Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2900 ถือโอกาสโจมตี!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2900 ถือโอกาสโจมตี! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2900 ถือโอกาสโจมตี!

“พี่ชิงหยุน ไม่ได้เจอกันเสียนาน!” เมื่อเฟิงเสี่ยวเถียนได้เห็นหน้าผู้มาถึงเขาก็ต้องกล่าวทักขึ้นมาด้วยรอยยิ้มทันที

ตอนนี้มีมหาจักรพรรดิหลายคนกำลังเดินเข้ามหานครมามันย่อมจะทำผู้คนหันมาสนใจ

คนทั้งหลายนี้คือกำลังเสริมที่นิกายต่างๆ ส่งมาช่วยเหลือ!

ตอนนี้กองทัพเสริมนั้นมันถูกส่งมายังมหานครฉีใต้กว่าแสนคน

นี่เรียกได้ว่าเป็นแรงสุดท้ายของนิกายค่ายสำนักทั้งหลายแล้ว

แน่นอนว่าคนที่นำทัพเสริมนี้มันย่อมจะเป็นผู้อาวุโสใหญ่หอสุดแสงแห่งนิกายยาสุดล้ำอย่างหลี่ชิงหยุน ศิษย์คนโตของเจ้าโลกหยุนซาน

ครั้งนี้แม้แต่เขาเองก็ยังต้องออกหน้าเอง

ได้เห็นเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นหลี่ชิงหยุนก็ต้องยิ้มขึ้นมาทักทายตอบ “เสี่ยวเถียน ดูเจ้าจะพัฒนาตัวเองไปได้มากทีเดียว! อีกไม่นานคงถึงระดับเจ้าโลกได้แน่แล้ว!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “อาณาจักรเจ้าโลกนั้นมันพูดง่ายกว่าทำ! พี่ชิงหยุนเองเก่งกาจแค่ไหนใครๆ ก็รู้แต่ตอนนี้ท่านก็ยังบรรลุไม่ได้มิใช่หรือ?”

หลี่ชิงหยุนนั้นมิใช่คนขี้ขลาดตาขาว หลายปีก่อนนั้นเขาก็ได้ออกมารบแนวหน้าพร้อมๆ กับเฟิงเสี่ยวเถียนนี้

เพียงแค่ว่าในตอนนั้นเฟิงเสี่ยวเถียนยังเป็นแค่เด็กหนุ่มที่พลังไม่ถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ ย่อมจะเป็นคนรุ่นหลังของหลี่ชิงหยุน

แต่ถึงจะเป็นตอนนั้นเองเฟิงเสี่ยวเถียนก็ถือว่าเป็นดาวรุ่งแล้ว

หลี่ชิงหยุนหันไปมองเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเห็นจึงคิดจะแนะนำคนทั้งสองให้รู้จักกันแต่เย่หยวนกลับเป็นคนที่พูดขึ้นมาก่อนเมื่อเห็นสายตาของหลี่ชิงหยุน “ข้าขอคารวะศิษย์พี่ใหญ่!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมา ศิษย์พี่ใหญ่?

เช่นนั้นแล้ว…

ทางหลี่ชิงหยุนที่ได้ยินจึงร้องตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ “เจ้าเด็กบ้านี่! เจ้าจะเล่นไม่ดูตัวเกินไปแล้ว เจ้าอยากจะตายหรืออย่างไรกัน?”

แม้ว่าเขานั้นจะไม่พอใจแต่ว่าสีหน้าและน้ำเสียงนั้นมันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวลเป็นห่วง

เย่หยวนก้มหัวลงตอบ “ศิษย์พี่ใหญ่กล่าวสั่งสอนได้ถูกต้องแล้ว เย่หยวนจะไม่ทำมันอีกแล้ว”

ได้ยินเช่นนั้นหลี่ชิงหยุนถึงค่อยทำหน้าผ่อนคลายขึ้นมา

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นหันไปมองหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “น้องเย่ เจ้าช่างปกปิดพี่คนนี้ลึกล้ำนัก! ที่แท้เจ้ากลับเป็นศิษย์ท่านหยุนซาน!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ก่อนหน้าล้วนแล้วแต่สถานการณ์บังคับ หวังว่าพี่เฟิงจะไม่ถือโทษข้า!”

แต่เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องถอนหายใจยาวออกมาตาม “ท่านหยุนซานนั้นช่างมีตาที่ดีนัก! ศิษย์แต่ละคนของท่านนั้นไม่เคยมีใครธรรมดา! น้องเย่นั้นเก่งกาจทำเรื่องเหนือฟ้าล้ำสวรรค์อย่างไม่อาจเอาใครมาเทียบได้!”

ตอนนี้จะเรียกเย่หยวนว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในพันธมิตรสวรรค์แรกก็คงไม่ผิด

ตอนนี้ชื่อของเขามันขึ้นไปอยู่บนรายชื่อล่าหัวของเผ่าเลือดไปแล้ว จะเพิ่มเรื่องการเป็นศิษย์เจ้าโลกหยุนซานเข้ามาหรือไม่มันก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย

เพราะฉะนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องปิดซ่อนใดๆ กันอีก

แต่เมื่อประกาศออกมามันย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่นระลอกที่สองขึ้น

คนทั้งหลายนั้นกล่าวชื่นชมเย่หยวนออกมาอย่างไม่ขาดปาก

ในฐานะศิษย์เจ้าโลกหยุนซานนั้นเขาย่อมจะสามารถนั่งบ่มเพาะอยู่แนวหลังได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าใครจะนินทาใดๆ

แต่ตัวเขานั้นกลับอาสาออกทัพไปแนวหน้าเอง ทั้งยังสร้างชัยชนะที่เหนือล้ำฟ้าดินอย่างไม่เคยมีมาก่อนนี้ด้วย!

ต่อให้จะอยากหาเรื่องด่ามันก็ไม่อาจจะด่าอะไรเขาคนนี้ได้จริงๆ!

ในจวนเจ้าเมืองนั้นเหล่ายอดคนของฉีใต้ต่างมารวมตัวกันครบ

เฟิงเสี่ยวเถียนกล่าวขึ้น “มีพี่ชิงหยุนอยู่ดูแลฉีใต้แล้ว เฟิงผู้นี้ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย! หลายปีมานี้มหานครฉีใต้เราถูกโจมตีแทบทุกวันแต่ตอนนี้มันจะเป็นโอกาสให้เราได้ฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้ว!”

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นี้มันทำให้เฟิงเสี่ยวเถียนต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก

เขานั้นรู้ดีว่าช่วงความสงบได้มาถึงแล้ว

สิบปีจากนี้มหานครฉีใต้คงจะไม่ต้องสู้รบใดๆ อีก

ก่อนๆ มาเผ่าเลือดนั้นโจมตีอย่างไม่ให้พวกเขาได้หยุดพักทำให้คนทั้งหลายเหนื่อยล้าสะสมมานานปี

ไม่เช่นนั้นแล้วมหานครฉีใต้ก็คงไม่โทรมถึงขั้นถูกเรียกว่านรกบนดิน

หลี่ชิงหยุนพยักหน้ารับ “เสี่ยวเถียนสู้มานานคงเหนื่อยมากแล้ว ข้าว่าเจ้าเองก็คงได้ประโยชน์จากมันไม่น้อยเช่นกัน ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่เจ้าจะได้เก็บตัวหาทางบรรลุเจ้าโลกเสียที! ตอนนี้เราต้องการเจ้าโลกมากที่สุดกว่าสิ่งใด!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ข้าอายที่จะพูดเช่นนี้ เพราะแม้จะได้ประโยชน์มาบ้าง…ข้าก็ยังไม่อาจเข้าใจอาณาจักรเจ้าโลกได้อยู่ดี!”

จุดนี้คนอื่นๆ ติดอยู่กันนานเป็นหมื่นๆ แสนๆ ปี ต่อให้เขาจะเก่งแค่ไหนแต่มันก็ต้องใช้เวลาอีกมากกว่าที่เขาจะบรรลุเจ้าโลกได้

แต่ตอนนั้นเองที่เย่หยวนกล่าวขึ้นมาแทรก “พี่เฟิงศิษย์พี่ใหญ่ ข้าเกรงว่า…จะพักตอนนี้มันคงยังไม่เหมาะ!”

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ศิษย์น้อยเล็กเจ้าหมายถึง?”

เย่หยวนตอบกลับไป “ตอนนี้พันธมิตรสวรรค์แรกได้ชัยชนะยิ่งใหญ่มาทำให้เมืองข่ายยักษ์นั้นแทบจะเป็นเมืองร้าง นี่แหละเป็นโอกาสทองที่เราจะโจมตีสวนกลับไป! หากเราพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว…มันคงจะไม่มีโอกาสครั้งหน้าอีกแน่!”

“ซีด…”

มหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างต้องสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อได้ยิน

คำพูดนี้มันทำให้หัวใจพวกเขาแทบหยุดเต้น!

ถือโอกาสโจมตี!

หลายพันปีที่ผ่านมานี้พวกเขาเหล่าคนสวรรค์แรกมีแต่ตั้งรับ ไม่เคยมีใครคิดโจมตี!

แต่เย่หยวนกลับเป็นคนแรกที่คิด!

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องหรี่ตาคิดหนักแต่สุดท้ายก็ต้องส่ายหัวออกมา

มันเสี่ยงเกินไป!

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่น “ศิษย์น้องเล็ก ข้ารู้ว่าเจ้านั้นทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จไว้มากมายแต่เจ้าจะไม่ดูสภาพความเป็นจริงเกินไปหน่อยหรือ หากคิดพูดถึงการโจมตีสวนกลับ? ก็จริงที่ว่าเรานั้นชนะศึกมาแต่เผ่าเลือดนั้นมันก็มิใช่ขยะที่จะปล่อยให้เราเล่นงานง่ายๆ! พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นจะออกไปเสี่ยงเช่นนี้ไม่ได้!”

คำพูดนี้มันหนักหน่วงไม่น้อย

คนอื่นๆ เองก็คิดเช่นนี้แต่ให้หลี่ชิงหยุนเป็นคนกล่าวมันย่อมจะเหมาะสมที่สุด

ครั้งนี้เหล่านิกายทั้งหลายนั้นต่างได้ส่งกำลังทั้งหมดออกมา

คนเหล่านี้คือหัวกะทิจากนิกายน้อยใหญ่!

หากพาคนทั้งหลายนี้ไปตายลงแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกคงถึงคราวจบสิ้น

นอกจากนั้นความน่ากลัวของเผ่าเลือดนั้นยังฝังลึกลงในจิตใจของผู้คนด้วย

ต่อให้จะเป็นยอดคนอย่างหลี่ชิงหยุนนี้เองก็ยังเกรงกลัว

หลายพันปีมานี้พวกเขานั้นได้แต่ต้องรับการโจมตีของอีกฝ่าย

โจมตีสวนกลับ?

จะบ้าหรือ?!

เผ่าเลือดนั้นมันแพ้ได้แต่เรานั้นแพ้เท่ากับตาย!

เย่หยวนนั้นตอบกลับไปอย่างหนักแน่น

“เพื่อจะสังหารเจ้าโลกหวู่เฟิงคราวนี้เจ้าโลกโหยวจินมันต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับไป! ตอนนี้มันกำลังพักอยู่ที่เมืองข่ายยักษ์! นอกจากนี้หัวกะทิของเมืองข่ายยักษ์มันยังถูกเกณฑ์ออกมาสู้ และถูกข้าสังหารไปสิ้นแล้ว! พวกที่เหลือนั้นมันแค่ทหารเลวธรรมดาๆ! นอกจากนั้นหลังจากผ่านศึกหนักมาหลายครั้ง มหาจักรพรรดิของเมืองข่ายยักษ์เองยังได้รับบาดเจ็บกันไปไม่น้อย!

ตอนนี้นอกจากมีศิษย์พี่ใหญ่นำทัพแล้วเรายังมีกำลังเสริมอีกนับแสน! เผ่าเลือดเองก็คงไม่นึกฝันว่าเราจะโจมตีเมืองข่ายยักษ์สวนกลับไปแน่นอน! หากเราโชคดีเราอาจจะถึงขั้นสังหารเจ้าโลกโหยวจินมันลงได้! ศิษย์พี่ใหญ่ โอกาสทองเช่นนี้จะปล่อยไปไม่ได้ หากพลาดไปแล้วมันจะไม่หวนกลับมาหาเราอีก!”

สังหารเจ้าโลกโหยวจิน!

คำพูดนี้มันทำให้คนทั้งหลายนั้นใจเต้นรัวขึ้นมา

นั่นมันคือเจ้าโลก!

หากสังหารเจ้าโลกของเผ่าเลือดลงได้จริงๆ แล้วมันย่อมจะกลายเป็นชัยชนะที่ไม่อาจเอาอะไรมาเทียบเคียง!

แต่มันจะได้ผลหรือ?

พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นไม่ได้ออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มานานหลายพันปีแล้ว

ผลลัพธ์จากเรื่องนั้นมันทำให้คนมากมายกลัวที่จะออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์

แต่เย่หยวนนั้นกลับมอบข้อมูลที่ทำให้พวกเขาต่างต้องหันมาฟัง

พวกเขานั้นรู้ว่าเย่หยวนเคยเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ เขานั้นย่อมจะเข้าใจสภาพของเผ่าเลือดอย่างดี

จะเอาหรือไม่?

“ทำไมเรา…ไม่ลองส่งเรื่องไปถามท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ดูเล่า?” หลี่ชิงหยุนกล่าวขึ้นเสนอ

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมา

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่เห็นด้วยแน่! เพราะนี่เราตอนนี้คือไพ่ตายสุดท้ายของพันธมิตรสวรรค์แรก ท่านย่อมจะไม่ยอมเอามันไปเสี่ยง!

แต่หากไม่เสี่ยงมันก็ไม่ได้ชัยชนะ! ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าเลือดมันคงให้เวลาเราอีกไม่มาก!

เมืองข่ายยักษ์นั้นจะอย่างไรก็เป็นเมืองด่านหน้าของพวกมัน อีกไม่นานเผ่าเลือดคงได้ส่งกำลังหนุนเข้ามารักษาเมืองแน่นอน!

เพราะฉะนั้นมันต้องใช้โอกาสตอนนี้เท่านั้น! ศิษย์พี่ใหญ่ พี่เฟิง หากเราไม่สังหารเจ้าโลกลงแล้วชัยชนะของเรามันก็คงไร้ความหมาย!

มีสิบปีให้พักหายใจแล้วทำไม? มันก็แค่เวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น พวกท่านก็รู้!

หลังจากสิบปีผ่านไปแล้วเผ่าเลือดมันคงบุกกลับมาอย่างหนักหน่วงกว่าเก่าแน่นอนแล้ว! ซึ่งโอกาสที่เราจะสังหารโหยวจินได้นั้นมันมีแค่เวลานี้! หากพลาดไปแล้วก็คงพลาดไปตลอดกาล!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2900 ถือโอกาสโจมตี!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2900 ถือโอกาสโจมตี! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2900 ถือโอกาสโจมตี!

“พี่ชิงหยุน ไม่ได้เจอกันเสียนาน!” เมื่อเฟิงเสี่ยวเถียนได้เห็นหน้าผู้มาถึงเขาก็ต้องกล่าวทักขึ้นมาด้วยรอยยิ้มทันที

ตอนนี้มีมหาจักรพรรดิหลายคนกำลังเดินเข้ามหานครมามันย่อมจะทำผู้คนหันมาสนใจ

คนทั้งหลายนี้คือกำลังเสริมที่นิกายต่างๆ ส่งมาช่วยเหลือ!

ตอนนี้กองทัพเสริมนั้นมันถูกส่งมายังมหานครฉีใต้กว่าแสนคน

นี่เรียกได้ว่าเป็นแรงสุดท้ายของนิกายค่ายสำนักทั้งหลายแล้ว

แน่นอนว่าคนที่นำทัพเสริมนี้มันย่อมจะเป็นผู้อาวุโสใหญ่หอสุดแสงแห่งนิกายยาสุดล้ำอย่างหลี่ชิงหยุน ศิษย์คนโตของเจ้าโลกหยุนซาน

ครั้งนี้แม้แต่เขาเองก็ยังต้องออกหน้าเอง

ได้เห็นเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นหลี่ชิงหยุนก็ต้องยิ้มขึ้นมาทักทายตอบ “เสี่ยวเถียน ดูเจ้าจะพัฒนาตัวเองไปได้มากทีเดียว! อีกไม่นานคงถึงระดับเจ้าโลกได้แน่แล้ว!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “อาณาจักรเจ้าโลกนั้นมันพูดง่ายกว่าทำ! พี่ชิงหยุนเองเก่งกาจแค่ไหนใครๆ ก็รู้แต่ตอนนี้ท่านก็ยังบรรลุไม่ได้มิใช่หรือ?”

หลี่ชิงหยุนนั้นมิใช่คนขี้ขลาดตาขาว หลายปีก่อนนั้นเขาก็ได้ออกมารบแนวหน้าพร้อมๆ กับเฟิงเสี่ยวเถียนนี้

เพียงแค่ว่าในตอนนั้นเฟิงเสี่ยวเถียนยังเป็นแค่เด็กหนุ่มที่พลังไม่ถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ ย่อมจะเป็นคนรุ่นหลังของหลี่ชิงหยุน

แต่ถึงจะเป็นตอนนั้นเองเฟิงเสี่ยวเถียนก็ถือว่าเป็นดาวรุ่งแล้ว

หลี่ชิงหยุนหันไปมองเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเห็นจึงคิดจะแนะนำคนทั้งสองให้รู้จักกันแต่เย่หยวนกลับเป็นคนที่พูดขึ้นมาก่อนเมื่อเห็นสายตาของหลี่ชิงหยุน “ข้าขอคารวะศิษย์พี่ใหญ่!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมา ศิษย์พี่ใหญ่?

เช่นนั้นแล้ว…

ทางหลี่ชิงหยุนที่ได้ยินจึงร้องตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ “เจ้าเด็กบ้านี่! เจ้าจะเล่นไม่ดูตัวเกินไปแล้ว เจ้าอยากจะตายหรืออย่างไรกัน?”

แม้ว่าเขานั้นจะไม่พอใจแต่ว่าสีหน้าและน้ำเสียงนั้นมันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวลเป็นห่วง

เย่หยวนก้มหัวลงตอบ “ศิษย์พี่ใหญ่กล่าวสั่งสอนได้ถูกต้องแล้ว เย่หยวนจะไม่ทำมันอีกแล้ว”

ได้ยินเช่นนั้นหลี่ชิงหยุนถึงค่อยทำหน้าผ่อนคลายขึ้นมา

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นหันไปมองหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “น้องเย่ เจ้าช่างปกปิดพี่คนนี้ลึกล้ำนัก! ที่แท้เจ้ากลับเป็นศิษย์ท่านหยุนซาน!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ก่อนหน้าล้วนแล้วแต่สถานการณ์บังคับ หวังว่าพี่เฟิงจะไม่ถือโทษข้า!”

แต่เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องถอนหายใจยาวออกมาตาม “ท่านหยุนซานนั้นช่างมีตาที่ดีนัก! ศิษย์แต่ละคนของท่านนั้นไม่เคยมีใครธรรมดา! น้องเย่นั้นเก่งกาจทำเรื่องเหนือฟ้าล้ำสวรรค์อย่างไม่อาจเอาใครมาเทียบได้!”

ตอนนี้จะเรียกเย่หยวนว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในพันธมิตรสวรรค์แรกก็คงไม่ผิด

ตอนนี้ชื่อของเขามันขึ้นไปอยู่บนรายชื่อล่าหัวของเผ่าเลือดไปแล้ว จะเพิ่มเรื่องการเป็นศิษย์เจ้าโลกหยุนซานเข้ามาหรือไม่มันก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย

เพราะฉะนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องปิดซ่อนใดๆ กันอีก

แต่เมื่อประกาศออกมามันย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่นระลอกที่สองขึ้น

คนทั้งหลายนั้นกล่าวชื่นชมเย่หยวนออกมาอย่างไม่ขาดปาก

ในฐานะศิษย์เจ้าโลกหยุนซานนั้นเขาย่อมจะสามารถนั่งบ่มเพาะอยู่แนวหลังได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าใครจะนินทาใดๆ

แต่ตัวเขานั้นกลับอาสาออกทัพไปแนวหน้าเอง ทั้งยังสร้างชัยชนะที่เหนือล้ำฟ้าดินอย่างไม่เคยมีมาก่อนนี้ด้วย!

ต่อให้จะอยากหาเรื่องด่ามันก็ไม่อาจจะด่าอะไรเขาคนนี้ได้จริงๆ!

ในจวนเจ้าเมืองนั้นเหล่ายอดคนของฉีใต้ต่างมารวมตัวกันครบ

เฟิงเสี่ยวเถียนกล่าวขึ้น “มีพี่ชิงหยุนอยู่ดูแลฉีใต้แล้ว เฟิงผู้นี้ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย! หลายปีมานี้มหานครฉีใต้เราถูกโจมตีแทบทุกวันแต่ตอนนี้มันจะเป็นโอกาสให้เราได้ฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้ว!”

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นี้มันทำให้เฟิงเสี่ยวเถียนต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก

เขานั้นรู้ดีว่าช่วงความสงบได้มาถึงแล้ว

สิบปีจากนี้มหานครฉีใต้คงจะไม่ต้องสู้รบใดๆ อีก

ก่อนๆ มาเผ่าเลือดนั้นโจมตีอย่างไม่ให้พวกเขาได้หยุดพักทำให้คนทั้งหลายเหนื่อยล้าสะสมมานานปี

ไม่เช่นนั้นแล้วมหานครฉีใต้ก็คงไม่โทรมถึงขั้นถูกเรียกว่านรกบนดิน

หลี่ชิงหยุนพยักหน้ารับ “เสี่ยวเถียนสู้มานานคงเหนื่อยมากแล้ว ข้าว่าเจ้าเองก็คงได้ประโยชน์จากมันไม่น้อยเช่นกัน ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่เจ้าจะได้เก็บตัวหาทางบรรลุเจ้าโลกเสียที! ตอนนี้เราต้องการเจ้าโลกมากที่สุดกว่าสิ่งใด!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ข้าอายที่จะพูดเช่นนี้ เพราะแม้จะได้ประโยชน์มาบ้าง…ข้าก็ยังไม่อาจเข้าใจอาณาจักรเจ้าโลกได้อยู่ดี!”

จุดนี้คนอื่นๆ ติดอยู่กันนานเป็นหมื่นๆ แสนๆ ปี ต่อให้เขาจะเก่งแค่ไหนแต่มันก็ต้องใช้เวลาอีกมากกว่าที่เขาจะบรรลุเจ้าโลกได้

แต่ตอนนั้นเองที่เย่หยวนกล่าวขึ้นมาแทรก “พี่เฟิงศิษย์พี่ใหญ่ ข้าเกรงว่า…จะพักตอนนี้มันคงยังไม่เหมาะ!”

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ศิษย์น้อยเล็กเจ้าหมายถึง?”

เย่หยวนตอบกลับไป “ตอนนี้พันธมิตรสวรรค์แรกได้ชัยชนะยิ่งใหญ่มาทำให้เมืองข่ายยักษ์นั้นแทบจะเป็นเมืองร้าง นี่แหละเป็นโอกาสทองที่เราจะโจมตีสวนกลับไป! หากเราพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว…มันคงจะไม่มีโอกาสครั้งหน้าอีกแน่!”

“ซีด…”

มหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างต้องสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อได้ยิน

คำพูดนี้มันทำให้หัวใจพวกเขาแทบหยุดเต้น!

ถือโอกาสโจมตี!

หลายพันปีที่ผ่านมานี้พวกเขาเหล่าคนสวรรค์แรกมีแต่ตั้งรับ ไม่เคยมีใครคิดโจมตี!

แต่เย่หยวนกลับเป็นคนแรกที่คิด!

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องหรี่ตาคิดหนักแต่สุดท้ายก็ต้องส่ายหัวออกมา

มันเสี่ยงเกินไป!

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่น “ศิษย์น้องเล็ก ข้ารู้ว่าเจ้านั้นทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จไว้มากมายแต่เจ้าจะไม่ดูสภาพความเป็นจริงเกินไปหน่อยหรือ หากคิดพูดถึงการโจมตีสวนกลับ? ก็จริงที่ว่าเรานั้นชนะศึกมาแต่เผ่าเลือดนั้นมันก็มิใช่ขยะที่จะปล่อยให้เราเล่นงานง่ายๆ! พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นจะออกไปเสี่ยงเช่นนี้ไม่ได้!”

คำพูดนี้มันหนักหน่วงไม่น้อย

คนอื่นๆ เองก็คิดเช่นนี้แต่ให้หลี่ชิงหยุนเป็นคนกล่าวมันย่อมจะเหมาะสมที่สุด

ครั้งนี้เหล่านิกายทั้งหลายนั้นต่างได้ส่งกำลังทั้งหมดออกมา

คนเหล่านี้คือหัวกะทิจากนิกายน้อยใหญ่!

หากพาคนทั้งหลายนี้ไปตายลงแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกคงถึงคราวจบสิ้น

นอกจากนั้นความน่ากลัวของเผ่าเลือดนั้นยังฝังลึกลงในจิตใจของผู้คนด้วย

ต่อให้จะเป็นยอดคนอย่างหลี่ชิงหยุนนี้เองก็ยังเกรงกลัว

หลายพันปีมานี้พวกเขานั้นได้แต่ต้องรับการโจมตีของอีกฝ่าย

โจมตีสวนกลับ?

จะบ้าหรือ?!

เผ่าเลือดนั้นมันแพ้ได้แต่เรานั้นแพ้เท่ากับตาย!

เย่หยวนนั้นตอบกลับไปอย่างหนักแน่น

“เพื่อจะสังหารเจ้าโลกหวู่เฟิงคราวนี้เจ้าโลกโหยวจินมันต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับไป! ตอนนี้มันกำลังพักอยู่ที่เมืองข่ายยักษ์! นอกจากนี้หัวกะทิของเมืองข่ายยักษ์มันยังถูกเกณฑ์ออกมาสู้ และถูกข้าสังหารไปสิ้นแล้ว! พวกที่เหลือนั้นมันแค่ทหารเลวธรรมดาๆ! นอกจากนั้นหลังจากผ่านศึกหนักมาหลายครั้ง มหาจักรพรรดิของเมืองข่ายยักษ์เองยังได้รับบาดเจ็บกันไปไม่น้อย!

ตอนนี้นอกจากมีศิษย์พี่ใหญ่นำทัพแล้วเรายังมีกำลังเสริมอีกนับแสน! เผ่าเลือดเองก็คงไม่นึกฝันว่าเราจะโจมตีเมืองข่ายยักษ์สวนกลับไปแน่นอน! หากเราโชคดีเราอาจจะถึงขั้นสังหารเจ้าโลกโหยวจินมันลงได้! ศิษย์พี่ใหญ่ โอกาสทองเช่นนี้จะปล่อยไปไม่ได้ หากพลาดไปแล้วมันจะไม่หวนกลับมาหาเราอีก!”

สังหารเจ้าโลกโหยวจิน!

คำพูดนี้มันทำให้คนทั้งหลายนั้นใจเต้นรัวขึ้นมา

นั่นมันคือเจ้าโลก!

หากสังหารเจ้าโลกของเผ่าเลือดลงได้จริงๆ แล้วมันย่อมจะกลายเป็นชัยชนะที่ไม่อาจเอาอะไรมาเทียบเคียง!

แต่มันจะได้ผลหรือ?

พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นไม่ได้ออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มานานหลายพันปีแล้ว

ผลลัพธ์จากเรื่องนั้นมันทำให้คนมากมายกลัวที่จะออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์

แต่เย่หยวนนั้นกลับมอบข้อมูลที่ทำให้พวกเขาต่างต้องหันมาฟัง

พวกเขานั้นรู้ว่าเย่หยวนเคยเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ เขานั้นย่อมจะเข้าใจสภาพของเผ่าเลือดอย่างดี

จะเอาหรือไม่?

“ทำไมเรา…ไม่ลองส่งเรื่องไปถามท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ดูเล่า?” หลี่ชิงหยุนกล่าวขึ้นเสนอ

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมา

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่เห็นด้วยแน่! เพราะนี่เราตอนนี้คือไพ่ตายสุดท้ายของพันธมิตรสวรรค์แรก ท่านย่อมจะไม่ยอมเอามันไปเสี่ยง!

แต่หากไม่เสี่ยงมันก็ไม่ได้ชัยชนะ! ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าเลือดมันคงให้เวลาเราอีกไม่มาก!

เมืองข่ายยักษ์นั้นจะอย่างไรก็เป็นเมืองด่านหน้าของพวกมัน อีกไม่นานเผ่าเลือดคงได้ส่งกำลังหนุนเข้ามารักษาเมืองแน่นอน!

เพราะฉะนั้นมันต้องใช้โอกาสตอนนี้เท่านั้น! ศิษย์พี่ใหญ่ พี่เฟิง หากเราไม่สังหารเจ้าโลกลงแล้วชัยชนะของเรามันก็คงไร้ความหมาย!

มีสิบปีให้พักหายใจแล้วทำไม? มันก็แค่เวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น พวกท่านก็รู้!

หลังจากสิบปีผ่านไปแล้วเผ่าเลือดมันคงบุกกลับมาอย่างหนักหน่วงกว่าเก่าแน่นอนแล้ว! ซึ่งโอกาสที่เราจะสังหารโหยวจินได้นั้นมันมีแค่เวลานี้! หากพลาดไปแล้วก็คงพลาดไปตลอดกาล!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2900 ถือโอกาสโจมตี!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2900 ถือโอกาสโจมตี! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2900 ถือโอกาสโจมตี!

“พี่ชิงหยุน ไม่ได้เจอกันเสียนาน!” เมื่อเฟิงเสี่ยวเถียนได้เห็นหน้าผู้มาถึงเขาก็ต้องกล่าวทักขึ้นมาด้วยรอยยิ้มทันที

ตอนนี้มีมหาจักรพรรดิหลายคนกำลังเดินเข้ามหานครมามันย่อมจะทำผู้คนหันมาสนใจ

คนทั้งหลายนี้คือกำลังเสริมที่นิกายต่างๆ ส่งมาช่วยเหลือ!

ตอนนี้กองทัพเสริมนั้นมันถูกส่งมายังมหานครฉีใต้กว่าแสนคน

นี่เรียกได้ว่าเป็นแรงสุดท้ายของนิกายค่ายสำนักทั้งหลายแล้ว

แน่นอนว่าคนที่นำทัพเสริมนี้มันย่อมจะเป็นผู้อาวุโสใหญ่หอสุดแสงแห่งนิกายยาสุดล้ำอย่างหลี่ชิงหยุน ศิษย์คนโตของเจ้าโลกหยุนซาน

ครั้งนี้แม้แต่เขาเองก็ยังต้องออกหน้าเอง

ได้เห็นเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นหลี่ชิงหยุนก็ต้องยิ้มขึ้นมาทักทายตอบ “เสี่ยวเถียน ดูเจ้าจะพัฒนาตัวเองไปได้มากทีเดียว! อีกไม่นานคงถึงระดับเจ้าโลกได้แน่แล้ว!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “อาณาจักรเจ้าโลกนั้นมันพูดง่ายกว่าทำ! พี่ชิงหยุนเองเก่งกาจแค่ไหนใครๆ ก็รู้แต่ตอนนี้ท่านก็ยังบรรลุไม่ได้มิใช่หรือ?”

หลี่ชิงหยุนนั้นมิใช่คนขี้ขลาดตาขาว หลายปีก่อนนั้นเขาก็ได้ออกมารบแนวหน้าพร้อมๆ กับเฟิงเสี่ยวเถียนนี้

เพียงแค่ว่าในตอนนั้นเฟิงเสี่ยวเถียนยังเป็นแค่เด็กหนุ่มที่พลังไม่ถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ ย่อมจะเป็นคนรุ่นหลังของหลี่ชิงหยุน

แต่ถึงจะเป็นตอนนั้นเองเฟิงเสี่ยวเถียนก็ถือว่าเป็นดาวรุ่งแล้ว

หลี่ชิงหยุนหันไปมองเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเห็นจึงคิดจะแนะนำคนทั้งสองให้รู้จักกันแต่เย่หยวนกลับเป็นคนที่พูดขึ้นมาก่อนเมื่อเห็นสายตาของหลี่ชิงหยุน “ข้าขอคารวะศิษย์พี่ใหญ่!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมา ศิษย์พี่ใหญ่?

เช่นนั้นแล้ว…

ทางหลี่ชิงหยุนที่ได้ยินจึงร้องตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ “เจ้าเด็กบ้านี่! เจ้าจะเล่นไม่ดูตัวเกินไปแล้ว เจ้าอยากจะตายหรืออย่างไรกัน?”

แม้ว่าเขานั้นจะไม่พอใจแต่ว่าสีหน้าและน้ำเสียงนั้นมันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวลเป็นห่วง

เย่หยวนก้มหัวลงตอบ “ศิษย์พี่ใหญ่กล่าวสั่งสอนได้ถูกต้องแล้ว เย่หยวนจะไม่ทำมันอีกแล้ว”

ได้ยินเช่นนั้นหลี่ชิงหยุนถึงค่อยทำหน้าผ่อนคลายขึ้นมา

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นหันไปมองหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “น้องเย่ เจ้าช่างปกปิดพี่คนนี้ลึกล้ำนัก! ที่แท้เจ้ากลับเป็นศิษย์ท่านหยุนซาน!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ก่อนหน้าล้วนแล้วแต่สถานการณ์บังคับ หวังว่าพี่เฟิงจะไม่ถือโทษข้า!”

แต่เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องถอนหายใจยาวออกมาตาม “ท่านหยุนซานนั้นช่างมีตาที่ดีนัก! ศิษย์แต่ละคนของท่านนั้นไม่เคยมีใครธรรมดา! น้องเย่นั้นเก่งกาจทำเรื่องเหนือฟ้าล้ำสวรรค์อย่างไม่อาจเอาใครมาเทียบได้!”

ตอนนี้จะเรียกเย่หยวนว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในพันธมิตรสวรรค์แรกก็คงไม่ผิด

ตอนนี้ชื่อของเขามันขึ้นไปอยู่บนรายชื่อล่าหัวของเผ่าเลือดไปแล้ว จะเพิ่มเรื่องการเป็นศิษย์เจ้าโลกหยุนซานเข้ามาหรือไม่มันก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย

เพราะฉะนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องปิดซ่อนใดๆ กันอีก

แต่เมื่อประกาศออกมามันย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่นระลอกที่สองขึ้น

คนทั้งหลายนั้นกล่าวชื่นชมเย่หยวนออกมาอย่างไม่ขาดปาก

ในฐานะศิษย์เจ้าโลกหยุนซานนั้นเขาย่อมจะสามารถนั่งบ่มเพาะอยู่แนวหลังได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าใครจะนินทาใดๆ

แต่ตัวเขานั้นกลับอาสาออกทัพไปแนวหน้าเอง ทั้งยังสร้างชัยชนะที่เหนือล้ำฟ้าดินอย่างไม่เคยมีมาก่อนนี้ด้วย!

ต่อให้จะอยากหาเรื่องด่ามันก็ไม่อาจจะด่าอะไรเขาคนนี้ได้จริงๆ!

ในจวนเจ้าเมืองนั้นเหล่ายอดคนของฉีใต้ต่างมารวมตัวกันครบ

เฟิงเสี่ยวเถียนกล่าวขึ้น “มีพี่ชิงหยุนอยู่ดูแลฉีใต้แล้ว เฟิงผู้นี้ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย! หลายปีมานี้มหานครฉีใต้เราถูกโจมตีแทบทุกวันแต่ตอนนี้มันจะเป็นโอกาสให้เราได้ฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้ว!”

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นี้มันทำให้เฟิงเสี่ยวเถียนต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก

เขานั้นรู้ดีว่าช่วงความสงบได้มาถึงแล้ว

สิบปีจากนี้มหานครฉีใต้คงจะไม่ต้องสู้รบใดๆ อีก

ก่อนๆ มาเผ่าเลือดนั้นโจมตีอย่างไม่ให้พวกเขาได้หยุดพักทำให้คนทั้งหลายเหนื่อยล้าสะสมมานานปี

ไม่เช่นนั้นแล้วมหานครฉีใต้ก็คงไม่โทรมถึงขั้นถูกเรียกว่านรกบนดิน

หลี่ชิงหยุนพยักหน้ารับ “เสี่ยวเถียนสู้มานานคงเหนื่อยมากแล้ว ข้าว่าเจ้าเองก็คงได้ประโยชน์จากมันไม่น้อยเช่นกัน ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่เจ้าจะได้เก็บตัวหาทางบรรลุเจ้าโลกเสียที! ตอนนี้เราต้องการเจ้าโลกมากที่สุดกว่าสิ่งใด!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ข้าอายที่จะพูดเช่นนี้ เพราะแม้จะได้ประโยชน์มาบ้าง…ข้าก็ยังไม่อาจเข้าใจอาณาจักรเจ้าโลกได้อยู่ดี!”

จุดนี้คนอื่นๆ ติดอยู่กันนานเป็นหมื่นๆ แสนๆ ปี ต่อให้เขาจะเก่งแค่ไหนแต่มันก็ต้องใช้เวลาอีกมากกว่าที่เขาจะบรรลุเจ้าโลกได้

แต่ตอนนั้นเองที่เย่หยวนกล่าวขึ้นมาแทรก “พี่เฟิงศิษย์พี่ใหญ่ ข้าเกรงว่า…จะพักตอนนี้มันคงยังไม่เหมาะ!”

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ศิษย์น้อยเล็กเจ้าหมายถึง?”

เย่หยวนตอบกลับไป “ตอนนี้พันธมิตรสวรรค์แรกได้ชัยชนะยิ่งใหญ่มาทำให้เมืองข่ายยักษ์นั้นแทบจะเป็นเมืองร้าง นี่แหละเป็นโอกาสทองที่เราจะโจมตีสวนกลับไป! หากเราพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว…มันคงจะไม่มีโอกาสครั้งหน้าอีกแน่!”

“ซีด…”

มหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างต้องสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อได้ยิน

คำพูดนี้มันทำให้หัวใจพวกเขาแทบหยุดเต้น!

ถือโอกาสโจมตี!

หลายพันปีที่ผ่านมานี้พวกเขาเหล่าคนสวรรค์แรกมีแต่ตั้งรับ ไม่เคยมีใครคิดโจมตี!

แต่เย่หยวนกลับเป็นคนแรกที่คิด!

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องหรี่ตาคิดหนักแต่สุดท้ายก็ต้องส่ายหัวออกมา

มันเสี่ยงเกินไป!

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่น “ศิษย์น้องเล็ก ข้ารู้ว่าเจ้านั้นทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จไว้มากมายแต่เจ้าจะไม่ดูสภาพความเป็นจริงเกินไปหน่อยหรือ หากคิดพูดถึงการโจมตีสวนกลับ? ก็จริงที่ว่าเรานั้นชนะศึกมาแต่เผ่าเลือดนั้นมันก็มิใช่ขยะที่จะปล่อยให้เราเล่นงานง่ายๆ! พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นจะออกไปเสี่ยงเช่นนี้ไม่ได้!”

คำพูดนี้มันหนักหน่วงไม่น้อย

คนอื่นๆ เองก็คิดเช่นนี้แต่ให้หลี่ชิงหยุนเป็นคนกล่าวมันย่อมจะเหมาะสมที่สุด

ครั้งนี้เหล่านิกายทั้งหลายนั้นต่างได้ส่งกำลังทั้งหมดออกมา

คนเหล่านี้คือหัวกะทิจากนิกายน้อยใหญ่!

หากพาคนทั้งหลายนี้ไปตายลงแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกคงถึงคราวจบสิ้น

นอกจากนั้นความน่ากลัวของเผ่าเลือดนั้นยังฝังลึกลงในจิตใจของผู้คนด้วย

ต่อให้จะเป็นยอดคนอย่างหลี่ชิงหยุนนี้เองก็ยังเกรงกลัว

หลายพันปีมานี้พวกเขานั้นได้แต่ต้องรับการโจมตีของอีกฝ่าย

โจมตีสวนกลับ?

จะบ้าหรือ?!

เผ่าเลือดนั้นมันแพ้ได้แต่เรานั้นแพ้เท่ากับตาย!

เย่หยวนนั้นตอบกลับไปอย่างหนักแน่น

“เพื่อจะสังหารเจ้าโลกหวู่เฟิงคราวนี้เจ้าโลกโหยวจินมันต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับไป! ตอนนี้มันกำลังพักอยู่ที่เมืองข่ายยักษ์! นอกจากนี้หัวกะทิของเมืองข่ายยักษ์มันยังถูกเกณฑ์ออกมาสู้ และถูกข้าสังหารไปสิ้นแล้ว! พวกที่เหลือนั้นมันแค่ทหารเลวธรรมดาๆ! นอกจากนั้นหลังจากผ่านศึกหนักมาหลายครั้ง มหาจักรพรรดิของเมืองข่ายยักษ์เองยังได้รับบาดเจ็บกันไปไม่น้อย!

ตอนนี้นอกจากมีศิษย์พี่ใหญ่นำทัพแล้วเรายังมีกำลังเสริมอีกนับแสน! เผ่าเลือดเองก็คงไม่นึกฝันว่าเราจะโจมตีเมืองข่ายยักษ์สวนกลับไปแน่นอน! หากเราโชคดีเราอาจจะถึงขั้นสังหารเจ้าโลกโหยวจินมันลงได้! ศิษย์พี่ใหญ่ โอกาสทองเช่นนี้จะปล่อยไปไม่ได้ หากพลาดไปแล้วมันจะไม่หวนกลับมาหาเราอีก!”

สังหารเจ้าโลกโหยวจิน!

คำพูดนี้มันทำให้คนทั้งหลายนั้นใจเต้นรัวขึ้นมา

นั่นมันคือเจ้าโลก!

หากสังหารเจ้าโลกของเผ่าเลือดลงได้จริงๆ แล้วมันย่อมจะกลายเป็นชัยชนะที่ไม่อาจเอาอะไรมาเทียบเคียง!

แต่มันจะได้ผลหรือ?

พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นไม่ได้ออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มานานหลายพันปีแล้ว

ผลลัพธ์จากเรื่องนั้นมันทำให้คนมากมายกลัวที่จะออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์

แต่เย่หยวนนั้นกลับมอบข้อมูลที่ทำให้พวกเขาต่างต้องหันมาฟัง

พวกเขานั้นรู้ว่าเย่หยวนเคยเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ เขานั้นย่อมจะเข้าใจสภาพของเผ่าเลือดอย่างดี

จะเอาหรือไม่?

“ทำไมเรา…ไม่ลองส่งเรื่องไปถามท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ดูเล่า?” หลี่ชิงหยุนกล่าวขึ้นเสนอ

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมา

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่เห็นด้วยแน่! เพราะนี่เราตอนนี้คือไพ่ตายสุดท้ายของพันธมิตรสวรรค์แรก ท่านย่อมจะไม่ยอมเอามันไปเสี่ยง!

แต่หากไม่เสี่ยงมันก็ไม่ได้ชัยชนะ! ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าเลือดมันคงให้เวลาเราอีกไม่มาก!

เมืองข่ายยักษ์นั้นจะอย่างไรก็เป็นเมืองด่านหน้าของพวกมัน อีกไม่นานเผ่าเลือดคงได้ส่งกำลังหนุนเข้ามารักษาเมืองแน่นอน!

เพราะฉะนั้นมันต้องใช้โอกาสตอนนี้เท่านั้น! ศิษย์พี่ใหญ่ พี่เฟิง หากเราไม่สังหารเจ้าโลกลงแล้วชัยชนะของเรามันก็คงไร้ความหมาย!

มีสิบปีให้พักหายใจแล้วทำไม? มันก็แค่เวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น พวกท่านก็รู้!

หลังจากสิบปีผ่านไปแล้วเผ่าเลือดมันคงบุกกลับมาอย่างหนักหน่วงกว่าเก่าแน่นอนแล้ว! ซึ่งโอกาสที่เราจะสังหารโหยวจินได้นั้นมันมีแค่เวลานี้! หากพลาดไปแล้วก็คงพลาดไปตลอดกาล!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2900 ถือโอกาสโจมตี!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2900 ถือโอกาสโจมตี! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2900 ถือโอกาสโจมตี!

“พี่ชิงหยุน ไม่ได้เจอกันเสียนาน!” เมื่อเฟิงเสี่ยวเถียนได้เห็นหน้าผู้มาถึงเขาก็ต้องกล่าวทักขึ้นมาด้วยรอยยิ้มทันที

ตอนนี้มีมหาจักรพรรดิหลายคนกำลังเดินเข้ามหานครมามันย่อมจะทำผู้คนหันมาสนใจ

คนทั้งหลายนี้คือกำลังเสริมที่นิกายต่างๆ ส่งมาช่วยเหลือ!

ตอนนี้กองทัพเสริมนั้นมันถูกส่งมายังมหานครฉีใต้กว่าแสนคน

นี่เรียกได้ว่าเป็นแรงสุดท้ายของนิกายค่ายสำนักทั้งหลายแล้ว

แน่นอนว่าคนที่นำทัพเสริมนี้มันย่อมจะเป็นผู้อาวุโสใหญ่หอสุดแสงแห่งนิกายยาสุดล้ำอย่างหลี่ชิงหยุน ศิษย์คนโตของเจ้าโลกหยุนซาน

ครั้งนี้แม้แต่เขาเองก็ยังต้องออกหน้าเอง

ได้เห็นเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นหลี่ชิงหยุนก็ต้องยิ้มขึ้นมาทักทายตอบ “เสี่ยวเถียน ดูเจ้าจะพัฒนาตัวเองไปได้มากทีเดียว! อีกไม่นานคงถึงระดับเจ้าโลกได้แน่แล้ว!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “อาณาจักรเจ้าโลกนั้นมันพูดง่ายกว่าทำ! พี่ชิงหยุนเองเก่งกาจแค่ไหนใครๆ ก็รู้แต่ตอนนี้ท่านก็ยังบรรลุไม่ได้มิใช่หรือ?”

หลี่ชิงหยุนนั้นมิใช่คนขี้ขลาดตาขาว หลายปีก่อนนั้นเขาก็ได้ออกมารบแนวหน้าพร้อมๆ กับเฟิงเสี่ยวเถียนนี้

เพียงแค่ว่าในตอนนั้นเฟิงเสี่ยวเถียนยังเป็นแค่เด็กหนุ่มที่พลังไม่ถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ ย่อมจะเป็นคนรุ่นหลังของหลี่ชิงหยุน

แต่ถึงจะเป็นตอนนั้นเองเฟิงเสี่ยวเถียนก็ถือว่าเป็นดาวรุ่งแล้ว

หลี่ชิงหยุนหันไปมองเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเห็นจึงคิดจะแนะนำคนทั้งสองให้รู้จักกันแต่เย่หยวนกลับเป็นคนที่พูดขึ้นมาก่อนเมื่อเห็นสายตาของหลี่ชิงหยุน “ข้าขอคารวะศิษย์พี่ใหญ่!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมา ศิษย์พี่ใหญ่?

เช่นนั้นแล้ว…

ทางหลี่ชิงหยุนที่ได้ยินจึงร้องตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ “เจ้าเด็กบ้านี่! เจ้าจะเล่นไม่ดูตัวเกินไปแล้ว เจ้าอยากจะตายหรืออย่างไรกัน?”

แม้ว่าเขานั้นจะไม่พอใจแต่ว่าสีหน้าและน้ำเสียงนั้นมันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวลเป็นห่วง

เย่หยวนก้มหัวลงตอบ “ศิษย์พี่ใหญ่กล่าวสั่งสอนได้ถูกต้องแล้ว เย่หยวนจะไม่ทำมันอีกแล้ว”

ได้ยินเช่นนั้นหลี่ชิงหยุนถึงค่อยทำหน้าผ่อนคลายขึ้นมา

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นหันไปมองหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “น้องเย่ เจ้าช่างปกปิดพี่คนนี้ลึกล้ำนัก! ที่แท้เจ้ากลับเป็นศิษย์ท่านหยุนซาน!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ก่อนหน้าล้วนแล้วแต่สถานการณ์บังคับ หวังว่าพี่เฟิงจะไม่ถือโทษข้า!”

แต่เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องถอนหายใจยาวออกมาตาม “ท่านหยุนซานนั้นช่างมีตาที่ดีนัก! ศิษย์แต่ละคนของท่านนั้นไม่เคยมีใครธรรมดา! น้องเย่นั้นเก่งกาจทำเรื่องเหนือฟ้าล้ำสวรรค์อย่างไม่อาจเอาใครมาเทียบได้!”

ตอนนี้จะเรียกเย่หยวนว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในพันธมิตรสวรรค์แรกก็คงไม่ผิด

ตอนนี้ชื่อของเขามันขึ้นไปอยู่บนรายชื่อล่าหัวของเผ่าเลือดไปแล้ว จะเพิ่มเรื่องการเป็นศิษย์เจ้าโลกหยุนซานเข้ามาหรือไม่มันก็คงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย

เพราะฉะนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องปิดซ่อนใดๆ กันอีก

แต่เมื่อประกาศออกมามันย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่นระลอกที่สองขึ้น

คนทั้งหลายนั้นกล่าวชื่นชมเย่หยวนออกมาอย่างไม่ขาดปาก

ในฐานะศิษย์เจ้าโลกหยุนซานนั้นเขาย่อมจะสามารถนั่งบ่มเพาะอยู่แนวหลังได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าใครจะนินทาใดๆ

แต่ตัวเขานั้นกลับอาสาออกทัพไปแนวหน้าเอง ทั้งยังสร้างชัยชนะที่เหนือล้ำฟ้าดินอย่างไม่เคยมีมาก่อนนี้ด้วย!

ต่อให้จะอยากหาเรื่องด่ามันก็ไม่อาจจะด่าอะไรเขาคนนี้ได้จริงๆ!

ในจวนเจ้าเมืองนั้นเหล่ายอดคนของฉีใต้ต่างมารวมตัวกันครบ

เฟิงเสี่ยวเถียนกล่าวขึ้น “มีพี่ชิงหยุนอยู่ดูแลฉีใต้แล้ว เฟิงผู้นี้ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย! หลายปีมานี้มหานครฉีใต้เราถูกโจมตีแทบทุกวันแต่ตอนนี้มันจะเป็นโอกาสให้เราได้ฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้ว!”

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นี้มันทำให้เฟิงเสี่ยวเถียนต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก

เขานั้นรู้ดีว่าช่วงความสงบได้มาถึงแล้ว

สิบปีจากนี้มหานครฉีใต้คงจะไม่ต้องสู้รบใดๆ อีก

ก่อนๆ มาเผ่าเลือดนั้นโจมตีอย่างไม่ให้พวกเขาได้หยุดพักทำให้คนทั้งหลายเหนื่อยล้าสะสมมานานปี

ไม่เช่นนั้นแล้วมหานครฉีใต้ก็คงไม่โทรมถึงขั้นถูกเรียกว่านรกบนดิน

หลี่ชิงหยุนพยักหน้ารับ “เสี่ยวเถียนสู้มานานคงเหนื่อยมากแล้ว ข้าว่าเจ้าเองก็คงได้ประโยชน์จากมันไม่น้อยเช่นกัน ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่เจ้าจะได้เก็บตัวหาทางบรรลุเจ้าโลกเสียที! ตอนนี้เราต้องการเจ้าโลกมากที่สุดกว่าสิ่งใด!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ข้าอายที่จะพูดเช่นนี้ เพราะแม้จะได้ประโยชน์มาบ้าง…ข้าก็ยังไม่อาจเข้าใจอาณาจักรเจ้าโลกได้อยู่ดี!”

จุดนี้คนอื่นๆ ติดอยู่กันนานเป็นหมื่นๆ แสนๆ ปี ต่อให้เขาจะเก่งแค่ไหนแต่มันก็ต้องใช้เวลาอีกมากกว่าที่เขาจะบรรลุเจ้าโลกได้

แต่ตอนนั้นเองที่เย่หยวนกล่าวขึ้นมาแทรก “พี่เฟิงศิษย์พี่ใหญ่ ข้าเกรงว่า…จะพักตอนนี้มันคงยังไม่เหมาะ!”

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ศิษย์น้อยเล็กเจ้าหมายถึง?”

เย่หยวนตอบกลับไป “ตอนนี้พันธมิตรสวรรค์แรกได้ชัยชนะยิ่งใหญ่มาทำให้เมืองข่ายยักษ์นั้นแทบจะเป็นเมืองร้าง นี่แหละเป็นโอกาสทองที่เราจะโจมตีสวนกลับไป! หากเราพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว…มันคงจะไม่มีโอกาสครั้งหน้าอีกแน่!”

“ซีด…”

มหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างต้องสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อได้ยิน

คำพูดนี้มันทำให้หัวใจพวกเขาแทบหยุดเต้น!

ถือโอกาสโจมตี!

หลายพันปีที่ผ่านมานี้พวกเขาเหล่าคนสวรรค์แรกมีแต่ตั้งรับ ไม่เคยมีใครคิดโจมตี!

แต่เย่หยวนกลับเป็นคนแรกที่คิด!

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องหรี่ตาคิดหนักแต่สุดท้ายก็ต้องส่ายหัวออกมา

มันเสี่ยงเกินไป!

หลี่ชิงหยุนขมวดคิ้วแน่น “ศิษย์น้องเล็ก ข้ารู้ว่าเจ้านั้นทำเรื่องใหญ่ให้สำเร็จไว้มากมายแต่เจ้าจะไม่ดูสภาพความเป็นจริงเกินไปหน่อยหรือ หากคิดพูดถึงการโจมตีสวนกลับ? ก็จริงที่ว่าเรานั้นชนะศึกมาแต่เผ่าเลือดนั้นมันก็มิใช่ขยะที่จะปล่อยให้เราเล่นงานง่ายๆ! พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นจะออกไปเสี่ยงเช่นนี้ไม่ได้!”

คำพูดนี้มันหนักหน่วงไม่น้อย

คนอื่นๆ เองก็คิดเช่นนี้แต่ให้หลี่ชิงหยุนเป็นคนกล่าวมันย่อมจะเหมาะสมที่สุด

ครั้งนี้เหล่านิกายทั้งหลายนั้นต่างได้ส่งกำลังทั้งหมดออกมา

คนเหล่านี้คือหัวกะทิจากนิกายน้อยใหญ่!

หากพาคนทั้งหลายนี้ไปตายลงแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกคงถึงคราวจบสิ้น

นอกจากนั้นความน่ากลัวของเผ่าเลือดนั้นยังฝังลึกลงในจิตใจของผู้คนด้วย

ต่อให้จะเป็นยอดคนอย่างหลี่ชิงหยุนนี้เองก็ยังเกรงกลัว

หลายพันปีมานี้พวกเขานั้นได้แต่ต้องรับการโจมตีของอีกฝ่าย

โจมตีสวนกลับ?

จะบ้าหรือ?!

เผ่าเลือดนั้นมันแพ้ได้แต่เรานั้นแพ้เท่ากับตาย!

เย่หยวนนั้นตอบกลับไปอย่างหนักแน่น

“เพื่อจะสังหารเจ้าโลกหวู่เฟิงคราวนี้เจ้าโลกโหยวจินมันต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับไป! ตอนนี้มันกำลังพักอยู่ที่เมืองข่ายยักษ์! นอกจากนี้หัวกะทิของเมืองข่ายยักษ์มันยังถูกเกณฑ์ออกมาสู้ และถูกข้าสังหารไปสิ้นแล้ว! พวกที่เหลือนั้นมันแค่ทหารเลวธรรมดาๆ! นอกจากนั้นหลังจากผ่านศึกหนักมาหลายครั้ง มหาจักรพรรดิของเมืองข่ายยักษ์เองยังได้รับบาดเจ็บกันไปไม่น้อย!

ตอนนี้นอกจากมีศิษย์พี่ใหญ่นำทัพแล้วเรายังมีกำลังเสริมอีกนับแสน! เผ่าเลือดเองก็คงไม่นึกฝันว่าเราจะโจมตีเมืองข่ายยักษ์สวนกลับไปแน่นอน! หากเราโชคดีเราอาจจะถึงขั้นสังหารเจ้าโลกโหยวจินมันลงได้! ศิษย์พี่ใหญ่ โอกาสทองเช่นนี้จะปล่อยไปไม่ได้ หากพลาดไปแล้วมันจะไม่หวนกลับมาหาเราอีก!”

สังหารเจ้าโลกโหยวจิน!

คำพูดนี้มันทำให้คนทั้งหลายนั้นใจเต้นรัวขึ้นมา

นั่นมันคือเจ้าโลก!

หากสังหารเจ้าโลกของเผ่าเลือดลงได้จริงๆ แล้วมันย่อมจะกลายเป็นชัยชนะที่ไม่อาจเอาอะไรมาเทียบเคียง!

แต่มันจะได้ผลหรือ?

พันธมิตรสวรรค์แรกนั้นไม่ได้ออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มานานหลายพันปีแล้ว

ผลลัพธ์จากเรื่องนั้นมันทำให้คนมากมายกลัวที่จะออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์

แต่เย่หยวนนั้นกลับมอบข้อมูลที่ทำให้พวกเขาต่างต้องหันมาฟัง

พวกเขานั้นรู้ว่าเย่หยวนเคยเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ เขานั้นย่อมจะเข้าใจสภาพของเผ่าเลือดอย่างดี

จะเอาหรือไม่?

“ทำไมเรา…ไม่ลองส่งเรื่องไปถามท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ดูเล่า?” หลี่ชิงหยุนกล่าวขึ้นเสนอ

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมา

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่เห็นด้วยแน่! เพราะนี่เราตอนนี้คือไพ่ตายสุดท้ายของพันธมิตรสวรรค์แรก ท่านย่อมจะไม่ยอมเอามันไปเสี่ยง!

แต่หากไม่เสี่ยงมันก็ไม่ได้ชัยชนะ! ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าเลือดมันคงให้เวลาเราอีกไม่มาก!

เมืองข่ายยักษ์นั้นจะอย่างไรก็เป็นเมืองด่านหน้าของพวกมัน อีกไม่นานเผ่าเลือดคงได้ส่งกำลังหนุนเข้ามารักษาเมืองแน่นอน!

เพราะฉะนั้นมันต้องใช้โอกาสตอนนี้เท่านั้น! ศิษย์พี่ใหญ่ พี่เฟิง หากเราไม่สังหารเจ้าโลกลงแล้วชัยชนะของเรามันก็คงไร้ความหมาย!

มีสิบปีให้พักหายใจแล้วทำไม? มันก็แค่เวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น พวกท่านก็รู้!

หลังจากสิบปีผ่านไปแล้วเผ่าเลือดมันคงบุกกลับมาอย่างหนักหน่วงกว่าเก่าแน่นอนแล้ว! ซึ่งโอกาสที่เราจะสังหารโหยวจินได้นั้นมันมีแค่เวลานี้! หากพลาดไปแล้วก็คงพลาดไปตลอดกาล!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+