Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด!
โหยวจินนั้นผงะไปอย่างตกตะลึง!

เขานั้นได้ยินคนพูดกันมาว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้สังหารคนอย่างไม่กะพริบตา

และเมื่อได้เจอกันเข้าวันนี้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ!

‘เฉียเจียนนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แต่เจ้ากลับคิดสังหารเขาด้วยคำพูดเดียว?’

ได้ตำแหน่งใหญ่โตมาถึงคำสั่งแรกนั้นกลับเป็นการสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง?

เก่งแท้ๆ!

“เรื่องนั้น…เฉียเจียนนั้นจะอย่างไรเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์…”

เย่หยวนส่ายหัวสวนกลับไปทันที “เส้นทางสู่เจ้าโลกของมันนั้นได้ปิดลงแล้ว! หากมันตายก็ตายไปจะสนใจทำไม? หรือว่าเผ่าเลือดเรานั้นมันขาดแคลนมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์กันเล่า?”

มันก็จริงที่อาจจะเป็นเช่นนั้นแต่…อย่างไรเขาก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไม่ใช่หรือ?

การจะเลี้ยงดูมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นั้นมันต้องใช้ทรัพยากรมากมายปานใด

แต่ท่าทางโอหังของเย่หยวนนี้มันก็ทำให้โหยวจินไม่พอใจอยู่ไม่น้อย

เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเขานั้นก็เป็นถึงเจ้าโลกคนหนึ่ง!

จะไม่ไว้หน้ากันเลยหรือ?

เฉียเจียนที่นั่งคุกเข่าอยู่นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “นายท่าน ข้า…ข้าผิดไปแล้ว! ข้าขอร้องท่านเถอะ ไว้ชีวิตข้าด้วย! และศึกใหญ่มันก็ใกล้เข้ามาเต็มที ให้ข้าได้ไปช่วยต่อสู้ล่าหัวยอดฝีมือฝ่ายสวรรค์แรกมันจะไม่ดีหรือท่าน?”

‘สังหารพ่อเจ้าสิ!’

‘ที่ข้าจะฆ่าเจ้าลงนี้ก็เพราะกลัวเจ้าไปเป็นกำลังให้กองทัพเผ่าเลือดนั้น!’

“ไม่ต้อง! ถึงมีหรือไม่มีมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะนี่มันก็ผ่านมาได้กว่ายี่สิบวันแล้ว พวกเจ้ากลับยังบุกมหานครฉีใต้ไม่ได้เสียที เจ้ายังคิดจะทำอะไรกันได้อีก? เฉียนั้วมันเป็นลูกน้องเจ้า เจ้าจัดการเองเถอะ” เย่หยวนหันไปสั่งเฉียนั้ว

แท้จริงในใจของเย่หยวนนั้นอยากจะสังหารเฉียนั้วมากกว่า เพราะว่าเขาคนนี้คือตัวปัญหาที่แท้จริง

ยอดฝีมือทวีปสวรรค์แรกที่ตายลงด้วยมือของเขาคนนี้นั้นมากมายเกินจะนับ

แม้ว่าเฉียนั้วนั้นจะพ่ายให้แก่เฟิงเสี่ยวเถียนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขานั้นก็เป็นถึงยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดคนหนึ่ง

หากให้เทียบแล้วเขานั้นคงไม่ได้อ่อนแอกว่าผู้อาวุโสหอสุดแสงแห่งนิกายยาสุดล้ำเลย

ไม่เช่นนั้นแล้วแม่ทัพที่พ่ายแพ้เสียกำลังไปเป็นแสนจะได้กลับมาทำหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่อีกครั้งหรือ?

ที่เขาทำเช่นนี้ได้มันก็เพราะว่าเผ่าเลือดเห็นว่าเขานั้นมากฝีมือ

เฉียนั้วนั้นมองดูไปทางโหยวจิน

โหยวจินพยักหน้าตอบกลับมาเป็นสัญญาณว่าทำตามนั้น

เจ้าโลกโหยวจินนั้นเองก็ไร้หนทางแก้ไขมันเช่นกัน!

เพราะว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้เป็นชายผู้มากชื่อเสียง หากคำสั่งแรกของเขายังโดนขัดแล้วตัวบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คงได้หันมาหมายหัวเขาแทนแน่

ถึงตอนนั้นท่านหวังจั่วคงเป็นคนออกมาจัดการเรื่องราวแน่

เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงต้องตัดใจยอมทิ้งเฉียเจียนไป

ได้เห็นโหยวจินพยักหน้านั้นเฉียเจียนก็ได้แต่นั่งหน้าซีดรู้ตัวแล้วว่าชีวิตของเขาคงจบลงเท่านี้

เฉียนั้วนั้นถอนหายใจยาวออกมา “น้องเฉียเจียน ข้าขอโทษด้วย! นี่มันคือคำสั่งแรกของนายท่าน ข้าไม่อาจจะขัดได้จริงๆ!”

พูดจบเขาก็กระแทกฝ่ามือเข้าที่หัวของเฉียเจียนจนแตกสลายทำลายร่างของเขาไปสิ้นเชิง

ตั้งแต่ต้นจนตายลงนั้นเฉียเจียนไม่กล้าที่จะขัดขืนใดๆ แม้แต่น้อย

หยางชิงที่ยืนมองเรื่องราวอยู่ด้านหลังนั้นแทบจะลุกขึ้นเต้น

นี่มันจะ…สะใจเกินไปแล้ว!

ตัดสินชีวิตของมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้ด้วยคำพูดเดียว!

กว่าที่ฝ่ายทวีปสวรรค์แรกจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดลงได้แต่ละคนนั้นพวกเขาต้องสูญเสียอะไร ไปบ้าง?

ต่อให้มันจะมีค่ายกลป้องกันมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลงได้ง่ายๆ

ด้วยความเป็นเผ่าเลือดนั้นศึกบุกเขตแดนสวรรค์ของพวกเขามันจะทำให้คนบาดเจ็บมากมายแต่คนตายแทบไม่มี

หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดที่สวรรค์แรกสังหารได้มันมีน้อยนิด

กลับกัน ฝ่ายสวรรค์แรกนั้นกลับเสียมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปมากมายให้แก่เผ่าเลือด

แต่วันนี้เย่หยวนนั้นกลับใช้แค่ลมปากสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง!

สุดยอด!

หลังจากที่เผ่าเลือดมันได้รู้ว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองนั้นแท้จริงแล้วเป็นสายลับชาวมนุษย์หยางชิงอยากจะรู้เหลือเกินว่าพวกเขาจะทำหน้าอย่างไร?

แค่คิดมันก็ทำให้ใจเต้นรัวแล้ว!

เฉียนั้วนั้นเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก เฉียเจียนนั้นเป็นลูกน้องคนสนิทของเขาคนหนึ่ง

แต่วันนี้เขากลับต้องสังหารคนสนิทลง!

“เฉียนั้ว เจ้าดูจะไม่พอใจนะ?” เย่หยวนมองหน้าเฉียนั้วพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก

เฉียนั้วรีบเปลี่ยนสีหน้าตอบกลับไปทันที “ฮ…ฮ่าๆ ทำไมข้าจะไม่พอใจกัน? เฉียเจียนมันคิดทำร้ายท่านมันย่อมจะเป็นคนรนหาที่ตายของมันเอง! ข้าน้อยเป็นเกียรตินักที่ได้ช่วยลงมือแทนท่าน!”

เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไป “อย่าเพิ่งมาพูดจาไร้สาระตอนนี้! เฉียนั้วเจ้ามันขยะ! กองทัพสามแสนที่เจ้าควบคุมอยู่นั้นต่างเป็นคนที่เคยเข้าร่วมศึกร้อยบุตรทั้งสิ้น ฝีมือของพวกเขานั้นเหนือล้ำกว่าทหารทั่วๆ ไปเป็นสิบๆ เท่า! แต่เจ้ากลับทำได้แค่นี้ ไม่อาจจะบุกยึดมหานครฉีใต้ลงได้เสียที!”

เฉียนั้วยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ขอรับ นายท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว! นายท่านช่วยรอข้าอีกสักสองสามวันด้วยเถอะ!”

ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดนั้นกลับถูกด่าว่าเป็นขยะ

แต่เขานั้นกลับไม่กล้าเถียงคำใดออกมาต่อหน้าเย่หยวน

เย่หยวนหันหลังหนีพร้อมร้องสั่ง “ไม่ต้อง! สามวันจากนี้เราจะโจมตีมันอีกครั้ง! มหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นเจ้าเป็นคนควบคุม ส่วนกองทัพที่มีพลังต่ำกว่ามหาจักรพรรดินั้นข้าจะเป็นคนสั่งการเอง! ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าเจ้ามันไร้ฝีมือแค่ไหน!”

คำพูดเดียวนั้นมันได้ปลดตำแหน่งแม่ทัพของเฉียนั้วลงทันที

ได้ยินเช่นนั้นเฉียนั้วย่อมจะหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาในใจ

ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของเขานั้น คนอื่นย่อมจะไม่เข้าใจถึงความยากในศึกนี้

ครั้งนี้เขาได้นำกำลังคนเข้าต่อสู้กับเฟิงเสี่ยวเถียนจนต่างฝ่ายต่างเจ็บหนักแต่ก็ไม่มีใครถอย

แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ชนะ

การบุกแต่ละครั้งนั้นพวกเขาจะเห็นแววชนะตลอด แต่กลับไม่เคยชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว

คิดว่าแค่เป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์แล้วมนุษย์มันจะสนใจ?

สงครามนั้นมันไม่ใช่การประลองฝีมือ!

แต่เขาย่อมจะไม่กังวลเรื่องการชิงอำนาจกองทัพของเย่หยวนใดๆ

มันถือว่าเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ

เพราะหากแม้แต่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้นยังพ่ายแพ้กลับมาแล้ว ความพ่ายแพ้ของเขามันก็ย่อมจะดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที

“มีนายท่านคอยดูแลแล้วเผ่าเลือดเราต้องชนะได้แน่! เราจะบุกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ในสามวัน!” เฉียนั้วกล่าวขึ้นมาตอบ

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เฉียนั้ว เจ้าไม่ต้องทำท่าทางเช่นนั้น! เอาล่ะ นำข้าไปดูหน่อยว่ามหานครฉีใต้นี้มันเป็นอย่างไร!”

ไม่ว่าจะมองอย่างไรเย่หยวนนั้นมันก็เหมือนอัจฉริยะหนุ่มที่หลงใหลอำนาจ

ยอดอัจฉริยะเช่นนี้จะตกต่ำลงอย่างมากเพื่อพ่ายแพ้เข้าสักครั้ง

เฉียนั้วนั้นได้แต่กล่าวดูถูกอยู่ในใจ ‘ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็เป็นแค่จักรพรรดิเซียนมิใช่หรือ?’

‘คิดว่าจะทำอะไรได้มากมาย?’

แต่คำพูดของเย่หยวนนั้นมันได้ทำให้คนทั้งเมืองข่ายยักษ์เดือดดาลขึ้นมาพร้อมรบเต็มที่

บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่มากความมั่นใจไม่กลัวการสังหารนั้นคือแม่ทัพที่พวกเขากำลังรอคอย!

ทุกคนนั้นต่างมองว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์จะเปลี่ยนกระแสสงครามได้

เย่หยวนที่เอาชนะคนระดับเดียวกันได้อย่างสิ้นเชิงนั้นย่อมจะทำให้มีหลายคนที่นับถือเขาในเรื่องฝีมือ

ตอนนี้ตัวตนของเย่หยวนนั้นมันเป็นดั่งเทพเจ้าในสายตาคนเมืองข่ายยักษ์ไปแล้ว

ไม่นานจากนั้นเย่หยวนก็ได้พากองทัพร้อยบุตรผ่านเส้นทางมาถึงยังมหานครฉีใต้

ได้เห็นมหานครฉีใต้นั้นเย่หยวนและหยางชิงก็ต้องใจหายวาบไปทันที

เพราะเขานั้นไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าเฟิงเสี่ยวเถียนใช้ลูกไม้ไหนทำไมถึงยังสามารถป้องกันนครที่มีสภาพยับเยิน เช่นนี้อยู่ได้ถึงยี่สิบวัน

นอกเมืองนั้นมันมีแต่ศพนอนเน่าอยู่เต็มไปหมด!

ในเวลาพักเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีใครออกมาเก็บศพคนทั้งหลาย

เพราะว่ายอดฝีมือในเมืองนั้นต่างนอนพักรักษาตัวและเก็บแรงเพื่อรอต่อสู้ในศึกครั้งต่อไป ไม่มีใครอยากจะมาเสียเวลาและกำลังกับการเก็บซากศพ!

มหานครฉีใต้นั้นมีสภาพเป็นนรกอย่างแท้จริงแล้ว

ค่ายกลป้องกันเมืองนั้นเองก็แทบจะไม่เหลือพลังงานใดๆ อีกต่อไป

เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ที่เหลือรอดนั้นต่างกำลังมุ่งมั่นใช้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยซ่อมแซมค่ายกล อย่างสุดกำลัง

เพียงแค่ว่าต่อให้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยจะดีเลิศแค่ไหนมันก็ไม่มีทางจะซ่อมแซมมหาค่ายกลใหญ่ยักษ์ ให้กลับมาสมบูรณ์ได้ในพริบตา

เพราะว่าตอนนี้จอมเทพค่ายกลสวรรค์ส่วนมากได้ตายลงไปแล้วด้วย

ยี่สิบวันที่ผ่านมานี้มันมีแต่ความมืดมนปกคลุมมหานครฉีใต้!

การปรากฏตัวขึ้นของกองทัพเย่หยวนนั้นมันทำให้ทางมหานครฉีใต้ต้องแตกตื่น

เฟิงเสี่ยวเถียนรีบพุ่งตัวขึ้นมายืนมองบนกำแพงเมืองทันทีที่ได้รับรายงาน

แต่เมื่อสายตาของเขาจ้องมองไปเห็นร่างที่เดินนำกองทัพมานั้นเขาก็ต้องผงะไปทันที

ความตกตะลึงในหัวใจของเขานั้นมันมากจนไม่อาจอธิบายได้!

……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด!
โหยวจินนั้นผงะไปอย่างตกตะลึง!

เขานั้นได้ยินคนพูดกันมาว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้สังหารคนอย่างไม่กะพริบตา

และเมื่อได้เจอกันเข้าวันนี้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ!

‘เฉียเจียนนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แต่เจ้ากลับคิดสังหารเขาด้วยคำพูดเดียว?’

ได้ตำแหน่งใหญ่โตมาถึงคำสั่งแรกนั้นกลับเป็นการสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง?

เก่งแท้ๆ!

“เรื่องนั้น…เฉียเจียนนั้นจะอย่างไรเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์…”

เย่หยวนส่ายหัวสวนกลับไปทันที “เส้นทางสู่เจ้าโลกของมันนั้นได้ปิดลงแล้ว! หากมันตายก็ตายไปจะสนใจทำไม? หรือว่าเผ่าเลือดเรานั้นมันขาดแคลนมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์กันเล่า?”

มันก็จริงที่อาจจะเป็นเช่นนั้นแต่…อย่างไรเขาก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไม่ใช่หรือ?

การจะเลี้ยงดูมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นั้นมันต้องใช้ทรัพยากรมากมายปานใด

แต่ท่าทางโอหังของเย่หยวนนี้มันก็ทำให้โหยวจินไม่พอใจอยู่ไม่น้อย

เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเขานั้นก็เป็นถึงเจ้าโลกคนหนึ่ง!

จะไม่ไว้หน้ากันเลยหรือ?

เฉียเจียนที่นั่งคุกเข่าอยู่นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “นายท่าน ข้า…ข้าผิดไปแล้ว! ข้าขอร้องท่านเถอะ ไว้ชีวิตข้าด้วย! และศึกใหญ่มันก็ใกล้เข้ามาเต็มที ให้ข้าได้ไปช่วยต่อสู้ล่าหัวยอดฝีมือฝ่ายสวรรค์แรกมันจะไม่ดีหรือท่าน?”

‘สังหารพ่อเจ้าสิ!’

‘ที่ข้าจะฆ่าเจ้าลงนี้ก็เพราะกลัวเจ้าไปเป็นกำลังให้กองทัพเผ่าเลือดนั้น!’

“ไม่ต้อง! ถึงมีหรือไม่มีมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะนี่มันก็ผ่านมาได้กว่ายี่สิบวันแล้ว พวกเจ้ากลับยังบุกมหานครฉีใต้ไม่ได้เสียที เจ้ายังคิดจะทำอะไรกันได้อีก? เฉียนั้วมันเป็นลูกน้องเจ้า เจ้าจัดการเองเถอะ” เย่หยวนหันไปสั่งเฉียนั้ว

แท้จริงในใจของเย่หยวนนั้นอยากจะสังหารเฉียนั้วมากกว่า เพราะว่าเขาคนนี้คือตัวปัญหาที่แท้จริง

ยอดฝีมือทวีปสวรรค์แรกที่ตายลงด้วยมือของเขาคนนี้นั้นมากมายเกินจะนับ

แม้ว่าเฉียนั้วนั้นจะพ่ายให้แก่เฟิงเสี่ยวเถียนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขานั้นก็เป็นถึงยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดคนหนึ่ง

หากให้เทียบแล้วเขานั้นคงไม่ได้อ่อนแอกว่าผู้อาวุโสหอสุดแสงแห่งนิกายยาสุดล้ำเลย

ไม่เช่นนั้นแล้วแม่ทัพที่พ่ายแพ้เสียกำลังไปเป็นแสนจะได้กลับมาทำหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่อีกครั้งหรือ?

ที่เขาทำเช่นนี้ได้มันก็เพราะว่าเผ่าเลือดเห็นว่าเขานั้นมากฝีมือ

เฉียนั้วนั้นมองดูไปทางโหยวจิน

โหยวจินพยักหน้าตอบกลับมาเป็นสัญญาณว่าทำตามนั้น

เจ้าโลกโหยวจินนั้นเองก็ไร้หนทางแก้ไขมันเช่นกัน!

เพราะว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้เป็นชายผู้มากชื่อเสียง หากคำสั่งแรกของเขายังโดนขัดแล้วตัวบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คงได้หันมาหมายหัวเขาแทนแน่

ถึงตอนนั้นท่านหวังจั่วคงเป็นคนออกมาจัดการเรื่องราวแน่

เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงต้องตัดใจยอมทิ้งเฉียเจียนไป

ได้เห็นโหยวจินพยักหน้านั้นเฉียเจียนก็ได้แต่นั่งหน้าซีดรู้ตัวแล้วว่าชีวิตของเขาคงจบลงเท่านี้

เฉียนั้วนั้นถอนหายใจยาวออกมา “น้องเฉียเจียน ข้าขอโทษด้วย! นี่มันคือคำสั่งแรกของนายท่าน ข้าไม่อาจจะขัดได้จริงๆ!”

พูดจบเขาก็กระแทกฝ่ามือเข้าที่หัวของเฉียเจียนจนแตกสลายทำลายร่างของเขาไปสิ้นเชิง

ตั้งแต่ต้นจนตายลงนั้นเฉียเจียนไม่กล้าที่จะขัดขืนใดๆ แม้แต่น้อย

หยางชิงที่ยืนมองเรื่องราวอยู่ด้านหลังนั้นแทบจะลุกขึ้นเต้น

นี่มันจะ…สะใจเกินไปแล้ว!

ตัดสินชีวิตของมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้ด้วยคำพูดเดียว!

กว่าที่ฝ่ายทวีปสวรรค์แรกจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดลงได้แต่ละคนนั้นพวกเขาต้องสูญเสียอะไร ไปบ้าง?

ต่อให้มันจะมีค่ายกลป้องกันมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลงได้ง่ายๆ

ด้วยความเป็นเผ่าเลือดนั้นศึกบุกเขตแดนสวรรค์ของพวกเขามันจะทำให้คนบาดเจ็บมากมายแต่คนตายแทบไม่มี

หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดที่สวรรค์แรกสังหารได้มันมีน้อยนิด

กลับกัน ฝ่ายสวรรค์แรกนั้นกลับเสียมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปมากมายให้แก่เผ่าเลือด

แต่วันนี้เย่หยวนนั้นกลับใช้แค่ลมปากสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง!

สุดยอด!

หลังจากที่เผ่าเลือดมันได้รู้ว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองนั้นแท้จริงแล้วเป็นสายลับชาวมนุษย์หยางชิงอยากจะรู้เหลือเกินว่าพวกเขาจะทำหน้าอย่างไร?

แค่คิดมันก็ทำให้ใจเต้นรัวแล้ว!

เฉียนั้วนั้นเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก เฉียเจียนนั้นเป็นลูกน้องคนสนิทของเขาคนหนึ่ง

แต่วันนี้เขากลับต้องสังหารคนสนิทลง!

“เฉียนั้ว เจ้าดูจะไม่พอใจนะ?” เย่หยวนมองหน้าเฉียนั้วพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก

เฉียนั้วรีบเปลี่ยนสีหน้าตอบกลับไปทันที “ฮ…ฮ่าๆ ทำไมข้าจะไม่พอใจกัน? เฉียเจียนมันคิดทำร้ายท่านมันย่อมจะเป็นคนรนหาที่ตายของมันเอง! ข้าน้อยเป็นเกียรตินักที่ได้ช่วยลงมือแทนท่าน!”

เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไป “อย่าเพิ่งมาพูดจาไร้สาระตอนนี้! เฉียนั้วเจ้ามันขยะ! กองทัพสามแสนที่เจ้าควบคุมอยู่นั้นต่างเป็นคนที่เคยเข้าร่วมศึกร้อยบุตรทั้งสิ้น ฝีมือของพวกเขานั้นเหนือล้ำกว่าทหารทั่วๆ ไปเป็นสิบๆ เท่า! แต่เจ้ากลับทำได้แค่นี้ ไม่อาจจะบุกยึดมหานครฉีใต้ลงได้เสียที!”

เฉียนั้วยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ขอรับ นายท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว! นายท่านช่วยรอข้าอีกสักสองสามวันด้วยเถอะ!”

ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดนั้นกลับถูกด่าว่าเป็นขยะ

แต่เขานั้นกลับไม่กล้าเถียงคำใดออกมาต่อหน้าเย่หยวน

เย่หยวนหันหลังหนีพร้อมร้องสั่ง “ไม่ต้อง! สามวันจากนี้เราจะโจมตีมันอีกครั้ง! มหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นเจ้าเป็นคนควบคุม ส่วนกองทัพที่มีพลังต่ำกว่ามหาจักรพรรดินั้นข้าจะเป็นคนสั่งการเอง! ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าเจ้ามันไร้ฝีมือแค่ไหน!”

คำพูดเดียวนั้นมันได้ปลดตำแหน่งแม่ทัพของเฉียนั้วลงทันที

ได้ยินเช่นนั้นเฉียนั้วย่อมจะหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาในใจ

ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของเขานั้น คนอื่นย่อมจะไม่เข้าใจถึงความยากในศึกนี้

ครั้งนี้เขาได้นำกำลังคนเข้าต่อสู้กับเฟิงเสี่ยวเถียนจนต่างฝ่ายต่างเจ็บหนักแต่ก็ไม่มีใครถอย

แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ชนะ

การบุกแต่ละครั้งนั้นพวกเขาจะเห็นแววชนะตลอด แต่กลับไม่เคยชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว

คิดว่าแค่เป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์แล้วมนุษย์มันจะสนใจ?

สงครามนั้นมันไม่ใช่การประลองฝีมือ!

แต่เขาย่อมจะไม่กังวลเรื่องการชิงอำนาจกองทัพของเย่หยวนใดๆ

มันถือว่าเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ

เพราะหากแม้แต่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้นยังพ่ายแพ้กลับมาแล้ว ความพ่ายแพ้ของเขามันก็ย่อมจะดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที

“มีนายท่านคอยดูแลแล้วเผ่าเลือดเราต้องชนะได้แน่! เราจะบุกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ในสามวัน!” เฉียนั้วกล่าวขึ้นมาตอบ

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เฉียนั้ว เจ้าไม่ต้องทำท่าทางเช่นนั้น! เอาล่ะ นำข้าไปดูหน่อยว่ามหานครฉีใต้นี้มันเป็นอย่างไร!”

ไม่ว่าจะมองอย่างไรเย่หยวนนั้นมันก็เหมือนอัจฉริยะหนุ่มที่หลงใหลอำนาจ

ยอดอัจฉริยะเช่นนี้จะตกต่ำลงอย่างมากเพื่อพ่ายแพ้เข้าสักครั้ง

เฉียนั้วนั้นได้แต่กล่าวดูถูกอยู่ในใจ ‘ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็เป็นแค่จักรพรรดิเซียนมิใช่หรือ?’

‘คิดว่าจะทำอะไรได้มากมาย?’

แต่คำพูดของเย่หยวนนั้นมันได้ทำให้คนทั้งเมืองข่ายยักษ์เดือดดาลขึ้นมาพร้อมรบเต็มที่

บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่มากความมั่นใจไม่กลัวการสังหารนั้นคือแม่ทัพที่พวกเขากำลังรอคอย!

ทุกคนนั้นต่างมองว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์จะเปลี่ยนกระแสสงครามได้

เย่หยวนที่เอาชนะคนระดับเดียวกันได้อย่างสิ้นเชิงนั้นย่อมจะทำให้มีหลายคนที่นับถือเขาในเรื่องฝีมือ

ตอนนี้ตัวตนของเย่หยวนนั้นมันเป็นดั่งเทพเจ้าในสายตาคนเมืองข่ายยักษ์ไปแล้ว

ไม่นานจากนั้นเย่หยวนก็ได้พากองทัพร้อยบุตรผ่านเส้นทางมาถึงยังมหานครฉีใต้

ได้เห็นมหานครฉีใต้นั้นเย่หยวนและหยางชิงก็ต้องใจหายวาบไปทันที

เพราะเขานั้นไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าเฟิงเสี่ยวเถียนใช้ลูกไม้ไหนทำไมถึงยังสามารถป้องกันนครที่มีสภาพยับเยิน เช่นนี้อยู่ได้ถึงยี่สิบวัน

นอกเมืองนั้นมันมีแต่ศพนอนเน่าอยู่เต็มไปหมด!

ในเวลาพักเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีใครออกมาเก็บศพคนทั้งหลาย

เพราะว่ายอดฝีมือในเมืองนั้นต่างนอนพักรักษาตัวและเก็บแรงเพื่อรอต่อสู้ในศึกครั้งต่อไป ไม่มีใครอยากจะมาเสียเวลาและกำลังกับการเก็บซากศพ!

มหานครฉีใต้นั้นมีสภาพเป็นนรกอย่างแท้จริงแล้ว

ค่ายกลป้องกันเมืองนั้นเองก็แทบจะไม่เหลือพลังงานใดๆ อีกต่อไป

เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ที่เหลือรอดนั้นต่างกำลังมุ่งมั่นใช้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยซ่อมแซมค่ายกล อย่างสุดกำลัง

เพียงแค่ว่าต่อให้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยจะดีเลิศแค่ไหนมันก็ไม่มีทางจะซ่อมแซมมหาค่ายกลใหญ่ยักษ์ ให้กลับมาสมบูรณ์ได้ในพริบตา

เพราะว่าตอนนี้จอมเทพค่ายกลสวรรค์ส่วนมากได้ตายลงไปแล้วด้วย

ยี่สิบวันที่ผ่านมานี้มันมีแต่ความมืดมนปกคลุมมหานครฉีใต้!

การปรากฏตัวขึ้นของกองทัพเย่หยวนนั้นมันทำให้ทางมหานครฉีใต้ต้องแตกตื่น

เฟิงเสี่ยวเถียนรีบพุ่งตัวขึ้นมายืนมองบนกำแพงเมืองทันทีที่ได้รับรายงาน

แต่เมื่อสายตาของเขาจ้องมองไปเห็นร่างที่เดินนำกองทัพมานั้นเขาก็ต้องผงะไปทันที

ความตกตะลึงในหัวใจของเขานั้นมันมากจนไม่อาจอธิบายได้!

……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด!
โหยวจินนั้นผงะไปอย่างตกตะลึง!

เขานั้นได้ยินคนพูดกันมาว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้สังหารคนอย่างไม่กะพริบตา

และเมื่อได้เจอกันเข้าวันนี้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ!

‘เฉียเจียนนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แต่เจ้ากลับคิดสังหารเขาด้วยคำพูดเดียว?’

ได้ตำแหน่งใหญ่โตมาถึงคำสั่งแรกนั้นกลับเป็นการสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง?

เก่งแท้ๆ!

“เรื่องนั้น…เฉียเจียนนั้นจะอย่างไรเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์…”

เย่หยวนส่ายหัวสวนกลับไปทันที “เส้นทางสู่เจ้าโลกของมันนั้นได้ปิดลงแล้ว! หากมันตายก็ตายไปจะสนใจทำไม? หรือว่าเผ่าเลือดเรานั้นมันขาดแคลนมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์กันเล่า?”

มันก็จริงที่อาจจะเป็นเช่นนั้นแต่…อย่างไรเขาก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไม่ใช่หรือ?

การจะเลี้ยงดูมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นั้นมันต้องใช้ทรัพยากรมากมายปานใด

แต่ท่าทางโอหังของเย่หยวนนี้มันก็ทำให้โหยวจินไม่พอใจอยู่ไม่น้อย

เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเขานั้นก็เป็นถึงเจ้าโลกคนหนึ่ง!

จะไม่ไว้หน้ากันเลยหรือ?

เฉียเจียนที่นั่งคุกเข่าอยู่นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “นายท่าน ข้า…ข้าผิดไปแล้ว! ข้าขอร้องท่านเถอะ ไว้ชีวิตข้าด้วย! และศึกใหญ่มันก็ใกล้เข้ามาเต็มที ให้ข้าได้ไปช่วยต่อสู้ล่าหัวยอดฝีมือฝ่ายสวรรค์แรกมันจะไม่ดีหรือท่าน?”

‘สังหารพ่อเจ้าสิ!’

‘ที่ข้าจะฆ่าเจ้าลงนี้ก็เพราะกลัวเจ้าไปเป็นกำลังให้กองทัพเผ่าเลือดนั้น!’

“ไม่ต้อง! ถึงมีหรือไม่มีมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะนี่มันก็ผ่านมาได้กว่ายี่สิบวันแล้ว พวกเจ้ากลับยังบุกมหานครฉีใต้ไม่ได้เสียที เจ้ายังคิดจะทำอะไรกันได้อีก? เฉียนั้วมันเป็นลูกน้องเจ้า เจ้าจัดการเองเถอะ” เย่หยวนหันไปสั่งเฉียนั้ว

แท้จริงในใจของเย่หยวนนั้นอยากจะสังหารเฉียนั้วมากกว่า เพราะว่าเขาคนนี้คือตัวปัญหาที่แท้จริง

ยอดฝีมือทวีปสวรรค์แรกที่ตายลงด้วยมือของเขาคนนี้นั้นมากมายเกินจะนับ

แม้ว่าเฉียนั้วนั้นจะพ่ายให้แก่เฟิงเสี่ยวเถียนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขานั้นก็เป็นถึงยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดคนหนึ่ง

หากให้เทียบแล้วเขานั้นคงไม่ได้อ่อนแอกว่าผู้อาวุโสหอสุดแสงแห่งนิกายยาสุดล้ำเลย

ไม่เช่นนั้นแล้วแม่ทัพที่พ่ายแพ้เสียกำลังไปเป็นแสนจะได้กลับมาทำหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่อีกครั้งหรือ?

ที่เขาทำเช่นนี้ได้มันก็เพราะว่าเผ่าเลือดเห็นว่าเขานั้นมากฝีมือ

เฉียนั้วนั้นมองดูไปทางโหยวจิน

โหยวจินพยักหน้าตอบกลับมาเป็นสัญญาณว่าทำตามนั้น

เจ้าโลกโหยวจินนั้นเองก็ไร้หนทางแก้ไขมันเช่นกัน!

เพราะว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้เป็นชายผู้มากชื่อเสียง หากคำสั่งแรกของเขายังโดนขัดแล้วตัวบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คงได้หันมาหมายหัวเขาแทนแน่

ถึงตอนนั้นท่านหวังจั่วคงเป็นคนออกมาจัดการเรื่องราวแน่

เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงต้องตัดใจยอมทิ้งเฉียเจียนไป

ได้เห็นโหยวจินพยักหน้านั้นเฉียเจียนก็ได้แต่นั่งหน้าซีดรู้ตัวแล้วว่าชีวิตของเขาคงจบลงเท่านี้

เฉียนั้วนั้นถอนหายใจยาวออกมา “น้องเฉียเจียน ข้าขอโทษด้วย! นี่มันคือคำสั่งแรกของนายท่าน ข้าไม่อาจจะขัดได้จริงๆ!”

พูดจบเขาก็กระแทกฝ่ามือเข้าที่หัวของเฉียเจียนจนแตกสลายทำลายร่างของเขาไปสิ้นเชิง

ตั้งแต่ต้นจนตายลงนั้นเฉียเจียนไม่กล้าที่จะขัดขืนใดๆ แม้แต่น้อย

หยางชิงที่ยืนมองเรื่องราวอยู่ด้านหลังนั้นแทบจะลุกขึ้นเต้น

นี่มันจะ…สะใจเกินไปแล้ว!

ตัดสินชีวิตของมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้ด้วยคำพูดเดียว!

กว่าที่ฝ่ายทวีปสวรรค์แรกจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดลงได้แต่ละคนนั้นพวกเขาต้องสูญเสียอะไร ไปบ้าง?

ต่อให้มันจะมีค่ายกลป้องกันมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลงได้ง่ายๆ

ด้วยความเป็นเผ่าเลือดนั้นศึกบุกเขตแดนสวรรค์ของพวกเขามันจะทำให้คนบาดเจ็บมากมายแต่คนตายแทบไม่มี

หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดที่สวรรค์แรกสังหารได้มันมีน้อยนิด

กลับกัน ฝ่ายสวรรค์แรกนั้นกลับเสียมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปมากมายให้แก่เผ่าเลือด

แต่วันนี้เย่หยวนนั้นกลับใช้แค่ลมปากสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง!

สุดยอด!

หลังจากที่เผ่าเลือดมันได้รู้ว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองนั้นแท้จริงแล้วเป็นสายลับชาวมนุษย์หยางชิงอยากจะรู้เหลือเกินว่าพวกเขาจะทำหน้าอย่างไร?

แค่คิดมันก็ทำให้ใจเต้นรัวแล้ว!

เฉียนั้วนั้นเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก เฉียเจียนนั้นเป็นลูกน้องคนสนิทของเขาคนหนึ่ง

แต่วันนี้เขากลับต้องสังหารคนสนิทลง!

“เฉียนั้ว เจ้าดูจะไม่พอใจนะ?” เย่หยวนมองหน้าเฉียนั้วพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก

เฉียนั้วรีบเปลี่ยนสีหน้าตอบกลับไปทันที “ฮ…ฮ่าๆ ทำไมข้าจะไม่พอใจกัน? เฉียเจียนมันคิดทำร้ายท่านมันย่อมจะเป็นคนรนหาที่ตายของมันเอง! ข้าน้อยเป็นเกียรตินักที่ได้ช่วยลงมือแทนท่าน!”

เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไป “อย่าเพิ่งมาพูดจาไร้สาระตอนนี้! เฉียนั้วเจ้ามันขยะ! กองทัพสามแสนที่เจ้าควบคุมอยู่นั้นต่างเป็นคนที่เคยเข้าร่วมศึกร้อยบุตรทั้งสิ้น ฝีมือของพวกเขานั้นเหนือล้ำกว่าทหารทั่วๆ ไปเป็นสิบๆ เท่า! แต่เจ้ากลับทำได้แค่นี้ ไม่อาจจะบุกยึดมหานครฉีใต้ลงได้เสียที!”

เฉียนั้วยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ขอรับ นายท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว! นายท่านช่วยรอข้าอีกสักสองสามวันด้วยเถอะ!”

ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดนั้นกลับถูกด่าว่าเป็นขยะ

แต่เขานั้นกลับไม่กล้าเถียงคำใดออกมาต่อหน้าเย่หยวน

เย่หยวนหันหลังหนีพร้อมร้องสั่ง “ไม่ต้อง! สามวันจากนี้เราจะโจมตีมันอีกครั้ง! มหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นเจ้าเป็นคนควบคุม ส่วนกองทัพที่มีพลังต่ำกว่ามหาจักรพรรดินั้นข้าจะเป็นคนสั่งการเอง! ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าเจ้ามันไร้ฝีมือแค่ไหน!”

คำพูดเดียวนั้นมันได้ปลดตำแหน่งแม่ทัพของเฉียนั้วลงทันที

ได้ยินเช่นนั้นเฉียนั้วย่อมจะหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาในใจ

ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของเขานั้น คนอื่นย่อมจะไม่เข้าใจถึงความยากในศึกนี้

ครั้งนี้เขาได้นำกำลังคนเข้าต่อสู้กับเฟิงเสี่ยวเถียนจนต่างฝ่ายต่างเจ็บหนักแต่ก็ไม่มีใครถอย

แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ชนะ

การบุกแต่ละครั้งนั้นพวกเขาจะเห็นแววชนะตลอด แต่กลับไม่เคยชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว

คิดว่าแค่เป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์แล้วมนุษย์มันจะสนใจ?

สงครามนั้นมันไม่ใช่การประลองฝีมือ!

แต่เขาย่อมจะไม่กังวลเรื่องการชิงอำนาจกองทัพของเย่หยวนใดๆ

มันถือว่าเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ

เพราะหากแม้แต่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้นยังพ่ายแพ้กลับมาแล้ว ความพ่ายแพ้ของเขามันก็ย่อมจะดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที

“มีนายท่านคอยดูแลแล้วเผ่าเลือดเราต้องชนะได้แน่! เราจะบุกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ในสามวัน!” เฉียนั้วกล่าวขึ้นมาตอบ

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เฉียนั้ว เจ้าไม่ต้องทำท่าทางเช่นนั้น! เอาล่ะ นำข้าไปดูหน่อยว่ามหานครฉีใต้นี้มันเป็นอย่างไร!”

ไม่ว่าจะมองอย่างไรเย่หยวนนั้นมันก็เหมือนอัจฉริยะหนุ่มที่หลงใหลอำนาจ

ยอดอัจฉริยะเช่นนี้จะตกต่ำลงอย่างมากเพื่อพ่ายแพ้เข้าสักครั้ง

เฉียนั้วนั้นได้แต่กล่าวดูถูกอยู่ในใจ ‘ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็เป็นแค่จักรพรรดิเซียนมิใช่หรือ?’

‘คิดว่าจะทำอะไรได้มากมาย?’

แต่คำพูดของเย่หยวนนั้นมันได้ทำให้คนทั้งเมืองข่ายยักษ์เดือดดาลขึ้นมาพร้อมรบเต็มที่

บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่มากความมั่นใจไม่กลัวการสังหารนั้นคือแม่ทัพที่พวกเขากำลังรอคอย!

ทุกคนนั้นต่างมองว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์จะเปลี่ยนกระแสสงครามได้

เย่หยวนที่เอาชนะคนระดับเดียวกันได้อย่างสิ้นเชิงนั้นย่อมจะทำให้มีหลายคนที่นับถือเขาในเรื่องฝีมือ

ตอนนี้ตัวตนของเย่หยวนนั้นมันเป็นดั่งเทพเจ้าในสายตาคนเมืองข่ายยักษ์ไปแล้ว

ไม่นานจากนั้นเย่หยวนก็ได้พากองทัพร้อยบุตรผ่านเส้นทางมาถึงยังมหานครฉีใต้

ได้เห็นมหานครฉีใต้นั้นเย่หยวนและหยางชิงก็ต้องใจหายวาบไปทันที

เพราะเขานั้นไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าเฟิงเสี่ยวเถียนใช้ลูกไม้ไหนทำไมถึงยังสามารถป้องกันนครที่มีสภาพยับเยิน เช่นนี้อยู่ได้ถึงยี่สิบวัน

นอกเมืองนั้นมันมีแต่ศพนอนเน่าอยู่เต็มไปหมด!

ในเวลาพักเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีใครออกมาเก็บศพคนทั้งหลาย

เพราะว่ายอดฝีมือในเมืองนั้นต่างนอนพักรักษาตัวและเก็บแรงเพื่อรอต่อสู้ในศึกครั้งต่อไป ไม่มีใครอยากจะมาเสียเวลาและกำลังกับการเก็บซากศพ!

มหานครฉีใต้นั้นมีสภาพเป็นนรกอย่างแท้จริงแล้ว

ค่ายกลป้องกันเมืองนั้นเองก็แทบจะไม่เหลือพลังงานใดๆ อีกต่อไป

เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ที่เหลือรอดนั้นต่างกำลังมุ่งมั่นใช้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยซ่อมแซมค่ายกล อย่างสุดกำลัง

เพียงแค่ว่าต่อให้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยจะดีเลิศแค่ไหนมันก็ไม่มีทางจะซ่อมแซมมหาค่ายกลใหญ่ยักษ์ ให้กลับมาสมบูรณ์ได้ในพริบตา

เพราะว่าตอนนี้จอมเทพค่ายกลสวรรค์ส่วนมากได้ตายลงไปแล้วด้วย

ยี่สิบวันที่ผ่านมานี้มันมีแต่ความมืดมนปกคลุมมหานครฉีใต้!

การปรากฏตัวขึ้นของกองทัพเย่หยวนนั้นมันทำให้ทางมหานครฉีใต้ต้องแตกตื่น

เฟิงเสี่ยวเถียนรีบพุ่งตัวขึ้นมายืนมองบนกำแพงเมืองทันทีที่ได้รับรายงาน

แต่เมื่อสายตาของเขาจ้องมองไปเห็นร่างที่เดินนำกองทัพมานั้นเขาก็ต้องผงะไปทันที

ความตกตะลึงในหัวใจของเขานั้นมันมากจนไม่อาจอธิบายได้!

……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2892 ตัดสินชีวิตด้วยคำพูด!
โหยวจินนั้นผงะไปอย่างตกตะลึง!

เขานั้นได้ยินคนพูดกันมาว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้สังหารคนอย่างไม่กะพริบตา

และเมื่อได้เจอกันเข้าวันนี้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ!

‘เฉียเจียนนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แต่เจ้ากลับคิดสังหารเขาด้วยคำพูดเดียว?’

ได้ตำแหน่งใหญ่โตมาถึงคำสั่งแรกนั้นกลับเป็นการสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง?

เก่งแท้ๆ!

“เรื่องนั้น…เฉียเจียนนั้นจะอย่างไรเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์…”

เย่หยวนส่ายหัวสวนกลับไปทันที “เส้นทางสู่เจ้าโลกของมันนั้นได้ปิดลงแล้ว! หากมันตายก็ตายไปจะสนใจทำไม? หรือว่าเผ่าเลือดเรานั้นมันขาดแคลนมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์กันเล่า?”

มันก็จริงที่อาจจะเป็นเช่นนั้นแต่…อย่างไรเขาก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไม่ใช่หรือ?

การจะเลี้ยงดูมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นั้นมันต้องใช้ทรัพยากรมากมายปานใด

แต่ท่าทางโอหังของเย่หยวนนี้มันก็ทำให้โหยวจินไม่พอใจอยู่ไม่น้อย

เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเขานั้นก็เป็นถึงเจ้าโลกคนหนึ่ง!

จะไม่ไว้หน้ากันเลยหรือ?

เฉียเจียนที่นั่งคุกเข่าอยู่นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “นายท่าน ข้า…ข้าผิดไปแล้ว! ข้าขอร้องท่านเถอะ ไว้ชีวิตข้าด้วย! และศึกใหญ่มันก็ใกล้เข้ามาเต็มที ให้ข้าได้ไปช่วยต่อสู้ล่าหัวยอดฝีมือฝ่ายสวรรค์แรกมันจะไม่ดีหรือท่าน?”

‘สังหารพ่อเจ้าสิ!’

‘ที่ข้าจะฆ่าเจ้าลงนี้ก็เพราะกลัวเจ้าไปเป็นกำลังให้กองทัพเผ่าเลือดนั้น!’

“ไม่ต้อง! ถึงมีหรือไม่มีมันก็ไม่สำคัญหรอก เพราะนี่มันก็ผ่านมาได้กว่ายี่สิบวันแล้ว พวกเจ้ากลับยังบุกมหานครฉีใต้ไม่ได้เสียที เจ้ายังคิดจะทำอะไรกันได้อีก? เฉียนั้วมันเป็นลูกน้องเจ้า เจ้าจัดการเองเถอะ” เย่หยวนหันไปสั่งเฉียนั้ว

แท้จริงในใจของเย่หยวนนั้นอยากจะสังหารเฉียนั้วมากกว่า เพราะว่าเขาคนนี้คือตัวปัญหาที่แท้จริง

ยอดฝีมือทวีปสวรรค์แรกที่ตายลงด้วยมือของเขาคนนี้นั้นมากมายเกินจะนับ

แม้ว่าเฉียนั้วนั้นจะพ่ายให้แก่เฟิงเสี่ยวเถียนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขานั้นก็เป็นถึงยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดคนหนึ่ง

หากให้เทียบแล้วเขานั้นคงไม่ได้อ่อนแอกว่าผู้อาวุโสหอสุดแสงแห่งนิกายยาสุดล้ำเลย

ไม่เช่นนั้นแล้วแม่ทัพที่พ่ายแพ้เสียกำลังไปเป็นแสนจะได้กลับมาทำหน้าที่เป็นแม่ทัพใหญ่อีกครั้งหรือ?

ที่เขาทำเช่นนี้ได้มันก็เพราะว่าเผ่าเลือดเห็นว่าเขานั้นมากฝีมือ

เฉียนั้วนั้นมองดูไปทางโหยวจิน

โหยวจินพยักหน้าตอบกลับมาเป็นสัญญาณว่าทำตามนั้น

เจ้าโลกโหยวจินนั้นเองก็ไร้หนทางแก้ไขมันเช่นกัน!

เพราะว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้เป็นชายผู้มากชื่อเสียง หากคำสั่งแรกของเขายังโดนขัดแล้วตัวบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คงได้หันมาหมายหัวเขาแทนแน่

ถึงตอนนั้นท่านหวังจั่วคงเป็นคนออกมาจัดการเรื่องราวแน่

เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงต้องตัดใจยอมทิ้งเฉียเจียนไป

ได้เห็นโหยวจินพยักหน้านั้นเฉียเจียนก็ได้แต่นั่งหน้าซีดรู้ตัวแล้วว่าชีวิตของเขาคงจบลงเท่านี้

เฉียนั้วนั้นถอนหายใจยาวออกมา “น้องเฉียเจียน ข้าขอโทษด้วย! นี่มันคือคำสั่งแรกของนายท่าน ข้าไม่อาจจะขัดได้จริงๆ!”

พูดจบเขาก็กระแทกฝ่ามือเข้าที่หัวของเฉียเจียนจนแตกสลายทำลายร่างของเขาไปสิ้นเชิง

ตั้งแต่ต้นจนตายลงนั้นเฉียเจียนไม่กล้าที่จะขัดขืนใดๆ แม้แต่น้อย

หยางชิงที่ยืนมองเรื่องราวอยู่ด้านหลังนั้นแทบจะลุกขึ้นเต้น

นี่มันจะ…สะใจเกินไปแล้ว!

ตัดสินชีวิตของมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้ด้วยคำพูดเดียว!

กว่าที่ฝ่ายทวีปสวรรค์แรกจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดลงได้แต่ละคนนั้นพวกเขาต้องสูญเสียอะไร ไปบ้าง?

ต่อให้มันจะมีค่ายกลป้องกันมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลงได้ง่ายๆ

ด้วยความเป็นเผ่าเลือดนั้นศึกบุกเขตแดนสวรรค์ของพวกเขามันจะทำให้คนบาดเจ็บมากมายแต่คนตายแทบไม่มี

หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เผ่าเลือดที่สวรรค์แรกสังหารได้มันมีน้อยนิด

กลับกัน ฝ่ายสวรรค์แรกนั้นกลับเสียมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปมากมายให้แก่เผ่าเลือด

แต่วันนี้เย่หยวนนั้นกลับใช้แค่ลมปากสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลง!

สุดยอด!

หลังจากที่เผ่าเลือดมันได้รู้ว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองนั้นแท้จริงแล้วเป็นสายลับชาวมนุษย์หยางชิงอยากจะรู้เหลือเกินว่าพวกเขาจะทำหน้าอย่างไร?

แค่คิดมันก็ทำให้ใจเต้นรัวแล้ว!

เฉียนั้วนั้นเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก เฉียเจียนนั้นเป็นลูกน้องคนสนิทของเขาคนหนึ่ง

แต่วันนี้เขากลับต้องสังหารคนสนิทลง!

“เฉียนั้ว เจ้าดูจะไม่พอใจนะ?” เย่หยวนมองหน้าเฉียนั้วพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก

เฉียนั้วรีบเปลี่ยนสีหน้าตอบกลับไปทันที “ฮ…ฮ่าๆ ทำไมข้าจะไม่พอใจกัน? เฉียเจียนมันคิดทำร้ายท่านมันย่อมจะเป็นคนรนหาที่ตายของมันเอง! ข้าน้อยเป็นเกียรตินักที่ได้ช่วยลงมือแทนท่าน!”

เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไป “อย่าเพิ่งมาพูดจาไร้สาระตอนนี้! เฉียนั้วเจ้ามันขยะ! กองทัพสามแสนที่เจ้าควบคุมอยู่นั้นต่างเป็นคนที่เคยเข้าร่วมศึกร้อยบุตรทั้งสิ้น ฝีมือของพวกเขานั้นเหนือล้ำกว่าทหารทั่วๆ ไปเป็นสิบๆ เท่า! แต่เจ้ากลับทำได้แค่นี้ ไม่อาจจะบุกยึดมหานครฉีใต้ลงได้เสียที!”

เฉียนั้วยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ขอรับ นายท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว! นายท่านช่วยรอข้าอีกสักสองสามวันด้วยเถอะ!”

ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดนั้นกลับถูกด่าว่าเป็นขยะ

แต่เขานั้นกลับไม่กล้าเถียงคำใดออกมาต่อหน้าเย่หยวน

เย่หยวนหันหลังหนีพร้อมร้องสั่ง “ไม่ต้อง! สามวันจากนี้เราจะโจมตีมันอีกครั้ง! มหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นเจ้าเป็นคนควบคุม ส่วนกองทัพที่มีพลังต่ำกว่ามหาจักรพรรดินั้นข้าจะเป็นคนสั่งการเอง! ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่าเจ้ามันไร้ฝีมือแค่ไหน!”

คำพูดเดียวนั้นมันได้ปลดตำแหน่งแม่ทัพของเฉียนั้วลงทันที

ได้ยินเช่นนั้นเฉียนั้วย่อมจะหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาในใจ

ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งของเขานั้น คนอื่นย่อมจะไม่เข้าใจถึงความยากในศึกนี้

ครั้งนี้เขาได้นำกำลังคนเข้าต่อสู้กับเฟิงเสี่ยวเถียนจนต่างฝ่ายต่างเจ็บหนักแต่ก็ไม่มีใครถอย

แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ชนะ

การบุกแต่ละครั้งนั้นพวกเขาจะเห็นแววชนะตลอด แต่กลับไม่เคยชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว

คิดว่าแค่เป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์แล้วมนุษย์มันจะสนใจ?

สงครามนั้นมันไม่ใช่การประลองฝีมือ!

แต่เขาย่อมจะไม่กังวลเรื่องการชิงอำนาจกองทัพของเย่หยวนใดๆ

มันถือว่าเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ

เพราะหากแม้แต่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้นยังพ่ายแพ้กลับมาแล้ว ความพ่ายแพ้ของเขามันก็ย่อมจะดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที

“มีนายท่านคอยดูแลแล้วเผ่าเลือดเราต้องชนะได้แน่! เราจะบุกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ในสามวัน!” เฉียนั้วกล่าวขึ้นมาตอบ

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เฉียนั้ว เจ้าไม่ต้องทำท่าทางเช่นนั้น! เอาล่ะ นำข้าไปดูหน่อยว่ามหานครฉีใต้นี้มันเป็นอย่างไร!”

ไม่ว่าจะมองอย่างไรเย่หยวนนั้นมันก็เหมือนอัจฉริยะหนุ่มที่หลงใหลอำนาจ

ยอดอัจฉริยะเช่นนี้จะตกต่ำลงอย่างมากเพื่อพ่ายแพ้เข้าสักครั้ง

เฉียนั้วนั้นได้แต่กล่าวดูถูกอยู่ในใจ ‘ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็เป็นแค่จักรพรรดิเซียนมิใช่หรือ?’

‘คิดว่าจะทำอะไรได้มากมาย?’

แต่คำพูดของเย่หยวนนั้นมันได้ทำให้คนทั้งเมืองข่ายยักษ์เดือดดาลขึ้นมาพร้อมรบเต็มที่

บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่มากความมั่นใจไม่กลัวการสังหารนั้นคือแม่ทัพที่พวกเขากำลังรอคอย!

ทุกคนนั้นต่างมองว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์จะเปลี่ยนกระแสสงครามได้

เย่หยวนที่เอาชนะคนระดับเดียวกันได้อย่างสิ้นเชิงนั้นย่อมจะทำให้มีหลายคนที่นับถือเขาในเรื่องฝีมือ

ตอนนี้ตัวตนของเย่หยวนนั้นมันเป็นดั่งเทพเจ้าในสายตาคนเมืองข่ายยักษ์ไปแล้ว

ไม่นานจากนั้นเย่หยวนก็ได้พากองทัพร้อยบุตรผ่านเส้นทางมาถึงยังมหานครฉีใต้

ได้เห็นมหานครฉีใต้นั้นเย่หยวนและหยางชิงก็ต้องใจหายวาบไปทันที

เพราะเขานั้นไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าเฟิงเสี่ยวเถียนใช้ลูกไม้ไหนทำไมถึงยังสามารถป้องกันนครที่มีสภาพยับเยิน เช่นนี้อยู่ได้ถึงยี่สิบวัน

นอกเมืองนั้นมันมีแต่ศพนอนเน่าอยู่เต็มไปหมด!

ในเวลาพักเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีใครออกมาเก็บศพคนทั้งหลาย

เพราะว่ายอดฝีมือในเมืองนั้นต่างนอนพักรักษาตัวและเก็บแรงเพื่อรอต่อสู้ในศึกครั้งต่อไป ไม่มีใครอยากจะมาเสียเวลาและกำลังกับการเก็บซากศพ!

มหานครฉีใต้นั้นมีสภาพเป็นนรกอย่างแท้จริงแล้ว

ค่ายกลป้องกันเมืองนั้นเองก็แทบจะไม่เหลือพลังงานใดๆ อีกต่อไป

เหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ที่เหลือรอดนั้นต่างกำลังมุ่งมั่นใช้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยซ่อมแซมค่ายกล อย่างสุดกำลัง

เพียงแค่ว่าต่อให้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยจะดีเลิศแค่ไหนมันก็ไม่มีทางจะซ่อมแซมมหาค่ายกลใหญ่ยักษ์ ให้กลับมาสมบูรณ์ได้ในพริบตา

เพราะว่าตอนนี้จอมเทพค่ายกลสวรรค์ส่วนมากได้ตายลงไปแล้วด้วย

ยี่สิบวันที่ผ่านมานี้มันมีแต่ความมืดมนปกคลุมมหานครฉีใต้!

การปรากฏตัวขึ้นของกองทัพเย่หยวนนั้นมันทำให้ทางมหานครฉีใต้ต้องแตกตื่น

เฟิงเสี่ยวเถียนรีบพุ่งตัวขึ้นมายืนมองบนกำแพงเมืองทันทีที่ได้รับรายงาน

แต่เมื่อสายตาของเขาจ้องมองไปเห็นร่างที่เดินนำกองทัพมานั้นเขาก็ต้องผงะไปทันที

ความตกตะลึงในหัวใจของเขานั้นมันมากจนไม่อาจอธิบายได้!

……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+