Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2820 ท้าทายจนแทบคลั่ง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2820 ท้าทายจนแทบคลั่ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2820 ท้าทายจนแทบคลั่ง!
ทางเผ่าเลือดนั้นเงียบกริบไร้เสียงใด

มันไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เกิดขึ้นมาเพราะความตกตะลึง พวกเขานั้นไม่เคยเห็นใครทำอะไรเช่นนี้มาก่อน!

กล้ามาถึงหน้าฐานเผ่าเลือดและเรียกหาพวกเขา มันย่อมจะไม่เคยมีใครในทวีปสวรรค์แรกที่ทำเช่นนี้มาก่อน ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังมากันแค่ห้าคน!

พวกนี้มันคนบ้า?

“เผ่าเลือดของเจ้านั้นเรียกตัวเองว่าเก่งกาจเหนือทุกสวรรค์ไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้เงียบเป็นเป่าสากเช่นนี้เล่า? หากมีปัญญาจริงก็ออกมาสู้ตัวต่อตัวกับปู่หยางเจ้าหน่อยสิ ปู่หยางจะให้สู้สิบต่อหนึ่งไม่สิ ห้าสิบต่อหนึ่งก็ยังไหว!”

“พวกอ่อนเอ๊ย! ย่าเจ้ามาอยู่ถึงหน้าประตูแล้วแต่พวกเจ้ากลับไม่มีใครกล้าออกมาต่อสู้เลยหรือ? เผ่าเลือดเจ้ามันยังกล้าเรียกตัวเองว่าแข็งแกร่งหนักหนาได้อย่างไร? สุดท้ายแล้วต่อให้จะเป็นกองทัพจักรพรรดิเซียนตั้งห้าพันแต่ก็ถูกเราฆ่าจนหัวหดไม่กล้าโผล่หน้าออกมาอีก! มันอ่อนจนแทบจะไหวลู่ไปตามลมแล้วมั้งเนี่ย!”

จิงเฟยเองก็เป็นคนที่ชอบหาความสนุกเช่นนี้อยู่แล้ว นางจึงรีบก้าวออกมาพูดเย้ยหยันตามทันที

นางนั้นตัวเตี้ยเป็นแค่เด็กน้อยแต่ว่ากลับยืนเอามือไพล่หลังราวกับผู้อาวุโสพร้อมทำหน้าดูถูกเหยียดหยามจนทำให้เผ่าเลือดทั้งหลายชิงชังจนแทบจะขาดใจ

ศึกในครั้งนั้นมันเป็นความอับอายของเผ่าเลือด

เผ่าเลือดมากมายต้องตายลงไปเพราะศึกครั้งนั้น เมื่อถูกจิงเฟยขุดแผลเก่าขึ้นมาเช่นนี้มันย่อมจะทำให้เผ่าเลือดมากมายหน้าดำหน้าแดงกันไป กับคำเย้ยหยันไม่หยุดจากปากของหยางชิงด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้เผ่าเลือดทั้งหลายเดือดดาลวิ่งมาขอร้องนายกองของตนให้ออกไปต่อสู้ทันที

แต่หากไม่มีคำสั่งเบื้องบนลงมาพวกเขาก็ไม่อาจจะทิ้งตำแหน่งไปได้ ในค่ายของเผ่าเลือดนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความเดือดดาลของผู้คน!

“ท่านแม่ทัพ ให้ข้าออกไปสู้เถอะ ข้าจะไปสังหารไอ้เด็กนั่นและล้างแค้น!”

คนที่พูดนั้นคือฮันกวง ก่อนนั้นเขาถูกดาบเต๋าของเย่หยวนทำลายฐานพลังการบ่มเพาะจนตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นตัวสมบูรณ์มีพลังเพียงแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นต้นเท่านั้น

คำพูดของจิงเฟยนั้นมันเหมือนน้ำร้อนที่ราดลงแผลเก่าของเขา

เพราะว่าศึกครั้งนั้นคนที่นำทัพมันคือเขา

นั่นเป็นศึกที่อนาถที่สุดของเผ่าเลือดเท่าที่เคยมีมา

หลัวชวนนั้นเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเกแต่ต้องส่ายหัวออกมา “พวกมันมีกันแค่ห้าคนแต่ก็กล้าออกมาท้าทายเราเช่นนี้ มันย่อมจะเป็นแผนล่อเราออกไปแน่แล้ว! ที่สำคัญไปกว่านั้น…เจ้าออกไปสภาพนี้ก็มีแต่จะตาย!”

ฮันกวงนั้นแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีไปเพราะว่าสภาพของเขาในตอนนี้มันคงไม่อาจจะรับดาบของเย่หยวนได้แม้แต่ครั้งเดียวด้วยซ้ำไป

หากตอนนี้เย่หยวนฟันดาบเต๋าออกมาเขาคงไม่เหลือพลังพอจะฟื้นคืนชีพแล้ว แต่การถูกคนมาท้าทายถึงประตูเช่นนี้มันก็น่าคับแค้นจนเกินรับ!

เห็นสภาพเช่นนั้นหลัวชวนก็กล่าวขึ้น “รอก่อนเถอะ อีกไม่นานท่านแม่ทัพใหญ่คงตัดสินใจลงมาแน่”

เผ่าเลือดนั้นเองก็มีแม่ทัพใหญ่ที่เป็นมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวนามว่าเซี่ยหลิงเช่นกัน และตอนนี้เขากำลังเข้าไปรายงานให้แก่แม่ทัพสูงสุดของเผ่าเลือดนามว่าหลี่เหอ

เหล่ามหาจักรพรรดิของเผ่าเลือดนั้นต่างเฝ้าดูกันอยู่รอบๆ เส้นทางมิติและไม่กล้าจะออกห่างจากมัน ทำให้พื้นที่รอบๆ นั้นจะถูกทหารระดับล่างเฝ้าดูแลแทน

“แผนของทัพสวรรค์แรกมันคงเป็นการล่อเสือออกจากถ้ำแน่แล้ว เราจะติดกับมันไม่ได้! ส่งจักรพรรดิเที่ยงออกไปสังหารพวกมันให้หมด! แต่จำไว้ว่าถ้าสังหารได้ก็สังหาร แต่อย่าได้ตามเข้าไปจนลึกเกินตัว!” หลี่เหอกล่าว

สำหรับพวกเขาแล้วการป้องกันเส้นทางมิติย่อมจะมีความสำคัญที่สุด

เพื่อที่จะเปิดเส้นทางมิตินี้ขึ้นมา เผ่าเลือดย่อมจะต้องทุ่มทรัพยากรและแรงงานไปมหาศาล

หากเสียเส้นทางมิติไปพวกเขาย่อมจะไม่อาจทนรับได้

ท่าทางแปลกๆ ของพวกเย่หยวนนั้นมันกลับได้ทำให้หลี่เหอนั้นกังวลขึ้นมาแทน

คลื่นพลังรุนแรงหลายสายพุ่งออกมาจากค่ายเผ่าเลือด เย่หยวนและพรรคพวกหันหลังพุ่งตัวกลับทันที!

พวกเขานั้นยืนอยู่ในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลทำให้มีเวลาพอจะหนีจากมือของจักรพรรดิเที่ยงได้ง่ายๆ

“อะไรวะเนี่ย พวกเจ้ามันขี้ขลาดเสียจริงใช้เป็นแต่จักรพรรดิเที่ยงออกมาไล่รังแกปู่หยาง! หลังจากปู่หยางบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้บ้าง ข้าจะกลับมาสังหารพวกเจ้าให้ขี้หดกลับเข้าก้นเลย!” หยางชิงพูดไปร้องไป

“กลับมา!”

ด้วยความกังวลว่าจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายนั้นจะเสียท่าติดกับดัก เซี่ยหลิงจึงเรียกพวกเขากลับเข้าฐาน

เหล่าจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายได้แต่ต้องกัดฟันพุ่งตัวกลับเข้ามา พวกเขานั้นกลับมาเพิ่งจะถึงพื้นแต่พวกเย่หยวนทั้งห้าก็กลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้งแล้ว

“พวกลูกหลานเผ่าเลือด พวกเจ้าใช้เป็นแค่พลังบ่มเพาะข่มขู่คนหรือ? พ่อเจ้านี้ไร้เทียมทานในระดับจักรพรรดิเซียนด้วยกัน พวกจักรพรรดิเซียนมันมีแต่พวกปอดแหกหรือ? ขยะ! วันหน้าก็อย่าได้มาพูดว่าเผ่าเลือดเก่งอย่างนั้นอย่างนี้อีกแล้วกัน! ปู่เจ้านี้จะกระทืบให้เลือดกบปากเลย!”

หยางชิงนั้นร้องขึ้นมาสุดเสียงอย่างไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย คำใดที่มันไม่น่าฟังนั้นได้หลุดออกมาจากปากของเขาจนหมดสิ้นทำให้อีกฝ่ายนั้นแทบอกแตกตาย

แต่เมื่อจักรพรรดิเที่ยงเผ่าเลือดออกมา พวกเย่หยวนก็จะหนีหายวับไป

แต่เมื่อพวกเขากลับเข้าค่าย พวกเย่หยวนก็จะกลับมา ทำให้เวลานี้สภาพภายในค่ายเผ่าเลือดนั้นเดือดปุดๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นที่แทบไม่อาจยืนแถวกันได้ต้องเดินมาขอร้องแม่ทัพนายกองของตัวเองให้ออกไปต่อสู้

“ท่านแม่ทัพ เราทนไม่ไหวแล้ว! พวกมันมารังแกเผ่าเลือดอย่างกับว่าเราไม่มียอดฝีมือ!”

“ท่านแม่ทัพ ให้ข้าออกไปสู้เถอะ! ข้าจะไปกระทืบไอ้ปู่นั้นให้มันเลือดออกปากเอง อยากเห็นเหลือเกินว่ามันจะไร้เทียมทานได้แค่ไหน!”

“ใช่แล้ว ท่านแม่ทัพ! ต่อให้เราจะสู้มันไม่ได้แต่พวกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนก็คงไม่มีทางแพ้หรอกใช่ไหม? ไปสู้เถอะ!”

“ให้เราไปสู้เถอะ!”

ในค่ายเผ่าเลือดนั้นคนที่แทบคลั่งไปแล้วก็มี ตอนนี้ต่อให้จะรู้ว่าแพ้แต่ก็ไม่อาจทนไหวอยากจะออกไปสู้ให้มันจบๆ ไป เผ่าเลือดนั้นวางท่าเหนือหัวพันธมิตรสวรรค์แรกมาตลอด

แม้แต่ในศึกทางเหนือนี้พวกเขาก็เพิ่งได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น

เรื่องน่าคับแค้นเช่นนี้ พวกเขาย่อมไม่อาจทน หลังจากถูกพูดขอไปอีกหลายครั้งในที่สุดเซี่ยหลิงก็ไม่อาจทนได้ไหวเช่นกัน

“ปาห่าว จินเฉิงพวกเจ้าพานายกองออกไปสู้กันพวกมันเสีย! แต่ระวังไว้ แม้ว่าปากมันจะดีแต่ว่าฝีมือมันก็ดีไม่แพ้ปาก พวกมันคงไร้เทียมทานอย่างที่อ้างจริง!” สุดท้ายเซี่ยหลิงก็ไม่อาจทนไหว

เพราะตอนนี้เขาเองก็หมดความอดทนแล้วเช่นกัน

ในฐานะแม่ทัพเผ่าเลือดนั้นเขามีแต่กดขี่คนอื่นมีหรือที่ต้องมาฟังคำเย้ยหยันหน้าประตูบ้านอย่างไม่อาจทำอะไรได้เช่นนี้?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำจากปากของหยางชิงนั้นที่มันน่าเอาหมัดยัดปากใส่สักทีจริงๆ

เพราะเขาคนนี้แตกต่างจากเด็กน้อยขี้เล่นอย่างจิงเฟย ความโอหังอวดดีของเขาคนนี้เป็นสันดานในจิตวิญญาณต่อให้จะไม่พูดแต่ท่าทางการวางตัวของเขามันก็น่าหมั่นไส้อย่างถึงที่สุด

และที่สำคัญคือปากของเขานั้นดีเสียเหลือเกิน

ได้เห็นเซี่ยหลิงสั่งออกมาเช่นนั้นพรรคพวกปาห่าวก็รับคำสั่งและพานายกองออกไปด้วยท่าทางเปี่ยมกำลัง

“ท่านแม่ทัพวางใจ เราเองก็ไร้เทียมทานเหมือนกันไม่ใช่หรือ? หากไม่ไปเจอคนระดับร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนแล้วเราจะกลัวใครอีก! พวกเด็กเวรนี่ได้ตายแน่!” ปาห่าวร้องขึ้นประกาศ

นายกองทั้งหลายนั้นต่างเชิดหน้าพุ่งตัวขึ้นไปหาพวกหยางชิงทั้งห้าทันที

เมื่อหยางชิงได้เห็นคนทั้งหลายนี้เขาก็ยิ้มกว้างขึ้น

เขานั้นปากดีแต่ก็กล้าหาญ ได้เห็นว่าเผ่าเลือดออกมาตามคำท้าจริงๆ เขาก็ตื่นเต้นขึ้นมา

“เผ่าเลือดมันยังมีคนกล้าอยู่เว้ย! พวกเจ้าคนใดเป็นร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน? ที่เหลือไสหัวไปเถอะ พ่อเจ้านี้จะกระทืบให้เละเอง!” หยางชิงร้องขึ้นมา

เมื่อพวกปาห่าวได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็มีความคิดอยากจะฉีกร่างหยางชิงออกเป็นชิ้นๆ

เขาหัวเราะตอบกลับไป “เจ้าปากหมา เจ้ามันไม่มีค่าพอให้ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนลงมือหรอก! แค่พวกเราก็พอแล้ว!”

หยางชิงนั้นตอบกลับไปด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “แค่พวกเจ้านี้? เจ้าคิดว่าคืนชีพได้แล้วเก่งนัก? ปู่หยางเจ้านี้ไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน ข้าจะกระทืบเจ้าจนกว่าจะคืนชีพไม่ขึ้นเอง!”

พูดจบหยางชิงก็แทงหอกเข้าไปหาตัวปาห่าวในทันที!

……………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2820 ท้าทายจนแทบคลั่ง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2820 ท้าทายจนแทบคลั่ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2820 ท้าทายจนแทบคลั่ง!
ทางเผ่าเลือดนั้นเงียบกริบไร้เสียงใด

มันไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เกิดขึ้นมาเพราะความตกตะลึง พวกเขานั้นไม่เคยเห็นใครทำอะไรเช่นนี้มาก่อน!

กล้ามาถึงหน้าฐานเผ่าเลือดและเรียกหาพวกเขา มันย่อมจะไม่เคยมีใครในทวีปสวรรค์แรกที่ทำเช่นนี้มาก่อน ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังมากันแค่ห้าคน!

พวกนี้มันคนบ้า?

“เผ่าเลือดของเจ้านั้นเรียกตัวเองว่าเก่งกาจเหนือทุกสวรรค์ไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้เงียบเป็นเป่าสากเช่นนี้เล่า? หากมีปัญญาจริงก็ออกมาสู้ตัวต่อตัวกับปู่หยางเจ้าหน่อยสิ ปู่หยางจะให้สู้สิบต่อหนึ่งไม่สิ ห้าสิบต่อหนึ่งก็ยังไหว!”

“พวกอ่อนเอ๊ย! ย่าเจ้ามาอยู่ถึงหน้าประตูแล้วแต่พวกเจ้ากลับไม่มีใครกล้าออกมาต่อสู้เลยหรือ? เผ่าเลือดเจ้ามันยังกล้าเรียกตัวเองว่าแข็งแกร่งหนักหนาได้อย่างไร? สุดท้ายแล้วต่อให้จะเป็นกองทัพจักรพรรดิเซียนตั้งห้าพันแต่ก็ถูกเราฆ่าจนหัวหดไม่กล้าโผล่หน้าออกมาอีก! มันอ่อนจนแทบจะไหวลู่ไปตามลมแล้วมั้งเนี่ย!”

จิงเฟยเองก็เป็นคนที่ชอบหาความสนุกเช่นนี้อยู่แล้ว นางจึงรีบก้าวออกมาพูดเย้ยหยันตามทันที

นางนั้นตัวเตี้ยเป็นแค่เด็กน้อยแต่ว่ากลับยืนเอามือไพล่หลังราวกับผู้อาวุโสพร้อมทำหน้าดูถูกเหยียดหยามจนทำให้เผ่าเลือดทั้งหลายชิงชังจนแทบจะขาดใจ

ศึกในครั้งนั้นมันเป็นความอับอายของเผ่าเลือด

เผ่าเลือดมากมายต้องตายลงไปเพราะศึกครั้งนั้น เมื่อถูกจิงเฟยขุดแผลเก่าขึ้นมาเช่นนี้มันย่อมจะทำให้เผ่าเลือดมากมายหน้าดำหน้าแดงกันไป กับคำเย้ยหยันไม่หยุดจากปากของหยางชิงด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้เผ่าเลือดทั้งหลายเดือดดาลวิ่งมาขอร้องนายกองของตนให้ออกไปต่อสู้ทันที

แต่หากไม่มีคำสั่งเบื้องบนลงมาพวกเขาก็ไม่อาจจะทิ้งตำแหน่งไปได้ ในค่ายของเผ่าเลือดนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความเดือดดาลของผู้คน!

“ท่านแม่ทัพ ให้ข้าออกไปสู้เถอะ ข้าจะไปสังหารไอ้เด็กนั่นและล้างแค้น!”

คนที่พูดนั้นคือฮันกวง ก่อนนั้นเขาถูกดาบเต๋าของเย่หยวนทำลายฐานพลังการบ่มเพาะจนตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นตัวสมบูรณ์มีพลังเพียงแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นต้นเท่านั้น

คำพูดของจิงเฟยนั้นมันเหมือนน้ำร้อนที่ราดลงแผลเก่าของเขา

เพราะว่าศึกครั้งนั้นคนที่นำทัพมันคือเขา

นั่นเป็นศึกที่อนาถที่สุดของเผ่าเลือดเท่าที่เคยมีมา

หลัวชวนนั้นเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเกแต่ต้องส่ายหัวออกมา “พวกมันมีกันแค่ห้าคนแต่ก็กล้าออกมาท้าทายเราเช่นนี้ มันย่อมจะเป็นแผนล่อเราออกไปแน่แล้ว! ที่สำคัญไปกว่านั้น…เจ้าออกไปสภาพนี้ก็มีแต่จะตาย!”

ฮันกวงนั้นแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีไปเพราะว่าสภาพของเขาในตอนนี้มันคงไม่อาจจะรับดาบของเย่หยวนได้แม้แต่ครั้งเดียวด้วยซ้ำไป

หากตอนนี้เย่หยวนฟันดาบเต๋าออกมาเขาคงไม่เหลือพลังพอจะฟื้นคืนชีพแล้ว แต่การถูกคนมาท้าทายถึงประตูเช่นนี้มันก็น่าคับแค้นจนเกินรับ!

เห็นสภาพเช่นนั้นหลัวชวนก็กล่าวขึ้น “รอก่อนเถอะ อีกไม่นานท่านแม่ทัพใหญ่คงตัดสินใจลงมาแน่”

เผ่าเลือดนั้นเองก็มีแม่ทัพใหญ่ที่เป็นมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวนามว่าเซี่ยหลิงเช่นกัน และตอนนี้เขากำลังเข้าไปรายงานให้แก่แม่ทัพสูงสุดของเผ่าเลือดนามว่าหลี่เหอ

เหล่ามหาจักรพรรดิของเผ่าเลือดนั้นต่างเฝ้าดูกันอยู่รอบๆ เส้นทางมิติและไม่กล้าจะออกห่างจากมัน ทำให้พื้นที่รอบๆ นั้นจะถูกทหารระดับล่างเฝ้าดูแลแทน

“แผนของทัพสวรรค์แรกมันคงเป็นการล่อเสือออกจากถ้ำแน่แล้ว เราจะติดกับมันไม่ได้! ส่งจักรพรรดิเที่ยงออกไปสังหารพวกมันให้หมด! แต่จำไว้ว่าถ้าสังหารได้ก็สังหาร แต่อย่าได้ตามเข้าไปจนลึกเกินตัว!” หลี่เหอกล่าว

สำหรับพวกเขาแล้วการป้องกันเส้นทางมิติย่อมจะมีความสำคัญที่สุด

เพื่อที่จะเปิดเส้นทางมิตินี้ขึ้นมา เผ่าเลือดย่อมจะต้องทุ่มทรัพยากรและแรงงานไปมหาศาล

หากเสียเส้นทางมิติไปพวกเขาย่อมจะไม่อาจทนรับได้

ท่าทางแปลกๆ ของพวกเย่หยวนนั้นมันกลับได้ทำให้หลี่เหอนั้นกังวลขึ้นมาแทน

คลื่นพลังรุนแรงหลายสายพุ่งออกมาจากค่ายเผ่าเลือด เย่หยวนและพรรคพวกหันหลังพุ่งตัวกลับทันที!

พวกเขานั้นยืนอยู่ในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลทำให้มีเวลาพอจะหนีจากมือของจักรพรรดิเที่ยงได้ง่ายๆ

“อะไรวะเนี่ย พวกเจ้ามันขี้ขลาดเสียจริงใช้เป็นแต่จักรพรรดิเที่ยงออกมาไล่รังแกปู่หยาง! หลังจากปู่หยางบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้บ้าง ข้าจะกลับมาสังหารพวกเจ้าให้ขี้หดกลับเข้าก้นเลย!” หยางชิงพูดไปร้องไป

“กลับมา!”

ด้วยความกังวลว่าจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายนั้นจะเสียท่าติดกับดัก เซี่ยหลิงจึงเรียกพวกเขากลับเข้าฐาน

เหล่าจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายได้แต่ต้องกัดฟันพุ่งตัวกลับเข้ามา พวกเขานั้นกลับมาเพิ่งจะถึงพื้นแต่พวกเย่หยวนทั้งห้าก็กลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้งแล้ว

“พวกลูกหลานเผ่าเลือด พวกเจ้าใช้เป็นแค่พลังบ่มเพาะข่มขู่คนหรือ? พ่อเจ้านี้ไร้เทียมทานในระดับจักรพรรดิเซียนด้วยกัน พวกจักรพรรดิเซียนมันมีแต่พวกปอดแหกหรือ? ขยะ! วันหน้าก็อย่าได้มาพูดว่าเผ่าเลือดเก่งอย่างนั้นอย่างนี้อีกแล้วกัน! ปู่เจ้านี้จะกระทืบให้เลือดกบปากเลย!”

หยางชิงนั้นร้องขึ้นมาสุดเสียงอย่างไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย คำใดที่มันไม่น่าฟังนั้นได้หลุดออกมาจากปากของเขาจนหมดสิ้นทำให้อีกฝ่ายนั้นแทบอกแตกตาย

แต่เมื่อจักรพรรดิเที่ยงเผ่าเลือดออกมา พวกเย่หยวนก็จะหนีหายวับไป

แต่เมื่อพวกเขากลับเข้าค่าย พวกเย่หยวนก็จะกลับมา ทำให้เวลานี้สภาพภายในค่ายเผ่าเลือดนั้นเดือดปุดๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นที่แทบไม่อาจยืนแถวกันได้ต้องเดินมาขอร้องแม่ทัพนายกองของตัวเองให้ออกไปต่อสู้

“ท่านแม่ทัพ เราทนไม่ไหวแล้ว! พวกมันมารังแกเผ่าเลือดอย่างกับว่าเราไม่มียอดฝีมือ!”

“ท่านแม่ทัพ ให้ข้าออกไปสู้เถอะ! ข้าจะไปกระทืบไอ้ปู่นั้นให้มันเลือดออกปากเอง อยากเห็นเหลือเกินว่ามันจะไร้เทียมทานได้แค่ไหน!”

“ใช่แล้ว ท่านแม่ทัพ! ต่อให้เราจะสู้มันไม่ได้แต่พวกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนก็คงไม่มีทางแพ้หรอกใช่ไหม? ไปสู้เถอะ!”

“ให้เราไปสู้เถอะ!”

ในค่ายเผ่าเลือดนั้นคนที่แทบคลั่งไปแล้วก็มี ตอนนี้ต่อให้จะรู้ว่าแพ้แต่ก็ไม่อาจทนไหวอยากจะออกไปสู้ให้มันจบๆ ไป เผ่าเลือดนั้นวางท่าเหนือหัวพันธมิตรสวรรค์แรกมาตลอด

แม้แต่ในศึกทางเหนือนี้พวกเขาก็เพิ่งได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น

เรื่องน่าคับแค้นเช่นนี้ พวกเขาย่อมไม่อาจทน หลังจากถูกพูดขอไปอีกหลายครั้งในที่สุดเซี่ยหลิงก็ไม่อาจทนได้ไหวเช่นกัน

“ปาห่าว จินเฉิงพวกเจ้าพานายกองออกไปสู้กันพวกมันเสีย! แต่ระวังไว้ แม้ว่าปากมันจะดีแต่ว่าฝีมือมันก็ดีไม่แพ้ปาก พวกมันคงไร้เทียมทานอย่างที่อ้างจริง!” สุดท้ายเซี่ยหลิงก็ไม่อาจทนไหว

เพราะตอนนี้เขาเองก็หมดความอดทนแล้วเช่นกัน

ในฐานะแม่ทัพเผ่าเลือดนั้นเขามีแต่กดขี่คนอื่นมีหรือที่ต้องมาฟังคำเย้ยหยันหน้าประตูบ้านอย่างไม่อาจทำอะไรได้เช่นนี้?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำจากปากของหยางชิงนั้นที่มันน่าเอาหมัดยัดปากใส่สักทีจริงๆ

เพราะเขาคนนี้แตกต่างจากเด็กน้อยขี้เล่นอย่างจิงเฟย ความโอหังอวดดีของเขาคนนี้เป็นสันดานในจิตวิญญาณต่อให้จะไม่พูดแต่ท่าทางการวางตัวของเขามันก็น่าหมั่นไส้อย่างถึงที่สุด

และที่สำคัญคือปากของเขานั้นดีเสียเหลือเกิน

ได้เห็นเซี่ยหลิงสั่งออกมาเช่นนั้นพรรคพวกปาห่าวก็รับคำสั่งและพานายกองออกไปด้วยท่าทางเปี่ยมกำลัง

“ท่านแม่ทัพวางใจ เราเองก็ไร้เทียมทานเหมือนกันไม่ใช่หรือ? หากไม่ไปเจอคนระดับร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนแล้วเราจะกลัวใครอีก! พวกเด็กเวรนี่ได้ตายแน่!” ปาห่าวร้องขึ้นประกาศ

นายกองทั้งหลายนั้นต่างเชิดหน้าพุ่งตัวขึ้นไปหาพวกหยางชิงทั้งห้าทันที

เมื่อหยางชิงได้เห็นคนทั้งหลายนี้เขาก็ยิ้มกว้างขึ้น

เขานั้นปากดีแต่ก็กล้าหาญ ได้เห็นว่าเผ่าเลือดออกมาตามคำท้าจริงๆ เขาก็ตื่นเต้นขึ้นมา

“เผ่าเลือดมันยังมีคนกล้าอยู่เว้ย! พวกเจ้าคนใดเป็นร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน? ที่เหลือไสหัวไปเถอะ พ่อเจ้านี้จะกระทืบให้เละเอง!” หยางชิงร้องขึ้นมา

เมื่อพวกปาห่าวได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็มีความคิดอยากจะฉีกร่างหยางชิงออกเป็นชิ้นๆ

เขาหัวเราะตอบกลับไป “เจ้าปากหมา เจ้ามันไม่มีค่าพอให้ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนลงมือหรอก! แค่พวกเราก็พอแล้ว!”

หยางชิงนั้นตอบกลับไปด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “แค่พวกเจ้านี้? เจ้าคิดว่าคืนชีพได้แล้วเก่งนัก? ปู่หยางเจ้านี้ไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน ข้าจะกระทืบเจ้าจนกว่าจะคืนชีพไม่ขึ้นเอง!”

พูดจบหยางชิงก็แทงหอกเข้าไปหาตัวปาห่าวในทันที!

……………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+