Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2852 บรรลุระดับลึกล้ำสะท้านนิกาย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2852 บรรลุระดับลึกล้ำสะท้านนิกาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2852 บรรลุระดับลึกล้ำสะท้านนิกาย!
“ข้าแพ้แล้ว!”

นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกกล่าวออกมา

พริบตาต่อมามันก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นมาทันที!

“นี่มันเป็นชัยชนะติดต่อกันครั้งที่สิบแปดแล้ว! พระเจ้าช่วย นี่หลู่เต้าอี้จะต่อต้านสวรรค์จริงๆ หรือ!”

“นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกทั้งหลายนั้นพ่ายให้แก่เขาจนเกือบสิ้น! ความเก่งกาจของเขานี้ไม่ใช่คำโม้เลย! บางทีเขาคนนี้อาจจะเดินตามรอยเท้าท่านโจวซ่งฉวนได้จริงๆ ก็ได้!”

“เยี่ยมยอด! มหาจักรพรรดิฉินชานนั้นได้ศิษย์ที่ดีมาจริงๆ!”

“จะว่าไปแล้วมหาจักรพรรดิฉินชานนั้นเดิมทีก็เทียบเคียงกับมหาจักรพรรดิจั่วเฉินได้ แต่ดูท่าตอนนี้แล้วช่องว่างมันคงขยายตัวอย่างมหาศาลแล้ว! ศิษย์ของพวกเขาทั้งสองนั้นมันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว!”

ครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้หลู่เต้าอี้นั้นเอาชนะการประลองติดต่อกันมาสิบแปดครั้งจนทำให้ทั้งนิกายแตกตื่น

หลู่เต้าอี้ที่ออกมาจากการเก็บตัวคราวนี้มันช่างเก่งกาจล้ำฟ้าสู้คนทั้งนิกายยาสุดล้ำได้อย่างไม่รู้จักพ่ายแพ้

คนทั้งสิบแปดที่เขาเอาชนะมานี้มันต่างมิใช่แค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกทั่วๆ ไป

หลู่เต้าอี้นั้นเอาชนะมาได้ทุกครั้งมันย่อมจะแสดงถึงฝีมือที่แท้จริงของเขา

ต่อให้จะเอาไปเทียบกับโจวซ่งฉวนเมื่อตอนหนุ่มมันก็คงไม่ด้อยกว่าเลย

ก่อนนั้นโจวซ่งฉวนนั้นเองก็เอาชนะนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกทั้งหลายได้ตอนที่ยังเป็นแค่ระดับห้าขั้นสุด

เทียบกันระหว่างศิษย์ของมหาจักรพรรดิฉินชานและมหาจักรพรรดิจั่วเฉินแล้วมันย่อมจะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

แม่นั้นอวดลูก อาจารย์นั้นอวดศิษย์!

หากพวกเขาสามารถเลี้ยงดูศิษย์ให้ขึ้นไปถึงระดับเจ้าโลกได้แล้วมันย่อมจะเป็นเกียรติที่เกินคาดคิด

“นี่ พวกเจ้าได้ยินกันมาหรือไม่? ศิษย์คนใหม่ของอาจารย์ลุงจั่วเฉินคนนั้น เจ้าเย่หยวนมันเข้าห้องสมุดคัมภีร์และประกาศว่าจะบรรลุระดับลึกล้ำ! อาจารย์ลุงฟานหลี่อุตส่าห์หลังดีบอกให้มันลงไปอ่านชั้นล่างๆ ก่อนแต่มันกลับไม่ฟังและสวนกลับจนอาจารย์ลุงฟานหลี่ไปต่อไม่เป็น ข้าล่ะอยากจะหัวเราะดังๆ!”

“มันกลับมีเรื่องเช่นนั้นด้วย? ฮ่าๆๆ ศิษย์ของอาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นมันเหนือล้ำกว่าศิษย์ของอาจารย์ลุงฉินชานมาตลอดหากมิใช่เพราะว่าศิษย์พี่เมิ่งหยูเถียนตายลงไปในสงครามแล้วพวกเขาก็คงเอาชนะสำนักฉินชานได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้มันกลับตาลปัตรไปสิ้น!”

“ก็ว่า! ตอนที่เจ้าเย่หยวนนั้นเข้าห้องสมุดคัมภีร์ไปมันก็มุ่งหน้าขึ้นชั้นหกทันที เป็นการอวดดีอย่างสุดตัวโดยแท้! นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้ากลับคิดจะก้าวขึ้นระดับลึกล้ำ หากมันทำได้จริงสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้คงแตกตื่นกันแน่!”

“ฮ่าๆๆ น่าขัน! ไอ้เด็กนี่มันน่าสนใจจริงๆ!”

พูดถึงเย่หยวนนั้นคนทั้งหลายต่างก็หัวเราะกันขึ้นมาไม่ขาดสาย

เพราะว่าสายสัมพันธ์ของฉินชานและจั่วเฉินนั้นมันย่อมจะทำให้คนเอาหลู่เต้าอี้มาเทียบกับเย่หยวน

หากไม่ได้เทียบนั้นยังพอว่าแต่พอเทียบแล้วมันช่างต่างหันราวฟ้ากับเหว

คนหนึ่งนั้นเหมือนดวงตะวันยิ่งใหญ่เจิดจ้าส่วนอีกคนนั้นเหมือนเป็นแค่เศษดินที่ดินรองเท้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสัยของเย่หยวนนั้นมันยิ่งทำให้คนเย้ยหยัน

การอวดอ้างเกินตัวมันก็ต้องมีราคาของมันที่ต้องจ่ายนั่นคือกลายเป็นตัวตลกในสายตาทุกผู้คน

บนโลกนี้นอกจากตัวเขาเองแล้วเขาคงไม่คิดว่ามีใครเหนือกว่าตัวเองแน่

“วันพรุ่งนี้ข้าจะไปท้าทายศิษย์พี่หวางจี้! ถึงตอนนั้นหวังว่าศิษย์พี่ทั้งหลายจะไปร่วมเป็นสักขีพยานให้ข้าด้วย!” จู่ๆ หลู่เต้าอี้ก็ประกาศขึ้นมา

เท่านี้มันก็ยิ่งทำให้คนตกตะลึงมากขึ้น

“เขากลับจะไปท้าทายหวางจี้อย่างนั้นหรือ!”

“สุดยอด! หวางจี้นั้นคือศิษย์ของบรรพบุรุษเป่ยเจินเชียวนะ เรียกได้ว่าในระดับหกนั้นเขาถือเป็นสิบอันดับแรกเลย!”

“ดูท่าหลู่เต้าอี้จะยังไม่ได้เอาจริงเลย! เท่านี้มันก็คงมีอะไรสนุกๆ ให้ดูแน่แล้ว!”

เดิมทีนั้นคนที่หลู่เต้าอี้ท้าทายล้วนเป็นศิษย์ของนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดทั้งสิ้น

แต่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้าบางคนก็มีศิษย์จักรพรรดิเที่ยงอยู่เช่นกัน! แน่นอนว่ามาตรฐานของพวกเขานั้นย่อมจะสูงล้ำคนที่เข้าเป็นศิษย์ได้ย่อมจะสุดแสนเก่งกาจ

หวางจี้คือหนึ่งในนั้น!

การท้าทายของหลู่เต้าอี้นั้นมันยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายแม้แต่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์หลายๆ คนยังต้องหันมาสนใจ

หากหลู่เต้าอี้แสดงฝีมือไปได้ถึงระดับหนึ่งแล้วสำนักเล็กๆ ของฉินชานมันก็คงไม่อาจจะเลี้ยงดูเขาได้อีกต่อไป

ถึงตอนนั้นเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้าทั้งหลายคงลงมารับเขาไปแน่

เรื่องราวภายนอกนั้นตัวเย่หยวนย่อมจะไม่รู้ถึงมัน

หลายวันมานี้เขาเอาแต่ศึกษาเต๋าโอสถอย่างมุ่งมั่นไม่มีเวลาไปสนใจอะไรอย่างอื่น

นิกายยาสุดล้ำนั้นสมชื่อว่าเป็นนิกายอันดับหนึ่งในด้านโอสถ คัมภีร์บนขั้นหกนี้มันยิ่งใหญ่มากนัก

เทียบกับห้องสมุดคัมภีร์ของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตชั้นนอกสุดแล้ว คัมภีร์ในห้องสมุดนี้มันย่อมจะมากมายและสมบูรณ์กว่านัก ที่สำคัญนั้นมันยังมีบันทึกของเหล่ายอดฝีมือระดับลึกล้ำรุ่นก่อนๆ เขียนไว้ด้วย

ห้องสมุดคัมภีร์นี้มันได้บันทึกลายมือของคนทั้งหลายไว้

นี่มันคือสมบัติโดยแท้!

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ว่าตัวเองกำลังเข้าใกล้ระดับลึกล้ำเข้าไปทุกที เพียงแค่ว่าความจริงจังของเขานั้นมันกลับเป็นแค่การแสดงในสายตาคนอื่น ไม่ว่าจะอย่างไรเสียระดับลึกล้ำนั้นมันก็มิใช่สิ่งที่จะสำเร็จได้ในวันสองวัน คนทั้งหลายจึงอยากจะดูนักว่าเขาจะแสร้งไปได้นานแค่ไหน

“ศิษย์พี่ ข้าได้ยินมาว่าท่านนั้นถูกเด็กน้อยมันด่าจนเถียงกลับไม่ออกหรือ?”

คนที่พูดนั้นคือศิษย์น้องของฟานหลี่ เหมียวชวนเขาคนนี้เองก็เป็นศิษย์น้องของซ่งชิงหยางเช่นกัน

เขานั้นสนิทกับฟานหลี่ไม่น้อย เมื่อได้ยินเรื่องราวจึงแวะมาหา

ฟานหลี่นั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นตอบกลับไป “ไอ้เด็กเวรที่ไม่รู้จักรับความหวังดีของคน! ข้าเห็นว่ามันไร้ฝีมือบอกให้ไปฝึกฝนมาจากต้นอย่าได้เอื้อมไปหาสิ่งที่เกินตัว! แต่ตัวมันนั้นกลับใช้นามของโถงบังคับกฎมาขู่ข้า! หึๆ ข้าอยากจะรู้นักว่ามันจะบรรลุระดับลึกล้ำได้อย่างไรกันแน่!”

เหมียวชวนยิ้มตอบกลับไป “ศิษย์พี่วางใจเถอะ หลังจากไอ้เด็กคนนี้ออกมาแล้วศิษย์น้องจะหาเรื่องระบายความคับแค้นใจให้ท่านแน่! โถงบังคับกฎของเรานั้นหาเรื่องคนเก่ง!”

เหมียวชวนนั้นเป็นผู้พิทักษ์ใหญ่ของโถงบังคับกฎ ฝีมือของเขานั้นมันไม่อาจดูถูกได้

โถงบังคับกฎนั้นมันยึดความยุติธรรมเป็นหลัก!

ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมามันก็ต้องมีความยุติธรรมเสมอ

เพียงแค่ว่าโถงบังคับกฎนั้นมันมีอำนาจที่เหนือล้ำ หากคิดจะใช้กฎของนิกายเพื่อหาเรื่องลงโทษแล้วมันคงมีไม่กี่คนที่จะรอดไปได้

ฟานหลี่นั้นพยักหน้ารับ “เรื่องนั้นต้องฝากเจ้าด้วย! ศิษย์พี่ของเจ้านี้อยู่มาจนป่านนี้แล้วแต่ยังไม่เคยเห็นเด็กที่ไหนที่มันกล้าหาญได้ปานนี้มาก่อน! แค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้ามันกลับบอกว่าจะบรรลุระดับลึกล้ำ! หากมันบรรลุได้จริงๆ ข้าจะตบปากตัวเองให้เลือดกบเลย!” แต่เสียงของฟานหลี่ยังไม่ทันขาดคำสีหน้าของพวกเขาทั้งสองก็ต้องเปลี่ยนสีไป

เพราะในห้องสมุดคัมภีร์นั้นมันกลับมีคลื่นพลังระดับลึกล้ำปะทุขึ้นมา

“นี่…มันมีใครบรรลุระดับลึกล้ำหรือ? คงมิใช่…เจ้าเด็กนั่นนะ?” เหมียวชวนกล่าวขึ้นมา

“ไม่มีทางน่า! มันต้องเป็นคนอื่นที่บรรลุแน่ๆ ตอนนี้ในชั้นหกมีมหาจักรพรรดิหลายคนที่ติดคอขวดอยู่ระดับลึกล้ำ!” ฟานหลี่รีบปฏิเสธขึ้น

นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้านั้นบรรลุระดับลึกล้ำ? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? จะบอกว่าเย่หยวนนั้นเหนือล้ำกว่าบรรพบุรุษโจวซ่งฉวนท่านหรือ?

เรื่องเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีทางเกิดขึ้น!

คนทั้งสองพุ่งตัวขึ้นไปชั้นหกทันทีเพื่อยืนยัน!

พริบตาเมื่อพวกเขามาถึงนั้นสีหน้าของพวกเขาก็ต้องซีดขาว “มัน…เป็นเขาจริงๆ! นี่…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้านั้นกลับบรรลุระดับลึกล้ำได้? เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นเทพมาจากที่ไหนกัน?” ฟานหลี่นั้นอดอ้าปากร้องขึ้นไม่ได้

เพราะภาพนี้มันเหนือความเข้าใจ!

ทั้งห้องสมุดคัมภีร์นั้นตกอยู่ในความแตกตื่น!

“บรรลุได้จริง! ที่แท้เขาไม่ได้โม้เลย เขาเก่งกาจจริงๆ!”

“บรรลุระดับลึกล้ำได้ตั้งแต่ระดับห้า นี่มันยิ่งกว่าบรรพบุรุษโจวซ่งฉวนท่านอีก!”

“เราเย้ยหยันเขามาครึ่งเดือนสุดท้ายเป็นเราเองที่โง่เง่า!”

……………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2852 บรรลุระดับลึกล้ำสะท้านนิกาย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2852 บรรลุระดับลึกล้ำสะท้านนิกาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2852 บรรลุระดับลึกล้ำสะท้านนิกาย!
“ข้าแพ้แล้ว!”

นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกกล่าวออกมา

พริบตาต่อมามันก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นมาทันที!

“นี่มันเป็นชัยชนะติดต่อกันครั้งที่สิบแปดแล้ว! พระเจ้าช่วย นี่หลู่เต้าอี้จะต่อต้านสวรรค์จริงๆ หรือ!”

“นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกทั้งหลายนั้นพ่ายให้แก่เขาจนเกือบสิ้น! ความเก่งกาจของเขานี้ไม่ใช่คำโม้เลย! บางทีเขาคนนี้อาจจะเดินตามรอยเท้าท่านโจวซ่งฉวนได้จริงๆ ก็ได้!”

“เยี่ยมยอด! มหาจักรพรรดิฉินชานนั้นได้ศิษย์ที่ดีมาจริงๆ!”

“จะว่าไปแล้วมหาจักรพรรดิฉินชานนั้นเดิมทีก็เทียบเคียงกับมหาจักรพรรดิจั่วเฉินได้ แต่ดูท่าตอนนี้แล้วช่องว่างมันคงขยายตัวอย่างมหาศาลแล้ว! ศิษย์ของพวกเขาทั้งสองนั้นมันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว!”

ครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้หลู่เต้าอี้นั้นเอาชนะการประลองติดต่อกันมาสิบแปดครั้งจนทำให้ทั้งนิกายแตกตื่น

หลู่เต้าอี้ที่ออกมาจากการเก็บตัวคราวนี้มันช่างเก่งกาจล้ำฟ้าสู้คนทั้งนิกายยาสุดล้ำได้อย่างไม่รู้จักพ่ายแพ้

คนทั้งสิบแปดที่เขาเอาชนะมานี้มันต่างมิใช่แค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกทั่วๆ ไป

หลู่เต้าอี้นั้นเอาชนะมาได้ทุกครั้งมันย่อมจะแสดงถึงฝีมือที่แท้จริงของเขา

ต่อให้จะเอาไปเทียบกับโจวซ่งฉวนเมื่อตอนหนุ่มมันก็คงไม่ด้อยกว่าเลย

ก่อนนั้นโจวซ่งฉวนนั้นเองก็เอาชนะนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกทั้งหลายได้ตอนที่ยังเป็นแค่ระดับห้าขั้นสุด

เทียบกันระหว่างศิษย์ของมหาจักรพรรดิฉินชานและมหาจักรพรรดิจั่วเฉินแล้วมันย่อมจะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

แม่นั้นอวดลูก อาจารย์นั้นอวดศิษย์!

หากพวกเขาสามารถเลี้ยงดูศิษย์ให้ขึ้นไปถึงระดับเจ้าโลกได้แล้วมันย่อมจะเป็นเกียรติที่เกินคาดคิด

“นี่ พวกเจ้าได้ยินกันมาหรือไม่? ศิษย์คนใหม่ของอาจารย์ลุงจั่วเฉินคนนั้น เจ้าเย่หยวนมันเข้าห้องสมุดคัมภีร์และประกาศว่าจะบรรลุระดับลึกล้ำ! อาจารย์ลุงฟานหลี่อุตส่าห์หลังดีบอกให้มันลงไปอ่านชั้นล่างๆ ก่อนแต่มันกลับไม่ฟังและสวนกลับจนอาจารย์ลุงฟานหลี่ไปต่อไม่เป็น ข้าล่ะอยากจะหัวเราะดังๆ!”

“มันกลับมีเรื่องเช่นนั้นด้วย? ฮ่าๆๆ ศิษย์ของอาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นมันเหนือล้ำกว่าศิษย์ของอาจารย์ลุงฉินชานมาตลอดหากมิใช่เพราะว่าศิษย์พี่เมิ่งหยูเถียนตายลงไปในสงครามแล้วพวกเขาก็คงเอาชนะสำนักฉินชานได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้มันกลับตาลปัตรไปสิ้น!”

“ก็ว่า! ตอนที่เจ้าเย่หยวนนั้นเข้าห้องสมุดคัมภีร์ไปมันก็มุ่งหน้าขึ้นชั้นหกทันที เป็นการอวดดีอย่างสุดตัวโดยแท้! นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้ากลับคิดจะก้าวขึ้นระดับลึกล้ำ หากมันทำได้จริงสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้คงแตกตื่นกันแน่!”

“ฮ่าๆๆ น่าขัน! ไอ้เด็กนี่มันน่าสนใจจริงๆ!”

พูดถึงเย่หยวนนั้นคนทั้งหลายต่างก็หัวเราะกันขึ้นมาไม่ขาดสาย

เพราะว่าสายสัมพันธ์ของฉินชานและจั่วเฉินนั้นมันย่อมจะทำให้คนเอาหลู่เต้าอี้มาเทียบกับเย่หยวน

หากไม่ได้เทียบนั้นยังพอว่าแต่พอเทียบแล้วมันช่างต่างหันราวฟ้ากับเหว

คนหนึ่งนั้นเหมือนดวงตะวันยิ่งใหญ่เจิดจ้าส่วนอีกคนนั้นเหมือนเป็นแค่เศษดินที่ดินรองเท้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสัยของเย่หยวนนั้นมันยิ่งทำให้คนเย้ยหยัน

การอวดอ้างเกินตัวมันก็ต้องมีราคาของมันที่ต้องจ่ายนั่นคือกลายเป็นตัวตลกในสายตาทุกผู้คน

บนโลกนี้นอกจากตัวเขาเองแล้วเขาคงไม่คิดว่ามีใครเหนือกว่าตัวเองแน่

“วันพรุ่งนี้ข้าจะไปท้าทายศิษย์พี่หวางจี้! ถึงตอนนั้นหวังว่าศิษย์พี่ทั้งหลายจะไปร่วมเป็นสักขีพยานให้ข้าด้วย!” จู่ๆ หลู่เต้าอี้ก็ประกาศขึ้นมา

เท่านี้มันก็ยิ่งทำให้คนตกตะลึงมากขึ้น

“เขากลับจะไปท้าทายหวางจี้อย่างนั้นหรือ!”

“สุดยอด! หวางจี้นั้นคือศิษย์ของบรรพบุรุษเป่ยเจินเชียวนะ เรียกได้ว่าในระดับหกนั้นเขาถือเป็นสิบอันดับแรกเลย!”

“ดูท่าหลู่เต้าอี้จะยังไม่ได้เอาจริงเลย! เท่านี้มันก็คงมีอะไรสนุกๆ ให้ดูแน่แล้ว!”

เดิมทีนั้นคนที่หลู่เต้าอี้ท้าทายล้วนเป็นศิษย์ของนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดทั้งสิ้น

แต่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้าบางคนก็มีศิษย์จักรพรรดิเที่ยงอยู่เช่นกัน! แน่นอนว่ามาตรฐานของพวกเขานั้นย่อมจะสูงล้ำคนที่เข้าเป็นศิษย์ได้ย่อมจะสุดแสนเก่งกาจ

หวางจี้คือหนึ่งในนั้น!

การท้าทายของหลู่เต้าอี้นั้นมันยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายแม้แต่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์หลายๆ คนยังต้องหันมาสนใจ

หากหลู่เต้าอี้แสดงฝีมือไปได้ถึงระดับหนึ่งแล้วสำนักเล็กๆ ของฉินชานมันก็คงไม่อาจจะเลี้ยงดูเขาได้อีกต่อไป

ถึงตอนนั้นเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้าทั้งหลายคงลงมารับเขาไปแน่

เรื่องราวภายนอกนั้นตัวเย่หยวนย่อมจะไม่รู้ถึงมัน

หลายวันมานี้เขาเอาแต่ศึกษาเต๋าโอสถอย่างมุ่งมั่นไม่มีเวลาไปสนใจอะไรอย่างอื่น

นิกายยาสุดล้ำนั้นสมชื่อว่าเป็นนิกายอันดับหนึ่งในด้านโอสถ คัมภีร์บนขั้นหกนี้มันยิ่งใหญ่มากนัก

เทียบกับห้องสมุดคัมภีร์ของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตชั้นนอกสุดแล้ว คัมภีร์ในห้องสมุดนี้มันย่อมจะมากมายและสมบูรณ์กว่านัก ที่สำคัญนั้นมันยังมีบันทึกของเหล่ายอดฝีมือระดับลึกล้ำรุ่นก่อนๆ เขียนไว้ด้วย

ห้องสมุดคัมภีร์นี้มันได้บันทึกลายมือของคนทั้งหลายไว้

นี่มันคือสมบัติโดยแท้!

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ว่าตัวเองกำลังเข้าใกล้ระดับลึกล้ำเข้าไปทุกที เพียงแค่ว่าความจริงจังของเขานั้นมันกลับเป็นแค่การแสดงในสายตาคนอื่น ไม่ว่าจะอย่างไรเสียระดับลึกล้ำนั้นมันก็มิใช่สิ่งที่จะสำเร็จได้ในวันสองวัน คนทั้งหลายจึงอยากจะดูนักว่าเขาจะแสร้งไปได้นานแค่ไหน

“ศิษย์พี่ ข้าได้ยินมาว่าท่านนั้นถูกเด็กน้อยมันด่าจนเถียงกลับไม่ออกหรือ?”

คนที่พูดนั้นคือศิษย์น้องของฟานหลี่ เหมียวชวนเขาคนนี้เองก็เป็นศิษย์น้องของซ่งชิงหยางเช่นกัน

เขานั้นสนิทกับฟานหลี่ไม่น้อย เมื่อได้ยินเรื่องราวจึงแวะมาหา

ฟานหลี่นั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นตอบกลับไป “ไอ้เด็กเวรที่ไม่รู้จักรับความหวังดีของคน! ข้าเห็นว่ามันไร้ฝีมือบอกให้ไปฝึกฝนมาจากต้นอย่าได้เอื้อมไปหาสิ่งที่เกินตัว! แต่ตัวมันนั้นกลับใช้นามของโถงบังคับกฎมาขู่ข้า! หึๆ ข้าอยากจะรู้นักว่ามันจะบรรลุระดับลึกล้ำได้อย่างไรกันแน่!”

เหมียวชวนยิ้มตอบกลับไป “ศิษย์พี่วางใจเถอะ หลังจากไอ้เด็กคนนี้ออกมาแล้วศิษย์น้องจะหาเรื่องระบายความคับแค้นใจให้ท่านแน่! โถงบังคับกฎของเรานั้นหาเรื่องคนเก่ง!”

เหมียวชวนนั้นเป็นผู้พิทักษ์ใหญ่ของโถงบังคับกฎ ฝีมือของเขานั้นมันไม่อาจดูถูกได้

โถงบังคับกฎนั้นมันยึดความยุติธรรมเป็นหลัก!

ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมามันก็ต้องมีความยุติธรรมเสมอ

เพียงแค่ว่าโถงบังคับกฎนั้นมันมีอำนาจที่เหนือล้ำ หากคิดจะใช้กฎของนิกายเพื่อหาเรื่องลงโทษแล้วมันคงมีไม่กี่คนที่จะรอดไปได้

ฟานหลี่นั้นพยักหน้ารับ “เรื่องนั้นต้องฝากเจ้าด้วย! ศิษย์พี่ของเจ้านี้อยู่มาจนป่านนี้แล้วแต่ยังไม่เคยเห็นเด็กที่ไหนที่มันกล้าหาญได้ปานนี้มาก่อน! แค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้ามันกลับบอกว่าจะบรรลุระดับลึกล้ำ! หากมันบรรลุได้จริงๆ ข้าจะตบปากตัวเองให้เลือดกบเลย!” แต่เสียงของฟานหลี่ยังไม่ทันขาดคำสีหน้าของพวกเขาทั้งสองก็ต้องเปลี่ยนสีไป

เพราะในห้องสมุดคัมภีร์นั้นมันกลับมีคลื่นพลังระดับลึกล้ำปะทุขึ้นมา

“นี่…มันมีใครบรรลุระดับลึกล้ำหรือ? คงมิใช่…เจ้าเด็กนั่นนะ?” เหมียวชวนกล่าวขึ้นมา

“ไม่มีทางน่า! มันต้องเป็นคนอื่นที่บรรลุแน่ๆ ตอนนี้ในชั้นหกมีมหาจักรพรรดิหลายคนที่ติดคอขวดอยู่ระดับลึกล้ำ!” ฟานหลี่รีบปฏิเสธขึ้น

นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้านั้นบรรลุระดับลึกล้ำ? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? จะบอกว่าเย่หยวนนั้นเหนือล้ำกว่าบรรพบุรุษโจวซ่งฉวนท่านหรือ?

เรื่องเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีทางเกิดขึ้น!

คนทั้งสองพุ่งตัวขึ้นไปชั้นหกทันทีเพื่อยืนยัน!

พริบตาเมื่อพวกเขามาถึงนั้นสีหน้าของพวกเขาก็ต้องซีดขาว “มัน…เป็นเขาจริงๆ! นี่…นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้านั้นกลับบรรลุระดับลึกล้ำได้? เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นเทพมาจากที่ไหนกัน?” ฟานหลี่นั้นอดอ้าปากร้องขึ้นไม่ได้

เพราะภาพนี้มันเหนือความเข้าใจ!

ทั้งห้องสมุดคัมภีร์นั้นตกอยู่ในความแตกตื่น!

“บรรลุได้จริง! ที่แท้เขาไม่ได้โม้เลย เขาเก่งกาจจริงๆ!”

“บรรลุระดับลึกล้ำได้ตั้งแต่ระดับห้า นี่มันยิ่งกว่าบรรพบุรุษโจวซ่งฉวนท่านอีก!”

“เราเย้ยหยันเขามาครึ่งเดือนสุดท้ายเป็นเราเองที่โง่เง่า!”

……………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+