Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2785 หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ทำไมเจ้าทำเช่นนั้น

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2785 หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ทำไมเจ้าทำเช่นนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2785 หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ทำไมเจ้าทำเช่นนั้น!
EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq เพราะว่าพวกเขาเองนั้นก็กลัวไม่ต่างกัน

ปราณดาบของเย่หยวนนั้นสังหารจักรพรรดิเซียนลงจนกลายเป็นแค่เศษเนื้อ!

เช่นนั้นแล้วตัวเขาในตอนนี้เก่งกาจแค่ไหนแล้ว?

ไม่อาจวัด!

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียปราณดาบที่โฉปู้ฉุนทิ้งไว้นั้นมันก็ไม่อาจจะสังหารพวกเขาลงได้!

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นเชื่อว่าเย่หยวนที่ถูกตัดเส้นทางยุทธไร้พลังต่อต้านและได้ไล่เขาไปยังแดนสวรรค์ใต้

แต่เวลานี้เย่หยวนนั้นผ่านสามเต๋าทุกข์เก้ากฎไปและผงาดกลับขึ้นมาอีกครั้ง!

แม้ว่าพลังบ่มเพาะของเขานั้นมันจะไม่ได้พัฒนาขึ้นมากมายแต่ว่ากำลังของเขานั้นมันพัฒนาจนเหนือหัวใครๆ ไปสิ้นเชิง!

หากเขาคิดอยากสังหาร มันก็คงไม่มีใครหนีไปได้!

“เย่หยวน มันเป็นข้าเองที่ผิด! ข้านั้นโลภในสมบัติตรงหน้า ให้อภัยข้าด้วยเถอะ!” มารกระทิงกล่าวขึ้นมาด้วยความกลัว

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หึๆ เย่ผู้นี้แค่เชิญพวกเจ้าทั้งหลายมาแลกเปลี่ยนความรู้กันเท่านั้น จะคิดอะไรกันมากมายนัก? เอาล่ะ ความรู้ก็แลกเปลี่ยนกันไปแล้ว กลับบ้านกันเถอะ พี่หลัวต้าหวง!”

พูดจบเย่หยวนก็พุ่งตัวหายไปทิ้งคนทั้งหลายให้อ้าปากค้าง

ได้เห็นเย่หยวนพุ่งตัวหายไปเช่นนั้นร่างของต้าวหยุนก็ผ่อนคลายลงแต่เสื้อคลุมของเขานั้นมันเปียกไปด้วยเหงื่อ

แห่งความกลัว

เพราะว่าแรงกดดันของเย่หยวนนั้นมันหนักหน่วงจนแทบไม่อาจหายใจ!

“เขาหมายความว่าอย่างไรกัน? หรือว่า…เขาจะปล่อยเราไปง่ายๆ เช่นนี้?” จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา

“ปล่อยเราไป? หึๆ จะเป็นไปได้หรือ? เจ้าลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าเขาพูดอะไรไว้ที่พันธมิตรโอสถ?” เทียนลู่กล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปทันที “เขาอยากให้เราส่งมอบสมบัติจากพันธมิตรโอสถกลับคืนไป?”

เมื่อเทียนลู่เตือนขึ้นมาคนทั้งหลายก็นึกย้อนไป

เย่หยวนนั้นเคยพูดไว้ว่า ‘วันหน้าหากพวกมันกลับใจเอามาคืนให้ พร้อมก้มหัวกราบขอโทษข้าก็อาจจะไม่ใจแคบพอยกโทษให้มันได้บ้าง!’

ในตอนนั้นพวกเขาทั้งหลายต่างคิดไปว่ามันเป็นแค่คำพูดยกตัวถือหน้าของผู้ไร้พลัง

แต่ใครจะไปคิดว่าแค่ไม่กี่เดือนนี้เย่หยวนกลับทำให้คำพูดนั้นกลายเป็นจริงได้!

“ส่งคืน? หึๆ หากมันง่ายเช่นนั้นก็ดีสิ! ก่อนนั้นเราเนรเทศพวกเขามายังแดนสวรรค์ใต้เพราะความโลภ เวลานี้คงต้องชดใช้เป็นเท่าตัวแน่! ต้าวหยุน เจ้าพาให้ข้าฉิบหายเสียจริงๆ!” มารกระทิงกล่าวขึ้น

ต้าวหยุนร้องตอบกลับทันที “อย่าได้ลืมว่าวิหารยอดนักบุญของพวกเจ้านั้นเอาไปถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์! เวลานี้เจ้ากลับมาโทษข้าหรือ?”

มารกระทิงนั้นร้องลั่นตอบกลับไป “หากเจ้าไม่ยุยงมีหรือที่ข้าจะทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ออกมา!”

“ไร้สาระ! เจ้าแท้ๆ ที่เป็นคนตัดสินใจ เวลานี้กลับคิดมาโทษข้าหรือ? ก็ได้! หากเจ้าคิดโทษข้าก็มันก็เรื่องของเจ้าแต่เย่หยวนจะโทษข้าหรือไม่นั้นเรายังไม่รู้กัน!” ต้าวหยุนเองก็ไม่คิดยอมแพ้

“พอที!”

จื่อหยางกล่าวขึ้นมาขัด “พวกเจ้าคิดเสียเถอะว่าตัวเองโชคดีแล้ว! หากมิใช่เห็นแก่ว่าเรานั้นช่วยจัดการพันธมิตรโอสถและไม่ได้คิดร้ายถึงชีวิตแก่เขา วันนี้พวกเราคงได้ตายลงสิ้น! ให้พูดแล้วเย่หยวนนั้นก็เป็นคนที่ยึดถือความถูกต้องหากเราไม่คิดเย้ยหยันกดขี่เขาและไล่เขาออกไปจากห้ายอดแดนสวรรค์นั้นเวลานี้เขาคงไม่คิดจะทำอะไรพวกเราด้วยซ้ำ! เรื่องนี้มันเป็นความผิดพวกเราทั้งสิ้น!”

“พูดไปตอนนี้มันก็สายไปแล้ว! ในเวลานี้เราคงมีแต่ต้องเฉือดเนื้อตัวเองออกมาแสดงความขอโทษ! หากความซื่อสัตย์มันไม่พอ เย่หยวนก็คงไม่ปล่อยเราไว้แน่!”

พูดจบจื่อหยางก็พุ่งตัวหายไปทันที

หนึ่งเดือนต่อมานั้นเมืองสวรรค์ใต้ก็ครึกครืนขึ้นมาทันที

จักรพรรดิเซียนมากมายต่างเดินทางมายังเมืองสวรรค์ใต้นี้ด้วยความกลัวและเกรงใจ

ไม่มีใครกล้าบินเข้าเมืองมาด้วยซ้ำ!

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นเหาะเหินลงมาถึงด้านนอกเมืองก็ต้องลงมาเดินเข้าเมืองเหมือนคนธรรมดา

“น้องหลัว นี่คือสมบัติที่นิกายสวรรค์เจ็ดดาวเรานั้นได้จากพันธมิตรโอสถไป เราขอคืนมันให้ทั้งหมด! นอกจากนั้นแล้วเรายังเตรียมของขวัญมาให้ด้วย น้องหลัวช่วยรับมันไว้ด้วยเถอะ!”

ในตอนนี้ต้าวหยุนนั้นมีท่าทางเหมือนเป็นแค่คนรับใช้

เพื่อที่จะมาขอโทษในวันนี้เขานั้นได้รีดเนื้อของนิกายสวรรค์เจ็ดดาวมาจนเกือบหมดสิ้น!

นอกจากสมบัติที่ได้มาจากพันธมิตรโอสถแล้วนิกายสวรรค์เจ็ดดาวก็ได้เอาทรัพยากรและสมบัติจากคลังตัวเอง

มากว่าร้อยละเจ็ดสิบเพื่อขอโทษแก่เย่หยวน

เรียกได้ว่าขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือโดยแท้!

หลัวหยุนชิงนั้นนั่งในตำแหน่งเจ้าบ้านแต่ใบหน้าของเขานั้นกลับเรียบเฉยไม่มีท่าทีตอบรับใดๆ

ต้าวหยุนนั้นกังวลในใจจนเหงื่อไหลท่วมกาย เรานั้นรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนผิดที่สุดหากคิดอยากให้หลัวหยุนชิงยอมให้อภัยนั้นมันต้องทุ่มเทมากกว่าใครๆ!

ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก

เย่หยวนนั้นไม่คิดพบเขา เขาจึงได้แต่ต้องมาขอร้องให้หลัวหยุนชิงอภัยให้!

สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจกัดฟันยื่นดาบออกมา “ดาบเมฆาฟ้านี้เป็นของที่น้องเย่เคยให้แก่ข้าไว้! น้องหลัวนั้นยังมีแค่สมบัติวิญญาณสวรรค์ ใช้ดาบนี้มันน่าจะเหมาะสมทีเดียว!”

หลัวหยุนชิงไม่คิดปฏิเสธและยกเอาดาบเมฆาฟ้าขึ้นมามองดูเล็กน้อยก่อนจะเก็บไป

“สมบัติยอดหมอกนี้มันก็เป็นแค่ของที่เย่หยวนให้ยืม! เวลานี้แค่คืนมันให้แก่เจ้าของเท่านั้น ไม่ต้องมาทำหน้าเหมือนเสียสมบัติประจำตระกูล!” หลัวหยุนชิงดุขึ้น

ต้าวหยุนนั้นได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ เพราะว่าเขานั้นไม่อาจทำใจได้จริงๆ!

สมบัติยอดหมอกนั้นมันช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ให้ได้กว่าร้อยละสามสิบ!

เวลานี้เขากลับต้องเอามันคืนกลับให้เจ้าของ เขาย่อมจะไม่อาจรับได้ง่ายๆ

หลัวหยุนชิงนั้นหันมามองก่อนจะกล่าวขึ้น “แค่นี้หรือ?”

ต้าวหยุนนั้นรีบกล่าวขึ้นตอบ “แน่นอนว่ามันยังมีอีก! เรื่องข้อเสนอของน้องเย่นั้นเราคิดว่ามันไม่มีอะไรเสียหายเลย! ไม่ว่าจะเป็นคนถิ่นหรือผู้บรรลุสวรรค์เราต่างก็เป็นคนเหมือนๆ กัน ไม่ควรแตกแยกกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง! จากวันนี้ไปนิกายสวรรค์เจ็ดดาวข้านั้นจะไม่กีดกันผู้บรรลุสวรรค์อีกแล้วพร้อมรับพวกเขาเข้านิกายเต็มที่! นอกจากนั้นแล้วแดนสวรรค์ใต้นี้มันยังเล็กเกินไป พวกเราทั้งหลายจะถอยกำลังออกจากดินแดนสวรรค์ห้าแสงและพร้อมรับสามยอดนิกายสวรรค์ผู้บรรลุสวรรค์กลับมาปกครอง”

เวลานี้จากห้านิกายสวรรค์นั้นมันเหลือแค่สามนิกายที่มีจักรพรรดิเซียนดูแล

นอกจากว่าจะไม่มีจักรพรรดิเซียนแล้วนั้นอีกสองนิกายสวรรค์นั้นยังแทบจะไม่เหลือศิษย์อีกแล้วด้วย เรียกได้ว่าเหลือแค่ชื่อโดยแท้

เวลานี้ห้านิกายสวรรค์มันจึงเหลือแค่สามนิกายสวรรค์เท่านั้น

หลัวหยุนชิงนั้นหรี่ตามองพร้อมตอบกลับไป “อย่างน้อยเจ้าก็ยังพอเข้าใจ! เย่หยวนนั้นสั่งไว้แล้วว่านี่เป็นโอกาสสุดท้าย! หากวันหน้าเจ้ายังสร้างเรื่องอีกก็จงรับผลที่ตามมาเถอะ!”

“มิกล้า! เรามิกล้า!”

ต้าวหยุนนั้นโล่งใจอย่างมากรีบตอบกลับไปว่ามิกล้าๆ ไม่ขาดปาก

ส่วนอีกด้านนั้นมารกระทิงก็กำลังมองหน้าต้าหวงอย่างเงียบงันอยู่นานสองนาน

“หากรู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้ทำไมเจ้าถึงทำเช่นนั้น?” ต้าหวงด่าออกมา

“เฮ้อ ข้ารู้ว่าข้าผิด! แต่ตอนนี้มันก็สายเกินแก้แล้ว! ต้าหวง เจ้าเห็นแก่ว่าที่เรานับเป็นพี่น้องกัน ช่วยเขาหมื่นอสูรด้วยเถอะ!”

ต้าหวงนั้นเป็นคนที่ให้ค่าให้สายสัมพันธ์ แต่เขานั้นก็ผิดหวังในมารกระทิงอย่างมาก

เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลนั้นคือสิ่งที่มารกระทิงตอบแทนเย่หยวน!

“หึ! หากไม่ได้อาจารย์เย่ป่านนี้เจ้าจะผ่านเต๋าทุกข์จักรพรรดิเซียนมาได้หรือ? ตัวเจ้าในตอนนี้คงเป็นได้แค่ฝุ่นดินไปแล้ว! พี่น้อง? วันนั้นที่ไปยังพันธมิตรโอสถกันนั้นข้าขอร้องเจ้าแค่ไหน เจ้าไม่เห็นหรือ? เจ้าเคยคิดถึงความเป็นพี่น้องของเรา? เวลานี้เพิ่งมานึกได้หรือว่าเป็นพี่น้องกับข้า?” ต้าหวงได้แต่ต้องร้องด่าขึ้น

มารกระทิงพยักหน้ารับ “ต้าหวง เจ้าเลือกทำถูกแล้ว! แต่ว่าเขาหมื่นอสูรนั้นมันก็เป็นบ้านของเจ้า จะอย่างไรเจ้าก็คงไม่คิดจะปล่อยให้มันถูกทำลายลงหรอกใช่ไหม?”

ต้าหวงตอบกลับไป “ไม่ต้องห่วงหรอก เห็นแก่หน้าข้านี้อาจารย์เย่ท่านย่อมจะไม่ทำให้เขาหมื่นอสูรต้องลำบากมากมาย! แต่ว่าเจ้านั้นก็ต้องทำตัวให้ดีด้วย เพราะว่านี่คือโอกาสสุดท้ายของเจ้าแล้ว!”

……………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2785 หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ทำไมเจ้าทำเช่นนั้น

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2785 หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ทำไมเจ้าทำเช่นนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2785 หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ทำไมเจ้าทำเช่นนั้น!
EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq เพราะว่าพวกเขาเองนั้นก็กลัวไม่ต่างกัน

ปราณดาบของเย่หยวนนั้นสังหารจักรพรรดิเซียนลงจนกลายเป็นแค่เศษเนื้อ!

เช่นนั้นแล้วตัวเขาในตอนนี้เก่งกาจแค่ไหนแล้ว?

ไม่อาจวัด!

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียปราณดาบที่โฉปู้ฉุนทิ้งไว้นั้นมันก็ไม่อาจจะสังหารพวกเขาลงได้!

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นเชื่อว่าเย่หยวนที่ถูกตัดเส้นทางยุทธไร้พลังต่อต้านและได้ไล่เขาไปยังแดนสวรรค์ใต้

แต่เวลานี้เย่หยวนนั้นผ่านสามเต๋าทุกข์เก้ากฎไปและผงาดกลับขึ้นมาอีกครั้ง!

แม้ว่าพลังบ่มเพาะของเขานั้นมันจะไม่ได้พัฒนาขึ้นมากมายแต่ว่ากำลังของเขานั้นมันพัฒนาจนเหนือหัวใครๆ ไปสิ้นเชิง!

หากเขาคิดอยากสังหาร มันก็คงไม่มีใครหนีไปได้!

“เย่หยวน มันเป็นข้าเองที่ผิด! ข้านั้นโลภในสมบัติตรงหน้า ให้อภัยข้าด้วยเถอะ!” มารกระทิงกล่าวขึ้นมาด้วยความกลัว

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หึๆ เย่ผู้นี้แค่เชิญพวกเจ้าทั้งหลายมาแลกเปลี่ยนความรู้กันเท่านั้น จะคิดอะไรกันมากมายนัก? เอาล่ะ ความรู้ก็แลกเปลี่ยนกันไปแล้ว กลับบ้านกันเถอะ พี่หลัวต้าหวง!”

พูดจบเย่หยวนก็พุ่งตัวหายไปทิ้งคนทั้งหลายให้อ้าปากค้าง

ได้เห็นเย่หยวนพุ่งตัวหายไปเช่นนั้นร่างของต้าวหยุนก็ผ่อนคลายลงแต่เสื้อคลุมของเขานั้นมันเปียกไปด้วยเหงื่อ

แห่งความกลัว

เพราะว่าแรงกดดันของเย่หยวนนั้นมันหนักหน่วงจนแทบไม่อาจหายใจ!

“เขาหมายความว่าอย่างไรกัน? หรือว่า…เขาจะปล่อยเราไปง่ายๆ เช่นนี้?” จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา

“ปล่อยเราไป? หึๆ จะเป็นไปได้หรือ? เจ้าลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าเขาพูดอะไรไว้ที่พันธมิตรโอสถ?” เทียนลู่กล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มขื่นขม

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปทันที “เขาอยากให้เราส่งมอบสมบัติจากพันธมิตรโอสถกลับคืนไป?”

เมื่อเทียนลู่เตือนขึ้นมาคนทั้งหลายก็นึกย้อนไป

เย่หยวนนั้นเคยพูดไว้ว่า ‘วันหน้าหากพวกมันกลับใจเอามาคืนให้ พร้อมก้มหัวกราบขอโทษข้าก็อาจจะไม่ใจแคบพอยกโทษให้มันได้บ้าง!’

ในตอนนั้นพวกเขาทั้งหลายต่างคิดไปว่ามันเป็นแค่คำพูดยกตัวถือหน้าของผู้ไร้พลัง

แต่ใครจะไปคิดว่าแค่ไม่กี่เดือนนี้เย่หยวนกลับทำให้คำพูดนั้นกลายเป็นจริงได้!

“ส่งคืน? หึๆ หากมันง่ายเช่นนั้นก็ดีสิ! ก่อนนั้นเราเนรเทศพวกเขามายังแดนสวรรค์ใต้เพราะความโลภ เวลานี้คงต้องชดใช้เป็นเท่าตัวแน่! ต้าวหยุน เจ้าพาให้ข้าฉิบหายเสียจริงๆ!” มารกระทิงกล่าวขึ้น

ต้าวหยุนร้องตอบกลับทันที “อย่าได้ลืมว่าวิหารยอดนักบุญของพวกเจ้านั้นเอาไปถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์! เวลานี้เจ้ากลับมาโทษข้าหรือ?”

มารกระทิงนั้นร้องลั่นตอบกลับไป “หากเจ้าไม่ยุยงมีหรือที่ข้าจะทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ออกมา!”

“ไร้สาระ! เจ้าแท้ๆ ที่เป็นคนตัดสินใจ เวลานี้กลับคิดมาโทษข้าหรือ? ก็ได้! หากเจ้าคิดโทษข้าก็มันก็เรื่องของเจ้าแต่เย่หยวนจะโทษข้าหรือไม่นั้นเรายังไม่รู้กัน!” ต้าวหยุนเองก็ไม่คิดยอมแพ้

“พอที!”

จื่อหยางกล่าวขึ้นมาขัด “พวกเจ้าคิดเสียเถอะว่าตัวเองโชคดีแล้ว! หากมิใช่เห็นแก่ว่าเรานั้นช่วยจัดการพันธมิตรโอสถและไม่ได้คิดร้ายถึงชีวิตแก่เขา วันนี้พวกเราคงได้ตายลงสิ้น! ให้พูดแล้วเย่หยวนนั้นก็เป็นคนที่ยึดถือความถูกต้องหากเราไม่คิดเย้ยหยันกดขี่เขาและไล่เขาออกไปจากห้ายอดแดนสวรรค์นั้นเวลานี้เขาคงไม่คิดจะทำอะไรพวกเราด้วยซ้ำ! เรื่องนี้มันเป็นความผิดพวกเราทั้งสิ้น!”

“พูดไปตอนนี้มันก็สายไปแล้ว! ในเวลานี้เราคงมีแต่ต้องเฉือดเนื้อตัวเองออกมาแสดงความขอโทษ! หากความซื่อสัตย์มันไม่พอ เย่หยวนก็คงไม่ปล่อยเราไว้แน่!”

พูดจบจื่อหยางก็พุ่งตัวหายไปทันที

หนึ่งเดือนต่อมานั้นเมืองสวรรค์ใต้ก็ครึกครืนขึ้นมาทันที

จักรพรรดิเซียนมากมายต่างเดินทางมายังเมืองสวรรค์ใต้นี้ด้วยความกลัวและเกรงใจ

ไม่มีใครกล้าบินเข้าเมืองมาด้วยซ้ำ!

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นเหาะเหินลงมาถึงด้านนอกเมืองก็ต้องลงมาเดินเข้าเมืองเหมือนคนธรรมดา

“น้องหลัว นี่คือสมบัติที่นิกายสวรรค์เจ็ดดาวเรานั้นได้จากพันธมิตรโอสถไป เราขอคืนมันให้ทั้งหมด! นอกจากนั้นแล้วเรายังเตรียมของขวัญมาให้ด้วย น้องหลัวช่วยรับมันไว้ด้วยเถอะ!”

ในตอนนี้ต้าวหยุนนั้นมีท่าทางเหมือนเป็นแค่คนรับใช้

เพื่อที่จะมาขอโทษในวันนี้เขานั้นได้รีดเนื้อของนิกายสวรรค์เจ็ดดาวมาจนเกือบหมดสิ้น!

นอกจากสมบัติที่ได้มาจากพันธมิตรโอสถแล้วนิกายสวรรค์เจ็ดดาวก็ได้เอาทรัพยากรและสมบัติจากคลังตัวเอง

มากว่าร้อยละเจ็ดสิบเพื่อขอโทษแก่เย่หยวน

เรียกได้ว่าขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือโดยแท้!

หลัวหยุนชิงนั้นนั่งในตำแหน่งเจ้าบ้านแต่ใบหน้าของเขานั้นกลับเรียบเฉยไม่มีท่าทีตอบรับใดๆ

ต้าวหยุนนั้นกังวลในใจจนเหงื่อไหลท่วมกาย เรานั้นรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนผิดที่สุดหากคิดอยากให้หลัวหยุนชิงยอมให้อภัยนั้นมันต้องทุ่มเทมากกว่าใครๆ!

ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก

เย่หยวนนั้นไม่คิดพบเขา เขาจึงได้แต่ต้องมาขอร้องให้หลัวหยุนชิงอภัยให้!

สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจกัดฟันยื่นดาบออกมา “ดาบเมฆาฟ้านี้เป็นของที่น้องเย่เคยให้แก่ข้าไว้! น้องหลัวนั้นยังมีแค่สมบัติวิญญาณสวรรค์ ใช้ดาบนี้มันน่าจะเหมาะสมทีเดียว!”

หลัวหยุนชิงไม่คิดปฏิเสธและยกเอาดาบเมฆาฟ้าขึ้นมามองดูเล็กน้อยก่อนจะเก็บไป

“สมบัติยอดหมอกนี้มันก็เป็นแค่ของที่เย่หยวนให้ยืม! เวลานี้แค่คืนมันให้แก่เจ้าของเท่านั้น ไม่ต้องมาทำหน้าเหมือนเสียสมบัติประจำตระกูล!” หลัวหยุนชิงดุขึ้น

ต้าวหยุนนั้นได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ เพราะว่าเขานั้นไม่อาจทำใจได้จริงๆ!

สมบัติยอดหมอกนั้นมันช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ให้ได้กว่าร้อยละสามสิบ!

เวลานี้เขากลับต้องเอามันคืนกลับให้เจ้าของ เขาย่อมจะไม่อาจรับได้ง่ายๆ

หลัวหยุนชิงนั้นหันมามองก่อนจะกล่าวขึ้น “แค่นี้หรือ?”

ต้าวหยุนนั้นรีบกล่าวขึ้นตอบ “แน่นอนว่ามันยังมีอีก! เรื่องข้อเสนอของน้องเย่นั้นเราคิดว่ามันไม่มีอะไรเสียหายเลย! ไม่ว่าจะเป็นคนถิ่นหรือผู้บรรลุสวรรค์เราต่างก็เป็นคนเหมือนๆ กัน ไม่ควรแตกแยกกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง! จากวันนี้ไปนิกายสวรรค์เจ็ดดาวข้านั้นจะไม่กีดกันผู้บรรลุสวรรค์อีกแล้วพร้อมรับพวกเขาเข้านิกายเต็มที่! นอกจากนั้นแล้วแดนสวรรค์ใต้นี้มันยังเล็กเกินไป พวกเราทั้งหลายจะถอยกำลังออกจากดินแดนสวรรค์ห้าแสงและพร้อมรับสามยอดนิกายสวรรค์ผู้บรรลุสวรรค์กลับมาปกครอง”

เวลานี้จากห้านิกายสวรรค์นั้นมันเหลือแค่สามนิกายที่มีจักรพรรดิเซียนดูแล

นอกจากว่าจะไม่มีจักรพรรดิเซียนแล้วนั้นอีกสองนิกายสวรรค์นั้นยังแทบจะไม่เหลือศิษย์อีกแล้วด้วย เรียกได้ว่าเหลือแค่ชื่อโดยแท้

เวลานี้ห้านิกายสวรรค์มันจึงเหลือแค่สามนิกายสวรรค์เท่านั้น

หลัวหยุนชิงนั้นหรี่ตามองพร้อมตอบกลับไป “อย่างน้อยเจ้าก็ยังพอเข้าใจ! เย่หยวนนั้นสั่งไว้แล้วว่านี่เป็นโอกาสสุดท้าย! หากวันหน้าเจ้ายังสร้างเรื่องอีกก็จงรับผลที่ตามมาเถอะ!”

“มิกล้า! เรามิกล้า!”

ต้าวหยุนนั้นโล่งใจอย่างมากรีบตอบกลับไปว่ามิกล้าๆ ไม่ขาดปาก

ส่วนอีกด้านนั้นมารกระทิงก็กำลังมองหน้าต้าหวงอย่างเงียบงันอยู่นานสองนาน

“หากรู้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้ทำไมเจ้าถึงทำเช่นนั้น?” ต้าหวงด่าออกมา

“เฮ้อ ข้ารู้ว่าข้าผิด! แต่ตอนนี้มันก็สายเกินแก้แล้ว! ต้าหวง เจ้าเห็นแก่ว่าที่เรานับเป็นพี่น้องกัน ช่วยเขาหมื่นอสูรด้วยเถอะ!”

ต้าหวงนั้นเป็นคนที่ให้ค่าให้สายสัมพันธ์ แต่เขานั้นก็ผิดหวังในมารกระทิงอย่างมาก

เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลนั้นคือสิ่งที่มารกระทิงตอบแทนเย่หยวน!

“หึ! หากไม่ได้อาจารย์เย่ป่านนี้เจ้าจะผ่านเต๋าทุกข์จักรพรรดิเซียนมาได้หรือ? ตัวเจ้าในตอนนี้คงเป็นได้แค่ฝุ่นดินไปแล้ว! พี่น้อง? วันนั้นที่ไปยังพันธมิตรโอสถกันนั้นข้าขอร้องเจ้าแค่ไหน เจ้าไม่เห็นหรือ? เจ้าเคยคิดถึงความเป็นพี่น้องของเรา? เวลานี้เพิ่งมานึกได้หรือว่าเป็นพี่น้องกับข้า?” ต้าหวงได้แต่ต้องร้องด่าขึ้น

มารกระทิงพยักหน้ารับ “ต้าหวง เจ้าเลือกทำถูกแล้ว! แต่ว่าเขาหมื่นอสูรนั้นมันก็เป็นบ้านของเจ้า จะอย่างไรเจ้าก็คงไม่คิดจะปล่อยให้มันถูกทำลายลงหรอกใช่ไหม?”

ต้าหวงตอบกลับไป “ไม่ต้องห่วงหรอก เห็นแก่หน้าข้านี้อาจารย์เย่ท่านย่อมจะไม่ทำให้เขาหมื่นอสูรต้องลำบากมากมาย! แต่ว่าเจ้านั้นก็ต้องทำตัวให้ดีด้วย เพราะว่านี่คือโอกาสสุดท้ายของเจ้าแล้ว!”

……………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+