Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2864 มหานครฉีใต้!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2864 มหานครฉีใต้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2864 มหานครฉีใต้!
“เราไม่ขอยอมรับ! ทำไมพวกเราถึงต้องเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ด้วย?”

“ใช่แล้ว เรื่องนี้เย่หยวนมันเป็นคนเริ่มมันก็ควรจะเป็นเย่หยวนสิที่ต้องไปก่อนใคร!”

“แค่เพราะว่าเย่หยวนมันบริจาคแผ่นหยกให้นิกายมันจะได้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่นมากมายปานนั้น?”

ในโถงบังคับกฎนั้นมันมีเสียงโห่ร้องประท้วงขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย พวกเจิ้งเฉียน หวังหลินและคนอื่นๆ นั้นกำลังแสดงความไม่พอใจออกมา

ตอนนี้รายชื่อของคนกลุ่มแรกที่จะได้ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันได้ประกาศออกมาแล้ว คนที่เคยคิดหาเรื่องเย่หยวนนั้นได้ถูกมัดรวมกันไว้ในกลุ่มนี้สิ้น

แม้แต่ตัวฉินชาน นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดคนนี้เองก็ยังถูกส่งไปแนวหน้า

แน่นอนว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญแต่มันเป็นความต้องการของเย่หยวน

คนทั้งหลายนั้นวางตัวอย่างเป็นเจ้า แน่นอนว่าเขาย่อมจะอยากดัดนิสัยคนทั้งหลายนี้ก่อนใคร แต่เย่หยวนนั้นก็ไม่ได้คิดสังหารหรือส่งคนทั้งหลายไปตายใดๆ

พวกเขาทั้งหลายนั้นคืออัจฉริยะ เย่หยวนไม่อาจจะปฏิเสธเรื่องนี้ได้

บางทีแล้วการไปแนวหน้าครั้งนี้มันอาจจะทำให้พวกเขาพัฒนาจนกลายเป็นยอดคนไปก็ได้

เพียงแค่ว่าความโหดเหี้ยมของแนวหน้านั้นมันก็เป็นอะไรที่ไม่อาจประมาทได้

ฉินชานนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าดำมืด “อาจารย์ลุงหมิงถัง หากวันนี้ท่านไม่อธิบายแล้วต่อให้มันจะเป็นคำสั่งจากนิกายข้าก็จะขัดให้ท่านดู!”

หมิงถังนั้นคือผู้อาวุโสที่ดูแลโถงบังคับกฎทั้งหมดเป็นถึงยอดฝีมือมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ที่มีตำแหน่งสูงล้ำ

นามของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้ปรากฏขึ้นในรายชื่อแน่นอนว่าคนทั้งหลายจะไม่พอใจ!

เพราะอะไร?

ตอนนี้พวกเขาจึงได้มารวมตัวกันประท้วงที่โถงบังคับกฎ

กฎหมายนั้นมันต้องลงโทษไปตามลำดับ คนที่ทำผิดก่อนก็ควรจะได้รับโทษก่อนพวกเขานั้นมีความคิดเช่นนี้กันสิ้น หากจะให้พวกเขาไปมันก็ไม่ได้เป็นปัญหามากมายแต่ต้องให้เย่หยวนไปก่อน!

ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็ไม่อาจจะยอมรับมันไว้ได้จริงๆ

หมิงถังมองหน้าฉินชานก่อนจะกล่าวขึ้น “บ่นกันพอหรือยังเล่า? พวกเย่หยวนห้าคนนั้นได้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังมหานครฉีใต้เมื่อเดือนก่อนแล้ว! จะให้ไปกับพวกเจ้าได้อย่างไร?”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง!

อะไรคือมหานครฉีใต้?

ที่แห่งนั้นมันคือจุดที่อันตรายที่สุดของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

มันไม่ใช่แค่ว่าอันตรายเท่านั้นแต่ยังเป็นเมืองที่มีอัตราการตายสูงที่สุดด้วย!

สูงจนแทบจะเต็มร้อย!

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

เขตแดนสวรรค์นั้นมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันเผ่าเลือดตัดสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดออกเป็นสอง มันจะต้องเป็นเขตแดนที่ยิ่งใหญ่กว้างไกลปานใด?

ไร้สิ้นสุด!

เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นี้มันทอดตัวยาวไปนับหมื่นๆ ล้านกิโลเมตรไกลกว่าจะเอากำแพงเมืองจีนมาเทียบได้ แต่ว่าเพื่อที่จะส่งพลังให้เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ทำงานอยู่เสมอนั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายก็ไม่อาจจะขยับไปไหนได้เช่นกัน

หากให้พูดแล้วเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันก็เหมือนตาข่าย

ที่แห่งใดที่มีเจ้าโลกดูแลอยู่มันก็จะเป็นส่วนที่หนาแน่นของตาข่าย จุดนี้มันย่อมจะแข็งเหมือนเหล็กกล้า

แต่ในเมื่อมันเป็นตาข่ายมันก็ย่อมจะมีรูเกิดขึ้น

สงครามกับเผ่าเลือดนั้นมันเกิดขึ้นในรูทั้งหลายนี้เอง

มันเป็นสงครามที่รุนแรง!

พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นสร้างเมืองขึ้นมาในช่องว่างทั้งหลายนั้นและส่งกำลังมหาศาลเข้าไปป้องกันเมือง

มหานครฉีใต้นั้นคือจุดที่เป็นช่องโหว่ใหญ่ที่สุดของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

แน่นอนว่าที่แห่งนั้นมันย่อมจะอันตรายที่สุด

เรียกได้ว่าทหารที่ประจำการที่นี่มันไม่เคยซ้ำหน้ากันตั้งแต่ผลัดแรกจนถึงผลัดปัจจุบัน!

ทหารผลัดแรกนั้นตั้งแต่มหาจักรพรรดิจนถึงจักรพรรดิเซียนนั้นต่างตายตกลงไปสิ้น!

แค่นี้มันก็พอจะอธิบายแล้วว่ามหานครฉีใต้นั้นมันอันตรายแค่ไหน!

ในแนวหน้านั้นไม่ว่าจะเป็นคนนิกายใดหากได้ยินชื่อของมหานครฉีใต้นั้นพวกเขาต่างหน้าซีดปากสั่นขึ้นมาทันที

เพราะมันไม่มีใครอยากจะไป!

เพราะว่าไปมหานครฉีใต้มันเท่ากับไปตาย!

ไม่ใช่แค่ไปรนหาที่ตาย!

ที่แห่งนั้นมันโหดร้ายและมีสงครามดุเดือดกว่าที่ใดๆ

ที่นั่นมันคือนรกโดยแท้!

เย่หยวนนั้นกลับมุ่งหน้าไปมหานครฉีใต้เอง?

จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็เป็นได้แค่มดปลวกเท่านั้นในมหานครฉีใต้!

มดปลวกแค่ตัวเดียว!

ที่แห่งนั้นมันไม่มีอัจฉริยะ มีแต่คนตาย!

โหดร้ายจนเกินไป!

เจ้าเด็กนี่มันบ้าไปแล้ว?

หมิงถังนั้นมองหน้าคนทั้งหลายก่อนจะยิ้มขึ้น “ตอนที่พวกเจ้าเอาแต่สั่นกลัวนั้นคนอื่นได้แลกชีวิตซื้อเวลาให้เราอยู่ต่อ! ข้านี้เองก็เห็นด้วยกับเย่หยวนอย่างมากเช่นกัน! พวกเจ้าทั้งหลายเอาแต่หลงตัวเองคิดว่าเป็นอัจฉริยะอยู่อย่างสงบสุข สุขสบายแต่ไม่ได้รู้เลยว่าคนแนวหน้าเขานั้นลำบากกันแค่ไหน! พวกเจ้านั้นหากไม่ได้ลิ้มรสสงครามแล้วคงไม่มีวันเติบโตได้! ไปเสีย!”

ได้ยินเช่นนี้มันก็ไม่มีใครกล้าเถียงอะไรอีก!

เย่หยวนมุ่งหน้าไปมหานครฉีใต้แล้ว มีหรือที่พวกเขายังจะบ่นได้?

เพราะเป้าหมายของพวกเขานั้นมันคือนครแสงล่อง

แม้ว่ามันจะเป็นแนวหน้าเช่นกันแต่ก็ไม่ได้เป็นที่อันตรายใดๆ

ใต้เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันมีเมืองอยู่ทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดนครด้วยกัน

ในหมู่นครทั้งหลายนั้นมันจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดเก้ามหานคร!

เมื่อมีคำว่า ‘มหา’ เข้ามาแล้วมันย่อมจะหมายถึงว่าที่แห่งนั้นเป็นจุดโหว่ที่ใหญ่มีสงครามหนักหน่วง

และในหมู่มหานครทั้งหลายนั้นมหานครฉีใต้ถือเป็นที่ที่อันตรายที่สุด!

“นี่หรือคือมหานครฉีใต้? แน่นอนล่ะว่า…มันต้องมีสภาพเช่นนี้!”

ได้เห็นภาพตรงหน้านี้เย่หยวนก็อดถอนหายใจยาวออกมาไม่ได้

เพราะดูอย่างไรมันก็เหมือนเมืองที่เพิ่งผ่านสงครามใหญ่มา

กำแพงของเมืองนั้นมันตั้งสูงเฉียดฟ้าแต่กว่าครึ่งมันได้ถูกทำลายลง เวลานี้มีจอมเทพค่ายกลมากมายกำลังเข้าไปดูแลซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย

ทางนอกเมืองนั้นมันมีศพคนตายนับพันๆ ศพนอนเรียงรายเป็นภาพที่สุดแสนหดหู่

แน่นอนว่าศพทั้งหลายนั้นมันย่อมจะไม่มีศพของเผ่าเลือดปะปนอยู่เลย

เพราะเผ่าเลือดนั้นหากเหลือร่างอยู่ก็ย่อมจะคืนชีพได้

ทหารจักรพรรดิเซียนมากมายนั้นกำลังเก็บศพทั้งหลายด้วยน้ำตาอาบน้ำ บางคนก็ทำไปโดยเหม่อลอยเหมือนคนเสียสติ

พื้นดินด้านนอกเมืองนั้นมันอาบไปด้วยสีแดงสดราวกับอาบไปด้วยเลือด

แต่นี่มันมิใช่คำเปรียบเปรยใดๆ มันคือความจริง!

เย่หยวนนั้นเคยได้ยินก่อนออกเดินทางมาแล้วว่าดินสีแดงนั้นมันคือเครื่องหมายของมหานครฉีใต้!

เพราะที่แห่งนี้มันถูกอาบไปด้วยเลือด!

พวกเย่หยวนนั้นมาไม่ทันสงครามใหญ่แต่ว่าแค่คิดถึงมันก็รู้แล้วว่าเมืองนี้อันตรายแค่ไหน

ศึกที่เกิดขึ้นนั้นมันย่อมจะรุนแรง

พวกเย่หยวนนั้นผ่านสงครามทางเหนือมาก่อนแล้ว แต่ระดับของสงครามทางใต้นั้นมันไม่อาจจะเอาไปเทียบเคียงกันได้เลย

“พี่เย่หยวน เผ่าเลือดมันเก่งกาจนัก! จิงเฟย อยากจะสังหารมัน สังหารมันให้หมดไปจากแผ่นดิน! ฮือๆ…” จิงเฟยเดินเข้ามากอดแขนของเย่หยวนไว้ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำตานองหน้า

โหดร้ายเกินไป!

แม้แต่หยางชิงผู้อารมณ์ดีได้ตลอดทั้งวันนั้นก็ยังต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยใบหน้าจริงจัง

“เย่หยวน เลือดข้ามันชักจะเดือดแล้ว!” หยางชิงกล่าว

“อ่า ข้าด้วย”

พูดจบเย่หยวนก็หันไปโค้งคำนับแก่สนามรบอาบเลือดตรงหน้า

บนกำแพงเมืองนั้นมันมีชายวัยกลางคนในชุดเทาผู้หนึ่งกำลังมองดูการซ่อมแซมกำแพงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เย่หยวนนั้นสัมผัสถึงเขาได้อย่างรวดเร็ว เพราะว่าพลังของเขานั้นมันต้องเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย!

“หือ ไอ้หนู มาใหม่หรือ? กล้าเลือกจะมามหานครฉีใต้นี้ เจ้ามันบ้า!” จักรพรรดิเซียนท่าทางสบายๆ คนหนึ่งเดินออกมารับพวกเย่หยวน

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “บางเรื่องนั้นมันก็ต้องมีคนทำ พี่ชายเองก็เลือกมามิใช่หรือ?”

เมื่ออีกฝ่ายได้ยินเช่นนั้นเขาก็หัวเราะลั่นขึ้นมาทันที “ต้องอย่างนี้สิวะ! น้องชาย เจ้ามาได้ถูกที่แล้ว! มหานครฉีใต้ของเรานั้นมันเป็นที่ที่โหดร้ายที่สุด! ต่อสู้ที่นี่ไปต่อให้ตายมันก็ไม่ต้องเสียดายชีวิต! ข้ามีนามว่าหวังเหยียน น้องชายเจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?”

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะ “น้องชายผู้นี้มีนามว่าเย่หยวนมาจากนิกายยาสุดล้ำ”

หวังเหยียนนั้นยิ้มตอบกลับไป “มหานครฉีใต้เรานั้นไม่มีคำว่านิกาย เรามีแต่พี่น้องทั้งนั้น! ต่อให้เจ้าจะเป็นจอมเทพจากนิกายยาสุดล้ำแต่ในที่แห่งนี้มันก็ไม่มีค่าใดหรอกนะ”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มตอบไป “ที่พี่หวังว่ามามันก็ถูก น้องขอรับคำแนะนำของพี่!”

พูดกันไม่กี่คำนี้เย่หยวนก็สัมผัสได้ทันทีว่าที่นี่มันต่างจากที่อื่น

เดิมทีแล้วเย่หยวนคิดว่าในสนามรบที่ตายกันได้ทุกวินาทีเช่นนี้มันย่อมจะมีแต่ความกังวลและไม่แน่ใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเพิ่งผ่านศึกมาแล้วด้วย

แต่ท่าทางของหวังเหยียนนั้นมันช่างผ่อนคลายเหมือนคนที่ไม่มีภาระอะไรในชีวิต พูดเล่นกับเพื่อนใหม่อย่างไร้กังวล

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ว่าตัวหวังเหยียนนั้นมิใช่คนไร้หัวใจแต่ว่าเขานั้นมีฉีอยู่ในใจต่างหาก

ฉีนั้นคือวิญญาณของมหานครฉีใต้นี้!

เมื่อคนมาถึงที่นี่พวกเขาก็จะได้รับฉีนี้เข้าไปในจิตใจในแทบจะทันที เข้าร่วมกองทัพได้อย่างง่ายดาย!

“พี่หวัง ท่านผู้นั้นเป็นใครกัน? ดูท่าทางของเขาไม่ธรรมดาเลย”

เย่หยวนชี้มือขึ้นไปบนกำแพงเมืองแล้วถาม

หวังเหยียนหัวเราะขึ้น “เจ้าไม่รู้จักแม้แต่ท่านเจ้าเมืองเฟิงเสี่ยวเถียนหรือ? นั่นคือผู้นำทางจิตวิญญาณของมหานครฉีใต้เราเชียวนะ!”

หวังเหยียนนั้นกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตื้นตัน

เย่หยวนนั้นเดาไว้ก่อนหน้าและแค่ถามเพื่อยืนยันว่ามันเป็นเฟิงเสี่ยวเถียนจริงหรือไม่

เขาคนนี้คือเจ้าเมืองคนที่สิบของมหานครฉีใต้

เจ้าเมืองคนก่อนๆ ทั้งเก้านั้นได้ตายลงในสนามรบสิ้น!

มหานครฉีใต้นั้นมันไม่ได้อันตรายเล่นๆ!

แม้แต่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ก็ยังตายกันได้เป็นสิบๆ คน!

แต่ว่าเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นแตกต่างออกไป!

เพราะว่าเขาคนนี้เติบโตขึ้นมาในมหานครฉีใต้นี้

เขาคือเทพสงครามโดยแท้!

ตอนที่เขามาถึงมหานครฉีใต้นั้นเขาเป็นเพียงแค่จักรพรรดิเที่ยงเท่านั้น

และก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครทำอะไรอยู่ที่ไหน

แต่เขานั้นค่อยๆ พัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ จากการต่อสู้จนทำให้อาณาจักรบ่มเพาะของเขานั้นมันพุ่งทะยานจากจักรพรรดิเที่ยงบรรลุสู่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ จากนั้นก็เลื่อนมาเป็นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์และบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์มาในที่สุด!

จนตอนนี้เขาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้ามหานครฉีใต้คนที่สิบ!

เขานั้นคือเทพสงครามอย่างแท้จริง!

ในแต่ละศึกนั้นเขาจะนำกองกำลังออกไปไล่ล่าสังหารเผ่าเลือดมากมายจนพวกมันต้องสั่นกลัว

ภายใต้การต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนั้น ทำอย่างไรเขาถึงรอดมาจนถึงวันนี้ได้และยังบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้นั้นมันช่างเป็นเรื่องที่ไม่อาจเข้าใจได้

แน่นอนว่าเพราะเช่นนี้เองที่ทำให้เขานั้นกลายเป็นเทพของมหานครฉีใต้นี้ กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนไป!

เย่หยวนนั้นกล่าวขึ้นมาต่อ “ที่แท้แล้วเป็นท่านเจ้าเมืองเฟิงจริงๆ! แต่ดูสีหน้าท่านแล้วเหมือนท่านจะมีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่านะ?”

หวังเหยียนที่ได้ยินต้องถอนหายใจยาวกล่าวออกมา “เผ่าเลือดนั้นมันบ้าขึ้นทุกวันน่ะสิ แข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน! ครั้งนี้พวกมันทำลายกำแพงเมืองไปได้กว่าครึ่งค่ายกลปกป้องเมืองเองก็เสียหายอย่างมากเช่นกัน กว่าจะซ่อมแซมได้คงใช้เวลาพักใหญ่! หากไม่มีค่ายกลป้องกันเมืองแล้วเราก็คงไม่อาจจะหยุดกองทัพใหญ่ของเผ่าเลือดไว้ได้แน่! พวกคนเบื้องบนนั้นกำลังปวดหัวกับเรื่องนี้กันอยู่!”

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2864 มหานครฉีใต้!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2864 มหานครฉีใต้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2864 มหานครฉีใต้!
“เราไม่ขอยอมรับ! ทำไมพวกเราถึงต้องเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ด้วย?”

“ใช่แล้ว เรื่องนี้เย่หยวนมันเป็นคนเริ่มมันก็ควรจะเป็นเย่หยวนสิที่ต้องไปก่อนใคร!”

“แค่เพราะว่าเย่หยวนมันบริจาคแผ่นหยกให้นิกายมันจะได้สิทธิพิเศษเหนือคนอื่นมากมายปานนั้น?”

ในโถงบังคับกฎนั้นมันมีเสียงโห่ร้องประท้วงขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย พวกเจิ้งเฉียน หวังหลินและคนอื่นๆ นั้นกำลังแสดงความไม่พอใจออกมา

ตอนนี้รายชื่อของคนกลุ่มแรกที่จะได้ไปยังเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันได้ประกาศออกมาแล้ว คนที่เคยคิดหาเรื่องเย่หยวนนั้นได้ถูกมัดรวมกันไว้ในกลุ่มนี้สิ้น

แม้แต่ตัวฉินชาน นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดคนนี้เองก็ยังถูกส่งไปแนวหน้า

แน่นอนว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญแต่มันเป็นความต้องการของเย่หยวน

คนทั้งหลายนั้นวางตัวอย่างเป็นเจ้า แน่นอนว่าเขาย่อมจะอยากดัดนิสัยคนทั้งหลายนี้ก่อนใคร แต่เย่หยวนนั้นก็ไม่ได้คิดสังหารหรือส่งคนทั้งหลายไปตายใดๆ

พวกเขาทั้งหลายนั้นคืออัจฉริยะ เย่หยวนไม่อาจจะปฏิเสธเรื่องนี้ได้

บางทีแล้วการไปแนวหน้าครั้งนี้มันอาจจะทำให้พวกเขาพัฒนาจนกลายเป็นยอดคนไปก็ได้

เพียงแค่ว่าความโหดเหี้ยมของแนวหน้านั้นมันก็เป็นอะไรที่ไม่อาจประมาทได้

ฉินชานนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าดำมืด “อาจารย์ลุงหมิงถัง หากวันนี้ท่านไม่อธิบายแล้วต่อให้มันจะเป็นคำสั่งจากนิกายข้าก็จะขัดให้ท่านดู!”

หมิงถังนั้นคือผู้อาวุโสที่ดูแลโถงบังคับกฎทั้งหมดเป็นถึงยอดฝีมือมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ที่มีตำแหน่งสูงล้ำ

นามของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้ปรากฏขึ้นในรายชื่อแน่นอนว่าคนทั้งหลายจะไม่พอใจ!

เพราะอะไร?

ตอนนี้พวกเขาจึงได้มารวมตัวกันประท้วงที่โถงบังคับกฎ

กฎหมายนั้นมันต้องลงโทษไปตามลำดับ คนที่ทำผิดก่อนก็ควรจะได้รับโทษก่อนพวกเขานั้นมีความคิดเช่นนี้กันสิ้น หากจะให้พวกเขาไปมันก็ไม่ได้เป็นปัญหามากมายแต่ต้องให้เย่หยวนไปก่อน!

ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็ไม่อาจจะยอมรับมันไว้ได้จริงๆ

หมิงถังมองหน้าฉินชานก่อนจะกล่าวขึ้น “บ่นกันพอหรือยังเล่า? พวกเย่หยวนห้าคนนั้นได้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังมหานครฉีใต้เมื่อเดือนก่อนแล้ว! จะให้ไปกับพวกเจ้าได้อย่างไร?”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง!

อะไรคือมหานครฉีใต้?

ที่แห่งนั้นมันคือจุดที่อันตรายที่สุดของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

มันไม่ใช่แค่ว่าอันตรายเท่านั้นแต่ยังเป็นเมืองที่มีอัตราการตายสูงที่สุดด้วย!

สูงจนแทบจะเต็มร้อย!

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

เขตแดนสวรรค์นั้นมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันเผ่าเลือดตัดสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดออกเป็นสอง มันจะต้องเป็นเขตแดนที่ยิ่งใหญ่กว้างไกลปานใด?

ไร้สิ้นสุด!

เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นี้มันทอดตัวยาวไปนับหมื่นๆ ล้านกิโลเมตรไกลกว่าจะเอากำแพงเมืองจีนมาเทียบได้ แต่ว่าเพื่อที่จะส่งพลังให้เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ทำงานอยู่เสมอนั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายก็ไม่อาจจะขยับไปไหนได้เช่นกัน

หากให้พูดแล้วเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันก็เหมือนตาข่าย

ที่แห่งใดที่มีเจ้าโลกดูแลอยู่มันก็จะเป็นส่วนที่หนาแน่นของตาข่าย จุดนี้มันย่อมจะแข็งเหมือนเหล็กกล้า

แต่ในเมื่อมันเป็นตาข่ายมันก็ย่อมจะมีรูเกิดขึ้น

สงครามกับเผ่าเลือดนั้นมันเกิดขึ้นในรูทั้งหลายนี้เอง

มันเป็นสงครามที่รุนแรง!

พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นสร้างเมืองขึ้นมาในช่องว่างทั้งหลายนั้นและส่งกำลังมหาศาลเข้าไปป้องกันเมือง

มหานครฉีใต้นั้นคือจุดที่เป็นช่องโหว่ใหญ่ที่สุดของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

แน่นอนว่าที่แห่งนั้นมันย่อมจะอันตรายที่สุด

เรียกได้ว่าทหารที่ประจำการที่นี่มันไม่เคยซ้ำหน้ากันตั้งแต่ผลัดแรกจนถึงผลัดปัจจุบัน!

ทหารผลัดแรกนั้นตั้งแต่มหาจักรพรรดิจนถึงจักรพรรดิเซียนนั้นต่างตายตกลงไปสิ้น!

แค่นี้มันก็พอจะอธิบายแล้วว่ามหานครฉีใต้นั้นมันอันตรายแค่ไหน!

ในแนวหน้านั้นไม่ว่าจะเป็นคนนิกายใดหากได้ยินชื่อของมหานครฉีใต้นั้นพวกเขาต่างหน้าซีดปากสั่นขึ้นมาทันที

เพราะมันไม่มีใครอยากจะไป!

เพราะว่าไปมหานครฉีใต้มันเท่ากับไปตาย!

ไม่ใช่แค่ไปรนหาที่ตาย!

ที่แห่งนั้นมันโหดร้ายและมีสงครามดุเดือดกว่าที่ใดๆ

ที่นั่นมันคือนรกโดยแท้!

เย่หยวนนั้นกลับมุ่งหน้าไปมหานครฉีใต้เอง?

จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็เป็นได้แค่มดปลวกเท่านั้นในมหานครฉีใต้!

มดปลวกแค่ตัวเดียว!

ที่แห่งนั้นมันไม่มีอัจฉริยะ มีแต่คนตาย!

โหดร้ายจนเกินไป!

เจ้าเด็กนี่มันบ้าไปแล้ว?

หมิงถังนั้นมองหน้าคนทั้งหลายก่อนจะยิ้มขึ้น “ตอนที่พวกเจ้าเอาแต่สั่นกลัวนั้นคนอื่นได้แลกชีวิตซื้อเวลาให้เราอยู่ต่อ! ข้านี้เองก็เห็นด้วยกับเย่หยวนอย่างมากเช่นกัน! พวกเจ้าทั้งหลายเอาแต่หลงตัวเองคิดว่าเป็นอัจฉริยะอยู่อย่างสงบสุข สุขสบายแต่ไม่ได้รู้เลยว่าคนแนวหน้าเขานั้นลำบากกันแค่ไหน! พวกเจ้านั้นหากไม่ได้ลิ้มรสสงครามแล้วคงไม่มีวันเติบโตได้! ไปเสีย!”

ได้ยินเช่นนี้มันก็ไม่มีใครกล้าเถียงอะไรอีก!

เย่หยวนมุ่งหน้าไปมหานครฉีใต้แล้ว มีหรือที่พวกเขายังจะบ่นได้?

เพราะเป้าหมายของพวกเขานั้นมันคือนครแสงล่อง

แม้ว่ามันจะเป็นแนวหน้าเช่นกันแต่ก็ไม่ได้เป็นที่อันตรายใดๆ

ใต้เขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นมันมีเมืองอยู่ทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดนครด้วยกัน

ในหมู่นครทั้งหลายนั้นมันจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดเก้ามหานคร!

เมื่อมีคำว่า ‘มหา’ เข้ามาแล้วมันย่อมจะหมายถึงว่าที่แห่งนั้นเป็นจุดโหว่ที่ใหญ่มีสงครามหนักหน่วง

และในหมู่มหานครทั้งหลายนั้นมหานครฉีใต้ถือเป็นที่ที่อันตรายที่สุด!

“นี่หรือคือมหานครฉีใต้? แน่นอนล่ะว่า…มันต้องมีสภาพเช่นนี้!”

ได้เห็นภาพตรงหน้านี้เย่หยวนก็อดถอนหายใจยาวออกมาไม่ได้

เพราะดูอย่างไรมันก็เหมือนเมืองที่เพิ่งผ่านสงครามใหญ่มา

กำแพงของเมืองนั้นมันตั้งสูงเฉียดฟ้าแต่กว่าครึ่งมันได้ถูกทำลายลง เวลานี้มีจอมเทพค่ายกลมากมายกำลังเข้าไปดูแลซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย

ทางนอกเมืองนั้นมันมีศพคนตายนับพันๆ ศพนอนเรียงรายเป็นภาพที่สุดแสนหดหู่

แน่นอนว่าศพทั้งหลายนั้นมันย่อมจะไม่มีศพของเผ่าเลือดปะปนอยู่เลย

เพราะเผ่าเลือดนั้นหากเหลือร่างอยู่ก็ย่อมจะคืนชีพได้

ทหารจักรพรรดิเซียนมากมายนั้นกำลังเก็บศพทั้งหลายด้วยน้ำตาอาบน้ำ บางคนก็ทำไปโดยเหม่อลอยเหมือนคนเสียสติ

พื้นดินด้านนอกเมืองนั้นมันอาบไปด้วยสีแดงสดราวกับอาบไปด้วยเลือด

แต่นี่มันมิใช่คำเปรียบเปรยใดๆ มันคือความจริง!

เย่หยวนนั้นเคยได้ยินก่อนออกเดินทางมาแล้วว่าดินสีแดงนั้นมันคือเครื่องหมายของมหานครฉีใต้!

เพราะที่แห่งนี้มันถูกอาบไปด้วยเลือด!

พวกเย่หยวนนั้นมาไม่ทันสงครามใหญ่แต่ว่าแค่คิดถึงมันก็รู้แล้วว่าเมืองนี้อันตรายแค่ไหน

ศึกที่เกิดขึ้นนั้นมันย่อมจะรุนแรง

พวกเย่หยวนนั้นผ่านสงครามทางเหนือมาก่อนแล้ว แต่ระดับของสงครามทางใต้นั้นมันไม่อาจจะเอาไปเทียบเคียงกันได้เลย

“พี่เย่หยวน เผ่าเลือดมันเก่งกาจนัก! จิงเฟย อยากจะสังหารมัน สังหารมันให้หมดไปจากแผ่นดิน! ฮือๆ…” จิงเฟยเดินเข้ามากอดแขนของเย่หยวนไว้ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำตานองหน้า

โหดร้ายเกินไป!

แม้แต่หยางชิงผู้อารมณ์ดีได้ตลอดทั้งวันนั้นก็ยังต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยใบหน้าจริงจัง

“เย่หยวน เลือดข้ามันชักจะเดือดแล้ว!” หยางชิงกล่าว

“อ่า ข้าด้วย”

พูดจบเย่หยวนก็หันไปโค้งคำนับแก่สนามรบอาบเลือดตรงหน้า

บนกำแพงเมืองนั้นมันมีชายวัยกลางคนในชุดเทาผู้หนึ่งกำลังมองดูการซ่อมแซมกำแพงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เย่หยวนนั้นสัมผัสถึงเขาได้อย่างรวดเร็ว เพราะว่าพลังของเขานั้นมันต้องเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย!

“หือ ไอ้หนู มาใหม่หรือ? กล้าเลือกจะมามหานครฉีใต้นี้ เจ้ามันบ้า!” จักรพรรดิเซียนท่าทางสบายๆ คนหนึ่งเดินออกมารับพวกเย่หยวน

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “บางเรื่องนั้นมันก็ต้องมีคนทำ พี่ชายเองก็เลือกมามิใช่หรือ?”

เมื่ออีกฝ่ายได้ยินเช่นนั้นเขาก็หัวเราะลั่นขึ้นมาทันที “ต้องอย่างนี้สิวะ! น้องชาย เจ้ามาได้ถูกที่แล้ว! มหานครฉีใต้ของเรานั้นมันเป็นที่ที่โหดร้ายที่สุด! ต่อสู้ที่นี่ไปต่อให้ตายมันก็ไม่ต้องเสียดายชีวิต! ข้ามีนามว่าหวังเหยียน น้องชายเจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?”

เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะ “น้องชายผู้นี้มีนามว่าเย่หยวนมาจากนิกายยาสุดล้ำ”

หวังเหยียนนั้นยิ้มตอบกลับไป “มหานครฉีใต้เรานั้นไม่มีคำว่านิกาย เรามีแต่พี่น้องทั้งนั้น! ต่อให้เจ้าจะเป็นจอมเทพจากนิกายยาสุดล้ำแต่ในที่แห่งนี้มันก็ไม่มีค่าใดหรอกนะ”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มตอบไป “ที่พี่หวังว่ามามันก็ถูก น้องขอรับคำแนะนำของพี่!”

พูดกันไม่กี่คำนี้เย่หยวนก็สัมผัสได้ทันทีว่าที่นี่มันต่างจากที่อื่น

เดิมทีแล้วเย่หยวนคิดว่าในสนามรบที่ตายกันได้ทุกวินาทีเช่นนี้มันย่อมจะมีแต่ความกังวลและไม่แน่ใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเพิ่งผ่านศึกมาแล้วด้วย

แต่ท่าทางของหวังเหยียนนั้นมันช่างผ่อนคลายเหมือนคนที่ไม่มีภาระอะไรในชีวิต พูดเล่นกับเพื่อนใหม่อย่างไร้กังวล

เย่หยวนนั้นสัมผัสได้ว่าตัวหวังเหยียนนั้นมิใช่คนไร้หัวใจแต่ว่าเขานั้นมีฉีอยู่ในใจต่างหาก

ฉีนั้นคือวิญญาณของมหานครฉีใต้นี้!

เมื่อคนมาถึงที่นี่พวกเขาก็จะได้รับฉีนี้เข้าไปในจิตใจในแทบจะทันที เข้าร่วมกองทัพได้อย่างง่ายดาย!

“พี่หวัง ท่านผู้นั้นเป็นใครกัน? ดูท่าทางของเขาไม่ธรรมดาเลย”

เย่หยวนชี้มือขึ้นไปบนกำแพงเมืองแล้วถาม

หวังเหยียนหัวเราะขึ้น “เจ้าไม่รู้จักแม้แต่ท่านเจ้าเมืองเฟิงเสี่ยวเถียนหรือ? นั่นคือผู้นำทางจิตวิญญาณของมหานครฉีใต้เราเชียวนะ!”

หวังเหยียนนั้นกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตื้นตัน

เย่หยวนนั้นเดาไว้ก่อนหน้าและแค่ถามเพื่อยืนยันว่ามันเป็นเฟิงเสี่ยวเถียนจริงหรือไม่

เขาคนนี้คือเจ้าเมืองคนที่สิบของมหานครฉีใต้

เจ้าเมืองคนก่อนๆ ทั้งเก้านั้นได้ตายลงในสนามรบสิ้น!

มหานครฉีใต้นั้นมันไม่ได้อันตรายเล่นๆ!

แม้แต่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ก็ยังตายกันได้เป็นสิบๆ คน!

แต่ว่าเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นแตกต่างออกไป!

เพราะว่าเขาคนนี้เติบโตขึ้นมาในมหานครฉีใต้นี้

เขาคือเทพสงครามโดยแท้!

ตอนที่เขามาถึงมหานครฉีใต้นั้นเขาเป็นเพียงแค่จักรพรรดิเที่ยงเท่านั้น

และก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครทำอะไรอยู่ที่ไหน

แต่เขานั้นค่อยๆ พัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ จากการต่อสู้จนทำให้อาณาจักรบ่มเพาะของเขานั้นมันพุ่งทะยานจากจักรพรรดิเที่ยงบรรลุสู่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ จากนั้นก็เลื่อนมาเป็นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์และบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์มาในที่สุด!

จนตอนนี้เขาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้ามหานครฉีใต้คนที่สิบ!

เขานั้นคือเทพสงครามอย่างแท้จริง!

ในแต่ละศึกนั้นเขาจะนำกองกำลังออกไปไล่ล่าสังหารเผ่าเลือดมากมายจนพวกมันต้องสั่นกลัว

ภายใต้การต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนั้น ทำอย่างไรเขาถึงรอดมาจนถึงวันนี้ได้และยังบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้นั้นมันช่างเป็นเรื่องที่ไม่อาจเข้าใจได้

แน่นอนว่าเพราะเช่นนี้เองที่ทำให้เขานั้นกลายเป็นเทพของมหานครฉีใต้นี้ กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนไป!

เย่หยวนนั้นกล่าวขึ้นมาต่อ “ที่แท้แล้วเป็นท่านเจ้าเมืองเฟิงจริงๆ! แต่ดูสีหน้าท่านแล้วเหมือนท่านจะมีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่านะ?”

หวังเหยียนที่ได้ยินต้องถอนหายใจยาวกล่าวออกมา “เผ่าเลือดนั้นมันบ้าขึ้นทุกวันน่ะสิ แข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน! ครั้งนี้พวกมันทำลายกำแพงเมืองไปได้กว่าครึ่งค่ายกลปกป้องเมืองเองก็เสียหายอย่างมากเช่นกัน กว่าจะซ่อมแซมได้คงใช้เวลาพักใหญ่! หากไม่มีค่ายกลป้องกันเมืองแล้วเราก็คงไม่อาจจะหยุดกองทัพใหญ่ของเผ่าเลือดไว้ได้แน่! พวกคนเบื้องบนนั้นกำลังปวดหัวกับเรื่องนี้กันอยู่!”

……………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+