Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2854 เพชรงามมีเจ้าของ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2854 เพชรงามมีเจ้าของ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2854 เพชรงามมีเจ้าของ!
“ผีเฒ่าหยุนซาน เจ้าได้สมบัติมาจริงๆ! ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะแปลกประหลาดได้ปานนี้ บรรลุระดับลึกล้ำตั้งแต่อาณาจักรระดับห้า!”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นยิ้มกว้างขึ้นมากล่าวทันที “มันมีพรสวรรค์จริง แต่การที่บรรลุระดับลึกล้ำได้รวดเร็วปานนี้ก็เพราะว่าข้าทั้งนั้น!”

เจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินต้องเงียบปากลงทันที

เจ้าบ้านี่ช่างขี้อวดนัก!

ก่อนนั้นตอนที่เจ้าโลกโจวซ่งฉวนนั้นบรรลุขึ้นระดับเจ้าโลกมา เฒ่าคนนี้เองก็ป่าวประกาศไปทั่วทั้งโลกหล้า

คนทั้งหลายนี้เองต้องฟังมันจนหูชา

ยังดีที่ว่าตอนนี้มีสงครามใหญ่กันอยู่ไม่เช่นนั้นแล้วเรื่องนี้มันคงถูกเขียนเป็นกลอนป่าวประกาศให้ผู้คนทั้งแผ่นดินได้ยินได้ฟังแน่

พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าบรรลุระดับลึกล้ำมาได้!

ตอนที่เหล่าเจ้าโลกทั้งหลายได้ยินนั้นพวกเขาย่อมจะต้องอ้าปากค้างไปทันที

ระดับหกบรรลุระดับลึกล้ำนั้นยังพอได้ยินมาบ้าง แต่จะเป็นเจ้าโลกได้หรือไม่นั้นมันก็ไม่แน่ เหมือนอย่างตัวโจวซ่งฉวน

แต่ระดับห้านั้นบรรลุระดับลึกล้ำมันเป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

“ฮ่าๆๆ…พวกเจ้าทั้งหลายนั้นวางท่าใหญ่โตกันมากมายแต่สุดท้ายก็อ่อนกว่าข้าทั้งนั้นในเรื่องการสอนศิษย์! ครั้งนี้ข้าจะปั้นผู้บ่มเพาะนอกรีตระดับเจ้าโลกคนแรกของสวรรค์ขึ้นมาเอง!”

“คนเฒ่าอย่างเราๆ นั้นต่อให้จะใช้เวลาเป็นหมื่นๆ ปี ก็ไม่แน่ว่าจะพัฒนาขึ้นไปได้อีก ทำไมไม่ใช้เวลาเหลือของเรานี้ไปสั่งสอนศิษย์และคนรุ่นหลังเอาเล่า? การเพิ่มจำนวนเจ้าโลกขึ้นมานั้นย่อมจะดีกว่า สงครามครั้งนี้ก็จะรบกันได้ง่ายดายขึ้นมาก!”

“…”

จะอวดก็อวดไป คิดว่าเราไม่มีสมองกันหรือ?

เจ้าโลกมันปั้นกันได้ง่ายๆ?

หากมันปั้นได้จริงแล้วทวีปสวรรค์แรกมันก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพอย่างทุกวันนี้!

ได้เห็นคนทั้งหลายเงียบปากเช่นนั้นหยุนซานก็ยิ้มขึ้น “ซ่งฉวน เจ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง? เจ้าเด็กนี่มีพรสวรรค์มากกว่า เจ้าไปแล้วจริงๆ!”

โจวซ่งฉวนนั้นตอบกลับไป “จะสำเร็จหรือไม่นั้นมันยังต้องรอดูกันอีกนาน!”

หยุนซานยิ้มขึ้นทันทีที่ได้ยิน “หึๆ ดูท่าเจ้าจะยังรู้จักอิจฉาคนอยู่บ้าง สมัยก่อนนั้นมันก็มิใช่ว่าจะไม่มีใครเก่งกว่าเจ้าในระดับหกแต่สุดท้ายพวกเขาก็จางหายไปกับฝูงชนกลายเป็นแค่คนธรรมดาไป แต่ศิษย์น้องของเจ้านี้ข้าว่ามันคงไม่จบเช่นนั้นแน่!”

โจวซ่งฉวนยิ้มตอบกลับไป “ที่อาจารย์ว่ามามันก็ถูก ศิษย์นั้นอิจฉาเขาอยู่หน่อยๆ จริง! แต่ว่าในสภาพตอนนี้หากศิษย์น้องบรรลุขึ้นเป็นเจ้าโลกมาได้ ก็คงจะเป็นประโยชน์กับเราได้อย่างมหาศาล!”

หยุนซานหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยิน “ไอ้เด็กพวกนั้นคงแย่งกันจนแทบคลั่งแล้วล่ะมั้ง? ไม่ได้รู้เลยว่าเพชรเม็ดงามนี้มีเจ้าของแล้ว! หากพวกเขารู้ถึงตัวตนของเย่หยวนแล้วข้าว่าสีหน้าของพวกมันคงน่าดูทีเดียวใช่ไหม? ฮ่าๆๆ…”

“เย่หยวน ข้านั้นคือศิษย์พี่ของเจ้านิกาย ระดับอาวุโสของข้านั้นสูงที่สุดในนิกายแล้ว! หากเจ้ากราบข้าเป็นอาจารย์เจ้าย่อมจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาลแน่นอน!”

“อย่าได้ไปฟังเขา เจ้าเฒ่านี้มันอ่อนแอที่สุดไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้มารับหน้าที่แค่คนเฝ้าห้องสมุดคัมภีร์หรอก! ข้านั้นต่างจากเขา ข้านั้นเก่งกาจที่สุดรองจากเจ้านิกาย! หากเจ้ากราบข้าเป็นอาจารย์แล้วเจ้าย่อมจะได้ทรัพยากรมหาศาลเกินนับ! เย่หยวน ในเส้นทางการบ่มเพาะนั้นนอกจากพรสวรรค์แล้วมันก็มีทรัพยากรนี่แหละที่สำคัญที่สุด!”

“ทรัพยากรห่าเหวอะไรของเจ้า? เย่หยวน ข้านั้นคือผู้ดูแลทรัพยากรโอสถของนิกายยาสุดล้ำ ตราบเท่าที่เจ้าอยากได้ข้าก็พร้อมจะหาสมุนไพรนั้นให้เจ้าทันที! ผลประโยชน์นี้มากมายแค่ไหนเจ้าคงไม่ต้องคิดแล้ว มากราบข้าเป็นอาจารย์เถอะ!”

ตอนนี้มียอดนักหลอมโอสถสวรรค์ห้าคนกำลังล้อมเย่หยวนอยู่

คนทั้งห้านั้นคือผู้อาวุโสที่มีอำนาจเป็นรองเพียงแค่เจ้านิกายยาสุดล้ำซ่งชิงหยาง!

ฟานหลี่นั้นเป็นศิษย์พี่ของซ่งชิงหยางแต่ว่าในหมู่คนทั้งห้านั้นเขากลับเสียเปรียบที่สุด

แน่นอนว่าตอนนี้มหาจักรพรรดิบนชั้นหกนั้นต่างถูกไล่ออกไปสิ้น

เพราะภาพเช่นนี้จะให้คนมาดูคงไม่เหมาะนัก

เหมียวชวนและฟานหลี่นั้นสนิทกันมากแต่ก็เพราะเช่นนั้นตอนนี้ฟานหลี่และเหมียวชวนจึงกล้าจะชนกันอย่างไม่ต้องเกรงใจ

ตอนนี้เหมียวชวนนั้นคือคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดในการแย่งชิงศิษย์คนนี้!

ความเย้ยหยันดูถูกใดๆ ในตอนแรกนั้นได้ถูกโยนทิ้งหายลับสวรรค์ไปแล้ว!

ศิษย์เช่นนี้ต่อให้จะหาทั้งชาติก็คงไม่อาจหาเจอได้อีก!

เย่หยวนมองดูคนทั้งห้าก่อนจะยิ้มถามขึ้น “บรรพบุรุษทั้งหลาย ท่านเจ้านิกายไม่ได้มาด้วย?”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งห้าก็แทบจะคลั่งขึ้น

‘ทำไม? เจ้าดูถูกพวกเรา?’

“ไอ้หนู เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! แม้แต่ตอนที่เจ้าโลกโจวซ่งฉวนท่านเป็นจักรพรรดิเซียนก็ยังไม่มีใครคิดสนใจในตัวท่านเลย!”

“ฮ่าๆ อย่าได้เข้าใจความหมายของข้าผิดไปสิ ความหมายของข้าคือ…พวกท่านทั้งหลายคงไม่มีสิทธิ์จะรับข้าเป็นศิษย์ใดๆ!” เย่หยวนตอบ

คนทั้งห้านั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน

‘เด็กเวร จะโอหังจนเกินไปแล้ว!’

‘ในนิกายยาสุดล้ำนี้นอกจากพวกเราแล้วมันจะยังมีใครใหญ่ไปกว่าเราได้อีก?’

แต่พริบตาต่อมานั้นพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน!

เพราะว่าในมือของเย่หยวนนั้นมันมีดาบหยกอันน้อยปรากฏขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้

ดาบหยกสุดแสง!

ทำไมจักรพรรดิเซียนคนนี้ถึงได้มีดาบหยกสุดแสงในมือ?

ดาบหยกสุดแสงนั้นคือเครื่องแสดงตัวของเหล่าผู้อาวุโสแห่งหอสุดแสง!

คิดมาถึงตรงนี้คนทั้งห้าก็ขนลุกตั้งทันที!

ใครจะไปคิดว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านี้เป็นผู้อาวุโสหอสุดแสง?

เช่นนั้น…มันคือเรื่องอะไรกันแน่?

ฟานหลี่นั้นร้องขึ้นมาด้วยความคับแค้นใจ “ไอ้เวรซ่งชิงหยาง เจ้าหลอกพี่เจ้าได้ลงคอ!”

“ซ่งชิงหยาง ขอให้ลูกเจ้าเกิดมาไม่มีรูตูด!”

“ซ่งชิงหยาง ไอ้…!”

คนทั้งหลายนั้นร้องด่ากันขึ้นมาพร้อมๆ กัน

ฟังจากคำของเย่หยวนแล้วซ่งชิงหยางคงรู้เรื่องนี้แน่แต่ไม่มาเตือนมาบอกพวกเขา

วินาทีที่เย่หยวนทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาซ่งชิงหยางก็ควรจะมาเตือนพวกเขาทั้งหลายก่อนแล้ว

แต่เขากลับไม่ทำ!

เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้นห้ามคนทั้งหลาย “หลานศิษย์ทั้งหลาย มันมิใช่ว่าเจ้านิกายคิดปกปิดอะไรหรอก แต่นี่เป็นคำสั่งของอาจารย์ พวกเจ้าทั้งหลายนั้นเป็นคนระดับสูงของนิกายยาสุดล้ำเรา หวังว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟังง่ายๆ เล่า!”

อาจารย์?

อาจารย์ของเด็กหนุ่มคนนี้เป็นใคร?

ฟานหลี่นั้นยิ้มแห้งๆ ถามขึ้นมา “ผู้อาวุโสหอสุดแสง…เย่ ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าอาจารย์ของท่านคือ…?”

“เจ้าโลกหยุนซาน!”

คนทั้งห้านั้นแทบสิ้นสติลงไปตรงนั้น!

พวกเขานั้นคิดไปว่าอาจจะเป็นศิษย์ของเจ้าโลกโจวซ่งฉวนจึงมีสิทธิ์เข้าหอสุดแสง

ใครจะไปคิดว่าเขานี้กลับเป็นศิษย์เจ้าโลกหยุนซาน!

เจ้าโลกหยุนซานนั้นไม่ได้รับศิษย์ใหม่มานานนับแสนๆ ปีแล้ว!

“ค…คารวะอาจารย์ลุงน้อย!”

คนทั้งห้านั้นก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนด้วยท่าทางเหยเก

นี่มันหลอกลวงกันชัดๆ!

อีกด้านนั้นพวกจูหยานต่างก็รู้สึกร้อนใจเหมือนได้กินผึ้งเข้าไปทั้งรัง ใบหน้าของพวกเขานั้นยากเกินกว่าจะอธิบาย

หลังจากได้ยินข่าวนี้มาพวกเขาเองก็ทำสีหน้าไม่ต่างจากฝ่ายสำนักฉินชานเลย

ผงะ!

เหลือเชื่อ!

เหลือเชื่อจนพวกเขานั้นไม่อาจจะตั้งสติได้!

“ที่แท้แล้วศิษย์น้องกลับพูดเรื่องจริงสิ้น!” จูหยานนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความขื่นขม

หลู่เต้าอี้นั้นอ่อนแอ!

ไม่ใช่แค่หลู่เต้าอี้เท่านั้น แม้แต่จูหยานคนนี้เองก็อ่อนแอจนเกินไป!

ตอนที่เย่หยวนกล่าวเรื่องนี้ขึ้นมา พวกเขานั้นต่างพูดเย้ยหยันไม่คิดเชื่อ

แต่ตอนที่เย่หยวนบรรลุระดับลึกล้ำนั้น ทุกสิ่งอย่างก็ปรากฏให้เห็นชัดเจนแก่สายตา!

ฮั่วจงนั้นเองก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศิษย์น้องถึงไม่คิดจะลงมือใดๆ หลู่เต้าอี้นั้นไม่อาจทำให้เขาสนใจได้เลย! ในสายตาของเรานั้นหลู่เต้าอี้อาจจะเป็นคนมากพรสวรรค์เก่งกาจ แต่ในสายตาของศิษย์น้องนั้น เขาคงไร้ค่าใดๆ แน่นอน! เช่นนั้นเรา…จะทำอย่างไรกันดี?”

จูหยานยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “หลังจากศิษย์น้องออกจากการเก็บตัวแล้ว ข้าจะไปกล่าวขอโทษกับเขาเอง! จะอย่างไรเราก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน!”

……………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2854 เพชรงามมีเจ้าของ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2854 เพชรงามมีเจ้าของ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2854 เพชรงามมีเจ้าของ!
“ผีเฒ่าหยุนซาน เจ้าได้สมบัติมาจริงๆ! ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะแปลกประหลาดได้ปานนี้ บรรลุระดับลึกล้ำตั้งแต่อาณาจักรระดับห้า!”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นยิ้มกว้างขึ้นมากล่าวทันที “มันมีพรสวรรค์จริง แต่การที่บรรลุระดับลึกล้ำได้รวดเร็วปานนี้ก็เพราะว่าข้าทั้งนั้น!”

เจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินต้องเงียบปากลงทันที

เจ้าบ้านี่ช่างขี้อวดนัก!

ก่อนนั้นตอนที่เจ้าโลกโจวซ่งฉวนนั้นบรรลุขึ้นระดับเจ้าโลกมา เฒ่าคนนี้เองก็ป่าวประกาศไปทั่วทั้งโลกหล้า

คนทั้งหลายนี้เองต้องฟังมันจนหูชา

ยังดีที่ว่าตอนนี้มีสงครามใหญ่กันอยู่ไม่เช่นนั้นแล้วเรื่องนี้มันคงถูกเขียนเป็นกลอนป่าวประกาศให้ผู้คนทั้งแผ่นดินได้ยินได้ฟังแน่

พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าบรรลุระดับลึกล้ำมาได้!

ตอนที่เหล่าเจ้าโลกทั้งหลายได้ยินนั้นพวกเขาย่อมจะต้องอ้าปากค้างไปทันที

ระดับหกบรรลุระดับลึกล้ำนั้นยังพอได้ยินมาบ้าง แต่จะเป็นเจ้าโลกได้หรือไม่นั้นมันก็ไม่แน่ เหมือนอย่างตัวโจวซ่งฉวน

แต่ระดับห้านั้นบรรลุระดับลึกล้ำมันเป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

“ฮ่าๆๆ…พวกเจ้าทั้งหลายนั้นวางท่าใหญ่โตกันมากมายแต่สุดท้ายก็อ่อนกว่าข้าทั้งนั้นในเรื่องการสอนศิษย์! ครั้งนี้ข้าจะปั้นผู้บ่มเพาะนอกรีตระดับเจ้าโลกคนแรกของสวรรค์ขึ้นมาเอง!”

“คนเฒ่าอย่างเราๆ นั้นต่อให้จะใช้เวลาเป็นหมื่นๆ ปี ก็ไม่แน่ว่าจะพัฒนาขึ้นไปได้อีก ทำไมไม่ใช้เวลาเหลือของเรานี้ไปสั่งสอนศิษย์และคนรุ่นหลังเอาเล่า? การเพิ่มจำนวนเจ้าโลกขึ้นมานั้นย่อมจะดีกว่า สงครามครั้งนี้ก็จะรบกันได้ง่ายดายขึ้นมาก!”

“…”

จะอวดก็อวดไป คิดว่าเราไม่มีสมองกันหรือ?

เจ้าโลกมันปั้นกันได้ง่ายๆ?

หากมันปั้นได้จริงแล้วทวีปสวรรค์แรกมันก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพอย่างทุกวันนี้!

ได้เห็นคนทั้งหลายเงียบปากเช่นนั้นหยุนซานก็ยิ้มขึ้น “ซ่งฉวน เจ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง? เจ้าเด็กนี่มีพรสวรรค์มากกว่า เจ้าไปแล้วจริงๆ!”

โจวซ่งฉวนนั้นตอบกลับไป “จะสำเร็จหรือไม่นั้นมันยังต้องรอดูกันอีกนาน!”

หยุนซานยิ้มขึ้นทันทีที่ได้ยิน “หึๆ ดูท่าเจ้าจะยังรู้จักอิจฉาคนอยู่บ้าง สมัยก่อนนั้นมันก็มิใช่ว่าจะไม่มีใครเก่งกว่าเจ้าในระดับหกแต่สุดท้ายพวกเขาก็จางหายไปกับฝูงชนกลายเป็นแค่คนธรรมดาไป แต่ศิษย์น้องของเจ้านี้ข้าว่ามันคงไม่จบเช่นนั้นแน่!”

โจวซ่งฉวนยิ้มตอบกลับไป “ที่อาจารย์ว่ามามันก็ถูก ศิษย์นั้นอิจฉาเขาอยู่หน่อยๆ จริง! แต่ว่าในสภาพตอนนี้หากศิษย์น้องบรรลุขึ้นเป็นเจ้าโลกมาได้ ก็คงจะเป็นประโยชน์กับเราได้อย่างมหาศาล!”

หยุนซานหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยิน “ไอ้เด็กพวกนั้นคงแย่งกันจนแทบคลั่งแล้วล่ะมั้ง? ไม่ได้รู้เลยว่าเพชรเม็ดงามนี้มีเจ้าของแล้ว! หากพวกเขารู้ถึงตัวตนของเย่หยวนแล้วข้าว่าสีหน้าของพวกมันคงน่าดูทีเดียวใช่ไหม? ฮ่าๆๆ…”

“เย่หยวน ข้านั้นคือศิษย์พี่ของเจ้านิกาย ระดับอาวุโสของข้านั้นสูงที่สุดในนิกายแล้ว! หากเจ้ากราบข้าเป็นอาจารย์เจ้าย่อมจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาลแน่นอน!”

“อย่าได้ไปฟังเขา เจ้าเฒ่านี้มันอ่อนแอที่สุดไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้มารับหน้าที่แค่คนเฝ้าห้องสมุดคัมภีร์หรอก! ข้านั้นต่างจากเขา ข้านั้นเก่งกาจที่สุดรองจากเจ้านิกาย! หากเจ้ากราบข้าเป็นอาจารย์แล้วเจ้าย่อมจะได้ทรัพยากรมหาศาลเกินนับ! เย่หยวน ในเส้นทางการบ่มเพาะนั้นนอกจากพรสวรรค์แล้วมันก็มีทรัพยากรนี่แหละที่สำคัญที่สุด!”

“ทรัพยากรห่าเหวอะไรของเจ้า? เย่หยวน ข้านั้นคือผู้ดูแลทรัพยากรโอสถของนิกายยาสุดล้ำ ตราบเท่าที่เจ้าอยากได้ข้าก็พร้อมจะหาสมุนไพรนั้นให้เจ้าทันที! ผลประโยชน์นี้มากมายแค่ไหนเจ้าคงไม่ต้องคิดแล้ว มากราบข้าเป็นอาจารย์เถอะ!”

ตอนนี้มียอดนักหลอมโอสถสวรรค์ห้าคนกำลังล้อมเย่หยวนอยู่

คนทั้งห้านั้นคือผู้อาวุโสที่มีอำนาจเป็นรองเพียงแค่เจ้านิกายยาสุดล้ำซ่งชิงหยาง!

ฟานหลี่นั้นเป็นศิษย์พี่ของซ่งชิงหยางแต่ว่าในหมู่คนทั้งห้านั้นเขากลับเสียเปรียบที่สุด

แน่นอนว่าตอนนี้มหาจักรพรรดิบนชั้นหกนั้นต่างถูกไล่ออกไปสิ้น

เพราะภาพเช่นนี้จะให้คนมาดูคงไม่เหมาะนัก

เหมียวชวนและฟานหลี่นั้นสนิทกันมากแต่ก็เพราะเช่นนั้นตอนนี้ฟานหลี่และเหมียวชวนจึงกล้าจะชนกันอย่างไม่ต้องเกรงใจ

ตอนนี้เหมียวชวนนั้นคือคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดในการแย่งชิงศิษย์คนนี้!

ความเย้ยหยันดูถูกใดๆ ในตอนแรกนั้นได้ถูกโยนทิ้งหายลับสวรรค์ไปแล้ว!

ศิษย์เช่นนี้ต่อให้จะหาทั้งชาติก็คงไม่อาจหาเจอได้อีก!

เย่หยวนมองดูคนทั้งห้าก่อนจะยิ้มถามขึ้น “บรรพบุรุษทั้งหลาย ท่านเจ้านิกายไม่ได้มาด้วย?”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งห้าก็แทบจะคลั่งขึ้น

‘ทำไม? เจ้าดูถูกพวกเรา?’

“ไอ้หนู เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! แม้แต่ตอนที่เจ้าโลกโจวซ่งฉวนท่านเป็นจักรพรรดิเซียนก็ยังไม่มีใครคิดสนใจในตัวท่านเลย!”

“ฮ่าๆ อย่าได้เข้าใจความหมายของข้าผิดไปสิ ความหมายของข้าคือ…พวกท่านทั้งหลายคงไม่มีสิทธิ์จะรับข้าเป็นศิษย์ใดๆ!” เย่หยวนตอบ

คนทั้งห้านั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน

‘เด็กเวร จะโอหังจนเกินไปแล้ว!’

‘ในนิกายยาสุดล้ำนี้นอกจากพวกเราแล้วมันจะยังมีใครใหญ่ไปกว่าเราได้อีก?’

แต่พริบตาต่อมานั้นพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน!

เพราะว่าในมือของเย่หยวนนั้นมันมีดาบหยกอันน้อยปรากฏขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้

ดาบหยกสุดแสง!

ทำไมจักรพรรดิเซียนคนนี้ถึงได้มีดาบหยกสุดแสงในมือ?

ดาบหยกสุดแสงนั้นคือเครื่องแสดงตัวของเหล่าผู้อาวุโสแห่งหอสุดแสง!

คิดมาถึงตรงนี้คนทั้งห้าก็ขนลุกตั้งทันที!

ใครจะไปคิดว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านี้เป็นผู้อาวุโสหอสุดแสง?

เช่นนั้น…มันคือเรื่องอะไรกันแน่?

ฟานหลี่นั้นร้องขึ้นมาด้วยความคับแค้นใจ “ไอ้เวรซ่งชิงหยาง เจ้าหลอกพี่เจ้าได้ลงคอ!”

“ซ่งชิงหยาง ขอให้ลูกเจ้าเกิดมาไม่มีรูตูด!”

“ซ่งชิงหยาง ไอ้…!”

คนทั้งหลายนั้นร้องด่ากันขึ้นมาพร้อมๆ กัน

ฟังจากคำของเย่หยวนแล้วซ่งชิงหยางคงรู้เรื่องนี้แน่แต่ไม่มาเตือนมาบอกพวกเขา

วินาทีที่เย่หยวนทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาซ่งชิงหยางก็ควรจะมาเตือนพวกเขาทั้งหลายก่อนแล้ว

แต่เขากลับไม่ทำ!

เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้นห้ามคนทั้งหลาย “หลานศิษย์ทั้งหลาย มันมิใช่ว่าเจ้านิกายคิดปกปิดอะไรหรอก แต่นี่เป็นคำสั่งของอาจารย์ พวกเจ้าทั้งหลายนั้นเป็นคนระดับสูงของนิกายยาสุดล้ำเรา หวังว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟังง่ายๆ เล่า!”

อาจารย์?

อาจารย์ของเด็กหนุ่มคนนี้เป็นใคร?

ฟานหลี่นั้นยิ้มแห้งๆ ถามขึ้นมา “ผู้อาวุโสหอสุดแสง…เย่ ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าอาจารย์ของท่านคือ…?”

“เจ้าโลกหยุนซาน!”

คนทั้งห้านั้นแทบสิ้นสติลงไปตรงนั้น!

พวกเขานั้นคิดไปว่าอาจจะเป็นศิษย์ของเจ้าโลกโจวซ่งฉวนจึงมีสิทธิ์เข้าหอสุดแสง

ใครจะไปคิดว่าเขานี้กลับเป็นศิษย์เจ้าโลกหยุนซาน!

เจ้าโลกหยุนซานนั้นไม่ได้รับศิษย์ใหม่มานานนับแสนๆ ปีแล้ว!

“ค…คารวะอาจารย์ลุงน้อย!”

คนทั้งห้านั้นก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนด้วยท่าทางเหยเก

นี่มันหลอกลวงกันชัดๆ!

อีกด้านนั้นพวกจูหยานต่างก็รู้สึกร้อนใจเหมือนได้กินผึ้งเข้าไปทั้งรัง ใบหน้าของพวกเขานั้นยากเกินกว่าจะอธิบาย

หลังจากได้ยินข่าวนี้มาพวกเขาเองก็ทำสีหน้าไม่ต่างจากฝ่ายสำนักฉินชานเลย

ผงะ!

เหลือเชื่อ!

เหลือเชื่อจนพวกเขานั้นไม่อาจจะตั้งสติได้!

“ที่แท้แล้วศิษย์น้องกลับพูดเรื่องจริงสิ้น!” จูหยานนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความขื่นขม

หลู่เต้าอี้นั้นอ่อนแอ!

ไม่ใช่แค่หลู่เต้าอี้เท่านั้น แม้แต่จูหยานคนนี้เองก็อ่อนแอจนเกินไป!

ตอนที่เย่หยวนกล่าวเรื่องนี้ขึ้นมา พวกเขานั้นต่างพูดเย้ยหยันไม่คิดเชื่อ

แต่ตอนที่เย่หยวนบรรลุระดับลึกล้ำนั้น ทุกสิ่งอย่างก็ปรากฏให้เห็นชัดเจนแก่สายตา!

ฮั่วจงนั้นเองก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศิษย์น้องถึงไม่คิดจะลงมือใดๆ หลู่เต้าอี้นั้นไม่อาจทำให้เขาสนใจได้เลย! ในสายตาของเรานั้นหลู่เต้าอี้อาจจะเป็นคนมากพรสวรรค์เก่งกาจ แต่ในสายตาของศิษย์น้องนั้น เขาคงไร้ค่าใดๆ แน่นอน! เช่นนั้นเรา…จะทำอย่างไรกันดี?”

จูหยานยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “หลังจากศิษย์น้องออกจากการเก็บตัวแล้ว ข้าจะไปกล่าวขอโทษกับเขาเอง! จะอย่างไรเราก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน!”

……………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+