Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2858 คำที่ทำเอาคนฟังลืมหายใจ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2858 คำที่ทำเอาคนฟังลืมหายใจ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2858 คำที่ทำเอาคนฟังลืมหายใจ!
โบราณ

ยังคงเป็นวิชาในตำนาน!

พวกนี้มีแต่ของในตำนานทั้งสิ้น!

เชินเฟยเหวินนั้นหยิบมันขึ้นมาดูเรื่อยๆ ด้วยใบหน้าที่เหมือนได้เห็นผีหลายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ!

กองแผ่นหยกเบื้องหน้าเขานี้มันมีแต่บันทึกโบราณที่สาบสูญ!

เช่นนั้นแล้วของที่อยู่ด้านในเล่า?

เชินเฟยเหวินหยิบแผ่นหยกด้านในไปอ่านและยิ่งเห็นว่ามันเหนือล้ำกว่าด้านนอกไปมาก

มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อมาก่อน!

แต่ว่าหากดูตามสิ่งที่เขียนไว้ในแผ่นหยกนี้แล้ว เขาก็เข้าใจถึงความล้ำค่าของมันได้อย่างทันที!

ได้เห็นสภาพนั้นของเชินเฟยเหวินพวกหวังหลินที่ก่อนหน้ายังว่าเย้ยหยันเย่หยวนก็เริ่มหน้าเสีย

นี่เขาคงไม่ได้เห็นแก่หน้าหลานศิษย์จนเล่นละครตามน้ำเย่หยวนไปหรอกนะ?

หนึ่งหรือสองยังพอเชื่อ!

สามหรือสี่ยังพอทำใจ!

แต่จะบอกว่ากองภูเขาแผ่นหยกนี้มันมีแต่บันทึกล้ำค่าอยู่หรือ?

จากนั้นไม่นานเชินเฟยเหวินก็หยุดมือลงก่อนจะหันไปมองหน้าเย่หยวนและกล่าว “หลานศิษย์เย่ เรื่องนี้มันใหญ่เกินไปส่งผลถึงความเจริญรุ่งเรืองของนิกาย ข้าคนเดียวไม่อาจตัดสินได้อีกต่อไป! ข้าขอตัวไปรายงานท่านเจ้านิกายก่อนให้ท่านเป็นคนตัดสินใจ!”

พูดจบเขาก็เดินหายเข้าไปในห้วงมิติทันทีทิ้งคนทั้งโถงคุณงามให้อ้าปากค้าง

นี่มัน…ถึงขั้นส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของนิกายหรือ?

อาจารย์ลุงท่านจะไม่พูดเกินไปหน่อยหรือ?

แค่แผ่นหยกกองเดียวมันจะมีค่าอะไรขนาดนั้น?

ไม่นานจากนั้นซ่งชิงหยางก็มาถึงพร้อมฟานหลี่และเหล่ายอดคนระดับสูงของนิกายด้วยใบหน้าแตกตื่น!

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองของนิกายนั้นมันย่อมจะต้องเป็นพวกเขาที่ลงมาดูเอง!

เรื่องของเย่หยวนนั้นซ่งชิงหยางได้แต่ต้องกุมขมับ

‘บรรพบุรุษตัวน้อยของข้า ท่านช่วยทำตัวเงียบๆ หน่อยไม่ได้หรือ?’

‘ทำไมขยับตัวแต่ละครั้งมันก็กลายเป็นเรื่องที่สั่นสะท้านนิกายไปได้ทุกครั้งเช่นนี้?’

ได้เห็นสายตานั้นของซ่งชิงหยางเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยักไหล่ตอบ

‘ข้าก็ไม่ได้อยากทำ!’

‘แต่ในเมื่อมันมีคนบังคับข้าก็มีแต่ต้องยอมทำแต่โดยดีเท่านั้น’

เพราะของพวกนี้มันน่าจะช่วยทำให้เขาสามารถทำอะไรตามใจในนิกายได้หลังจากใช้หนี้แต้มความดีคืน

เมื่อซ่งชิงหยางและพวกผู้อาวุโสมาถึงโถงคุณงามพวกเขาก็ต่างหยิบแผ่นหยกกันขึ้นมาอ่านคนละชิ้นแต่ยิ่งอ่านไปเท่าไหร่สีหน้าของพวกเขาก็ยิ่งซีดขาวจนสุดท้ายต้องหันมามองเย่หยวนเป็นตาเดียว

นี่เจ้าเด็กคนนี้มันไปปล้นเต๋าโอสถจากทั้งสามสิบสามสวรรค์มาหรือ?

จะเกินเหลือเชื่อไปแล้ว!

แผ่นหยกแต่ละชิ้นนั้นมันมีค่าเหมือนสมบัติที่ไม่อาจจะวัดเป็นเงินได้

แน่นอนว่าวัดเป็นแต้มความดีเองก็ไม่ได้เช่นกัน!

มีบันทึกโอสถทั้งหลายนี้อยู่ในมือ เขาคงสามารถไปสร้างนิกายยาสุดล้ำอีกแห่งได้ไม่ยาก!

จะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

ซ่งชิงหยางนั้นไม่อาจจะหาคำใดมาอธิบายคนอย่างเย่หยวนได้แล้ว

เพราะแค่คำว่าเหลือเชื่อมันยังไม่พอจะอธิบายถึงความน่าทึ่งนี้ของเย่หยวน

ได้เห็นเหล่าคนเบื้องบนหน้าถอดสีเช่นนั้นพวกหวังหลินก็ต้องทรุดลงทันที

ตอนนี้มันไม่มีใครปฏิเสธได้แล้วว่าแผ่นหยกของเย่หยวนนั้นมันล้ำค่านัก

แม้แต่พวกหวังหลินเองก็ไม่กล้าปฏิเสธ!

ช่างน่าคับแค้นใจ!

ซ่งชิงหยางนั้นวางแผ่นหยกลงก่อนจะค่อยๆ ปรับลมหายใจตัวเอง “เย่หยวน แผ่นหยกทั้งหลายนี้มันทรงคุณค่าจนเกินไป! เอาเช่นนี้ไหม? นิกายจะไม่ใช้ระบบแต้มความดีใดๆ กับเจ้าอีกแล้ววันหน้าหากเจ้าอยากได้อะไรก็บอกนิกายมาได้เลย! ไม่ว่าจะทรัพยากรใดนิกายก็จะจัดหามาให้อย่างไม่สิ้นสุด!”

เมื่อได้ยินคำนั้นคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง!

ป…ปานนั้น?

รางวัลนี้มันยิ่งใหญ่จนเกินไป!

ระบบแต้มความดีนั้นคืออะไร?

มันคือระบบที่ทุกนิกายต่างใช้เพื่อควบคุมทรัพยากร!

ภายในนิกายนั้นมันย่อมจะต้องใช้แต้มความดีนี้แทนเงินตรา!

เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้านิกายผู้อาวุโสหรือแม้แต่ท่านทั้งหลายในหอสุดแสงหรือแม้แต่เจ้าโลกเองก็ยังไม่อาจวางตัวเหนือระบบนี้ไปได้!

เจ้านิกายนั้นต้องใช้แต้มความดีแลกเวลาต้องการอะไรด้วยหรือ?

แน่นอน!

หากเจ้านิกายนั้นต้องการอะไรจากนิกายเป็นของตัวเองแล้วเขาก็ต้องเอาแต้มความดีของตนออกมาแลก!

แต่คำพูดของซ่งชิงหยางนั้นกลับบอกว่าจากวันนี้ไปเย่หยวนนั้นจะไม่ต้องอยู่ในระบบแต้มความดีนี้อีก!

เขานั้นเอาได้ทุกอย่างเท่าที่ต้องการ!

จะบ้าไปแล้ว!

เย่หยวนนั้นยังเป็นแค่ระดับห้าอยู่ในตอนนี้ก็พูดง่ายสิ!

หากวันหน้าเขาบ่มเพาะถึงมหาจักรพรรดิแล้วเล่า?

หากวันหนึ่งเขากลายเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปได้จริงๆ เล่า?

สมุนไพรสวรรค์ระดับเก้าทั้งหลายนั้นจะมอบให้เขาไปอย่างไร้เงื่อนไขใดๆ เลยหรือ?

ใช่!

นั่นคือความหมายของคำพูดที่ซ่งชิงหยางบอก!

แผ่นหยกพวกนี้มันมีค่ามากขนาดนั้น!

ซ่งชิงหยางนั้นไม่คิดสงสัยเลยแม้แต่น้อย แผ่นหยกทั้งหลายนี้มันจะช่วยพัฒนานิกายยาสุดล้ำไปได้แน่นอน!

หลังจากวันนี้เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายคงเดินเข้าออกห้องสมุดคัมภีร์กันไม่ขาดสายแน่นอนเพื่ออ่านบันทึก เหล่านี้!

และฝีมือของพวกเขานั้นมันก็จะพัฒนาไปอย่างมากล้น!

หากมองดูจากภาพกว้างแล้วการกระทำของเย่หยวนนั้นมันก็จะช่วยให้วิชาการโอสถของพันธมิตรสวรรค์แรกพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ!

นี่จะช่วยในสงครามกับเผ่าเลือดได้อีกด้วย!

เพราะฉะนั้นแต้มความดีใดๆ มันจึงไม่มีค่าพอจะวัดคุณงามความดีของเขานี้!

การเว้นระบบแต้มความดีนี้มันคงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในนิกายยาสุดล้ำ

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของนิกายยาสุดล้ำมันคงมีเย่หยวนเป็นคนแรก!

อาจารย์ลุงตัวน้อยของเขานี้มันจะเก่งกาจเกินไปแล้ว!

เขานั้นต้องทำเรื่องใหญ่ไปอีกกี่ครั้งถึงจะพอใจกัน?

“ข้าเห็นด้วย! บันทึกพวกนี้มันล้ำค่านัก! สามารถใช้สร้างนิกายยาสุดล้ำใหม่ได้ไม่ยากเลยด้วยซ้ำ! รางวัลนี้ไม่ได้เกินเลยไปแต่อย่างใด!” ฟานหลี่กล่าวขึ้นมาตาม

“ข้าเองก็ไม่ขัด! รีบๆ จัดการเถอะ ข้าจะกลับไปเก็บตัวแล้ว! ความรู้พวกนี้มันคงทำให้ข้าเข้าถึงต้นกำเนิดได้แน่!” เหมียวชวนกล่าวขึ้นมาตาม

“ข้าเห็นด้วย!”

“ข้าก็ไม่คิดขัด!”

เหล่ายอดคนทั้งหลายของนิกายนั้นต่างกล่าวออกมาเป็นเสียงเดียวกัน

เรื่องนี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบสิ้นสติ!

บ้า!

บ้าเกินไปแล้ว!

“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? สร้างนิกายยาสุดล้ำอีกแห่งได้! เย่หยวนคนนี้มันจะเก่งกาจเกินไปแล้ว!”

“เจ้านี่มันมีชะตาที่ยิ่งใหญ่จริงๆ กลับมีสมบัติล้ำค่ามากมายเช่นนี้ติดตัวมา!”

“พวกหวังหลินคิดเอาเย่หยวนมาเย้ยหยันต่อหน้าคน! สุดท้ายมันกลับเป็นคนที่ต้องอับอายกลับไปเอง!”

คนรอบๆ นั้นแตกตื่นกันไปตามคาด

เพราะเรื่องตรงหน้านี้มันยิ่งใหญ่จนเกินไป!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดของฟานหลี่นั้นที่บอกว่าสามารถไปตั้งนิกายยาสุดล้ำแห่งใหม่ได้ มันทำให้คนฟังลืมหายใจ!

เจ้าหมอนี่มันเกินคำว่าบ้าไปแล้ว!

สิ่งที่สร้างนิกายได้ทั้งนิกาย เจ้ากลับเอามามอบให้นิกายง่ายๆ เช่นนั้น?

คนเรานั้นเห็นแก่ตัว มันย่อมจะถือประโยชน์ตัวเองเหนือประโยชน์ใด

การสร้างนิกายค่ายสำนักใหม่ขึ้นมา กลายเป็นผู้ก่อตั้งนั้นมันคือเกียรติอันสูงส่ง!

ใครบ้างเล่าที่จะไม่อยากได้มัน?

แต่ขณะที่คนทั้งหลายยังไม่อาจหุบปากที่อ้าค้างลงได้นั้นเย่หยวนก็กล่าวขึ้นต่อด้วยท่าทางสบายๆ “ไม่ต้องหรอก แผ่นหยกทั้งหลายนี้เดิมทีข้าก็คิดจะบริจาคให้นิกายอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าหลังข้ามาถึงนิกายนั้นข้าเอาแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องการบรรลุระดับลึกล้ำทำให้ลืมเรื่องมันไป ตอนนี้ก็เป็นโอกาสดี ท่านเจ้านิกายข้าขอใช้พวกมันแลกกับแต้มความดีห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยห้าสิบแต้ม นอกจากนั้นขอสมุนไพรสวรรค์ระดับห้าให้ข้าอีกชุดก็พอแล้ว”

วินาทีต่อมาคนทั้งหลายก็หยุดพูดลง!

แม้แต่ซ่งชิงหยางเองก็ยังลืมหายใจ!

นี่มันบ้าไปแล้ว?

เขานั้นกลับคิดจะบริจาคของพวกนี้ให้แก่นิกายหรือ?

พวกมันนี้คือสมบัติล้ำค่าไร้เทียบ เย่หยวนกลับเอามันมาบริจาคง่ายๆ?

แม้ว่าพวกเขานั้นจะเป็นฝ่ายรับแต่ซ่งชิงหยางเองก็ยังรู้สึกเสียดายแทนจับใจ!

ฟุ่มเฟือย!

แค่แต้มความดีห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยห้าสิบแต้มมันจะมีค่าใด?!

“จ…เจ้าล้อเล่นแล้ว?” มุมปากของซ่งชิงหยางนั้นกระตุกขึ้นมา

เขานั้นแทบอยากจะก้มลงกราบอาจารย์ลุงตัวน้อยของเขาคนนี้!

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “ตอนที่ข้ากราบอาจารย์จั่วเฉินนั้นข้าก็ได้บอกไปแล้วว่าข้าจะมอบสมบัตินี้ให้แก่นิกายเพื่อแลกกับการเข้าดูในห้องสมุดคัมภีร์อย่างอิสระ ตอนนี้ข้าได้อ่านบันทึกในห้องสมุดคัมภีร์ไปก่อนแล้ว ย่อมจะไม่ถือว่าติดค้างอะไรกันอีก แต่ข้านั้นมีความต้องการเพียงอย่างเดียวคือแผ่นหยกที่ข้ามอบให้นี้ ข้าอยากจะให้ศิษย์ทั้งหลายสามารถเข้าดูได้อย่างไม่ต้องจ่ายแต้มใดๆ!”

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2858 คำที่ทำเอาคนฟังลืมหายใจ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2858 คำที่ทำเอาคนฟังลืมหายใจ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2858 คำที่ทำเอาคนฟังลืมหายใจ!
โบราณ

ยังคงเป็นวิชาในตำนาน!

พวกนี้มีแต่ของในตำนานทั้งสิ้น!

เชินเฟยเหวินนั้นหยิบมันขึ้นมาดูเรื่อยๆ ด้วยใบหน้าที่เหมือนได้เห็นผีหลายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ!

กองแผ่นหยกเบื้องหน้าเขานี้มันมีแต่บันทึกโบราณที่สาบสูญ!

เช่นนั้นแล้วของที่อยู่ด้านในเล่า?

เชินเฟยเหวินหยิบแผ่นหยกด้านในไปอ่านและยิ่งเห็นว่ามันเหนือล้ำกว่าด้านนอกไปมาก

มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อมาก่อน!

แต่ว่าหากดูตามสิ่งที่เขียนไว้ในแผ่นหยกนี้แล้ว เขาก็เข้าใจถึงความล้ำค่าของมันได้อย่างทันที!

ได้เห็นสภาพนั้นของเชินเฟยเหวินพวกหวังหลินที่ก่อนหน้ายังว่าเย้ยหยันเย่หยวนก็เริ่มหน้าเสีย

นี่เขาคงไม่ได้เห็นแก่หน้าหลานศิษย์จนเล่นละครตามน้ำเย่หยวนไปหรอกนะ?

หนึ่งหรือสองยังพอเชื่อ!

สามหรือสี่ยังพอทำใจ!

แต่จะบอกว่ากองภูเขาแผ่นหยกนี้มันมีแต่บันทึกล้ำค่าอยู่หรือ?

จากนั้นไม่นานเชินเฟยเหวินก็หยุดมือลงก่อนจะหันไปมองหน้าเย่หยวนและกล่าว “หลานศิษย์เย่ เรื่องนี้มันใหญ่เกินไปส่งผลถึงความเจริญรุ่งเรืองของนิกาย ข้าคนเดียวไม่อาจตัดสินได้อีกต่อไป! ข้าขอตัวไปรายงานท่านเจ้านิกายก่อนให้ท่านเป็นคนตัดสินใจ!”

พูดจบเขาก็เดินหายเข้าไปในห้วงมิติทันทีทิ้งคนทั้งโถงคุณงามให้อ้าปากค้าง

นี่มัน…ถึงขั้นส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของนิกายหรือ?

อาจารย์ลุงท่านจะไม่พูดเกินไปหน่อยหรือ?

แค่แผ่นหยกกองเดียวมันจะมีค่าอะไรขนาดนั้น?

ไม่นานจากนั้นซ่งชิงหยางก็มาถึงพร้อมฟานหลี่และเหล่ายอดคนระดับสูงของนิกายด้วยใบหน้าแตกตื่น!

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองของนิกายนั้นมันย่อมจะต้องเป็นพวกเขาที่ลงมาดูเอง!

เรื่องของเย่หยวนนั้นซ่งชิงหยางได้แต่ต้องกุมขมับ

‘บรรพบุรุษตัวน้อยของข้า ท่านช่วยทำตัวเงียบๆ หน่อยไม่ได้หรือ?’

‘ทำไมขยับตัวแต่ละครั้งมันก็กลายเป็นเรื่องที่สั่นสะท้านนิกายไปได้ทุกครั้งเช่นนี้?’

ได้เห็นสายตานั้นของซ่งชิงหยางเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยักไหล่ตอบ

‘ข้าก็ไม่ได้อยากทำ!’

‘แต่ในเมื่อมันมีคนบังคับข้าก็มีแต่ต้องยอมทำแต่โดยดีเท่านั้น’

เพราะของพวกนี้มันน่าจะช่วยทำให้เขาสามารถทำอะไรตามใจในนิกายได้หลังจากใช้หนี้แต้มความดีคืน

เมื่อซ่งชิงหยางและพวกผู้อาวุโสมาถึงโถงคุณงามพวกเขาก็ต่างหยิบแผ่นหยกกันขึ้นมาอ่านคนละชิ้นแต่ยิ่งอ่านไปเท่าไหร่สีหน้าของพวกเขาก็ยิ่งซีดขาวจนสุดท้ายต้องหันมามองเย่หยวนเป็นตาเดียว

นี่เจ้าเด็กคนนี้มันไปปล้นเต๋าโอสถจากทั้งสามสิบสามสวรรค์มาหรือ?

จะเกินเหลือเชื่อไปแล้ว!

แผ่นหยกแต่ละชิ้นนั้นมันมีค่าเหมือนสมบัติที่ไม่อาจจะวัดเป็นเงินได้

แน่นอนว่าวัดเป็นแต้มความดีเองก็ไม่ได้เช่นกัน!

มีบันทึกโอสถทั้งหลายนี้อยู่ในมือ เขาคงสามารถไปสร้างนิกายยาสุดล้ำอีกแห่งได้ไม่ยาก!

จะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

ซ่งชิงหยางนั้นไม่อาจจะหาคำใดมาอธิบายคนอย่างเย่หยวนได้แล้ว

เพราะแค่คำว่าเหลือเชื่อมันยังไม่พอจะอธิบายถึงความน่าทึ่งนี้ของเย่หยวน

ได้เห็นเหล่าคนเบื้องบนหน้าถอดสีเช่นนั้นพวกหวังหลินก็ต้องทรุดลงทันที

ตอนนี้มันไม่มีใครปฏิเสธได้แล้วว่าแผ่นหยกของเย่หยวนนั้นมันล้ำค่านัก

แม้แต่พวกหวังหลินเองก็ไม่กล้าปฏิเสธ!

ช่างน่าคับแค้นใจ!

ซ่งชิงหยางนั้นวางแผ่นหยกลงก่อนจะค่อยๆ ปรับลมหายใจตัวเอง “เย่หยวน แผ่นหยกทั้งหลายนี้มันทรงคุณค่าจนเกินไป! เอาเช่นนี้ไหม? นิกายจะไม่ใช้ระบบแต้มความดีใดๆ กับเจ้าอีกแล้ววันหน้าหากเจ้าอยากได้อะไรก็บอกนิกายมาได้เลย! ไม่ว่าจะทรัพยากรใดนิกายก็จะจัดหามาให้อย่างไม่สิ้นสุด!”

เมื่อได้ยินคำนั้นคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง!

ป…ปานนั้น?

รางวัลนี้มันยิ่งใหญ่จนเกินไป!

ระบบแต้มความดีนั้นคืออะไร?

มันคือระบบที่ทุกนิกายต่างใช้เพื่อควบคุมทรัพยากร!

ภายในนิกายนั้นมันย่อมจะต้องใช้แต้มความดีนี้แทนเงินตรา!

เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้านิกายผู้อาวุโสหรือแม้แต่ท่านทั้งหลายในหอสุดแสงหรือแม้แต่เจ้าโลกเองก็ยังไม่อาจวางตัวเหนือระบบนี้ไปได้!

เจ้านิกายนั้นต้องใช้แต้มความดีแลกเวลาต้องการอะไรด้วยหรือ?

แน่นอน!

หากเจ้านิกายนั้นต้องการอะไรจากนิกายเป็นของตัวเองแล้วเขาก็ต้องเอาแต้มความดีของตนออกมาแลก!

แต่คำพูดของซ่งชิงหยางนั้นกลับบอกว่าจากวันนี้ไปเย่หยวนนั้นจะไม่ต้องอยู่ในระบบแต้มความดีนี้อีก!

เขานั้นเอาได้ทุกอย่างเท่าที่ต้องการ!

จะบ้าไปแล้ว!

เย่หยวนนั้นยังเป็นแค่ระดับห้าอยู่ในตอนนี้ก็พูดง่ายสิ!

หากวันหน้าเขาบ่มเพาะถึงมหาจักรพรรดิแล้วเล่า?

หากวันหนึ่งเขากลายเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปได้จริงๆ เล่า?

สมุนไพรสวรรค์ระดับเก้าทั้งหลายนั้นจะมอบให้เขาไปอย่างไร้เงื่อนไขใดๆ เลยหรือ?

ใช่!

นั่นคือความหมายของคำพูดที่ซ่งชิงหยางบอก!

แผ่นหยกพวกนี้มันมีค่ามากขนาดนั้น!

ซ่งชิงหยางนั้นไม่คิดสงสัยเลยแม้แต่น้อย แผ่นหยกทั้งหลายนี้มันจะช่วยพัฒนานิกายยาสุดล้ำไปได้แน่นอน!

หลังจากวันนี้เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายคงเดินเข้าออกห้องสมุดคัมภีร์กันไม่ขาดสายแน่นอนเพื่ออ่านบันทึก เหล่านี้!

และฝีมือของพวกเขานั้นมันก็จะพัฒนาไปอย่างมากล้น!

หากมองดูจากภาพกว้างแล้วการกระทำของเย่หยวนนั้นมันก็จะช่วยให้วิชาการโอสถของพันธมิตรสวรรค์แรกพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ!

นี่จะช่วยในสงครามกับเผ่าเลือดได้อีกด้วย!

เพราะฉะนั้นแต้มความดีใดๆ มันจึงไม่มีค่าพอจะวัดคุณงามความดีของเขานี้!

การเว้นระบบแต้มความดีนี้มันคงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในนิกายยาสุดล้ำ

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของนิกายยาสุดล้ำมันคงมีเย่หยวนเป็นคนแรก!

อาจารย์ลุงตัวน้อยของเขานี้มันจะเก่งกาจเกินไปแล้ว!

เขานั้นต้องทำเรื่องใหญ่ไปอีกกี่ครั้งถึงจะพอใจกัน?

“ข้าเห็นด้วย! บันทึกพวกนี้มันล้ำค่านัก! สามารถใช้สร้างนิกายยาสุดล้ำใหม่ได้ไม่ยากเลยด้วยซ้ำ! รางวัลนี้ไม่ได้เกินเลยไปแต่อย่างใด!” ฟานหลี่กล่าวขึ้นมาตาม

“ข้าเองก็ไม่ขัด! รีบๆ จัดการเถอะ ข้าจะกลับไปเก็บตัวแล้ว! ความรู้พวกนี้มันคงทำให้ข้าเข้าถึงต้นกำเนิดได้แน่!” เหมียวชวนกล่าวขึ้นมาตาม

“ข้าเห็นด้วย!”

“ข้าก็ไม่คิดขัด!”

เหล่ายอดคนทั้งหลายของนิกายนั้นต่างกล่าวออกมาเป็นเสียงเดียวกัน

เรื่องนี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบสิ้นสติ!

บ้า!

บ้าเกินไปแล้ว!

“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? สร้างนิกายยาสุดล้ำอีกแห่งได้! เย่หยวนคนนี้มันจะเก่งกาจเกินไปแล้ว!”

“เจ้านี่มันมีชะตาที่ยิ่งใหญ่จริงๆ กลับมีสมบัติล้ำค่ามากมายเช่นนี้ติดตัวมา!”

“พวกหวังหลินคิดเอาเย่หยวนมาเย้ยหยันต่อหน้าคน! สุดท้ายมันกลับเป็นคนที่ต้องอับอายกลับไปเอง!”

คนรอบๆ นั้นแตกตื่นกันไปตามคาด

เพราะเรื่องตรงหน้านี้มันยิ่งใหญ่จนเกินไป!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำพูดของฟานหลี่นั้นที่บอกว่าสามารถไปตั้งนิกายยาสุดล้ำแห่งใหม่ได้ มันทำให้คนฟังลืมหายใจ!

เจ้าหมอนี่มันเกินคำว่าบ้าไปแล้ว!

สิ่งที่สร้างนิกายได้ทั้งนิกาย เจ้ากลับเอามามอบให้นิกายง่ายๆ เช่นนั้น?

คนเรานั้นเห็นแก่ตัว มันย่อมจะถือประโยชน์ตัวเองเหนือประโยชน์ใด

การสร้างนิกายค่ายสำนักใหม่ขึ้นมา กลายเป็นผู้ก่อตั้งนั้นมันคือเกียรติอันสูงส่ง!

ใครบ้างเล่าที่จะไม่อยากได้มัน?

แต่ขณะที่คนทั้งหลายยังไม่อาจหุบปากที่อ้าค้างลงได้นั้นเย่หยวนก็กล่าวขึ้นต่อด้วยท่าทางสบายๆ “ไม่ต้องหรอก แผ่นหยกทั้งหลายนี้เดิมทีข้าก็คิดจะบริจาคให้นิกายอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าหลังข้ามาถึงนิกายนั้นข้าเอาแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องการบรรลุระดับลึกล้ำทำให้ลืมเรื่องมันไป ตอนนี้ก็เป็นโอกาสดี ท่านเจ้านิกายข้าขอใช้พวกมันแลกกับแต้มความดีห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยห้าสิบแต้ม นอกจากนั้นขอสมุนไพรสวรรค์ระดับห้าให้ข้าอีกชุดก็พอแล้ว”

วินาทีต่อมาคนทั้งหลายก็หยุดพูดลง!

แม้แต่ซ่งชิงหยางเองก็ยังลืมหายใจ!

นี่มันบ้าไปแล้ว?

เขานั้นกลับคิดจะบริจาคของพวกนี้ให้แก่นิกายหรือ?

พวกมันนี้คือสมบัติล้ำค่าไร้เทียบ เย่หยวนกลับเอามันมาบริจาคง่ายๆ?

แม้ว่าพวกเขานั้นจะเป็นฝ่ายรับแต่ซ่งชิงหยางเองก็ยังรู้สึกเสียดายแทนจับใจ!

ฟุ่มเฟือย!

แค่แต้มความดีห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยห้าสิบแต้มมันจะมีค่าใด?!

“จ…เจ้าล้อเล่นแล้ว?” มุมปากของซ่งชิงหยางนั้นกระตุกขึ้นมา

เขานั้นแทบอยากจะก้มลงกราบอาจารย์ลุงตัวน้อยของเขาคนนี้!

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “ตอนที่ข้ากราบอาจารย์จั่วเฉินนั้นข้าก็ได้บอกไปแล้วว่าข้าจะมอบสมบัตินี้ให้แก่นิกายเพื่อแลกกับการเข้าดูในห้องสมุดคัมภีร์อย่างอิสระ ตอนนี้ข้าได้อ่านบันทึกในห้องสมุดคัมภีร์ไปก่อนแล้ว ย่อมจะไม่ถือว่าติดค้างอะไรกันอีก แต่ข้านั้นมีความต้องการเพียงอย่างเดียวคือแผ่นหยกที่ข้ามอบให้นี้ ข้าอยากจะให้ศิษย์ทั้งหลายสามารถเข้าดูได้อย่างไม่ต้องจ่ายแต้มใดๆ!”

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+