Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2813 ดีแต่อวดอ้างไร้ซึ่งฝีมือ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2813 ดีแต่อวดอ้างไร้ซึ่งฝีมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2813 ดีแต่อวดอ้างไร้ซึ่งฝีมือ
“เจ้ายังไม่ตายแต่ก็ไม่ห่างจากความตายนักหรอก หลังจากข้าฝังเข็มนี้ไปแล้วเลือดกัดกร่อนในร่างของเจ้าคงลดไปเหลือราวร้อยละเจ็ดสิบ แต่การกดดันมันด้วยการฝังเข็มเช่นนี้ก็ไม่ได้ดีนัก หากไปทำอะไรให้มันกำเริบขึ้นมามันจะยิ่งเป็นความตายที่ทรมานอย่างกว่าเก่า”

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดขู่แต่อย่างใด

เพราะว่าวิชาการฝังเข็มของเขานั้นมันทำได้แค่สะกดอาการ และไม่ได้เป็นการรักษาเลย

แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากวิธีของนิกายยาสุดล้ำมากมาย

สิ่งเดียวที่แตกต่างนั้นคือเย่หยวนไม่ได้บอกให้คนทั้งหลายกลับไปลงสนามรบ

แต่หากมองผ่านๆ แล้วมันย่อมจะแทบไม่ต่างกัน

แต่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

จากเลือดที่ถูกกัดกร่อนไปกว่าร้อยละเก้าสิบ กลับเหลือแค่ร้อยละเจ็ดสิบ!

ตั้งแต่ที่เริ่มสงครามกับเผ่าเลือดมานั้นไม่เคยมีใครในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดลดการกัดกร่อนในกระแสเลือดลงเช่นนี้ได้!

ที่สำคัญไปกว่านั้นตัวเสียวอี้ผิงนั้นยังเป็นคนไข้พิษเลือดกัดกร่อนมาแต่เดิมและได้รับการรักษาด้วยการฉีดเลือดภูตแท้ตามสูตรของนิกายยาสุดล้ำด้วย

เวลานี้เมื่อมันปะทุขึ้นมามันย่อมจะดุร้ายเสียยิ่งกว่าเสือ

แต่เย่หยวนกลับสยบเลือดที่บ้าคลั่งในร่างของเสียวอี้ผิงได้!

พวกเขาทั้งหลายคิดแค่ว่าวิชาฝังเข็มของเย่หยวนนั้น ทำได้แค่หยุดการแพร่ของเลือดกัดกร่อน

ใครจะไปคิดว่ามันจะสยบและชำระล้างได้ด้วย?

ในตอนนี้เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกหดหู่ลงตามๆ กัน

“ขอบพระคุณอาจารย์เย่ที่ช่วยเหลือ!” ที่ด้านข้างนั้นจ่าวเฉินรีบคุกเข่าลง

เย่หยวนหันกลับไปบอก “อย่าเพิ่งรีบขอบคุณข้านัก วิธีการรักษาจะมีหรือไม่นั้นมันยังต้องศึกษากันอีก! หากคิดอยากขอบคุณข้าก็รอให้หาทางรักษาได้จริงๆ ก่อนเถอะ!”

จ่าวเฉินนั้นส่ายหัวออกมา “จ่าวผู้นี้ขอบคุณที่อาจารย์เย่ยอมลงมือช่วยเหลือต่างหาก! เสียวอี้ผิงเจ้าเองก็ยังไม่รีบขอบคุณอาจารย์เย่อีกหรือ?”

เสียวอี้ผิงรีบตอบกลับไป “ข…ขอบคุณอาจารย์เย่มากที่ตอบแทนความชั่วของข้าด้วยบุญคุณครั้งนี้!”

วันนั้นในหมู่คนที่ว่าเย้ยหยันเย่หยวน เสียวอี้ผิงเองก็ร่วมวงไปด้วย และตอนที่เขาเห็นว่าเย่หยวนเป็นคนรักษาตัวเองนั้นเขายิ่งรู้สึกผิดหนักไปกว่าเก่า

เย่หยวนพยักหน้ารับคำขอบคุณนั้นไว้และหันไปหาจ่าวเฉิน “ไปพาคนที่อาการหนักมาที่นี่เร็ว”

“ขอรับ!” เวลานี้จ่าวเฉินได้ยอมรับนับถือเย่หยวนอย่างเต็มที่!

เขารีบพุ่งตัวหายออกไปทันที

เซียวชานนั้นเองก็ไม่นึกฝันว่าเย่หยวนนั้นจะมีวิชาถึงขั้นนี้ ทว่าดวงตาของเขานั้นมันกลับไม่ได้มีแค่ความชื่นชมแสดงออกมา

เพราะเขานั้นกำลังสนใจวิชาที่เหนือล้ำสวรรค์อันนี้!

เต้าเฉินและศิษย์นิกายยาสุดล้ำทั้งหลายเองก็ต่างสนใจไม่แพ้กัน

ไม่นานนักเสียวอี้ผิงก็ถูกหามออกไป เปิดที่ว่างในเต็นท์ให้จ่าวเฉินหามคนไข้รายใหม่เข้ามาวางต่อหน้าเย่หยวน

“เลิกคิดไร้สาระเถอะ พวกเจ้ามีเวลากันอีกแค่ไม่กี่วัน! หลังจากจบเรื่องครั้งนี้แล้วข้าจะถ่ายทอดวิชาหยกมุกเก้าใบให้แน่นอนไม่ต้องห่วง” เย่หยวนหันไปมองเซียวชานก่อนจะกล่าวขึ้นพร้อมหันหน้ากลับมาฝังเข็มต่อ

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวพวกเซียวชานนั้นก็ต้องผงะไม่อยากจะเชื่อ…วิชาที่เหนือฟ้าล้ำสวรรค์เช่นนี้ เย่หยวนกลับจะถ่ายทอดให้พวกเขาง่ายๆ?

เขาคงไม่ได้คิดจะยื้อเวลาหรอกใช่ไหม?

ระหว่างที่ความคิดของเขาทั้งหลายเตลิดไปไกล เย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้งระหว่างรักษา “ในวิกฤตเช่นนี้คนเราควรจะทิ้งความเป็นนิกายแตกแยกและรวมกันเป็นหนึ่ง หยกมุกเก้าใบนั้นมันเป็นสุดยอดวิชาก็จริงแต่ไม่ว่าข้าจะเก่งแค่ไหน ข้าก็ไม่มีทางรักษาคนทั้งสนามรบได้ด้วยตัวคนเดียว ข้ามีแต่ต้องถ่ายทอดมันเท่านั้น การทำเช่นนั้นถึงจะช่วยเหลือชีวิตทหารกล้าได้มากขึ้น”

ได้ยินเช่นนั้นเซียวชานก็แทบอยากจะมุดหน้าลงดินขุดรูหนีไป

เทียบกับเย่หยวนแล้วจิตใจของเขามันช่างคับแคบนัก!

ใช่แล้ว…

หากเย่หยวนนั้นไม่คิดถ่ายทอดมีหรือที่เขาจะแสดงมันออกมาตั้งแต่แรก?

หากเย่หยวนหวงวิชา เขาก็คงไม่คิดจะลงมือใดๆ แน่นอน

แต่เมื่อเขาก้าวออกมาแล้วเขาก็ย่อมจะทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยทัพสวรรค์แรก

ไม่นานนักมันก็ปรากฏพลังแห่งดวงดาวขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากรักษาต่อเนื่องไปถึงห้าวันห้าคืนนั้นเหล่าคนไข้มากมายที่อาการหนักหนาก็ค่อยๆ กลับมาได้สติ และเย่หยวนนั้นไม่ได้หยุดพักเลยแม้แต่น้อย

เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์คนอื่นๆ ที่ดูยังรู้สึกง่วงขึ้นมา ทว่าคนที่รักษายังไม่หยุดพัก แล้วคนที่แค่ดูจะไปพักได้อย่างไร?

พวกเขาทั้งหลายต่างคิดว่าเย่หยวนเป็นตัวประหลาด ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

การฝังเข็มนั้นมันเป็นงานที่ต้องใช้ความแม่นยำและสมาธิอย่างมาก เพราะจุดในร่างกายของมนุษย์นั้นหากพลาดไปนิดเดียว มันก็เท่ากับความตายหรือพิการได้ง่ายๆ

เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นงานที่กดดันอย่างมาก แต่ผ่านมาห้าวันเย่หยวนที่ไม่พักเลยกลับไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง!

เรื่องราวเช่นนี้แม้แต่เซียวชานผู้เป็นถึงจักรพรรดิเที่ยงก็ยังไม่กล้าจะทำ จนสุดท้ายเย่หยวนก็กระอักเลือดออกมาและหยุดมือลุกขึ้นยืน

“เรียนรู้กันบ้างหรือยัง?” เย่หยวนหันไปถามเซียวชาน

เซียวชานพยักหน้ารับอย่างมั่นใจ “เรียนรู้ได้กว่าร้อยละเก้าสิบแล้ว! ข้าคิดว่าหากฝึกอีกสักสองสามวันก็คงสามารถเข้าใจร้อยละสิบที่เหลือได้ไม่ยากอย่างแน่นอน!”

เย่หยวนหันไปมองหน้าเต้าเฉินและถามขึ้น “เจ้าเล่า?”

เต้าเฉินตอบกลับไป “ร้อยละเจ็ดสิบได้!”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “คนที่คิดว่าตัวเองเรียนรู้ได้เกินร้อยละเจ็ดสิบแล้วให้ก้าวออกมา”

พูดจบนักหลอมโอสถสวรรค์สิบคนก็ก้าวขึ้นมาพร้อมๆ กัน

คนทั้งสิบนั้นต่างเป็นคนจากนิกายยาสุดล้ำ

“ข้าได้สอนวิธีการสำคัญไปหมดแล้ว เวลานี้พวกเจ้าลองออกมาฝังเข็มดู! แต่ข้าขอบอกไว้ก่อนเลยว่านี่คือชีวิตคน เจ้าทำได้แค่ไหนก็พูดออกมา! อย่าได้พูดว่าทำได้เกินกว่านั้น! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกลงโทษตามกฎกองทัพ!”

“อาจารย์เย่ท่านจะดูถูกนิกายยาสุดล้ำเราเกินไปแล้ว! ศิษย์นิกายยาสุดล้ำนั้นไม่ว่าจะอ่อนแอแค่ไหนพวกเขาก็เก่งกาจกว่าคนนอกไปหลายเท่าตัว! หยกมุกเก้าใบนั้นมันซับซ้อนอย่างไม่เคยมีจริงๆ แต่ว่าหยกมุกเก้าใบฉบับปรับปรุงของท่านมันเข้าใจง่ายมาก สำหรับเราแล้วมันย่อมจะไม่ถือเป็นความท้าทายใดๆ เลย!” เต้าเฉินยิ้มขึ้นมาด้วยความมั่นใจ

เหล่าศิษย์นิกายระดับเจ้าโลกเหล่านี้ย่อมจะเก่งกาจระดับต้นๆ ของทุกสวรรค์

ในสามสิบสามสวรรค์นั้นเหล่านิกายที่ก้าวถึงระดับเจ้าโลกได้มันก็มีไม่มากนัก ซึ่งความยโสของพวกเขามันย่อมจะเข้าใจได้

เย่หยวนพยักหน้ารับขึ้นมา “เอาล่ะ! เช่นนั้นพวกเจ้าลองลงมือให้ข้าดู!”

เรื่องของเซียวชานผู้เป็นถึงนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกนี้เย่หยวนย่อมจะไม่กังวล

แต่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้านั้นเขากังวลไม่น้อย

ความเป็นหมอนั้นหากรักษาไม่ได้ก็คือรักษาไม่ได้ ถ้าปล่อยให้คนไข้ที่เกินมือตัวเองตายไปตรงหน้าก็คงไม่มีใครว่ากล่าว แต่หากบอกว่ารักษาได้แล้วปล่อยคนไข้ตายคามือไป…มันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่!

ไม่นานนักเซียวชานนั้นก็เริ่มลงเข็ม

เต็นท์พลันสว่างจ้าขึ้นทันที!

ในหมู่พวกเขานั้นพลังดวงดาวของเซียวชานย่อมจะรุนแรงที่สุด

สำหรับเหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำแล้ว ความพ่ายแพ้ย่อมไม่ใช่เรื่องจะยอมรับได้ง่ายๆ

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงได้รีบออกตัวมาแสดงความสามารถ คิดจะลบล้างความผิดพลาดของนิกาย

ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุด

เซียวชานนั้นพยายามสุดความสามารถและทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ!

นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกอย่างเขานั้นย่อมจะมีสายตาและความรู้ที่ลึกล้ำกว่าจะเอานักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้ามาเทียบ

ห้าวันที่ผ่านมานี้ เขาได้จ้องมองตาไม่กะพริบ

ได้เห็นการแสดงฝีมือของยอดปรมาจารย์อย่างเย่หยวนกับตาตัวเอง เขาก็ยิ่งมั่นใจ! และวินาทีที่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกลงมือนั้น มันย่อมจะเป็นอะไรที่เกินธรรมดา

แล้วเซียวชานก็คิดจะข่มเย่หยวนด้วย เพื่อที่จะกู้ชื่อคืนให้นิกาย เพราะฉะนั้นตอนนี้ดวงดาวของเขามันจึงเจิดจ้าเปล่งประกาย

แม้แต่พลังดวงดาวที่เย่หยวนเรียกลงมามันก็ยังไม่เจิดจ้าได้เท่านี้

“อาจารย์เซียวชานนั้นสมชื่อว่าเป็นแม่ทัพนายกองแพทย์สนาม นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกโดยแท้! เวลาแค่ห้าวันนี้เขากลับสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ เก่งกาจจริง!”

“อาจารย์เต้าเฉินเองก็เก่งกาจนัก เขานั้นเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าแต่อนาคตของเขาคงสดใสมากแล้ว!”

“นิกายยาสุดล้ำนั้นสมชื่อเป็นนิกายยาสุดล้ำจริงๆ รากฐานของพวกเขานั้นมันแตกต่างจากคนนอกสิ้นเชิง!”

เมื่อศิษย์นิกายยาสุดล้ำลงมือนั้นมันก็ย่อมจะเกิดเสียงชื่นชมตามมา

ไม่ใช่แค่เพียงเซียวชานเท่านั้น แต่แม้แต่เหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำคนอื่นๆ เองก็เก่งกาจจนเหลือเชื่อ

แต่ได้เห็นเซียวชานลงเข็มไปนั้นเย่หยวนก็ต้องทำหน้าเครียดขึ้น

เรียนรู้ได้ร้อยละเก้าสิบ?

โม้กันถึงขนาดนี้?

หรือว่าคนจากนิกายยาสุดล้ำมันจะดีแต่อวดอ้างไร้ซึ่งฝีมือ?

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2813 ดีแต่อวดอ้างไร้ซึ่งฝีมือ

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2813 ดีแต่อวดอ้างไร้ซึ่งฝีมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2813 ดีแต่อวดอ้างไร้ซึ่งฝีมือ
“เจ้ายังไม่ตายแต่ก็ไม่ห่างจากความตายนักหรอก หลังจากข้าฝังเข็มนี้ไปแล้วเลือดกัดกร่อนในร่างของเจ้าคงลดไปเหลือราวร้อยละเจ็ดสิบ แต่การกดดันมันด้วยการฝังเข็มเช่นนี้ก็ไม่ได้ดีนัก หากไปทำอะไรให้มันกำเริบขึ้นมามันจะยิ่งเป็นความตายที่ทรมานอย่างกว่าเก่า”

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดขู่แต่อย่างใด

เพราะว่าวิชาการฝังเข็มของเขานั้นมันทำได้แค่สะกดอาการ และไม่ได้เป็นการรักษาเลย

แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากวิธีของนิกายยาสุดล้ำมากมาย

สิ่งเดียวที่แตกต่างนั้นคือเย่หยวนไม่ได้บอกให้คนทั้งหลายกลับไปลงสนามรบ

แต่หากมองผ่านๆ แล้วมันย่อมจะแทบไม่ต่างกัน

แต่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

จากเลือดที่ถูกกัดกร่อนไปกว่าร้อยละเก้าสิบ กลับเหลือแค่ร้อยละเจ็ดสิบ!

ตั้งแต่ที่เริ่มสงครามกับเผ่าเลือดมานั้นไม่เคยมีใครในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดลดการกัดกร่อนในกระแสเลือดลงเช่นนี้ได้!

ที่สำคัญไปกว่านั้นตัวเสียวอี้ผิงนั้นยังเป็นคนไข้พิษเลือดกัดกร่อนมาแต่เดิมและได้รับการรักษาด้วยการฉีดเลือดภูตแท้ตามสูตรของนิกายยาสุดล้ำด้วย

เวลานี้เมื่อมันปะทุขึ้นมามันย่อมจะดุร้ายเสียยิ่งกว่าเสือ

แต่เย่หยวนกลับสยบเลือดที่บ้าคลั่งในร่างของเสียวอี้ผิงได้!

พวกเขาทั้งหลายคิดแค่ว่าวิชาฝังเข็มของเย่หยวนนั้น ทำได้แค่หยุดการแพร่ของเลือดกัดกร่อน

ใครจะไปคิดว่ามันจะสยบและชำระล้างได้ด้วย?

ในตอนนี้เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกหดหู่ลงตามๆ กัน

“ขอบพระคุณอาจารย์เย่ที่ช่วยเหลือ!” ที่ด้านข้างนั้นจ่าวเฉินรีบคุกเข่าลง

เย่หยวนหันกลับไปบอก “อย่าเพิ่งรีบขอบคุณข้านัก วิธีการรักษาจะมีหรือไม่นั้นมันยังต้องศึกษากันอีก! หากคิดอยากขอบคุณข้าก็รอให้หาทางรักษาได้จริงๆ ก่อนเถอะ!”

จ่าวเฉินนั้นส่ายหัวออกมา “จ่าวผู้นี้ขอบคุณที่อาจารย์เย่ยอมลงมือช่วยเหลือต่างหาก! เสียวอี้ผิงเจ้าเองก็ยังไม่รีบขอบคุณอาจารย์เย่อีกหรือ?”

เสียวอี้ผิงรีบตอบกลับไป “ข…ขอบคุณอาจารย์เย่มากที่ตอบแทนความชั่วของข้าด้วยบุญคุณครั้งนี้!”

วันนั้นในหมู่คนที่ว่าเย้ยหยันเย่หยวน เสียวอี้ผิงเองก็ร่วมวงไปด้วย และตอนที่เขาเห็นว่าเย่หยวนเป็นคนรักษาตัวเองนั้นเขายิ่งรู้สึกผิดหนักไปกว่าเก่า

เย่หยวนพยักหน้ารับคำขอบคุณนั้นไว้และหันไปหาจ่าวเฉิน “ไปพาคนที่อาการหนักมาที่นี่เร็ว”

“ขอรับ!” เวลานี้จ่าวเฉินได้ยอมรับนับถือเย่หยวนอย่างเต็มที่!

เขารีบพุ่งตัวหายออกไปทันที

เซียวชานนั้นเองก็ไม่นึกฝันว่าเย่หยวนนั้นจะมีวิชาถึงขั้นนี้ ทว่าดวงตาของเขานั้นมันกลับไม่ได้มีแค่ความชื่นชมแสดงออกมา

เพราะเขานั้นกำลังสนใจวิชาที่เหนือล้ำสวรรค์อันนี้!

เต้าเฉินและศิษย์นิกายยาสุดล้ำทั้งหลายเองก็ต่างสนใจไม่แพ้กัน

ไม่นานนักเสียวอี้ผิงก็ถูกหามออกไป เปิดที่ว่างในเต็นท์ให้จ่าวเฉินหามคนไข้รายใหม่เข้ามาวางต่อหน้าเย่หยวน

“เลิกคิดไร้สาระเถอะ พวกเจ้ามีเวลากันอีกแค่ไม่กี่วัน! หลังจากจบเรื่องครั้งนี้แล้วข้าจะถ่ายทอดวิชาหยกมุกเก้าใบให้แน่นอนไม่ต้องห่วง” เย่หยวนหันไปมองเซียวชานก่อนจะกล่าวขึ้นพร้อมหันหน้ากลับมาฝังเข็มต่อ

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวพวกเซียวชานนั้นก็ต้องผงะไม่อยากจะเชื่อ…วิชาที่เหนือฟ้าล้ำสวรรค์เช่นนี้ เย่หยวนกลับจะถ่ายทอดให้พวกเขาง่ายๆ?

เขาคงไม่ได้คิดจะยื้อเวลาหรอกใช่ไหม?

ระหว่างที่ความคิดของเขาทั้งหลายเตลิดไปไกล เย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้งระหว่างรักษา “ในวิกฤตเช่นนี้คนเราควรจะทิ้งความเป็นนิกายแตกแยกและรวมกันเป็นหนึ่ง หยกมุกเก้าใบนั้นมันเป็นสุดยอดวิชาก็จริงแต่ไม่ว่าข้าจะเก่งแค่ไหน ข้าก็ไม่มีทางรักษาคนทั้งสนามรบได้ด้วยตัวคนเดียว ข้ามีแต่ต้องถ่ายทอดมันเท่านั้น การทำเช่นนั้นถึงจะช่วยเหลือชีวิตทหารกล้าได้มากขึ้น”

ได้ยินเช่นนั้นเซียวชานก็แทบอยากจะมุดหน้าลงดินขุดรูหนีไป

เทียบกับเย่หยวนแล้วจิตใจของเขามันช่างคับแคบนัก!

ใช่แล้ว…

หากเย่หยวนนั้นไม่คิดถ่ายทอดมีหรือที่เขาจะแสดงมันออกมาตั้งแต่แรก?

หากเย่หยวนหวงวิชา เขาก็คงไม่คิดจะลงมือใดๆ แน่นอน

แต่เมื่อเขาก้าวออกมาแล้วเขาก็ย่อมจะทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยทัพสวรรค์แรก

ไม่นานนักมันก็ปรากฏพลังแห่งดวงดาวขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากรักษาต่อเนื่องไปถึงห้าวันห้าคืนนั้นเหล่าคนไข้มากมายที่อาการหนักหนาก็ค่อยๆ กลับมาได้สติ และเย่หยวนนั้นไม่ได้หยุดพักเลยแม้แต่น้อย

เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์คนอื่นๆ ที่ดูยังรู้สึกง่วงขึ้นมา ทว่าคนที่รักษายังไม่หยุดพัก แล้วคนที่แค่ดูจะไปพักได้อย่างไร?

พวกเขาทั้งหลายต่างคิดว่าเย่หยวนเป็นตัวประหลาด ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

การฝังเข็มนั้นมันเป็นงานที่ต้องใช้ความแม่นยำและสมาธิอย่างมาก เพราะจุดในร่างกายของมนุษย์นั้นหากพลาดไปนิดเดียว มันก็เท่ากับความตายหรือพิการได้ง่ายๆ

เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นงานที่กดดันอย่างมาก แต่ผ่านมาห้าวันเย่หยวนที่ไม่พักเลยกลับไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง!

เรื่องราวเช่นนี้แม้แต่เซียวชานผู้เป็นถึงจักรพรรดิเที่ยงก็ยังไม่กล้าจะทำ จนสุดท้ายเย่หยวนก็กระอักเลือดออกมาและหยุดมือลุกขึ้นยืน

“เรียนรู้กันบ้างหรือยัง?” เย่หยวนหันไปถามเซียวชาน

เซียวชานพยักหน้ารับอย่างมั่นใจ “เรียนรู้ได้กว่าร้อยละเก้าสิบแล้ว! ข้าคิดว่าหากฝึกอีกสักสองสามวันก็คงสามารถเข้าใจร้อยละสิบที่เหลือได้ไม่ยากอย่างแน่นอน!”

เย่หยวนหันไปมองหน้าเต้าเฉินและถามขึ้น “เจ้าเล่า?”

เต้าเฉินตอบกลับไป “ร้อยละเจ็ดสิบได้!”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “คนที่คิดว่าตัวเองเรียนรู้ได้เกินร้อยละเจ็ดสิบแล้วให้ก้าวออกมา”

พูดจบนักหลอมโอสถสวรรค์สิบคนก็ก้าวขึ้นมาพร้อมๆ กัน

คนทั้งสิบนั้นต่างเป็นคนจากนิกายยาสุดล้ำ

“ข้าได้สอนวิธีการสำคัญไปหมดแล้ว เวลานี้พวกเจ้าลองออกมาฝังเข็มดู! แต่ข้าขอบอกไว้ก่อนเลยว่านี่คือชีวิตคน เจ้าทำได้แค่ไหนก็พูดออกมา! อย่าได้พูดว่าทำได้เกินกว่านั้น! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกลงโทษตามกฎกองทัพ!”

“อาจารย์เย่ท่านจะดูถูกนิกายยาสุดล้ำเราเกินไปแล้ว! ศิษย์นิกายยาสุดล้ำนั้นไม่ว่าจะอ่อนแอแค่ไหนพวกเขาก็เก่งกาจกว่าคนนอกไปหลายเท่าตัว! หยกมุกเก้าใบนั้นมันซับซ้อนอย่างไม่เคยมีจริงๆ แต่ว่าหยกมุกเก้าใบฉบับปรับปรุงของท่านมันเข้าใจง่ายมาก สำหรับเราแล้วมันย่อมจะไม่ถือเป็นความท้าทายใดๆ เลย!” เต้าเฉินยิ้มขึ้นมาด้วยความมั่นใจ

เหล่าศิษย์นิกายระดับเจ้าโลกเหล่านี้ย่อมจะเก่งกาจระดับต้นๆ ของทุกสวรรค์

ในสามสิบสามสวรรค์นั้นเหล่านิกายที่ก้าวถึงระดับเจ้าโลกได้มันก็มีไม่มากนัก ซึ่งความยโสของพวกเขามันย่อมจะเข้าใจได้

เย่หยวนพยักหน้ารับขึ้นมา “เอาล่ะ! เช่นนั้นพวกเจ้าลองลงมือให้ข้าดู!”

เรื่องของเซียวชานผู้เป็นถึงนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกนี้เย่หยวนย่อมจะไม่กังวล

แต่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้านั้นเขากังวลไม่น้อย

ความเป็นหมอนั้นหากรักษาไม่ได้ก็คือรักษาไม่ได้ ถ้าปล่อยให้คนไข้ที่เกินมือตัวเองตายไปตรงหน้าก็คงไม่มีใครว่ากล่าว แต่หากบอกว่ารักษาได้แล้วปล่อยคนไข้ตายคามือไป…มันคงกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่!

ไม่นานนักเซียวชานนั้นก็เริ่มลงเข็ม

เต็นท์พลันสว่างจ้าขึ้นทันที!

ในหมู่พวกเขานั้นพลังดวงดาวของเซียวชานย่อมจะรุนแรงที่สุด

สำหรับเหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำแล้ว ความพ่ายแพ้ย่อมไม่ใช่เรื่องจะยอมรับได้ง่ายๆ

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงได้รีบออกตัวมาแสดงความสามารถ คิดจะลบล้างความผิดพลาดของนิกาย

ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุด

เซียวชานนั้นพยายามสุดความสามารถและทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติ!

นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกอย่างเขานั้นย่อมจะมีสายตาและความรู้ที่ลึกล้ำกว่าจะเอานักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้ามาเทียบ

ห้าวันที่ผ่านมานี้ เขาได้จ้องมองตาไม่กะพริบ

ได้เห็นการแสดงฝีมือของยอดปรมาจารย์อย่างเย่หยวนกับตาตัวเอง เขาก็ยิ่งมั่นใจ! และวินาทีที่เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกลงมือนั้น มันย่อมจะเป็นอะไรที่เกินธรรมดา

แล้วเซียวชานก็คิดจะข่มเย่หยวนด้วย เพื่อที่จะกู้ชื่อคืนให้นิกาย เพราะฉะนั้นตอนนี้ดวงดาวของเขามันจึงเจิดจ้าเปล่งประกาย

แม้แต่พลังดวงดาวที่เย่หยวนเรียกลงมามันก็ยังไม่เจิดจ้าได้เท่านี้

“อาจารย์เซียวชานนั้นสมชื่อว่าเป็นแม่ทัพนายกองแพทย์สนาม นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกโดยแท้! เวลาแค่ห้าวันนี้เขากลับสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ เก่งกาจจริง!”

“อาจารย์เต้าเฉินเองก็เก่งกาจนัก เขานั้นเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าแต่อนาคตของเขาคงสดใสมากแล้ว!”

“นิกายยาสุดล้ำนั้นสมชื่อเป็นนิกายยาสุดล้ำจริงๆ รากฐานของพวกเขานั้นมันแตกต่างจากคนนอกสิ้นเชิง!”

เมื่อศิษย์นิกายยาสุดล้ำลงมือนั้นมันก็ย่อมจะเกิดเสียงชื่นชมตามมา

ไม่ใช่แค่เพียงเซียวชานเท่านั้น แต่แม้แต่เหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำคนอื่นๆ เองก็เก่งกาจจนเหลือเชื่อ

แต่ได้เห็นเซียวชานลงเข็มไปนั้นเย่หยวนก็ต้องทำหน้าเครียดขึ้น

เรียนรู้ได้ร้อยละเก้าสิบ?

โม้กันถึงขนาดนี้?

หรือว่าคนจากนิกายยาสุดล้ำมันจะดีแต่อวดอ้างไร้ซึ่งฝีมือ?

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+