Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!
“ข้า…”

ปัง!

สีหน้าของผู้เข้าแข่งขันนั้นต่างซีดขาวลงอย่างมาก สายตาที่พวกเขาใช้มองดูเย่หยวนนั้นมันเหมือนกับว่าเย่หยวนเป็นยมทูตแห่งความหายนะก็ไม่ปาน

บนสังเวียนนั้นศัตรูของเขาล้วนต้องตายลงก่อนจะได้ยอมแพ้

เย่หยวนนั้นได้กลายเป็นฝันร้ายของว่าที่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนทั้งหลายไปแล้ว

ใครก็ตามที่ไปเจอเขาเข้า จะถือว่าเป็นคนที่อับโชคอย่างมหาศาล

ในสังเวียนอีกแห่งหนึ่งสองว่าที่ร้อยบุตรกำลังต่อสู้กันอยู่อย่างสุดตัว สู้กันจนไม่เหลือพลังใดๆ แทบไม่มีแรงยกแขนขึ้นมาต่อยกัน

“ข้าขอล่ะ ยอมแพ้ให้ข้าเถอะ!”

“ข้า…ต่อให้ข้าแพ้ข้าก็จะไม่ยอมแพ้ หากข้าแพ้เจ้าไปแล้วข้าก็คงต้องไปเจอเจ้าปีศาจนั่นพอดี!”

“ในเมื่อคิดเช่นนั้นก็สู้กันจนกว่าจะตายไปข้าง!”

“จนกว่าจะตายไปข้าง!”

อีกสังเวียนหนึ่งมันก็มีภาพของสองว่าที่ร้อยบุตรกล่าวยอมแพ้ขึ้นมาพร้อมๆ กัน

“ข้ายอมแพ้!”

“กรรมการ ข้ายอมแพ้ก่อนมัน!”

“พูดจาไร้สาระ! ข้าเป็นคนที่ยอมแพ้ก่อน!”

สุดท้ายคนทั้งสองก็เริ่มสู้กันอีกครั้ง

ระหว่างคนทั้งสองนี้ ใครชนะขึ้นสายบนจะต้องไปเจอกับเย่หยวน

ตอนนี้การคัดเลือกร้อยบุตรนี้เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับเย่หยวนมันได้กลายเป็นความเละเทะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

กรรมการทั้งหลายนั้นแทบอยากจะฉีกร่างเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ

เจ้าหมอนี่มันมาก่อเรื่องชัดๆ!

ในศึกครั้งนี้ศัตรูของเย่หยวนนั้นคือเฉียซวยผู้ที่ถูกกล่าวว่าเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งของงาน

ในที่สุดยอดฝีมือทั้งสองก็จะได้เผชิญหน้ากันแล้ว

ศึกในครั้งนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมาให้ความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่เยียหวู่กวย

เฉียซวยนั้นมีฝีมือที่แข็งแกร่ง เขาย่อมจะเก่งกาจสมชื่ออันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ว่าตอนนี้เย่หยวนคือราชาที่ไร้บัลลังก์ ใครมาเจอเขานั้นต้องกลัวจนตัวสั่นกันสิ้น

มันมิใช่เพราะว่าเขาเก่งกาจ แต่เพราะว่าเขานั้นโหดเหี้ยมสังหารคนลงทันทีที่ได้ลงมือ

เย่หยวนมองหน้าเฉียซวยก่อนจะยิ้มขึ้นกล่าว “พวกมันว่าเจ้าคืออันดับหนึ่งของงานคัดเลือกรอบนี้ เจ้าคงไม่เหมือนพวกมันที่คิดยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้สู้หรอกใช่ไหม?”

เฉียซวยนั้นยืนนิ่งมองหน้าเย่หยวนอย่างไม่คิดตอบอะไรกลับมา

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจยาวกล่าวขึ้นต่อ “หากเจ้าเองก็คิดจะยอมแพ้เหมือนพวกมันแล้ว งานนี้คงน่าเบื่อเกินไป!”

ฟุบ!

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าเฉียซวยอย่างไม่มีใครมองทัน

ความเร็วของเขานี้มันเหนือกว่าสายตาของใครๆ!

เย่หยวนนั้นรู้ว่าเฉียซวยเก่งกาจ เขาย่อมจะไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ขยับตัวก่อน

“ข้ายอมแพ้!”

แต่ว่าวินาทีเดียวกับที่เย่หยวนพุ่งตัวมาถึงนั้นเฉียซวยก็ได้ร้องประกาศออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

เขานั้นยอมแพ้ออกมาอย่างไม่คิดละอาย!

หมัดของเย่หยวนมันจึงได้แต่ต้องง้างค้างไว้กลางอากาศ

เพราะเมื่อยอมแพ้แล้ว เขาก็ย่อมไม่อาจจะโจมตีได้อีก

เฮ!

เสียงร้องลั่นดังขึ้นมาจากรอบด้าน!

“เฉียซวยนั้นกลับยอมแพ้ได้!”

“เก่งโคตร! เขาเป็นคนแรกเลยที่ยอมแพ้ต่อหน้าเฉียชิงได้!”

“อ่า สมชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ! ฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถยอมแพ้ได้ทีเดียว!”

สิ่งที่ทำให้คนทั้งหลายเฮขึ้นมานั้นมิใช่เรื่องที่เฉียซวยยอมแพ้ แต่เป็นเรื่องที่เฉียซวยสามารถกล่าวยอมแพ้ออกมาได้!

เยียหวู่กวยได้แต่ต้องกุมขมับ!

มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

เผ่าเลือดของข้านั้นมีใครบ้างที่เคยกลัวความตาย?

วันนี้คนผู้หนึ่งกลับถูกยกย่องเพราะว่าสามารถยอมแพ้ได้?

นี่พวกเจ้าจะไม่มีความกล้ากันหน่อยเลยหรือ?

เจ้าเฉียซวยก็อีกคน จะไม่คิดต่อยตีกันสักสองสามกระบวนท่าเลยหรือ?

มันต้องยอมแพ้ง่ายๆ ปานนี้?

แม้ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนเขาเฉียซวยก็ไม่ได้อ่อนแอ!

นี่กลับไม่คิดแม้แต่จะลอง?

ความเป็นจริงแล้วฝีมือของเฉียซวยนั้นไม่เป็นรองใครจริงๆ

ก่อนที่เย่หยวนจะปรากฏขึ้นตัวมานั้น เขาคืออันดับหนึ่งในความคิดของทุกคน

หากพวกเขาต้องสู้กันจริงๆ แล้วแม้เฉียซวยจะเอาชนะเย่หยวนไม่ได้แต่มันก็คงไม่ถึงขั้นตายลงในกระบวนท่าเดียวอย่างคนอื่นแน่นอน

แต่ว่ายอดอัจฉริยะเช่นนั้นกลับไม่คิดแม้แต่จะลองและยอมแพ้ให้แก่เย่หยวนในวินาทีที่เริ่มศึก!

“พอได้แล้วเฉียชิง! เจ้าเอาชนะเฉียซวยมาได้แล้วมันไม่มีใครว่าเจ้าอวดอ้างตัวเองอีกแน่นอนแล้ว ข้าขอสั่งให้เจ้าถอนตัวจากงานคัดเลือกร้อยบุตรเดี๋ยวนี้!” เยียหวู่กวยร้องลั่นขึ้นมาจากบนท้องฟ้า

เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไปงานคัดเลือกร้อยบุตรครั้งนี้มันคงเละไม่เป็นท่าแน่

เยียหวู่กวยนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

แม้แต่เจ้าโลกยังไม่พอใจ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือว่ามันหมายความว่าอะไร?

เย่หยวนเงยหน้าขึ้นไปร้องถาม “หากข้าถอนตัวแล้วข้าจะยังเข้าสระโลหิตของวิหารโลหิตเทวาได้หรือไม่?”

“อึก!”

เสียงร้องนั้นมันแสดงได้ชัดเจนว่าเยียหวู่กวยกำลังกระอักเลือด

“ใช่!” เยียหวู่กวยร้องตอบกลับมา

เย่หยวนยิ้มกว้างขึ้นมา “เช่นนั้นข้าจะถอนตัวก็ได้ เฮ้อ ไม่มีใครใจสู้สักคนน่าเบื่อแท้ๆ”

“อ่อก!”

เสียงกระอักเลือดดังขึ้นมารอบด้าน

มันไม่ใช่ว่าไม่มีใครใจสู้แต่เจ้ามันโหดเหี้ยมเกินไป!

เจ้าเอาชีวิตทุกคนที่ขึ้นไปประลอง ใครมันจะไปกล้าสู้กับเจ้า?

เย่หยวนเองก็รู้สึกเสียดายผลลัพธ์นี้เช่นกัน

เพราะเขานั้นยังหวังอยากจะสังหารให้มากกว่านี้แต่ว่าในการแข่งขันแบบจับคู่เช่นนี้มันย่อมจะสังหารได้ไม่มากเป็นทุนอยู่แล้ว

การสังหารแค่คู่ต่อสู้ตรงหน้านั้นมันเสียเวลา ทำได้แค่เป็นการฆ่าเวลาเท่านั้น

แต่เย่หยวนก็ยังเสียดายไม่หายที่ไม่อาจจะสังหารเฉียซวยลงได้

เพราะเขานั้นรู้ว่าเฉียซวยนั้นเก่งกาจมาก!

เพราะก่อนที่เขาจะปรากฏตัวนั้นเฉียซวยคือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่หนึ่งและเป็นว่าที่เจ้าโลก

การยกย่องเช่นนั้นมันไม่ได้มีกันง่ายๆ แม้แต่ในเผ่าเลือดก็ตาม

สุดท้ายเย่หยวนจึงได้แต่ต้องเดินลงจากสังเวียนด้วยท่าทางเบื่อหน่าย

จากนั้นทางเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ก็ได้ลงมติว่าจะทำการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนขึ้นมาใหม่ในวันหลัง!

เมื่อไม่มีอะไรทำเย่หยวนจึงได้มุ่งหน้าไปดูการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงแทน

หยางชิงนั้นยังคงทำตัวน่าหมั่นไส้ไม่มีเปลี่ยน แต่เขานั้นก็ทั้งเก่งและน่าหมั่นไส้ทำให้กลายเป็นที่เกลียดชังของคนอย่างมาก

เขานั้นเองก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าว แน่นอนว่าฝีมือของเขาในตอนนี้มันแทบจะไร้เทียมทาน

ศัตรูของเขานั้นเองก็ตายตกลงไปอย่างมากเช่นกัน

แต่ว่าหยางชิงนั้นไม่ใช่เย่หยวน มันย่อมจะไม่สามารถสังหารจนคนกลัวกันหัวหดได้

หลังจากมาถึงช่วงสุดท้ายของการแข่ง หยางชิงก็ได้เจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ

เมื่อมาถึงระดับนี้เย่หยวนก็ได้แต่ต้องยอมรับว่าร้อยบุตรเผ่าเลือดนั้นมันแข็งแกร่งล้ำกันจริงๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ติดสิบอันดับแรก พวกเขานั้นเก่งจนทำให้คนที่ได้เห็นต้องขนลุก

เผ่าเลือดนั้นมันสามารถสร้างยอดฝีมือมากมายขึ้นมาด้วยการคัดเลือกที่อาบเลือดเช่นนี้จริง

ที่สำคัญไปกว่านั้นการคัดเลือกร้อยบุตรยังจะเกิดขึ้นทุกสิบปี แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เกิดยอดฝีมือมากมายมหาศาลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เพราะสิบปีนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นเวลาแค่พริบตาสำหรับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ทั้งหลาย

จนสุดท้ายแล้วหยางชิงนั้นก็พ่ายแพ้ลงและได้ตำแหน่งอันดับที่เก้ามาครอง!

มันหมายความว่าตอนนี้มีจักรพรรดิเที่ยงที่เก่งกาจกว่าหยางชิงถึงแปดคนในเผ่าเลือด

แท้จริงแล้วแค่ได้ที่เก้ามามันก็นับได้ว่ายิ่งใหญ่แล้วสำหรับหยางชิง

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจักรพรรดิเที่ยงนั้นก็ต่างเป็นยอดฝีมือหนึ่งในแสนล้านของเผ่าเลือด!

เพียงแค่ว่าเมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งจักรพรรดิเซียนแล้วหยางชิงก็ต้องหุบปากลงทันที

ฉิบหายจะเกินหน้ากันไปแล้ว!

เย่หยวนมันเอาแต่กดหัวข้าอยู่เรื่อย!

เขานั้นทุ่มสุดตัวแล้วยังได้มาแค่ที่เก้าแต่เจ้าบ้านั่นกลับสังหารศัตรูจนคนที่เก่งที่สุดยังได้แต่ต้องยอมแพ้ทันที

ต่อให้จะเป็นอันดับหนึ่งอย่างเฉียซวยนั้นก็ไม่กล้าปะทะกับเย่หยวน

เฮอะๆ!

สักวันข้าจะทำตัวเด่นกว่าเจ้าให้ได้!

การคัดเลือกร้อยบุตรนั้นจบสิ้นลงในที่สุดพร้อมประกาศรายชื่อใหม่ของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่มีชื่ออยู่บนนั้น

เพราะแค่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นมันเล็กเกินกว่าที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ของเขาคนนี้

อัจฉริยะไร้เทียมทานได้ผงาดขึ้นในเผ่าเลือด

การปรากฏขึ้นของเย่หยวนนี้มันทำให้เผ่าเลือดแตกตื่นไปพักใหญ่

เพราะเขานั้นเป็นสัตว์ประหลาดจนเกินไป!

ตอนไม่ได้ออกหน้าออกตานั้นไม่มีใครรู้จัก แต่พอตัดสินใจปรากฏตัวขึ้นมามันก็ทำให้ทั้งเผ่าพันธุ์แตกตื่น!

เหล่ายอดฝีมือที่บรรลุเจ้าโลกไปได้ในรอบพันกว่าปีมานี้ ตอนพวกเขายังเป็นจักรพรรดิเซียนมันไม่มีใครจะทำได้ถึงหนึ่งในหมื่นของที่เย่หยวนทำตอนนี้ด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นคนเผ่าเลือดจึงได้ตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่

เพราะพวกเขามั่นใจได้เลยว่าอีกไม่นานมันคงได้มีเจ้าโลกคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาแน่แล้ว!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!
“ข้า…”

ปัง!

สีหน้าของผู้เข้าแข่งขันนั้นต่างซีดขาวลงอย่างมาก สายตาที่พวกเขาใช้มองดูเย่หยวนนั้นมันเหมือนกับว่าเย่หยวนเป็นยมทูตแห่งความหายนะก็ไม่ปาน

บนสังเวียนนั้นศัตรูของเขาล้วนต้องตายลงก่อนจะได้ยอมแพ้

เย่หยวนนั้นได้กลายเป็นฝันร้ายของว่าที่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนทั้งหลายไปแล้ว

ใครก็ตามที่ไปเจอเขาเข้า จะถือว่าเป็นคนที่อับโชคอย่างมหาศาล

ในสังเวียนอีกแห่งหนึ่งสองว่าที่ร้อยบุตรกำลังต่อสู้กันอยู่อย่างสุดตัว สู้กันจนไม่เหลือพลังใดๆ แทบไม่มีแรงยกแขนขึ้นมาต่อยกัน

“ข้าขอล่ะ ยอมแพ้ให้ข้าเถอะ!”

“ข้า…ต่อให้ข้าแพ้ข้าก็จะไม่ยอมแพ้ หากข้าแพ้เจ้าไปแล้วข้าก็คงต้องไปเจอเจ้าปีศาจนั่นพอดี!”

“ในเมื่อคิดเช่นนั้นก็สู้กันจนกว่าจะตายไปข้าง!”

“จนกว่าจะตายไปข้าง!”

อีกสังเวียนหนึ่งมันก็มีภาพของสองว่าที่ร้อยบุตรกล่าวยอมแพ้ขึ้นมาพร้อมๆ กัน

“ข้ายอมแพ้!”

“กรรมการ ข้ายอมแพ้ก่อนมัน!”

“พูดจาไร้สาระ! ข้าเป็นคนที่ยอมแพ้ก่อน!”

สุดท้ายคนทั้งสองก็เริ่มสู้กันอีกครั้ง

ระหว่างคนทั้งสองนี้ ใครชนะขึ้นสายบนจะต้องไปเจอกับเย่หยวน

ตอนนี้การคัดเลือกร้อยบุตรนี้เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับเย่หยวนมันได้กลายเป็นความเละเทะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

กรรมการทั้งหลายนั้นแทบอยากจะฉีกร่างเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ

เจ้าหมอนี่มันมาก่อเรื่องชัดๆ!

ในศึกครั้งนี้ศัตรูของเย่หยวนนั้นคือเฉียซวยผู้ที่ถูกกล่าวว่าเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งของงาน

ในที่สุดยอดฝีมือทั้งสองก็จะได้เผชิญหน้ากันแล้ว

ศึกในครั้งนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมาให้ความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่เยียหวู่กวย

เฉียซวยนั้นมีฝีมือที่แข็งแกร่ง เขาย่อมจะเก่งกาจสมชื่ออันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ว่าตอนนี้เย่หยวนคือราชาที่ไร้บัลลังก์ ใครมาเจอเขานั้นต้องกลัวจนตัวสั่นกันสิ้น

มันมิใช่เพราะว่าเขาเก่งกาจ แต่เพราะว่าเขานั้นโหดเหี้ยมสังหารคนลงทันทีที่ได้ลงมือ

เย่หยวนมองหน้าเฉียซวยก่อนจะยิ้มขึ้นกล่าว “พวกมันว่าเจ้าคืออันดับหนึ่งของงานคัดเลือกรอบนี้ เจ้าคงไม่เหมือนพวกมันที่คิดยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้สู้หรอกใช่ไหม?”

เฉียซวยนั้นยืนนิ่งมองหน้าเย่หยวนอย่างไม่คิดตอบอะไรกลับมา

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจยาวกล่าวขึ้นต่อ “หากเจ้าเองก็คิดจะยอมแพ้เหมือนพวกมันแล้ว งานนี้คงน่าเบื่อเกินไป!”

ฟุบ!

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าเฉียซวยอย่างไม่มีใครมองทัน

ความเร็วของเขานี้มันเหนือกว่าสายตาของใครๆ!

เย่หยวนนั้นรู้ว่าเฉียซวยเก่งกาจ เขาย่อมจะไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ขยับตัวก่อน

“ข้ายอมแพ้!”

แต่ว่าวินาทีเดียวกับที่เย่หยวนพุ่งตัวมาถึงนั้นเฉียซวยก็ได้ร้องประกาศออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

เขานั้นยอมแพ้ออกมาอย่างไม่คิดละอาย!

หมัดของเย่หยวนมันจึงได้แต่ต้องง้างค้างไว้กลางอากาศ

เพราะเมื่อยอมแพ้แล้ว เขาก็ย่อมไม่อาจจะโจมตีได้อีก

เฮ!

เสียงร้องลั่นดังขึ้นมาจากรอบด้าน!

“เฉียซวยนั้นกลับยอมแพ้ได้!”

“เก่งโคตร! เขาเป็นคนแรกเลยที่ยอมแพ้ต่อหน้าเฉียชิงได้!”

“อ่า สมชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ! ฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถยอมแพ้ได้ทีเดียว!”

สิ่งที่ทำให้คนทั้งหลายเฮขึ้นมานั้นมิใช่เรื่องที่เฉียซวยยอมแพ้ แต่เป็นเรื่องที่เฉียซวยสามารถกล่าวยอมแพ้ออกมาได้!

เยียหวู่กวยได้แต่ต้องกุมขมับ!

มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

เผ่าเลือดของข้านั้นมีใครบ้างที่เคยกลัวความตาย?

วันนี้คนผู้หนึ่งกลับถูกยกย่องเพราะว่าสามารถยอมแพ้ได้?

นี่พวกเจ้าจะไม่มีความกล้ากันหน่อยเลยหรือ?

เจ้าเฉียซวยก็อีกคน จะไม่คิดต่อยตีกันสักสองสามกระบวนท่าเลยหรือ?

มันต้องยอมแพ้ง่ายๆ ปานนี้?

แม้ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนเขาเฉียซวยก็ไม่ได้อ่อนแอ!

นี่กลับไม่คิดแม้แต่จะลอง?

ความเป็นจริงแล้วฝีมือของเฉียซวยนั้นไม่เป็นรองใครจริงๆ

ก่อนที่เย่หยวนจะปรากฏขึ้นตัวมานั้น เขาคืออันดับหนึ่งในความคิดของทุกคน

หากพวกเขาต้องสู้กันจริงๆ แล้วแม้เฉียซวยจะเอาชนะเย่หยวนไม่ได้แต่มันก็คงไม่ถึงขั้นตายลงในกระบวนท่าเดียวอย่างคนอื่นแน่นอน

แต่ว่ายอดอัจฉริยะเช่นนั้นกลับไม่คิดแม้แต่จะลองและยอมแพ้ให้แก่เย่หยวนในวินาทีที่เริ่มศึก!

“พอได้แล้วเฉียชิง! เจ้าเอาชนะเฉียซวยมาได้แล้วมันไม่มีใครว่าเจ้าอวดอ้างตัวเองอีกแน่นอนแล้ว ข้าขอสั่งให้เจ้าถอนตัวจากงานคัดเลือกร้อยบุตรเดี๋ยวนี้!” เยียหวู่กวยร้องลั่นขึ้นมาจากบนท้องฟ้า

เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไปงานคัดเลือกร้อยบุตรครั้งนี้มันคงเละไม่เป็นท่าแน่

เยียหวู่กวยนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

แม้แต่เจ้าโลกยังไม่พอใจ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือว่ามันหมายความว่าอะไร?

เย่หยวนเงยหน้าขึ้นไปร้องถาม “หากข้าถอนตัวแล้วข้าจะยังเข้าสระโลหิตของวิหารโลหิตเทวาได้หรือไม่?”

“อึก!”

เสียงร้องนั้นมันแสดงได้ชัดเจนว่าเยียหวู่กวยกำลังกระอักเลือด

“ใช่!” เยียหวู่กวยร้องตอบกลับมา

เย่หยวนยิ้มกว้างขึ้นมา “เช่นนั้นข้าจะถอนตัวก็ได้ เฮ้อ ไม่มีใครใจสู้สักคนน่าเบื่อแท้ๆ”

“อ่อก!”

เสียงกระอักเลือดดังขึ้นมารอบด้าน

มันไม่ใช่ว่าไม่มีใครใจสู้แต่เจ้ามันโหดเหี้ยมเกินไป!

เจ้าเอาชีวิตทุกคนที่ขึ้นไปประลอง ใครมันจะไปกล้าสู้กับเจ้า?

เย่หยวนเองก็รู้สึกเสียดายผลลัพธ์นี้เช่นกัน

เพราะเขานั้นยังหวังอยากจะสังหารให้มากกว่านี้แต่ว่าในการแข่งขันแบบจับคู่เช่นนี้มันย่อมจะสังหารได้ไม่มากเป็นทุนอยู่แล้ว

การสังหารแค่คู่ต่อสู้ตรงหน้านั้นมันเสียเวลา ทำได้แค่เป็นการฆ่าเวลาเท่านั้น

แต่เย่หยวนก็ยังเสียดายไม่หายที่ไม่อาจจะสังหารเฉียซวยลงได้

เพราะเขานั้นรู้ว่าเฉียซวยนั้นเก่งกาจมาก!

เพราะก่อนที่เขาจะปรากฏตัวนั้นเฉียซวยคือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่หนึ่งและเป็นว่าที่เจ้าโลก

การยกย่องเช่นนั้นมันไม่ได้มีกันง่ายๆ แม้แต่ในเผ่าเลือดก็ตาม

สุดท้ายเย่หยวนจึงได้แต่ต้องเดินลงจากสังเวียนด้วยท่าทางเบื่อหน่าย

จากนั้นทางเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ก็ได้ลงมติว่าจะทำการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนขึ้นมาใหม่ในวันหลัง!

เมื่อไม่มีอะไรทำเย่หยวนจึงได้มุ่งหน้าไปดูการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงแทน

หยางชิงนั้นยังคงทำตัวน่าหมั่นไส้ไม่มีเปลี่ยน แต่เขานั้นก็ทั้งเก่งและน่าหมั่นไส้ทำให้กลายเป็นที่เกลียดชังของคนอย่างมาก

เขานั้นเองก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าว แน่นอนว่าฝีมือของเขาในตอนนี้มันแทบจะไร้เทียมทาน

ศัตรูของเขานั้นเองก็ตายตกลงไปอย่างมากเช่นกัน

แต่ว่าหยางชิงนั้นไม่ใช่เย่หยวน มันย่อมจะไม่สามารถสังหารจนคนกลัวกันหัวหดได้

หลังจากมาถึงช่วงสุดท้ายของการแข่ง หยางชิงก็ได้เจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ

เมื่อมาถึงระดับนี้เย่หยวนก็ได้แต่ต้องยอมรับว่าร้อยบุตรเผ่าเลือดนั้นมันแข็งแกร่งล้ำกันจริงๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ติดสิบอันดับแรก พวกเขานั้นเก่งจนทำให้คนที่ได้เห็นต้องขนลุก

เผ่าเลือดนั้นมันสามารถสร้างยอดฝีมือมากมายขึ้นมาด้วยการคัดเลือกที่อาบเลือดเช่นนี้จริง

ที่สำคัญไปกว่านั้นการคัดเลือกร้อยบุตรยังจะเกิดขึ้นทุกสิบปี แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เกิดยอดฝีมือมากมายมหาศาลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เพราะสิบปีนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นเวลาแค่พริบตาสำหรับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ทั้งหลาย

จนสุดท้ายแล้วหยางชิงนั้นก็พ่ายแพ้ลงและได้ตำแหน่งอันดับที่เก้ามาครอง!

มันหมายความว่าตอนนี้มีจักรพรรดิเที่ยงที่เก่งกาจกว่าหยางชิงถึงแปดคนในเผ่าเลือด

แท้จริงแล้วแค่ได้ที่เก้ามามันก็นับได้ว่ายิ่งใหญ่แล้วสำหรับหยางชิง

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจักรพรรดิเที่ยงนั้นก็ต่างเป็นยอดฝีมือหนึ่งในแสนล้านของเผ่าเลือด!

เพียงแค่ว่าเมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งจักรพรรดิเซียนแล้วหยางชิงก็ต้องหุบปากลงทันที

ฉิบหายจะเกินหน้ากันไปแล้ว!

เย่หยวนมันเอาแต่กดหัวข้าอยู่เรื่อย!

เขานั้นทุ่มสุดตัวแล้วยังได้มาแค่ที่เก้าแต่เจ้าบ้านั่นกลับสังหารศัตรูจนคนที่เก่งที่สุดยังได้แต่ต้องยอมแพ้ทันที

ต่อให้จะเป็นอันดับหนึ่งอย่างเฉียซวยนั้นก็ไม่กล้าปะทะกับเย่หยวน

เฮอะๆ!

สักวันข้าจะทำตัวเด่นกว่าเจ้าให้ได้!

การคัดเลือกร้อยบุตรนั้นจบสิ้นลงในที่สุดพร้อมประกาศรายชื่อใหม่ของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่มีชื่ออยู่บนนั้น

เพราะแค่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นมันเล็กเกินกว่าที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ของเขาคนนี้

อัจฉริยะไร้เทียมทานได้ผงาดขึ้นในเผ่าเลือด

การปรากฏขึ้นของเย่หยวนนี้มันทำให้เผ่าเลือดแตกตื่นไปพักใหญ่

เพราะเขานั้นเป็นสัตว์ประหลาดจนเกินไป!

ตอนไม่ได้ออกหน้าออกตานั้นไม่มีใครรู้จัก แต่พอตัดสินใจปรากฏตัวขึ้นมามันก็ทำให้ทั้งเผ่าพันธุ์แตกตื่น!

เหล่ายอดฝีมือที่บรรลุเจ้าโลกไปได้ในรอบพันกว่าปีมานี้ ตอนพวกเขายังเป็นจักรพรรดิเซียนมันไม่มีใครจะทำได้ถึงหนึ่งในหมื่นของที่เย่หยวนทำตอนนี้ด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นคนเผ่าเลือดจึงได้ตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่

เพราะพวกเขามั่นใจได้เลยว่าอีกไม่นานมันคงได้มีเจ้าโลกคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาแน่แล้ว!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!
“ข้า…”

ปัง!

สีหน้าของผู้เข้าแข่งขันนั้นต่างซีดขาวลงอย่างมาก สายตาที่พวกเขาใช้มองดูเย่หยวนนั้นมันเหมือนกับว่าเย่หยวนเป็นยมทูตแห่งความหายนะก็ไม่ปาน

บนสังเวียนนั้นศัตรูของเขาล้วนต้องตายลงก่อนจะได้ยอมแพ้

เย่หยวนนั้นได้กลายเป็นฝันร้ายของว่าที่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนทั้งหลายไปแล้ว

ใครก็ตามที่ไปเจอเขาเข้า จะถือว่าเป็นคนที่อับโชคอย่างมหาศาล

ในสังเวียนอีกแห่งหนึ่งสองว่าที่ร้อยบุตรกำลังต่อสู้กันอยู่อย่างสุดตัว สู้กันจนไม่เหลือพลังใดๆ แทบไม่มีแรงยกแขนขึ้นมาต่อยกัน

“ข้าขอล่ะ ยอมแพ้ให้ข้าเถอะ!”

“ข้า…ต่อให้ข้าแพ้ข้าก็จะไม่ยอมแพ้ หากข้าแพ้เจ้าไปแล้วข้าก็คงต้องไปเจอเจ้าปีศาจนั่นพอดี!”

“ในเมื่อคิดเช่นนั้นก็สู้กันจนกว่าจะตายไปข้าง!”

“จนกว่าจะตายไปข้าง!”

อีกสังเวียนหนึ่งมันก็มีภาพของสองว่าที่ร้อยบุตรกล่าวยอมแพ้ขึ้นมาพร้อมๆ กัน

“ข้ายอมแพ้!”

“กรรมการ ข้ายอมแพ้ก่อนมัน!”

“พูดจาไร้สาระ! ข้าเป็นคนที่ยอมแพ้ก่อน!”

สุดท้ายคนทั้งสองก็เริ่มสู้กันอีกครั้ง

ระหว่างคนทั้งสองนี้ ใครชนะขึ้นสายบนจะต้องไปเจอกับเย่หยวน

ตอนนี้การคัดเลือกร้อยบุตรนี้เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับเย่หยวนมันได้กลายเป็นความเละเทะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

กรรมการทั้งหลายนั้นแทบอยากจะฉีกร่างเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ

เจ้าหมอนี่มันมาก่อเรื่องชัดๆ!

ในศึกครั้งนี้ศัตรูของเย่หยวนนั้นคือเฉียซวยผู้ที่ถูกกล่าวว่าเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งของงาน

ในที่สุดยอดฝีมือทั้งสองก็จะได้เผชิญหน้ากันแล้ว

ศึกในครั้งนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมาให้ความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่เยียหวู่กวย

เฉียซวยนั้นมีฝีมือที่แข็งแกร่ง เขาย่อมจะเก่งกาจสมชื่ออันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ว่าตอนนี้เย่หยวนคือราชาที่ไร้บัลลังก์ ใครมาเจอเขานั้นต้องกลัวจนตัวสั่นกันสิ้น

มันมิใช่เพราะว่าเขาเก่งกาจ แต่เพราะว่าเขานั้นโหดเหี้ยมสังหารคนลงทันทีที่ได้ลงมือ

เย่หยวนมองหน้าเฉียซวยก่อนจะยิ้มขึ้นกล่าว “พวกมันว่าเจ้าคืออันดับหนึ่งของงานคัดเลือกรอบนี้ เจ้าคงไม่เหมือนพวกมันที่คิดยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้สู้หรอกใช่ไหม?”

เฉียซวยนั้นยืนนิ่งมองหน้าเย่หยวนอย่างไม่คิดตอบอะไรกลับมา

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจยาวกล่าวขึ้นต่อ “หากเจ้าเองก็คิดจะยอมแพ้เหมือนพวกมันแล้ว งานนี้คงน่าเบื่อเกินไป!”

ฟุบ!

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าเฉียซวยอย่างไม่มีใครมองทัน

ความเร็วของเขานี้มันเหนือกว่าสายตาของใครๆ!

เย่หยวนนั้นรู้ว่าเฉียซวยเก่งกาจ เขาย่อมจะไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ขยับตัวก่อน

“ข้ายอมแพ้!”

แต่ว่าวินาทีเดียวกับที่เย่หยวนพุ่งตัวมาถึงนั้นเฉียซวยก็ได้ร้องประกาศออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

เขานั้นยอมแพ้ออกมาอย่างไม่คิดละอาย!

หมัดของเย่หยวนมันจึงได้แต่ต้องง้างค้างไว้กลางอากาศ

เพราะเมื่อยอมแพ้แล้ว เขาก็ย่อมไม่อาจจะโจมตีได้อีก

เฮ!

เสียงร้องลั่นดังขึ้นมาจากรอบด้าน!

“เฉียซวยนั้นกลับยอมแพ้ได้!”

“เก่งโคตร! เขาเป็นคนแรกเลยที่ยอมแพ้ต่อหน้าเฉียชิงได้!”

“อ่า สมชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ! ฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถยอมแพ้ได้ทีเดียว!”

สิ่งที่ทำให้คนทั้งหลายเฮขึ้นมานั้นมิใช่เรื่องที่เฉียซวยยอมแพ้ แต่เป็นเรื่องที่เฉียซวยสามารถกล่าวยอมแพ้ออกมาได้!

เยียหวู่กวยได้แต่ต้องกุมขมับ!

มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

เผ่าเลือดของข้านั้นมีใครบ้างที่เคยกลัวความตาย?

วันนี้คนผู้หนึ่งกลับถูกยกย่องเพราะว่าสามารถยอมแพ้ได้?

นี่พวกเจ้าจะไม่มีความกล้ากันหน่อยเลยหรือ?

เจ้าเฉียซวยก็อีกคน จะไม่คิดต่อยตีกันสักสองสามกระบวนท่าเลยหรือ?

มันต้องยอมแพ้ง่ายๆ ปานนี้?

แม้ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนเขาเฉียซวยก็ไม่ได้อ่อนแอ!

นี่กลับไม่คิดแม้แต่จะลอง?

ความเป็นจริงแล้วฝีมือของเฉียซวยนั้นไม่เป็นรองใครจริงๆ

ก่อนที่เย่หยวนจะปรากฏขึ้นตัวมานั้น เขาคืออันดับหนึ่งในความคิดของทุกคน

หากพวกเขาต้องสู้กันจริงๆ แล้วแม้เฉียซวยจะเอาชนะเย่หยวนไม่ได้แต่มันก็คงไม่ถึงขั้นตายลงในกระบวนท่าเดียวอย่างคนอื่นแน่นอน

แต่ว่ายอดอัจฉริยะเช่นนั้นกลับไม่คิดแม้แต่จะลองและยอมแพ้ให้แก่เย่หยวนในวินาทีที่เริ่มศึก!

“พอได้แล้วเฉียชิง! เจ้าเอาชนะเฉียซวยมาได้แล้วมันไม่มีใครว่าเจ้าอวดอ้างตัวเองอีกแน่นอนแล้ว ข้าขอสั่งให้เจ้าถอนตัวจากงานคัดเลือกร้อยบุตรเดี๋ยวนี้!” เยียหวู่กวยร้องลั่นขึ้นมาจากบนท้องฟ้า

เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไปงานคัดเลือกร้อยบุตรครั้งนี้มันคงเละไม่เป็นท่าแน่

เยียหวู่กวยนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

แม้แต่เจ้าโลกยังไม่พอใจ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือว่ามันหมายความว่าอะไร?

เย่หยวนเงยหน้าขึ้นไปร้องถาม “หากข้าถอนตัวแล้วข้าจะยังเข้าสระโลหิตของวิหารโลหิตเทวาได้หรือไม่?”

“อึก!”

เสียงร้องนั้นมันแสดงได้ชัดเจนว่าเยียหวู่กวยกำลังกระอักเลือด

“ใช่!” เยียหวู่กวยร้องตอบกลับมา

เย่หยวนยิ้มกว้างขึ้นมา “เช่นนั้นข้าจะถอนตัวก็ได้ เฮ้อ ไม่มีใครใจสู้สักคนน่าเบื่อแท้ๆ”

“อ่อก!”

เสียงกระอักเลือดดังขึ้นมารอบด้าน

มันไม่ใช่ว่าไม่มีใครใจสู้แต่เจ้ามันโหดเหี้ยมเกินไป!

เจ้าเอาชีวิตทุกคนที่ขึ้นไปประลอง ใครมันจะไปกล้าสู้กับเจ้า?

เย่หยวนเองก็รู้สึกเสียดายผลลัพธ์นี้เช่นกัน

เพราะเขานั้นยังหวังอยากจะสังหารให้มากกว่านี้แต่ว่าในการแข่งขันแบบจับคู่เช่นนี้มันย่อมจะสังหารได้ไม่มากเป็นทุนอยู่แล้ว

การสังหารแค่คู่ต่อสู้ตรงหน้านั้นมันเสียเวลา ทำได้แค่เป็นการฆ่าเวลาเท่านั้น

แต่เย่หยวนก็ยังเสียดายไม่หายที่ไม่อาจจะสังหารเฉียซวยลงได้

เพราะเขานั้นรู้ว่าเฉียซวยนั้นเก่งกาจมาก!

เพราะก่อนที่เขาจะปรากฏตัวนั้นเฉียซวยคือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่หนึ่งและเป็นว่าที่เจ้าโลก

การยกย่องเช่นนั้นมันไม่ได้มีกันง่ายๆ แม้แต่ในเผ่าเลือดก็ตาม

สุดท้ายเย่หยวนจึงได้แต่ต้องเดินลงจากสังเวียนด้วยท่าทางเบื่อหน่าย

จากนั้นทางเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ก็ได้ลงมติว่าจะทำการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนขึ้นมาใหม่ในวันหลัง!

เมื่อไม่มีอะไรทำเย่หยวนจึงได้มุ่งหน้าไปดูการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงแทน

หยางชิงนั้นยังคงทำตัวน่าหมั่นไส้ไม่มีเปลี่ยน แต่เขานั้นก็ทั้งเก่งและน่าหมั่นไส้ทำให้กลายเป็นที่เกลียดชังของคนอย่างมาก

เขานั้นเองก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าว แน่นอนว่าฝีมือของเขาในตอนนี้มันแทบจะไร้เทียมทาน

ศัตรูของเขานั้นเองก็ตายตกลงไปอย่างมากเช่นกัน

แต่ว่าหยางชิงนั้นไม่ใช่เย่หยวน มันย่อมจะไม่สามารถสังหารจนคนกลัวกันหัวหดได้

หลังจากมาถึงช่วงสุดท้ายของการแข่ง หยางชิงก็ได้เจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ

เมื่อมาถึงระดับนี้เย่หยวนก็ได้แต่ต้องยอมรับว่าร้อยบุตรเผ่าเลือดนั้นมันแข็งแกร่งล้ำกันจริงๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ติดสิบอันดับแรก พวกเขานั้นเก่งจนทำให้คนที่ได้เห็นต้องขนลุก

เผ่าเลือดนั้นมันสามารถสร้างยอดฝีมือมากมายขึ้นมาด้วยการคัดเลือกที่อาบเลือดเช่นนี้จริง

ที่สำคัญไปกว่านั้นการคัดเลือกร้อยบุตรยังจะเกิดขึ้นทุกสิบปี แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เกิดยอดฝีมือมากมายมหาศาลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เพราะสิบปีนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นเวลาแค่พริบตาสำหรับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ทั้งหลาย

จนสุดท้ายแล้วหยางชิงนั้นก็พ่ายแพ้ลงและได้ตำแหน่งอันดับที่เก้ามาครอง!

มันหมายความว่าตอนนี้มีจักรพรรดิเที่ยงที่เก่งกาจกว่าหยางชิงถึงแปดคนในเผ่าเลือด

แท้จริงแล้วแค่ได้ที่เก้ามามันก็นับได้ว่ายิ่งใหญ่แล้วสำหรับหยางชิง

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจักรพรรดิเที่ยงนั้นก็ต่างเป็นยอดฝีมือหนึ่งในแสนล้านของเผ่าเลือด!

เพียงแค่ว่าเมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งจักรพรรดิเซียนแล้วหยางชิงก็ต้องหุบปากลงทันที

ฉิบหายจะเกินหน้ากันไปแล้ว!

เย่หยวนมันเอาแต่กดหัวข้าอยู่เรื่อย!

เขานั้นทุ่มสุดตัวแล้วยังได้มาแค่ที่เก้าแต่เจ้าบ้านั่นกลับสังหารศัตรูจนคนที่เก่งที่สุดยังได้แต่ต้องยอมแพ้ทันที

ต่อให้จะเป็นอันดับหนึ่งอย่างเฉียซวยนั้นก็ไม่กล้าปะทะกับเย่หยวน

เฮอะๆ!

สักวันข้าจะทำตัวเด่นกว่าเจ้าให้ได้!

การคัดเลือกร้อยบุตรนั้นจบสิ้นลงในที่สุดพร้อมประกาศรายชื่อใหม่ของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่มีชื่ออยู่บนนั้น

เพราะแค่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นมันเล็กเกินกว่าที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ของเขาคนนี้

อัจฉริยะไร้เทียมทานได้ผงาดขึ้นในเผ่าเลือด

การปรากฏขึ้นของเย่หยวนนี้มันทำให้เผ่าเลือดแตกตื่นไปพักใหญ่

เพราะเขานั้นเป็นสัตว์ประหลาดจนเกินไป!

ตอนไม่ได้ออกหน้าออกตานั้นไม่มีใครรู้จัก แต่พอตัดสินใจปรากฏตัวขึ้นมามันก็ทำให้ทั้งเผ่าพันธุ์แตกตื่น!

เหล่ายอดฝีมือที่บรรลุเจ้าโลกไปได้ในรอบพันกว่าปีมานี้ ตอนพวกเขายังเป็นจักรพรรดิเซียนมันไม่มีใครจะทำได้ถึงหนึ่งในหมื่นของที่เย่หยวนทำตอนนี้ด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นคนเผ่าเลือดจึงได้ตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่

เพราะพวกเขามั่นใจได้เลยว่าอีกไม่นานมันคงได้มีเจ้าโลกคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาแน่แล้ว!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2885 อัจฉริยะไร้เทียมทานผงาดขึ้น!
“ข้า…”

ปัง!

สีหน้าของผู้เข้าแข่งขันนั้นต่างซีดขาวลงอย่างมาก สายตาที่พวกเขาใช้มองดูเย่หยวนนั้นมันเหมือนกับว่าเย่หยวนเป็นยมทูตแห่งความหายนะก็ไม่ปาน

บนสังเวียนนั้นศัตรูของเขาล้วนต้องตายลงก่อนจะได้ยอมแพ้

เย่หยวนนั้นได้กลายเป็นฝันร้ายของว่าที่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนทั้งหลายไปแล้ว

ใครก็ตามที่ไปเจอเขาเข้า จะถือว่าเป็นคนที่อับโชคอย่างมหาศาล

ในสังเวียนอีกแห่งหนึ่งสองว่าที่ร้อยบุตรกำลังต่อสู้กันอยู่อย่างสุดตัว สู้กันจนไม่เหลือพลังใดๆ แทบไม่มีแรงยกแขนขึ้นมาต่อยกัน

“ข้าขอล่ะ ยอมแพ้ให้ข้าเถอะ!”

“ข้า…ต่อให้ข้าแพ้ข้าก็จะไม่ยอมแพ้ หากข้าแพ้เจ้าไปแล้วข้าก็คงต้องไปเจอเจ้าปีศาจนั่นพอดี!”

“ในเมื่อคิดเช่นนั้นก็สู้กันจนกว่าจะตายไปข้าง!”

“จนกว่าจะตายไปข้าง!”

อีกสังเวียนหนึ่งมันก็มีภาพของสองว่าที่ร้อยบุตรกล่าวยอมแพ้ขึ้นมาพร้อมๆ กัน

“ข้ายอมแพ้!”

“กรรมการ ข้ายอมแพ้ก่อนมัน!”

“พูดจาไร้สาระ! ข้าเป็นคนที่ยอมแพ้ก่อน!”

สุดท้ายคนทั้งสองก็เริ่มสู้กันอีกครั้ง

ระหว่างคนทั้งสองนี้ ใครชนะขึ้นสายบนจะต้องไปเจอกับเย่หยวน

ตอนนี้การคัดเลือกร้อยบุตรนี้เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับเย่หยวนมันได้กลายเป็นความเละเทะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

กรรมการทั้งหลายนั้นแทบอยากจะฉีกร่างเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ

เจ้าหมอนี่มันมาก่อเรื่องชัดๆ!

ในศึกครั้งนี้ศัตรูของเย่หยวนนั้นคือเฉียซวยผู้ที่ถูกกล่าวว่าเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งของงาน

ในที่สุดยอดฝีมือทั้งสองก็จะได้เผชิญหน้ากันแล้ว

ศึกในครั้งนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมาให้ความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่เยียหวู่กวย

เฉียซวยนั้นมีฝีมือที่แข็งแกร่ง เขาย่อมจะเก่งกาจสมชื่ออันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ว่าตอนนี้เย่หยวนคือราชาที่ไร้บัลลังก์ ใครมาเจอเขานั้นต้องกลัวจนตัวสั่นกันสิ้น

มันมิใช่เพราะว่าเขาเก่งกาจ แต่เพราะว่าเขานั้นโหดเหี้ยมสังหารคนลงทันทีที่ได้ลงมือ

เย่หยวนมองหน้าเฉียซวยก่อนจะยิ้มขึ้นกล่าว “พวกมันว่าเจ้าคืออันดับหนึ่งของงานคัดเลือกรอบนี้ เจ้าคงไม่เหมือนพวกมันที่คิดยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้สู้หรอกใช่ไหม?”

เฉียซวยนั้นยืนนิ่งมองหน้าเย่หยวนอย่างไม่คิดตอบอะไรกลับมา

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจยาวกล่าวขึ้นต่อ “หากเจ้าเองก็คิดจะยอมแพ้เหมือนพวกมันแล้ว งานนี้คงน่าเบื่อเกินไป!”

ฟุบ!

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าเฉียซวยอย่างไม่มีใครมองทัน

ความเร็วของเขานี้มันเหนือกว่าสายตาของใครๆ!

เย่หยวนนั้นรู้ว่าเฉียซวยเก่งกาจ เขาย่อมจะไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ขยับตัวก่อน

“ข้ายอมแพ้!”

แต่ว่าวินาทีเดียวกับที่เย่หยวนพุ่งตัวมาถึงนั้นเฉียซวยก็ได้ร้องประกาศออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

เขานั้นยอมแพ้ออกมาอย่างไม่คิดละอาย!

หมัดของเย่หยวนมันจึงได้แต่ต้องง้างค้างไว้กลางอากาศ

เพราะเมื่อยอมแพ้แล้ว เขาก็ย่อมไม่อาจจะโจมตีได้อีก

เฮ!

เสียงร้องลั่นดังขึ้นมาจากรอบด้าน!

“เฉียซวยนั้นกลับยอมแพ้ได้!”

“เก่งโคตร! เขาเป็นคนแรกเลยที่ยอมแพ้ต่อหน้าเฉียชิงได้!”

“อ่า สมชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ! ฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถยอมแพ้ได้ทีเดียว!”

สิ่งที่ทำให้คนทั้งหลายเฮขึ้นมานั้นมิใช่เรื่องที่เฉียซวยยอมแพ้ แต่เป็นเรื่องที่เฉียซวยสามารถกล่าวยอมแพ้ออกมาได้!

เยียหวู่กวยได้แต่ต้องกุมขมับ!

มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

เผ่าเลือดของข้านั้นมีใครบ้างที่เคยกลัวความตาย?

วันนี้คนผู้หนึ่งกลับถูกยกย่องเพราะว่าสามารถยอมแพ้ได้?

นี่พวกเจ้าจะไม่มีความกล้ากันหน่อยเลยหรือ?

เจ้าเฉียซวยก็อีกคน จะไม่คิดต่อยตีกันสักสองสามกระบวนท่าเลยหรือ?

มันต้องยอมแพ้ง่ายๆ ปานนี้?

แม้ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนเขาเฉียซวยก็ไม่ได้อ่อนแอ!

นี่กลับไม่คิดแม้แต่จะลอง?

ความเป็นจริงแล้วฝีมือของเฉียซวยนั้นไม่เป็นรองใครจริงๆ

ก่อนที่เย่หยวนจะปรากฏขึ้นตัวมานั้น เขาคืออันดับหนึ่งในความคิดของทุกคน

หากพวกเขาต้องสู้กันจริงๆ แล้วแม้เฉียซวยจะเอาชนะเย่หยวนไม่ได้แต่มันก็คงไม่ถึงขั้นตายลงในกระบวนท่าเดียวอย่างคนอื่นแน่นอน

แต่ว่ายอดอัจฉริยะเช่นนั้นกลับไม่คิดแม้แต่จะลองและยอมแพ้ให้แก่เย่หยวนในวินาทีที่เริ่มศึก!

“พอได้แล้วเฉียชิง! เจ้าเอาชนะเฉียซวยมาได้แล้วมันไม่มีใครว่าเจ้าอวดอ้างตัวเองอีกแน่นอนแล้ว ข้าขอสั่งให้เจ้าถอนตัวจากงานคัดเลือกร้อยบุตรเดี๋ยวนี้!” เยียหวู่กวยร้องลั่นขึ้นมาจากบนท้องฟ้า

เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไปงานคัดเลือกร้อยบุตรครั้งนี้มันคงเละไม่เป็นท่าแน่

เยียหวู่กวยนั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

แม้แต่เจ้าโลกยังไม่พอใจ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือว่ามันหมายความว่าอะไร?

เย่หยวนเงยหน้าขึ้นไปร้องถาม “หากข้าถอนตัวแล้วข้าจะยังเข้าสระโลหิตของวิหารโลหิตเทวาได้หรือไม่?”

“อึก!”

เสียงร้องนั้นมันแสดงได้ชัดเจนว่าเยียหวู่กวยกำลังกระอักเลือด

“ใช่!” เยียหวู่กวยร้องตอบกลับมา

เย่หยวนยิ้มกว้างขึ้นมา “เช่นนั้นข้าจะถอนตัวก็ได้ เฮ้อ ไม่มีใครใจสู้สักคนน่าเบื่อแท้ๆ”

“อ่อก!”

เสียงกระอักเลือดดังขึ้นมารอบด้าน

มันไม่ใช่ว่าไม่มีใครใจสู้แต่เจ้ามันโหดเหี้ยมเกินไป!

เจ้าเอาชีวิตทุกคนที่ขึ้นไปประลอง ใครมันจะไปกล้าสู้กับเจ้า?

เย่หยวนเองก็รู้สึกเสียดายผลลัพธ์นี้เช่นกัน

เพราะเขานั้นยังหวังอยากจะสังหารให้มากกว่านี้แต่ว่าในการแข่งขันแบบจับคู่เช่นนี้มันย่อมจะสังหารได้ไม่มากเป็นทุนอยู่แล้ว

การสังหารแค่คู่ต่อสู้ตรงหน้านั้นมันเสียเวลา ทำได้แค่เป็นการฆ่าเวลาเท่านั้น

แต่เย่หยวนก็ยังเสียดายไม่หายที่ไม่อาจจะสังหารเฉียซวยลงได้

เพราะเขานั้นรู้ว่าเฉียซวยนั้นเก่งกาจมาก!

เพราะก่อนที่เขาจะปรากฏตัวนั้นเฉียซวยคือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นที่หนึ่งและเป็นว่าที่เจ้าโลก

การยกย่องเช่นนั้นมันไม่ได้มีกันง่ายๆ แม้แต่ในเผ่าเลือดก็ตาม

สุดท้ายเย่หยวนจึงได้แต่ต้องเดินลงจากสังเวียนด้วยท่าทางเบื่อหน่าย

จากนั้นทางเมืองมหาจักรพรรดิเลือดสวรรค์สัมบูรณ์ก็ได้ลงมติว่าจะทำการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนขึ้นมาใหม่ในวันหลัง!

เมื่อไม่มีอะไรทำเย่หยวนจึงได้มุ่งหน้าไปดูการคัดเลือกร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงแทน

หยางชิงนั้นยังคงทำตัวน่าหมั่นไส้ไม่มีเปลี่ยน แต่เขานั้นก็ทั้งเก่งและน่าหมั่นไส้ทำให้กลายเป็นที่เกลียดชังของคนอย่างมาก

เขานั้นเองก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าว แน่นอนว่าฝีมือของเขาในตอนนี้มันแทบจะไร้เทียมทาน

ศัตรูของเขานั้นเองก็ตายตกลงไปอย่างมากเช่นกัน

แต่ว่าหยางชิงนั้นไม่ใช่เย่หยวน มันย่อมจะไม่สามารถสังหารจนคนกลัวกันหัวหดได้

หลังจากมาถึงช่วงสุดท้ายของการแข่ง หยางชิงก็ได้เจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อ

เมื่อมาถึงระดับนี้เย่หยวนก็ได้แต่ต้องยอมรับว่าร้อยบุตรเผ่าเลือดนั้นมันแข็งแกร่งล้ำกันจริงๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ติดสิบอันดับแรก พวกเขานั้นเก่งจนทำให้คนที่ได้เห็นต้องขนลุก

เผ่าเลือดนั้นมันสามารถสร้างยอดฝีมือมากมายขึ้นมาด้วยการคัดเลือกที่อาบเลือดเช่นนี้จริง

ที่สำคัญไปกว่านั้นการคัดเลือกร้อยบุตรยังจะเกิดขึ้นทุกสิบปี แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เกิดยอดฝีมือมากมายมหาศาลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เพราะสิบปีนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นเวลาแค่พริบตาสำหรับยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์ทั้งหลาย

จนสุดท้ายแล้วหยางชิงนั้นก็พ่ายแพ้ลงและได้ตำแหน่งอันดับที่เก้ามาครอง!

มันหมายความว่าตอนนี้มีจักรพรรดิเที่ยงที่เก่งกาจกว่าหยางชิงถึงแปดคนในเผ่าเลือด

แท้จริงแล้วแค่ได้ที่เก้ามามันก็นับได้ว่ายิ่งใหญ่แล้วสำหรับหยางชิง

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียจักรพรรดิเที่ยงนั้นก็ต่างเป็นยอดฝีมือหนึ่งในแสนล้านของเผ่าเลือด!

เพียงแค่ว่าเมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งจักรพรรดิเซียนแล้วหยางชิงก็ต้องหุบปากลงทันที

ฉิบหายจะเกินหน้ากันไปแล้ว!

เย่หยวนมันเอาแต่กดหัวข้าอยู่เรื่อย!

เขานั้นทุ่มสุดตัวแล้วยังได้มาแค่ที่เก้าแต่เจ้าบ้านั่นกลับสังหารศัตรูจนคนที่เก่งที่สุดยังได้แต่ต้องยอมแพ้ทันที

ต่อให้จะเป็นอันดับหนึ่งอย่างเฉียซวยนั้นก็ไม่กล้าปะทะกับเย่หยวน

เฮอะๆ!

สักวันข้าจะทำตัวเด่นกว่าเจ้าให้ได้!

การคัดเลือกร้อยบุตรนั้นจบสิ้นลงในที่สุดพร้อมประกาศรายชื่อใหม่ของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียน

แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่มีชื่ออยู่บนนั้น

เพราะแค่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนนั้นมันเล็กเกินกว่าที่จะแสดงความยิ่งใหญ่ของเขาคนนี้

อัจฉริยะไร้เทียมทานได้ผงาดขึ้นในเผ่าเลือด

การปรากฏขึ้นของเย่หยวนนี้มันทำให้เผ่าเลือดแตกตื่นไปพักใหญ่

เพราะเขานั้นเป็นสัตว์ประหลาดจนเกินไป!

ตอนไม่ได้ออกหน้าออกตานั้นไม่มีใครรู้จัก แต่พอตัดสินใจปรากฏตัวขึ้นมามันก็ทำให้ทั้งเผ่าพันธุ์แตกตื่น!

เหล่ายอดฝีมือที่บรรลุเจ้าโลกไปได้ในรอบพันกว่าปีมานี้ ตอนพวกเขายังเป็นจักรพรรดิเซียนมันไม่มีใครจะทำได้ถึงหนึ่งในหมื่นของที่เย่หยวนทำตอนนี้ด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นคนเผ่าเลือดจึงได้ตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่

เพราะพวกเขามั่นใจได้เลยว่าอีกไม่นานมันคงได้มีเจ้าโลกคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาแน่แล้ว!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+