Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2880 จะไม่เข้ามาพร้อมกัน?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2880 จะไม่เข้ามาพร้อมกัน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2880 จะไม่เข้ามาพร้อมกัน?
วันต่อมานั้นมันก็เป็นตาของหลานเฉียเข้าไปท้าทายสระโลหิตและเขาก็เลือกที่จะท้าทายสระโลหิตหมายเลขเจ็ดทันที

เรื่องนี้มันย่อมจะกลายเป็นจุดสนใจของคนมากมาย เพราะว่าก่อนหน้านี้ต่อให้หลานเฉียจะเก่งแต่มันก็ไม่มีใครคิดว่าเขาจะเก่งได้ถึงปานนั้น

เพราะสิบสระแรกนั้นมันคือจุดที่เหล่าสิบต้นกล้าว่าที่ร้อยบุตรอยู่กัน การจะไปท้าทายตำแหน่งนั้นมันย่อมจะหมายความว่าหลานเฉียนั้นมั่นใจในฝีมือมาก แต่มันก็ยังไม่มีใครคิดว่าหลานเฉียจะชนะได้จริง!

เขานั้นชนะได้อย่างสวยงาม!

คนทั้งหลายนั้นต่างเห็นได้ชัดเจนว่าแท้จริงแล้วหลานเฉียยังไม่ได้เอาจริงสุดตัวเสียด้วยซ้ำ!

เจ้าหมอนี่มันเป็นม้ามืดอย่างแท้จริง

ในศึกร้อยบุตรครั้งนี้หลานเฉียคงนับได้ว่าเป็นยอดฝีมือสิบอันดับแรกได้ง่ายๆ

วินาทีนี้หลานเฉียได้กลายเป็นดาวเด่นขึ้นเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ขึ้นมาทันที!

ก่อนที่จะเข้าสระโลหิตนั้นหลานเฉียได้หันมาบอกเย่หยวนด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง “ยอดฝีมือจากทวีปสวรรค์แรก ข้าพร้อมรับคำท้าเจ้าในวันพรุ่งนี้! จำไว้ว่าข้านั้นอยู่ที่สระโลหิตหมายเลขเจ็ด!”

เย่หยวนนั้นนั่งรออยู่ข้างๆ ตลอดเวลา แน่นอนว่าเขาย่อมจะได้เห็นศึกนี้กับตา

หลานเฉียนั้นเก่งกาจจริง

ยอดฝีมือที่มาถึงเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ได้นั้น มันย่อมจะไม่อาจเอาคนจากเมืองข่ายยักษ์มาเทียบเคียง!

เย่หยวนนั้นบอกได้เลยว่าเหล่าว่าที่ร้อยบุตรในสระโลหิตทั้งหลายนั้นมันเก่งกาจไม่ด้อยไปกว่ากันเลย

พวกเขานั้นเรียกได้ว่าพ้นขีดจำกัดของจักรพรรดิเซียนไปแล้ว!

ต่อให้จะเอาศิษย์จากนิกายใหญ่อย่างนิกายยาสุดล้ำมาเทียบมันก็คงไม่อาจจะเทียบคนทั้งหลายนี้ได้!

แต่ว่าเย่หยวนนั้นย่อมจะไม่กังวลใด

ตอนนี้ด้วยพลังสายเลือดที่พัฒนาขึ้นมาฝีมือของเขามันย่อมจะหลุดจากระดับของจักรพรรดิเซียนไปไกลโข กอปรกับพลังของพรนั้นด้วยแล้วเขาย่อมจะไม่มีใครต้านทานได้!

ต่อให้ตอนนี้เย่หยวนจะต้องประลองกับจักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางเขาก็คงสามารถจัดการได้โดยความไม่แตกว่าเป็นมนุษย์!

จักรพรรดิเซียนเผ่าเลือดทั้งหลายนั้นมีความสามารถต่อสู้ข้ามอาณาจักรได้แต่หากต้องไปเจอจักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางเข้าแล้วมันก็คงไม่พ้นความตายแน่

มิใช่ทุกคนจะเก่งได้อย่างเย่หยวน

“เจ้ามันยังไม่มีค่าพอ!” ได้ยินคำท้าทายของหลานเฉียนั้นเย่หยวนก็ย่อมจะตอบกลับไปอย่างไม่แยแส

“ฮ่าๆ เจ้าอวดดีไปก่อนเถอะ หวังว่าถึงเวลาแล้วเจ้าจะไม่กลัวหัวหดไปก่อน!” หลานเฉียนั้นหัวเราะขึ้นเย้ย

ตัวเย่หยวนในเวลานี้มันได้กลายเป็นตัวตลกแห่งสระโลหิตไปแล้ว

เขานั้นบอกว่าจะท้าทายทุกคนในสระโลหิต มันย่อมจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเคยคิดทำมาก่อนในประวัติศาสตร์

เพราะไม่มีใครเก่งกาจพอจะเอาชนะยอดอัจฉริยะระดับจักรพรรดิเซียนลงพร้อมๆ กันร้อยคนได้!

ที่สำคัญไปกว่านั้นคนทั้งหลายนี้ยังมิใช่แค่อัจฉริยะทั่วๆ ไป!

วันต่อมามันก็ย่อมจะเกิดการท้าทายขึ้นอย่างต่อเนื่องมีม้ามืดปรากฏตัวขึ้นอีกหลายคนอย่างไม่มีหยุดพัก

แต่ไม่มีใครเจิดจ้าได้เท่าหลานเฉีย

วันต่อมา วันที่สามมันก็ถึงตาของเย่หยวน!

คนทั้งหลายนั้นต่างมามุงดูเรื่องราวและกล่าวเย้ยหยันขึ้น “นี่ ยอดฝีมือจากทวีปสวรรค์แรก มันถึงตาเจ้าท้าทายแล้ว! เจ้าบอกว่าจะท้าทายยอดอัจฉริยะทั้งสระโลหิตด้วยตัวเอง! อย่าได้ปอดแหกขึ้นมาก่อนเล่า!”

“เจ้ามันโชคดีจริงๆ เฉียซวยนั้นครบเวลากำหนดบ่มเพาะสิบวันจึงต้องออกจากสระโลหิตไปก่อน ไม่เช่นนั้นเจ้าคงได้เจอเขาแน่แล้ว”

“รีบๆ ไปสิ อย่าได้กลัว!”

“ยอดฝีมือ รีบๆ จัดการพวกมันลงให้หมดเถอะ ทำได้จริงข้าจะขอก้มหัวรับใช้ท่านเอง!”

เย่หยวนนั้นยังไม่ทันขึ้นสังเวียนมันก็มีเสียงเย้ยหยันดังขึ้นมาทั่วทิศ

เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นเย่อหยิ่งย่อมจะไม่มีใครอยากลงมือ

พวกเขานั้นต่างหมายมุ่งอันดับหนึ่งแต่ก็ไม่มีใครจะบอกว่าตนนั้นเอาชนะคนทั้งหมดลงพร้อมกันได้

ไม่มีใครกล้า!

เฉียซวยนั้นคือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเก่งกาจที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ หากเย่หยวนแค่คิดท้าทายเขานั้นมันย่อมจะไม่ทำให้เกิดเสียงเย้ยหยันขึ้นมากมายเท่านี้

แต่คิดท้าทายทุกผู้คนนั้นมันโง่จนเกินไป!

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงเป็นได้แค่ตัวตลกในสายตาคนทั้งหลาย

ผู้ดูแลหันมามองหน้าเย่หยวนก่อนจะถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ยอดฝีมือจากทวีปสวรรค์แรก เจ้ายังคิดท้าทายทุกคนพร้อมกันอยู่หรือไม่?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “แน่นอน เรียกพวกมันมาพร้อมๆ กันเถอะ ข้ายังต้องเอาเวลาที่เหลือไปบ่มเพาะต่ออีก”

ผู้ดูแลนั้นต้องผงะไป

เพราะดูน้ำเสียงที่ถามนั้นเขาคงไม่คิดว่าเย่หยวนจะเอาจริง

เขาแค่พูดขึ้นมาประชดเท่านั้น

หรือว่าเจ้าเด็กนี่มันเบื่อชีวิตแล้วจริง?

ในมิติลับไกลออกไปเหล่ายอดฝีมือหลายคนนั้นต่างกำลังมองดูที่สระโลหิตเบื้องล่าง

“เสี่ยวเฟย นี่คือไม้ตายของเจ้า? ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็แค่คนโง่แท้ๆ!”

“ฮ่าๆ มันคิดว่าที่นี่คือทวีปสวรรค์แรกหรือ? แค่สังหารขยะมาได้นิดหน่อยก็คิดว่าตัวเองไร้เทียมทานแล้ว? หรือต่อให้มันจะไร้เทียมทานจริงๆ แต่มันจะเอาชนะจำนวนได้หรือ?”

ทูตโลหิตทั้งเจ็ดนั้นกำลังนั่งมองดูเรื่องราวอยู่

คนที่เหลือทั้งหกนั้นต่างกล่าวเย้ยเสี่ยวเฟย

พวกเขานั้นได้ยินเรื่องของเย่หยวนบนทวีปสวรรค์แรกมาจนหมดสิ้นแล้ว

แต่ในความคิดของพวกเขานั้นแค่ไล่กวาดขยะได้มันก็ถือเป็นยอดฝีมือ?

พวกเขานั้นเข้าใจถึงฝีมือของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนดีเพราะว่าคนที่ทำการคัดเลือกในครั้งก่อนๆ มามันก็คือพวกเขานี้

และในหมู่คนทั้งเจ็ดมันก็มีหลายคนที่เคยเป็นร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนมาก่อนด้วย!

ทำไมเผ่าเลือดถึงได้ให้ค่าแก่การคัดเลือกร้อยบุตรมากมายนัก?

เพราะว่าโอกาสที่ร้อยบุตรนั้นจะเติบโตเป็นยอดฝีมือมันสูงมาก!

ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนจากหลายพันปีก่อนนั้นในเวลานี้มันได้กลายเป็นยอดฝีมือทั่วแผ่นดินไปสิ้น

บ้างนั้นถึงขั้นบรรลุระดับเจ้าโลกไปได้แล้ว!

และการคัดเลือกร้อยบุตรนี้มันจัดขึ้นทุกสิบปี เรียกได้ว่าเป็นการส่งยอดคนขึ้นมาเติมเต็มขยายอำนาจอย่างไม่มีหยุด

และพวกเขาเหล่าทูตโลหิตทั้งหลายนั้นต่างจะได้รับรางวัลจากวิหารโลหิตเทวาตามยอดอัจฉริยะที่หามาได้

เพียงแค่ว่าเสี่ยวเฟยนั้นไม่เคยได้รับมันเลย

ได้ยินคำเย้ยหยันของคนทั้งหกนั้นเสี่ยวเฟยก็ยิ้มตอบกลับไป “คนหนุ่มนั้นจะแค่บ้าหรือมากฝีมือมันต้องรอดูกันไปให้เห็นกับตาก่อน”

ทูตโลหิตอีกคนกล่าวขึ้น “เฮอะ! เสี่ยวเฟย เจ้าคิดว่าพวกเราไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเจ้าหรือ! นี่คงคิดว่าได้อัจฉริยะเก่งกาจมาแล้วคิดจะตบหน้าพวกเรา? แต่ต่อให้เรายื่นหน้าให้เจ้าจะกล้าตบ?”

ใครที่อยู่ในสระโลหิตตอนนี้ พวกเขาแต่ละคนมากฝีมือแค่ไหนคนทั้งหลายนี้ย่อมจะเข้าใจ

เพราะว่าศึกในสระโลหิตนี้มันนับว่าเป็นแนวทางให้แก่การตัดสินศึกร้อยบุตรในภายหลัง

เสี่ยวเฟยนั้นไม่เคยชนะมันมาก่อน!

เพราะฉะนั้นเป้าหมายของเขามันย่อมจะไม่พ้นการหักหน้าคนทั้งหลายแล้ว

ในสังเวียนนั้นยอดอัจฉริยะเก้าสิบเก้าคนได้ล้อมมองดูเย่หยวนด้วยสายตาเย็นเยือก

เจ้านี่มันบ้า!

“มินเหวิน เจ้าไปจัดการมันเสีย เสียเวลาเราเปล่าๆ!” คนที่พูดขึ้นมานั้นคือยอดอัจฉริยะในสระโลหิตหมายเลขหนึ่ง เฉียหยู่

หลังจากที่เฉียซวยหมดเวลาออกไปเขาคนนี้ก็ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแทน

ตอนนี้เขาคือคนที่เก่งกาจที่สุดในหมู่คนทั้งเก้าสิบเก้า!

ส่วนมินเหวินนั้นเขาคือขี้ข้าของเฉียหยู่

เฉียหยู่นั้นดูถูกเย่หยวนอย่างมากและไม่คิดลงมือเองแต่อย่างใด

เมื่อมินเหวินได้ยินเช่นนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าหาเย่หยวนทันที

“ช้าก่อน!” เย่หยวนกล่าวขึ้นขัด

เฉียหยู่ยิ้มขึ้นมา “กลัวแล้ว? แต่มันสายไปแล้ว!”

เย่หยวนส่ายหัวออกมา “พวกเจ้าทั้งหลายแน่ใจหรือว่าจะไม่เข้ามาพร้อมกัน? ตอนนี้ข้าให้โอกาสพวกเจ้าอยู่ แต่หลังจากนี้พวกเจ้าคงไม่มีเวลาแม้แต่จะมานั่งเสียใจแล้ว!”

คนทั้งหลายได้แต่ต้องหันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้น!

โจมตีพร้อมกัน?

แค่จักรพรรดิเซียนขั้นปลายคนหนึ่งนี้?

‘ฮ่าๆ เจ้าไม่รู้เลยหรือว่าคนในที่นี้มันเรียกได้ว่ามีฝีมือระดับจักรพรรดิเที่ยงกันหมดแล้ว!’

“หึๆ ไอ้หนู ผ่านข้าไปให้ได้ก่อนเถอะค่อยมาพูด!” มินเหวินนั้นหัวเราะลั่นพุ่งเข้ามาใกล้เย่หยวน

ปัง!

ฝุ่นเลือดกระจายขึ้นมากลางอากาศ!

หมัดนี้ถูกต่อยออกทำลายร่างของมินเหวินจนไม่เหลือชิ้นดี!

“อืม นี่ถือว่าข้าผ่านเจ้าได้หรือยัง? พวกเจ้าแน่ใจนะว่าจะเข้ามาทีละคนจริงๆ?” เย่หยวนหันไปมองหน้าคนทั้งหลายด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2880 จะไม่เข้ามาพร้อมกัน?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2880 จะไม่เข้ามาพร้อมกัน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2880 จะไม่เข้ามาพร้อมกัน?
วันต่อมานั้นมันก็เป็นตาของหลานเฉียเข้าไปท้าทายสระโลหิตและเขาก็เลือกที่จะท้าทายสระโลหิตหมายเลขเจ็ดทันที

เรื่องนี้มันย่อมจะกลายเป็นจุดสนใจของคนมากมาย เพราะว่าก่อนหน้านี้ต่อให้หลานเฉียจะเก่งแต่มันก็ไม่มีใครคิดว่าเขาจะเก่งได้ถึงปานนั้น

เพราะสิบสระแรกนั้นมันคือจุดที่เหล่าสิบต้นกล้าว่าที่ร้อยบุตรอยู่กัน การจะไปท้าทายตำแหน่งนั้นมันย่อมจะหมายความว่าหลานเฉียนั้นมั่นใจในฝีมือมาก แต่มันก็ยังไม่มีใครคิดว่าหลานเฉียจะชนะได้จริง!

เขานั้นชนะได้อย่างสวยงาม!

คนทั้งหลายนั้นต่างเห็นได้ชัดเจนว่าแท้จริงแล้วหลานเฉียยังไม่ได้เอาจริงสุดตัวเสียด้วยซ้ำ!

เจ้าหมอนี่มันเป็นม้ามืดอย่างแท้จริง

ในศึกร้อยบุตรครั้งนี้หลานเฉียคงนับได้ว่าเป็นยอดฝีมือสิบอันดับแรกได้ง่ายๆ

วินาทีนี้หลานเฉียได้กลายเป็นดาวเด่นขึ้นเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ขึ้นมาทันที!

ก่อนที่จะเข้าสระโลหิตนั้นหลานเฉียได้หันมาบอกเย่หยวนด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง “ยอดฝีมือจากทวีปสวรรค์แรก ข้าพร้อมรับคำท้าเจ้าในวันพรุ่งนี้! จำไว้ว่าข้านั้นอยู่ที่สระโลหิตหมายเลขเจ็ด!”

เย่หยวนนั้นนั่งรออยู่ข้างๆ ตลอดเวลา แน่นอนว่าเขาย่อมจะได้เห็นศึกนี้กับตา

หลานเฉียนั้นเก่งกาจจริง

ยอดฝีมือที่มาถึงเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ได้นั้น มันย่อมจะไม่อาจเอาคนจากเมืองข่ายยักษ์มาเทียบเคียง!

เย่หยวนนั้นบอกได้เลยว่าเหล่าว่าที่ร้อยบุตรในสระโลหิตทั้งหลายนั้นมันเก่งกาจไม่ด้อยไปกว่ากันเลย

พวกเขานั้นเรียกได้ว่าพ้นขีดจำกัดของจักรพรรดิเซียนไปแล้ว!

ต่อให้จะเอาศิษย์จากนิกายใหญ่อย่างนิกายยาสุดล้ำมาเทียบมันก็คงไม่อาจจะเทียบคนทั้งหลายนี้ได้!

แต่ว่าเย่หยวนนั้นย่อมจะไม่กังวลใด

ตอนนี้ด้วยพลังสายเลือดที่พัฒนาขึ้นมาฝีมือของเขามันย่อมจะหลุดจากระดับของจักรพรรดิเซียนไปไกลโข กอปรกับพลังของพรนั้นด้วยแล้วเขาย่อมจะไม่มีใครต้านทานได้!

ต่อให้ตอนนี้เย่หยวนจะต้องประลองกับจักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางเขาก็คงสามารถจัดการได้โดยความไม่แตกว่าเป็นมนุษย์!

จักรพรรดิเซียนเผ่าเลือดทั้งหลายนั้นมีความสามารถต่อสู้ข้ามอาณาจักรได้แต่หากต้องไปเจอจักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางเข้าแล้วมันก็คงไม่พ้นความตายแน่

มิใช่ทุกคนจะเก่งได้อย่างเย่หยวน

“เจ้ามันยังไม่มีค่าพอ!” ได้ยินคำท้าทายของหลานเฉียนั้นเย่หยวนก็ย่อมจะตอบกลับไปอย่างไม่แยแส

“ฮ่าๆ เจ้าอวดดีไปก่อนเถอะ หวังว่าถึงเวลาแล้วเจ้าจะไม่กลัวหัวหดไปก่อน!” หลานเฉียนั้นหัวเราะขึ้นเย้ย

ตัวเย่หยวนในเวลานี้มันได้กลายเป็นตัวตลกแห่งสระโลหิตไปแล้ว

เขานั้นบอกว่าจะท้าทายทุกคนในสระโลหิต มันย่อมจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเคยคิดทำมาก่อนในประวัติศาสตร์

เพราะไม่มีใครเก่งกาจพอจะเอาชนะยอดอัจฉริยะระดับจักรพรรดิเซียนลงพร้อมๆ กันร้อยคนได้!

ที่สำคัญไปกว่านั้นคนทั้งหลายนี้ยังมิใช่แค่อัจฉริยะทั่วๆ ไป!

วันต่อมามันก็ย่อมจะเกิดการท้าทายขึ้นอย่างต่อเนื่องมีม้ามืดปรากฏตัวขึ้นอีกหลายคนอย่างไม่มีหยุดพัก

แต่ไม่มีใครเจิดจ้าได้เท่าหลานเฉีย

วันต่อมา วันที่สามมันก็ถึงตาของเย่หยวน!

คนทั้งหลายนั้นต่างมามุงดูเรื่องราวและกล่าวเย้ยหยันขึ้น “นี่ ยอดฝีมือจากทวีปสวรรค์แรก มันถึงตาเจ้าท้าทายแล้ว! เจ้าบอกว่าจะท้าทายยอดอัจฉริยะทั้งสระโลหิตด้วยตัวเอง! อย่าได้ปอดแหกขึ้นมาก่อนเล่า!”

“เจ้ามันโชคดีจริงๆ เฉียซวยนั้นครบเวลากำหนดบ่มเพาะสิบวันจึงต้องออกจากสระโลหิตไปก่อน ไม่เช่นนั้นเจ้าคงได้เจอเขาแน่แล้ว”

“รีบๆ ไปสิ อย่าได้กลัว!”

“ยอดฝีมือ รีบๆ จัดการพวกมันลงให้หมดเถอะ ทำได้จริงข้าจะขอก้มหัวรับใช้ท่านเอง!”

เย่หยวนนั้นยังไม่ทันขึ้นสังเวียนมันก็มีเสียงเย้ยหยันดังขึ้นมาทั่วทิศ

เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นเย่อหยิ่งย่อมจะไม่มีใครอยากลงมือ

พวกเขานั้นต่างหมายมุ่งอันดับหนึ่งแต่ก็ไม่มีใครจะบอกว่าตนนั้นเอาชนะคนทั้งหมดลงพร้อมกันได้

ไม่มีใครกล้า!

เฉียซวยนั้นคือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเก่งกาจที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ หากเย่หยวนแค่คิดท้าทายเขานั้นมันย่อมจะไม่ทำให้เกิดเสียงเย้ยหยันขึ้นมากมายเท่านี้

แต่คิดท้าทายทุกผู้คนนั้นมันโง่จนเกินไป!

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงเป็นได้แค่ตัวตลกในสายตาคนทั้งหลาย

ผู้ดูแลหันมามองหน้าเย่หยวนก่อนจะถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ยอดฝีมือจากทวีปสวรรค์แรก เจ้ายังคิดท้าทายทุกคนพร้อมกันอยู่หรือไม่?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “แน่นอน เรียกพวกมันมาพร้อมๆ กันเถอะ ข้ายังต้องเอาเวลาที่เหลือไปบ่มเพาะต่ออีก”

ผู้ดูแลนั้นต้องผงะไป

เพราะดูน้ำเสียงที่ถามนั้นเขาคงไม่คิดว่าเย่หยวนจะเอาจริง

เขาแค่พูดขึ้นมาประชดเท่านั้น

หรือว่าเจ้าเด็กนี่มันเบื่อชีวิตแล้วจริง?

ในมิติลับไกลออกไปเหล่ายอดฝีมือหลายคนนั้นต่างกำลังมองดูที่สระโลหิตเบื้องล่าง

“เสี่ยวเฟย นี่คือไม้ตายของเจ้า? ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็แค่คนโง่แท้ๆ!”

“ฮ่าๆ มันคิดว่าที่นี่คือทวีปสวรรค์แรกหรือ? แค่สังหารขยะมาได้นิดหน่อยก็คิดว่าตัวเองไร้เทียมทานแล้ว? หรือต่อให้มันจะไร้เทียมทานจริงๆ แต่มันจะเอาชนะจำนวนได้หรือ?”

ทูตโลหิตทั้งเจ็ดนั้นกำลังนั่งมองดูเรื่องราวอยู่

คนที่เหลือทั้งหกนั้นต่างกล่าวเย้ยเสี่ยวเฟย

พวกเขานั้นได้ยินเรื่องของเย่หยวนบนทวีปสวรรค์แรกมาจนหมดสิ้นแล้ว

แต่ในความคิดของพวกเขานั้นแค่ไล่กวาดขยะได้มันก็ถือเป็นยอดฝีมือ?

พวกเขานั้นเข้าใจถึงฝีมือของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนดีเพราะว่าคนที่ทำการคัดเลือกในครั้งก่อนๆ มามันก็คือพวกเขานี้

และในหมู่คนทั้งเจ็ดมันก็มีหลายคนที่เคยเป็นร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนมาก่อนด้วย!

ทำไมเผ่าเลือดถึงได้ให้ค่าแก่การคัดเลือกร้อยบุตรมากมายนัก?

เพราะว่าโอกาสที่ร้อยบุตรนั้นจะเติบโตเป็นยอดฝีมือมันสูงมาก!

ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนจากหลายพันปีก่อนนั้นในเวลานี้มันได้กลายเป็นยอดฝีมือทั่วแผ่นดินไปสิ้น

บ้างนั้นถึงขั้นบรรลุระดับเจ้าโลกไปได้แล้ว!

และการคัดเลือกร้อยบุตรนี้มันจัดขึ้นทุกสิบปี เรียกได้ว่าเป็นการส่งยอดคนขึ้นมาเติมเต็มขยายอำนาจอย่างไม่มีหยุด

และพวกเขาเหล่าทูตโลหิตทั้งหลายนั้นต่างจะได้รับรางวัลจากวิหารโลหิตเทวาตามยอดอัจฉริยะที่หามาได้

เพียงแค่ว่าเสี่ยวเฟยนั้นไม่เคยได้รับมันเลย

ได้ยินคำเย้ยหยันของคนทั้งหกนั้นเสี่ยวเฟยก็ยิ้มตอบกลับไป “คนหนุ่มนั้นจะแค่บ้าหรือมากฝีมือมันต้องรอดูกันไปให้เห็นกับตาก่อน”

ทูตโลหิตอีกคนกล่าวขึ้น “เฮอะ! เสี่ยวเฟย เจ้าคิดว่าพวกเราไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเจ้าหรือ! นี่คงคิดว่าได้อัจฉริยะเก่งกาจมาแล้วคิดจะตบหน้าพวกเรา? แต่ต่อให้เรายื่นหน้าให้เจ้าจะกล้าตบ?”

ใครที่อยู่ในสระโลหิตตอนนี้ พวกเขาแต่ละคนมากฝีมือแค่ไหนคนทั้งหลายนี้ย่อมจะเข้าใจ

เพราะว่าศึกในสระโลหิตนี้มันนับว่าเป็นแนวทางให้แก่การตัดสินศึกร้อยบุตรในภายหลัง

เสี่ยวเฟยนั้นไม่เคยชนะมันมาก่อน!

เพราะฉะนั้นเป้าหมายของเขามันย่อมจะไม่พ้นการหักหน้าคนทั้งหลายแล้ว

ในสังเวียนนั้นยอดอัจฉริยะเก้าสิบเก้าคนได้ล้อมมองดูเย่หยวนด้วยสายตาเย็นเยือก

เจ้านี่มันบ้า!

“มินเหวิน เจ้าไปจัดการมันเสีย เสียเวลาเราเปล่าๆ!” คนที่พูดขึ้นมานั้นคือยอดอัจฉริยะในสระโลหิตหมายเลขหนึ่ง เฉียหยู่

หลังจากที่เฉียซวยหมดเวลาออกไปเขาคนนี้ก็ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแทน

ตอนนี้เขาคือคนที่เก่งกาจที่สุดในหมู่คนทั้งเก้าสิบเก้า!

ส่วนมินเหวินนั้นเขาคือขี้ข้าของเฉียหยู่

เฉียหยู่นั้นดูถูกเย่หยวนอย่างมากและไม่คิดลงมือเองแต่อย่างใด

เมื่อมินเหวินได้ยินเช่นนั้นเขาก็พุ่งตัวเข้าหาเย่หยวนทันที

“ช้าก่อน!” เย่หยวนกล่าวขึ้นขัด

เฉียหยู่ยิ้มขึ้นมา “กลัวแล้ว? แต่มันสายไปแล้ว!”

เย่หยวนส่ายหัวออกมา “พวกเจ้าทั้งหลายแน่ใจหรือว่าจะไม่เข้ามาพร้อมกัน? ตอนนี้ข้าให้โอกาสพวกเจ้าอยู่ แต่หลังจากนี้พวกเจ้าคงไม่มีเวลาแม้แต่จะมานั่งเสียใจแล้ว!”

คนทั้งหลายได้แต่ต้องหันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้น!

โจมตีพร้อมกัน?

แค่จักรพรรดิเซียนขั้นปลายคนหนึ่งนี้?

‘ฮ่าๆ เจ้าไม่รู้เลยหรือว่าคนในที่นี้มันเรียกได้ว่ามีฝีมือระดับจักรพรรดิเที่ยงกันหมดแล้ว!’

“หึๆ ไอ้หนู ผ่านข้าไปให้ได้ก่อนเถอะค่อยมาพูด!” มินเหวินนั้นหัวเราะลั่นพุ่งเข้ามาใกล้เย่หยวน

ปัง!

ฝุ่นเลือดกระจายขึ้นมากลางอากาศ!

หมัดนี้ถูกต่อยออกทำลายร่างของมินเหวินจนไม่เหลือชิ้นดี!

“อืม นี่ถือว่าข้าผ่านเจ้าได้หรือยัง? พวกเจ้าแน่ใจนะว่าจะเข้ามาทีละคนจริงๆ?” เย่หยวนหันไปมองหน้าคนทั้งหลายด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+