Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2893 เป็นขยะหรือไม่?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2893 เป็นขยะหรือไม่? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

น…นั่นมันเย่หยวนมิใช่หรือ?

ทำไมเฉียนั้วถึงได้ทำท่าทางอ่อนน้อมอยู่ข้างกายเย่หยวนเช่นนั้น?

นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!

จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งที่เข้าไปสืบข่าวจากเผ่าเลือดนั้นกลับไต่เต้าจนทำให้แม้แต่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ยังต้องก้มหัวให้ได้?

แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาตัวเองไปจากเดิม

แต่คนอื่นไม่รู้ว่านี่คือเย่หยวนไม่ได้หมายความว่าเฟิงเสี่ยวเถียนจะไม่รู้!

เพราะว่าก่อนที่จะออกเดินทางเย่หยวนได้มาหาเขาด้วยรูปร่างหน้าตานี้

‘หรือว่าเขา…ไม่สิ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ไม่มีทางน่า!’

วินาทีนั้นเองที่ความคิดหนึ่งได้ผุดขึ้นมาในสมองของเฟิงเสี่ยวเถียนจนทำให้เขาต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายใจ

แต่เขานั้นก็ต้องปฏิเสธมันไปอย่างสุดตัว

แต่นอกจากตัวตนนั้นแล้วทำไมเฉียนั้วถึงจะทำท่าทางอ่อนน้อมต่อหน้าเย่หยวนเช่นนี้?

จ…จะบ้าเกินไปแล้ว!

เดิมทีตอนที่ได้ยินข่าวว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นำทัพร้อยบุตรมานั้น เฟิงเสี่ยวเถียนก็ต้องนั่งเครียดอย่างสิ้นหวัง

เพราะแม้ว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้จะไม่ได้เก่งกาจถึงขั้นเป็นภัยต่อเขาแต่ว่าเขานั้นเป็นตัวตนสำคัญในศึกระดับจักรพรรดิทั้งหลาย

กองทัพแค่สองร้อยคนนี้มันเทียบเคียงได้กับกองทัพนับหมื่นๆ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าเลือดยังมีกองทัพอีกสองแสนคอยหนุนคนสองร้อยนี้!

แต่ตอนนี้เย่หยวนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นกลับได้กลายเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเลือดไป!

“นั่นคือบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นหรือ? ดูไม่เท่าไหร่นี่หว่า!”

“อย่าได้ประมาทมันไป! เจ้าเองก็รู้ว่าหลายปีมานี้ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนและร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงของเผ่าเลือดมันสร้างความฉิบหายไว้ ให้พวกเราแค่ไหน! บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกยกย่องเหนือคนพวกนั้นมันย่อมไม่มีทางธรรมดาไปได้!”

“เจ้านี่มันโอหังจริงๆ! มันมาเดินดูมหานครเราอย่างไม่สนใจใคร มันคิดจริงๆ หรือว่าพวกเราไม่กล้าจะออกไปสังหารมัน?”

ในเมืองนั้นเหล่ายอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายต่างมองดูเขาด้วยจิตสังหารรุนแรง

พวกเขานั้นเกลียดชังเผ่าเลือดอย่างมาก!

นอกจากนั้นแล้วคนที่อยู่ตรงหน้านี้ยังเป็นคนสำคัญของเผ่าเลือดอีกด้วย

เย่หยวนนั้นยืนมองภาพตรงหน้าพร้อมกับเอามือไขว่หลังก่อนจะขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “คนในมหานครฉีใต้มันคงเหลือไม่ถึงหมื่นดีแล้วด้วยซ้ำ! เจ้าจะบอกว่าตัวเองตีเมืองเช่นนี้ไม่แตกหรือเฉียนั้ว? เจ้ามันจะขยะเกินไปแล้ว!”

นี่มิใช่ครั้งแรกที่เย่หยวนนั้นเรียกเขาว่าเป็นขยะ เฉียนั้วนั้นแทบอยากจะฉีกปากเย่หยวนออกมา

แต่เขาย่อมไม่กล้าลงมือใด!

เย่หยวนด่า เขาย่อมได้แต่ต้องฟัง

“นายท่านยังไม่เข้าใจว่าพวกมันทั้งหลายนั้นดื้อด้านแค่ไหน เป็นกระดูกที่แข็งเกินกว่าจะเคี้ยวเข้า! หลังจากศึกใหญ่อีกสามวันท่านคงจะได้เห็นถึงความดื้อด้านของพวกมันแน่!” เฉียนั้วนั้นกล่าวขึ้นมาปกป้องตัวเอง

เย่หยวนหันไปมองพร้อมเลิกคิ้ว “หือ เป็นเช่นนั้นจริง?”

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปใกล้มหานครฉีใต้ทันที

คนทั้งสองฝ่ายต่างอ้าปากค้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน!

นี่…เขาคลั่งไปแล้ว?

ก็จริงที่ว่าเผ่าเลือดนั้นเก่งกาจแต่เจ้าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยนั้นมันจะเก่งกาจล้ำสวรรค์ปานนั้นเลยหรือ?

เจ้าคิดว่าตัวเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์แล้วจะเก่งกาจล้ำสวรรค์หรือ?

ขอร้องเถอะ หากเจอมหาจักรพรรดิเข้าแล้วเจ้าคงได้ตายลงในฝ่ามือเดียว

แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่ได้มุ่งหน้าไปหาเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลาย เป้าหมายของเขานั้นคือค่ายหลัก

ค่ายหลักนั้นมันตั้งอยู่ห่างจากค่ายของเหล่ามหาจักรพรรดิมากเพราะว่าหากมหาจักรพรรดิเริ่มต่อสู้แล้ว ทหารพลังบ่มเพาะต่ำๆ คงได้ตายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ได้เห็นเย่หยวนลงมือเช่นนั้นเหล่าคนสวรรค์แรกต่างก็คันไม้คันมือเตรียมตัวออกรับหน้า

แต่เป็นเฟิงเสี่ยวเถียนที่กล่าวขึ้นมาขัด “แม้ว่าสวรรค์แรกเราจะอ่อนแอลงแค่ไหนมันก็ไม่ถึงขั้นจะพ่ายให้จักรพรรดิเซียนคนเดียวได้หรอก! ให้มันได้อวดดีไป ข้าเองก็อยากจะเห็นนักว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นี้มันมีดีแค่ไหน”

ตัวตนของเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นคือผู้ปกครองและแม่ทัพของมหานครฉีใต้

คำพูดของเขานั้นคือคำสั่งทางทหาร ไม่มีใครกล้าขัด

ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าฝีมือของบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้น มันจะสักแค่ไหน

ต้องเป็นอัจฉริยะเช่นใดถึงจะเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ได้?

เฉียนั้วนั้นขนลุกไปทั้งร่างเมื่อได้เห็น เจ้าบ้านี่สมองตายหรือ?

หากบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ตายลงต่อหน้าเขานั้น ต่อให้จะตัดหัวตัวเองกลับไปขอโทษทางเผ่าก็คงไม่มีวันยกโทษให้เขาแน่นอน!

แต่ว่าได้เห็นว่าทางเฟิงเสี่ยวเถียนไม่คิดขยับ ตัวเฉียนั้วเองก็โล่งใจขึ้น

ก่อนจะเข้าไปถึงระยะของค่ายกลนั้นเย่หยวนได้เหลือบตาขึ้นมองหน้าเฟิงเสี่ยวเถียน

ได้เห็นสายตานั้นจิตใจที่หนักอึ้งมากกว่ายี่สิบวันของเฟิงเสี่ยวเถียนมันก็โล่งขึ้นทันที

แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้ใช้เวลากับเย่หยวนอย่างยาวนานใดๆ แต่เขานั้นก็สนิทกับเย่หยวนอย่างมาก

แค่สายตาเดียวนี้มันก็รู้กัน!

เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นส่งสัญญาณบอกว่าตัวเองจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง

เขานั้นไม่รู้ว่าเย่หยวนจะทำอย่างไรถึงจะจัดการกองทัพกว่าสองแสนนั้นได้

แต่เขาเชื่อในตัวเย่หยวน

เพราะเย่หยวนนั้นเป็นได้แม้แต่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ จะยังมีปาฏิหาริย์ใดที่เขาทำไม่ได้อีก?

เรื่องราวเช่นนี้มันเกิดกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการ

แม้แต่เรื่องเช่นนี้ยังเกิดขึ้นได้ เขาจะไม่เชื่อเย่หยวนได้อย่างไร?

ตูม!

พลังงานจากค่ายกลนั้นพุ่งเข้ามาโจมตีเย่หยวนในทันทีอย่างรุนแรง

พลังของมันนั้นทำให้สีหน้าคนทั้งหลายซีดขาวลง

ทิศที่ค่ายหลักตั้งอยู่นั้นมันมีค่ายกลที่ไม่แข็งแกร่งนัก เพราะมันใช้เพื่อทำลายเผ่าเลือดอาณาจักรจักรพรรดิทั้งหลาย

แต่ไม่ว่ามันจะอ่อนแอแค่ไหนมันก็ไม่ถึงขั้นที่ไม่อาจจะสังหารจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งลง

แต่ในตอนนั้นเองที่ร่างของเย่หยวนมันได้เปล่งแสงสีแดงสดขึ้นมาพร้อมด้วยพลังคลื่นกำเนิดที่แผ่ออกมา ปกป้องร่างของเขา

พริบตาต่อมานั้นเย่หยวนก็ทนพลังของค่ายกลเข้ามาถึงค่ายได้

ในค่ายหลักนั้นมันมีทหารมากมายคอยเฝ้าดูสังเกตเรื่องราวเมื่อเห็นเย่หยวนพวกเขาก็พุ่งตัวเข้ามาโจมตีทันที

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปอย่างเย้ยหยัน “แค่มดปลวกก็คิดมาหยุดข้าลงหรือ! ตายไปเสียเถอะ!”

ฟุบฟุบฟุบ!

มือของเย่หยวนนั้นมันได้ยิงลำแสงสีเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้น รวมไปถึงจักรพรรดิเที่ยงบางคนต่างตายลงสิ้นเมื่อสัมผัสพลังนั้น!

พริบตาเดียวนี้เย่หยวนก็ได้ ‘สังหาร’ คนไปนับร้อย!

เฟิงเสี่ยวเถียนอด ‘หน้าเปลี่ยนสี’ ไม่ได้เมื่อได้เห็นก่อนจะร้องลั่นขึ้นมา “ไอ้เด็กเวรเผ่าเลือด ข้าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ!”

แต่ว่าในเวลาเดียวกันนั้นเองที่เย่หยวนได้ถอยกลับออกไปจากระยะของค่ายกลและกลับไปยังกองทัพของตัวเอง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เผ่าเลือดทั้งกองทัพตกสู่ความเงียบงัน!

นี่มัน…จะเก่งไปแล้ว!

บุกเข้าค่ายสวรรค์แรกสังหารคนนับร้อยและกลับออกมาอย่างไม่มีบาดแผลใด!

นี่มันต้องเก่งกาจถึงขั้นไหนกัน?

สายตาของคนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องหันมามองหน้าเฉียนั้ว

ไหนว่าเจ้ามันดื้อด้านกัดไม่เข้า?

คำพูดเจ้ายังไม่ทันจางหายนายท่านก็เข้าไปบุกสังหารและกลับมาได้ในอึดใจ

การตบหน้าครั้งนี้ช่างแสนรุนแรง!

คนทั้งหลายนั้นแทบจะได้ยินเสียงตบหน้าขึ้นมาในหัว

เย่หยวนหันมามองหน้าเฉียนั้วพร้อมบอก “นี่คือดื้อด้านเคี้ยวไม่เข้าที่เจ้าบอกหรือ?”

เฉียนั้วนั้นต้องทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “น…นายท่านเก่งกาจยิ่ง ไร้ใครเทียบเคียง เฉียนั้วอับอายยิ่งนัก!”

เย่หยวนหัวเราะขึ้น “อับอาย? ข้าบอกแล้วว่าเจ้านั้นเป็นขยะ เจ้ากลับทำหน้าตาไม่ยอมรับ ทีนี้จะยอมรับว่าเป็นขยะได้หรือยัง?”

“ข…ข้าเป็นขยะ!” เฉียนั้วนั้นแทบอยากจะมุดดินหนีให้มันพ้นๆ ไป

จะน่าอายเกินไปแล้ว!

เฉียนั้วคนนี้นำกองทัพนับแสนๆ บุกครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่เคยได้ชัดมานานแสนนาน

แต่เมื่อท่านบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์มาถึงนั้น เขากลับบุกเข้าไปด้วยตัวคนเดียวได้!

แม้ว่ามันจะเป็นแค่การเข้าไปลองเชิงสังหารศัตรูและหนีกลับออกมาแต่มันก็มากพอจะใช้ตบหน้าเฉียนั้วให้หัน!

เฉียนั้วคนนี้ทำได้หรือไม่?

สวรรค์แรกแข็งแกร่ง สวรรค์แรกดื้อด้าน สวรรค์แรกเคี้ยวไม่เข้า

ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปแล้ว!

สุดท้ายแล้วเขาก็แค่ขยะ!

“นายท่านเก่งกาจล้ำ!”

“นายท่านมีฝีมือเหนือล้ำฟ้าดิน!”

“เผ่าเลือดจะขึ้นปกครองสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดได้แน่แล้วคราวนี้!”

เสียงโห่ร้องชื่นชมเย่หยวนดังขึ้นมาจากด้านหลัง

การแสดงฝีมือของเย่หยวนมันยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาเพิ่มพูน

เหล่าทหารเผ่าเลือดต่างเคารพนับถือเขาสุดใจ

…………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2893 เป็นขยะหรือไม่?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2893 เป็นขยะหรือไม่? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

น…นั่นมันเย่หยวนมิใช่หรือ?

ทำไมเฉียนั้วถึงได้ทำท่าทางอ่อนน้อมอยู่ข้างกายเย่หยวนเช่นนั้น?

นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!

จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งที่เข้าไปสืบข่าวจากเผ่าเลือดนั้นกลับไต่เต้าจนทำให้แม้แต่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ยังต้องก้มหัวให้ได้?

แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาตัวเองไปจากเดิม

แต่คนอื่นไม่รู้ว่านี่คือเย่หยวนไม่ได้หมายความว่าเฟิงเสี่ยวเถียนจะไม่รู้!

เพราะว่าก่อนที่จะออกเดินทางเย่หยวนได้มาหาเขาด้วยรูปร่างหน้าตานี้

‘หรือว่าเขา…ไม่สิ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ไม่มีทางน่า!’

วินาทีนั้นเองที่ความคิดหนึ่งได้ผุดขึ้นมาในสมองของเฟิงเสี่ยวเถียนจนทำให้เขาต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายใจ

แต่เขานั้นก็ต้องปฏิเสธมันไปอย่างสุดตัว

แต่นอกจากตัวตนนั้นแล้วทำไมเฉียนั้วถึงจะทำท่าทางอ่อนน้อมต่อหน้าเย่หยวนเช่นนี้?

จ…จะบ้าเกินไปแล้ว!

เดิมทีตอนที่ได้ยินข่าวว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นำทัพร้อยบุตรมานั้น เฟิงเสี่ยวเถียนก็ต้องนั่งเครียดอย่างสิ้นหวัง

เพราะแม้ว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้จะไม่ได้เก่งกาจถึงขั้นเป็นภัยต่อเขาแต่ว่าเขานั้นเป็นตัวตนสำคัญในศึกระดับจักรพรรดิทั้งหลาย

กองทัพแค่สองร้อยคนนี้มันเทียบเคียงได้กับกองทัพนับหมื่นๆ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าเลือดยังมีกองทัพอีกสองแสนคอยหนุนคนสองร้อยนี้!

แต่ตอนนี้เย่หยวนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นกลับได้กลายเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเลือดไป!

“นั่นคือบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นหรือ? ดูไม่เท่าไหร่นี่หว่า!”

“อย่าได้ประมาทมันไป! เจ้าเองก็รู้ว่าหลายปีมานี้ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนและร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงของเผ่าเลือดมันสร้างความฉิบหายไว้ ให้พวกเราแค่ไหน! บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกยกย่องเหนือคนพวกนั้นมันย่อมไม่มีทางธรรมดาไปได้!”

“เจ้านี่มันโอหังจริงๆ! มันมาเดินดูมหานครเราอย่างไม่สนใจใคร มันคิดจริงๆ หรือว่าพวกเราไม่กล้าจะออกไปสังหารมัน?”

ในเมืองนั้นเหล่ายอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายต่างมองดูเขาด้วยจิตสังหารรุนแรง

พวกเขานั้นเกลียดชังเผ่าเลือดอย่างมาก!

นอกจากนั้นแล้วคนที่อยู่ตรงหน้านี้ยังเป็นคนสำคัญของเผ่าเลือดอีกด้วย

เย่หยวนนั้นยืนมองภาพตรงหน้าพร้อมกับเอามือไขว่หลังก่อนจะขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “คนในมหานครฉีใต้มันคงเหลือไม่ถึงหมื่นดีแล้วด้วยซ้ำ! เจ้าจะบอกว่าตัวเองตีเมืองเช่นนี้ไม่แตกหรือเฉียนั้ว? เจ้ามันจะขยะเกินไปแล้ว!”

นี่มิใช่ครั้งแรกที่เย่หยวนนั้นเรียกเขาว่าเป็นขยะ เฉียนั้วนั้นแทบอยากจะฉีกปากเย่หยวนออกมา

แต่เขาย่อมไม่กล้าลงมือใด!

เย่หยวนด่า เขาย่อมได้แต่ต้องฟัง

“นายท่านยังไม่เข้าใจว่าพวกมันทั้งหลายนั้นดื้อด้านแค่ไหน เป็นกระดูกที่แข็งเกินกว่าจะเคี้ยวเข้า! หลังจากศึกใหญ่อีกสามวันท่านคงจะได้เห็นถึงความดื้อด้านของพวกมันแน่!” เฉียนั้วนั้นกล่าวขึ้นมาปกป้องตัวเอง

เย่หยวนหันไปมองพร้อมเลิกคิ้ว “หือ เป็นเช่นนั้นจริง?”

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปใกล้มหานครฉีใต้ทันที

คนทั้งสองฝ่ายต่างอ้าปากค้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน!

นี่…เขาคลั่งไปแล้ว?

ก็จริงที่ว่าเผ่าเลือดนั้นเก่งกาจแต่เจ้าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยนั้นมันจะเก่งกาจล้ำสวรรค์ปานนั้นเลยหรือ?

เจ้าคิดว่าตัวเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์แล้วจะเก่งกาจล้ำสวรรค์หรือ?

ขอร้องเถอะ หากเจอมหาจักรพรรดิเข้าแล้วเจ้าคงได้ตายลงในฝ่ามือเดียว

แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่ได้มุ่งหน้าไปหาเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลาย เป้าหมายของเขานั้นคือค่ายหลัก

ค่ายหลักนั้นมันตั้งอยู่ห่างจากค่ายของเหล่ามหาจักรพรรดิมากเพราะว่าหากมหาจักรพรรดิเริ่มต่อสู้แล้ว ทหารพลังบ่มเพาะต่ำๆ คงได้ตายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ได้เห็นเย่หยวนลงมือเช่นนั้นเหล่าคนสวรรค์แรกต่างก็คันไม้คันมือเตรียมตัวออกรับหน้า

แต่เป็นเฟิงเสี่ยวเถียนที่กล่าวขึ้นมาขัด “แม้ว่าสวรรค์แรกเราจะอ่อนแอลงแค่ไหนมันก็ไม่ถึงขั้นจะพ่ายให้จักรพรรดิเซียนคนเดียวได้หรอก! ให้มันได้อวดดีไป ข้าเองก็อยากจะเห็นนักว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นี้มันมีดีแค่ไหน”

ตัวตนของเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นคือผู้ปกครองและแม่ทัพของมหานครฉีใต้

คำพูดของเขานั้นคือคำสั่งทางทหาร ไม่มีใครกล้าขัด

ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าฝีมือของบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้น มันจะสักแค่ไหน

ต้องเป็นอัจฉริยะเช่นใดถึงจะเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ได้?

เฉียนั้วนั้นขนลุกไปทั้งร่างเมื่อได้เห็น เจ้าบ้านี่สมองตายหรือ?

หากบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ตายลงต่อหน้าเขานั้น ต่อให้จะตัดหัวตัวเองกลับไปขอโทษทางเผ่าก็คงไม่มีวันยกโทษให้เขาแน่นอน!

แต่ว่าได้เห็นว่าทางเฟิงเสี่ยวเถียนไม่คิดขยับ ตัวเฉียนั้วเองก็โล่งใจขึ้น

ก่อนจะเข้าไปถึงระยะของค่ายกลนั้นเย่หยวนได้เหลือบตาขึ้นมองหน้าเฟิงเสี่ยวเถียน

ได้เห็นสายตานั้นจิตใจที่หนักอึ้งมากกว่ายี่สิบวันของเฟิงเสี่ยวเถียนมันก็โล่งขึ้นทันที

แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้ใช้เวลากับเย่หยวนอย่างยาวนานใดๆ แต่เขานั้นก็สนิทกับเย่หยวนอย่างมาก

แค่สายตาเดียวนี้มันก็รู้กัน!

เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นส่งสัญญาณบอกว่าตัวเองจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง

เขานั้นไม่รู้ว่าเย่หยวนจะทำอย่างไรถึงจะจัดการกองทัพกว่าสองแสนนั้นได้

แต่เขาเชื่อในตัวเย่หยวน

เพราะเย่หยวนนั้นเป็นได้แม้แต่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ จะยังมีปาฏิหาริย์ใดที่เขาทำไม่ได้อีก?

เรื่องราวเช่นนี้มันเกิดกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการ

แม้แต่เรื่องเช่นนี้ยังเกิดขึ้นได้ เขาจะไม่เชื่อเย่หยวนได้อย่างไร?

ตูม!

พลังงานจากค่ายกลนั้นพุ่งเข้ามาโจมตีเย่หยวนในทันทีอย่างรุนแรง

พลังของมันนั้นทำให้สีหน้าคนทั้งหลายซีดขาวลง

ทิศที่ค่ายหลักตั้งอยู่นั้นมันมีค่ายกลที่ไม่แข็งแกร่งนัก เพราะมันใช้เพื่อทำลายเผ่าเลือดอาณาจักรจักรพรรดิทั้งหลาย

แต่ไม่ว่ามันจะอ่อนแอแค่ไหนมันก็ไม่ถึงขั้นที่ไม่อาจจะสังหารจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งลง

แต่ในตอนนั้นเองที่ร่างของเย่หยวนมันได้เปล่งแสงสีแดงสดขึ้นมาพร้อมด้วยพลังคลื่นกำเนิดที่แผ่ออกมา ปกป้องร่างของเขา

พริบตาต่อมานั้นเย่หยวนก็ทนพลังของค่ายกลเข้ามาถึงค่ายได้

ในค่ายหลักนั้นมันมีทหารมากมายคอยเฝ้าดูสังเกตเรื่องราวเมื่อเห็นเย่หยวนพวกเขาก็พุ่งตัวเข้ามาโจมตีทันที

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปอย่างเย้ยหยัน “แค่มดปลวกก็คิดมาหยุดข้าลงหรือ! ตายไปเสียเถอะ!”

ฟุบฟุบฟุบ!

มือของเย่หยวนนั้นมันได้ยิงลำแสงสีเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้น รวมไปถึงจักรพรรดิเที่ยงบางคนต่างตายลงสิ้นเมื่อสัมผัสพลังนั้น!

พริบตาเดียวนี้เย่หยวนก็ได้ ‘สังหาร’ คนไปนับร้อย!

เฟิงเสี่ยวเถียนอด ‘หน้าเปลี่ยนสี’ ไม่ได้เมื่อได้เห็นก่อนจะร้องลั่นขึ้นมา “ไอ้เด็กเวรเผ่าเลือด ข้าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ!”

แต่ว่าในเวลาเดียวกันนั้นเองที่เย่หยวนได้ถอยกลับออกไปจากระยะของค่ายกลและกลับไปยังกองทัพของตัวเอง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เผ่าเลือดทั้งกองทัพตกสู่ความเงียบงัน!

นี่มัน…จะเก่งไปแล้ว!

บุกเข้าค่ายสวรรค์แรกสังหารคนนับร้อยและกลับออกมาอย่างไม่มีบาดแผลใด!

นี่มันต้องเก่งกาจถึงขั้นไหนกัน?

สายตาของคนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องหันมามองหน้าเฉียนั้ว

ไหนว่าเจ้ามันดื้อด้านกัดไม่เข้า?

คำพูดเจ้ายังไม่ทันจางหายนายท่านก็เข้าไปบุกสังหารและกลับมาได้ในอึดใจ

การตบหน้าครั้งนี้ช่างแสนรุนแรง!

คนทั้งหลายนั้นแทบจะได้ยินเสียงตบหน้าขึ้นมาในหัว

เย่หยวนหันมามองหน้าเฉียนั้วพร้อมบอก “นี่คือดื้อด้านเคี้ยวไม่เข้าที่เจ้าบอกหรือ?”

เฉียนั้วนั้นต้องทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “น…นายท่านเก่งกาจยิ่ง ไร้ใครเทียบเคียง เฉียนั้วอับอายยิ่งนัก!”

เย่หยวนหัวเราะขึ้น “อับอาย? ข้าบอกแล้วว่าเจ้านั้นเป็นขยะ เจ้ากลับทำหน้าตาไม่ยอมรับ ทีนี้จะยอมรับว่าเป็นขยะได้หรือยัง?”

“ข…ข้าเป็นขยะ!” เฉียนั้วนั้นแทบอยากจะมุดดินหนีให้มันพ้นๆ ไป

จะน่าอายเกินไปแล้ว!

เฉียนั้วคนนี้นำกองทัพนับแสนๆ บุกครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่เคยได้ชัดมานานแสนนาน

แต่เมื่อท่านบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์มาถึงนั้น เขากลับบุกเข้าไปด้วยตัวคนเดียวได้!

แม้ว่ามันจะเป็นแค่การเข้าไปลองเชิงสังหารศัตรูและหนีกลับออกมาแต่มันก็มากพอจะใช้ตบหน้าเฉียนั้วให้หัน!

เฉียนั้วคนนี้ทำได้หรือไม่?

สวรรค์แรกแข็งแกร่ง สวรรค์แรกดื้อด้าน สวรรค์แรกเคี้ยวไม่เข้า

ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปแล้ว!

สุดท้ายแล้วเขาก็แค่ขยะ!

“นายท่านเก่งกาจล้ำ!”

“นายท่านมีฝีมือเหนือล้ำฟ้าดิน!”

“เผ่าเลือดจะขึ้นปกครองสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดได้แน่แล้วคราวนี้!”

เสียงโห่ร้องชื่นชมเย่หยวนดังขึ้นมาจากด้านหลัง

การแสดงฝีมือของเย่หยวนมันยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาเพิ่มพูน

เหล่าทหารเผ่าเลือดต่างเคารพนับถือเขาสุดใจ

…………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2893 เป็นขยะหรือไม่?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2893 เป็นขยะหรือไม่? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

น…นั่นมันเย่หยวนมิใช่หรือ?

ทำไมเฉียนั้วถึงได้ทำท่าทางอ่อนน้อมอยู่ข้างกายเย่หยวนเช่นนั้น?

นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!

จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งที่เข้าไปสืบข่าวจากเผ่าเลือดนั้นกลับไต่เต้าจนทำให้แม้แต่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ยังต้องก้มหัวให้ได้?

แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาตัวเองไปจากเดิม

แต่คนอื่นไม่รู้ว่านี่คือเย่หยวนไม่ได้หมายความว่าเฟิงเสี่ยวเถียนจะไม่รู้!

เพราะว่าก่อนที่จะออกเดินทางเย่หยวนได้มาหาเขาด้วยรูปร่างหน้าตานี้

‘หรือว่าเขา…ไม่สิ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ไม่มีทางน่า!’

วินาทีนั้นเองที่ความคิดหนึ่งได้ผุดขึ้นมาในสมองของเฟิงเสี่ยวเถียนจนทำให้เขาต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายใจ

แต่เขานั้นก็ต้องปฏิเสธมันไปอย่างสุดตัว

แต่นอกจากตัวตนนั้นแล้วทำไมเฉียนั้วถึงจะทำท่าทางอ่อนน้อมต่อหน้าเย่หยวนเช่นนี้?

จ…จะบ้าเกินไปแล้ว!

เดิมทีตอนที่ได้ยินข่าวว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นำทัพร้อยบุตรมานั้น เฟิงเสี่ยวเถียนก็ต้องนั่งเครียดอย่างสิ้นหวัง

เพราะแม้ว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้จะไม่ได้เก่งกาจถึงขั้นเป็นภัยต่อเขาแต่ว่าเขานั้นเป็นตัวตนสำคัญในศึกระดับจักรพรรดิทั้งหลาย

กองทัพแค่สองร้อยคนนี้มันเทียบเคียงได้กับกองทัพนับหมื่นๆ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าเลือดยังมีกองทัพอีกสองแสนคอยหนุนคนสองร้อยนี้!

แต่ตอนนี้เย่หยวนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นกลับได้กลายเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเลือดไป!

“นั่นคือบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นหรือ? ดูไม่เท่าไหร่นี่หว่า!”

“อย่าได้ประมาทมันไป! เจ้าเองก็รู้ว่าหลายปีมานี้ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนและร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงของเผ่าเลือดมันสร้างความฉิบหายไว้ ให้พวกเราแค่ไหน! บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกยกย่องเหนือคนพวกนั้นมันย่อมไม่มีทางธรรมดาไปได้!”

“เจ้านี่มันโอหังจริงๆ! มันมาเดินดูมหานครเราอย่างไม่สนใจใคร มันคิดจริงๆ หรือว่าพวกเราไม่กล้าจะออกไปสังหารมัน?”

ในเมืองนั้นเหล่ายอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายต่างมองดูเขาด้วยจิตสังหารรุนแรง

พวกเขานั้นเกลียดชังเผ่าเลือดอย่างมาก!

นอกจากนั้นแล้วคนที่อยู่ตรงหน้านี้ยังเป็นคนสำคัญของเผ่าเลือดอีกด้วย

เย่หยวนนั้นยืนมองภาพตรงหน้าพร้อมกับเอามือไขว่หลังก่อนจะขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “คนในมหานครฉีใต้มันคงเหลือไม่ถึงหมื่นดีแล้วด้วยซ้ำ! เจ้าจะบอกว่าตัวเองตีเมืองเช่นนี้ไม่แตกหรือเฉียนั้ว? เจ้ามันจะขยะเกินไปแล้ว!”

นี่มิใช่ครั้งแรกที่เย่หยวนนั้นเรียกเขาว่าเป็นขยะ เฉียนั้วนั้นแทบอยากจะฉีกปากเย่หยวนออกมา

แต่เขาย่อมไม่กล้าลงมือใด!

เย่หยวนด่า เขาย่อมได้แต่ต้องฟัง

“นายท่านยังไม่เข้าใจว่าพวกมันทั้งหลายนั้นดื้อด้านแค่ไหน เป็นกระดูกที่แข็งเกินกว่าจะเคี้ยวเข้า! หลังจากศึกใหญ่อีกสามวันท่านคงจะได้เห็นถึงความดื้อด้านของพวกมันแน่!” เฉียนั้วนั้นกล่าวขึ้นมาปกป้องตัวเอง

เย่หยวนหันไปมองพร้อมเลิกคิ้ว “หือ เป็นเช่นนั้นจริง?”

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปใกล้มหานครฉีใต้ทันที

คนทั้งสองฝ่ายต่างอ้าปากค้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน!

นี่…เขาคลั่งไปแล้ว?

ก็จริงที่ว่าเผ่าเลือดนั้นเก่งกาจแต่เจ้าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยนั้นมันจะเก่งกาจล้ำสวรรค์ปานนั้นเลยหรือ?

เจ้าคิดว่าตัวเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์แล้วจะเก่งกาจล้ำสวรรค์หรือ?

ขอร้องเถอะ หากเจอมหาจักรพรรดิเข้าแล้วเจ้าคงได้ตายลงในฝ่ามือเดียว

แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่ได้มุ่งหน้าไปหาเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลาย เป้าหมายของเขานั้นคือค่ายหลัก

ค่ายหลักนั้นมันตั้งอยู่ห่างจากค่ายของเหล่ามหาจักรพรรดิมากเพราะว่าหากมหาจักรพรรดิเริ่มต่อสู้แล้ว ทหารพลังบ่มเพาะต่ำๆ คงได้ตายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ได้เห็นเย่หยวนลงมือเช่นนั้นเหล่าคนสวรรค์แรกต่างก็คันไม้คันมือเตรียมตัวออกรับหน้า

แต่เป็นเฟิงเสี่ยวเถียนที่กล่าวขึ้นมาขัด “แม้ว่าสวรรค์แรกเราจะอ่อนแอลงแค่ไหนมันก็ไม่ถึงขั้นจะพ่ายให้จักรพรรดิเซียนคนเดียวได้หรอก! ให้มันได้อวดดีไป ข้าเองก็อยากจะเห็นนักว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นี้มันมีดีแค่ไหน”

ตัวตนของเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นคือผู้ปกครองและแม่ทัพของมหานครฉีใต้

คำพูดของเขานั้นคือคำสั่งทางทหาร ไม่มีใครกล้าขัด

ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าฝีมือของบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้น มันจะสักแค่ไหน

ต้องเป็นอัจฉริยะเช่นใดถึงจะเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ได้?

เฉียนั้วนั้นขนลุกไปทั้งร่างเมื่อได้เห็น เจ้าบ้านี่สมองตายหรือ?

หากบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ตายลงต่อหน้าเขานั้น ต่อให้จะตัดหัวตัวเองกลับไปขอโทษทางเผ่าก็คงไม่มีวันยกโทษให้เขาแน่นอน!

แต่ว่าได้เห็นว่าทางเฟิงเสี่ยวเถียนไม่คิดขยับ ตัวเฉียนั้วเองก็โล่งใจขึ้น

ก่อนจะเข้าไปถึงระยะของค่ายกลนั้นเย่หยวนได้เหลือบตาขึ้นมองหน้าเฟิงเสี่ยวเถียน

ได้เห็นสายตานั้นจิตใจที่หนักอึ้งมากกว่ายี่สิบวันของเฟิงเสี่ยวเถียนมันก็โล่งขึ้นทันที

แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้ใช้เวลากับเย่หยวนอย่างยาวนานใดๆ แต่เขานั้นก็สนิทกับเย่หยวนอย่างมาก

แค่สายตาเดียวนี้มันก็รู้กัน!

เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นส่งสัญญาณบอกว่าตัวเองจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง

เขานั้นไม่รู้ว่าเย่หยวนจะทำอย่างไรถึงจะจัดการกองทัพกว่าสองแสนนั้นได้

แต่เขาเชื่อในตัวเย่หยวน

เพราะเย่หยวนนั้นเป็นได้แม้แต่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ จะยังมีปาฏิหาริย์ใดที่เขาทำไม่ได้อีก?

เรื่องราวเช่นนี้มันเกิดกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการ

แม้แต่เรื่องเช่นนี้ยังเกิดขึ้นได้ เขาจะไม่เชื่อเย่หยวนได้อย่างไร?

ตูม!

พลังงานจากค่ายกลนั้นพุ่งเข้ามาโจมตีเย่หยวนในทันทีอย่างรุนแรง

พลังของมันนั้นทำให้สีหน้าคนทั้งหลายซีดขาวลง

ทิศที่ค่ายหลักตั้งอยู่นั้นมันมีค่ายกลที่ไม่แข็งแกร่งนัก เพราะมันใช้เพื่อทำลายเผ่าเลือดอาณาจักรจักรพรรดิทั้งหลาย

แต่ไม่ว่ามันจะอ่อนแอแค่ไหนมันก็ไม่ถึงขั้นที่ไม่อาจจะสังหารจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งลง

แต่ในตอนนั้นเองที่ร่างของเย่หยวนมันได้เปล่งแสงสีแดงสดขึ้นมาพร้อมด้วยพลังคลื่นกำเนิดที่แผ่ออกมา ปกป้องร่างของเขา

พริบตาต่อมานั้นเย่หยวนก็ทนพลังของค่ายกลเข้ามาถึงค่ายได้

ในค่ายหลักนั้นมันมีทหารมากมายคอยเฝ้าดูสังเกตเรื่องราวเมื่อเห็นเย่หยวนพวกเขาก็พุ่งตัวเข้ามาโจมตีทันที

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปอย่างเย้ยหยัน “แค่มดปลวกก็คิดมาหยุดข้าลงหรือ! ตายไปเสียเถอะ!”

ฟุบฟุบฟุบ!

มือของเย่หยวนนั้นมันได้ยิงลำแสงสีเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้น รวมไปถึงจักรพรรดิเที่ยงบางคนต่างตายลงสิ้นเมื่อสัมผัสพลังนั้น!

พริบตาเดียวนี้เย่หยวนก็ได้ ‘สังหาร’ คนไปนับร้อย!

เฟิงเสี่ยวเถียนอด ‘หน้าเปลี่ยนสี’ ไม่ได้เมื่อได้เห็นก่อนจะร้องลั่นขึ้นมา “ไอ้เด็กเวรเผ่าเลือด ข้าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ!”

แต่ว่าในเวลาเดียวกันนั้นเองที่เย่หยวนได้ถอยกลับออกไปจากระยะของค่ายกลและกลับไปยังกองทัพของตัวเอง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เผ่าเลือดทั้งกองทัพตกสู่ความเงียบงัน!

นี่มัน…จะเก่งไปแล้ว!

บุกเข้าค่ายสวรรค์แรกสังหารคนนับร้อยและกลับออกมาอย่างไม่มีบาดแผลใด!

นี่มันต้องเก่งกาจถึงขั้นไหนกัน?

สายตาของคนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องหันมามองหน้าเฉียนั้ว

ไหนว่าเจ้ามันดื้อด้านกัดไม่เข้า?

คำพูดเจ้ายังไม่ทันจางหายนายท่านก็เข้าไปบุกสังหารและกลับมาได้ในอึดใจ

การตบหน้าครั้งนี้ช่างแสนรุนแรง!

คนทั้งหลายนั้นแทบจะได้ยินเสียงตบหน้าขึ้นมาในหัว

เย่หยวนหันมามองหน้าเฉียนั้วพร้อมบอก “นี่คือดื้อด้านเคี้ยวไม่เข้าที่เจ้าบอกหรือ?”

เฉียนั้วนั้นต้องทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “น…นายท่านเก่งกาจยิ่ง ไร้ใครเทียบเคียง เฉียนั้วอับอายยิ่งนัก!”

เย่หยวนหัวเราะขึ้น “อับอาย? ข้าบอกแล้วว่าเจ้านั้นเป็นขยะ เจ้ากลับทำหน้าตาไม่ยอมรับ ทีนี้จะยอมรับว่าเป็นขยะได้หรือยัง?”

“ข…ข้าเป็นขยะ!” เฉียนั้วนั้นแทบอยากจะมุดดินหนีให้มันพ้นๆ ไป

จะน่าอายเกินไปแล้ว!

เฉียนั้วคนนี้นำกองทัพนับแสนๆ บุกครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่เคยได้ชัดมานานแสนนาน

แต่เมื่อท่านบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์มาถึงนั้น เขากลับบุกเข้าไปด้วยตัวคนเดียวได้!

แม้ว่ามันจะเป็นแค่การเข้าไปลองเชิงสังหารศัตรูและหนีกลับออกมาแต่มันก็มากพอจะใช้ตบหน้าเฉียนั้วให้หัน!

เฉียนั้วคนนี้ทำได้หรือไม่?

สวรรค์แรกแข็งแกร่ง สวรรค์แรกดื้อด้าน สวรรค์แรกเคี้ยวไม่เข้า

ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปแล้ว!

สุดท้ายแล้วเขาก็แค่ขยะ!

“นายท่านเก่งกาจล้ำ!”

“นายท่านมีฝีมือเหนือล้ำฟ้าดิน!”

“เผ่าเลือดจะขึ้นปกครองสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดได้แน่แล้วคราวนี้!”

เสียงโห่ร้องชื่นชมเย่หยวนดังขึ้นมาจากด้านหลัง

การแสดงฝีมือของเย่หยวนมันยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาเพิ่มพูน

เหล่าทหารเผ่าเลือดต่างเคารพนับถือเขาสุดใจ

…………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2893 เป็นขยะหรือไม่?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2893 เป็นขยะหรือไม่? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

น…นั่นมันเย่หยวนมิใช่หรือ?

ทำไมเฉียนั้วถึงได้ทำท่าทางอ่อนน้อมอยู่ข้างกายเย่หยวนเช่นนั้น?

นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!

จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งที่เข้าไปสืบข่าวจากเผ่าเลือดนั้นกลับไต่เต้าจนทำให้แม้แต่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ยังต้องก้มหัวให้ได้?

แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาตัวเองไปจากเดิม

แต่คนอื่นไม่รู้ว่านี่คือเย่หยวนไม่ได้หมายความว่าเฟิงเสี่ยวเถียนจะไม่รู้!

เพราะว่าก่อนที่จะออกเดินทางเย่หยวนได้มาหาเขาด้วยรูปร่างหน้าตานี้

‘หรือว่าเขา…ไม่สิ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ไม่มีทางน่า!’

วินาทีนั้นเองที่ความคิดหนึ่งได้ผุดขึ้นมาในสมองของเฟิงเสี่ยวเถียนจนทำให้เขาต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายใจ

แต่เขานั้นก็ต้องปฏิเสธมันไปอย่างสุดตัว

แต่นอกจากตัวตนนั้นแล้วทำไมเฉียนั้วถึงจะทำท่าทางอ่อนน้อมต่อหน้าเย่หยวนเช่นนี้?

จ…จะบ้าเกินไปแล้ว!

เดิมทีตอนที่ได้ยินข่าวว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นำทัพร้อยบุตรมานั้น เฟิงเสี่ยวเถียนก็ต้องนั่งเครียดอย่างสิ้นหวัง

เพราะแม้ว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์คนนี้จะไม่ได้เก่งกาจถึงขั้นเป็นภัยต่อเขาแต่ว่าเขานั้นเป็นตัวตนสำคัญในศึกระดับจักรพรรดิทั้งหลาย

กองทัพแค่สองร้อยคนนี้มันเทียบเคียงได้กับกองทัพนับหมื่นๆ!

ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าเลือดยังมีกองทัพอีกสองแสนคอยหนุนคนสองร้อยนี้!

แต่ตอนนี้เย่หยวนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นกลับได้กลายเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเลือดไป!

“นั่นคือบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นหรือ? ดูไม่เท่าไหร่นี่หว่า!”

“อย่าได้ประมาทมันไป! เจ้าเองก็รู้ว่าหลายปีมานี้ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนและร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงของเผ่าเลือดมันสร้างความฉิบหายไว้ ให้พวกเราแค่ไหน! บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกยกย่องเหนือคนพวกนั้นมันย่อมไม่มีทางธรรมดาไปได้!”

“เจ้านี่มันโอหังจริงๆ! มันมาเดินดูมหานครเราอย่างไม่สนใจใคร มันคิดจริงๆ หรือว่าพวกเราไม่กล้าจะออกไปสังหารมัน?”

ในเมืองนั้นเหล่ายอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายต่างมองดูเขาด้วยจิตสังหารรุนแรง

พวกเขานั้นเกลียดชังเผ่าเลือดอย่างมาก!

นอกจากนั้นแล้วคนที่อยู่ตรงหน้านี้ยังเป็นคนสำคัญของเผ่าเลือดอีกด้วย

เย่หยวนนั้นยืนมองภาพตรงหน้าพร้อมกับเอามือไขว่หลังก่อนจะขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “คนในมหานครฉีใต้มันคงเหลือไม่ถึงหมื่นดีแล้วด้วยซ้ำ! เจ้าจะบอกว่าตัวเองตีเมืองเช่นนี้ไม่แตกหรือเฉียนั้ว? เจ้ามันจะขยะเกินไปแล้ว!”

นี่มิใช่ครั้งแรกที่เย่หยวนนั้นเรียกเขาว่าเป็นขยะ เฉียนั้วนั้นแทบอยากจะฉีกปากเย่หยวนออกมา

แต่เขาย่อมไม่กล้าลงมือใด!

เย่หยวนด่า เขาย่อมได้แต่ต้องฟัง

“นายท่านยังไม่เข้าใจว่าพวกมันทั้งหลายนั้นดื้อด้านแค่ไหน เป็นกระดูกที่แข็งเกินกว่าจะเคี้ยวเข้า! หลังจากศึกใหญ่อีกสามวันท่านคงจะได้เห็นถึงความดื้อด้านของพวกมันแน่!” เฉียนั้วนั้นกล่าวขึ้นมาปกป้องตัวเอง

เย่หยวนหันไปมองพร้อมเลิกคิ้ว “หือ เป็นเช่นนั้นจริง?”

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งตัวเข้าไปใกล้มหานครฉีใต้ทันที

คนทั้งสองฝ่ายต่างอ้าปากค้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน!

นี่…เขาคลั่งไปแล้ว?

ก็จริงที่ว่าเผ่าเลือดนั้นเก่งกาจแต่เจ้าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยนั้นมันจะเก่งกาจล้ำสวรรค์ปานนั้นเลยหรือ?

เจ้าคิดว่าตัวเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์แล้วจะเก่งกาจล้ำสวรรค์หรือ?

ขอร้องเถอะ หากเจอมหาจักรพรรดิเข้าแล้วเจ้าคงได้ตายลงในฝ่ามือเดียว

แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมจะไม่ได้มุ่งหน้าไปหาเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลาย เป้าหมายของเขานั้นคือค่ายหลัก

ค่ายหลักนั้นมันตั้งอยู่ห่างจากค่ายของเหล่ามหาจักรพรรดิมากเพราะว่าหากมหาจักรพรรดิเริ่มต่อสู้แล้ว ทหารพลังบ่มเพาะต่ำๆ คงได้ตายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ได้เห็นเย่หยวนลงมือเช่นนั้นเหล่าคนสวรรค์แรกต่างก็คันไม้คันมือเตรียมตัวออกรับหน้า

แต่เป็นเฟิงเสี่ยวเถียนที่กล่าวขึ้นมาขัด “แม้ว่าสวรรค์แรกเราจะอ่อนแอลงแค่ไหนมันก็ไม่ถึงขั้นจะพ่ายให้จักรพรรดิเซียนคนเดียวได้หรอก! ให้มันได้อวดดีไป ข้าเองก็อยากจะเห็นนักว่าบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นี้มันมีดีแค่ไหน”

ตัวตนของเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นคือผู้ปกครองและแม่ทัพของมหานครฉีใต้

คำพูดของเขานั้นคือคำสั่งทางทหาร ไม่มีใครกล้าขัด

ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายเองก็อยากจะรู้เช่นกันว่าฝีมือของบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์นั้น มันจะสักแค่ไหน

ต้องเป็นอัจฉริยะเช่นใดถึงจะเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ได้?

เฉียนั้วนั้นขนลุกไปทั้งร่างเมื่อได้เห็น เจ้าบ้านี่สมองตายหรือ?

หากบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ตายลงต่อหน้าเขานั้น ต่อให้จะตัดหัวตัวเองกลับไปขอโทษทางเผ่าก็คงไม่มีวันยกโทษให้เขาแน่นอน!

แต่ว่าได้เห็นว่าทางเฟิงเสี่ยวเถียนไม่คิดขยับ ตัวเฉียนั้วเองก็โล่งใจขึ้น

ก่อนจะเข้าไปถึงระยะของค่ายกลนั้นเย่หยวนได้เหลือบตาขึ้นมองหน้าเฟิงเสี่ยวเถียน

ได้เห็นสายตานั้นจิตใจที่หนักอึ้งมากกว่ายี่สิบวันของเฟิงเสี่ยวเถียนมันก็โล่งขึ้นทันที

แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้ใช้เวลากับเย่หยวนอย่างยาวนานใดๆ แต่เขานั้นก็สนิทกับเย่หยวนอย่างมาก

แค่สายตาเดียวนี้มันก็รู้กัน!

เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นส่งสัญญาณบอกว่าตัวเองจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง

เขานั้นไม่รู้ว่าเย่หยวนจะทำอย่างไรถึงจะจัดการกองทัพกว่าสองแสนนั้นได้

แต่เขาเชื่อในตัวเย่หยวน

เพราะเย่หยวนนั้นเป็นได้แม้แต่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ จะยังมีปาฏิหาริย์ใดที่เขาทำไม่ได้อีก?

เรื่องราวเช่นนี้มันเกิดกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการ

แม้แต่เรื่องเช่นนี้ยังเกิดขึ้นได้ เขาจะไม่เชื่อเย่หยวนได้อย่างไร?

ตูม!

พลังงานจากค่ายกลนั้นพุ่งเข้ามาโจมตีเย่หยวนในทันทีอย่างรุนแรง

พลังของมันนั้นทำให้สีหน้าคนทั้งหลายซีดขาวลง

ทิศที่ค่ายหลักตั้งอยู่นั้นมันมีค่ายกลที่ไม่แข็งแกร่งนัก เพราะมันใช้เพื่อทำลายเผ่าเลือดอาณาจักรจักรพรรดิทั้งหลาย

แต่ไม่ว่ามันจะอ่อนแอแค่ไหนมันก็ไม่ถึงขั้นที่ไม่อาจจะสังหารจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งลง

แต่ในตอนนั้นเองที่ร่างของเย่หยวนมันได้เปล่งแสงสีแดงสดขึ้นมาพร้อมด้วยพลังคลื่นกำเนิดที่แผ่ออกมา ปกป้องร่างของเขา

พริบตาต่อมานั้นเย่หยวนก็ทนพลังของค่ายกลเข้ามาถึงค่ายได้

ในค่ายหลักนั้นมันมีทหารมากมายคอยเฝ้าดูสังเกตเรื่องราวเมื่อเห็นเย่หยวนพวกเขาก็พุ่งตัวเข้ามาโจมตีทันที

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปอย่างเย้ยหยัน “แค่มดปลวกก็คิดมาหยุดข้าลงหรือ! ตายไปเสียเถอะ!”

ฟุบฟุบฟุบ!

มือของเย่หยวนนั้นมันได้ยิงลำแสงสีเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง

เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้น รวมไปถึงจักรพรรดิเที่ยงบางคนต่างตายลงสิ้นเมื่อสัมผัสพลังนั้น!

พริบตาเดียวนี้เย่หยวนก็ได้ ‘สังหาร’ คนไปนับร้อย!

เฟิงเสี่ยวเถียนอด ‘หน้าเปลี่ยนสี’ ไม่ได้เมื่อได้เห็นก่อนจะร้องลั่นขึ้นมา “ไอ้เด็กเวรเผ่าเลือด ข้าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ!”

แต่ว่าในเวลาเดียวกันนั้นเองที่เย่หยวนได้ถอยกลับออกไปจากระยะของค่ายกลและกลับไปยังกองทัพของตัวเอง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เผ่าเลือดทั้งกองทัพตกสู่ความเงียบงัน!

นี่มัน…จะเก่งไปแล้ว!

บุกเข้าค่ายสวรรค์แรกสังหารคนนับร้อยและกลับออกมาอย่างไม่มีบาดแผลใด!

นี่มันต้องเก่งกาจถึงขั้นไหนกัน?

สายตาของคนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องหันมามองหน้าเฉียนั้ว

ไหนว่าเจ้ามันดื้อด้านกัดไม่เข้า?

คำพูดเจ้ายังไม่ทันจางหายนายท่านก็เข้าไปบุกสังหารและกลับมาได้ในอึดใจ

การตบหน้าครั้งนี้ช่างแสนรุนแรง!

คนทั้งหลายนั้นแทบจะได้ยินเสียงตบหน้าขึ้นมาในหัว

เย่หยวนหันมามองหน้าเฉียนั้วพร้อมบอก “นี่คือดื้อด้านเคี้ยวไม่เข้าที่เจ้าบอกหรือ?”

เฉียนั้วนั้นต้องทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “น…นายท่านเก่งกาจยิ่ง ไร้ใครเทียบเคียง เฉียนั้วอับอายยิ่งนัก!”

เย่หยวนหัวเราะขึ้น “อับอาย? ข้าบอกแล้วว่าเจ้านั้นเป็นขยะ เจ้ากลับทำหน้าตาไม่ยอมรับ ทีนี้จะยอมรับว่าเป็นขยะได้หรือยัง?”

“ข…ข้าเป็นขยะ!” เฉียนั้วนั้นแทบอยากจะมุดดินหนีให้มันพ้นๆ ไป

จะน่าอายเกินไปแล้ว!

เฉียนั้วคนนี้นำกองทัพนับแสนๆ บุกครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่เคยได้ชัดมานานแสนนาน

แต่เมื่อท่านบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์มาถึงนั้น เขากลับบุกเข้าไปด้วยตัวคนเดียวได้!

แม้ว่ามันจะเป็นแค่การเข้าไปลองเชิงสังหารศัตรูและหนีกลับออกมาแต่มันก็มากพอจะใช้ตบหน้าเฉียนั้วให้หัน!

เฉียนั้วคนนี้ทำได้หรือไม่?

สวรรค์แรกแข็งแกร่ง สวรรค์แรกดื้อด้าน สวรรค์แรกเคี้ยวไม่เข้า

ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปแล้ว!

สุดท้ายแล้วเขาก็แค่ขยะ!

“นายท่านเก่งกาจล้ำ!”

“นายท่านมีฝีมือเหนือล้ำฟ้าดิน!”

“เผ่าเลือดจะขึ้นปกครองสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดได้แน่แล้วคราวนี้!”

เสียงโห่ร้องชื่นชมเย่หยวนดังขึ้นมาจากด้านหลัง

การแสดงฝีมือของเย่หยวนมันยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาเพิ่มพูน

เหล่าทหารเผ่าเลือดต่างเคารพนับถือเขาสุดใจ

…………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+