Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2872 สมัคร

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2872 สมัคร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2872 สมัคร
“หึๆ เย่หยวน เจ้านี่มันช่างมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำดีจริง! เราเดินผ่านหน้าคนอย่างไม่ปิดบังอะไรเช่นนี้แต่มันก็ไม่มีใครจับเราได้เลย!”

เย่หยวนได้แต่ต้องเหลือกตากลับมามองหยางชิง “นี่ เจ้าทำตัวให้มันไม่น่าสงสัยหน่อยจะไม่ได้หรือ? เจ้าคิดบ้างไหมว่ามันอาจจะมีมหาจักรพรรดิดักฟังเราอยู่?”

หยางชิงกล่าวตอบกลับไปอย่างไม่คิดสนใจ “แค่มหาจักรพรรดิมันจะอะไรมากมาย?! อีกไม่นานข้าก็จะเอาชนะพวกมันได้สิ้นแล้ว!”

เย่หยวนได้แต่ต้องยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เก่งปานนั้น? หากเจ้าเก่งกาจได้ปานนั้นก็คงไม่ต้องให้ข้าช่วยหลอมโอสถชีวามหาจักรพรรดิให้แล้ว”

เมื่อหยางชิงได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องรีบกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเกทันที “ข้านั้นเก่งกาจแต่มันก็เก่งได้เพราะว่าอาจารย์เย่มิใช่หรือ? วันหน้าเมื่อข้าขึ้นเป็นเจ้าโลกได้เมื่อไหร่แล้วเจ้าก็จะถือเป็นบิดาของมหาจักรพรรดิกันทีเดียว!”

“หุบปาก!”

“อ่า!”

‘เฮอะ!’

‘อวดดีไปก่อนเถอะ!’

‘หลังจากข้า หยางชิงได้ขึ้นไปถึงระดับเจ้าโลกแล้วข้าจะกลับมาสั่งสอนเจ้า!’

ระหว่างที่อัศวินดำกำลังวางแผนการสังหารเย่หยวนนั้น ตัวเย่หยวนและหยางชิงก็ได้ออกเดินทางมาจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์และมาถึงเมืองของเผ่าเลือดเป็นที่เรียบร้อย

โอสถเลียนเลือดนั้นมันคือโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิ หยางชิงที่ยังไม่บรรลุมหาจักรพรรดิย่อมจะยังใช้มันได้ไม่เป็นปัญหา

คนทั้งสองนั้นเดินผ่านหน้าเผ่าเลือดมากมายเข้ามาอย่างไม่มีใครคิดสงสัยใดๆ

แน่นอนว่าเผ่าเลือดเองมันก็คงไม่มีใครคิดฝันว่าจะมีคนนอกแปลงตัวให้กลายเป็นเผ่าเลือดได้เช่นนี้

เมืองนี้มันมีนามว่าเมืองข่ายยักษ์เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของเผ่าเลือดบนทวีปสวรรค์แรก

เย่หยวนนั้นได้รับข่าวมาหลังจากออกเดินทางไม่นานว่าศึกคัดเลือกบุตรชุดใหม่มันจะถูกจัดขึ้นที่นี่

เผ่าเลือดนั้นย่อมจะมีการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนและร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาใหม่เป็นรอบๆ ทุกสิบปี

จากนั้นเผ่าเลือดที่เก่งกาจที่สุดสองร้อยคนก็จะถูกส่งไปยังวิหารโลหิตเทวะเพื่อเลี้ยงดูอย่างดี หากคิดอยากเข้าไปสืบเรื่องราวของเผ่าเลือดนั้นมันย่อมจะไม่มีที่ไหนดีไปกว่าวิหารโลหิตเทวะอีกแล้ว

แต่ว่าเผ่าเลือดนั้นก็ครอบครองพื้นที่ไปกว่าสองในสามของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดแล้ว ย่อมหมายความว่าสมาชิกเผ่าเลือดนั้นมีจำนวนมากมายมหาศาล

ตอนที่พวกเย่หยวนออกมาจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นพวกเขาเองก็ต้องผงะไปเช่นกัน เพราะว่าจำนวนของเผ่าเลือดนั้นมันมีมากมายจนเกินกว่าที่คิดคาด!

เมืองแต่ละเมืองของมันนี้ใหญ่โตกว่าเมืองในสวรรค์แรกไปสามถึงสี่เท่าทีเดียว!

มันมิใช่ว่าเผ่าเลือดชอบทำอะไรใหญ่โตเกินจริงแต่หากไม่ทำเมืองใหญ่ขนาดนั้นแล้วมันก็ไม่อาจจะรองรับผู้คน ได้เลย

เผ่าเลือดนั้นขยายพันธุ์ด้วยการแตกตัว มันย่อมจะมีความเร็วที่มากล้นกว่าเผ่าอื่นใด

พวกเย่หยวนนั้นประเมินว่าต่อให้จะเอาคนของทั้งทวีปสวรรค์แรกมารวมกันมันก็คงไม่มีทางถึงหนึ่งในสิบของประชากรเผ่าเลือดแน่!

ประชากรมากมายขนาดนั้นต่อให้จะเป็นเผ่าที่ไร้พรสวรรค์แค่ไหนมันก็ต้องให้กำเนิดยอดฝีมือขึ้นมาได้มากมายแน่นอน

เผ่าเลือดนั้นมีสองเมืองระดับมหาจักรพรรดิบนทวีปสวรรค์แรกและเมืองข่ายยักษ์นี้ก็เป็นหนึ่งในสองเมืองนั้น

เมืองข่ายยักษ์นั้นจะเลือกยี่สิบคนที่เก่งกาจที่สุดส่งไปยังเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์บนทวีปสายฟ้าคำรามเพื่อทำการคัดเลือกร้อยบุตรในรอบตัดสิน

พวกเย่หยวนย่อมจะหมายตาเรื่องนี้ไว้

สถานที่รายงานตัวนั้นมันคือสนามกว้างของเมือง

ที่แห่งนี้มันเป็นสนามใหญ่ที่ดูท่าคงสามารถรองรับคนได้มากกว่าแสนคน!

และตอนนี้ทุกหนแห่งมีแต่ผู้คนเต็มไปหมด

การคัดเลือกร้อยบุตรแต่ละครั้งของเผ่าเลือดนั้นมันนับได้ว่าเป็นงานเทศกาลใหญ่ของเผ่าเลือด ทุกคนต่างจับตามองด้วยความสนใจ

เพราะฉะนั้นค่าตั๋วเข้าชมการคัดเลือกมันจึงมีราคาสูงลิ่ว

แล้วถามว่ามียอดฝีมือมากแค่ไหนในการคัดเลือกของเมืองข่ายยักษ์?

แปดล้านจักรพรรดิเซียน!

หนึ่งล้านจักรพรรดิเที่ยง!

จำนวนนี้มันอาจจะดูมากแต่แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้เกินไป

เพราะว่าการแข่งขันนี้ไม่มีเงื่อนไข ใครๆ ก็เข้าร่วมได้

และประชากรเผ่าเลือดในเมืองระดับมหาจักรพรรดินั้นมันก็มีมากกว่าสิบๆ ล้านคน!

แล้วถามว่ามันจะมีจักรพรรดิเซียนแค่แปดล้านคน?

เพราะฉะนั้นเหล่าคนที่กล้าจะลงแข่งนั้นต่างต้องมีความมั่นใจในฝีมือของตัวเองไม่น้อย

เพราะการแข่งขันนี้มันเป็นอะไรที่โหดร้ายเป็นทุนเดิม

จักรพรรดิเซียนที่ขึ้นไปถึงระดับร้อยบุตรได้นั้นเดิมทีแล้วมันก็เป็นแค่คนไม่มีชื่อ แต่สุดท้ายก็ได้สร้างชื่อไต่เต้าขึ้นมาด้วยวิธีการเช่นนี้!

คนที่ทำเช่นนั้นได้มันย่อมจะไม่ได้มีแค่คนหรือสองคน

แน่นอนว่าจำนวนนี้หากมองด้วยสายตาของคนทวีปสวรรค์แรกมันคงเป็นอะไรที่สุดแสนน่ากลัว!

จักรพรรดิเซียนแปดล้านคนนั้นมันเป็นแค่ประชากรจากเมืองระดับมหาจักรพรรดิเมืองเดียว

และบนทวีปสวรรค์แรกนี้มันมีเมืองระดับมหาจักรพรรดิอยู่ทั้งสิ้นสิบเมือง แล้วต้องถามถึงอีกสองทวีปหรือไม่?

เพราะอีกสองทวีปนั้นมันอยู่ใต้การปกครองของเผ่าเลือดจนสิ้นเชิง!

“สกุลและชื่อ!”

“เฉียชิง”

จักรพรรดิเซียนที่ทำหน้าที่รับสมัครนั้นเขียนแผ่นไม้และยื่นให้หยางชิง

“สกุลและชื่อ!”

“เฉียชิง!” เย่หยวนกล่าวขึ้น

คนรับสมัครนั้นต้องเงยหน้าขึ้นมาถามย้ำ “เจ้าเองก็นามว่าเฉียชิง?”

เย่หยวนถามกลับไป “มันมีปัญหาใดหรือ?”

คนรับสมัครนั้นส่ายหัวตอบ “ไม่มีอะไรหรอก”

พูดจบเขาก็เขียนป้ายไม้มอบให้เย่หยวนไป

เผ่าเลือดนั้นมีคนมากมายใช้สกุลเฉียที่หมายถึงเลือด แน่นอนว่าคนที่ชื่อว่าเฉียชิงเองมันก็คงมีไม่น้อย

เพียงแค่ว่ามันกลับมีคนชื่อเฉียชิงสองคนมาสมัครพร้อมๆ กันเขาจึงอดผงะไม่ได้

หนึ่งนั้นเป็นจักรพรรดิเที่ยง อีกหนึ่งนั้นเป็นจักรพรรดิเซียน

ที่สำคัญดูท่าคนทั้งสองจะสนิทกันไม่น้อย

หยางชิงมองหน้าเย่หยวนด้วยความคับแค้นใจคิดอยากจะฉีกร่างเขาออกเป็นชิ้น

เพราะเจ้าบ้านี่กลับเลือกใช้ชื่อเดียวกับเขา!

ก่อนหน้านี้เขาไม่พอใจด่าว่าเย่หยวนออกไปชุดใหญ่แต่แน่นอนว่าสุดท้ายเย่หยวนก็เถียงชนะไป

เย่หยวนนั้นคือนักบุญฟ้าครามตอนอยู่บนมหาพิภพถงเทียน แน่นอนว่าตอนนี้หากจะให้เลือกชื่อแล้วมันก็ต้องมีคำว่าชิงที่แปลว่าครามอยู่ด้วย

ส่วนหยางชิงนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะว่าชื่อของเขานั้นมีคำว่าชิงอยู่แล้ว จึงเลือกเฉียชิงขึ้นมา

เพราะเหตุนี้สองเฉียชิงจึงได้เข้าสมัครแข่งขัน

หยางชิงมองหน้าเย่หยวนด้วยความคับแค้น “ไอ้เวร อย่าได้พลาดสิบอันดับแรกไปเล่า เจ้าจะทำให้เฉียชิงนี้เสียชื่อ!”

เย่หยวนตอบกลับไป “คนที่ควรกังวลมันควรเป็นเจ้ามากกว่ามั้ง? หากเจ้าเอาตำแหน่งมาไม่ได้ก็ไสหัวกลับบ้านไปเลย!”

หยางชิงยิ้มตอบกลับไป “น่าขันสิ้นดี! หากข้าไม่ได้ที่หนึ่งแล้วข้าจะยอมปลิดชีพตัวเองให้เจ้าดู!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “น่าเสียดายที่มันแบ่งเส้นทางออกเป็นสิบเส้น ไม่เช่นนั้นแล้วทั้งสิบตำแหน่งนั้นข้าจะกวาดมาให้เรียบเอง”

เมื่อโม้สู้ไม่ได้หยางชิงก็ได้แต่ต้องกล่าวขึ้นลอกเลียน “ข้าก็ทำได้หรอก!”

คนทั้งสองนั้นกล่าวพูดจาทับถมกันอย่างไม่คิดสนใจคนรอบข้าง แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นรอบทิศ

พวกมันนี้…จะโอหังจนเกินไปแล้ว!

นี่ไม่เห็นหัวคนอื่นอยู่ในสายตาเลยหรือ?

“ฮ่าๆ ช่างเป็นคำพูดที่สูงส่งดีแท้! แค่จักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดกับจักรพรรดิเซียนขั้นปลายคนหนึ่ง พวกเจ้าพูดโม้ออกมานี้ไม่กลัวว่าจะกัดลิ้นตัวเองบ้างหรือ?” เสียงเย้ยหยันหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง

เย่หยวนหันหน้ากลับไปดู “พูดโม้? แค่ขยะอย่างเจ้านี้ข้าก็ต้องมาโม้ให้ฟัง? จะหลงตัวเองไปแล้ว!”

ใครกันแน่ที่มันหลงตัวเอง?

คนผู้นั้นยิ้มตอบกลับไป “ขยะ? ฮ่าๆ ข้ายังไม่เคยเจอใครที่มันกล้าพูดเช่นนี้กับข้ามาก่อนเลย! เจ้าคงไม่รู้สินะว่าข้านั้นคือใคร?”

เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับไป “ไม่สนใจจะรู้เพราะมันไม่มีค่าใด”

“ฮ่าๆ ไอ้โง่เง่าโอหังเอ๊ย ไม่รู้จักแม้แต่พี่เฉียวหยาง! มันยังมีหน้ามาท้าทายตำแหน่งร้อยบุตรอีกหรือ?!”

“สงสัยจริงๆ ว่าไอ้เด็กบ้านนอกนี่มันมาจากที่ไหนถึงคิดว่ามันจะเป็นอันดับหนึ่งได้หลังจากมาถึงเมืองข่ายยักษ์นี้!”

“ฮ่าๆๆ น่าขัน! สิ่งที่มันพูดออกมานั้นข้าว่าแม้แต่พี่เฉียวหยางเองก็ยังไม่กล้าพูดเลย มันช่างโง่เง่าจนน่าสงสารแท้!”

“ไม่เป็นไรๆ หลังจากเข้าเส้นทางไปมันก็จะไม่รู้เอง!”

เสียงหัวเราะเย้ยหยันนั้นมันดังมาจากทั่วด้าน

เพราะแม้ว่าผู้ลงแข่งนั้นมันจะมีจักรพรรดิเซียนถึงแปดล้านคนแต่มันก็ย่อมจะมีคนที่ดังกว่าใครๆ อยู่บ้าง

อย่างเช่นเฉียวหยางนี้

ในเมืองข่ายยักษ์นั้นเขาเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสามยอดฝีมือของระดับจักรพรรดิเซียน เก่งพอจะแย่งชิงตำแหน่งวันนี้มาได้แน่นอน

แท้จริงแล้วสิบตำแหน่งแรกนั้นมันก็คงไม่พ้นมือคนแค่ยี่สิบสามสิบคนเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าไปแย่งชิงกัน

หรือต่อให้จะมีม้ามืดมามันก็คงไม่มีทางเป็นจักรพรรดิเซียนขั้นปลายคนหนึ่งไปได้

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2872 สมัคร

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2872 สมัคร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2872 สมัคร
“หึๆ เย่หยวน เจ้านี่มันช่างมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำดีจริง! เราเดินผ่านหน้าคนอย่างไม่ปิดบังอะไรเช่นนี้แต่มันก็ไม่มีใครจับเราได้เลย!”

เย่หยวนได้แต่ต้องเหลือกตากลับมามองหยางชิง “นี่ เจ้าทำตัวให้มันไม่น่าสงสัยหน่อยจะไม่ได้หรือ? เจ้าคิดบ้างไหมว่ามันอาจจะมีมหาจักรพรรดิดักฟังเราอยู่?”

หยางชิงกล่าวตอบกลับไปอย่างไม่คิดสนใจ “แค่มหาจักรพรรดิมันจะอะไรมากมาย?! อีกไม่นานข้าก็จะเอาชนะพวกมันได้สิ้นแล้ว!”

เย่หยวนได้แต่ต้องยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เก่งปานนั้น? หากเจ้าเก่งกาจได้ปานนั้นก็คงไม่ต้องให้ข้าช่วยหลอมโอสถชีวามหาจักรพรรดิให้แล้ว”

เมื่อหยางชิงได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องรีบกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเกทันที “ข้านั้นเก่งกาจแต่มันก็เก่งได้เพราะว่าอาจารย์เย่มิใช่หรือ? วันหน้าเมื่อข้าขึ้นเป็นเจ้าโลกได้เมื่อไหร่แล้วเจ้าก็จะถือเป็นบิดาของมหาจักรพรรดิกันทีเดียว!”

“หุบปาก!”

“อ่า!”

‘เฮอะ!’

‘อวดดีไปก่อนเถอะ!’

‘หลังจากข้า หยางชิงได้ขึ้นไปถึงระดับเจ้าโลกแล้วข้าจะกลับมาสั่งสอนเจ้า!’

ระหว่างที่อัศวินดำกำลังวางแผนการสังหารเย่หยวนนั้น ตัวเย่หยวนและหยางชิงก็ได้ออกเดินทางมาจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์และมาถึงเมืองของเผ่าเลือดเป็นที่เรียบร้อย

โอสถเลียนเลือดนั้นมันคือโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิ หยางชิงที่ยังไม่บรรลุมหาจักรพรรดิย่อมจะยังใช้มันได้ไม่เป็นปัญหา

คนทั้งสองนั้นเดินผ่านหน้าเผ่าเลือดมากมายเข้ามาอย่างไม่มีใครคิดสงสัยใดๆ

แน่นอนว่าเผ่าเลือดเองมันก็คงไม่มีใครคิดฝันว่าจะมีคนนอกแปลงตัวให้กลายเป็นเผ่าเลือดได้เช่นนี้

เมืองนี้มันมีนามว่าเมืองข่ายยักษ์เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของเผ่าเลือดบนทวีปสวรรค์แรก

เย่หยวนนั้นได้รับข่าวมาหลังจากออกเดินทางไม่นานว่าศึกคัดเลือกบุตรชุดใหม่มันจะถูกจัดขึ้นที่นี่

เผ่าเลือดนั้นย่อมจะมีการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนและร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาใหม่เป็นรอบๆ ทุกสิบปี

จากนั้นเผ่าเลือดที่เก่งกาจที่สุดสองร้อยคนก็จะถูกส่งไปยังวิหารโลหิตเทวะเพื่อเลี้ยงดูอย่างดี หากคิดอยากเข้าไปสืบเรื่องราวของเผ่าเลือดนั้นมันย่อมจะไม่มีที่ไหนดีไปกว่าวิหารโลหิตเทวะอีกแล้ว

แต่ว่าเผ่าเลือดนั้นก็ครอบครองพื้นที่ไปกว่าสองในสามของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดแล้ว ย่อมหมายความว่าสมาชิกเผ่าเลือดนั้นมีจำนวนมากมายมหาศาล

ตอนที่พวกเย่หยวนออกมาจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นพวกเขาเองก็ต้องผงะไปเช่นกัน เพราะว่าจำนวนของเผ่าเลือดนั้นมันมีมากมายจนเกินกว่าที่คิดคาด!

เมืองแต่ละเมืองของมันนี้ใหญ่โตกว่าเมืองในสวรรค์แรกไปสามถึงสี่เท่าทีเดียว!

มันมิใช่ว่าเผ่าเลือดชอบทำอะไรใหญ่โตเกินจริงแต่หากไม่ทำเมืองใหญ่ขนาดนั้นแล้วมันก็ไม่อาจจะรองรับผู้คน ได้เลย

เผ่าเลือดนั้นขยายพันธุ์ด้วยการแตกตัว มันย่อมจะมีความเร็วที่มากล้นกว่าเผ่าอื่นใด

พวกเย่หยวนนั้นประเมินว่าต่อให้จะเอาคนของทั้งทวีปสวรรค์แรกมารวมกันมันก็คงไม่มีทางถึงหนึ่งในสิบของประชากรเผ่าเลือดแน่!

ประชากรมากมายขนาดนั้นต่อให้จะเป็นเผ่าที่ไร้พรสวรรค์แค่ไหนมันก็ต้องให้กำเนิดยอดฝีมือขึ้นมาได้มากมายแน่นอน

เผ่าเลือดนั้นมีสองเมืองระดับมหาจักรพรรดิบนทวีปสวรรค์แรกและเมืองข่ายยักษ์นี้ก็เป็นหนึ่งในสองเมืองนั้น

เมืองข่ายยักษ์นั้นจะเลือกยี่สิบคนที่เก่งกาจที่สุดส่งไปยังเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์บนทวีปสายฟ้าคำรามเพื่อทำการคัดเลือกร้อยบุตรในรอบตัดสิน

พวกเย่หยวนย่อมจะหมายตาเรื่องนี้ไว้

สถานที่รายงานตัวนั้นมันคือสนามกว้างของเมือง

ที่แห่งนี้มันเป็นสนามใหญ่ที่ดูท่าคงสามารถรองรับคนได้มากกว่าแสนคน!

และตอนนี้ทุกหนแห่งมีแต่ผู้คนเต็มไปหมด

การคัดเลือกร้อยบุตรแต่ละครั้งของเผ่าเลือดนั้นมันนับได้ว่าเป็นงานเทศกาลใหญ่ของเผ่าเลือด ทุกคนต่างจับตามองด้วยความสนใจ

เพราะฉะนั้นค่าตั๋วเข้าชมการคัดเลือกมันจึงมีราคาสูงลิ่ว

แล้วถามว่ามียอดฝีมือมากแค่ไหนในการคัดเลือกของเมืองข่ายยักษ์?

แปดล้านจักรพรรดิเซียน!

หนึ่งล้านจักรพรรดิเที่ยง!

จำนวนนี้มันอาจจะดูมากแต่แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้เกินไป

เพราะว่าการแข่งขันนี้ไม่มีเงื่อนไข ใครๆ ก็เข้าร่วมได้

และประชากรเผ่าเลือดในเมืองระดับมหาจักรพรรดินั้นมันก็มีมากกว่าสิบๆ ล้านคน!

แล้วถามว่ามันจะมีจักรพรรดิเซียนแค่แปดล้านคน?

เพราะฉะนั้นเหล่าคนที่กล้าจะลงแข่งนั้นต่างต้องมีความมั่นใจในฝีมือของตัวเองไม่น้อย

เพราะการแข่งขันนี้มันเป็นอะไรที่โหดร้ายเป็นทุนเดิม

จักรพรรดิเซียนที่ขึ้นไปถึงระดับร้อยบุตรได้นั้นเดิมทีแล้วมันก็เป็นแค่คนไม่มีชื่อ แต่สุดท้ายก็ได้สร้างชื่อไต่เต้าขึ้นมาด้วยวิธีการเช่นนี้!

คนที่ทำเช่นนั้นได้มันย่อมจะไม่ได้มีแค่คนหรือสองคน

แน่นอนว่าจำนวนนี้หากมองด้วยสายตาของคนทวีปสวรรค์แรกมันคงเป็นอะไรที่สุดแสนน่ากลัว!

จักรพรรดิเซียนแปดล้านคนนั้นมันเป็นแค่ประชากรจากเมืองระดับมหาจักรพรรดิเมืองเดียว

และบนทวีปสวรรค์แรกนี้มันมีเมืองระดับมหาจักรพรรดิอยู่ทั้งสิ้นสิบเมือง แล้วต้องถามถึงอีกสองทวีปหรือไม่?

เพราะอีกสองทวีปนั้นมันอยู่ใต้การปกครองของเผ่าเลือดจนสิ้นเชิง!

“สกุลและชื่อ!”

“เฉียชิง”

จักรพรรดิเซียนที่ทำหน้าที่รับสมัครนั้นเขียนแผ่นไม้และยื่นให้หยางชิง

“สกุลและชื่อ!”

“เฉียชิง!” เย่หยวนกล่าวขึ้น

คนรับสมัครนั้นต้องเงยหน้าขึ้นมาถามย้ำ “เจ้าเองก็นามว่าเฉียชิง?”

เย่หยวนถามกลับไป “มันมีปัญหาใดหรือ?”

คนรับสมัครนั้นส่ายหัวตอบ “ไม่มีอะไรหรอก”

พูดจบเขาก็เขียนป้ายไม้มอบให้เย่หยวนไป

เผ่าเลือดนั้นมีคนมากมายใช้สกุลเฉียที่หมายถึงเลือด แน่นอนว่าคนที่ชื่อว่าเฉียชิงเองมันก็คงมีไม่น้อย

เพียงแค่ว่ามันกลับมีคนชื่อเฉียชิงสองคนมาสมัครพร้อมๆ กันเขาจึงอดผงะไม่ได้

หนึ่งนั้นเป็นจักรพรรดิเที่ยง อีกหนึ่งนั้นเป็นจักรพรรดิเซียน

ที่สำคัญดูท่าคนทั้งสองจะสนิทกันไม่น้อย

หยางชิงมองหน้าเย่หยวนด้วยความคับแค้นใจคิดอยากจะฉีกร่างเขาออกเป็นชิ้น

เพราะเจ้าบ้านี่กลับเลือกใช้ชื่อเดียวกับเขา!

ก่อนหน้านี้เขาไม่พอใจด่าว่าเย่หยวนออกไปชุดใหญ่แต่แน่นอนว่าสุดท้ายเย่หยวนก็เถียงชนะไป

เย่หยวนนั้นคือนักบุญฟ้าครามตอนอยู่บนมหาพิภพถงเทียน แน่นอนว่าตอนนี้หากจะให้เลือกชื่อแล้วมันก็ต้องมีคำว่าชิงที่แปลว่าครามอยู่ด้วย

ส่วนหยางชิงนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะว่าชื่อของเขานั้นมีคำว่าชิงอยู่แล้ว จึงเลือกเฉียชิงขึ้นมา

เพราะเหตุนี้สองเฉียชิงจึงได้เข้าสมัครแข่งขัน

หยางชิงมองหน้าเย่หยวนด้วยความคับแค้น “ไอ้เวร อย่าได้พลาดสิบอันดับแรกไปเล่า เจ้าจะทำให้เฉียชิงนี้เสียชื่อ!”

เย่หยวนตอบกลับไป “คนที่ควรกังวลมันควรเป็นเจ้ามากกว่ามั้ง? หากเจ้าเอาตำแหน่งมาไม่ได้ก็ไสหัวกลับบ้านไปเลย!”

หยางชิงยิ้มตอบกลับไป “น่าขันสิ้นดี! หากข้าไม่ได้ที่หนึ่งแล้วข้าจะยอมปลิดชีพตัวเองให้เจ้าดู!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “น่าเสียดายที่มันแบ่งเส้นทางออกเป็นสิบเส้น ไม่เช่นนั้นแล้วทั้งสิบตำแหน่งนั้นข้าจะกวาดมาให้เรียบเอง”

เมื่อโม้สู้ไม่ได้หยางชิงก็ได้แต่ต้องกล่าวขึ้นลอกเลียน “ข้าก็ทำได้หรอก!”

คนทั้งสองนั้นกล่าวพูดจาทับถมกันอย่างไม่คิดสนใจคนรอบข้าง แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นรอบทิศ

พวกมันนี้…จะโอหังจนเกินไปแล้ว!

นี่ไม่เห็นหัวคนอื่นอยู่ในสายตาเลยหรือ?

“ฮ่าๆ ช่างเป็นคำพูดที่สูงส่งดีแท้! แค่จักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดกับจักรพรรดิเซียนขั้นปลายคนหนึ่ง พวกเจ้าพูดโม้ออกมานี้ไม่กลัวว่าจะกัดลิ้นตัวเองบ้างหรือ?” เสียงเย้ยหยันหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง

เย่หยวนหันหน้ากลับไปดู “พูดโม้? แค่ขยะอย่างเจ้านี้ข้าก็ต้องมาโม้ให้ฟัง? จะหลงตัวเองไปแล้ว!”

ใครกันแน่ที่มันหลงตัวเอง?

คนผู้นั้นยิ้มตอบกลับไป “ขยะ? ฮ่าๆ ข้ายังไม่เคยเจอใครที่มันกล้าพูดเช่นนี้กับข้ามาก่อนเลย! เจ้าคงไม่รู้สินะว่าข้านั้นคือใคร?”

เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับไป “ไม่สนใจจะรู้เพราะมันไม่มีค่าใด”

“ฮ่าๆ ไอ้โง่เง่าโอหังเอ๊ย ไม่รู้จักแม้แต่พี่เฉียวหยาง! มันยังมีหน้ามาท้าทายตำแหน่งร้อยบุตรอีกหรือ?!”

“สงสัยจริงๆ ว่าไอ้เด็กบ้านนอกนี่มันมาจากที่ไหนถึงคิดว่ามันจะเป็นอันดับหนึ่งได้หลังจากมาถึงเมืองข่ายยักษ์นี้!”

“ฮ่าๆๆ น่าขัน! สิ่งที่มันพูดออกมานั้นข้าว่าแม้แต่พี่เฉียวหยางเองก็ยังไม่กล้าพูดเลย มันช่างโง่เง่าจนน่าสงสารแท้!”

“ไม่เป็นไรๆ หลังจากเข้าเส้นทางไปมันก็จะไม่รู้เอง!”

เสียงหัวเราะเย้ยหยันนั้นมันดังมาจากทั่วด้าน

เพราะแม้ว่าผู้ลงแข่งนั้นมันจะมีจักรพรรดิเซียนถึงแปดล้านคนแต่มันก็ย่อมจะมีคนที่ดังกว่าใครๆ อยู่บ้าง

อย่างเช่นเฉียวหยางนี้

ในเมืองข่ายยักษ์นั้นเขาเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสามยอดฝีมือของระดับจักรพรรดิเซียน เก่งพอจะแย่งชิงตำแหน่งวันนี้มาได้แน่นอน

แท้จริงแล้วสิบตำแหน่งแรกนั้นมันก็คงไม่พ้นมือคนแค่ยี่สิบสามสิบคนเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าไปแย่งชิงกัน

หรือต่อให้จะมีม้ามืดมามันก็คงไม่มีทางเป็นจักรพรรดิเซียนขั้นปลายคนหนึ่งไปได้

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+