่วยแตกจนเกินกิน

แต่ทว่ามันก็ยังพอขายได้เพราะความหน้าไม่อายของพวกเขานี้!

หากหอมหาสมบัตินั้นขายโอสถในราคาหนึ่งแสนผลึกปราณเทวะขั้นสูง ทางพันธมิตรก็จะขายด้วยราคาแค่ห้าหมื่นถึงอาจจะถึงสามหมื่นผลึกปราณเทวะขั้นสูง แน่นอนว่ามันย่อมเป็นที่น่าดึงดูดต่อเหล่านักยุทธที่ไม่ค่อยจะร่ำรวย

ในเวลานี้ทั้งสองฝ่ายจึงได้มาถึงทางตัน ได้แต่เสมอกัน

การต่อสู้นี้มันดำเนินไปยาวนานถึงห้าปี จนในที่สุดข่าวหนึ่งมันก็ได้กระจายออกมาทำลายสภาพนั้นลง

อย่างแรกคือเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นได้ออกมาจากการเก็บตัวและประกาศเข้าร่วมฝ่ายหอมหาสมบัติ

ข่าวที่สองคือเรื่องของตระกูลเป่ยถังและเจ็ดตระกูลโบราณได้ประกาศเข้าร่วมทางหอมหาสมบัติไปตามๆ กัน

แม้ว่าเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นจะเป็นนักยุทธจรไร้สังกัดแต่คนที่คิดติดตามเขานั้นมันก็มีมากจนเกินกว่าที่จะประมาทได้

เมื่อออกจากการเก็บตัวครั้งนี้มาแล้วเขาก็ได้บรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลครึ่งก้าว!

นั่นมันคือตัวตนอันสูงส่งของแดนใต้นี้ ไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกตัวเขาได้

และนอกจากนั้นมันยังมีเรื่องตระกูลเป่ยถังและเจ็ดตระกูลโบราณอีกด้วยที่ทำให้พันธมิตรแทบจะแตกสลายลง

เจ็ดตระกูลโบราณนั้นมันคือตระกูลใหญ่สูงล้ำของวงการโอสถในแดนใต้นี้ อำนาจฝีมือของพวกเขานั้นไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายนัก

ด้วยความสนับสนุนจากพวกเขานี้หอมหาสมบัติจึงได้พุ่งทะยานฟ้าเพิ่มอำนาจขึ้นไปอย่างมากมาย

กับหอมหาสมบัติแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดย่อมจะเป็นเรื่องทรัพยากร เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจะเอาสองมือไปสู้สี่แขนมันก็คงไม่ได้

แต่เมื่อได้แรงสนับสนุนจากเจ็ดตระกูลโบราณแล้วพวกเขาก็ย่อมจะได้รับทรัพยากรเข้ามาอีกมากมาย

ด้วยความมั่นใจนี้หอมหาสมบัติจึงไม่เกรงกลัวที่จะบุกอีกต่อไป

‘เจ้าลดราคา ข้าอยากรู้ว่ามันจะลดไปได้ถึงไหน!’

เมื่อเวลาผ่านไปได้แปดปี ในที่สุดพันธมิตรแดนใต้ก็เริ่มแตกพ่ายลง

อย่างแรกคือเหล่าค่ายสำนักระดับต่ำและกลางทั้งหลายที่ไม่อาจจะแบกรับภาระราคาไว้ได้และเริ่มล้มละลายไปตามๆ กัน

เพราะไม่ว่าอย่างไรทุนของพวกเขานั้นมันก็ไม่อาจเทียบเคียงกับเหล่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้

จนในที่สุดเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายเองก็เริ่มจะล้มละลายลงตาม

ไม่นานจากนั้นแม้แต่ห้างโอสถเมฆายักษ์ใหญ่มันก็ไม่อาจจะประคองตัวได้อีกต่อไป

ในปีที่เก้า ทางจวนเจ้าเมืองของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นได้ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกดำมืด

ความเหนื่อยอ่อนและสิ้นหวังได้ปกคลุมไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

“พี่ดันหยู่ เราทนต่อไปเช่นนี้ไม่ได้แล้ว! หากทำเช่นนี้ต่อไปแล้วแดนใต้เราคงกลายเป็นดินแดนของหอมหาสมบัติไปสิ้นแน่!” เทพสวรรค์เหยาเย่ร้องบอกขึ้นด้วยสีหน้าทุกข์ใจ

“ใช่ สงครามนี้มันคือหลุมอันไร้ก้นชัดๆ! หากทำเช่นนี้กันต่อไปแล้วทรัพยากรใดๆ ที่เราสั่งสมมานานปีคงได้แห้งหายไปหมดสิ้นแน่!” เทพสวรรค์อีกคนหนึ่งร้องขึ้นตาม

………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2059 พ่ายแพ้ราบคาบ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2059 พ่ายแพ้ราบคาบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“น-น-นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน? พี่ดันหยู่ ท่านจะปล่อยเราตายไปเช่นนี้ไม่ได้นะ! เย่หยวน… เย่หยวนมันต้องคิดล้างแค้นกับข้าแน่!”

เมื่อได้ยินข่าวทั้งหลายที่หลั่งไหลเข้ามาเทพสวรรค์ออหยุนก็แทบสิ้นสภาพยอดคน

เพราะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้พันธมิตรแดนใต้ได้พ่ายแพ้ลงอย่างราบคาบ

โดยเฉพาะดินแดนใต้การดูแลของเขาที่ถูกโจมตีหนักที่สุด

หอมหาสมบัตินั้นถึงขั้นประกาศลดราคาโอสถลงสามเปอร์เซ็นต์ในดินแดนของเขา ที่สำคัญโอสถที่ส่งไปในดินแดนของเขานั้นมันยังมากกว่าดินแดนอื่นๆ มาก

เรื่องราวเช่นนี้มันไม่เกิดขึ้นในดินแดนอื่นใด

เพราะในเวลานี้โอสถของหอมหาสมบัตินั้นมันได้กลายเป็นของหายากไปในที่สุด ต่อให้ราคามันจะขึ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ มันก็ยังเป็นการยากที่จะหาซื้อมันเพราะความต้องการที่มากล้น

แม้ว่าหอมหาสมบัติจะเตรียมการมาอย่างดีแต่พวกเขาก็ย่อมไม่อาจจะตอบสนองความต้องการของนักยุทธทั้งตลาดได้

ไม่ว่าโอสถนั้นจะดีเด่นแค่ไหน มันก็ไม่อาจจะตกไปถึงมือของนักยุทธทุกผู้คนได้

ไม่ว่าอย่างไรเสียสัดส่วนนักยุทธต่อนักหลอมโอสถมันก็แตกต่างกันมากเกินไป

แต่ในเวลานี้ดินแดนของเทพสวรรค์ออหยุนนั้นถูกหอมหาสมบัติกดดันอย่างหนักหน่วงจนไม่อาจจะเปิดร้านขายโอสถของตนได้อีกต่อไป

ต่อให้เป็นคนตาบอดโง่เง่าเพียงใดก็ยังเข้าใจได้ทันทีว่านี่คือการจงใจของหอมหาสมบัติและเย่หยวนที่คิดขยี้เทพสวรรค์ออหยุน

เทพสวรรค์ดันหยู่ขมวดคิ้วแน่น “ช่วยเจ้า? ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกของเรายังจะเอาตัวไม่รอด! เจ้ากลับบอกให้เราหันหน้าไปช่วยเจ้า? เจ้าไม่ได้ยินรายงานหรือว่ายอดเมืองหลวงจักรพรรดิรั้วบูรพานั้นได้ตกอยู่ในมือของหอมหาสมบัติไปอย่างสมบูรณ์แล้ว?”

ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิรั้วบูรพานั้นมันคือจุดยุทธศาสตร์การค้าของเทพสวรรค์ดันหยู่ มีความสำคัญไม่ต่างจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิวาโยนิรันดร์ของทางหอมหาสมบัติ

ตอนนี้แม้แต่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิรั้วบูรพายังแตกพ่ายลง แค่นั้นมันก็ชัดเจนแล้วว่าสถานการณ์กำลังวิกฤตขนาดไหน

ในเวลานี้เทพสวรรค์เหวินหลานจึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนลั่นขึ้น “หึ! ออหยุน เจ้ายังจะมีหน้ามาพูดจาเช่นนั้นอีกหรือ? หากไม่ใช่เพราะเจ้าแล้วเรื่องราวทั้งหลายนี้มันคงไม่เกิดขึ้นแน่! หากเจ้าแค่ยอมก้มหัวขอโทษเย่หยวนไปดีๆ ในตอนนั้นเรื่องราวมันจะบานปลายมาถึงขั้นนี้หรือ?”

เพราะตัวเขาเองก็เสียผลประโยชน์ไปมหาศาล แน่นอนว่าอารมณ์ของเขาย่อมจะขุ่นเคืองอย่างมาก

เมื่อได้เห็นเทพสวรรค์ออหยุนพูดแสดงหน้าขึ้นมาเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะตวาดว่าไป

เทพสวรรค์ออหยุนที่ได้ยินก็ร้องขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เหวินหลาน เจ้ากลับมาว่าข้าเสียแล้ว? ตอนนั้นใครกันเล่าที่มันทุบโต๊ะโห่ร้องขึ้นคิดอยากได้ส่วนแบ่งจากดินแดนของเย่หนวนน่ะ!”

“เจ้า!” เทพสวรรค์เหวินหลานผงะไปทันทีอย่างที่ไม่อาจจะตอบโต้ใดๆ เทพสวรรค์ออหยุนได้

เมื่อตอนที่เย่หยวนถอนตัวจากพันธมิตรแดนใต้ มันเป็นเทพสวรรค์เหวินหลานเองก็ยกมือขึ้นโห่ร้องดีใจ

ที่สำคัญแม้ตอนแรกๆ เขาจะยังไว้หน้าผู้คนบ้าง ไม่ได้ล่วงมือเข้าไปล้ำเขตแดนของเย่หยวนจริงๆ จังๆ

แต่ไม่นานนักเขาก็เริ่มลึกคืบเข้าไปค้าขายในแดนของเย่หยวนจริงๆ

“พอแล้ว!” เทพสวรรค์ดันหยู่ตะโกนลั่น “มาเถียงโทษกันเวลานี้มันจะได้อะไร? หากเจ้ามีเวลามาโทษกันแล้วทำไมไม่เอาเวลามาคิดแก้สถานการณ์ที่เราเจอตอนนี้เล่า?!”

เทพสวรรค์เฉิงเฟิงกล่าวขึ้น “ตอนนี้มันมิใช่ปัญหาแค่ความพ่ายแพ้! เพราะเพื่อการศึกของเราครั้งนี้พวกเราได้ใช้นักหลอมโอสถของแดนใต้เกือบทั้งหมดทั้งสิ้นมาช่วยกันหลอมโอสถปริมาณมหาศาล หากโอสถพวกนี้ไม่อาจขายได้อีกมันคงได้เน่าคาโกดังเราแน่”

เทพสวรรค์ลี่หยางพูดขึ้นตามด้วยใบหน้าหนักใจ “และครั้งนี้มันแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ไปมาก เมื่อก่อนหากเราเก็บโอสถไว้ดีๆ สักวันมันก็จะขายออกได้ แต่ครานี้โอสถที่เย่หยวนสร้างขึ้นมาใหม่นี้มันจะค่อยๆ กลืนกินแดนใต้เราเข้าไป หากวันหนึ่งโอสถเหล่านี้มันได้กลายเป็นโอสถสามัญไปแล้ว โอสถของเรามันย่อมไม่มีทางจะกลับมาชายออกได้แน่!”

เทพสวรรค์เหลียวหมิงถอนหายใจยาว “ข้าก็ห้ามไว้แล้ว แต่พวกท่านก็ไม่คิดฟัง ตอนนี้จะมาเสียใจมันก็สายไปแล้ว!”

คนอื่นๆ ทั้งหลายได้แต่เงียบปากลง

เพราะเทพสวรรค์เหลียวหมิงนั้นเป็นคนเดียวที่บอกว่าเย่หยวนมีความเข้าใจต่อเต๋าโอสถอย่างลึกล้ำ การจะสร้างโอสถชนิดใหม่ขึ้นมานั้นมันมิใช่เรื่องยากเย็น แต่มันกลับไม่มีใครคิดเชื่อถือคำของเขา

แต่เวลานี้เทพสวรรค์เหลียวหมิงเองก็ยังตื่นตะลึงไม่หาย

เขานั้นคิดว่าตนเองมองเย่หยวนสูงล้ำไว้อยู่แล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงเย่หยวนจะยังเก่งกาจกว่าที่เขาประเมินไปมาก

เมื่อใดที่โอสถทั้งหลายนั้นมันกระจายไปทั่วแดนใต้ความคิดของเหล่านักยุทธทั้งหลายมันก็จะเปลี่ยนแปลงไปทันที ทั้งแดนใต้นี้จะได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

กับเหล่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกนั้น เรื่องราวเช่นนั้นมันย่อมจะเป็นหายนะดีๆ นี่เอง

เทพสวรรค์ดันหยู่เปิดปากขึ้นพูดอย่างหนักแน่น “เมื่อมันมาถึงเวลานี้แล้วเราคงไม่มีทางเลือกอื่น! สั่งให้ทุกร้านลดราคาโอสถลงครึ่งหนึ่ง! หากยังไม่พออีกก็ให้ลงลดไปเหลือแค่สี่สิบหรือสามสิบเปอร์เซ็นต์! หากเราชนะเรื่องคุณภาพไม่ได้ เราก็ต้องสู้ด้วยราคานี่แหละ! มีหรือที่พันธมิตรแดนใต้อันยิ่งใหญ่ของเราจะพ่ายแพ้แก่คนผู้เดียว? เช่นนั้นเราคงได้กลายเป็นตัวตลกของชาวบ้านไปทั่วฟ้าดินแล้ว!”

ได้ยินคำของเทพสวรรค์ดันหยู่คนอื่นเองก็สั่นสะท้านไปทั้งใจ

เพราะเสียกำไรมันก็ยังดีกว่าให้โอสถเน่าคาโกดัง

พันธมิตรแดนใต้นั้นได้ใช้ทุกสิ่งอย่างออกมาในศึกครั้งนี้ โอสถแต่ละชนิดนั้นมันมีมากพอจะส่งเลี้ยงค่ายสำนักใหญ่ทั้งหลายให้ใช้ได้ยาวนานนับสิบปี

แต่เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมเป็นการทำร้ายคู่แข่งอย่างไม่ได้กำไรเอง มันน่าไม่อายจนเกินไป

เพียงแค่ว่ามาถึงเวลานี้แล้วเหล่าคนใหญ่คนโตทั้งหลายย่อมไม่อาจคิดถึงความหน้าไม่อายใดๆ ได้อีก

เพราะฉะนั้นศึกอันยาวนานของพันธมิตรแดนใต้และหอมหาสมบัติมันจึงได้เริ่มต้นขึ้น

หอมหาสมบัตินั้นมีโอสถที่เหนือล้ำฟ้าสวรรค์ ทำให้เหล่านักยุทธทั้งหลายได้เบิกหูเบิกตาอย่างแท้จริง

เมื่อโอสถกว่าสิบชนิดนี้ได้ถูกปล่อยขายออกมามันก็ย่อมจะสร้างชื่อได้รับคำชมไปทั่วทั้งแดนใต้ในทันที

เทียบกันแล้วโอสถของทางพันธมิตรนั้นมันห่วยแตกจนเกินกิน

แต่ทว่ามันก็ยังพอขายได้เพราะความหน้าไม่อายของพวกเขานี้!

หากหอมหาสมบัตินั้นขายโอสถในราคาหนึ่งแสนผลึกปราณเทวะขั้นสูง ทางพันธมิตรก็จะขายด้วยราคาแค่ห้าหมื่นถึงอาจจะถึงสามหมื่นผลึกปราณเทวะขั้นสูง แน่นอนว่ามันย่อมเป็นที่น่าดึงดูดต่อเหล่านักยุทธที่ไม่ค่อยจะร่ำรวย

ในเวลานี้ทั้งสองฝ่ายจึงได้มาถึงทางตัน ได้แต่เสมอกัน

การต่อสู้นี้มันดำเนินไปยาวนานถึงห้าปี จนในที่สุดข่าวหนึ่งมันก็ได้กระจายออกมาทำลายสภาพนั้นลง

อย่างแรกคือเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นได้ออกมาจากการเก็บตัวและประกาศเข้าร่วมฝ่ายหอมหาสมบัติ

ข่าวที่สองคือเรื่องของตระกูลเป่ยถังและเจ็ดตระกูลโบราณได้ประกาศเข้าร่วมทางหอมหาสมบัติไปตามๆ กัน

แม้ว่าเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นจะเป็นนักยุทธจรไร้สังกัดแต่คนที่คิดติดตามเขานั้นมันก็มีมากจนเกินกว่าที่จะประมาทได้

เมื่อออกจากการเก็บตัวครั้งนี้มาแล้วเขาก็ได้บรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรบรรพกาลครึ่งก้าว!

นั่นมันคือตัวตนอันสูงส่งของแดนใต้นี้ ไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกตัวเขาได้

และนอกจากนั้นมันยังมีเรื่องตระกูลเป่ยถังและเจ็ดตระกูลโบราณอีกด้วยที่ทำให้พันธมิตรแทบจะแตกสลายลง

เจ็ดตระกูลโบราณนั้นมันคือตระกูลใหญ่สูงล้ำของวงการโอสถในแดนใต้นี้ อำนาจฝีมือของพวกเขานั้นไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายนัก

ด้วยความสนับสนุนจากพวกเขานี้หอมหาสมบัติจึงได้พุ่งทะยานฟ้าเพิ่มอำนาจขึ้นไปอย่างมากมาย

กับหอมหาสมบัติแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดย่อมจะเป็นเรื่องทรัพยากร เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจะเอาสองมือไปสู้สี่แขนมันก็คงไม่ได้

แต่เมื่อได้แรงสนับสนุนจากเจ็ดตระกูลโบราณแล้วพวกเขาก็ย่อมจะได้รับทรัพยากรเข้ามาอีกมากมาย

ด้วยความมั่นใจนี้หอมหาสมบัติจึงไม่เกรงกลัวที่จะบุกอีกต่อไป

‘เจ้าลดราคา ข้าอยากรู้ว่ามันจะลดไปได้ถึงไหน!’

เมื่อเวลาผ่านไปได้แปดปี ในที่สุดพันธมิตรแดนใต้ก็เริ่มแตกพ่ายลง

อย่างแรกคือเหล่าค่ายสำนักระดับต่ำและกลางทั้งหลายที่ไม่อาจจะแบกรับภาระราคาไว้ได้และเริ่มล้มละลายไปตามๆ กัน

เพราะไม่ว่าอย่างไรทุนของพวกเขานั้นมันก็ไม่อาจเทียบเคียงกับเหล่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้

จนในที่สุดเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายเองก็เริ่มจะล้มละลายลงตาม

ไม่นานจากนั้นแม้แต่ห้างโอสถเมฆายักษ์ใหญ่มันก็ไม่อาจจะประคองตัวได้อีกต่อไป

ในปีที่เก้า ทางจวนเจ้าเมืองของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นได้ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกดำมืด

ความเหนื่อยอ่อนและสิ้นหวังได้ปกคลุมไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

“พี่ดันหยู่ เราทนต่อไปเช่นนี้ไม่ได้แล้ว! หากทำเช่นนี้ต่อไปแล้วแดนใต้เราคงกลายเป็นดินแดนของหอมหาสมบัติไปสิ้นแน่!” เทพสวรรค์เหยาเย่ร้องบอกขึ้นด้วยสีหน้าทุกข์ใจ

“ใช่ สงครามนี้มันคือหลุมอันไร้ก้นชัดๆ! หากทำเช่นนี้กันต่อไปแล้วทรัพยากรใดๆ ที่เราสั่งสมมานานปีคงได้แห้งหายไปหมดสิ้นแน่!” เทพสวรรค์อีกคนหนึ่งร้องขึ้นตาม

………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+