Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ!

เจ้าโลกทั้งหลายต่างเงียบปากลงทันที

เพราะนี่มันเป็นไปได้!

ทาสเลือดที่ถูกเผ่าเลือดควบคุมไว้นั้นเองมันก็ใช่ว่าจะตรวจพบเจอได้ง่ายๆ

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเย่หยวน ‘ทาสเลือด’ คนนี้เป็นทาสของศิลามารดา!

“เรื่องนั้น…ข้าเองก็ไม่อาจจะพิสูจน์ได้เช่นกัน” เย่หยวนได้แต่ต้องผายมือตอบกลับไป

เพราะเขานั้นไม่อาจจะหาอะไรมาพิสูจน์

ตอนนี้มองจากมุมไหนเขาก็เป็นเผ่าเลือดอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างก็ทำหน้าตาเหยเกขึ้นมาตามๆ กัน

เฮยหยางนั้นยิ้มตอบกลับไป “ในเมื่อเจ้าพิสูจน์ตัวเองไม่ได้เช่นนั้นเราก็คงต้องมองว่าเจ้านั้นเป็นภัยต่อพวกเราแล้ว! ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ เด็กคนนี้…คงเก็บไว้ไม่ได้แล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าโลกหยุนซานก็ต้องผุดลุกขึ้นมาชี้หน้าเฮยหยางทันที “ไอ้สารเลวเฮยหยาง เจ้าคิดอยากสู้กับข้าแล้ว? มาๆ! หากวันนี้ข้าไม่กระทืบเจ้าให้กระดูกหักข้าคงไม่อาจจะหยุดมือตัวเองได้แล้ว!”

พูดไปเจ้าโลกหยุนซานนั้นก็ปล่อยพลังรุนแรงล้ำออกมาทำให้ทั้งเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์สั่นสะท้าน

เขานั้นไม่ได้ดูเหมือนคนพูดเล่นแม้แต่น้อย ดูอย่างไรก็เตรียมต่อสู้จริงๆ

เพราะตัวเขาในตอนนี้ได้ถอนพลังกลับออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์และตั้งท่าเตรียมพร้อมสู้กับเจ้าโลก เฮยหยางจริงๆ แล้ว

เจ้าโลกเฮยหยางนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยินดูท่าเขาเองก็ไม่คิดว่าเจ้าโลกหยุนซานจะเดือดดาลขึ้นถึงปานนี้

แค่ได้ยินคำพูดเดียวนี้ก็คิดเล่นกันให้ถึงตาย มันย่อมจะทำให้เจ้าโลกคนอื่นๆ หน้าซีดลงเช่นกัน

เพราะพวกเจ้าโลกหยุนซานนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเสาหลักของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

หากเขาคิดถอนตัวจริงๆ แล้วมันก็คงสร้างหายนะขึ้นมาแน่

เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “สหายเต๋าหยุนซาน ช่วยรอก่อนเถอะ! หากมันมีอะไรไม่พอใจกันก็ค่อยพูดกัน เราอย่ามาทะเลาะกันเองภายในไม่เช่นนี้เผ่าเลือดมันคงจะได้โอกาสเข้าโจมตีแล้ว!”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นกัดฟันแน่นตอบกลับไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เหลวไหล! เสวี่ยจื่อหมิง เจ้าคิดว่าข้านั้นไม่รู้ทันหรือว่าเจ้าเองก็มีความคิดนี้เช่นกัน! แต่เจ้ามองย้อนกลับไปด้วยว่าเย่หยวนได้สร้างปาฏิหาริย์ให้แก่พวกเรามากมายแค่ไหนในเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้? พวกเจ้านั้นเห็นว่าเขาหมดประโยชน์แล้วจึงคิดจะทำลายเขาก่อนได้ขึ้นมาเป็นคู่แข่งตนหรือ? เจ้าคิดว่าพ่อเจ้านี้โง่เง่ามากนัก?”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นเองก็ไม่ใช่คนโง่ เพียงแค่ว่าเป็นคนเดือดง่ายเท่านั้น

เห็นเขาเดือดดาลขึ้นมาเช่นนี้เขาย่อมจะคิดถึงเหตุผลเบื้องหลังจนครบถ้วนแล้ว

แม้ว่าคำพูดของเฮยหยางนั้นมันจะดูไม่น่าฟังแต่มันก็เป็นคำพูดแทนใจของเจ้าโลกหลายๆ คนในที่นี้!

เย่หยวนนั้นเก่งมากหรือ?

แน่นอน!

เก่งจนน่ากลัว!

แต่ก็เพราะว่าเช่นนี้ที่หากเย่หยวนกลายเป็นระเบิดเวลาไปมันย่อมจะทำให้ทั้งพันธมิตรพังทลายลงได้หากมันเกิดระเบิดขึ้น!

นั่นคือสิ่งที่แม้แต่เทพศักดิ์สิทธิ์ยังต้องกลัว

คนผู้นี้หลอกได้แม้แต่ศิลาโลหิตโกลาหลของเผ่าเลือด!

แต่เจ้าโลกหยุนซานนั้นไม่คิดสนใจเรื่องใดๆ เย่หยวนนั้นคือศิษย์ของเขาที่เขารักอย่างมาก!

ต่อให้คนอื่นๆ จะไม่คิดปล่อยเย่หยวนไป เขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้เย่หยวนต้องอยู่ตัวคนเดียว!

ไม่มีใครคิดว่าเจ้าโลกหยุนซานนั้นจะให้ค่าเย่หยวนมากถึงขั้นนี้จนถึงขั้นคิดแตกหักกับพันธมิตร

การที่เขาเรียกชื่อจริงของเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นมันแสดงถึงจุดยืนที่ว่าเขานั้นสามารถออกจากพันธมิตรได้ทุกเมื่อ

นี่มันคือท่าทางที่แทนคำพูดใดๆ ได้ชัดเจน!

คิดอยากสังหารเย่หยวน? ไม่มีทางยอม!

เทพศักดิ์สิทธิ์เองก็ต้องรีบกล่าวขึ้นมาห้ามไว้ “สหายเต๋าหยุนซาน อย่าเพิ่งใจร้อนไปตอนนี้ข้าเองก็ยังไม่ได้บอกว่าต้องสังหารเย่หยวนลงให้ได้! เพียงแค่ว่าเรานั้นถูกคนมากมายคาดหวัง จะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดขึ้นไม่ได้! สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันอันตราย ข้าคิดแค่ว่าต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแค่เท่านั้นเอง!”

หยุนซานนั้นหัวเราะลั่นตอบกลับไป “ข้านี่แหละจะยืนยันให้! เย่หยวนไม่มีทางทรยศพันธมิตร! หากพวกเจ้ามองไม่ออกจริงๆ ก็ไปหาทางพิสูจน์กันเอาเอง! แต่หากมีใครคิดทำร้ายเย่หยวนแม้แต่ปลายเส้นผมแล้วต่อให้ข้าต้องฉีกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ลงข้าก็จะทวง ความยุติธรรมกลับมา!”

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยิน

นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี

แต่ความไร้เหตุผลนี้มันทำให้เย่หยวนรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ อาจารย์ของเขานั้นเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างไม่แม้แต่จะหันกลับมาถามหาความจริงจากปากเขา

เจ้าโลกเฮยหยางนั้นคิดเสนอให้สังหารเขาลงแต่เจ้าโลกหยุนซานนั้นกลับคิดแตกหักจากพันธมิตรในวินาทีที่ได้ยิน

มีอาจารย์เช่นนี้จะยังต้องการอะไรอีก!

เวลาเดียวกันนั้นเองโจวซ่งฉวนก็กล่าวขึ้นมาตาม “ข้านั้นจะขอตัดสินใจตามท่านอาจารย์!”

หลี่ชิงหยุนนั้นเองก็เดินมาอยู่ข้างเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ข้าศิษย์พี่ใหญ่ของเขาคนนี้อาจจะยังมิใช่เจ้าโลกแต่คำพูดของข้ามันก็คงมีน้ำหนักไม่น้อย คิดจะสังหารเย่หยวนพวกท่านต้องสังหารข้าลงไปด้วย!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเดินมาหยุดข้างกายเย่หยวนโดยไม่พูดอะไร

แต่ท่าทางนี้มันแทนคำพูดใดๆ สิ้นแล้ว

ใบหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายแปลกขึ้นมากกว่าเก่า

โจวซ่งฉวนนั้นไม่ต้องพูดถึงแล้ว แต่ตัวหลี่ชิงหยุนนั้นเองก็เป็นเจ้าโลกที่จะมองข้ามไม่ได้เช่นกัน

หากสามศิษย์อาจารย์นั้นถอนตัวจากพันธมิตรแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกมันคงจะแตกสลายลงไปสิ้นแน่นอน

ผลลัพธ์ที่ตามมามันจะหนักหน่วงยิ่งกว่าการปล่อยให้เย่หยวนเป็นระเบิดเวลาต่อไป

เย่หยวนนั้นรู้สึกซาบซึ้งในใจเดิมทีเขานั้นยังคิดตะขิดตะขวงใจเรื่องการกราบอาจารย์ครั้งนี้อยู่ไม่น้อย

แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองช่างเลือกได้ถูกต้องนัก

วินาทีนี้บรรยากาศมันน่าอึดอัดอย่างมาก

ต่างฝ่ายนั้นต่างแสดงจุดยืนออกมาและไม่มีใครจะพูดจาต่อรองใดๆ อีก

พวกเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายพูดจาไร้เหตุผลหรือ?

ไม่ใช่เลย!

สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันเป็นอันตรายอย่างมากจริงๆ

แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังบ่มเพาะต่ำแต่หากว่าวันหนึ่งเขาขึ้นบรรลุมหาจักรพรรดิไปแล้วมันคงกลายเป็นภัยร้าย แน่นอน!

ตอนนี้เย่หยวนได้กลายเป็นตำนานของสวรรค์แรกไปแล้ว

หากคนเช่นนี้กลายเป็นทาสเลือดไป มันคงได้กลายเป็นเรื่องตลกที่สุดในประวัติศาสตร์แน่

สภาพนั้นมันคงไม่ต่างจากเรื่องที่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์กลับเป็นมนุษย์

เพียงแค่ว่าเผ่าเลือดมันเสียหายได้ไม่แพ้พ่ายลงแต่หากสวรรค์แรกเจอเรื่องเช่นนั้นเข้าไปพวกเขาคงพ่าย ให้เผ่าเลือดในพริบตาแน่!

แต่เป็นเย่หยวนที่ก้าวขึ้นมาห้ามคนทั้งสองฝ่ายไว้ “อาจารย์ ศิษย์พี่ เรื่องนี้มันไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายหรอก ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกไปแล้วมิใช่หรือว่าข้านั้นจะเดินทางออกไปจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด? ตราบเท่าที่ข้าไม่อยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดแล้วมันก็ย่อมจะไม่มีภัยร้ายใดๆ เกิดขึ้นได้เพราะว่าข้า หากข้าเดินทางไปยังสวรรค์อื่นแล้วเอาข่าวหรือวิธีการกำราบเผ่าเลือดกลับมาได้ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ต้องถามแล้วว่าข้าอยู่ฝ่ายไหนใช่หรือไม่?”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นผงะไปเมื่อได้ยิน “เจ้าจะไปจริง? เจ้าต้องรู้ก่อนนะว่าในสวรรค์ทั้งหลายนั้นมันมีภัยร้ายมากมาย อาจารย์เจ้าไปอยู่ปกป้องเจ้าไม่ได้! หากเจ้าไปเจออันตรายใหญ่หลวงเข้าเจ้าอาจจะถึงตายได้จริงๆ!”

ในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเจ้าโลกหยุนซานถือเป็นผู้ทรงอำนาจ

ต่อให้เจ้าโลกคนอื่นๆ จะคิดทำร้ายเย่หยวน มันก็ไม่อาจจะทำได้

แต่หากเดินทางไปสวรรค์อื่นแล้ว มันก็เกินมือเจ้าโลกหยุนซาน

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ขอรับ ศิษย์มีเหตุผลที่ต้องไป!”

เหตุผลนั้นคือมู่หลินเสวีย!

ตอนนี้เย่หยวนได้บ่มเพาะฝึกฝนกำเนิดเทพขึ้นมาจนถึงระดับสองขั้นปลายแล้ว มันอยู่ห่างจากระดับสามไม่มากแล้ว

หากเขาบรรลุระดับสามได้เย่หยวนก็จะสามารถคืนชีพให้แก่มู่หลินเสวียได้แน่นอน!

เขานั้นรอวันนี้มายาวนานเหลือเกิน!

ตอนนี้ในสวรรค์สัมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเผ่าเลือดมันเสียหายไปอย่างหนักหน่วงและตัวศิลาโลหิตโกลาหลเอง ก็บาดเจ็บสาหัส

ภายในเวลาสั้นๆ พวกมันคงไม่อาจจะสร้างเรื่องให้แก่พันธมิตรสวรรค์แรกได้มากมาย

แท้จริงตอนที่เย่หยวนบรรลุจักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาได้นั้นหมี่เทียนก็ได้บอกไปแล้วว่าการจะหลอมกลับวิญญาณ ศักดิ์สิทธิ์มันยังต้องใช้การเตรียมการอีกมาก มีแต่ต้องเดินทางไปยังดินแดนของเผ่าวิญญาณเท่านั้น

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงไม่คิดจะรอช้าไปมากกว่านี้ คิดอยากจะเดินทางไปยังเผ่าวิญญาณให้เร็วที่สุด

เผ่าวิญญาณนั้นมันไม่มีอยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

ในสามสิบสามสวรรค์นั้นแต่ละสวรรค์มันย่อมจะมีเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันไป

เหมือนบ้านเกิดของหมี่เทียนอย่างสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นที่มันมีภูตแท้โกลาหลอยู่มากมาย!

แม้ว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นจะมีภูตแท้อยู่มากแต่มันก็ไม่มีภูตแท้ที่เกิดจากโกลาหลอยู่เลย

และหากจะพูดถึงสวรรค์ที่มีเผ่าวิญญาณอยู่มากที่สุดแล้วมันก็ย่อมจะเป็นสวรรค์โมฆะเกินดุล!

นี่คือเป้าหมายในการเดินทางของเย่หยวน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ!

เจ้าโลกทั้งหลายต่างเงียบปากลงทันที

เพราะนี่มันเป็นไปได้!

ทาสเลือดที่ถูกเผ่าเลือดควบคุมไว้นั้นเองมันก็ใช่ว่าจะตรวจพบเจอได้ง่ายๆ

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเย่หยวน ‘ทาสเลือด’ คนนี้เป็นทาสของศิลามารดา!

“เรื่องนั้น…ข้าเองก็ไม่อาจจะพิสูจน์ได้เช่นกัน” เย่หยวนได้แต่ต้องผายมือตอบกลับไป

เพราะเขานั้นไม่อาจจะหาอะไรมาพิสูจน์

ตอนนี้มองจากมุมไหนเขาก็เป็นเผ่าเลือดอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างก็ทำหน้าตาเหยเกขึ้นมาตามๆ กัน

เฮยหยางนั้นยิ้มตอบกลับไป “ในเมื่อเจ้าพิสูจน์ตัวเองไม่ได้เช่นนั้นเราก็คงต้องมองว่าเจ้านั้นเป็นภัยต่อพวกเราแล้ว! ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ เด็กคนนี้…คงเก็บไว้ไม่ได้แล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าโลกหยุนซานก็ต้องผุดลุกขึ้นมาชี้หน้าเฮยหยางทันที “ไอ้สารเลวเฮยหยาง เจ้าคิดอยากสู้กับข้าแล้ว? มาๆ! หากวันนี้ข้าไม่กระทืบเจ้าให้กระดูกหักข้าคงไม่อาจจะหยุดมือตัวเองได้แล้ว!”

พูดไปเจ้าโลกหยุนซานนั้นก็ปล่อยพลังรุนแรงล้ำออกมาทำให้ทั้งเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์สั่นสะท้าน

เขานั้นไม่ได้ดูเหมือนคนพูดเล่นแม้แต่น้อย ดูอย่างไรก็เตรียมต่อสู้จริงๆ

เพราะตัวเขาในตอนนี้ได้ถอนพลังกลับออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์และตั้งท่าเตรียมพร้อมสู้กับเจ้าโลก เฮยหยางจริงๆ แล้ว

เจ้าโลกเฮยหยางนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยินดูท่าเขาเองก็ไม่คิดว่าเจ้าโลกหยุนซานจะเดือดดาลขึ้นถึงปานนี้

แค่ได้ยินคำพูดเดียวนี้ก็คิดเล่นกันให้ถึงตาย มันย่อมจะทำให้เจ้าโลกคนอื่นๆ หน้าซีดลงเช่นกัน

เพราะพวกเจ้าโลกหยุนซานนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเสาหลักของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

หากเขาคิดถอนตัวจริงๆ แล้วมันก็คงสร้างหายนะขึ้นมาแน่

เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “สหายเต๋าหยุนซาน ช่วยรอก่อนเถอะ! หากมันมีอะไรไม่พอใจกันก็ค่อยพูดกัน เราอย่ามาทะเลาะกันเองภายในไม่เช่นนี้เผ่าเลือดมันคงจะได้โอกาสเข้าโจมตีแล้ว!”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นกัดฟันแน่นตอบกลับไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เหลวไหล! เสวี่ยจื่อหมิง เจ้าคิดว่าข้านั้นไม่รู้ทันหรือว่าเจ้าเองก็มีความคิดนี้เช่นกัน! แต่เจ้ามองย้อนกลับไปด้วยว่าเย่หยวนได้สร้างปาฏิหาริย์ให้แก่พวกเรามากมายแค่ไหนในเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้? พวกเจ้านั้นเห็นว่าเขาหมดประโยชน์แล้วจึงคิดจะทำลายเขาก่อนได้ขึ้นมาเป็นคู่แข่งตนหรือ? เจ้าคิดว่าพ่อเจ้านี้โง่เง่ามากนัก?”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นเองก็ไม่ใช่คนโง่ เพียงแค่ว่าเป็นคนเดือดง่ายเท่านั้น

เห็นเขาเดือดดาลขึ้นมาเช่นนี้เขาย่อมจะคิดถึงเหตุผลเบื้องหลังจนครบถ้วนแล้ว

แม้ว่าคำพูดของเฮยหยางนั้นมันจะดูไม่น่าฟังแต่มันก็เป็นคำพูดแทนใจของเจ้าโลกหลายๆ คนในที่นี้!

เย่หยวนนั้นเก่งมากหรือ?

แน่นอน!

เก่งจนน่ากลัว!

แต่ก็เพราะว่าเช่นนี้ที่หากเย่หยวนกลายเป็นระเบิดเวลาไปมันย่อมจะทำให้ทั้งพันธมิตรพังทลายลงได้หากมันเกิดระเบิดขึ้น!

นั่นคือสิ่งที่แม้แต่เทพศักดิ์สิทธิ์ยังต้องกลัว

คนผู้นี้หลอกได้แม้แต่ศิลาโลหิตโกลาหลของเผ่าเลือด!

แต่เจ้าโลกหยุนซานนั้นไม่คิดสนใจเรื่องใดๆ เย่หยวนนั้นคือศิษย์ของเขาที่เขารักอย่างมาก!

ต่อให้คนอื่นๆ จะไม่คิดปล่อยเย่หยวนไป เขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้เย่หยวนต้องอยู่ตัวคนเดียว!

ไม่มีใครคิดว่าเจ้าโลกหยุนซานนั้นจะให้ค่าเย่หยวนมากถึงขั้นนี้จนถึงขั้นคิดแตกหักกับพันธมิตร

การที่เขาเรียกชื่อจริงของเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นมันแสดงถึงจุดยืนที่ว่าเขานั้นสามารถออกจากพันธมิตรได้ทุกเมื่อ

นี่มันคือท่าทางที่แทนคำพูดใดๆ ได้ชัดเจน!

คิดอยากสังหารเย่หยวน? ไม่มีทางยอม!

เทพศักดิ์สิทธิ์เองก็ต้องรีบกล่าวขึ้นมาห้ามไว้ “สหายเต๋าหยุนซาน อย่าเพิ่งใจร้อนไปตอนนี้ข้าเองก็ยังไม่ได้บอกว่าต้องสังหารเย่หยวนลงให้ได้! เพียงแค่ว่าเรานั้นถูกคนมากมายคาดหวัง จะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดขึ้นไม่ได้! สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันอันตราย ข้าคิดแค่ว่าต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแค่เท่านั้นเอง!”

หยุนซานนั้นหัวเราะลั่นตอบกลับไป “ข้านี่แหละจะยืนยันให้! เย่หยวนไม่มีทางทรยศพันธมิตร! หากพวกเจ้ามองไม่ออกจริงๆ ก็ไปหาทางพิสูจน์กันเอาเอง! แต่หากมีใครคิดทำร้ายเย่หยวนแม้แต่ปลายเส้นผมแล้วต่อให้ข้าต้องฉีกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ลงข้าก็จะทวง ความยุติธรรมกลับมา!”

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยิน

นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี

แต่ความไร้เหตุผลนี้มันทำให้เย่หยวนรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ อาจารย์ของเขานั้นเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างไม่แม้แต่จะหันกลับมาถามหาความจริงจากปากเขา

เจ้าโลกเฮยหยางนั้นคิดเสนอให้สังหารเขาลงแต่เจ้าโลกหยุนซานนั้นกลับคิดแตกหักจากพันธมิตรในวินาทีที่ได้ยิน

มีอาจารย์เช่นนี้จะยังต้องการอะไรอีก!

เวลาเดียวกันนั้นเองโจวซ่งฉวนก็กล่าวขึ้นมาตาม “ข้านั้นจะขอตัดสินใจตามท่านอาจารย์!”

หลี่ชิงหยุนนั้นเองก็เดินมาอยู่ข้างเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ข้าศิษย์พี่ใหญ่ของเขาคนนี้อาจจะยังมิใช่เจ้าโลกแต่คำพูดของข้ามันก็คงมีน้ำหนักไม่น้อย คิดจะสังหารเย่หยวนพวกท่านต้องสังหารข้าลงไปด้วย!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเดินมาหยุดข้างกายเย่หยวนโดยไม่พูดอะไร

แต่ท่าทางนี้มันแทนคำพูดใดๆ สิ้นแล้ว

ใบหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายแปลกขึ้นมากกว่าเก่า

โจวซ่งฉวนนั้นไม่ต้องพูดถึงแล้ว แต่ตัวหลี่ชิงหยุนนั้นเองก็เป็นเจ้าโลกที่จะมองข้ามไม่ได้เช่นกัน

หากสามศิษย์อาจารย์นั้นถอนตัวจากพันธมิตรแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกมันคงจะแตกสลายลงไปสิ้นแน่นอน

ผลลัพธ์ที่ตามมามันจะหนักหน่วงยิ่งกว่าการปล่อยให้เย่หยวนเป็นระเบิดเวลาต่อไป

เย่หยวนนั้นรู้สึกซาบซึ้งในใจเดิมทีเขานั้นยังคิดตะขิดตะขวงใจเรื่องการกราบอาจารย์ครั้งนี้อยู่ไม่น้อย

แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองช่างเลือกได้ถูกต้องนัก

วินาทีนี้บรรยากาศมันน่าอึดอัดอย่างมาก

ต่างฝ่ายนั้นต่างแสดงจุดยืนออกมาและไม่มีใครจะพูดจาต่อรองใดๆ อีก

พวกเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายพูดจาไร้เหตุผลหรือ?

ไม่ใช่เลย!

สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันเป็นอันตรายอย่างมากจริงๆ

แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังบ่มเพาะต่ำแต่หากว่าวันหนึ่งเขาขึ้นบรรลุมหาจักรพรรดิไปแล้วมันคงกลายเป็นภัยร้าย แน่นอน!

ตอนนี้เย่หยวนได้กลายเป็นตำนานของสวรรค์แรกไปแล้ว

หากคนเช่นนี้กลายเป็นทาสเลือดไป มันคงได้กลายเป็นเรื่องตลกที่สุดในประวัติศาสตร์แน่

สภาพนั้นมันคงไม่ต่างจากเรื่องที่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์กลับเป็นมนุษย์

เพียงแค่ว่าเผ่าเลือดมันเสียหายได้ไม่แพ้พ่ายลงแต่หากสวรรค์แรกเจอเรื่องเช่นนั้นเข้าไปพวกเขาคงพ่าย ให้เผ่าเลือดในพริบตาแน่!

แต่เป็นเย่หยวนที่ก้าวขึ้นมาห้ามคนทั้งสองฝ่ายไว้ “อาจารย์ ศิษย์พี่ เรื่องนี้มันไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายหรอก ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกไปแล้วมิใช่หรือว่าข้านั้นจะเดินทางออกไปจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด? ตราบเท่าที่ข้าไม่อยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดแล้วมันก็ย่อมจะไม่มีภัยร้ายใดๆ เกิดขึ้นได้เพราะว่าข้า หากข้าเดินทางไปยังสวรรค์อื่นแล้วเอาข่าวหรือวิธีการกำราบเผ่าเลือดกลับมาได้ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ต้องถามแล้วว่าข้าอยู่ฝ่ายไหนใช่หรือไม่?”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นผงะไปเมื่อได้ยิน “เจ้าจะไปจริง? เจ้าต้องรู้ก่อนนะว่าในสวรรค์ทั้งหลายนั้นมันมีภัยร้ายมากมาย อาจารย์เจ้าไปอยู่ปกป้องเจ้าไม่ได้! หากเจ้าไปเจออันตรายใหญ่หลวงเข้าเจ้าอาจจะถึงตายได้จริงๆ!”

ในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเจ้าโลกหยุนซานถือเป็นผู้ทรงอำนาจ

ต่อให้เจ้าโลกคนอื่นๆ จะคิดทำร้ายเย่หยวน มันก็ไม่อาจจะทำได้

แต่หากเดินทางไปสวรรค์อื่นแล้ว มันก็เกินมือเจ้าโลกหยุนซาน

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ขอรับ ศิษย์มีเหตุผลที่ต้องไป!”

เหตุผลนั้นคือมู่หลินเสวีย!

ตอนนี้เย่หยวนได้บ่มเพาะฝึกฝนกำเนิดเทพขึ้นมาจนถึงระดับสองขั้นปลายแล้ว มันอยู่ห่างจากระดับสามไม่มากแล้ว

หากเขาบรรลุระดับสามได้เย่หยวนก็จะสามารถคืนชีพให้แก่มู่หลินเสวียได้แน่นอน!

เขานั้นรอวันนี้มายาวนานเหลือเกิน!

ตอนนี้ในสวรรค์สัมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเผ่าเลือดมันเสียหายไปอย่างหนักหน่วงและตัวศิลาโลหิตโกลาหลเอง ก็บาดเจ็บสาหัส

ภายในเวลาสั้นๆ พวกมันคงไม่อาจจะสร้างเรื่องให้แก่พันธมิตรสวรรค์แรกได้มากมาย

แท้จริงตอนที่เย่หยวนบรรลุจักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาได้นั้นหมี่เทียนก็ได้บอกไปแล้วว่าการจะหลอมกลับวิญญาณ ศักดิ์สิทธิ์มันยังต้องใช้การเตรียมการอีกมาก มีแต่ต้องเดินทางไปยังดินแดนของเผ่าวิญญาณเท่านั้น

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงไม่คิดจะรอช้าไปมากกว่านี้ คิดอยากจะเดินทางไปยังเผ่าวิญญาณให้เร็วที่สุด

เผ่าวิญญาณนั้นมันไม่มีอยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

ในสามสิบสามสวรรค์นั้นแต่ละสวรรค์มันย่อมจะมีเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันไป

เหมือนบ้านเกิดของหมี่เทียนอย่างสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นที่มันมีภูตแท้โกลาหลอยู่มากมาย!

แม้ว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นจะมีภูตแท้อยู่มากแต่มันก็ไม่มีภูตแท้ที่เกิดจากโกลาหลอยู่เลย

และหากจะพูดถึงสวรรค์ที่มีเผ่าวิญญาณอยู่มากที่สุดแล้วมันก็ย่อมจะเป็นสวรรค์โมฆะเกินดุล!

นี่คือเป้าหมายในการเดินทางของเย่หยวน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ!

เจ้าโลกทั้งหลายต่างเงียบปากลงทันที

เพราะนี่มันเป็นไปได้!

ทาสเลือดที่ถูกเผ่าเลือดควบคุมไว้นั้นเองมันก็ใช่ว่าจะตรวจพบเจอได้ง่ายๆ

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเย่หยวน ‘ทาสเลือด’ คนนี้เป็นทาสของศิลามารดา!

“เรื่องนั้น…ข้าเองก็ไม่อาจจะพิสูจน์ได้เช่นกัน” เย่หยวนได้แต่ต้องผายมือตอบกลับไป

เพราะเขานั้นไม่อาจจะหาอะไรมาพิสูจน์

ตอนนี้มองจากมุมไหนเขาก็เป็นเผ่าเลือดอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างก็ทำหน้าตาเหยเกขึ้นมาตามๆ กัน

เฮยหยางนั้นยิ้มตอบกลับไป “ในเมื่อเจ้าพิสูจน์ตัวเองไม่ได้เช่นนั้นเราก็คงต้องมองว่าเจ้านั้นเป็นภัยต่อพวกเราแล้ว! ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ เด็กคนนี้…คงเก็บไว้ไม่ได้แล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าโลกหยุนซานก็ต้องผุดลุกขึ้นมาชี้หน้าเฮยหยางทันที “ไอ้สารเลวเฮยหยาง เจ้าคิดอยากสู้กับข้าแล้ว? มาๆ! หากวันนี้ข้าไม่กระทืบเจ้าให้กระดูกหักข้าคงไม่อาจจะหยุดมือตัวเองได้แล้ว!”

พูดไปเจ้าโลกหยุนซานนั้นก็ปล่อยพลังรุนแรงล้ำออกมาทำให้ทั้งเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์สั่นสะท้าน

เขานั้นไม่ได้ดูเหมือนคนพูดเล่นแม้แต่น้อย ดูอย่างไรก็เตรียมต่อสู้จริงๆ

เพราะตัวเขาในตอนนี้ได้ถอนพลังกลับออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์และตั้งท่าเตรียมพร้อมสู้กับเจ้าโลก เฮยหยางจริงๆ แล้ว

เจ้าโลกเฮยหยางนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยินดูท่าเขาเองก็ไม่คิดว่าเจ้าโลกหยุนซานจะเดือดดาลขึ้นถึงปานนี้

แค่ได้ยินคำพูดเดียวนี้ก็คิดเล่นกันให้ถึงตาย มันย่อมจะทำให้เจ้าโลกคนอื่นๆ หน้าซีดลงเช่นกัน

เพราะพวกเจ้าโลกหยุนซานนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเสาหลักของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

หากเขาคิดถอนตัวจริงๆ แล้วมันก็คงสร้างหายนะขึ้นมาแน่

เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “สหายเต๋าหยุนซาน ช่วยรอก่อนเถอะ! หากมันมีอะไรไม่พอใจกันก็ค่อยพูดกัน เราอย่ามาทะเลาะกันเองภายในไม่เช่นนี้เผ่าเลือดมันคงจะได้โอกาสเข้าโจมตีแล้ว!”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นกัดฟันแน่นตอบกลับไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เหลวไหล! เสวี่ยจื่อหมิง เจ้าคิดว่าข้านั้นไม่รู้ทันหรือว่าเจ้าเองก็มีความคิดนี้เช่นกัน! แต่เจ้ามองย้อนกลับไปด้วยว่าเย่หยวนได้สร้างปาฏิหาริย์ให้แก่พวกเรามากมายแค่ไหนในเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้? พวกเจ้านั้นเห็นว่าเขาหมดประโยชน์แล้วจึงคิดจะทำลายเขาก่อนได้ขึ้นมาเป็นคู่แข่งตนหรือ? เจ้าคิดว่าพ่อเจ้านี้โง่เง่ามากนัก?”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นเองก็ไม่ใช่คนโง่ เพียงแค่ว่าเป็นคนเดือดง่ายเท่านั้น

เห็นเขาเดือดดาลขึ้นมาเช่นนี้เขาย่อมจะคิดถึงเหตุผลเบื้องหลังจนครบถ้วนแล้ว

แม้ว่าคำพูดของเฮยหยางนั้นมันจะดูไม่น่าฟังแต่มันก็เป็นคำพูดแทนใจของเจ้าโลกหลายๆ คนในที่นี้!

เย่หยวนนั้นเก่งมากหรือ?

แน่นอน!

เก่งจนน่ากลัว!

แต่ก็เพราะว่าเช่นนี้ที่หากเย่หยวนกลายเป็นระเบิดเวลาไปมันย่อมจะทำให้ทั้งพันธมิตรพังทลายลงได้หากมันเกิดระเบิดขึ้น!

นั่นคือสิ่งที่แม้แต่เทพศักดิ์สิทธิ์ยังต้องกลัว

คนผู้นี้หลอกได้แม้แต่ศิลาโลหิตโกลาหลของเผ่าเลือด!

แต่เจ้าโลกหยุนซานนั้นไม่คิดสนใจเรื่องใดๆ เย่หยวนนั้นคือศิษย์ของเขาที่เขารักอย่างมาก!

ต่อให้คนอื่นๆ จะไม่คิดปล่อยเย่หยวนไป เขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้เย่หยวนต้องอยู่ตัวคนเดียว!

ไม่มีใครคิดว่าเจ้าโลกหยุนซานนั้นจะให้ค่าเย่หยวนมากถึงขั้นนี้จนถึงขั้นคิดแตกหักกับพันธมิตร

การที่เขาเรียกชื่อจริงของเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นมันแสดงถึงจุดยืนที่ว่าเขานั้นสามารถออกจากพันธมิตรได้ทุกเมื่อ

นี่มันคือท่าทางที่แทนคำพูดใดๆ ได้ชัดเจน!

คิดอยากสังหารเย่หยวน? ไม่มีทางยอม!

เทพศักดิ์สิทธิ์เองก็ต้องรีบกล่าวขึ้นมาห้ามไว้ “สหายเต๋าหยุนซาน อย่าเพิ่งใจร้อนไปตอนนี้ข้าเองก็ยังไม่ได้บอกว่าต้องสังหารเย่หยวนลงให้ได้! เพียงแค่ว่าเรานั้นถูกคนมากมายคาดหวัง จะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดขึ้นไม่ได้! สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันอันตราย ข้าคิดแค่ว่าต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแค่เท่านั้นเอง!”

หยุนซานนั้นหัวเราะลั่นตอบกลับไป “ข้านี่แหละจะยืนยันให้! เย่หยวนไม่มีทางทรยศพันธมิตร! หากพวกเจ้ามองไม่ออกจริงๆ ก็ไปหาทางพิสูจน์กันเอาเอง! แต่หากมีใครคิดทำร้ายเย่หยวนแม้แต่ปลายเส้นผมแล้วต่อให้ข้าต้องฉีกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ลงข้าก็จะทวง ความยุติธรรมกลับมา!”

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยิน

นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี

แต่ความไร้เหตุผลนี้มันทำให้เย่หยวนรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ อาจารย์ของเขานั้นเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างไม่แม้แต่จะหันกลับมาถามหาความจริงจากปากเขา

เจ้าโลกเฮยหยางนั้นคิดเสนอให้สังหารเขาลงแต่เจ้าโลกหยุนซานนั้นกลับคิดแตกหักจากพันธมิตรในวินาทีที่ได้ยิน

มีอาจารย์เช่นนี้จะยังต้องการอะไรอีก!

เวลาเดียวกันนั้นเองโจวซ่งฉวนก็กล่าวขึ้นมาตาม “ข้านั้นจะขอตัดสินใจตามท่านอาจารย์!”

หลี่ชิงหยุนนั้นเองก็เดินมาอยู่ข้างเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ข้าศิษย์พี่ใหญ่ของเขาคนนี้อาจจะยังมิใช่เจ้าโลกแต่คำพูดของข้ามันก็คงมีน้ำหนักไม่น้อย คิดจะสังหารเย่หยวนพวกท่านต้องสังหารข้าลงไปด้วย!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเดินมาหยุดข้างกายเย่หยวนโดยไม่พูดอะไร

แต่ท่าทางนี้มันแทนคำพูดใดๆ สิ้นแล้ว

ใบหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายแปลกขึ้นมากกว่าเก่า

โจวซ่งฉวนนั้นไม่ต้องพูดถึงแล้ว แต่ตัวหลี่ชิงหยุนนั้นเองก็เป็นเจ้าโลกที่จะมองข้ามไม่ได้เช่นกัน

หากสามศิษย์อาจารย์นั้นถอนตัวจากพันธมิตรแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกมันคงจะแตกสลายลงไปสิ้นแน่นอน

ผลลัพธ์ที่ตามมามันจะหนักหน่วงยิ่งกว่าการปล่อยให้เย่หยวนเป็นระเบิดเวลาต่อไป

เย่หยวนนั้นรู้สึกซาบซึ้งในใจเดิมทีเขานั้นยังคิดตะขิดตะขวงใจเรื่องการกราบอาจารย์ครั้งนี้อยู่ไม่น้อย

แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองช่างเลือกได้ถูกต้องนัก

วินาทีนี้บรรยากาศมันน่าอึดอัดอย่างมาก

ต่างฝ่ายนั้นต่างแสดงจุดยืนออกมาและไม่มีใครจะพูดจาต่อรองใดๆ อีก

พวกเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายพูดจาไร้เหตุผลหรือ?

ไม่ใช่เลย!

สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันเป็นอันตรายอย่างมากจริงๆ

แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังบ่มเพาะต่ำแต่หากว่าวันหนึ่งเขาขึ้นบรรลุมหาจักรพรรดิไปแล้วมันคงกลายเป็นภัยร้าย แน่นอน!

ตอนนี้เย่หยวนได้กลายเป็นตำนานของสวรรค์แรกไปแล้ว

หากคนเช่นนี้กลายเป็นทาสเลือดไป มันคงได้กลายเป็นเรื่องตลกที่สุดในประวัติศาสตร์แน่

สภาพนั้นมันคงไม่ต่างจากเรื่องที่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์กลับเป็นมนุษย์

เพียงแค่ว่าเผ่าเลือดมันเสียหายได้ไม่แพ้พ่ายลงแต่หากสวรรค์แรกเจอเรื่องเช่นนั้นเข้าไปพวกเขาคงพ่าย ให้เผ่าเลือดในพริบตาแน่!

แต่เป็นเย่หยวนที่ก้าวขึ้นมาห้ามคนทั้งสองฝ่ายไว้ “อาจารย์ ศิษย์พี่ เรื่องนี้มันไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายหรอก ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกไปแล้วมิใช่หรือว่าข้านั้นจะเดินทางออกไปจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด? ตราบเท่าที่ข้าไม่อยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดแล้วมันก็ย่อมจะไม่มีภัยร้ายใดๆ เกิดขึ้นได้เพราะว่าข้า หากข้าเดินทางไปยังสวรรค์อื่นแล้วเอาข่าวหรือวิธีการกำราบเผ่าเลือดกลับมาได้ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ต้องถามแล้วว่าข้าอยู่ฝ่ายไหนใช่หรือไม่?”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นผงะไปเมื่อได้ยิน “เจ้าจะไปจริง? เจ้าต้องรู้ก่อนนะว่าในสวรรค์ทั้งหลายนั้นมันมีภัยร้ายมากมาย อาจารย์เจ้าไปอยู่ปกป้องเจ้าไม่ได้! หากเจ้าไปเจออันตรายใหญ่หลวงเข้าเจ้าอาจจะถึงตายได้จริงๆ!”

ในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเจ้าโลกหยุนซานถือเป็นผู้ทรงอำนาจ

ต่อให้เจ้าโลกคนอื่นๆ จะคิดทำร้ายเย่หยวน มันก็ไม่อาจจะทำได้

แต่หากเดินทางไปสวรรค์อื่นแล้ว มันก็เกินมือเจ้าโลกหยุนซาน

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ขอรับ ศิษย์มีเหตุผลที่ต้องไป!”

เหตุผลนั้นคือมู่หลินเสวีย!

ตอนนี้เย่หยวนได้บ่มเพาะฝึกฝนกำเนิดเทพขึ้นมาจนถึงระดับสองขั้นปลายแล้ว มันอยู่ห่างจากระดับสามไม่มากแล้ว

หากเขาบรรลุระดับสามได้เย่หยวนก็จะสามารถคืนชีพให้แก่มู่หลินเสวียได้แน่นอน!

เขานั้นรอวันนี้มายาวนานเหลือเกิน!

ตอนนี้ในสวรรค์สัมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเผ่าเลือดมันเสียหายไปอย่างหนักหน่วงและตัวศิลาโลหิตโกลาหลเอง ก็บาดเจ็บสาหัส

ภายในเวลาสั้นๆ พวกมันคงไม่อาจจะสร้างเรื่องให้แก่พันธมิตรสวรรค์แรกได้มากมาย

แท้จริงตอนที่เย่หยวนบรรลุจักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาได้นั้นหมี่เทียนก็ได้บอกไปแล้วว่าการจะหลอมกลับวิญญาณ ศักดิ์สิทธิ์มันยังต้องใช้การเตรียมการอีกมาก มีแต่ต้องเดินทางไปยังดินแดนของเผ่าวิญญาณเท่านั้น

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงไม่คิดจะรอช้าไปมากกว่านี้ คิดอยากจะเดินทางไปยังเผ่าวิญญาณให้เร็วที่สุด

เผ่าวิญญาณนั้นมันไม่มีอยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

ในสามสิบสามสวรรค์นั้นแต่ละสวรรค์มันย่อมจะมีเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันไป

เหมือนบ้านเกิดของหมี่เทียนอย่างสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นที่มันมีภูตแท้โกลาหลอยู่มากมาย!

แม้ว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นจะมีภูตแท้อยู่มากแต่มันก็ไม่มีภูตแท้ที่เกิดจากโกลาหลอยู่เลย

และหากจะพูดถึงสวรรค์ที่มีเผ่าวิญญาณอยู่มากที่สุดแล้วมันก็ย่อมจะเป็นสวรรค์โมฆะเกินดุล!

นี่คือเป้าหมายในการเดินทางของเย่หยวน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2907 มุ่งหน้าสู่เผ่าวิญญาณ!

เจ้าโลกทั้งหลายต่างเงียบปากลงทันที

เพราะนี่มันเป็นไปได้!

ทาสเลือดที่ถูกเผ่าเลือดควบคุมไว้นั้นเองมันก็ใช่ว่าจะตรวจพบเจอได้ง่ายๆ

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเย่หยวน ‘ทาสเลือด’ คนนี้เป็นทาสของศิลามารดา!

“เรื่องนั้น…ข้าเองก็ไม่อาจจะพิสูจน์ได้เช่นกัน” เย่หยวนได้แต่ต้องผายมือตอบกลับไป

เพราะเขานั้นไม่อาจจะหาอะไรมาพิสูจน์

ตอนนี้มองจากมุมไหนเขาก็เป็นเผ่าเลือดอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างก็ทำหน้าตาเหยเกขึ้นมาตามๆ กัน

เฮยหยางนั้นยิ้มตอบกลับไป “ในเมื่อเจ้าพิสูจน์ตัวเองไม่ได้เช่นนั้นเราก็คงต้องมองว่าเจ้านั้นเป็นภัยต่อพวกเราแล้ว! ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ เด็กคนนี้…คงเก็บไว้ไม่ได้แล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้าโลกหยุนซานก็ต้องผุดลุกขึ้นมาชี้หน้าเฮยหยางทันที “ไอ้สารเลวเฮยหยาง เจ้าคิดอยากสู้กับข้าแล้ว? มาๆ! หากวันนี้ข้าไม่กระทืบเจ้าให้กระดูกหักข้าคงไม่อาจจะหยุดมือตัวเองได้แล้ว!”

พูดไปเจ้าโลกหยุนซานนั้นก็ปล่อยพลังรุนแรงล้ำออกมาทำให้ทั้งเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์สั่นสะท้าน

เขานั้นไม่ได้ดูเหมือนคนพูดเล่นแม้แต่น้อย ดูอย่างไรก็เตรียมต่อสู้จริงๆ

เพราะตัวเขาในตอนนี้ได้ถอนพลังกลับออกจากเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์และตั้งท่าเตรียมพร้อมสู้กับเจ้าโลก เฮยหยางจริงๆ แล้ว

เจ้าโลกเฮยหยางนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยินดูท่าเขาเองก็ไม่คิดว่าเจ้าโลกหยุนซานจะเดือดดาลขึ้นถึงปานนี้

แค่ได้ยินคำพูดเดียวนี้ก็คิดเล่นกันให้ถึงตาย มันย่อมจะทำให้เจ้าโลกคนอื่นๆ หน้าซีดลงเช่นกัน

เพราะพวกเจ้าโลกหยุนซานนั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเสาหลักของเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์!

หากเขาคิดถอนตัวจริงๆ แล้วมันก็คงสร้างหายนะขึ้นมาแน่

เทพศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “สหายเต๋าหยุนซาน ช่วยรอก่อนเถอะ! หากมันมีอะไรไม่พอใจกันก็ค่อยพูดกัน เราอย่ามาทะเลาะกันเองภายในไม่เช่นนี้เผ่าเลือดมันคงจะได้โอกาสเข้าโจมตีแล้ว!”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นกัดฟันแน่นตอบกลับไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เหลวไหล! เสวี่ยจื่อหมิง เจ้าคิดว่าข้านั้นไม่รู้ทันหรือว่าเจ้าเองก็มีความคิดนี้เช่นกัน! แต่เจ้ามองย้อนกลับไปด้วยว่าเย่หยวนได้สร้างปาฏิหาริย์ให้แก่พวกเรามากมายแค่ไหนในเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้? พวกเจ้านั้นเห็นว่าเขาหมดประโยชน์แล้วจึงคิดจะทำลายเขาก่อนได้ขึ้นมาเป็นคู่แข่งตนหรือ? เจ้าคิดว่าพ่อเจ้านี้โง่เง่ามากนัก?”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นเองก็ไม่ใช่คนโง่ เพียงแค่ว่าเป็นคนเดือดง่ายเท่านั้น

เห็นเขาเดือดดาลขึ้นมาเช่นนี้เขาย่อมจะคิดถึงเหตุผลเบื้องหลังจนครบถ้วนแล้ว

แม้ว่าคำพูดของเฮยหยางนั้นมันจะดูไม่น่าฟังแต่มันก็เป็นคำพูดแทนใจของเจ้าโลกหลายๆ คนในที่นี้!

เย่หยวนนั้นเก่งมากหรือ?

แน่นอน!

เก่งจนน่ากลัว!

แต่ก็เพราะว่าเช่นนี้ที่หากเย่หยวนกลายเป็นระเบิดเวลาไปมันย่อมจะทำให้ทั้งพันธมิตรพังทลายลงได้หากมันเกิดระเบิดขึ้น!

นั่นคือสิ่งที่แม้แต่เทพศักดิ์สิทธิ์ยังต้องกลัว

คนผู้นี้หลอกได้แม้แต่ศิลาโลหิตโกลาหลของเผ่าเลือด!

แต่เจ้าโลกหยุนซานนั้นไม่คิดสนใจเรื่องใดๆ เย่หยวนนั้นคือศิษย์ของเขาที่เขารักอย่างมาก!

ต่อให้คนอื่นๆ จะไม่คิดปล่อยเย่หยวนไป เขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้เย่หยวนต้องอยู่ตัวคนเดียว!

ไม่มีใครคิดว่าเจ้าโลกหยุนซานนั้นจะให้ค่าเย่หยวนมากถึงขั้นนี้จนถึงขั้นคิดแตกหักกับพันธมิตร

การที่เขาเรียกชื่อจริงของเทพศักดิ์สิทธิ์นั้นมันแสดงถึงจุดยืนที่ว่าเขานั้นสามารถออกจากพันธมิตรได้ทุกเมื่อ

นี่มันคือท่าทางที่แทนคำพูดใดๆ ได้ชัดเจน!

คิดอยากสังหารเย่หยวน? ไม่มีทางยอม!

เทพศักดิ์สิทธิ์เองก็ต้องรีบกล่าวขึ้นมาห้ามไว้ “สหายเต๋าหยุนซาน อย่าเพิ่งใจร้อนไปตอนนี้ข้าเองก็ยังไม่ได้บอกว่าต้องสังหารเย่หยวนลงให้ได้! เพียงแค่ว่าเรานั้นถูกคนมากมายคาดหวัง จะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดขึ้นไม่ได้! สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันอันตราย ข้าคิดแค่ว่าต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแค่เท่านั้นเอง!”

หยุนซานนั้นหัวเราะลั่นตอบกลับไป “ข้านี่แหละจะยืนยันให้! เย่หยวนไม่มีทางทรยศพันธมิตร! หากพวกเจ้ามองไม่ออกจริงๆ ก็ไปหาทางพิสูจน์กันเอาเอง! แต่หากมีใครคิดทำร้ายเย่หยวนแม้แต่ปลายเส้นผมแล้วต่อให้ข้าต้องฉีกเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์ลงข้าก็จะทวง ความยุติธรรมกลับมา!”

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยิน

นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี

แต่ความไร้เหตุผลนี้มันทำให้เย่หยวนรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ อาจารย์ของเขานั้นเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างไม่แม้แต่จะหันกลับมาถามหาความจริงจากปากเขา

เจ้าโลกเฮยหยางนั้นคิดเสนอให้สังหารเขาลงแต่เจ้าโลกหยุนซานนั้นกลับคิดแตกหักจากพันธมิตรในวินาทีที่ได้ยิน

มีอาจารย์เช่นนี้จะยังต้องการอะไรอีก!

เวลาเดียวกันนั้นเองโจวซ่งฉวนก็กล่าวขึ้นมาตาม “ข้านั้นจะขอตัดสินใจตามท่านอาจารย์!”

หลี่ชิงหยุนนั้นเองก็เดินมาอยู่ข้างเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ข้าศิษย์พี่ใหญ่ของเขาคนนี้อาจจะยังมิใช่เจ้าโลกแต่คำพูดของข้ามันก็คงมีน้ำหนักไม่น้อย คิดจะสังหารเย่หยวนพวกท่านต้องสังหารข้าลงไปด้วย!”

เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นเดินมาหยุดข้างกายเย่หยวนโดยไม่พูดอะไร

แต่ท่าทางนี้มันแทนคำพูดใดๆ สิ้นแล้ว

ใบหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายแปลกขึ้นมากกว่าเก่า

โจวซ่งฉวนนั้นไม่ต้องพูดถึงแล้ว แต่ตัวหลี่ชิงหยุนนั้นเองก็เป็นเจ้าโลกที่จะมองข้ามไม่ได้เช่นกัน

หากสามศิษย์อาจารย์นั้นถอนตัวจากพันธมิตรแล้วพันธมิตรสวรรค์แรกมันคงจะแตกสลายลงไปสิ้นแน่นอน

ผลลัพธ์ที่ตามมามันจะหนักหน่วงยิ่งกว่าการปล่อยให้เย่หยวนเป็นระเบิดเวลาต่อไป

เย่หยวนนั้นรู้สึกซาบซึ้งในใจเดิมทีเขานั้นยังคิดตะขิดตะขวงใจเรื่องการกราบอาจารย์ครั้งนี้อยู่ไม่น้อย

แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองช่างเลือกได้ถูกต้องนัก

วินาทีนี้บรรยากาศมันน่าอึดอัดอย่างมาก

ต่างฝ่ายนั้นต่างแสดงจุดยืนออกมาและไม่มีใครจะพูดจาต่อรองใดๆ อีก

พวกเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายพูดจาไร้เหตุผลหรือ?

ไม่ใช่เลย!

สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันเป็นอันตรายอย่างมากจริงๆ

แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังบ่มเพาะต่ำแต่หากว่าวันหนึ่งเขาขึ้นบรรลุมหาจักรพรรดิไปแล้วมันคงกลายเป็นภัยร้าย แน่นอน!

ตอนนี้เย่หยวนได้กลายเป็นตำนานของสวรรค์แรกไปแล้ว

หากคนเช่นนี้กลายเป็นทาสเลือดไป มันคงได้กลายเป็นเรื่องตลกที่สุดในประวัติศาสตร์แน่

สภาพนั้นมันคงไม่ต่างจากเรื่องที่บุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์กลับเป็นมนุษย์

เพียงแค่ว่าเผ่าเลือดมันเสียหายได้ไม่แพ้พ่ายลงแต่หากสวรรค์แรกเจอเรื่องเช่นนั้นเข้าไปพวกเขาคงพ่าย ให้เผ่าเลือดในพริบตาแน่!

แต่เป็นเย่หยวนที่ก้าวขึ้นมาห้ามคนทั้งสองฝ่ายไว้ “อาจารย์ ศิษย์พี่ เรื่องนี้มันไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายหรอก ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกไปแล้วมิใช่หรือว่าข้านั้นจะเดินทางออกไปจากสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด? ตราบเท่าที่ข้าไม่อยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดแล้วมันก็ย่อมจะไม่มีภัยร้ายใดๆ เกิดขึ้นได้เพราะว่าข้า หากข้าเดินทางไปยังสวรรค์อื่นแล้วเอาข่าวหรือวิธีการกำราบเผ่าเลือดกลับมาได้ถึงตอนนั้นมันก็คงไม่ต้องถามแล้วว่าข้าอยู่ฝ่ายไหนใช่หรือไม่?”

เจ้าโลกหยุนซานนั้นผงะไปเมื่อได้ยิน “เจ้าจะไปจริง? เจ้าต้องรู้ก่อนนะว่าในสวรรค์ทั้งหลายนั้นมันมีภัยร้ายมากมาย อาจารย์เจ้าไปอยู่ปกป้องเจ้าไม่ได้! หากเจ้าไปเจออันตรายใหญ่หลวงเข้าเจ้าอาจจะถึงตายได้จริงๆ!”

ในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเจ้าโลกหยุนซานถือเป็นผู้ทรงอำนาจ

ต่อให้เจ้าโลกคนอื่นๆ จะคิดทำร้ายเย่หยวน มันก็ไม่อาจจะทำได้

แต่หากเดินทางไปสวรรค์อื่นแล้ว มันก็เกินมือเจ้าโลกหยุนซาน

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ขอรับ ศิษย์มีเหตุผลที่ต้องไป!”

เหตุผลนั้นคือมู่หลินเสวีย!

ตอนนี้เย่หยวนได้บ่มเพาะฝึกฝนกำเนิดเทพขึ้นมาจนถึงระดับสองขั้นปลายแล้ว มันอยู่ห่างจากระดับสามไม่มากแล้ว

หากเขาบรรลุระดับสามได้เย่หยวนก็จะสามารถคืนชีพให้แก่มู่หลินเสวียได้แน่นอน!

เขานั้นรอวันนี้มายาวนานเหลือเกิน!

ตอนนี้ในสวรรค์สัมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นเผ่าเลือดมันเสียหายไปอย่างหนักหน่วงและตัวศิลาโลหิตโกลาหลเอง ก็บาดเจ็บสาหัส

ภายในเวลาสั้นๆ พวกมันคงไม่อาจจะสร้างเรื่องให้แก่พันธมิตรสวรรค์แรกได้มากมาย

แท้จริงตอนที่เย่หยวนบรรลุจักรพรรดิเที่ยงขึ้นมาได้นั้นหมี่เทียนก็ได้บอกไปแล้วว่าการจะหลอมกลับวิญญาณ ศักดิ์สิทธิ์มันยังต้องใช้การเตรียมการอีกมาก มีแต่ต้องเดินทางไปยังดินแดนของเผ่าวิญญาณเท่านั้น

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงไม่คิดจะรอช้าไปมากกว่านี้ คิดอยากจะเดินทางไปยังเผ่าวิญญาณให้เร็วที่สุด

เผ่าวิญญาณนั้นมันไม่มีอยู่บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

ในสามสิบสามสวรรค์นั้นแต่ละสวรรค์มันย่อมจะมีเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกันไป

เหมือนบ้านเกิดของหมี่เทียนอย่างสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นที่มันมีภูตแท้โกลาหลอยู่มากมาย!

แม้ว่าสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นจะมีภูตแท้อยู่มากแต่มันก็ไม่มีภูตแท้ที่เกิดจากโกลาหลอยู่เลย

และหากจะพูดถึงสวรรค์ที่มีเผ่าวิญญาณอยู่มากที่สุดแล้วมันก็ย่อมจะเป็นสวรรค์โมฆะเกินดุล!

นี่คือเป้าหมายในการเดินทางของเย่หยวน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+