Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง

หวังจั่วนั้นร้องลั่นขึ้นมาอีกครั้ง!

เสียงของเขานั้นมันทำให้ห้วงมิติรอบวิหารโลหิตเทวาต้องสั่นสะเทือน

‘เย่หยวน’ สองคำนั้นดังลั่นอยู่ภายในโถงนานเป็นชั่วโมงๆ

คนที่ได้ยินนั้นต่างต้องก้มหน้าเงียบลงไป

เมืองข่ายยักษ์นั้นถูกกวาดจนเรียบ มันถือเป็นการตบหน้าเผ่าเลือดอย่างรุนแรง

หลายพันปีที่ผ่านมานี้เผ่าเลือดเคยพ่ายแพ้หนักหน่วงปานนี้?

ที่น่าชังมากกว่านั้นมันก็เพราะเรื่องที่เย่หยวนใช้เลือดต้นนั้นไปกดดันแสงเนตรโลหิตจนสิ้นฤทธิ์ ปล่อยให้เมืองไร้การป้องกันใดๆ ทัพกองทัพเสียท่าอย่างไร้ทางขัดขืน

นี่มันเรื่องตลกร้ายชัดๆ!

ศิลามารดานั้นยอมรับเย่หยวนและมอบเลือดต้นให้แก่เย่หยวนไป

สุดท้ายเย่หยวนนั้นกลับใช้เลือดต้นนั้นเหยียบหน้าเผ่าเลือดสังหารโหยวจินลง

นี่มันคือความพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย!

หวังจั่วนั้นร้อนรุ่มไปด้วยความคับแค้นใจ

เขาเกลียด!

เขานั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนจะกล้าเอากองทัพสวรรค์แรกบุกสวนออกมาถึงเมืองข่ายยักษ์

แต่เขาจะทำอะไรได้?

ไปบอกศิลามารดาว่า ‘ไอ้โง่ เจ้าเลือกคนผิดแล้ว!’ อย่างนั้นหรือ?

มันจะไม่เท่ากับรนหาที่ตาย?

แต่ตอนนี้ต่อให้ไม่ไปมันก็คงไม่ได้

ไม่เช่นนั้นเย่หยวนจะกลายเป็นดั่งพิษร้ายของเผ่าเลือด มีแต่ต้องไปบอกศิลามารดาว่าเลือกผิดแล้วเท่านั้น!

หลังจากสงบจิตใจลงได้หวังจั่วก็มุ่งหน้าเข้าไปยังห้องมิติแยกนั้น

เสียงหัวใจเต้นมันยังคงดังอยู่ภายในห้อง

หวังจั่วสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะคุกเข่าลงค่อยๆ ปล่อยคลื่นพลังพิเศษออกจากร่าง

นี่มันคือวิธีการที่หวังจั่วติดต่อกับศิลามารดา

ไม่นานจากนั้นเสียงหัวใจเต้นมันก็เงียบลง

ก่อนจะแทนที่ด้วยความสั่นสะเทือนที่ทำให้ห้วงมิติแทบพังทลาย

เวลาเดียวกันนั้นแรงสะเทือนนี้มันก็ถูกส่งไปภายนอกทำให้ทั้งวิหารโลหิตเทวานั้นสั่นคลอน

“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน? น…นี่ฟ้าจะถล่มแล้วหรือ?” สมาชิกวิหารโลหิตเทวาหลายคนร้องขึ้นมาเพราะว่าพวกเขานั้นไม่รู้ถึงที่มาแรงสั่นนี้

ส่วนพวกยอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายนั้นต่างได้แต่นั่งหน้าซีดเมื่อสัมผัสได้ถึงมัน

พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่าศิลามารดากำลังพิโรธ

หวังจั่วนั้นคุกเข่าลงต่อหน้าศิลามารดาพร้อมเหงื่อท่วมกาย

แรงกดดันที่เขาได้รับจากศิลามารดานั้นมันยิ่งใหญ่จนเกินไป!

เขานั้นรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ศิลามารดาอันยิ่งใหญ่กลับมองพลาดไป!

มันเป็นเรื่องน่าอับอาย!

แม้แต่หวังจั่วเองก็ยังต้องนั่งตัวสั่นต่อหน้าศิลามารดานี้ แต่ว่าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งกลับมาหลอกลวงและหลอกเอาเลือดต้นกลับไป!

สำหรับศิลาโลหิตโกลาหลแล้วมันคงถือว่าเป็นความอับอายที่ไม่อาจยอมรับได้!

มดปลวกเช่นนั้น?

มันอ่อนแอ!

ตัวตนระดับนั้นศิลาโลหิตโกลาหลสามารถสังหารได้อย่างไม่ต้องลงมืออะไร

แต่ตัวตนเช่นนั้นมันกลับหลอกลวงและเอาเลือดต้นไปจากมัน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แต่สุดท้ายศิลาโลหิตโกลาหลก็ค่อยๆ สงบลง

มิติที่สั่นสะเทือนจนเกินรอยแตกนั้นมันค่อยๆ ซ่อมแซมตัวเองกลับมา

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีคลื่นพลังสายหนึ่งปล่อยออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหล

หวังจั่วรับพลังนั้นไว้และเข้าใจถึงความคิดต่างๆ นานา

ค่อยๆ เล่าเรื่องของเย่หยวนออกไปให้ศิลาโลหิตโกลาหลรับรู้

ศิลาโลหิตโกลาหลนิ่งไป

ดูท่าแล้วเรื่องของเย่หยวนคงทำให้มันตกตะลึงไม่น้อย

แต่ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ยังเป็นแค่มดปลวกตัวหนึ่ง

ต่อหน้าพลังที่แท้จริงแล้วมันย่อมจะไม่มีทางหลบรอดไปได้

วินาทีต่อมามันก็ปรากฏแก่นเลือดหนึ่งลอยออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลและสิ่งนี้มันคือแก่นเลือดที่เย่หยวนเคยมอบให้แก่มัน

เมื่อหวังจั่วได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดยิ้มขึ้นไม่ได้

เย่หยวนได้ตายแน่แล้ว!

จากนั้นมันก็มีแสงสีแดงสดพุ่งออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลแทงผ่านแก่นเลือดนั้นไป

หวังจั่วยิ้มกว้างมองดูเรื่องราว ตอนนี้การสังหารเย่หยวนนั้นคือเป้าหมายสูงสุดของตัวเขา

เมื่อศิลามารดาลงมือเองแล้วมันย่อมจะไม่มีทางหนีรอดไปได้

แก่นเลือดนี้มันคือตัวประกันดีๆ นี่เอง!

ที่น่าหัวเราะก็คือเย่หยวนนั้นกลับกล้ามอบแก่นเลือดของตัวเองออกมาให้แก่ศิลามารดา

ใช้แก่นเลือดเช่นนี้ศิลามารดาย่อมจะสามารถส่งพลังสะท้อนกลับไปยังร่างต้นและสังหารนักยุทธพลังอาณาจักร จักรพรรดิลงได้ง่ายๆ

แต่ผ่านไปหนึ่งอึดใจ

สิบอึดใจ

ร้อยอึดใจก็แล้ว

ศิลาโลหิตโกลาหลกลับไม่ทำอะไรต่ออีก

มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ฆ่าจักรพรรดิเที่ยงคนเดียวมันต้องใช้เวลาปานนั้น?

ปัง!

แก่นเลือดนั้นระเบิดออกจางหายไป

ศิลาโลหิตโกลาหลที่สงบลงแล้วนั้นเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง

หวังจั่วได้แต่ทำหน้างง

มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?

ศิลามารดาสังหารเย่หยวนไม่ได้?

จากนั้นมันก็มีคลื่นพลังส่งความคิดออกมาให้แก่หวังจั่วทำให้เขาเข้าใจเรื่องราวทันที

ที่แท้แก่นเลือดนี้มันกลับไม่ใช่ของเย่หยวน!

หวังจั่วนั้นอดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้

นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!

เย่หยวนนั้นกลับใช้เลือดคนอื่นและหลอกว่าเป็นตัวเอง?

ที่สำคัญมันยังหลอกได้สำเร็จด้วย!

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นคือตัวตนระดับใด?

มันรู้ทุกสิ่งอย่าง!

ตัวตนที่ทรงพลังถึงขั้นสามารถสร้างเผ่าพันธุ์ขึ้นมาได้มันย่อมจะเป็นตัวตนที่เข้าใจชีวิตเป็นอย่างดี

แต่ว่าตัวตนระดับนั้นกลับถูกเด็กน้อยที่พลังไม่ถึงมหาจักรพรรดิหลอก!

แน่นอนว่าหากเขาได้รู้ว่าเย่หยวนทิ้งเสี้ยวดาบเต๋าไว้ภายในศิลาโลหิตโกลาหลแล้วหวังจั่วคงได้ตกตะลึงจนสิ้นใจลงตรงนี้แน่นอน

จากนั้นมันก็มีคลื่นพลังความคิดอีกสายหนึ่งส่งมาให้หวังจั่วอีกครั้ง

มันยังมีเลือดต้นอยู่!

แก่นเลือดนั้นมันมิใช่ของเย่หยวนแต่เลือดต้นนั้นยังอยู่ในร่างของเย่หยวน!

ดูท่าศิลาโลหิตโกลาหลคงไม่พอใจมากแล้ว

คลื่นพลังงานรุนแรงพุ่งออกมาจากตัวมันทะลุผ่านห้วงมิติหายไปที่เส้นขอบฟ้าในพริบตา

พุ่งออกไปไกลลิบแต่กลับทรงพลังอย่างไม่อยากเชื่อ!

“มาแล้ว!”

ร่างของเย่หยวนสั่นสะท้านขึ้นมาพร้อมกระอักเลือดรุนแรง

พลังนั้นยังมาไม่ถึงแต่ว่าเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันแล้ว

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายเปลี่ยนสีไป

รุนแรง!

“นี่…นี่มันคือศิลาโลหิตโกลาหล? มันกลับมีตัวตนเช่นนี้ซ่อนอยู่ในเผ่าเลือด! จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!” เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นขนลุกตั้งทั้งตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังนี้

“รุนแรง! ตัวตนเช่นนี้มันเกิดขึ้นมาบนโลกได้อย่างไรกัน?”

“ช่างเป็นพลังที่ชั่วร้ายนัก! หากเจ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นมาแล้วสามสิบสามสวรรค์คงตกสู่ห้วงความสิ้นหวังแน่”

พลังกำเนิดนี้มันรุนแรงและไร้เหตุผล

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเลิกที่จะปกปิดตัวเองเพราะไม่จำเป็นอีกต่อไป

เลือดต้นนั้นมันถูกเย่หยวนเอาออกไปแล้ว เผ่าทั้งหลายในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดคงรู้ถึงตัวตนของมันในไม่ช้าก็เร็ว

ภายในร่างเย่หยวนเลือดต้นหยดนั้นมันเดือดพล่านขึ้นมาเหมือนคิดจะทำลายร่างกายของเย่หยวนทิ้ง

หากมันปะทุขึ้นมาจริงๆ แล้วร่างของเขาคงไม่เหลือแม้แต่ซากแน่

บนร่างของเย่หยวนนั้นผิวหนังเขาเริ่มปริแตกออกมา พร้อมกับที่เลือดไหลออกจากทุกรูบนร่าง!

“จะยังยืนโง่อะไรกันอีก? หากยังไม่ลงมือเย่หยวนจะได้ตายก่อนแล้ว!” เจ้าโลกหยุนซานนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมๆ กับที่ปล่อยคลื่นกำเนิดเข้าร่างของเย่หยวนอย่างสุดกำลัง

เจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินก็ต้องสะดุ้งตัวขึ้นมารีบปล่อยพลังเข้าร่างของเย่หยวนตามๆ กัน

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ถึงพลังรุนแรงล้ำที่ไหลเข้ามาในร่างก่อนจะหมุนวนไปตามกระแสเลือดภายใน

พลังทั้งหลายนั้นมันเหมือนระเบิดที่หากพลาดไปเพียงนิดร่างของเย่หยวนคงกลายเป็นฝุ่นได้ในพริบตา

พลังคลื่นกำเนิดหลายต่อหลายสายมันค่อยๆ เข้าไปสะกดเลือดต้นนั้นไว้

ตอนนี้ในร่างของเย่หยวนมันได้เปลี่ยนกลายเป็นสนามรบแล้ว

สนามรบนี้มันคือการรบระหว่างเจ้าโลกทั้งหลายและศิลาโลหิตโกลาหล!

นี่มันคือสนามรบที่แสนเปราะบางหากพลาดไปเพียงนิดร่างของเย่หยวนคงได้กลายเป็นผุยผงเพราะพลังนี้แน่

นี่มันคือสนามรบที่ไม่มีการฆ่าฟัน ไม่มีการปล่อยคลื่นพลังจนฟ้าดินเปลี่ยนสี

แต่มันเป็นสนามรบที่แสนอันตรายไม่แพ้การรบใดๆ

ไม่นานนักพลังของศิลาโลหิตโกลาหลมันก็มาถึง

ความรู้สึกของคนทั้งหลายนั้นมันเหมือนกับว่าถูกเรือรบเข้าล้อมรอบ เหมือนถูกดวงตะวันหล่นใส่หัว!

ราวกับว่าโลกมันจะแตกลงแล้วตอนนี้!

เย่หยวนหน้ามืดลงแทบสิ้นสติไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง

หวังจั่วนั้นร้องลั่นขึ้นมาอีกครั้ง!

เสียงของเขานั้นมันทำให้ห้วงมิติรอบวิหารโลหิตเทวาต้องสั่นสะเทือน

‘เย่หยวน’ สองคำนั้นดังลั่นอยู่ภายในโถงนานเป็นชั่วโมงๆ

คนที่ได้ยินนั้นต่างต้องก้มหน้าเงียบลงไป

เมืองข่ายยักษ์นั้นถูกกวาดจนเรียบ มันถือเป็นการตบหน้าเผ่าเลือดอย่างรุนแรง

หลายพันปีที่ผ่านมานี้เผ่าเลือดเคยพ่ายแพ้หนักหน่วงปานนี้?

ที่น่าชังมากกว่านั้นมันก็เพราะเรื่องที่เย่หยวนใช้เลือดต้นนั้นไปกดดันแสงเนตรโลหิตจนสิ้นฤทธิ์ ปล่อยให้เมืองไร้การป้องกันใดๆ ทัพกองทัพเสียท่าอย่างไร้ทางขัดขืน

นี่มันเรื่องตลกร้ายชัดๆ!

ศิลามารดานั้นยอมรับเย่หยวนและมอบเลือดต้นให้แก่เย่หยวนไป

สุดท้ายเย่หยวนนั้นกลับใช้เลือดต้นนั้นเหยียบหน้าเผ่าเลือดสังหารโหยวจินลง

นี่มันคือความพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย!

หวังจั่วนั้นร้อนรุ่มไปด้วยความคับแค้นใจ

เขาเกลียด!

เขานั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนจะกล้าเอากองทัพสวรรค์แรกบุกสวนออกมาถึงเมืองข่ายยักษ์

แต่เขาจะทำอะไรได้?

ไปบอกศิลามารดาว่า ‘ไอ้โง่ เจ้าเลือกคนผิดแล้ว!’ อย่างนั้นหรือ?

มันจะไม่เท่ากับรนหาที่ตาย?

แต่ตอนนี้ต่อให้ไม่ไปมันก็คงไม่ได้

ไม่เช่นนั้นเย่หยวนจะกลายเป็นดั่งพิษร้ายของเผ่าเลือด มีแต่ต้องไปบอกศิลามารดาว่าเลือกผิดแล้วเท่านั้น!

หลังจากสงบจิตใจลงได้หวังจั่วก็มุ่งหน้าเข้าไปยังห้องมิติแยกนั้น

เสียงหัวใจเต้นมันยังคงดังอยู่ภายในห้อง

หวังจั่วสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะคุกเข่าลงค่อยๆ ปล่อยคลื่นพลังพิเศษออกจากร่าง

นี่มันคือวิธีการที่หวังจั่วติดต่อกับศิลามารดา

ไม่นานจากนั้นเสียงหัวใจเต้นมันก็เงียบลง

ก่อนจะแทนที่ด้วยความสั่นสะเทือนที่ทำให้ห้วงมิติแทบพังทลาย

เวลาเดียวกันนั้นแรงสะเทือนนี้มันก็ถูกส่งไปภายนอกทำให้ทั้งวิหารโลหิตเทวานั้นสั่นคลอน

“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน? น…นี่ฟ้าจะถล่มแล้วหรือ?” สมาชิกวิหารโลหิตเทวาหลายคนร้องขึ้นมาเพราะว่าพวกเขานั้นไม่รู้ถึงที่มาแรงสั่นนี้

ส่วนพวกยอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายนั้นต่างได้แต่นั่งหน้าซีดเมื่อสัมผัสได้ถึงมัน

พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่าศิลามารดากำลังพิโรธ

หวังจั่วนั้นคุกเข่าลงต่อหน้าศิลามารดาพร้อมเหงื่อท่วมกาย

แรงกดดันที่เขาได้รับจากศิลามารดานั้นมันยิ่งใหญ่จนเกินไป!

เขานั้นรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ศิลามารดาอันยิ่งใหญ่กลับมองพลาดไป!

มันเป็นเรื่องน่าอับอาย!

แม้แต่หวังจั่วเองก็ยังต้องนั่งตัวสั่นต่อหน้าศิลามารดานี้ แต่ว่าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งกลับมาหลอกลวงและหลอกเอาเลือดต้นกลับไป!

สำหรับศิลาโลหิตโกลาหลแล้วมันคงถือว่าเป็นความอับอายที่ไม่อาจยอมรับได้!

มดปลวกเช่นนั้น?

มันอ่อนแอ!

ตัวตนระดับนั้นศิลาโลหิตโกลาหลสามารถสังหารได้อย่างไม่ต้องลงมืออะไร

แต่ตัวตนเช่นนั้นมันกลับหลอกลวงและเอาเลือดต้นไปจากมัน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แต่สุดท้ายศิลาโลหิตโกลาหลก็ค่อยๆ สงบลง

มิติที่สั่นสะเทือนจนเกินรอยแตกนั้นมันค่อยๆ ซ่อมแซมตัวเองกลับมา

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีคลื่นพลังสายหนึ่งปล่อยออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหล

หวังจั่วรับพลังนั้นไว้และเข้าใจถึงความคิดต่างๆ นานา

ค่อยๆ เล่าเรื่องของเย่หยวนออกไปให้ศิลาโลหิตโกลาหลรับรู้

ศิลาโลหิตโกลาหลนิ่งไป

ดูท่าแล้วเรื่องของเย่หยวนคงทำให้มันตกตะลึงไม่น้อย

แต่ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ยังเป็นแค่มดปลวกตัวหนึ่ง

ต่อหน้าพลังที่แท้จริงแล้วมันย่อมจะไม่มีทางหลบรอดไปได้

วินาทีต่อมามันก็ปรากฏแก่นเลือดหนึ่งลอยออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลและสิ่งนี้มันคือแก่นเลือดที่เย่หยวนเคยมอบให้แก่มัน

เมื่อหวังจั่วได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดยิ้มขึ้นไม่ได้

เย่หยวนได้ตายแน่แล้ว!

จากนั้นมันก็มีแสงสีแดงสดพุ่งออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลแทงผ่านแก่นเลือดนั้นไป

หวังจั่วยิ้มกว้างมองดูเรื่องราว ตอนนี้การสังหารเย่หยวนนั้นคือเป้าหมายสูงสุดของตัวเขา

เมื่อศิลามารดาลงมือเองแล้วมันย่อมจะไม่มีทางหนีรอดไปได้

แก่นเลือดนี้มันคือตัวประกันดีๆ นี่เอง!

ที่น่าหัวเราะก็คือเย่หยวนนั้นกลับกล้ามอบแก่นเลือดของตัวเองออกมาให้แก่ศิลามารดา

ใช้แก่นเลือดเช่นนี้ศิลามารดาย่อมจะสามารถส่งพลังสะท้อนกลับไปยังร่างต้นและสังหารนักยุทธพลังอาณาจักร จักรพรรดิลงได้ง่ายๆ

แต่ผ่านไปหนึ่งอึดใจ

สิบอึดใจ

ร้อยอึดใจก็แล้ว

ศิลาโลหิตโกลาหลกลับไม่ทำอะไรต่ออีก

มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ฆ่าจักรพรรดิเที่ยงคนเดียวมันต้องใช้เวลาปานนั้น?

ปัง!

แก่นเลือดนั้นระเบิดออกจางหายไป

ศิลาโลหิตโกลาหลที่สงบลงแล้วนั้นเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง

หวังจั่วได้แต่ทำหน้างง

มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?

ศิลามารดาสังหารเย่หยวนไม่ได้?

จากนั้นมันก็มีคลื่นพลังส่งความคิดออกมาให้แก่หวังจั่วทำให้เขาเข้าใจเรื่องราวทันที

ที่แท้แก่นเลือดนี้มันกลับไม่ใช่ของเย่หยวน!

หวังจั่วนั้นอดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้

นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!

เย่หยวนนั้นกลับใช้เลือดคนอื่นและหลอกว่าเป็นตัวเอง?

ที่สำคัญมันยังหลอกได้สำเร็จด้วย!

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นคือตัวตนระดับใด?

มันรู้ทุกสิ่งอย่าง!

ตัวตนที่ทรงพลังถึงขั้นสามารถสร้างเผ่าพันธุ์ขึ้นมาได้มันย่อมจะเป็นตัวตนที่เข้าใจชีวิตเป็นอย่างดี

แต่ว่าตัวตนระดับนั้นกลับถูกเด็กน้อยที่พลังไม่ถึงมหาจักรพรรดิหลอก!

แน่นอนว่าหากเขาได้รู้ว่าเย่หยวนทิ้งเสี้ยวดาบเต๋าไว้ภายในศิลาโลหิตโกลาหลแล้วหวังจั่วคงได้ตกตะลึงจนสิ้นใจลงตรงนี้แน่นอน

จากนั้นมันก็มีคลื่นพลังความคิดอีกสายหนึ่งส่งมาให้หวังจั่วอีกครั้ง

มันยังมีเลือดต้นอยู่!

แก่นเลือดนั้นมันมิใช่ของเย่หยวนแต่เลือดต้นนั้นยังอยู่ในร่างของเย่หยวน!

ดูท่าศิลาโลหิตโกลาหลคงไม่พอใจมากแล้ว

คลื่นพลังงานรุนแรงพุ่งออกมาจากตัวมันทะลุผ่านห้วงมิติหายไปที่เส้นขอบฟ้าในพริบตา

พุ่งออกไปไกลลิบแต่กลับทรงพลังอย่างไม่อยากเชื่อ!

“มาแล้ว!”

ร่างของเย่หยวนสั่นสะท้านขึ้นมาพร้อมกระอักเลือดรุนแรง

พลังนั้นยังมาไม่ถึงแต่ว่าเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันแล้ว

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายเปลี่ยนสีไป

รุนแรง!

“นี่…นี่มันคือศิลาโลหิตโกลาหล? มันกลับมีตัวตนเช่นนี้ซ่อนอยู่ในเผ่าเลือด! จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!” เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นขนลุกตั้งทั้งตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังนี้

“รุนแรง! ตัวตนเช่นนี้มันเกิดขึ้นมาบนโลกได้อย่างไรกัน?”

“ช่างเป็นพลังที่ชั่วร้ายนัก! หากเจ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นมาแล้วสามสิบสามสวรรค์คงตกสู่ห้วงความสิ้นหวังแน่”

พลังกำเนิดนี้มันรุนแรงและไร้เหตุผล

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเลิกที่จะปกปิดตัวเองเพราะไม่จำเป็นอีกต่อไป

เลือดต้นนั้นมันถูกเย่หยวนเอาออกไปแล้ว เผ่าทั้งหลายในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดคงรู้ถึงตัวตนของมันในไม่ช้าก็เร็ว

ภายในร่างเย่หยวนเลือดต้นหยดนั้นมันเดือดพล่านขึ้นมาเหมือนคิดจะทำลายร่างกายของเย่หยวนทิ้ง

หากมันปะทุขึ้นมาจริงๆ แล้วร่างของเขาคงไม่เหลือแม้แต่ซากแน่

บนร่างของเย่หยวนนั้นผิวหนังเขาเริ่มปริแตกออกมา พร้อมกับที่เลือดไหลออกจากทุกรูบนร่าง!

“จะยังยืนโง่อะไรกันอีก? หากยังไม่ลงมือเย่หยวนจะได้ตายก่อนแล้ว!” เจ้าโลกหยุนซานนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมๆ กับที่ปล่อยคลื่นกำเนิดเข้าร่างของเย่หยวนอย่างสุดกำลัง

เจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินก็ต้องสะดุ้งตัวขึ้นมารีบปล่อยพลังเข้าร่างของเย่หยวนตามๆ กัน

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ถึงพลังรุนแรงล้ำที่ไหลเข้ามาในร่างก่อนจะหมุนวนไปตามกระแสเลือดภายใน

พลังทั้งหลายนั้นมันเหมือนระเบิดที่หากพลาดไปเพียงนิดร่างของเย่หยวนคงกลายเป็นฝุ่นได้ในพริบตา

พลังคลื่นกำเนิดหลายต่อหลายสายมันค่อยๆ เข้าไปสะกดเลือดต้นนั้นไว้

ตอนนี้ในร่างของเย่หยวนมันได้เปลี่ยนกลายเป็นสนามรบแล้ว

สนามรบนี้มันคือการรบระหว่างเจ้าโลกทั้งหลายและศิลาโลหิตโกลาหล!

นี่มันคือสนามรบที่แสนเปราะบางหากพลาดไปเพียงนิดร่างของเย่หยวนคงได้กลายเป็นผุยผงเพราะพลังนี้แน่

นี่มันคือสนามรบที่ไม่มีการฆ่าฟัน ไม่มีการปล่อยคลื่นพลังจนฟ้าดินเปลี่ยนสี

แต่มันเป็นสนามรบที่แสนอันตรายไม่แพ้การรบใดๆ

ไม่นานนักพลังของศิลาโลหิตโกลาหลมันก็มาถึง

ความรู้สึกของคนทั้งหลายนั้นมันเหมือนกับว่าถูกเรือรบเข้าล้อมรอบ เหมือนถูกดวงตะวันหล่นใส่หัว!

ราวกับว่าโลกมันจะแตกลงแล้วตอนนี้!

เย่หยวนหน้ามืดลงแทบสิ้นสติไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง

หวังจั่วนั้นร้องลั่นขึ้นมาอีกครั้ง!

เสียงของเขานั้นมันทำให้ห้วงมิติรอบวิหารโลหิตเทวาต้องสั่นสะเทือน

‘เย่หยวน’ สองคำนั้นดังลั่นอยู่ภายในโถงนานเป็นชั่วโมงๆ

คนที่ได้ยินนั้นต่างต้องก้มหน้าเงียบลงไป

เมืองข่ายยักษ์นั้นถูกกวาดจนเรียบ มันถือเป็นการตบหน้าเผ่าเลือดอย่างรุนแรง

หลายพันปีที่ผ่านมานี้เผ่าเลือดเคยพ่ายแพ้หนักหน่วงปานนี้?

ที่น่าชังมากกว่านั้นมันก็เพราะเรื่องที่เย่หยวนใช้เลือดต้นนั้นไปกดดันแสงเนตรโลหิตจนสิ้นฤทธิ์ ปล่อยให้เมืองไร้การป้องกันใดๆ ทัพกองทัพเสียท่าอย่างไร้ทางขัดขืน

นี่มันเรื่องตลกร้ายชัดๆ!

ศิลามารดานั้นยอมรับเย่หยวนและมอบเลือดต้นให้แก่เย่หยวนไป

สุดท้ายเย่หยวนนั้นกลับใช้เลือดต้นนั้นเหยียบหน้าเผ่าเลือดสังหารโหยวจินลง

นี่มันคือความพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย!

หวังจั่วนั้นร้อนรุ่มไปด้วยความคับแค้นใจ

เขาเกลียด!

เขานั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนจะกล้าเอากองทัพสวรรค์แรกบุกสวนออกมาถึงเมืองข่ายยักษ์

แต่เขาจะทำอะไรได้?

ไปบอกศิลามารดาว่า ‘ไอ้โง่ เจ้าเลือกคนผิดแล้ว!’ อย่างนั้นหรือ?

มันจะไม่เท่ากับรนหาที่ตาย?

แต่ตอนนี้ต่อให้ไม่ไปมันก็คงไม่ได้

ไม่เช่นนั้นเย่หยวนจะกลายเป็นดั่งพิษร้ายของเผ่าเลือด มีแต่ต้องไปบอกศิลามารดาว่าเลือกผิดแล้วเท่านั้น!

หลังจากสงบจิตใจลงได้หวังจั่วก็มุ่งหน้าเข้าไปยังห้องมิติแยกนั้น

เสียงหัวใจเต้นมันยังคงดังอยู่ภายในห้อง

หวังจั่วสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะคุกเข่าลงค่อยๆ ปล่อยคลื่นพลังพิเศษออกจากร่าง

นี่มันคือวิธีการที่หวังจั่วติดต่อกับศิลามารดา

ไม่นานจากนั้นเสียงหัวใจเต้นมันก็เงียบลง

ก่อนจะแทนที่ด้วยความสั่นสะเทือนที่ทำให้ห้วงมิติแทบพังทลาย

เวลาเดียวกันนั้นแรงสะเทือนนี้มันก็ถูกส่งไปภายนอกทำให้ทั้งวิหารโลหิตเทวานั้นสั่นคลอน

“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน? น…นี่ฟ้าจะถล่มแล้วหรือ?” สมาชิกวิหารโลหิตเทวาหลายคนร้องขึ้นมาเพราะว่าพวกเขานั้นไม่รู้ถึงที่มาแรงสั่นนี้

ส่วนพวกยอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายนั้นต่างได้แต่นั่งหน้าซีดเมื่อสัมผัสได้ถึงมัน

พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่าศิลามารดากำลังพิโรธ

หวังจั่วนั้นคุกเข่าลงต่อหน้าศิลามารดาพร้อมเหงื่อท่วมกาย

แรงกดดันที่เขาได้รับจากศิลามารดานั้นมันยิ่งใหญ่จนเกินไป!

เขานั้นรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ศิลามารดาอันยิ่งใหญ่กลับมองพลาดไป!

มันเป็นเรื่องน่าอับอาย!

แม้แต่หวังจั่วเองก็ยังต้องนั่งตัวสั่นต่อหน้าศิลามารดานี้ แต่ว่าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งกลับมาหลอกลวงและหลอกเอาเลือดต้นกลับไป!

สำหรับศิลาโลหิตโกลาหลแล้วมันคงถือว่าเป็นความอับอายที่ไม่อาจยอมรับได้!

มดปลวกเช่นนั้น?

มันอ่อนแอ!

ตัวตนระดับนั้นศิลาโลหิตโกลาหลสามารถสังหารได้อย่างไม่ต้องลงมืออะไร

แต่ตัวตนเช่นนั้นมันกลับหลอกลวงและเอาเลือดต้นไปจากมัน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แต่สุดท้ายศิลาโลหิตโกลาหลก็ค่อยๆ สงบลง

มิติที่สั่นสะเทือนจนเกินรอยแตกนั้นมันค่อยๆ ซ่อมแซมตัวเองกลับมา

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีคลื่นพลังสายหนึ่งปล่อยออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหล

หวังจั่วรับพลังนั้นไว้และเข้าใจถึงความคิดต่างๆ นานา

ค่อยๆ เล่าเรื่องของเย่หยวนออกไปให้ศิลาโลหิตโกลาหลรับรู้

ศิลาโลหิตโกลาหลนิ่งไป

ดูท่าแล้วเรื่องของเย่หยวนคงทำให้มันตกตะลึงไม่น้อย

แต่ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ยังเป็นแค่มดปลวกตัวหนึ่ง

ต่อหน้าพลังที่แท้จริงแล้วมันย่อมจะไม่มีทางหลบรอดไปได้

วินาทีต่อมามันก็ปรากฏแก่นเลือดหนึ่งลอยออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลและสิ่งนี้มันคือแก่นเลือดที่เย่หยวนเคยมอบให้แก่มัน

เมื่อหวังจั่วได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดยิ้มขึ้นไม่ได้

เย่หยวนได้ตายแน่แล้ว!

จากนั้นมันก็มีแสงสีแดงสดพุ่งออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลแทงผ่านแก่นเลือดนั้นไป

หวังจั่วยิ้มกว้างมองดูเรื่องราว ตอนนี้การสังหารเย่หยวนนั้นคือเป้าหมายสูงสุดของตัวเขา

เมื่อศิลามารดาลงมือเองแล้วมันย่อมจะไม่มีทางหนีรอดไปได้

แก่นเลือดนี้มันคือตัวประกันดีๆ นี่เอง!

ที่น่าหัวเราะก็คือเย่หยวนนั้นกลับกล้ามอบแก่นเลือดของตัวเองออกมาให้แก่ศิลามารดา

ใช้แก่นเลือดเช่นนี้ศิลามารดาย่อมจะสามารถส่งพลังสะท้อนกลับไปยังร่างต้นและสังหารนักยุทธพลังอาณาจักร จักรพรรดิลงได้ง่ายๆ

แต่ผ่านไปหนึ่งอึดใจ

สิบอึดใจ

ร้อยอึดใจก็แล้ว

ศิลาโลหิตโกลาหลกลับไม่ทำอะไรต่ออีก

มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ฆ่าจักรพรรดิเที่ยงคนเดียวมันต้องใช้เวลาปานนั้น?

ปัง!

แก่นเลือดนั้นระเบิดออกจางหายไป

ศิลาโลหิตโกลาหลที่สงบลงแล้วนั้นเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง

หวังจั่วได้แต่ทำหน้างง

มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?

ศิลามารดาสังหารเย่หยวนไม่ได้?

จากนั้นมันก็มีคลื่นพลังส่งความคิดออกมาให้แก่หวังจั่วทำให้เขาเข้าใจเรื่องราวทันที

ที่แท้แก่นเลือดนี้มันกลับไม่ใช่ของเย่หยวน!

หวังจั่วนั้นอดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้

นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!

เย่หยวนนั้นกลับใช้เลือดคนอื่นและหลอกว่าเป็นตัวเอง?

ที่สำคัญมันยังหลอกได้สำเร็จด้วย!

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นคือตัวตนระดับใด?

มันรู้ทุกสิ่งอย่าง!

ตัวตนที่ทรงพลังถึงขั้นสามารถสร้างเผ่าพันธุ์ขึ้นมาได้มันย่อมจะเป็นตัวตนที่เข้าใจชีวิตเป็นอย่างดี

แต่ว่าตัวตนระดับนั้นกลับถูกเด็กน้อยที่พลังไม่ถึงมหาจักรพรรดิหลอก!

แน่นอนว่าหากเขาได้รู้ว่าเย่หยวนทิ้งเสี้ยวดาบเต๋าไว้ภายในศิลาโลหิตโกลาหลแล้วหวังจั่วคงได้ตกตะลึงจนสิ้นใจลงตรงนี้แน่นอน

จากนั้นมันก็มีคลื่นพลังความคิดอีกสายหนึ่งส่งมาให้หวังจั่วอีกครั้ง

มันยังมีเลือดต้นอยู่!

แก่นเลือดนั้นมันมิใช่ของเย่หยวนแต่เลือดต้นนั้นยังอยู่ในร่างของเย่หยวน!

ดูท่าศิลาโลหิตโกลาหลคงไม่พอใจมากแล้ว

คลื่นพลังงานรุนแรงพุ่งออกมาจากตัวมันทะลุผ่านห้วงมิติหายไปที่เส้นขอบฟ้าในพริบตา

พุ่งออกไปไกลลิบแต่กลับทรงพลังอย่างไม่อยากเชื่อ!

“มาแล้ว!”

ร่างของเย่หยวนสั่นสะท้านขึ้นมาพร้อมกระอักเลือดรุนแรง

พลังนั้นยังมาไม่ถึงแต่ว่าเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันแล้ว

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายเปลี่ยนสีไป

รุนแรง!

“นี่…นี่มันคือศิลาโลหิตโกลาหล? มันกลับมีตัวตนเช่นนี้ซ่อนอยู่ในเผ่าเลือด! จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!” เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นขนลุกตั้งทั้งตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังนี้

“รุนแรง! ตัวตนเช่นนี้มันเกิดขึ้นมาบนโลกได้อย่างไรกัน?”

“ช่างเป็นพลังที่ชั่วร้ายนัก! หากเจ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นมาแล้วสามสิบสามสวรรค์คงตกสู่ห้วงความสิ้นหวังแน่”

พลังกำเนิดนี้มันรุนแรงและไร้เหตุผล

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเลิกที่จะปกปิดตัวเองเพราะไม่จำเป็นอีกต่อไป

เลือดต้นนั้นมันถูกเย่หยวนเอาออกไปแล้ว เผ่าทั้งหลายในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดคงรู้ถึงตัวตนของมันในไม่ช้าก็เร็ว

ภายในร่างเย่หยวนเลือดต้นหยดนั้นมันเดือดพล่านขึ้นมาเหมือนคิดจะทำลายร่างกายของเย่หยวนทิ้ง

หากมันปะทุขึ้นมาจริงๆ แล้วร่างของเขาคงไม่เหลือแม้แต่ซากแน่

บนร่างของเย่หยวนนั้นผิวหนังเขาเริ่มปริแตกออกมา พร้อมกับที่เลือดไหลออกจากทุกรูบนร่าง!

“จะยังยืนโง่อะไรกันอีก? หากยังไม่ลงมือเย่หยวนจะได้ตายก่อนแล้ว!” เจ้าโลกหยุนซานนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมๆ กับที่ปล่อยคลื่นกำเนิดเข้าร่างของเย่หยวนอย่างสุดกำลัง

เจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินก็ต้องสะดุ้งตัวขึ้นมารีบปล่อยพลังเข้าร่างของเย่หยวนตามๆ กัน

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ถึงพลังรุนแรงล้ำที่ไหลเข้ามาในร่างก่อนจะหมุนวนไปตามกระแสเลือดภายใน

พลังทั้งหลายนั้นมันเหมือนระเบิดที่หากพลาดไปเพียงนิดร่างของเย่หยวนคงกลายเป็นฝุ่นได้ในพริบตา

พลังคลื่นกำเนิดหลายต่อหลายสายมันค่อยๆ เข้าไปสะกดเลือดต้นนั้นไว้

ตอนนี้ในร่างของเย่หยวนมันได้เปลี่ยนกลายเป็นสนามรบแล้ว

สนามรบนี้มันคือการรบระหว่างเจ้าโลกทั้งหลายและศิลาโลหิตโกลาหล!

นี่มันคือสนามรบที่แสนเปราะบางหากพลาดไปเพียงนิดร่างของเย่หยวนคงได้กลายเป็นผุยผงเพราะพลังนี้แน่

นี่มันคือสนามรบที่ไม่มีการฆ่าฟัน ไม่มีการปล่อยคลื่นพลังจนฟ้าดินเปลี่ยนสี

แต่มันเป็นสนามรบที่แสนอันตรายไม่แพ้การรบใดๆ

ไม่นานนักพลังของศิลาโลหิตโกลาหลมันก็มาถึง

ความรู้สึกของคนทั้งหลายนั้นมันเหมือนกับว่าถูกเรือรบเข้าล้อมรอบ เหมือนถูกดวงตะวันหล่นใส่หัว!

ราวกับว่าโลกมันจะแตกลงแล้วตอนนี้!

เย่หยวนหน้ามืดลงแทบสิ้นสติไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2904 ศิลาโลหิตโกลาหลออกโรง

หวังจั่วนั้นร้องลั่นขึ้นมาอีกครั้ง!

เสียงของเขานั้นมันทำให้ห้วงมิติรอบวิหารโลหิตเทวาต้องสั่นสะเทือน

‘เย่หยวน’ สองคำนั้นดังลั่นอยู่ภายในโถงนานเป็นชั่วโมงๆ

คนที่ได้ยินนั้นต่างต้องก้มหน้าเงียบลงไป

เมืองข่ายยักษ์นั้นถูกกวาดจนเรียบ มันถือเป็นการตบหน้าเผ่าเลือดอย่างรุนแรง

หลายพันปีที่ผ่านมานี้เผ่าเลือดเคยพ่ายแพ้หนักหน่วงปานนี้?

ที่น่าชังมากกว่านั้นมันก็เพราะเรื่องที่เย่หยวนใช้เลือดต้นนั้นไปกดดันแสงเนตรโลหิตจนสิ้นฤทธิ์ ปล่อยให้เมืองไร้การป้องกันใดๆ ทัพกองทัพเสียท่าอย่างไร้ทางขัดขืน

นี่มันเรื่องตลกร้ายชัดๆ!

ศิลามารดานั้นยอมรับเย่หยวนและมอบเลือดต้นให้แก่เย่หยวนไป

สุดท้ายเย่หยวนนั้นกลับใช้เลือดต้นนั้นเหยียบหน้าเผ่าเลือดสังหารโหยวจินลง

นี่มันคือความพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย!

หวังจั่วนั้นร้อนรุ่มไปด้วยความคับแค้นใจ

เขาเกลียด!

เขานั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนจะกล้าเอากองทัพสวรรค์แรกบุกสวนออกมาถึงเมืองข่ายยักษ์

แต่เขาจะทำอะไรได้?

ไปบอกศิลามารดาว่า ‘ไอ้โง่ เจ้าเลือกคนผิดแล้ว!’ อย่างนั้นหรือ?

มันจะไม่เท่ากับรนหาที่ตาย?

แต่ตอนนี้ต่อให้ไม่ไปมันก็คงไม่ได้

ไม่เช่นนั้นเย่หยวนจะกลายเป็นดั่งพิษร้ายของเผ่าเลือด มีแต่ต้องไปบอกศิลามารดาว่าเลือกผิดแล้วเท่านั้น!

หลังจากสงบจิตใจลงได้หวังจั่วก็มุ่งหน้าเข้าไปยังห้องมิติแยกนั้น

เสียงหัวใจเต้นมันยังคงดังอยู่ภายในห้อง

หวังจั่วสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะคุกเข่าลงค่อยๆ ปล่อยคลื่นพลังพิเศษออกจากร่าง

นี่มันคือวิธีการที่หวังจั่วติดต่อกับศิลามารดา

ไม่นานจากนั้นเสียงหัวใจเต้นมันก็เงียบลง

ก่อนจะแทนที่ด้วยความสั่นสะเทือนที่ทำให้ห้วงมิติแทบพังทลาย

เวลาเดียวกันนั้นแรงสะเทือนนี้มันก็ถูกส่งไปภายนอกทำให้ทั้งวิหารโลหิตเทวานั้นสั่นคลอน

“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน? น…นี่ฟ้าจะถล่มแล้วหรือ?” สมาชิกวิหารโลหิตเทวาหลายคนร้องขึ้นมาเพราะว่าพวกเขานั้นไม่รู้ถึงที่มาแรงสั่นนี้

ส่วนพวกยอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายนั้นต่างได้แต่นั่งหน้าซีดเมื่อสัมผัสได้ถึงมัน

พวกเขาเข้าใจได้ทันทีว่าศิลามารดากำลังพิโรธ

หวังจั่วนั้นคุกเข่าลงต่อหน้าศิลามารดาพร้อมเหงื่อท่วมกาย

แรงกดดันที่เขาได้รับจากศิลามารดานั้นมันยิ่งใหญ่จนเกินไป!

เขานั้นรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ศิลามารดาอันยิ่งใหญ่กลับมองพลาดไป!

มันเป็นเรื่องน่าอับอาย!

แม้แต่หวังจั่วเองก็ยังต้องนั่งตัวสั่นต่อหน้าศิลามารดานี้ แต่ว่าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งกลับมาหลอกลวงและหลอกเอาเลือดต้นกลับไป!

สำหรับศิลาโลหิตโกลาหลแล้วมันคงถือว่าเป็นความอับอายที่ไม่อาจยอมรับได้!

มดปลวกเช่นนั้น?

มันอ่อนแอ!

ตัวตนระดับนั้นศิลาโลหิตโกลาหลสามารถสังหารได้อย่างไม่ต้องลงมืออะไร

แต่ตัวตนเช่นนั้นมันกลับหลอกลวงและเอาเลือดต้นไปจากมัน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แต่สุดท้ายศิลาโลหิตโกลาหลก็ค่อยๆ สงบลง

มิติที่สั่นสะเทือนจนเกินรอยแตกนั้นมันค่อยๆ ซ่อมแซมตัวเองกลับมา

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีคลื่นพลังสายหนึ่งปล่อยออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหล

หวังจั่วรับพลังนั้นไว้และเข้าใจถึงความคิดต่างๆ นานา

ค่อยๆ เล่าเรื่องของเย่หยวนออกไปให้ศิลาโลหิตโกลาหลรับรู้

ศิลาโลหิตโกลาหลนิ่งไป

ดูท่าแล้วเรื่องของเย่หยวนคงทำให้มันตกตะลึงไม่น้อย

แต่ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ยังเป็นแค่มดปลวกตัวหนึ่ง

ต่อหน้าพลังที่แท้จริงแล้วมันย่อมจะไม่มีทางหลบรอดไปได้

วินาทีต่อมามันก็ปรากฏแก่นเลือดหนึ่งลอยออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลและสิ่งนี้มันคือแก่นเลือดที่เย่หยวนเคยมอบให้แก่มัน

เมื่อหวังจั่วได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดยิ้มขึ้นไม่ได้

เย่หยวนได้ตายแน่แล้ว!

จากนั้นมันก็มีแสงสีแดงสดพุ่งออกมาจากศิลาโลหิตโกลาหลแทงผ่านแก่นเลือดนั้นไป

หวังจั่วยิ้มกว้างมองดูเรื่องราว ตอนนี้การสังหารเย่หยวนนั้นคือเป้าหมายสูงสุดของตัวเขา

เมื่อศิลามารดาลงมือเองแล้วมันย่อมจะไม่มีทางหนีรอดไปได้

แก่นเลือดนี้มันคือตัวประกันดีๆ นี่เอง!

ที่น่าหัวเราะก็คือเย่หยวนนั้นกลับกล้ามอบแก่นเลือดของตัวเองออกมาให้แก่ศิลามารดา

ใช้แก่นเลือดเช่นนี้ศิลามารดาย่อมจะสามารถส่งพลังสะท้อนกลับไปยังร่างต้นและสังหารนักยุทธพลังอาณาจักร จักรพรรดิลงได้ง่ายๆ

แต่ผ่านไปหนึ่งอึดใจ

สิบอึดใจ

ร้อยอึดใจก็แล้ว

ศิลาโลหิตโกลาหลกลับไม่ทำอะไรต่ออีก

มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ฆ่าจักรพรรดิเที่ยงคนเดียวมันต้องใช้เวลาปานนั้น?

ปัง!

แก่นเลือดนั้นระเบิดออกจางหายไป

ศิลาโลหิตโกลาหลที่สงบลงแล้วนั้นเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง

หวังจั่วได้แต่ทำหน้างง

มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?

ศิลามารดาสังหารเย่หยวนไม่ได้?

จากนั้นมันก็มีคลื่นพลังส่งความคิดออกมาให้แก่หวังจั่วทำให้เขาเข้าใจเรื่องราวทันที

ที่แท้แก่นเลือดนี้มันกลับไม่ใช่ของเย่หยวน!

หวังจั่วนั้นอดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้

นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!

เย่หยวนนั้นกลับใช้เลือดคนอื่นและหลอกว่าเป็นตัวเอง?

ที่สำคัญมันยังหลอกได้สำเร็จด้วย!

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นคือตัวตนระดับใด?

มันรู้ทุกสิ่งอย่าง!

ตัวตนที่ทรงพลังถึงขั้นสามารถสร้างเผ่าพันธุ์ขึ้นมาได้มันย่อมจะเป็นตัวตนที่เข้าใจชีวิตเป็นอย่างดี

แต่ว่าตัวตนระดับนั้นกลับถูกเด็กน้อยที่พลังไม่ถึงมหาจักรพรรดิหลอก!

แน่นอนว่าหากเขาได้รู้ว่าเย่หยวนทิ้งเสี้ยวดาบเต๋าไว้ภายในศิลาโลหิตโกลาหลแล้วหวังจั่วคงได้ตกตะลึงจนสิ้นใจลงตรงนี้แน่นอน

จากนั้นมันก็มีคลื่นพลังความคิดอีกสายหนึ่งส่งมาให้หวังจั่วอีกครั้ง

มันยังมีเลือดต้นอยู่!

แก่นเลือดนั้นมันมิใช่ของเย่หยวนแต่เลือดต้นนั้นยังอยู่ในร่างของเย่หยวน!

ดูท่าศิลาโลหิตโกลาหลคงไม่พอใจมากแล้ว

คลื่นพลังงานรุนแรงพุ่งออกมาจากตัวมันทะลุผ่านห้วงมิติหายไปที่เส้นขอบฟ้าในพริบตา

พุ่งออกไปไกลลิบแต่กลับทรงพลังอย่างไม่อยากเชื่อ!

“มาแล้ว!”

ร่างของเย่หยวนสั่นสะท้านขึ้นมาพร้อมกระอักเลือดรุนแรง

พลังนั้นยังมาไม่ถึงแต่ว่าเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันแล้ว

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายเปลี่ยนสีไป

รุนแรง!

“นี่…นี่มันคือศิลาโลหิตโกลาหล? มันกลับมีตัวตนเช่นนี้ซ่อนอยู่ในเผ่าเลือด! จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!” เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นขนลุกตั้งทั้งตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังนี้

“รุนแรง! ตัวตนเช่นนี้มันเกิดขึ้นมาบนโลกได้อย่างไรกัน?”

“ช่างเป็นพลังที่ชั่วร้ายนัก! หากเจ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นมาแล้วสามสิบสามสวรรค์คงตกสู่ห้วงความสิ้นหวังแน่”

พลังกำเนิดนี้มันรุนแรงและไร้เหตุผล

ศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเลิกที่จะปกปิดตัวเองเพราะไม่จำเป็นอีกต่อไป

เลือดต้นนั้นมันถูกเย่หยวนเอาออกไปแล้ว เผ่าทั้งหลายในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดคงรู้ถึงตัวตนของมันในไม่ช้าก็เร็ว

ภายในร่างเย่หยวนเลือดต้นหยดนั้นมันเดือดพล่านขึ้นมาเหมือนคิดจะทำลายร่างกายของเย่หยวนทิ้ง

หากมันปะทุขึ้นมาจริงๆ แล้วร่างของเขาคงไม่เหลือแม้แต่ซากแน่

บนร่างของเย่หยวนนั้นผิวหนังเขาเริ่มปริแตกออกมา พร้อมกับที่เลือดไหลออกจากทุกรูบนร่าง!

“จะยังยืนโง่อะไรกันอีก? หากยังไม่ลงมือเย่หยวนจะได้ตายก่อนแล้ว!” เจ้าโลกหยุนซานนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมๆ กับที่ปล่อยคลื่นกำเนิดเข้าร่างของเย่หยวนอย่างสุดกำลัง

เจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินก็ต้องสะดุ้งตัวขึ้นมารีบปล่อยพลังเข้าร่างของเย่หยวนตามๆ กัน

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ถึงพลังรุนแรงล้ำที่ไหลเข้ามาในร่างก่อนจะหมุนวนไปตามกระแสเลือดภายใน

พลังทั้งหลายนั้นมันเหมือนระเบิดที่หากพลาดไปเพียงนิดร่างของเย่หยวนคงกลายเป็นฝุ่นได้ในพริบตา

พลังคลื่นกำเนิดหลายต่อหลายสายมันค่อยๆ เข้าไปสะกดเลือดต้นนั้นไว้

ตอนนี้ในร่างของเย่หยวนมันได้เปลี่ยนกลายเป็นสนามรบแล้ว

สนามรบนี้มันคือการรบระหว่างเจ้าโลกทั้งหลายและศิลาโลหิตโกลาหล!

นี่มันคือสนามรบที่แสนเปราะบางหากพลาดไปเพียงนิดร่างของเย่หยวนคงได้กลายเป็นผุยผงเพราะพลังนี้แน่

นี่มันคือสนามรบที่ไม่มีการฆ่าฟัน ไม่มีการปล่อยคลื่นพลังจนฟ้าดินเปลี่ยนสี

แต่มันเป็นสนามรบที่แสนอันตรายไม่แพ้การรบใดๆ

ไม่นานนักพลังของศิลาโลหิตโกลาหลมันก็มาถึง

ความรู้สึกของคนทั้งหลายนั้นมันเหมือนกับว่าถูกเรือรบเข้าล้อมรอบ เหมือนถูกดวงตะวันหล่นใส่หัว!

ราวกับว่าโลกมันจะแตกลงแล้วตอนนี้!

เย่หยวนหน้ามืดลงแทบสิ้นสติไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+