Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2887 ยอมเสี่ยง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2887 ยอมเสี่ยง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2887 ยอมเสี่ยง!
ตึกตึกตึก!

เสียงตึกตักดังขึ้นมาจากภายในห้วงมิตินี้

หัวใจของเย่หยวนนั้นมันเหมือนต้องมนต์สะกดเต้นรัวจนทำให้ร่างกายของเขาแทบจะแตกสลาย

“อ่อก!”

จนสุดท้ายเย่หยวนก็ไม่อาจทนรับมันได้ต้องกระอักเลือดออกมา

มันเป็นพลังที่เกินจินตนาการ!

มันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าพลังของเจ้าโลกหยุนซาน!

นี่หรือคือศิลาโลหิตโกลาหล?

เยียหวู่กวยนั้นหันมามองเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้น “ไม่เลวทีเดียว พลังของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นหากมีพลังบ่มเพาะต่ำกว่ามหาจักรพรรดิแล้วปกติมันย่อมไม่อาจจะทนได้ แต่เจ้านั้นทั้งๆ ที่เข้ามาในมิตินี้แล้วแต่ตัวกลับไม่แตกสลายลง! เลือดของเจ้ามันช่างทรงพลังดีจริง!”

พูดจบเขาก็พาเย่หยวนเดินเข้าไปในส่วนลึก

เสียงหัวใจเต้นแรงนั้นมันดังใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หัวใจของเย่หยวนเองก็เต้นตามไปอย่างไม่อาจควบคุม

แต่ไม่นานตรงหน้าของพวกเขานั้นมันก็ปรากฏหัวใจสีแดงสดขึ้นมา

เย่หยวนต้องผงะไปราวกับว่าเจ้าสิ่งนี้มันกำลังโจมตีเขา

ภาพนี้มันน่าตกตะลึงจนเกินไป

หัวใจสีแดงสดนั้นมันแดงจนเหมือนมีเลือดไหลอยู่ตลอดจนทำให้คนที่ได้เห็นต้องผงะ

นี่มันเป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้เห็นอะไรที่ชั่วร้ายปานนี้!

ตอนนี้หัวใจของเขานั้นมันเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม

เย่หยวนไม่นึกฝันว่าศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นหัวใจ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นหัวใจที่เหมือนมีอะไรกำลังฟักตัวอยู่ภายใน!

เย่หยวนนั้นรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

“เลือดกำเนิดนับไม่ถ้วนนั้นถูกเก็บไว้ในศิลาโลหิตโกลาหลนี้! ตราบเท่าที่เจ้าได้รับการยอมรับจากศิลาโลหิตโกลาหลการบรรลุเจ้าโลกมันก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นใด” เยียหวู่กวยกล่าวขึ้นมา

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปด้วยท่าทาง ‘ตื่นเต้น’ แต่ในใจของเขานั้นมันกำลังสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม

เพราะว่านี่มันช่างเป็นความลับที่เหนือล้ำของเผ่าเลือด!

“ผู้อาวุโส ท่านเคยเห็นมันมาก่อนหรือไม่?” เย่หยวนถามหมี่เทียนขึ้นในใจ

หมี่เทียนต้องส่ายหัวขึ้นมาอย่างกังวลไม่น้อยเช่นกัน “ไม่เคย! แต่สิ่งนี้มันอันตรายนัก!”

“อืม ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น! ผู้อาวุโส เราจะ…ทำลายมันได้หรือไม่?” เย่หยวนเสนอความคิดขึ้นมา

หมี่เทียนที่ได้ยินนั้นต้องสะดุ้งขึ้นสุดตัวก่อนจะร้องบอก “อย่าได้คิดเชียว! ของที่อยู่ภายในนั้นมันบ่มเพาะพลังไปสูงส่งล้ำแล้ว มันย่อมจะไม่ใช่สิ่งที่เจ้าในตอนนี้จะทำลายลงได้แน่นอน! อย่าได้คิดเจ้าสิ่งนี้มันมีความคิดของตัวเอง เจ้าจะตายเปล่าๆ!”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องผงะไปเพราะว่าเขานั้นย่อมจะมีพลังไม่เท่าหมี่เทียน ย่อมจะไม่อาจมองศิลาโลหิตโกลาหลนี้ได้ลึกล้ำเท่าหมี่เทียน

แม้แต่หมี่เทียนยังกลัวขนาดนั้น เจ้าสิ่งนี้มันย่อมจะมิใช่ของธรรมดาๆ แล้ว

เขานั้นไม่นึกฝันว่าเดินทางมาครั้งนี้เขากลับจะได้พบเจอเข้ากับความลับของเผ่าเลือดเช่นนี้

ตัวตนของศิลาโลหิตโกลาหลนี้มันคือความลับระดับสูงของเผ่าเลือดมีเพียงแค่คนเบื้องบนของเผ่าไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงมัน

ที่เย่หยวนนั้นเข้ามาได้เพราะว่าเขานั้นมากพรสวรรค์จนเกินไป เก่งกาจพอที่จะเปลี่ยนยุคสมัย!

“แต่เราจะปล่อยให้มันกำเนิดขึ้นมาเช่นนี้หรือ?” เย่หยวนอดถามขึ้นไม่ได้

หมี่เทียนจึงตอบกลับไป “นี่ไม่ใช่ตัวจริงของมันด้วยซ้ำ! ศิลาโลหิตโกลาหลที่เจ้าเห็นตรงหน้านี้มันก็แค่ร่างแยกเท่านั้น! เผ่าเลือดนั้นแทรกตัวอยู่ทั่วทั้งสามสิบสามสวรรค์ ดูท่าแล้วร่างแยกของมันเองก็คงมีอยู่ไม่น้อยแน่! คิดอยากทำลายมันนั้นเราต้องหาร่างจริงของมันให้เจอ!”

เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น สิ่งที่ทรงพลังขนาดนี้มันกลับเป็นแค่ร่างแยก?

เช่นนั้นแล้วร่างจริงของมันนั้นจะทรงพลังแค่ไหนกัน?

นี่มัน…จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!

หมี่เทียนนั้นมองดูศิลาโลหิตโกลาหลก่อนจะถอนใจยาวกล่าวขึ้นมา “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเผ่าเลือดมันถึงไม่สูญพันธุ์ไปเสียที มีเจ้านี่อยู่ด้วยแล้วเผ่าเลือดมันย่อมจะเกิดขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ! เผ่าเลือดนั้นเป็นแค่เรื่องมือที่มันใช้เท่านั้น! เผ่าเลือดนั้นมีสัญชาตญาณการดูดเลือดสูบเลือดจากเผ่าต่างๆ เพื่อสร้างประชากรตัวเองที่แท้มันก็เพื่อเพิ่มพลังให้ศิลาโลหิตโกลาหลนี้! วันหน้าสิ่งที่อยู่ภายในฟักออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลแล้วมันคงได้กลายเป็นหายนะของสามสิบสามสวรรค์แน่นอน!”

หมี่เทียนเองก็เคยเข้าร่วมศึกกวาดล้างเผ่าเลือด ตอนนั้นเขาเชื่อว่าเผ่าเลือดได้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ไปแล้ว

แต่ใครจะไปคิดว่าหลายแสนปีต่อมานั้นเผ่าเลือดจะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง

ระยะเวลาหลายแสนปีนี้เผ่าเลือดมันได้พัฒนาขึ้นไปกว่าเก่าด้วยซ้ำ

แค่นับในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้เผ่าเลือดก็มีเจ้าโลกอยู่มากมายแล้ว

“เอาล่ะ เจ้ามอบแก่นเลือดของตัวเองให้แก่ศิลาโลหิตโกลาหลไปก่อน จากนั้นเจ้าจะสร้างสายสัมพันธ์กับศิลาโลหิตโกลาหลได้! แน่นอนว่าเจ้าจะเข้าใจมันได้แค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง” เยียหวู่กวยกล่าวขึ้น

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยความคิดบ้าคลั่งอย่างหนึ่งในหัว

หมี่เทียนนั้นอาจความคิดนั้นออกในทันที!

“ไอ้หนูเจ้าบ้าไปแล้วหรือ?! เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!” หมี่เทียนร้องขึ้นมา

เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “หากมันเกิดขึ้นมาได้จริงๆ แล้วท่านคิดว่าเจ้าโลกทั้งหลายจะต้านทานมันได้หรือ?”

หมี่เทียนได้แต่ต้องผงะและเงียบปากลง

เพราะนี่มันแค่ร่างแยกแต่หมี่เทียนยังรู้สึกหวาดหวั่นได้ปานนี้

เช่นนั้นแล้วร่างจริงของมันจะแข็งแกร่งแค่ไหน?

เจ้าโลกนั้นมันมีทั้งที่อ่อนแอและแข็งแกร่ง

เจ้าโลกที่เก่งกาจกันจริงๆ นั้นมันมีพลังไม่อาจคาดเดาได้

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าศิลาโลหิตโกลาหลนี้มันก็ไม่แน่ว่าจะพอ

“เพราะฉะนั้นหากมันเกิดขึ้นมาได้จริงๆ แล้วข้าเกรงว่าสิ่งที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตทำไม่ได้เผ่าเลือดมันจะทำได้! แทนที่จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นสู้ยอมเสี่ยงไปตอนนี้จะดีกว่า! โอกาสเช่นนี้มันไม่มีทางเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแน่นอน! หลังจากเผ่าเลือดมันรู้ว่าข้าเป็นมนุษย์แล้วมันคงไม่มีทางจะปล่อยให้ใครเข้ามาถึงที่นี่ได้อีกแน่นอน!” เย่หยวนกล่าว

หมี่เทียนเถียงกลับมาทันที “แต่หากมันสัมผัสถึงเจ้าได้แล้วเจ้าจะตายแน่นอน!”

เย่หยวนตอบกลับไป “ข้ายืนอยู่หน้ามันนี้แต่มันยังไม่รู้ว่าข้าเป็นมนุษย์ มันไม่ได้ทรงอิทธิฤทธิ์ใดๆ ขนาดนั้น! ข้ายังมีความมั่นใจในเต๋าของตัวเองไม่น้อย!”

เต๋าของเย่หยวนนั้นมันคือดาบเต๋า

วิธีการที่เขาคิดนั้นคือการส่งเศษดาบเต๋าของเขาซ่อนเข้าไปกับแก่นเลือดให้ศิลาโลหิตโกลาหลกลืนมันลงไป

นี่มันคือการฝังพิษร้ายไว้ในศิลาโลหิตโกลาหล

แน่นอนว่าดาบเต๋าในตอนนี้มันย่อมจะทำอันตรายใดๆ ศิลาโลหิตโกลาหลไม่ได้

แต่เย่หยวนนั้นมั่นใจว่าวันหน้าเขาจะต้องมีโอกาสแน่นอน!

หลังจากที่พลังฝีมือของเขาพัฒนา ดาบเต๋าของเขาก็ย่อมจะทรงพลังมากขึ้น

ในวินาทีสุดท้ายนั้นหากเย่หยวนใช้พลังของดาบเต๋าทำลายร่างแยกนี้ลงแล้วมันก็คงจะส่งความเสียหายกลับไปยังร่างต้นด้วย!

แต่หากว่าศิลาโลหิตโกลาหลนั้นตรวจจับได้ว่าเขานั้นซ่อนดาบเต๋าเข้าไปด้วยตัวเย่หยวนคงต้องตายลงตรงนี้ทันที!

เย่หยวนนั้นเป็นยอดอัจฉริยะแต่เขานั้นก็เป็นเพียงแค่จักรพรรดิเซียนเท่านั้น

มันเป็นอะไรที่เสี่ยงมากจริงๆ

“หือ? เจ้าลังเลอะไรหรือ?” เยียหวู่กวยนั้นอดถามขึ้นไม่ได้เมื่อเห็นว่าเย่หยวนนั้นยืนนิ่งไปนานสองนาน

เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบกลับไป “ข้าไม่ได้ลังเลหรอกท่าน ข้าแค่เพิ่งเคยได้เห็นศิลามารดาเป็นครั้งแรกจนไม่อาจจะสงบจิตใจได้เท่านั้น”

เยียหวู่กวยนั้นยิ้มกล่าวขึ้น “เรื่องนั้นมันไม่แปลก! เผ่าเลือดเรานั้นเป็นหนึ่งเดียวกับศิลามารดานี้ เจ้าได้เห็นครั้งแรกมันย่อมจะเหมือนได้เข้าท้องแม่ ความรู้สึกเช่นนั้นข้าเข้าใจดี”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่ชักช้าค่อยๆ รีดแก่นเลือดออกมาจากปลายนิ้วเพื่อส่งเข้าหาศิลาโลหิตโกลาหล

แน่นอนว่ามันย่อมจะมิใช่แก่นเลือดของเย่หยวน

เขานั้นแค่ใช้พลังของโอสถเลียนโลหิต เขาไม่ได้กลายเป็นเผ่าเลือดไปจริงๆ

หากเขาส่งเลือดของตัวเองไปการปลอมตัวของเขานี้มันคงไร้ค่าแล้ว

แต่ว่าดาบเต๋าของเย่หยวนนั้นมันก็ได้สังหารเผ่าเลือดลงมากมาย

และเลือดของพวกมันหลายคนนั้นก็แข็งแกร่งล้ำ

เย่หยวนนั้นย่อมจะตบตาเยียหวู่กวยได้ไม่ยาก

แก่นเลือดนั้นมันค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้ศิลาโลหิตโกลาหลเรื่อยๆ พร้อมกับหัวใจของเย่หยวนที่เต้นรัว

…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2887 ยอมเสี่ยง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2887 ยอมเสี่ยง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2887 ยอมเสี่ยง!
ตึกตึกตึก!

เสียงตึกตักดังขึ้นมาจากภายในห้วงมิตินี้

หัวใจของเย่หยวนนั้นมันเหมือนต้องมนต์สะกดเต้นรัวจนทำให้ร่างกายของเขาแทบจะแตกสลาย

“อ่อก!”

จนสุดท้ายเย่หยวนก็ไม่อาจทนรับมันได้ต้องกระอักเลือดออกมา

มันเป็นพลังที่เกินจินตนาการ!

มันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าพลังของเจ้าโลกหยุนซาน!

นี่หรือคือศิลาโลหิตโกลาหล?

เยียหวู่กวยนั้นหันมามองเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้น “ไม่เลวทีเดียว พลังของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นหากมีพลังบ่มเพาะต่ำกว่ามหาจักรพรรดิแล้วปกติมันย่อมไม่อาจจะทนได้ แต่เจ้านั้นทั้งๆ ที่เข้ามาในมิตินี้แล้วแต่ตัวกลับไม่แตกสลายลง! เลือดของเจ้ามันช่างทรงพลังดีจริง!”

พูดจบเขาก็พาเย่หยวนเดินเข้าไปในส่วนลึก

เสียงหัวใจเต้นแรงนั้นมันดังใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หัวใจของเย่หยวนเองก็เต้นตามไปอย่างไม่อาจควบคุม

แต่ไม่นานตรงหน้าของพวกเขานั้นมันก็ปรากฏหัวใจสีแดงสดขึ้นมา

เย่หยวนต้องผงะไปราวกับว่าเจ้าสิ่งนี้มันกำลังโจมตีเขา

ภาพนี้มันน่าตกตะลึงจนเกินไป

หัวใจสีแดงสดนั้นมันแดงจนเหมือนมีเลือดไหลอยู่ตลอดจนทำให้คนที่ได้เห็นต้องผงะ

นี่มันเป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้เห็นอะไรที่ชั่วร้ายปานนี้!

ตอนนี้หัวใจของเขานั้นมันเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม

เย่หยวนไม่นึกฝันว่าศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นหัวใจ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นหัวใจที่เหมือนมีอะไรกำลังฟักตัวอยู่ภายใน!

เย่หยวนนั้นรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

“เลือดกำเนิดนับไม่ถ้วนนั้นถูกเก็บไว้ในศิลาโลหิตโกลาหลนี้! ตราบเท่าที่เจ้าได้รับการยอมรับจากศิลาโลหิตโกลาหลการบรรลุเจ้าโลกมันก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นใด” เยียหวู่กวยกล่าวขึ้นมา

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปด้วยท่าทาง ‘ตื่นเต้น’ แต่ในใจของเขานั้นมันกำลังสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม

เพราะว่านี่มันช่างเป็นความลับที่เหนือล้ำของเผ่าเลือด!

“ผู้อาวุโส ท่านเคยเห็นมันมาก่อนหรือไม่?” เย่หยวนถามหมี่เทียนขึ้นในใจ

หมี่เทียนต้องส่ายหัวขึ้นมาอย่างกังวลไม่น้อยเช่นกัน “ไม่เคย! แต่สิ่งนี้มันอันตรายนัก!”

“อืม ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น! ผู้อาวุโส เราจะ…ทำลายมันได้หรือไม่?” เย่หยวนเสนอความคิดขึ้นมา

หมี่เทียนที่ได้ยินนั้นต้องสะดุ้งขึ้นสุดตัวก่อนจะร้องบอก “อย่าได้คิดเชียว! ของที่อยู่ภายในนั้นมันบ่มเพาะพลังไปสูงส่งล้ำแล้ว มันย่อมจะไม่ใช่สิ่งที่เจ้าในตอนนี้จะทำลายลงได้แน่นอน! อย่าได้คิดเจ้าสิ่งนี้มันมีความคิดของตัวเอง เจ้าจะตายเปล่าๆ!”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องผงะไปเพราะว่าเขานั้นย่อมจะมีพลังไม่เท่าหมี่เทียน ย่อมจะไม่อาจมองศิลาโลหิตโกลาหลนี้ได้ลึกล้ำเท่าหมี่เทียน

แม้แต่หมี่เทียนยังกลัวขนาดนั้น เจ้าสิ่งนี้มันย่อมจะมิใช่ของธรรมดาๆ แล้ว

เขานั้นไม่นึกฝันว่าเดินทางมาครั้งนี้เขากลับจะได้พบเจอเข้ากับความลับของเผ่าเลือดเช่นนี้

ตัวตนของศิลาโลหิตโกลาหลนี้มันคือความลับระดับสูงของเผ่าเลือดมีเพียงแค่คนเบื้องบนของเผ่าไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงมัน

ที่เย่หยวนนั้นเข้ามาได้เพราะว่าเขานั้นมากพรสวรรค์จนเกินไป เก่งกาจพอที่จะเปลี่ยนยุคสมัย!

“แต่เราจะปล่อยให้มันกำเนิดขึ้นมาเช่นนี้หรือ?” เย่หยวนอดถามขึ้นไม่ได้

หมี่เทียนจึงตอบกลับไป “นี่ไม่ใช่ตัวจริงของมันด้วยซ้ำ! ศิลาโลหิตโกลาหลที่เจ้าเห็นตรงหน้านี้มันก็แค่ร่างแยกเท่านั้น! เผ่าเลือดนั้นแทรกตัวอยู่ทั่วทั้งสามสิบสามสวรรค์ ดูท่าแล้วร่างแยกของมันเองก็คงมีอยู่ไม่น้อยแน่! คิดอยากทำลายมันนั้นเราต้องหาร่างจริงของมันให้เจอ!”

เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น สิ่งที่ทรงพลังขนาดนี้มันกลับเป็นแค่ร่างแยก?

เช่นนั้นแล้วร่างจริงของมันนั้นจะทรงพลังแค่ไหนกัน?

นี่มัน…จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!

หมี่เทียนนั้นมองดูศิลาโลหิตโกลาหลก่อนจะถอนใจยาวกล่าวขึ้นมา “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเผ่าเลือดมันถึงไม่สูญพันธุ์ไปเสียที มีเจ้านี่อยู่ด้วยแล้วเผ่าเลือดมันย่อมจะเกิดขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ! เผ่าเลือดนั้นเป็นแค่เรื่องมือที่มันใช้เท่านั้น! เผ่าเลือดนั้นมีสัญชาตญาณการดูดเลือดสูบเลือดจากเผ่าต่างๆ เพื่อสร้างประชากรตัวเองที่แท้มันก็เพื่อเพิ่มพลังให้ศิลาโลหิตโกลาหลนี้! วันหน้าสิ่งที่อยู่ภายในฟักออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลแล้วมันคงได้กลายเป็นหายนะของสามสิบสามสวรรค์แน่นอน!”

หมี่เทียนเองก็เคยเข้าร่วมศึกกวาดล้างเผ่าเลือด ตอนนั้นเขาเชื่อว่าเผ่าเลือดได้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ไปแล้ว

แต่ใครจะไปคิดว่าหลายแสนปีต่อมานั้นเผ่าเลือดจะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง

ระยะเวลาหลายแสนปีนี้เผ่าเลือดมันได้พัฒนาขึ้นไปกว่าเก่าด้วยซ้ำ

แค่นับในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้เผ่าเลือดก็มีเจ้าโลกอยู่มากมายแล้ว

“เอาล่ะ เจ้ามอบแก่นเลือดของตัวเองให้แก่ศิลาโลหิตโกลาหลไปก่อน จากนั้นเจ้าจะสร้างสายสัมพันธ์กับศิลาโลหิตโกลาหลได้! แน่นอนว่าเจ้าจะเข้าใจมันได้แค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง” เยียหวู่กวยกล่าวขึ้น

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยความคิดบ้าคลั่งอย่างหนึ่งในหัว

หมี่เทียนนั้นอาจความคิดนั้นออกในทันที!

“ไอ้หนูเจ้าบ้าไปแล้วหรือ?! เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!” หมี่เทียนร้องขึ้นมา

เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “หากมันเกิดขึ้นมาได้จริงๆ แล้วท่านคิดว่าเจ้าโลกทั้งหลายจะต้านทานมันได้หรือ?”

หมี่เทียนได้แต่ต้องผงะและเงียบปากลง

เพราะนี่มันแค่ร่างแยกแต่หมี่เทียนยังรู้สึกหวาดหวั่นได้ปานนี้

เช่นนั้นแล้วร่างจริงของมันจะแข็งแกร่งแค่ไหน?

เจ้าโลกนั้นมันมีทั้งที่อ่อนแอและแข็งแกร่ง

เจ้าโลกที่เก่งกาจกันจริงๆ นั้นมันมีพลังไม่อาจคาดเดาได้

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าศิลาโลหิตโกลาหลนี้มันก็ไม่แน่ว่าจะพอ

“เพราะฉะนั้นหากมันเกิดขึ้นมาได้จริงๆ แล้วข้าเกรงว่าสิ่งที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตทำไม่ได้เผ่าเลือดมันจะทำได้! แทนที่จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นสู้ยอมเสี่ยงไปตอนนี้จะดีกว่า! โอกาสเช่นนี้มันไม่มีทางเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแน่นอน! หลังจากเผ่าเลือดมันรู้ว่าข้าเป็นมนุษย์แล้วมันคงไม่มีทางจะปล่อยให้ใครเข้ามาถึงที่นี่ได้อีกแน่นอน!” เย่หยวนกล่าว

หมี่เทียนเถียงกลับมาทันที “แต่หากมันสัมผัสถึงเจ้าได้แล้วเจ้าจะตายแน่นอน!”

เย่หยวนตอบกลับไป “ข้ายืนอยู่หน้ามันนี้แต่มันยังไม่รู้ว่าข้าเป็นมนุษย์ มันไม่ได้ทรงอิทธิฤทธิ์ใดๆ ขนาดนั้น! ข้ายังมีความมั่นใจในเต๋าของตัวเองไม่น้อย!”

เต๋าของเย่หยวนนั้นมันคือดาบเต๋า

วิธีการที่เขาคิดนั้นคือการส่งเศษดาบเต๋าของเขาซ่อนเข้าไปกับแก่นเลือดให้ศิลาโลหิตโกลาหลกลืนมันลงไป

นี่มันคือการฝังพิษร้ายไว้ในศิลาโลหิตโกลาหล

แน่นอนว่าดาบเต๋าในตอนนี้มันย่อมจะทำอันตรายใดๆ ศิลาโลหิตโกลาหลไม่ได้

แต่เย่หยวนนั้นมั่นใจว่าวันหน้าเขาจะต้องมีโอกาสแน่นอน!

หลังจากที่พลังฝีมือของเขาพัฒนา ดาบเต๋าของเขาก็ย่อมจะทรงพลังมากขึ้น

ในวินาทีสุดท้ายนั้นหากเย่หยวนใช้พลังของดาบเต๋าทำลายร่างแยกนี้ลงแล้วมันก็คงจะส่งความเสียหายกลับไปยังร่างต้นด้วย!

แต่หากว่าศิลาโลหิตโกลาหลนั้นตรวจจับได้ว่าเขานั้นซ่อนดาบเต๋าเข้าไปด้วยตัวเย่หยวนคงต้องตายลงตรงนี้ทันที!

เย่หยวนนั้นเป็นยอดอัจฉริยะแต่เขานั้นก็เป็นเพียงแค่จักรพรรดิเซียนเท่านั้น

มันเป็นอะไรที่เสี่ยงมากจริงๆ

“หือ? เจ้าลังเลอะไรหรือ?” เยียหวู่กวยนั้นอดถามขึ้นไม่ได้เมื่อเห็นว่าเย่หยวนนั้นยืนนิ่งไปนานสองนาน

เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบกลับไป “ข้าไม่ได้ลังเลหรอกท่าน ข้าแค่เพิ่งเคยได้เห็นศิลามารดาเป็นครั้งแรกจนไม่อาจจะสงบจิตใจได้เท่านั้น”

เยียหวู่กวยนั้นยิ้มกล่าวขึ้น “เรื่องนั้นมันไม่แปลก! เผ่าเลือดเรานั้นเป็นหนึ่งเดียวกับศิลามารดานี้ เจ้าได้เห็นครั้งแรกมันย่อมจะเหมือนได้เข้าท้องแม่ ความรู้สึกเช่นนั้นข้าเข้าใจดี”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่ชักช้าค่อยๆ รีดแก่นเลือดออกมาจากปลายนิ้วเพื่อส่งเข้าหาศิลาโลหิตโกลาหล

แน่นอนว่ามันย่อมจะมิใช่แก่นเลือดของเย่หยวน

เขานั้นแค่ใช้พลังของโอสถเลียนโลหิต เขาไม่ได้กลายเป็นเผ่าเลือดไปจริงๆ

หากเขาส่งเลือดของตัวเองไปการปลอมตัวของเขานี้มันคงไร้ค่าแล้ว

แต่ว่าดาบเต๋าของเย่หยวนนั้นมันก็ได้สังหารเผ่าเลือดลงมากมาย

และเลือดของพวกมันหลายคนนั้นก็แข็งแกร่งล้ำ

เย่หยวนนั้นย่อมจะตบตาเยียหวู่กวยได้ไม่ยาก

แก่นเลือดนั้นมันค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้ศิลาโลหิตโกลาหลเรื่อยๆ พร้อมกับหัวใจของเย่หยวนที่เต้นรัว

…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2887 ยอมเสี่ยง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2887 ยอมเสี่ยง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2887 ยอมเสี่ยง!
ตึกตึกตึก!

เสียงตึกตักดังขึ้นมาจากภายในห้วงมิตินี้

หัวใจของเย่หยวนนั้นมันเหมือนต้องมนต์สะกดเต้นรัวจนทำให้ร่างกายของเขาแทบจะแตกสลาย

“อ่อก!”

จนสุดท้ายเย่หยวนก็ไม่อาจทนรับมันได้ต้องกระอักเลือดออกมา

มันเป็นพลังที่เกินจินตนาการ!

มันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าพลังของเจ้าโลกหยุนซาน!

นี่หรือคือศิลาโลหิตโกลาหล?

เยียหวู่กวยนั้นหันมามองเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้น “ไม่เลวทีเดียว พลังของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นหากมีพลังบ่มเพาะต่ำกว่ามหาจักรพรรดิแล้วปกติมันย่อมไม่อาจจะทนได้ แต่เจ้านั้นทั้งๆ ที่เข้ามาในมิตินี้แล้วแต่ตัวกลับไม่แตกสลายลง! เลือดของเจ้ามันช่างทรงพลังดีจริง!”

พูดจบเขาก็พาเย่หยวนเดินเข้าไปในส่วนลึก

เสียงหัวใจเต้นแรงนั้นมันดังใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หัวใจของเย่หยวนเองก็เต้นตามไปอย่างไม่อาจควบคุม

แต่ไม่นานตรงหน้าของพวกเขานั้นมันก็ปรากฏหัวใจสีแดงสดขึ้นมา

เย่หยวนต้องผงะไปราวกับว่าเจ้าสิ่งนี้มันกำลังโจมตีเขา

ภาพนี้มันน่าตกตะลึงจนเกินไป

หัวใจสีแดงสดนั้นมันแดงจนเหมือนมีเลือดไหลอยู่ตลอดจนทำให้คนที่ได้เห็นต้องผงะ

นี่มันเป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้เห็นอะไรที่ชั่วร้ายปานนี้!

ตอนนี้หัวใจของเขานั้นมันเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม

เย่หยวนไม่นึกฝันว่าศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นหัวใจ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นหัวใจที่เหมือนมีอะไรกำลังฟักตัวอยู่ภายใน!

เย่หยวนนั้นรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

“เลือดกำเนิดนับไม่ถ้วนนั้นถูกเก็บไว้ในศิลาโลหิตโกลาหลนี้! ตราบเท่าที่เจ้าได้รับการยอมรับจากศิลาโลหิตโกลาหลการบรรลุเจ้าโลกมันก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นใด” เยียหวู่กวยกล่าวขึ้นมา

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปด้วยท่าทาง ‘ตื่นเต้น’ แต่ในใจของเขานั้นมันกำลังสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม

เพราะว่านี่มันช่างเป็นความลับที่เหนือล้ำของเผ่าเลือด!

“ผู้อาวุโส ท่านเคยเห็นมันมาก่อนหรือไม่?” เย่หยวนถามหมี่เทียนขึ้นในใจ

หมี่เทียนต้องส่ายหัวขึ้นมาอย่างกังวลไม่น้อยเช่นกัน “ไม่เคย! แต่สิ่งนี้มันอันตรายนัก!”

“อืม ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น! ผู้อาวุโส เราจะ…ทำลายมันได้หรือไม่?” เย่หยวนเสนอความคิดขึ้นมา

หมี่เทียนที่ได้ยินนั้นต้องสะดุ้งขึ้นสุดตัวก่อนจะร้องบอก “อย่าได้คิดเชียว! ของที่อยู่ภายในนั้นมันบ่มเพาะพลังไปสูงส่งล้ำแล้ว มันย่อมจะไม่ใช่สิ่งที่เจ้าในตอนนี้จะทำลายลงได้แน่นอน! อย่าได้คิดเจ้าสิ่งนี้มันมีความคิดของตัวเอง เจ้าจะตายเปล่าๆ!”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องผงะไปเพราะว่าเขานั้นย่อมจะมีพลังไม่เท่าหมี่เทียน ย่อมจะไม่อาจมองศิลาโลหิตโกลาหลนี้ได้ลึกล้ำเท่าหมี่เทียน

แม้แต่หมี่เทียนยังกลัวขนาดนั้น เจ้าสิ่งนี้มันย่อมจะมิใช่ของธรรมดาๆ แล้ว

เขานั้นไม่นึกฝันว่าเดินทางมาครั้งนี้เขากลับจะได้พบเจอเข้ากับความลับของเผ่าเลือดเช่นนี้

ตัวตนของศิลาโลหิตโกลาหลนี้มันคือความลับระดับสูงของเผ่าเลือดมีเพียงแค่คนเบื้องบนของเผ่าไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงมัน

ที่เย่หยวนนั้นเข้ามาได้เพราะว่าเขานั้นมากพรสวรรค์จนเกินไป เก่งกาจพอที่จะเปลี่ยนยุคสมัย!

“แต่เราจะปล่อยให้มันกำเนิดขึ้นมาเช่นนี้หรือ?” เย่หยวนอดถามขึ้นไม่ได้

หมี่เทียนจึงตอบกลับไป “นี่ไม่ใช่ตัวจริงของมันด้วยซ้ำ! ศิลาโลหิตโกลาหลที่เจ้าเห็นตรงหน้านี้มันก็แค่ร่างแยกเท่านั้น! เผ่าเลือดนั้นแทรกตัวอยู่ทั่วทั้งสามสิบสามสวรรค์ ดูท่าแล้วร่างแยกของมันเองก็คงมีอยู่ไม่น้อยแน่! คิดอยากทำลายมันนั้นเราต้องหาร่างจริงของมันให้เจอ!”

เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น สิ่งที่ทรงพลังขนาดนี้มันกลับเป็นแค่ร่างแยก?

เช่นนั้นแล้วร่างจริงของมันนั้นจะทรงพลังแค่ไหนกัน?

นี่มัน…จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!

หมี่เทียนนั้นมองดูศิลาโลหิตโกลาหลก่อนจะถอนใจยาวกล่าวขึ้นมา “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเผ่าเลือดมันถึงไม่สูญพันธุ์ไปเสียที มีเจ้านี่อยู่ด้วยแล้วเผ่าเลือดมันย่อมจะเกิดขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ! เผ่าเลือดนั้นเป็นแค่เรื่องมือที่มันใช้เท่านั้น! เผ่าเลือดนั้นมีสัญชาตญาณการดูดเลือดสูบเลือดจากเผ่าต่างๆ เพื่อสร้างประชากรตัวเองที่แท้มันก็เพื่อเพิ่มพลังให้ศิลาโลหิตโกลาหลนี้! วันหน้าสิ่งที่อยู่ภายในฟักออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลแล้วมันคงได้กลายเป็นหายนะของสามสิบสามสวรรค์แน่นอน!”

หมี่เทียนเองก็เคยเข้าร่วมศึกกวาดล้างเผ่าเลือด ตอนนั้นเขาเชื่อว่าเผ่าเลือดได้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ไปแล้ว

แต่ใครจะไปคิดว่าหลายแสนปีต่อมานั้นเผ่าเลือดจะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง

ระยะเวลาหลายแสนปีนี้เผ่าเลือดมันได้พัฒนาขึ้นไปกว่าเก่าด้วยซ้ำ

แค่นับในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้เผ่าเลือดก็มีเจ้าโลกอยู่มากมายแล้ว

“เอาล่ะ เจ้ามอบแก่นเลือดของตัวเองให้แก่ศิลาโลหิตโกลาหลไปก่อน จากนั้นเจ้าจะสร้างสายสัมพันธ์กับศิลาโลหิตโกลาหลได้! แน่นอนว่าเจ้าจะเข้าใจมันได้แค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง” เยียหวู่กวยกล่าวขึ้น

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยความคิดบ้าคลั่งอย่างหนึ่งในหัว

หมี่เทียนนั้นอาจความคิดนั้นออกในทันที!

“ไอ้หนูเจ้าบ้าไปแล้วหรือ?! เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!” หมี่เทียนร้องขึ้นมา

เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “หากมันเกิดขึ้นมาได้จริงๆ แล้วท่านคิดว่าเจ้าโลกทั้งหลายจะต้านทานมันได้หรือ?”

หมี่เทียนได้แต่ต้องผงะและเงียบปากลง

เพราะนี่มันแค่ร่างแยกแต่หมี่เทียนยังรู้สึกหวาดหวั่นได้ปานนี้

เช่นนั้นแล้วร่างจริงของมันจะแข็งแกร่งแค่ไหน?

เจ้าโลกนั้นมันมีทั้งที่อ่อนแอและแข็งแกร่ง

เจ้าโลกที่เก่งกาจกันจริงๆ นั้นมันมีพลังไม่อาจคาดเดาได้

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าศิลาโลหิตโกลาหลนี้มันก็ไม่แน่ว่าจะพอ

“เพราะฉะนั้นหากมันเกิดขึ้นมาได้จริงๆ แล้วข้าเกรงว่าสิ่งที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตทำไม่ได้เผ่าเลือดมันจะทำได้! แทนที่จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นสู้ยอมเสี่ยงไปตอนนี้จะดีกว่า! โอกาสเช่นนี้มันไม่มีทางเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแน่นอน! หลังจากเผ่าเลือดมันรู้ว่าข้าเป็นมนุษย์แล้วมันคงไม่มีทางจะปล่อยให้ใครเข้ามาถึงที่นี่ได้อีกแน่นอน!” เย่หยวนกล่าว

หมี่เทียนเถียงกลับมาทันที “แต่หากมันสัมผัสถึงเจ้าได้แล้วเจ้าจะตายแน่นอน!”

เย่หยวนตอบกลับไป “ข้ายืนอยู่หน้ามันนี้แต่มันยังไม่รู้ว่าข้าเป็นมนุษย์ มันไม่ได้ทรงอิทธิฤทธิ์ใดๆ ขนาดนั้น! ข้ายังมีความมั่นใจในเต๋าของตัวเองไม่น้อย!”

เต๋าของเย่หยวนนั้นมันคือดาบเต๋า

วิธีการที่เขาคิดนั้นคือการส่งเศษดาบเต๋าของเขาซ่อนเข้าไปกับแก่นเลือดให้ศิลาโลหิตโกลาหลกลืนมันลงไป

นี่มันคือการฝังพิษร้ายไว้ในศิลาโลหิตโกลาหล

แน่นอนว่าดาบเต๋าในตอนนี้มันย่อมจะทำอันตรายใดๆ ศิลาโลหิตโกลาหลไม่ได้

แต่เย่หยวนนั้นมั่นใจว่าวันหน้าเขาจะต้องมีโอกาสแน่นอน!

หลังจากที่พลังฝีมือของเขาพัฒนา ดาบเต๋าของเขาก็ย่อมจะทรงพลังมากขึ้น

ในวินาทีสุดท้ายนั้นหากเย่หยวนใช้พลังของดาบเต๋าทำลายร่างแยกนี้ลงแล้วมันก็คงจะส่งความเสียหายกลับไปยังร่างต้นด้วย!

แต่หากว่าศิลาโลหิตโกลาหลนั้นตรวจจับได้ว่าเขานั้นซ่อนดาบเต๋าเข้าไปด้วยตัวเย่หยวนคงต้องตายลงตรงนี้ทันที!

เย่หยวนนั้นเป็นยอดอัจฉริยะแต่เขานั้นก็เป็นเพียงแค่จักรพรรดิเซียนเท่านั้น

มันเป็นอะไรที่เสี่ยงมากจริงๆ

“หือ? เจ้าลังเลอะไรหรือ?” เยียหวู่กวยนั้นอดถามขึ้นไม่ได้เมื่อเห็นว่าเย่หยวนนั้นยืนนิ่งไปนานสองนาน

เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบกลับไป “ข้าไม่ได้ลังเลหรอกท่าน ข้าแค่เพิ่งเคยได้เห็นศิลามารดาเป็นครั้งแรกจนไม่อาจจะสงบจิตใจได้เท่านั้น”

เยียหวู่กวยนั้นยิ้มกล่าวขึ้น “เรื่องนั้นมันไม่แปลก! เผ่าเลือดเรานั้นเป็นหนึ่งเดียวกับศิลามารดานี้ เจ้าได้เห็นครั้งแรกมันย่อมจะเหมือนได้เข้าท้องแม่ ความรู้สึกเช่นนั้นข้าเข้าใจดี”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่ชักช้าค่อยๆ รีดแก่นเลือดออกมาจากปลายนิ้วเพื่อส่งเข้าหาศิลาโลหิตโกลาหล

แน่นอนว่ามันย่อมจะมิใช่แก่นเลือดของเย่หยวน

เขานั้นแค่ใช้พลังของโอสถเลียนโลหิต เขาไม่ได้กลายเป็นเผ่าเลือดไปจริงๆ

หากเขาส่งเลือดของตัวเองไปการปลอมตัวของเขานี้มันคงไร้ค่าแล้ว

แต่ว่าดาบเต๋าของเย่หยวนนั้นมันก็ได้สังหารเผ่าเลือดลงมากมาย

และเลือดของพวกมันหลายคนนั้นก็แข็งแกร่งล้ำ

เย่หยวนนั้นย่อมจะตบตาเยียหวู่กวยได้ไม่ยาก

แก่นเลือดนั้นมันค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้ศิลาโลหิตโกลาหลเรื่อยๆ พร้อมกับหัวใจของเย่หยวนที่เต้นรัว

…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2887 ยอมเสี่ยง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2887 ยอมเสี่ยง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2887 ยอมเสี่ยง!
ตึกตึกตึก!

เสียงตึกตักดังขึ้นมาจากภายในห้วงมิตินี้

หัวใจของเย่หยวนนั้นมันเหมือนต้องมนต์สะกดเต้นรัวจนทำให้ร่างกายของเขาแทบจะแตกสลาย

“อ่อก!”

จนสุดท้ายเย่หยวนก็ไม่อาจทนรับมันได้ต้องกระอักเลือดออกมา

มันเป็นพลังที่เกินจินตนาการ!

มันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าพลังของเจ้าโลกหยุนซาน!

นี่หรือคือศิลาโลหิตโกลาหล?

เยียหวู่กวยนั้นหันมามองเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้น “ไม่เลวทีเดียว พลังของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นหากมีพลังบ่มเพาะต่ำกว่ามหาจักรพรรดิแล้วปกติมันย่อมไม่อาจจะทนได้ แต่เจ้านั้นทั้งๆ ที่เข้ามาในมิตินี้แล้วแต่ตัวกลับไม่แตกสลายลง! เลือดของเจ้ามันช่างทรงพลังดีจริง!”

พูดจบเขาก็พาเย่หยวนเดินเข้าไปในส่วนลึก

เสียงหัวใจเต้นแรงนั้นมันดังใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หัวใจของเย่หยวนเองก็เต้นตามไปอย่างไม่อาจควบคุม

แต่ไม่นานตรงหน้าของพวกเขานั้นมันก็ปรากฏหัวใจสีแดงสดขึ้นมา

เย่หยวนต้องผงะไปราวกับว่าเจ้าสิ่งนี้มันกำลังโจมตีเขา

ภาพนี้มันน่าตกตะลึงจนเกินไป

หัวใจสีแดงสดนั้นมันแดงจนเหมือนมีเลือดไหลอยู่ตลอดจนทำให้คนที่ได้เห็นต้องผงะ

นี่มันเป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้เห็นอะไรที่ชั่วร้ายปานนี้!

ตอนนี้หัวใจของเขานั้นมันเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม

เย่หยวนไม่นึกฝันว่าศิลาโลหิตโกลาหลนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นหัวใจ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นหัวใจที่เหมือนมีอะไรกำลังฟักตัวอยู่ภายใน!

เย่หยวนนั้นรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที

“เลือดกำเนิดนับไม่ถ้วนนั้นถูกเก็บไว้ในศิลาโลหิตโกลาหลนี้! ตราบเท่าที่เจ้าได้รับการยอมรับจากศิลาโลหิตโกลาหลการบรรลุเจ้าโลกมันก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นใด” เยียหวู่กวยกล่าวขึ้นมา

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปด้วยท่าทาง ‘ตื่นเต้น’ แต่ในใจของเขานั้นมันกำลังสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม

เพราะว่านี่มันช่างเป็นความลับที่เหนือล้ำของเผ่าเลือด!

“ผู้อาวุโส ท่านเคยเห็นมันมาก่อนหรือไม่?” เย่หยวนถามหมี่เทียนขึ้นในใจ

หมี่เทียนต้องส่ายหัวขึ้นมาอย่างกังวลไม่น้อยเช่นกัน “ไม่เคย! แต่สิ่งนี้มันอันตรายนัก!”

“อืม ข้าเองก็รู้สึกเช่นนั้น! ผู้อาวุโส เราจะ…ทำลายมันได้หรือไม่?” เย่หยวนเสนอความคิดขึ้นมา

หมี่เทียนที่ได้ยินนั้นต้องสะดุ้งขึ้นสุดตัวก่อนจะร้องบอก “อย่าได้คิดเชียว! ของที่อยู่ภายในนั้นมันบ่มเพาะพลังไปสูงส่งล้ำแล้ว มันย่อมจะไม่ใช่สิ่งที่เจ้าในตอนนี้จะทำลายลงได้แน่นอน! อย่าได้คิดเจ้าสิ่งนี้มันมีความคิดของตัวเอง เจ้าจะตายเปล่าๆ!”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องผงะไปเพราะว่าเขานั้นย่อมจะมีพลังไม่เท่าหมี่เทียน ย่อมจะไม่อาจมองศิลาโลหิตโกลาหลนี้ได้ลึกล้ำเท่าหมี่เทียน

แม้แต่หมี่เทียนยังกลัวขนาดนั้น เจ้าสิ่งนี้มันย่อมจะมิใช่ของธรรมดาๆ แล้ว

เขานั้นไม่นึกฝันว่าเดินทางมาครั้งนี้เขากลับจะได้พบเจอเข้ากับความลับของเผ่าเลือดเช่นนี้

ตัวตนของศิลาโลหิตโกลาหลนี้มันคือความลับระดับสูงของเผ่าเลือดมีเพียงแค่คนเบื้องบนของเผ่าไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ถึงมัน

ที่เย่หยวนนั้นเข้ามาได้เพราะว่าเขานั้นมากพรสวรรค์จนเกินไป เก่งกาจพอที่จะเปลี่ยนยุคสมัย!

“แต่เราจะปล่อยให้มันกำเนิดขึ้นมาเช่นนี้หรือ?” เย่หยวนอดถามขึ้นไม่ได้

หมี่เทียนจึงตอบกลับไป “นี่ไม่ใช่ตัวจริงของมันด้วยซ้ำ! ศิลาโลหิตโกลาหลที่เจ้าเห็นตรงหน้านี้มันก็แค่ร่างแยกเท่านั้น! เผ่าเลือดนั้นแทรกตัวอยู่ทั่วทั้งสามสิบสามสวรรค์ ดูท่าแล้วร่างแยกของมันเองก็คงมีอยู่ไม่น้อยแน่! คิดอยากทำลายมันนั้นเราต้องหาร่างจริงของมันให้เจอ!”

เย่หยวนได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น สิ่งที่ทรงพลังขนาดนี้มันกลับเป็นแค่ร่างแยก?

เช่นนั้นแล้วร่างจริงของมันนั้นจะทรงพลังแค่ไหนกัน?

นี่มัน…จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!

หมี่เทียนนั้นมองดูศิลาโลหิตโกลาหลก่อนจะถอนใจยาวกล่าวขึ้นมา “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเผ่าเลือดมันถึงไม่สูญพันธุ์ไปเสียที มีเจ้านี่อยู่ด้วยแล้วเผ่าเลือดมันย่อมจะเกิดขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ! เผ่าเลือดนั้นเป็นแค่เรื่องมือที่มันใช้เท่านั้น! เผ่าเลือดนั้นมีสัญชาตญาณการดูดเลือดสูบเลือดจากเผ่าต่างๆ เพื่อสร้างประชากรตัวเองที่แท้มันก็เพื่อเพิ่มพลังให้ศิลาโลหิตโกลาหลนี้! วันหน้าสิ่งที่อยู่ภายในฟักออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลแล้วมันคงได้กลายเป็นหายนะของสามสิบสามสวรรค์แน่นอน!”

หมี่เทียนเองก็เคยเข้าร่วมศึกกวาดล้างเผ่าเลือด ตอนนั้นเขาเชื่อว่าเผ่าเลือดได้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์ไปแล้ว

แต่ใครจะไปคิดว่าหลายแสนปีต่อมานั้นเผ่าเลือดจะกลับมาผงาดได้อีกครั้ง

ระยะเวลาหลายแสนปีนี้เผ่าเลือดมันได้พัฒนาขึ้นไปกว่าเก่าด้วยซ้ำ

แค่นับในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้เผ่าเลือดก็มีเจ้าโลกอยู่มากมายแล้ว

“เอาล่ะ เจ้ามอบแก่นเลือดของตัวเองให้แก่ศิลาโลหิตโกลาหลไปก่อน จากนั้นเจ้าจะสร้างสายสัมพันธ์กับศิลาโลหิตโกลาหลได้! แน่นอนว่าเจ้าจะเข้าใจมันได้แค่ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง” เยียหวู่กวยกล่าวขึ้น

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยความคิดบ้าคลั่งอย่างหนึ่งในหัว

หมี่เทียนนั้นอาจความคิดนั้นออกในทันที!

“ไอ้หนูเจ้าบ้าไปแล้วหรือ?! เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!” หมี่เทียนร้องขึ้นมา

เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “หากมันเกิดขึ้นมาได้จริงๆ แล้วท่านคิดว่าเจ้าโลกทั้งหลายจะต้านทานมันได้หรือ?”

หมี่เทียนได้แต่ต้องผงะและเงียบปากลง

เพราะนี่มันแค่ร่างแยกแต่หมี่เทียนยังรู้สึกหวาดหวั่นได้ปานนี้

เช่นนั้นแล้วร่างจริงของมันจะแข็งแกร่งแค่ไหน?

เจ้าโลกนั้นมันมีทั้งที่อ่อนแอและแข็งแกร่ง

เจ้าโลกที่เก่งกาจกันจริงๆ นั้นมันมีพลังไม่อาจคาดเดาได้

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าศิลาโลหิตโกลาหลนี้มันก็ไม่แน่ว่าจะพอ

“เพราะฉะนั้นหากมันเกิดขึ้นมาได้จริงๆ แล้วข้าเกรงว่าสิ่งที่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตทำไม่ได้เผ่าเลือดมันจะทำได้! แทนที่จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นสู้ยอมเสี่ยงไปตอนนี้จะดีกว่า! โอกาสเช่นนี้มันไม่มีทางเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแน่นอน! หลังจากเผ่าเลือดมันรู้ว่าข้าเป็นมนุษย์แล้วมันคงไม่มีทางจะปล่อยให้ใครเข้ามาถึงที่นี่ได้อีกแน่นอน!” เย่หยวนกล่าว

หมี่เทียนเถียงกลับมาทันที “แต่หากมันสัมผัสถึงเจ้าได้แล้วเจ้าจะตายแน่นอน!”

เย่หยวนตอบกลับไป “ข้ายืนอยู่หน้ามันนี้แต่มันยังไม่รู้ว่าข้าเป็นมนุษย์ มันไม่ได้ทรงอิทธิฤทธิ์ใดๆ ขนาดนั้น! ข้ายังมีความมั่นใจในเต๋าของตัวเองไม่น้อย!”

เต๋าของเย่หยวนนั้นมันคือดาบเต๋า

วิธีการที่เขาคิดนั้นคือการส่งเศษดาบเต๋าของเขาซ่อนเข้าไปกับแก่นเลือดให้ศิลาโลหิตโกลาหลกลืนมันลงไป

นี่มันคือการฝังพิษร้ายไว้ในศิลาโลหิตโกลาหล

แน่นอนว่าดาบเต๋าในตอนนี้มันย่อมจะทำอันตรายใดๆ ศิลาโลหิตโกลาหลไม่ได้

แต่เย่หยวนนั้นมั่นใจว่าวันหน้าเขาจะต้องมีโอกาสแน่นอน!

หลังจากที่พลังฝีมือของเขาพัฒนา ดาบเต๋าของเขาก็ย่อมจะทรงพลังมากขึ้น

ในวินาทีสุดท้ายนั้นหากเย่หยวนใช้พลังของดาบเต๋าทำลายร่างแยกนี้ลงแล้วมันก็คงจะส่งความเสียหายกลับไปยังร่างต้นด้วย!

แต่หากว่าศิลาโลหิตโกลาหลนั้นตรวจจับได้ว่าเขานั้นซ่อนดาบเต๋าเข้าไปด้วยตัวเย่หยวนคงต้องตายลงตรงนี้ทันที!

เย่หยวนนั้นเป็นยอดอัจฉริยะแต่เขานั้นก็เป็นเพียงแค่จักรพรรดิเซียนเท่านั้น

มันเป็นอะไรที่เสี่ยงมากจริงๆ

“หือ? เจ้าลังเลอะไรหรือ?” เยียหวู่กวยนั้นอดถามขึ้นไม่ได้เมื่อเห็นว่าเย่หยวนนั้นยืนนิ่งไปนานสองนาน

เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบกลับไป “ข้าไม่ได้ลังเลหรอกท่าน ข้าแค่เพิ่งเคยได้เห็นศิลามารดาเป็นครั้งแรกจนไม่อาจจะสงบจิตใจได้เท่านั้น”

เยียหวู่กวยนั้นยิ้มกล่าวขึ้น “เรื่องนั้นมันไม่แปลก! เผ่าเลือดเรานั้นเป็นหนึ่งเดียวกับศิลามารดานี้ เจ้าได้เห็นครั้งแรกมันย่อมจะเหมือนได้เข้าท้องแม่ ความรู้สึกเช่นนั้นข้าเข้าใจดี”

พูดจบเย่หยวนก็ไม่ชักช้าค่อยๆ รีดแก่นเลือดออกมาจากปลายนิ้วเพื่อส่งเข้าหาศิลาโลหิตโกลาหล

แน่นอนว่ามันย่อมจะมิใช่แก่นเลือดของเย่หยวน

เขานั้นแค่ใช้พลังของโอสถเลียนโลหิต เขาไม่ได้กลายเป็นเผ่าเลือดไปจริงๆ

หากเขาส่งเลือดของตัวเองไปการปลอมตัวของเขานี้มันคงไร้ค่าแล้ว

แต่ว่าดาบเต๋าของเย่หยวนนั้นมันก็ได้สังหารเผ่าเลือดลงมากมาย

และเลือดของพวกมันหลายคนนั้นก็แข็งแกร่งล้ำ

เย่หยวนนั้นย่อมจะตบตาเยียหวู่กวยได้ไม่ยาก

แก่นเลือดนั้นมันค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปใกล้ศิลาโลหิตโกลาหลเรื่อยๆ พร้อมกับหัวใจของเย่หยวนที่เต้นรัว

…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+