Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2843 ช่วยมันโม้!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2843 ช่วยมันโม้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2843 ช่วยมันโม้!
“ศิษย์น้องนั้นมีเต๋าโอสถที่สูงส่งนัก ดูท่าจะเหนือล้ำกว่าข้าด้วยซ้ำ! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาจารย์ท่านถึงได้เน้นย้ำนักว่าให้ดูแลศิษย์น้องคนนี้ให้ดี! นี่เขาเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าแท้ๆ หากเขาก้าวมาถึงระดับของข้าได้แล้วฝีมือของเขานั้นมันคงเทียบเคียงกับท่านโจวซ่งฉวนสมัยหนุ่มๆ ได้เลย!”

ได้เห็นวิชาการฝังเข็มของเย่หยวนนั้นมันก็ทำให้จิตใจของฮั่วจงสั่นสะท้านขึ้นมาทันที

เพียงแค่ว่าเขาไม่ได้รู้เลยว่าในจิตใจของบรรพบุรุษหยุนซานนั้น ตัวเย่หยวนได้ก้าวล้ำกว่าโจวซ่งฉวนไปแล้ว!

คำสั่งของอาจารย์เขานี้ฮั่วจงนั้นตอนแรกยังคงรู้สึกขัดๆ อยู่ในใจ

เพราะน้ำเสียงนั้นมันเหมือนว่า…ศิษย์ของของเขาคนนี้มันสำคัญกว่าใครๆ!

ก่อนหน้านั้นเขาย่อมจะไม่ยอมรับและรู้สึกขัดใจ

แต่ตอนนี้ความรู้สึกเช่นนั้นมันหายไปสิ้นเชิง!

คนทั้งสองนั้นเก่งกาจอย่างมากเมื่อพวกเขาช่วยกันลงมือคนเจ็บหนักทั้งหลายต่างก็ค่อยๆ หายจากอาการไปตามๆ กัน

แต่ว่าคนเจ็บนั้นมันมีไม่น้อย แม้ว่าจะมีหมอสองคนแต่ว่ามันก็ต้องใช้เวลาไปทั้งวันกว่าที่จะรักษาคนเจ็บหนักทั้งหลายนั้นได้หมด

อีกด้านพวกหวู่เจียงนั้นได้แต่ต้องนั่งคุกเข่าอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

หลังจากรักษาคนเจ็บหนักจนหมดแล้วเย่หยวนก็ลุกขึ้นมากล่าวประกาศ “พวกท่านทั้งหลาย นิกายยาสุดล้ำของเรานั้นจะไม่มีทางยืนมองคนตายไปต่อหน้าแน่! พวกท่านนั้นเป็นวีรบุรุษที่กลับมาจากสนามรบ ย่อมรู้ดีว่าสงครามมันโหดร้ายแค่ไหน คนเจ็บมากมายปานใดที่ถูกส่งกลับมาทำให้มันกลายเป็นสภาพคนล้นเตียงรักษาเช่นนี้ แต่ว่าพวกท่านทั้งหลายวางใจเถอะ ตอนนี้รอกันไปอย่างสงบก่อน ข้าจะเข้าไปส่งกำลังคนออกมาดูอาการให้ตามระดับแน่นอน ตอนนี้ทุกท่านโปรดใจเย็นและอยู่กันอย่างสงบเรียบร้อย หากทำเช่นนั้นได้มันก็จะทำให้คนได้รับการรักษามากขึ้นไปด้วย”

“ได้ขอรับ! ขอบพระคุณอาจารย์เย่มาก!”

“อาจารย์เย่วางใจเถอะ เรานั้นมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่ได้มาเพื่อหาเรื่องใคร!”

“เราเชื่อในชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำ เราจะรอกันอย่างมีระเบียบแน่นอน!”

เมื่อเย่หยวนพูดจบแล้วเหล่าคนเจ็บทั้งหลายก็ร้องตอบรับมาทันที

คนทั้งหลายนั้นซาบซึ้งในพระคุณของเย่หยวน

เดิมทีนั้นด้วยตัวตนระดับเย่หยวนเขาย่อมจะไม่ต้องมาสนใจพวกเขาเลย

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่มองข้ามคนลำบากและลงมือรักษาคนเป็นร้อยๆ

เหล่าคนเจ็บย่อมจะเชื่อคำสัญญาของเย่หยวนโดยไม่คิดสงสัย

แต่ว่าฮั่วจงที่ได้ยินนั้นก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาก่อนจะรีบตีหน้าปกติไป เพราะบางอย่างนั้นมันก็ไม่ควรเอามาพูดต่อหน้าคน

เย่หยวนนั้นยังไม่ได้เข้าไปดูสภาพในนิกายว่ามันยุ่งวุ่นวายแค่ไหน เขาย่อมจะไม่รู้เลยว่านิกายระดับเจ้าโลกนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบใดบ้าง!

พูดจบเย่หยวนก็เดินมาหาพวกหวู่เจียงที่คุกเข่าอยู่

หวู่เจียงนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกกล่าวขึ้นมา “ศ…ศิษย์คารวะอาจารย์ลุง!”

เย่หยวนกล่าวขึ้น “ตอนนี้ข้ามีสิทธิ์จะสั่งสอนเจ้าหรือยัง?”

แม้ว่าหวู่เจียงนั้นจะยังคับแค้นอยู่ในใจแต่เขาก็พยักหน้ารับ “อาจารย์ลุงย่อมสามารถสั่งสอนศิษย์ได้แน่นอน!”

กำลังของเขานั้นมันไม่ได้แข็งแกร่งมากมายในนิกายและตำแหน่งก็ไม่ได้สูงส่งไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้มาเป็นแค่ยามเฝ้าประตูนิกายเช่นนี้

เพราะฉะนั้นเขาย่อมจะไม่มีทางไปลบหลู่คนระดับเย่หยวนได้

“ก็ดีที่ข้านั้นมีสิทธิ์! เจ้าจงฟัง! ทวีปสวรรค์แรกนั้นมันต้องต่อต้านการรุกรานจากภายนอก ย่อมจะไม่มีเวลามาแบ่งแยกกันแล้ว! คนทั้งหลายตรงหน้าพวกเจ้านั้นคือพี่น้องร่วมศึก! ในฐานะนิกายระดับเจ้าโลกอันดับหนึ่งแล้วนิกายยาสุดล้ำเราย่อมจะต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้ด้วย! ชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันค่อยๆ เกิดขึ้นมาทีละน้อยจากเหล่าเจ้าโลกบรรพบุรุษทั้งหลายรวมไปถึงเหล่าผู้อาวุโสมหาจักรพรรดิ! พวกเจ้าตอนนี้มันทำได้แค่นอนกินผลบุญคนอื่นเท่านั้น!”

“เจ้าทั้งหลายที่ได้อยู่แนวหลังนี้ย่อมจะไม่รู้ถึงความโหดร้ายของแนวหน้าเลย! หากพวกเจ้านั้นได้ผ่านสนามรบที่ความเป็นความตายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแล้วพวกเจ้าก็คงไม่อาจจะทำตัวเช่นนี้ได้อีก! วันนี้เหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำทั้งหลายที่อยู่หน้าข้านี้ข้าจะไปรายงานให้หอสุดแสงส่งพวกเจ้าไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์เพื่อให้ได้รู้ว่าอะไรมันคือความโหดร้ายของสงคราม อะไรมันคือคำว่าพี่น้องร่วมรบ!”

ฮั่วจงนั้นต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเมื่อได้ยิน

ศิษย์น้องของเขานี้มันอ่อนโลกเกินไปหรือว่าโอหังเกินไป?

จักรพรรดิเซียนเป็นร้อยๆ และยังมีจักรพรรดิเที่ยงอีกเป็นสิบคน แต่เจ้ากลับบอกว่าจะส่งไปแนวหน้าแล้วพวกเขาก็ต้องไปแนวหน้าหรือ?

ในนิกายยักษ์ใหญ่เช่นนี้มันย่อมจะมีความซับซ้อนในเรื่องสมดุลอำนาจอย่างมาก!

จักรพรรดิเซียนนั้นยังพอว่าแต่เหล่าจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายนั้นต่างมีมหาจักรพรรดิหนุนหลังอยู่ทั้งสิ้น

หากแค่คนสองคนนั้นยังพอว่า ด้วยชื่อเสียงของจั่วเฉินแล้วอีกฝ่ายย่อมจะไม่กล้าออกมาขัดใดๆ

แต่คนนับร้อยๆ พร้อมๆ กันนี่แม้แต่จั่วเฉินเองก็คงไม่อาจทำได้!

รายงานยังหอสุดแสง…ใครมันกล้าพูดอะไรเช่นนั้น!

เจ้าคิดว่านิกายยาสุดล้ำนั้นเป็นของตระกูลเจ้าหรือ?

ฮั่วจงนั้นรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เพราะศิษย์น้องของเขาคนนี้มันยังไม่ทันได้เหยียบเข้านิกายก็สร้างเรื่องใหญ่ไว้เสียแล้ว

แน่นอนว่าเขาย่อมไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะทำได้

แต่พูดออกไปแล้ว ถึงตอนนั้นหากยังทำไม่ได้อาจารย์จั่วเฉินของเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

แต่ว่าคำพูดนี้มันได้ทำให้เหล่าคนเจ็บทั้งหลายต่างโห่ร้องขึ้นมาอย่างสุดเสียง

“อาจารย์เย่ช่างยิ่งใหญ่!”

“อาจารย์เย่สุดยอดไปเลย!”

คนทั้งหลายนั้นเกลียดชังเฉียนหนานอย่างมาก

เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินคำของเย่หยวนพวกเขาจึงโห่ร้องขึ้นมาอย่างสะใจ

แต่พวกหวู่เจียงนั้นกลับก้มหน้าลงยิ้มเย้ยขึ้นในใจ

ไม่รู้ว่าไอ้เด็กนี่มันมาจากที่ไหน มันคิดว่าแค่ได้กราบมหาจักรพรรดิจั่วเฉินเป็นอาจารย์แล้วก็จะสามารถทำทุกอย่างในนิกายยาสุดล้ำได้อย่างต้องการ?

ในนิกายยาสุดล้ำนั้นมันมีศิษย์อยู่นับแสน

ศิษย์มากมายขนาดนี้ ตระกูลมหาอำนาจต่างๆ เองมันก็ย่อมจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนิกายด้วย

นิกายยักษ์ใหญ่มันย่อมจะมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนอย่างไม่อาจห้าม

หากเป็นมหาจักรพรรดินั้นยังพอว่าคำพูดมันน่าเชื่อถือบ้าง

แต่เจ้านั้นเป็นแค่จักรพรรดิเซียน นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าตัวน้อยคนหนึ่ง!

ไม่ว่าจะมากพรสวรรค์แค่ไหนมันก็จะยังโน้มน้าวใจของเหล่าคนเบื้องบนได้?

โอหังอย่างโง่เง่า!

คนหนุ่มนั้นมันหิวกระหายความสำเร็จและชื่อเสียงจนลืมตัว!

เพียงแค่ว่าเจ้าเคยนึกถึงใจอาจารย์ตนบ้างไหม?

หวู่เจียงนั้นคุกเข่าก้มหน้ากล่าวทั้งๆ ที่มุมปากยังไม่อาจหุบยิ้มเย้ยหยันลง “เช่นนั้นศิษย์คงได้แต่ต้องทำตามคำสั่งอาจารย์ลุงแล้ว!”

ฮั่วจงนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาก่อนจะโบกมือไล่คนทั้งหลายไป “พวกเจ้าไปให้พ้นแล้วส่งกำลังชุดอื่นลงมารักษาการแทน!”

หวู่เจียงนั้นก้มหน้าลงคารวะฮั่วจงก่อนจะลุกพาคนทั้งหลายไป

ระหว่างทางกลับนั้นหวู่เจียงก็ได้กล่าวขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน “หึๆ มันช่างเป็นเด็กที่โง่เสียจริง! มันคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นหงส์ได้เพียงแค่เพราะได้กราบท่านจั่วเฉินเป็นอาจารย์หรือ? มันไม่รู้หรือว่าโลกนี้นั้นยังมีมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์และเจ้าโลกทั้งหลายอยู่ด้วย?”

เฉียนหนานเองก็ยิ้มขึ้นมาตาม “คำโม้ของมันนั้นเกินตัวไปมาก เราต้องไปช่วยมันโม้หลังกลับไปถึงที่พักหน่อยแล้ว! ไม่เช่นนั้นคนจะไม่ได้รู้จักอาจารย์ปู่ท่านนี้!”

เมื่อหวู่เจียงได้ยินเขาก็ยิ้มขึ้นมาทันที

ใช่แล้ว ไอ้เด็กคนนี้มันทำให้เขาเสียหน้าอย่างหนัก หากไม่เอาคืนบ้างมันคงจะไม่สาใจ!

แม้ว่าเบื้องหน้านั้นพวกเขาจะไม่อาจลบหลู่เย่หยวนได้แต่เขาก็ยังสามารถเล่นลูกไม้เล็กๆ น้อยออกมาได้

อย่างเช่นเอาคำของเย่หยวนไปป่าวประกาศให้คนทั้งหลายได้ยิน!

ถึงตอนนั้นต่อให้อยากจะปิดข่าวมันก็คงไม่ง่ายแล้ว!

ที่สำคัญไปกว่านั้นหลังจั่วเฉินรู้เรื่องเขาก็คงต้องมองเย่หยวนด้วยมุมใหม่แน่ๆ

เรื่องชื่อเสียงของจั่วเฉินนั้นเขาย่อมจะไม่คิดสนใจว่ามันจะเสียหายอย่างไร

เพราะหวู่เจียงคนนี้ไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับจั่วเฉิน!

หลังจากพวกหวู่เจียงกลับไปแล้วฮั่วจงก็นำพาเย่หยวนเดินขึ้นเขามา

เขานั้นเห็นได้ชัดเจนว่าแม้จะไม่มีใครดูแลแต่เหล่าคนเจ็บนับหมื่นนั้นก็ยังคงรอกับอย่างมีระเบียบ

ที่สำคัญไปกว่านั้นตอนนี้มันก็ยังมีคนเจ็บมากมายเดินทางมาจากทางใต้ไม่ขาดสาย

ในหมู่พวกเขามันได้มีคนที่เจ็บไม่มากหลายคนอาสาตัวออกมาดูแลความเรียบร้อยกันเองด้วย

ได้เห็นเช่นนั้นฮั่วจงก็ต้องถอนหายใจยาว

เขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนทำถูก แต่บางเรื่องต่อให้ถูกแต่หากมันเกินอำนาจตัวเองแล้วมันก็มิใช่เรื่องดี!

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2843 ช่วยมันโม้!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2843 ช่วยมันโม้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2843 ช่วยมันโม้!
“ศิษย์น้องนั้นมีเต๋าโอสถที่สูงส่งนัก ดูท่าจะเหนือล้ำกว่าข้าด้วยซ้ำ! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาจารย์ท่านถึงได้เน้นย้ำนักว่าให้ดูแลศิษย์น้องคนนี้ให้ดี! นี่เขาเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าแท้ๆ หากเขาก้าวมาถึงระดับของข้าได้แล้วฝีมือของเขานั้นมันคงเทียบเคียงกับท่านโจวซ่งฉวนสมัยหนุ่มๆ ได้เลย!”

ได้เห็นวิชาการฝังเข็มของเย่หยวนนั้นมันก็ทำให้จิตใจของฮั่วจงสั่นสะท้านขึ้นมาทันที

เพียงแค่ว่าเขาไม่ได้รู้เลยว่าในจิตใจของบรรพบุรุษหยุนซานนั้น ตัวเย่หยวนได้ก้าวล้ำกว่าโจวซ่งฉวนไปแล้ว!

คำสั่งของอาจารย์เขานี้ฮั่วจงนั้นตอนแรกยังคงรู้สึกขัดๆ อยู่ในใจ

เพราะน้ำเสียงนั้นมันเหมือนว่า…ศิษย์ของของเขาคนนี้มันสำคัญกว่าใครๆ!

ก่อนหน้านั้นเขาย่อมจะไม่ยอมรับและรู้สึกขัดใจ

แต่ตอนนี้ความรู้สึกเช่นนั้นมันหายไปสิ้นเชิง!

คนทั้งสองนั้นเก่งกาจอย่างมากเมื่อพวกเขาช่วยกันลงมือคนเจ็บหนักทั้งหลายต่างก็ค่อยๆ หายจากอาการไปตามๆ กัน

แต่ว่าคนเจ็บนั้นมันมีไม่น้อย แม้ว่าจะมีหมอสองคนแต่ว่ามันก็ต้องใช้เวลาไปทั้งวันกว่าที่จะรักษาคนเจ็บหนักทั้งหลายนั้นได้หมด

อีกด้านพวกหวู่เจียงนั้นได้แต่ต้องนั่งคุกเข่าอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

หลังจากรักษาคนเจ็บหนักจนหมดแล้วเย่หยวนก็ลุกขึ้นมากล่าวประกาศ “พวกท่านทั้งหลาย นิกายยาสุดล้ำของเรานั้นจะไม่มีทางยืนมองคนตายไปต่อหน้าแน่! พวกท่านนั้นเป็นวีรบุรุษที่กลับมาจากสนามรบ ย่อมรู้ดีว่าสงครามมันโหดร้ายแค่ไหน คนเจ็บมากมายปานใดที่ถูกส่งกลับมาทำให้มันกลายเป็นสภาพคนล้นเตียงรักษาเช่นนี้ แต่ว่าพวกท่านทั้งหลายวางใจเถอะ ตอนนี้รอกันไปอย่างสงบก่อน ข้าจะเข้าไปส่งกำลังคนออกมาดูอาการให้ตามระดับแน่นอน ตอนนี้ทุกท่านโปรดใจเย็นและอยู่กันอย่างสงบเรียบร้อย หากทำเช่นนั้นได้มันก็จะทำให้คนได้รับการรักษามากขึ้นไปด้วย”

“ได้ขอรับ! ขอบพระคุณอาจารย์เย่มาก!”

“อาจารย์เย่วางใจเถอะ เรานั้นมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่ได้มาเพื่อหาเรื่องใคร!”

“เราเชื่อในชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำ เราจะรอกันอย่างมีระเบียบแน่นอน!”

เมื่อเย่หยวนพูดจบแล้วเหล่าคนเจ็บทั้งหลายก็ร้องตอบรับมาทันที

คนทั้งหลายนั้นซาบซึ้งในพระคุณของเย่หยวน

เดิมทีนั้นด้วยตัวตนระดับเย่หยวนเขาย่อมจะไม่ต้องมาสนใจพวกเขาเลย

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่มองข้ามคนลำบากและลงมือรักษาคนเป็นร้อยๆ

เหล่าคนเจ็บย่อมจะเชื่อคำสัญญาของเย่หยวนโดยไม่คิดสงสัย

แต่ว่าฮั่วจงที่ได้ยินนั้นก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาก่อนจะรีบตีหน้าปกติไป เพราะบางอย่างนั้นมันก็ไม่ควรเอามาพูดต่อหน้าคน

เย่หยวนนั้นยังไม่ได้เข้าไปดูสภาพในนิกายว่ามันยุ่งวุ่นวายแค่ไหน เขาย่อมจะไม่รู้เลยว่านิกายระดับเจ้าโลกนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบใดบ้าง!

พูดจบเย่หยวนก็เดินมาหาพวกหวู่เจียงที่คุกเข่าอยู่

หวู่เจียงนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกกล่าวขึ้นมา “ศ…ศิษย์คารวะอาจารย์ลุง!”

เย่หยวนกล่าวขึ้น “ตอนนี้ข้ามีสิทธิ์จะสั่งสอนเจ้าหรือยัง?”

แม้ว่าหวู่เจียงนั้นจะยังคับแค้นอยู่ในใจแต่เขาก็พยักหน้ารับ “อาจารย์ลุงย่อมสามารถสั่งสอนศิษย์ได้แน่นอน!”

กำลังของเขานั้นมันไม่ได้แข็งแกร่งมากมายในนิกายและตำแหน่งก็ไม่ได้สูงส่งไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้มาเป็นแค่ยามเฝ้าประตูนิกายเช่นนี้

เพราะฉะนั้นเขาย่อมจะไม่มีทางไปลบหลู่คนระดับเย่หยวนได้

“ก็ดีที่ข้านั้นมีสิทธิ์! เจ้าจงฟัง! ทวีปสวรรค์แรกนั้นมันต้องต่อต้านการรุกรานจากภายนอก ย่อมจะไม่มีเวลามาแบ่งแยกกันแล้ว! คนทั้งหลายตรงหน้าพวกเจ้านั้นคือพี่น้องร่วมศึก! ในฐานะนิกายระดับเจ้าโลกอันดับหนึ่งแล้วนิกายยาสุดล้ำเราย่อมจะต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้ด้วย! ชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันค่อยๆ เกิดขึ้นมาทีละน้อยจากเหล่าเจ้าโลกบรรพบุรุษทั้งหลายรวมไปถึงเหล่าผู้อาวุโสมหาจักรพรรดิ! พวกเจ้าตอนนี้มันทำได้แค่นอนกินผลบุญคนอื่นเท่านั้น!”

“เจ้าทั้งหลายที่ได้อยู่แนวหลังนี้ย่อมจะไม่รู้ถึงความโหดร้ายของแนวหน้าเลย! หากพวกเจ้านั้นได้ผ่านสนามรบที่ความเป็นความตายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแล้วพวกเจ้าก็คงไม่อาจจะทำตัวเช่นนี้ได้อีก! วันนี้เหล่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำทั้งหลายที่อยู่หน้าข้านี้ข้าจะไปรายงานให้หอสุดแสงส่งพวกเจ้าไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์เพื่อให้ได้รู้ว่าอะไรมันคือความโหดร้ายของสงคราม อะไรมันคือคำว่าพี่น้องร่วมรบ!”

ฮั่วจงนั้นต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเมื่อได้ยิน

ศิษย์น้องของเขานี้มันอ่อนโลกเกินไปหรือว่าโอหังเกินไป?

จักรพรรดิเซียนเป็นร้อยๆ และยังมีจักรพรรดิเที่ยงอีกเป็นสิบคน แต่เจ้ากลับบอกว่าจะส่งไปแนวหน้าแล้วพวกเขาก็ต้องไปแนวหน้าหรือ?

ในนิกายยักษ์ใหญ่เช่นนี้มันย่อมจะมีความซับซ้อนในเรื่องสมดุลอำนาจอย่างมาก!

จักรพรรดิเซียนนั้นยังพอว่าแต่เหล่าจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายนั้นต่างมีมหาจักรพรรดิหนุนหลังอยู่ทั้งสิ้น

หากแค่คนสองคนนั้นยังพอว่า ด้วยชื่อเสียงของจั่วเฉินแล้วอีกฝ่ายย่อมจะไม่กล้าออกมาขัดใดๆ

แต่คนนับร้อยๆ พร้อมๆ กันนี่แม้แต่จั่วเฉินเองก็คงไม่อาจทำได้!

รายงานยังหอสุดแสง…ใครมันกล้าพูดอะไรเช่นนั้น!

เจ้าคิดว่านิกายยาสุดล้ำนั้นเป็นของตระกูลเจ้าหรือ?

ฮั่วจงนั้นรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เพราะศิษย์น้องของเขาคนนี้มันยังไม่ทันได้เหยียบเข้านิกายก็สร้างเรื่องใหญ่ไว้เสียแล้ว

แน่นอนว่าเขาย่อมไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะทำได้

แต่พูดออกไปแล้ว ถึงตอนนั้นหากยังทำไม่ได้อาจารย์จั่วเฉินของเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

แต่ว่าคำพูดนี้มันได้ทำให้เหล่าคนเจ็บทั้งหลายต่างโห่ร้องขึ้นมาอย่างสุดเสียง

“อาจารย์เย่ช่างยิ่งใหญ่!”

“อาจารย์เย่สุดยอดไปเลย!”

คนทั้งหลายนั้นเกลียดชังเฉียนหนานอย่างมาก

เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินคำของเย่หยวนพวกเขาจึงโห่ร้องขึ้นมาอย่างสะใจ

แต่พวกหวู่เจียงนั้นกลับก้มหน้าลงยิ้มเย้ยขึ้นในใจ

ไม่รู้ว่าไอ้เด็กนี่มันมาจากที่ไหน มันคิดว่าแค่ได้กราบมหาจักรพรรดิจั่วเฉินเป็นอาจารย์แล้วก็จะสามารถทำทุกอย่างในนิกายยาสุดล้ำได้อย่างต้องการ?

ในนิกายยาสุดล้ำนั้นมันมีศิษย์อยู่นับแสน

ศิษย์มากมายขนาดนี้ ตระกูลมหาอำนาจต่างๆ เองมันก็ย่อมจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนิกายด้วย

นิกายยักษ์ใหญ่มันย่อมจะมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนอย่างไม่อาจห้าม

หากเป็นมหาจักรพรรดินั้นยังพอว่าคำพูดมันน่าเชื่อถือบ้าง

แต่เจ้านั้นเป็นแค่จักรพรรดิเซียน นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าตัวน้อยคนหนึ่ง!

ไม่ว่าจะมากพรสวรรค์แค่ไหนมันก็จะยังโน้มน้าวใจของเหล่าคนเบื้องบนได้?

โอหังอย่างโง่เง่า!

คนหนุ่มนั้นมันหิวกระหายความสำเร็จและชื่อเสียงจนลืมตัว!

เพียงแค่ว่าเจ้าเคยนึกถึงใจอาจารย์ตนบ้างไหม?

หวู่เจียงนั้นคุกเข่าก้มหน้ากล่าวทั้งๆ ที่มุมปากยังไม่อาจหุบยิ้มเย้ยหยันลง “เช่นนั้นศิษย์คงได้แต่ต้องทำตามคำสั่งอาจารย์ลุงแล้ว!”

ฮั่วจงนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาก่อนจะโบกมือไล่คนทั้งหลายไป “พวกเจ้าไปให้พ้นแล้วส่งกำลังชุดอื่นลงมารักษาการแทน!”

หวู่เจียงนั้นก้มหน้าลงคารวะฮั่วจงก่อนจะลุกพาคนทั้งหลายไป

ระหว่างทางกลับนั้นหวู่เจียงก็ได้กล่าวขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน “หึๆ มันช่างเป็นเด็กที่โง่เสียจริง! มันคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นหงส์ได้เพียงแค่เพราะได้กราบท่านจั่วเฉินเป็นอาจารย์หรือ? มันไม่รู้หรือว่าโลกนี้นั้นยังมีมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์และเจ้าโลกทั้งหลายอยู่ด้วย?”

เฉียนหนานเองก็ยิ้มขึ้นมาตาม “คำโม้ของมันนั้นเกินตัวไปมาก เราต้องไปช่วยมันโม้หลังกลับไปถึงที่พักหน่อยแล้ว! ไม่เช่นนั้นคนจะไม่ได้รู้จักอาจารย์ปู่ท่านนี้!”

เมื่อหวู่เจียงได้ยินเขาก็ยิ้มขึ้นมาทันที

ใช่แล้ว ไอ้เด็กคนนี้มันทำให้เขาเสียหน้าอย่างหนัก หากไม่เอาคืนบ้างมันคงจะไม่สาใจ!

แม้ว่าเบื้องหน้านั้นพวกเขาจะไม่อาจลบหลู่เย่หยวนได้แต่เขาก็ยังสามารถเล่นลูกไม้เล็กๆ น้อยออกมาได้

อย่างเช่นเอาคำของเย่หยวนไปป่าวประกาศให้คนทั้งหลายได้ยิน!

ถึงตอนนั้นต่อให้อยากจะปิดข่าวมันก็คงไม่ง่ายแล้ว!

ที่สำคัญไปกว่านั้นหลังจั่วเฉินรู้เรื่องเขาก็คงต้องมองเย่หยวนด้วยมุมใหม่แน่ๆ

เรื่องชื่อเสียงของจั่วเฉินนั้นเขาย่อมจะไม่คิดสนใจว่ามันจะเสียหายอย่างไร

เพราะหวู่เจียงคนนี้ไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับจั่วเฉิน!

หลังจากพวกหวู่เจียงกลับไปแล้วฮั่วจงก็นำพาเย่หยวนเดินขึ้นเขามา

เขานั้นเห็นได้ชัดเจนว่าแม้จะไม่มีใครดูแลแต่เหล่าคนเจ็บนับหมื่นนั้นก็ยังคงรอกับอย่างมีระเบียบ

ที่สำคัญไปกว่านั้นตอนนี้มันก็ยังมีคนเจ็บมากมายเดินทางมาจากทางใต้ไม่ขาดสาย

ในหมู่พวกเขามันได้มีคนที่เจ็บไม่มากหลายคนอาสาตัวออกมาดูแลความเรียบร้อยกันเองด้วย

ได้เห็นเช่นนั้นฮั่วจงก็ต้องถอนหายใจยาว

เขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนทำถูก แต่บางเรื่องต่อให้ถูกแต่หากมันเกินอำนาจตัวเองแล้วมันก็มิใช่เรื่องดี!

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+