Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2862 ชี้ประโยชน์และโทษ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2862 ชี้ประโยชน์และโทษ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2862 ชี้ประโยชน์และโทษ!
“เจ้ามันหลงตัวเองนัก!”

กรรมการคนนั้นมองหน้าหยางชิงที่นอนคลุกฝุ่นอยู่และพูดขึ้น

สมน้ำหน้า!

นี่คือสิ่งที่คนทั้งหลายต่างคิดในใจ

หยางชิงลุกกลับขึ้นมามองหน้ากรรมการอย่างไม่เป็นมิตร “หึๆ! ตาเฒ่า โลกนี้มันมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอ! หลังจากพลังบ่มเพาะข้าไปถึงเจ้าแล้วข้าจะตบหน้าเจ้ากลับให้จมดินเลย!”

ตบมัน!

ทุบมันให้ตายไปเสียที!

นั่นคือความคิดของคนทั้งหลายที่ร่ำร้องออกมาในใจ

แต่ว่ากรรมการคนนั้นกลับยิ้มและพยักหน้ารับ “ไอ้หนู เจ้ามันไม่ธรรมดา! ข้าจะให้เจ้ายืมใช้สังเวียนนี้!”

หยางชิงหัวเราะตอบกลับไป “อย่าคิดว่าแค่ให้ยืมใช้ตอนนี้แล้วมันจะคลายความแค้นไปได้เล่า ข้านั้นเป็นคนพยาบาท!”

กรรมการหัวเราะขึ้น “เออๆ เช่นนั้นข้าจะรอเจ้าเอง!”

หยางชิงไม่คิดต่อปากต่อคำให้มากมายไปกว่านั้นเดินขึ้นสังเวียนไปโดยมีเฉาเตียนตามหลังขึ้นไป

เมื่อคนทั้งสองลงมือนั้นมันก็เป็นท่าไม้ตายที่รุนแรงที่สุดของตน!

แต่ครั้งนี้คนทั้งหลายได้เห็นหอกของเย่หยวนอย่างชัดเจน

เป็นหอกที่ไร้ต้านอย่างแท้จริง!

ตูม!

เสียงระเบิดดังขึ้นมาพร้อมร่างของเฉาเตียนที่พุ่งถอยกลับไปแต่หยางชิงนั้นกลับไม่ขยับแม้แต่ก้าว

กระบวนท่าเดียวนั้นมันก็แสดงถึงความแตกต่างได้ทันที!

คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

นี่มันจะบ้าเกินไปหรือไม่?

“ข้า…แพ้แล้ว!” เฉาเตียนนั้นประกาศออกมาก่อนจะเดินหันหน้าลงสังเวียนไป

คนที่มุงดูอยู่นั้นต้องอ้าปากค้าง!

ด้วยโอสถสวรรค์เดียวนั้นหยางชิงก็ได้พุ่งทะยานขึ้นฟ้ากลายเป็นจักรพรรดิเที่ยงอันดับหนึ่งของนิกายไปทันที?

ไม่อยากจะเชื่อ!

‘โอสถสวรรค์บ้าบออะไรกันนี่? ขอข้าบ้างไม่ได้หรือ?’

“เจ้าขยะพวกนี้เย้ยหยันปู่ชิงเจ้ามาเป็นวันๆ แต่สุดท้ายกลับถูกตบจนหน้าหัน รู้สึกดีไหมเล่า? ฮ่าๆๆ…” หยางชิงนั้นได้โอกาสหัวเราะเย้ยกลับไป

คนทั้งหลายนั้นที่เคยพูดจาดูถูกเย้ยหยันเขามาในช่วงหลายวันนี้มันแทบอยากจะมุดหน้าลงดินไป

มีหรือที่พวกเขาจะคาดคิดว่ามันมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาได้?

“หยางชิง เจ้าจะอวดดีไปเพื่อ! หากไม่ได้เย่หยวนแล้วคนอย่างเจ้ามันจะมีค่าอะไร?” เจิ้งเฉียนเถียงกลับไปอย่างไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ

“ใช่แล้ว! คนที่เก่งมันคือเย่หยวน คนอย่างเจ้ามันจะมีค่าอะไร?”

“เจ้าอวดดีอวดเบ่งมากมายแต่สุดท้ายมันกลับมิใช่ผลงานของตัวเอง คิดว่าเก่งมาก?”

คนทั้งหลายนั้นเหมือนได้เจอช่องว่างที่จะระบายอารมณ์ออกมาจนร้องด่าหยางชิงตามๆ กัน

หยางชิงนั้นไม่คิดสนใจและยิ้มตอบกลับไป “พ่อเจ้าเอาชนะพวกเจ้าทั้งหมดได้เพราะมีพี่น้องที่เก่งกาจ! เชื่อไหมเล่า ไม่เชื่อก็มาลอง!”

คนทั้งหลายนั้นต่างต้องหุบปากลงไป

เพราะคำพูดของหยางชิงนั้นมันก็จริง แม้จะฟังดูหน้าไม่อายไปหน่อยแต่พวกเขาไม่อาจจะหาคำใดมาเถียงได้อีก!

ทำไมพวกเขาถึงไม่มีพี่น้องเช่นเย่หยวนเล่า?

เพราะฉะนั้นข่าวเรื่องโอสถสวรรค์เม็ดเดียวจากเย่หยวนนั้นมันก็ได้แพร่ไปทั้งนิกายยาสุดล้ำอย่างรวดเร็ว

คนทั้งนิกายนั้นต้องอ้าปากค้างเมื่อได้ยินมัน

แม้ว่าคนที่เอาชนะไปในวันนี้มันจะเป็นหยางชิงแต่สิ่งที่คนทั้งหลายสนใจนั้นมันกลับเป็นเย่หยวนเพราะคนที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์นี้ขึ้นมาได้มันคือเย่หยวนอย่างไม่ต้องสงสัย!

แม้แต่เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายที่เก่งกาจในวิชาโอสถนั้นต่างก็ต้องอ้าปากค้าง

โอสถสวรรค์ที่เหนือล้ำฟ้าเช่นนี้เย่หยวนหลอมมันขึ้นมาได้อย่างไร?

เพราะต่อให้จะเป็นโอสถสวรรค์ครบธาตุแต่ว่ามันก็คงไม่มีผลที่สะท้านสวรรค์เช่นนี้หรอกมิใช่หรือ?

เย่หยวนนั้นใส่อะไรลงไปเพิ่ม เขาปรับเปลี่ยนสูตรอย่างไร?

คนทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกว่าตั้งแต่เย่หยวนก้าวเท้าเข้ามาเหยียบดินนิกายยาสุดล้ำนั้นมันเหมือนกับว่านิกายยาสุดล้ำได้กลายเป็นของเขาไปสิ้นเชิง!

โอสถวงจรอนันต์นี้มันถูกขนานนามว่าโอสถสวรรค์ที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์!

เย่หยวนที่อยู่แค่ระดับห้านั้นกลับหลอมมันได้จริงๆ

แต่นอกจากจะหลอมได้จริงแล้วมันกลับสร้างผลลัพธ์ที่แม้แต่โอสถวงจรอนันต์ระดับลึกล้ำทั่วไปยังทำไม่ได้!

เช่นนั้นหมายความว่าเย่หยวนนั้นมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำกว่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดทั้งหลายไปแล้ว?

นี่มัน…ล้อกันเล่น?

เจ้าเพิ่งบรรลุระดับลึกล้ำมาได้แค่สิบปีมิใช่หรือ?

ทำไมถึงเก่งได้ขนาดนี้เล่า?

แน่นอนว่าเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้นมันย่อมจะไม่อยู่ในความคิดของเย่หยวนเพราะตอนนี้เขาได้เข้ามานั่งประชุม ในหอสุดแสงแล้ว

ในฐานะศิษย์ของเจ้าโลกหยุนซานนั้นนิกายย่อมจะต้องฟังคำพูดของเขาอย่างจริงจัง

ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังได้มอบคุณใหญ่หลวงให้นิกายไว้ด้วย!

“ศิษย์น้องข้า เรื่องนี้มันใหญ่เกินไป ผลที่ตามมามันจะยากเกินจัดการแน่!” หลี่ชิงหยุนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางลำบากใจ

ผู้อาวุโสหอสุดแสงอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาตาม “ข้าเองก็ไม่เห็นด้วย! หากคนอื่นรู้ว่าเรานั้นเปิดบ้านให้คนอื่นมากเอาสมบัติไปเช่นนี้นิกายยาสุดล้ำนั้นจะได้มีศัตรูผุดขึ้นมาทั่วฟ้าดินแน่!”

“อาจารย์ลุงน้อย ท่านนั้นระดับอาวุโสสูงแต่ท่านนั้นยังอายุน้อยไปนัก!”

ในหอสุดแสงนั้นเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างค้านเย่หยวนออกมาเป็นเสียงเดียว

เพราะเรื่องราวเช่นนี้มันเพ้อฝันและหลอกลวงจนเกินรับ!

จู่ๆ จะไปสร้างศัตรูขึ้นมาทั่วฟ้าดิน มันจะมีประโยชน์อะไรกับพวกเขากัน!

ทำเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีใครยอมแน่นอน

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปเมื่อได้ยิน “พวกท่านบอกมาหน่อยได้หรือไม่ว่าตั้งแต่ที่พันธมิตรสวรรค์แรกก่อตั้งขึ้นมานั้นมันมียอดฝีมือกี่คนแล้วที่ทวีปสวรรค์แรกได้ให้กำเนิด? นิกายเราได้ให้กำเนิดยอดฝีมือมากี่คนแล้ว?”

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่นตอบกลับไป “นิกายยาสุดล้ำเรานั้นไม่ได้ให้กำเนิดยอดฝีมือที่แท้จริงแม้แต่คน นอกจากนั้นแล้วยังมีมหาจักรพรรดิอีกนับร้อยที่ตายลงเพราะสงคราม! ส่วนนิกายอื่นๆ นั้นก็ไม่ได้ต่างจากเรามากมาย! ไม่สิ จริงๆ พวกเขานั้นมีสภาพแย่กว่าเราเสียด้วยซ้ำไป!”

“ใช่แล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาอย่างเรียบเฉย “หลังจากที่พันธมิตรสวรรค์แรกเราก่อตั้งขึ้นมานั้นมันอาจจะฟังดูเหมือนคนทั้งหลายรวมใจกันเป็นหนึ่งแต่จนถึงตอนนี้พวกท่านก็ยังคิดแค่จะเช็ดประตูหน้าบ้านตัวเองเท่านั้น! นอกจากจะไม่มีใครพัฒนาขึ้นแล้วมันมีแต่จะอ่อนแอลงแทนเพราะศึกกับเผ่าเลือดแทน! กลับกันนั้นฝ่ายเผ่าเลือดมันยิ่งสู้กลับยิ่งเก่งยิ่งสร้างยอดฝีมือได้มากขึ้น! ข้าไม่รู้เลยว่าเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ของเรานั้นจะทนไปได้อีกแค่ไหน แต่หากยังทำเช่นนี้กันต่อไปมันก็คงได้แต่รอเวลาตายแล้วมิใช่หรือ?!”

เหล่าผู้อาวุโสหอสุดแสงนั้นต่างเคยไปสู้ที่แนวหน้ามาทั้งสิ้นแล้วย่อมจะเข้าใจเผ่าเลือดดี!

หลายพันปีที่ผ่านมานั้นมันมีผู้อาวุโสหอสุดแสงหลายคนต้องตายลงไป!

พวกเขานั้นเดิมทีต่างเป็นยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดผู้มีโอกาสจะก้าวขึ้นเป็นเจ้าโลก!

ส่วนนิกายอื่นๆ นั้นยิ่งจะมีสภาพย่ำแย่กว่ามาก

“คนทั้งหลายในนิกายเรานั้นไม่เคยไปยังแนวหน้าและย่อมจะไม่เข้าใจถึงอันตรายใดๆ เลย พวกมันคงไม่รู้เลยว่าความตายกำลังมาเยือนหน้าประตูบ้านแล้ว จริงๆ พวกมันนั้นอาจจะคิดว่าเจ้าโลกนั้นสุดแสนแข็งแกร่งคงสามารถกัดเผ่าเลือดไว้นอกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ตลอดไป! แต่ความเป็นจริงเล่า? ข้านั้นได้เห็นกับตาว่าอาจารย์หยุนซานและศิษย์พี่ซ่งฉวนทำหน้าตากังวลแค่ไหน! ต่อให้จะเป็นตัวตนระดับนั้นพวกท่านเองก็ยังไม่มั่นใจมิใช่หรือ?”

“ในสภาพตอนนี้แล้วนิกายทั้งหลายยังจะมีหน้ามาหวงกำลังของตัวเองรอเวลาได้ผงาดกลับขึ้นมาเหนือหัวคน แต่ข้าถามหน่อยว่าโอกาสนั้นจะมาถึง? ข้าว่าเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายเองก็คงเห็นถึงจุดนี้กันดี! แต่ข้าคิดว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นคงไม่มีโอกาสจะปรับเปลี่ยนอะไรได้! ในเมื่อไม่มีใครกล้าจะลุกขึ้นมานำทำไม…นิกายยาสุดล้ำของพวกเราถึงไม่เป็นคนนำให้เล่า?!”

“นอกจากนี้แล้วต่อให้จะเปิดทรัพยากรให้คนนอกได้ใช้ข้าเองก็ไม่คิดว่ามันจะทำให้นิกายเราเสื่อมใดๆ แต่กลับจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยซ้ำ! นิกายยาสุดล้ำเรานั้นเป็นยอดนิกายในด้านโอสถ แต่นิกายอื่นๆ เองก็มีวิชาเอกของตัวเองที่พวกเขาถนัดเช่นกัน! หากเราเปิดทรัพยากรของเราแล้วเราก็สามารถทำการแลกเปลี่ยนทรัพยากรกับนิกายน้อยใหญ่ทั้งหลายได้! ศิษย์นิกายเรานั้นมันมีแต่หัวกะทิของหัวกะทิ มีหรือที่จะพ่ายแพ้ให้คนนอกได้?”

เย่หยวนนั้นกล่าวออกมาอย่างยืดยาวบอกถึงข้อดีข้อเสีย คุณและโทษของแผนนี้อย่างชัดเจน

เย่หยวนนั้นเตรียมตัวพูดเรื่องนี้มานานแสนนาน ทำให้เหล่าผู้อาวุโสหอสุดแสงทั้งหลายต้องนั่งนิ่งฟังอย่างไม่กล้าขัด

สิ่งนี้มันควรเป็นเจ้าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยหรือที่มาพูด?

ได้ยินเจ้าพูดนี้มันเหมือนเจ้าแทนตัวเองเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปาน!

แต่ว่าเหล่าผู้อาวุโสหอสุดแสงทั้งหลายนั้นเองก็แตกตื่นตกตะลึงสุดใจเช่นกัน

เพราะเย่หยวนนั้นคิดไปไกลมาก!

พวกเขานั้นเอาแต่คิดว่ากลัวคนอื่นจะก้าวเหนือหัวนิกายตนแต่เย่หยวนนั้นได้มองไปถึงการพัฒนาของทั้งทวีปสวรรค์แรกหรือการพัฒนาของทั้งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไปแล้ว!

แท้จริงแล้วตั้งแต่ตอนที่เย่หยวนอยู่ที่เมืองทัศน์เหนือนั้นเขาก็ได้เห็นวิธีการและเป้าหมายของจั่วเฉินอย่างชัดเจนและได้เตรียมการในวันนี้มาแสนนาน

ที่หยิบมันขึ้นมาพูดวันนี้ก็เพียงแค่เพื่อจะเปิดตาคนที่หลับ หากจะให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ออกมาพูดเรื่องนี้จริงๆ แล้วมันคงยากเกินรับ

เพราะว่าเขานั้นต้องเป็นคนกลางที่เหมือนเสาเข็มปักพันธมิตรสวรรค์แรกไว้ด้วยกัน ย่อมจะไม่อาจปล่อยให้ใครต้องเสียประโยชน์จนเกินไปได้

ไม่เช่นนั้นพันธมิตรมันคงแตกสลายลงแน่

แต่ให้นิกายยาสุดล้ำเป็นคนทำลายกำแพงนี้ลงนั้นมันเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เพราะหากเป็นนิกายเล็กๆ ทำมันอาจจะไม่ส่งผลต่อภาพรวมใดๆ

หากแผนนี้ถูกใช้แล้วท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เองก็คงพร้อมจะช่วยหนุนหลังให้เงียบๆ จนสุดท้ายเปลี่ยนแปลงพันธมิตรสวรรค์แรกทั้งสิ้นลงไป!

มีเพียงแค่ทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้ทวีปสวรรค์แรกแข็งแกร่งขึ้นมา!

ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขานั้นคงได้แต่ต้องตั้งรับเผ่าเลือดไปทุกวี่วันจนสุดท้ายก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้แน่นอน

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2862 ชี้ประโยชน์และโทษ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2862 ชี้ประโยชน์และโทษ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2862 ชี้ประโยชน์และโทษ!
“เจ้ามันหลงตัวเองนัก!”

กรรมการคนนั้นมองหน้าหยางชิงที่นอนคลุกฝุ่นอยู่และพูดขึ้น

สมน้ำหน้า!

นี่คือสิ่งที่คนทั้งหลายต่างคิดในใจ

หยางชิงลุกกลับขึ้นมามองหน้ากรรมการอย่างไม่เป็นมิตร “หึๆ! ตาเฒ่า โลกนี้มันมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอ! หลังจากพลังบ่มเพาะข้าไปถึงเจ้าแล้วข้าจะตบหน้าเจ้ากลับให้จมดินเลย!”

ตบมัน!

ทุบมันให้ตายไปเสียที!

นั่นคือความคิดของคนทั้งหลายที่ร่ำร้องออกมาในใจ

แต่ว่ากรรมการคนนั้นกลับยิ้มและพยักหน้ารับ “ไอ้หนู เจ้ามันไม่ธรรมดา! ข้าจะให้เจ้ายืมใช้สังเวียนนี้!”

หยางชิงหัวเราะตอบกลับไป “อย่าคิดว่าแค่ให้ยืมใช้ตอนนี้แล้วมันจะคลายความแค้นไปได้เล่า ข้านั้นเป็นคนพยาบาท!”

กรรมการหัวเราะขึ้น “เออๆ เช่นนั้นข้าจะรอเจ้าเอง!”

หยางชิงไม่คิดต่อปากต่อคำให้มากมายไปกว่านั้นเดินขึ้นสังเวียนไปโดยมีเฉาเตียนตามหลังขึ้นไป

เมื่อคนทั้งสองลงมือนั้นมันก็เป็นท่าไม้ตายที่รุนแรงที่สุดของตน!

แต่ครั้งนี้คนทั้งหลายได้เห็นหอกของเย่หยวนอย่างชัดเจน

เป็นหอกที่ไร้ต้านอย่างแท้จริง!

ตูม!

เสียงระเบิดดังขึ้นมาพร้อมร่างของเฉาเตียนที่พุ่งถอยกลับไปแต่หยางชิงนั้นกลับไม่ขยับแม้แต่ก้าว

กระบวนท่าเดียวนั้นมันก็แสดงถึงความแตกต่างได้ทันที!

คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

นี่มันจะบ้าเกินไปหรือไม่?

“ข้า…แพ้แล้ว!” เฉาเตียนนั้นประกาศออกมาก่อนจะเดินหันหน้าลงสังเวียนไป

คนที่มุงดูอยู่นั้นต้องอ้าปากค้าง!

ด้วยโอสถสวรรค์เดียวนั้นหยางชิงก็ได้พุ่งทะยานขึ้นฟ้ากลายเป็นจักรพรรดิเที่ยงอันดับหนึ่งของนิกายไปทันที?

ไม่อยากจะเชื่อ!

‘โอสถสวรรค์บ้าบออะไรกันนี่? ขอข้าบ้างไม่ได้หรือ?’

“เจ้าขยะพวกนี้เย้ยหยันปู่ชิงเจ้ามาเป็นวันๆ แต่สุดท้ายกลับถูกตบจนหน้าหัน รู้สึกดีไหมเล่า? ฮ่าๆๆ…” หยางชิงนั้นได้โอกาสหัวเราะเย้ยกลับไป

คนทั้งหลายนั้นที่เคยพูดจาดูถูกเย้ยหยันเขามาในช่วงหลายวันนี้มันแทบอยากจะมุดหน้าลงดินไป

มีหรือที่พวกเขาจะคาดคิดว่ามันมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาได้?

“หยางชิง เจ้าจะอวดดีไปเพื่อ! หากไม่ได้เย่หยวนแล้วคนอย่างเจ้ามันจะมีค่าอะไร?” เจิ้งเฉียนเถียงกลับไปอย่างไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ

“ใช่แล้ว! คนที่เก่งมันคือเย่หยวน คนอย่างเจ้ามันจะมีค่าอะไร?”

“เจ้าอวดดีอวดเบ่งมากมายแต่สุดท้ายมันกลับมิใช่ผลงานของตัวเอง คิดว่าเก่งมาก?”

คนทั้งหลายนั้นเหมือนได้เจอช่องว่างที่จะระบายอารมณ์ออกมาจนร้องด่าหยางชิงตามๆ กัน

หยางชิงนั้นไม่คิดสนใจและยิ้มตอบกลับไป “พ่อเจ้าเอาชนะพวกเจ้าทั้งหมดได้เพราะมีพี่น้องที่เก่งกาจ! เชื่อไหมเล่า ไม่เชื่อก็มาลอง!”

คนทั้งหลายนั้นต่างต้องหุบปากลงไป

เพราะคำพูดของหยางชิงนั้นมันก็จริง แม้จะฟังดูหน้าไม่อายไปหน่อยแต่พวกเขาไม่อาจจะหาคำใดมาเถียงได้อีก!

ทำไมพวกเขาถึงไม่มีพี่น้องเช่นเย่หยวนเล่า?

เพราะฉะนั้นข่าวเรื่องโอสถสวรรค์เม็ดเดียวจากเย่หยวนนั้นมันก็ได้แพร่ไปทั้งนิกายยาสุดล้ำอย่างรวดเร็ว

คนทั้งนิกายนั้นต้องอ้าปากค้างเมื่อได้ยินมัน

แม้ว่าคนที่เอาชนะไปในวันนี้มันจะเป็นหยางชิงแต่สิ่งที่คนทั้งหลายสนใจนั้นมันกลับเป็นเย่หยวนเพราะคนที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์นี้ขึ้นมาได้มันคือเย่หยวนอย่างไม่ต้องสงสัย!

แม้แต่เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายที่เก่งกาจในวิชาโอสถนั้นต่างก็ต้องอ้าปากค้าง

โอสถสวรรค์ที่เหนือล้ำฟ้าเช่นนี้เย่หยวนหลอมมันขึ้นมาได้อย่างไร?

เพราะต่อให้จะเป็นโอสถสวรรค์ครบธาตุแต่ว่ามันก็คงไม่มีผลที่สะท้านสวรรค์เช่นนี้หรอกมิใช่หรือ?

เย่หยวนนั้นใส่อะไรลงไปเพิ่ม เขาปรับเปลี่ยนสูตรอย่างไร?

คนทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกว่าตั้งแต่เย่หยวนก้าวเท้าเข้ามาเหยียบดินนิกายยาสุดล้ำนั้นมันเหมือนกับว่านิกายยาสุดล้ำได้กลายเป็นของเขาไปสิ้นเชิง!

โอสถวงจรอนันต์นี้มันถูกขนานนามว่าโอสถสวรรค์ที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์!

เย่หยวนที่อยู่แค่ระดับห้านั้นกลับหลอมมันได้จริงๆ

แต่นอกจากจะหลอมได้จริงแล้วมันกลับสร้างผลลัพธ์ที่แม้แต่โอสถวงจรอนันต์ระดับลึกล้ำทั่วไปยังทำไม่ได้!

เช่นนั้นหมายความว่าเย่หยวนนั้นมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำกว่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดทั้งหลายไปแล้ว?

นี่มัน…ล้อกันเล่น?

เจ้าเพิ่งบรรลุระดับลึกล้ำมาได้แค่สิบปีมิใช่หรือ?

ทำไมถึงเก่งได้ขนาดนี้เล่า?

แน่นอนว่าเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้นมันย่อมจะไม่อยู่ในความคิดของเย่หยวนเพราะตอนนี้เขาได้เข้ามานั่งประชุม ในหอสุดแสงแล้ว

ในฐานะศิษย์ของเจ้าโลกหยุนซานนั้นนิกายย่อมจะต้องฟังคำพูดของเขาอย่างจริงจัง

ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังได้มอบคุณใหญ่หลวงให้นิกายไว้ด้วย!

“ศิษย์น้องข้า เรื่องนี้มันใหญ่เกินไป ผลที่ตามมามันจะยากเกินจัดการแน่!” หลี่ชิงหยุนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางลำบากใจ

ผู้อาวุโสหอสุดแสงอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาตาม “ข้าเองก็ไม่เห็นด้วย! หากคนอื่นรู้ว่าเรานั้นเปิดบ้านให้คนอื่นมากเอาสมบัติไปเช่นนี้นิกายยาสุดล้ำนั้นจะได้มีศัตรูผุดขึ้นมาทั่วฟ้าดินแน่!”

“อาจารย์ลุงน้อย ท่านนั้นระดับอาวุโสสูงแต่ท่านนั้นยังอายุน้อยไปนัก!”

ในหอสุดแสงนั้นเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างค้านเย่หยวนออกมาเป็นเสียงเดียว

เพราะเรื่องราวเช่นนี้มันเพ้อฝันและหลอกลวงจนเกินรับ!

จู่ๆ จะไปสร้างศัตรูขึ้นมาทั่วฟ้าดิน มันจะมีประโยชน์อะไรกับพวกเขากัน!

ทำเช่นนั้นมันย่อมจะไม่มีใครยอมแน่นอน

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปเมื่อได้ยิน “พวกท่านบอกมาหน่อยได้หรือไม่ว่าตั้งแต่ที่พันธมิตรสวรรค์แรกก่อตั้งขึ้นมานั้นมันมียอดฝีมือกี่คนแล้วที่ทวีปสวรรค์แรกได้ให้กำเนิด? นิกายเราได้ให้กำเนิดยอดฝีมือมากี่คนแล้ว?”

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่นตอบกลับไป “นิกายยาสุดล้ำเรานั้นไม่ได้ให้กำเนิดยอดฝีมือที่แท้จริงแม้แต่คน นอกจากนั้นแล้วยังมีมหาจักรพรรดิอีกนับร้อยที่ตายลงเพราะสงคราม! ส่วนนิกายอื่นๆ นั้นก็ไม่ได้ต่างจากเรามากมาย! ไม่สิ จริงๆ พวกเขานั้นมีสภาพแย่กว่าเราเสียด้วยซ้ำไป!”

“ใช่แล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาอย่างเรียบเฉย “หลังจากที่พันธมิตรสวรรค์แรกเราก่อตั้งขึ้นมานั้นมันอาจจะฟังดูเหมือนคนทั้งหลายรวมใจกันเป็นหนึ่งแต่จนถึงตอนนี้พวกท่านก็ยังคิดแค่จะเช็ดประตูหน้าบ้านตัวเองเท่านั้น! นอกจากจะไม่มีใครพัฒนาขึ้นแล้วมันมีแต่จะอ่อนแอลงแทนเพราะศึกกับเผ่าเลือดแทน! กลับกันนั้นฝ่ายเผ่าเลือดมันยิ่งสู้กลับยิ่งเก่งยิ่งสร้างยอดฝีมือได้มากขึ้น! ข้าไม่รู้เลยว่าเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ของเรานั้นจะทนไปได้อีกแค่ไหน แต่หากยังทำเช่นนี้กันต่อไปมันก็คงได้แต่รอเวลาตายแล้วมิใช่หรือ?!”

เหล่าผู้อาวุโสหอสุดแสงนั้นต่างเคยไปสู้ที่แนวหน้ามาทั้งสิ้นแล้วย่อมจะเข้าใจเผ่าเลือดดี!

หลายพันปีที่ผ่านมานั้นมันมีผู้อาวุโสหอสุดแสงหลายคนต้องตายลงไป!

พวกเขานั้นเดิมทีต่างเป็นยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดผู้มีโอกาสจะก้าวขึ้นเป็นเจ้าโลก!

ส่วนนิกายอื่นๆ นั้นยิ่งจะมีสภาพย่ำแย่กว่ามาก

“คนทั้งหลายในนิกายเรานั้นไม่เคยไปยังแนวหน้าและย่อมจะไม่เข้าใจถึงอันตรายใดๆ เลย พวกมันคงไม่รู้เลยว่าความตายกำลังมาเยือนหน้าประตูบ้านแล้ว จริงๆ พวกมันนั้นอาจจะคิดว่าเจ้าโลกนั้นสุดแสนแข็งแกร่งคงสามารถกัดเผ่าเลือดไว้นอกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ตลอดไป! แต่ความเป็นจริงเล่า? ข้านั้นได้เห็นกับตาว่าอาจารย์หยุนซานและศิษย์พี่ซ่งฉวนทำหน้าตากังวลแค่ไหน! ต่อให้จะเป็นตัวตนระดับนั้นพวกท่านเองก็ยังไม่มั่นใจมิใช่หรือ?”

“ในสภาพตอนนี้แล้วนิกายทั้งหลายยังจะมีหน้ามาหวงกำลังของตัวเองรอเวลาได้ผงาดกลับขึ้นมาเหนือหัวคน แต่ข้าถามหน่อยว่าโอกาสนั้นจะมาถึง? ข้าว่าเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายเองก็คงเห็นถึงจุดนี้กันดี! แต่ข้าคิดว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นคงไม่มีโอกาสจะปรับเปลี่ยนอะไรได้! ในเมื่อไม่มีใครกล้าจะลุกขึ้นมานำทำไม…นิกายยาสุดล้ำของพวกเราถึงไม่เป็นคนนำให้เล่า?!”

“นอกจากนี้แล้วต่อให้จะเปิดทรัพยากรให้คนนอกได้ใช้ข้าเองก็ไม่คิดว่ามันจะทำให้นิกายเราเสื่อมใดๆ แต่กลับจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยซ้ำ! นิกายยาสุดล้ำเรานั้นเป็นยอดนิกายในด้านโอสถ แต่นิกายอื่นๆ เองก็มีวิชาเอกของตัวเองที่พวกเขาถนัดเช่นกัน! หากเราเปิดทรัพยากรของเราแล้วเราก็สามารถทำการแลกเปลี่ยนทรัพยากรกับนิกายน้อยใหญ่ทั้งหลายได้! ศิษย์นิกายเรานั้นมันมีแต่หัวกะทิของหัวกะทิ มีหรือที่จะพ่ายแพ้ให้คนนอกได้?”

เย่หยวนนั้นกล่าวออกมาอย่างยืดยาวบอกถึงข้อดีข้อเสีย คุณและโทษของแผนนี้อย่างชัดเจน

เย่หยวนนั้นเตรียมตัวพูดเรื่องนี้มานานแสนนาน ทำให้เหล่าผู้อาวุโสหอสุดแสงทั้งหลายต้องนั่งนิ่งฟังอย่างไม่กล้าขัด

สิ่งนี้มันควรเป็นเจ้าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยหรือที่มาพูด?

ได้ยินเจ้าพูดนี้มันเหมือนเจ้าแทนตัวเองเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปาน!

แต่ว่าเหล่าผู้อาวุโสหอสุดแสงทั้งหลายนั้นเองก็แตกตื่นตกตะลึงสุดใจเช่นกัน

เพราะเย่หยวนนั้นคิดไปไกลมาก!

พวกเขานั้นเอาแต่คิดว่ากลัวคนอื่นจะก้าวเหนือหัวนิกายตนแต่เย่หยวนนั้นได้มองไปถึงการพัฒนาของทั้งทวีปสวรรค์แรกหรือการพัฒนาของทั้งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดไปแล้ว!

แท้จริงแล้วตั้งแต่ตอนที่เย่หยวนอยู่ที่เมืองทัศน์เหนือนั้นเขาก็ได้เห็นวิธีการและเป้าหมายของจั่วเฉินอย่างชัดเจนและได้เตรียมการในวันนี้มาแสนนาน

ที่หยิบมันขึ้นมาพูดวันนี้ก็เพียงแค่เพื่อจะเปิดตาคนที่หลับ หากจะให้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ออกมาพูดเรื่องนี้จริงๆ แล้วมันคงยากเกินรับ

เพราะว่าเขานั้นต้องเป็นคนกลางที่เหมือนเสาเข็มปักพันธมิตรสวรรค์แรกไว้ด้วยกัน ย่อมจะไม่อาจปล่อยให้ใครต้องเสียประโยชน์จนเกินไปได้

ไม่เช่นนั้นพันธมิตรมันคงแตกสลายลงแน่

แต่ให้นิกายยาสุดล้ำเป็นคนทำลายกำแพงนี้ลงนั้นมันเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เพราะหากเป็นนิกายเล็กๆ ทำมันอาจจะไม่ส่งผลต่อภาพรวมใดๆ

หากแผนนี้ถูกใช้แล้วท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เองก็คงพร้อมจะช่วยหนุนหลังให้เงียบๆ จนสุดท้ายเปลี่ยนแปลงพันธมิตรสวรรค์แรกทั้งสิ้นลงไป!

มีเพียงแค่ทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้ทวีปสวรรค์แรกแข็งแกร่งขึ้นมา!

ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขานั้นคงได้แต่ต้องตั้งรับเผ่าเลือดไปทุกวี่วันจนสุดท้ายก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้แน่นอน

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+