Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2919 เข้าป่า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2919 เข้าป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2919 เข้าป่า

อึดอัด!

บรรยากาศมันอึดอัดนัก!

เสียงที่ร้องสั่งถอยไปนั้นมันดังลั่นแค่ไหน?

แต่เย่หยวนกลับไม่ขยับแม้สักก้าว

ความอึดอัดในบรรยากาศหน้าทางเข้าป่าสุวิมลตอนนี้มันก็ไม่มีอย่างอื่นผสมเลย

เดิมทีนั้นพวกเขาต่างคิดว่าเย่หยวนย่อมจะอ่อนแอไม่มีแรงต้านทานใดๆ

และหากถูกแรงกดดันนี้เข้าไป ต่อให้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน

ใครจะไปคิดว่าเขานั้นกลับไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย

“ไม่มีทางน่า? เจ้าเด็กนี่มันแค่จักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางแท้ๆ ทำไมถึงสามารถทนรับพลังเน่าของฉินซื่อเถียนได้?”

“ข้าได้ยินมาว่าพลังเน่าของฉินซื่อเถียนนั้นมันสามารถกดดันได้แม้แต่พลังเลือดของเผ่าเลือด แต่มันกลับไม่อาจจะกดดันเจ้าเด็กนี่ได้!”

“น่าอายเสียจริงๆ พวกเจ้าดูหน้าฉินซื่อเถียนตอนนี้สิ แดงจนเขียวเลย!”

ฉินซื่อเถียนนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมากทั้งในสนามรบเจาะชาดและแดนกล้วยไม้สงบ

ใครจะไปคิดว่าเขานั้นกลับต้องมาเสียหน้าให้กับเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่ง?!

โจวหยูนั้นใจเย็นกว่าอีกสองคนมาก เขาแค่จ้องมองหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย็นเยือกและถามขึ้น “น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ! ไม่นึกเลยว่าการทดสอบเข้าครั้งนี้ข้ากลับจะมาเจอคนน่าสนใจเช่นนี้เข้า เจ้ามีนามว่าอะไร?”

เย่หยวนส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายและเดินจากไป

คนทั้งสามนั้นต้องผงะอ้าปากค้างไป

เจ้าบ้านี่กลับเมินพวกเขาสิ้นเชิง!

คนอื่นๆ นั้นไม่มีใครกล้าจะเมินสามบุตรเจาะชาดอย่างเด็ดขาด!

ครั้งนี้แม้แต่โจวหยูก็ยังเดือดดาลขึ้นมา

“ไอ้เวร ข้าพูดกับเจ้า หูหนวกหรือ?” โจวหยูร้องลั่นขึ้นมา

“คิดอยากจะอวดตัวก็ไปผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนเถอะ เจ้ายังไม่ผ่านป่าสุวิมลเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาอวดอ้าง

ตัวเองเสียแล้ว ช่างหาเรื่องขายหน้าแท้ๆ” เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดจะหันหน้ากลับมามอง

“ซีด…”

คนทั้งหลายต่างต้องสูดลมหายใจเข้าลึกไป

เย่อหยิ่งโดยแท้!

ไกลออกไปนั้นเหยียนยูเจินเองก็ได้เห็นเรื่องราวนี้และอดยิ้มแห้งๆ ขึ้นไม่ได้

เย่หยวนมันก็ยังคงเป็นเย่หยวน!

แม้ว่าคนทั้งสามนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ไม่อาจจะเทียบเคียงกับเย่หยวนได้เลย!

คลื่นพลังเน่าจากร่างของสามบุตรเจาะชาดนั้นหนักหน่วงอย่างมาก

จนวิญญาณของพวกเขาแทบจะกลายเป็นวัตถุได้และมันย่อมจะไม่อาจรับมือได้ง่ายๆ

แต่เส้นทางของเย่หยวนนั้นมันแตกต่างจากคนทั้งสามสิ้นเชิง

สามบุตรเจาะชาดนั้นผ่านสงครามมาอย่างยาวนาน

เหมือนกับการหล่อหลอมร่างวิญญาณของตัวเองเหมือนที่มนุษย์ฝึกฝนกล้ามเนื้อ

แต่เส้นทางของเย่หยวนนั้นมันเป็นยอดเต๋าที่แตกต่างไป!

ตอนที่สู้กับเย่หยวนนั้น…

เขาก็สัมผัสได้ว่าวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนมันเหมือนกับหมอกหนาที่ไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ ได้

แม้ว่าพลังงานเน่ามันจะหนักหน่วงแต่มันก็ยังไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้

หากมิใช่พลังงานเน่าจากมหาจักรพรรดิแล้วมันก็คงไม่มีทางจะทำอันตรายใดๆ เย่หยวนได้เลย

“ดูท่าครั้งนี้มันจะมีคนกล้าท้าทายเราแล้ว! น่าสนใจจริงๆ!” ฉินซื่อเถียนกัดฟันหัวเราะขึ้นมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

คนทั้งสามนั้นต่างโหดร้ายป่าเถื่อนสังหารคนมามากมาย

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเผ่าเลือด พวกเขานั้นต่างฆ่าสังหารมามากมาย

เดิมทีแล้วพวกเขาคิดว่าครั้งนี้มันคงเป็นการแข่งขันระหว่างกันเท่านั้น

ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะมาเจอเข้ากับคนที่คิดท้าทายพวกเขาทั้งสามพร้อมๆ กัน

แต่โจวหยูนั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นมา “มันก็ดีมิใช่หรือ? เดิมทีข้าคิดว่าการทดสอบครั้งนี้มันจะน่าเบื่อเป็นแน่

แต่ในตอนนี้การได้ฉีกร่างไอ้เด็กไม่รู้จักฟ้าดินนั้นมันก็น่าสนใจไม่น้อย เพียงแต่ว่าข้าไม่รู้ว่ามันจะออกจากป่าสุวิมลไปได้หรือไม่น่ะสิ!”

คนทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกดีว่าโจวหยูนั้นแท้จริงเป็นคนที่โหดร้ายที่สุด

เวลาเดียวกันนั้นเองมันก็ปรากฏเงาร่างขึ้นมาบนทางเข้าป่าสุวิมล

มหาจักรพรรดิ!

“เอาล่ะ คนมากันครบแล้ว เข้าป่าสุวิมลไปเสีย! เวลาจำกัดนั้นคือสามวัน หลังจากครบสามวันแล้วใครที่ออกมาไม่ได้ก็จะถูกดึงกลับออกมา แต่หากเจ้าอยู่รอดไม่ถึงสามวัน มันก็ไม่อาจจะโทษใครได้แล้ว ตอนนี้พวกเจ้าคนใดที่ไม่มั่นใจ

ก็ยังสามารถถอนตัวออกมาได้” มหาจักรพรรดิคนนั้นประกาศขึ้น

ไม่มีใครขยับหนีไปไหนเพราะคนที่มานั้นต่างรู้ถึงความน่ากลัวของป่าสุวิมลกันดีแต่แรก

มหาจักรพรรดิคนนั้นยิ้มกล่าวขึ้นต่อ “ในเมื่อไม่มีใครถอนตัวแล้วก็เข้าป่ากันได้!”

ภายใต้คำสั่งนี้ยอดอัจฉริยะเผ่าวิญญาณนับพันๆ ก็ได้เดินเข้าสู่ป่าสุวิมลกันอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นมันก็ปรากฏจอแสงขึ้นมาเหนือป่า แสดงจุดที่แต่ละคนนั้นเข้าไป

และคนใดที่จุดแสดงตำแหน่งจางหายไป…

มันก็หมายความว่าพวกเขาได้ตายลงกลายเป็นส่วนหนึ่งของป่าสุวิมลไปแล้ว

แต่ละครั้งที่มีการทดสอบนั้นมันจะมีคนนับร้อยๆ ตายลงไป

ไม่นานหลังจากเข้าป่าสุวิมลไปมันก็มีเงาร่างอีกหลายเงาปรากฏขึ้น

มหาจักรพรรดิคนนั้นเบิกตากว้างและรีบก้มหัวลงทันที “ขอคารวะท่านเจ้าโถงทั้งสาม! คารวะท่านผู้อาวุโส!”

“อืม เจ้าทำการทดสอบต่อไปเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเราหรอก!”

“ขอรับ!”

คนที่มานั้นมันคือเจ้าโถงและรองเจ้าโถงทั้งสอง!

เรื่องนี้ทำให้กรรมการทดสอบครั้งนี้เย็นสันหลังวาบ!

เพราะดูท่าแล้วเจ้าโถงทั้งสามนั้นจะให้ค่ากับศิษย์ทั้งสามนั้นอย่างมาก!

เจ้าโถงมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง รองเจ้าโถงมหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินและมหาจักรพรรดิล้ำหลินฟาง

พวกเขาทั้งสามนั้นต่างเป็นยอดฝีมือมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์

การทำให้พวกเขาหันมาสนใจได้นั้นมันย่อมจะหมายความว่าสามบุตรเจาะชาดนั้นไม่ธรรมดาจริง

นอกจากนั้นแล้วมันยังมีอาจารย์ของเหยียนยูเจิน มหาจักรพรรดิชีหยูมาด้วย

“อาจารย์!” เหยียนยูเจินรีบเข้าไปทักทาย

เมื่อชีหยูเห็นเหยียนยูเจินนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น “เจ้าก็มาดูกับเขาด้วย?”

เหยียนยูเจินยิ้มตอบกลับไป “ขอรับ ศิษย์นั้นเดินทางออกไปครั้งนี้ได้เจอสหายที่ดีคนหนึ่งและเขาอยากจะร่วมทดสอบเข้าโถงวิญญาณนิพพาน ข้าจึงได้มาส่งเขาเข้าทดสอบ!”

ชีหยูพยักหน้ารับและคิดว่ามันมิใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

แต่เหยียนยูเจินนั้นกลับผิดหวังสุดหัวใจ

เขานั้นหวังว่าอาจารย์ของตัวนั้นจะสามารถมองได้ว่าร่างกายของเขามันมีอะไรผิดปกติ

แต่ดูท่าคงไม่!

ดูแล้ววิชาที่เย่หยวนใช้ออกมานั้นมันคงเหนือล้ำแม้แต่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ก็ยังไม่อาจจะมองมันออกได้

“สหายเจ้ามีนามว่าอะไร?” ชีหยูถามขึ้นพร้อมมองจอแสง

“เรื่องนั้น…คนที่รั้งท้ายนามว่าเย่หยวนคนนั้น” เหยียนยูเจินชี้มือขึ้นไป

ตอนนี้แต่ละจุดบนจอแสงนั้นมันจะมีนามเขียนติดไว้ด้วย

ชีหยูอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ชั้นนอกนั้นมันเป็นส่วนที่มีวิญญาณร้ายน้อยที่สุดแต่เขากลับยังหยุดอยู่แค่ที่ชั้นนอกหรือ ดูท่า…คงอยู่ได้ไม่ถึงสามวันเสียแล้วมั้ง?”

เหยียนยูเจินนั้นได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป เพราะเขาเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

ด้วยจิตเต๋าของเย่หยวนนั้นเขาควรจะผ่านมาได้อย่างรวดเร็วแต่นี่กลับไปหยุดอยู่ทางเข้าเสียอย่างนั้น

นี่มันหมายความว่าเขากำลังเจอปัญหา!

เรื่องของป่าสุวิมลนี้ยิ่งเข้าไปส่วนลึกมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งมีวิญญาณร้ายอันตรายมากขึ้นเท่านั้น พลังแห่งการหลอกลวงมันก็จะเพิ่มพูนขึ้น

“ฮ่าๆ อาจารย์ลุงชีหยู ไอ้เด็กนี่มันคนที่หาเรื่องสามบุตรเจาะชาดก่อนหน้านี้มิใช่หรือนี่ ข้าก็นึกว่ามันจะเก่งแค่ไหนที่แท้มันกลับไม่อาจจะผ่านชั้นนอกไปได้ด้วยซ้ำ ขยะเสียจริง! ฮ่าๆ ศิษย์น้องยูเจินนั้นมีฝีมือไม่น้อยแต่ว่าสายตาของเขานั้นช่างอ่อนหัดนัก กลับไปผูกมิตรกับขยะเช่นนี้เข้า สามบุตรเจาะชาดนั้นสมชื่อว่าเป็นศิษย์ของสามเจ้าโถงท่านจริงๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป…พวกเขาอาจจะทำลายสถิติลงก็ได้!”

คนที่พูดขึ้นมานั้นคือเจียงห่าวเขาเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสอีกคนและมีฝีมือสูสีกับเหยียนยูเจิน

ระหว่างคนทั้งสองนั้นมันมักจะมีแต่เรื่องให้แข่งกันเสมอๆ

ภาพก่อนหน้านั้นเขาเองก็เห็นมันกับตาเช่นกัน

เดิมทีเขานั้นคิดว่าเย่หยวนคงเก่งกาจไม่เบา เพราะเขาสามารถทนรับพลังงานเน่าของสามบุตรเจาะชาดได้

แต่ใครจะไปคิดว่าเขากลับอ่อนแอปานนี้

ได้เห็นเหยียนยูเจินทำหน้าเหยเกเช่นนั้นเขาย่อมจะไม่รอช้าซ้ำแผลทันที

ได้ยินเช่นนั้นชีหยูเองก็ต้องหันมามองตัวเหยียนยูเจินด้วยสีหน้าไม่พอใจเช่นกัน

‘ไปสร้างสหายบ้าบออะไรมา?’

นอกจากว่าจะอ่อนแอแล้วยังมีหน้าไปอวดดีอวดเก่งท้าทายสามศิษย์ของเจ้าโถงอีก นี่มันจะไม่เรียกว่าโง่ได้หรือ?

เพราะมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์อย่างเขานี้จะเสียหน้าไม่ได้!

ดูสภาพของสามบุตรเจาะชาดอีกครั้งในตอนนี้แล้วพวกเขาก็ค่อยๆ เข้าไปในป่าลึกถึงสิบกิโลเมตรแล้ว!

ป่าสุวิมลนั้นไม่ได้ใหญ่โตมีพื้นที่แค่ราวๆ สิบกิโลเมตร

แต่ยิ่งเข้าไปลึก มันก็จะยิ่งช้าลง

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2919 เข้าป่า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2919 เข้าป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2919 เข้าป่า

อึดอัด!

บรรยากาศมันอึดอัดนัก!

เสียงที่ร้องสั่งถอยไปนั้นมันดังลั่นแค่ไหน?

แต่เย่หยวนกลับไม่ขยับแม้สักก้าว

ความอึดอัดในบรรยากาศหน้าทางเข้าป่าสุวิมลตอนนี้มันก็ไม่มีอย่างอื่นผสมเลย

เดิมทีนั้นพวกเขาต่างคิดว่าเย่หยวนย่อมจะอ่อนแอไม่มีแรงต้านทานใดๆ

และหากถูกแรงกดดันนี้เข้าไป ต่อให้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน

ใครจะไปคิดว่าเขานั้นกลับไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย

“ไม่มีทางน่า? เจ้าเด็กนี่มันแค่จักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางแท้ๆ ทำไมถึงสามารถทนรับพลังเน่าของฉินซื่อเถียนได้?”

“ข้าได้ยินมาว่าพลังเน่าของฉินซื่อเถียนนั้นมันสามารถกดดันได้แม้แต่พลังเลือดของเผ่าเลือด แต่มันกลับไม่อาจจะกดดันเจ้าเด็กนี่ได้!”

“น่าอายเสียจริงๆ พวกเจ้าดูหน้าฉินซื่อเถียนตอนนี้สิ แดงจนเขียวเลย!”

ฉินซื่อเถียนนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมากทั้งในสนามรบเจาะชาดและแดนกล้วยไม้สงบ

ใครจะไปคิดว่าเขานั้นกลับต้องมาเสียหน้าให้กับเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่ง?!

โจวหยูนั้นใจเย็นกว่าอีกสองคนมาก เขาแค่จ้องมองหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย็นเยือกและถามขึ้น “น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ! ไม่นึกเลยว่าการทดสอบเข้าครั้งนี้ข้ากลับจะมาเจอคนน่าสนใจเช่นนี้เข้า เจ้ามีนามว่าอะไร?”

เย่หยวนส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายและเดินจากไป

คนทั้งสามนั้นต้องผงะอ้าปากค้างไป

เจ้าบ้านี่กลับเมินพวกเขาสิ้นเชิง!

คนอื่นๆ นั้นไม่มีใครกล้าจะเมินสามบุตรเจาะชาดอย่างเด็ดขาด!

ครั้งนี้แม้แต่โจวหยูก็ยังเดือดดาลขึ้นมา

“ไอ้เวร ข้าพูดกับเจ้า หูหนวกหรือ?” โจวหยูร้องลั่นขึ้นมา

“คิดอยากจะอวดตัวก็ไปผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนเถอะ เจ้ายังไม่ผ่านป่าสุวิมลเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาอวดอ้าง

ตัวเองเสียแล้ว ช่างหาเรื่องขายหน้าแท้ๆ” เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดจะหันหน้ากลับมามอง

“ซีด…”

คนทั้งหลายต่างต้องสูดลมหายใจเข้าลึกไป

เย่อหยิ่งโดยแท้!

ไกลออกไปนั้นเหยียนยูเจินเองก็ได้เห็นเรื่องราวนี้และอดยิ้มแห้งๆ ขึ้นไม่ได้

เย่หยวนมันก็ยังคงเป็นเย่หยวน!

แม้ว่าคนทั้งสามนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ไม่อาจจะเทียบเคียงกับเย่หยวนได้เลย!

คลื่นพลังเน่าจากร่างของสามบุตรเจาะชาดนั้นหนักหน่วงอย่างมาก

จนวิญญาณของพวกเขาแทบจะกลายเป็นวัตถุได้และมันย่อมจะไม่อาจรับมือได้ง่ายๆ

แต่เส้นทางของเย่หยวนนั้นมันแตกต่างจากคนทั้งสามสิ้นเชิง

สามบุตรเจาะชาดนั้นผ่านสงครามมาอย่างยาวนาน

เหมือนกับการหล่อหลอมร่างวิญญาณของตัวเองเหมือนที่มนุษย์ฝึกฝนกล้ามเนื้อ

แต่เส้นทางของเย่หยวนนั้นมันเป็นยอดเต๋าที่แตกต่างไป!

ตอนที่สู้กับเย่หยวนนั้น…

เขาก็สัมผัสได้ว่าวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนมันเหมือนกับหมอกหนาที่ไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ ได้

แม้ว่าพลังงานเน่ามันจะหนักหน่วงแต่มันก็ยังไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้

หากมิใช่พลังงานเน่าจากมหาจักรพรรดิแล้วมันก็คงไม่มีทางจะทำอันตรายใดๆ เย่หยวนได้เลย

“ดูท่าครั้งนี้มันจะมีคนกล้าท้าทายเราแล้ว! น่าสนใจจริงๆ!” ฉินซื่อเถียนกัดฟันหัวเราะขึ้นมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

คนทั้งสามนั้นต่างโหดร้ายป่าเถื่อนสังหารคนมามากมาย

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเผ่าเลือด พวกเขานั้นต่างฆ่าสังหารมามากมาย

เดิมทีแล้วพวกเขาคิดว่าครั้งนี้มันคงเป็นการแข่งขันระหว่างกันเท่านั้น

ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะมาเจอเข้ากับคนที่คิดท้าทายพวกเขาทั้งสามพร้อมๆ กัน

แต่โจวหยูนั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นมา “มันก็ดีมิใช่หรือ? เดิมทีข้าคิดว่าการทดสอบครั้งนี้มันจะน่าเบื่อเป็นแน่

แต่ในตอนนี้การได้ฉีกร่างไอ้เด็กไม่รู้จักฟ้าดินนั้นมันก็น่าสนใจไม่น้อย เพียงแต่ว่าข้าไม่รู้ว่ามันจะออกจากป่าสุวิมลไปได้หรือไม่น่ะสิ!”

คนทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกดีว่าโจวหยูนั้นแท้จริงเป็นคนที่โหดร้ายที่สุด

เวลาเดียวกันนั้นเองมันก็ปรากฏเงาร่างขึ้นมาบนทางเข้าป่าสุวิมล

มหาจักรพรรดิ!

“เอาล่ะ คนมากันครบแล้ว เข้าป่าสุวิมลไปเสีย! เวลาจำกัดนั้นคือสามวัน หลังจากครบสามวันแล้วใครที่ออกมาไม่ได้ก็จะถูกดึงกลับออกมา แต่หากเจ้าอยู่รอดไม่ถึงสามวัน มันก็ไม่อาจจะโทษใครได้แล้ว ตอนนี้พวกเจ้าคนใดที่ไม่มั่นใจ

ก็ยังสามารถถอนตัวออกมาได้” มหาจักรพรรดิคนนั้นประกาศขึ้น

ไม่มีใครขยับหนีไปไหนเพราะคนที่มานั้นต่างรู้ถึงความน่ากลัวของป่าสุวิมลกันดีแต่แรก

มหาจักรพรรดิคนนั้นยิ้มกล่าวขึ้นต่อ “ในเมื่อไม่มีใครถอนตัวแล้วก็เข้าป่ากันได้!”

ภายใต้คำสั่งนี้ยอดอัจฉริยะเผ่าวิญญาณนับพันๆ ก็ได้เดินเข้าสู่ป่าสุวิมลกันอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นมันก็ปรากฏจอแสงขึ้นมาเหนือป่า แสดงจุดที่แต่ละคนนั้นเข้าไป

และคนใดที่จุดแสดงตำแหน่งจางหายไป…

มันก็หมายความว่าพวกเขาได้ตายลงกลายเป็นส่วนหนึ่งของป่าสุวิมลไปแล้ว

แต่ละครั้งที่มีการทดสอบนั้นมันจะมีคนนับร้อยๆ ตายลงไป

ไม่นานหลังจากเข้าป่าสุวิมลไปมันก็มีเงาร่างอีกหลายเงาปรากฏขึ้น

มหาจักรพรรดิคนนั้นเบิกตากว้างและรีบก้มหัวลงทันที “ขอคารวะท่านเจ้าโถงทั้งสาม! คารวะท่านผู้อาวุโส!”

“อืม เจ้าทำการทดสอบต่อไปเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเราหรอก!”

“ขอรับ!”

คนที่มานั้นมันคือเจ้าโถงและรองเจ้าโถงทั้งสอง!

เรื่องนี้ทำให้กรรมการทดสอบครั้งนี้เย็นสันหลังวาบ!

เพราะดูท่าแล้วเจ้าโถงทั้งสามนั้นจะให้ค่ากับศิษย์ทั้งสามนั้นอย่างมาก!

เจ้าโถงมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง รองเจ้าโถงมหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินและมหาจักรพรรดิล้ำหลินฟาง

พวกเขาทั้งสามนั้นต่างเป็นยอดฝีมือมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์

การทำให้พวกเขาหันมาสนใจได้นั้นมันย่อมจะหมายความว่าสามบุตรเจาะชาดนั้นไม่ธรรมดาจริง

นอกจากนั้นแล้วมันยังมีอาจารย์ของเหยียนยูเจิน มหาจักรพรรดิชีหยูมาด้วย

“อาจารย์!” เหยียนยูเจินรีบเข้าไปทักทาย

เมื่อชีหยูเห็นเหยียนยูเจินนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น “เจ้าก็มาดูกับเขาด้วย?”

เหยียนยูเจินยิ้มตอบกลับไป “ขอรับ ศิษย์นั้นเดินทางออกไปครั้งนี้ได้เจอสหายที่ดีคนหนึ่งและเขาอยากจะร่วมทดสอบเข้าโถงวิญญาณนิพพาน ข้าจึงได้มาส่งเขาเข้าทดสอบ!”

ชีหยูพยักหน้ารับและคิดว่ามันมิใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

แต่เหยียนยูเจินนั้นกลับผิดหวังสุดหัวใจ

เขานั้นหวังว่าอาจารย์ของตัวนั้นจะสามารถมองได้ว่าร่างกายของเขามันมีอะไรผิดปกติ

แต่ดูท่าคงไม่!

ดูแล้ววิชาที่เย่หยวนใช้ออกมานั้นมันคงเหนือล้ำแม้แต่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ก็ยังไม่อาจจะมองมันออกได้

“สหายเจ้ามีนามว่าอะไร?” ชีหยูถามขึ้นพร้อมมองจอแสง

“เรื่องนั้น…คนที่รั้งท้ายนามว่าเย่หยวนคนนั้น” เหยียนยูเจินชี้มือขึ้นไป

ตอนนี้แต่ละจุดบนจอแสงนั้นมันจะมีนามเขียนติดไว้ด้วย

ชีหยูอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ชั้นนอกนั้นมันเป็นส่วนที่มีวิญญาณร้ายน้อยที่สุดแต่เขากลับยังหยุดอยู่แค่ที่ชั้นนอกหรือ ดูท่า…คงอยู่ได้ไม่ถึงสามวันเสียแล้วมั้ง?”

เหยียนยูเจินนั้นได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป เพราะเขาเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

ด้วยจิตเต๋าของเย่หยวนนั้นเขาควรจะผ่านมาได้อย่างรวดเร็วแต่นี่กลับไปหยุดอยู่ทางเข้าเสียอย่างนั้น

นี่มันหมายความว่าเขากำลังเจอปัญหา!

เรื่องของป่าสุวิมลนี้ยิ่งเข้าไปส่วนลึกมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งมีวิญญาณร้ายอันตรายมากขึ้นเท่านั้น พลังแห่งการหลอกลวงมันก็จะเพิ่มพูนขึ้น

“ฮ่าๆ อาจารย์ลุงชีหยู ไอ้เด็กนี่มันคนที่หาเรื่องสามบุตรเจาะชาดก่อนหน้านี้มิใช่หรือนี่ ข้าก็นึกว่ามันจะเก่งแค่ไหนที่แท้มันกลับไม่อาจจะผ่านชั้นนอกไปได้ด้วยซ้ำ ขยะเสียจริง! ฮ่าๆ ศิษย์น้องยูเจินนั้นมีฝีมือไม่น้อยแต่ว่าสายตาของเขานั้นช่างอ่อนหัดนัก กลับไปผูกมิตรกับขยะเช่นนี้เข้า สามบุตรเจาะชาดนั้นสมชื่อว่าเป็นศิษย์ของสามเจ้าโถงท่านจริงๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป…พวกเขาอาจจะทำลายสถิติลงก็ได้!”

คนที่พูดขึ้นมานั้นคือเจียงห่าวเขาเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสอีกคนและมีฝีมือสูสีกับเหยียนยูเจิน

ระหว่างคนทั้งสองนั้นมันมักจะมีแต่เรื่องให้แข่งกันเสมอๆ

ภาพก่อนหน้านั้นเขาเองก็เห็นมันกับตาเช่นกัน

เดิมทีเขานั้นคิดว่าเย่หยวนคงเก่งกาจไม่เบา เพราะเขาสามารถทนรับพลังงานเน่าของสามบุตรเจาะชาดได้

แต่ใครจะไปคิดว่าเขากลับอ่อนแอปานนี้

ได้เห็นเหยียนยูเจินทำหน้าเหยเกเช่นนั้นเขาย่อมจะไม่รอช้าซ้ำแผลทันที

ได้ยินเช่นนั้นชีหยูเองก็ต้องหันมามองตัวเหยียนยูเจินด้วยสีหน้าไม่พอใจเช่นกัน

‘ไปสร้างสหายบ้าบออะไรมา?’

นอกจากว่าจะอ่อนแอแล้วยังมีหน้าไปอวดดีอวดเก่งท้าทายสามศิษย์ของเจ้าโถงอีก นี่มันจะไม่เรียกว่าโง่ได้หรือ?

เพราะมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์อย่างเขานี้จะเสียหน้าไม่ได้!

ดูสภาพของสามบุตรเจาะชาดอีกครั้งในตอนนี้แล้วพวกเขาก็ค่อยๆ เข้าไปในป่าลึกถึงสิบกิโลเมตรแล้ว!

ป่าสุวิมลนั้นไม่ได้ใหญ่โตมีพื้นที่แค่ราวๆ สิบกิโลเมตร

แต่ยิ่งเข้าไปลึก มันก็จะยิ่งช้าลง

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2919 เข้าป่า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2919 เข้าป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2919 เข้าป่า

อึดอัด!

บรรยากาศมันอึดอัดนัก!

เสียงที่ร้องสั่งถอยไปนั้นมันดังลั่นแค่ไหน?

แต่เย่หยวนกลับไม่ขยับแม้สักก้าว

ความอึดอัดในบรรยากาศหน้าทางเข้าป่าสุวิมลตอนนี้มันก็ไม่มีอย่างอื่นผสมเลย

เดิมทีนั้นพวกเขาต่างคิดว่าเย่หยวนย่อมจะอ่อนแอไม่มีแรงต้านทานใดๆ

และหากถูกแรงกดดันนี้เข้าไป ต่อให้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน

ใครจะไปคิดว่าเขานั้นกลับไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย

“ไม่มีทางน่า? เจ้าเด็กนี่มันแค่จักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางแท้ๆ ทำไมถึงสามารถทนรับพลังเน่าของฉินซื่อเถียนได้?”

“ข้าได้ยินมาว่าพลังเน่าของฉินซื่อเถียนนั้นมันสามารถกดดันได้แม้แต่พลังเลือดของเผ่าเลือด แต่มันกลับไม่อาจจะกดดันเจ้าเด็กนี่ได้!”

“น่าอายเสียจริงๆ พวกเจ้าดูหน้าฉินซื่อเถียนตอนนี้สิ แดงจนเขียวเลย!”

ฉินซื่อเถียนนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมากทั้งในสนามรบเจาะชาดและแดนกล้วยไม้สงบ

ใครจะไปคิดว่าเขานั้นกลับต้องมาเสียหน้าให้กับเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่ง?!

โจวหยูนั้นใจเย็นกว่าอีกสองคนมาก เขาแค่จ้องมองหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย็นเยือกและถามขึ้น “น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ! ไม่นึกเลยว่าการทดสอบเข้าครั้งนี้ข้ากลับจะมาเจอคนน่าสนใจเช่นนี้เข้า เจ้ามีนามว่าอะไร?”

เย่หยวนส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายและเดินจากไป

คนทั้งสามนั้นต้องผงะอ้าปากค้างไป

เจ้าบ้านี่กลับเมินพวกเขาสิ้นเชิง!

คนอื่นๆ นั้นไม่มีใครกล้าจะเมินสามบุตรเจาะชาดอย่างเด็ดขาด!

ครั้งนี้แม้แต่โจวหยูก็ยังเดือดดาลขึ้นมา

“ไอ้เวร ข้าพูดกับเจ้า หูหนวกหรือ?” โจวหยูร้องลั่นขึ้นมา

“คิดอยากจะอวดตัวก็ไปผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนเถอะ เจ้ายังไม่ผ่านป่าสุวิมลเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาอวดอ้าง

ตัวเองเสียแล้ว ช่างหาเรื่องขายหน้าแท้ๆ” เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดจะหันหน้ากลับมามอง

“ซีด…”

คนทั้งหลายต่างต้องสูดลมหายใจเข้าลึกไป

เย่อหยิ่งโดยแท้!

ไกลออกไปนั้นเหยียนยูเจินเองก็ได้เห็นเรื่องราวนี้และอดยิ้มแห้งๆ ขึ้นไม่ได้

เย่หยวนมันก็ยังคงเป็นเย่หยวน!

แม้ว่าคนทั้งสามนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ไม่อาจจะเทียบเคียงกับเย่หยวนได้เลย!

คลื่นพลังเน่าจากร่างของสามบุตรเจาะชาดนั้นหนักหน่วงอย่างมาก

จนวิญญาณของพวกเขาแทบจะกลายเป็นวัตถุได้และมันย่อมจะไม่อาจรับมือได้ง่ายๆ

แต่เส้นทางของเย่หยวนนั้นมันแตกต่างจากคนทั้งสามสิ้นเชิง

สามบุตรเจาะชาดนั้นผ่านสงครามมาอย่างยาวนาน

เหมือนกับการหล่อหลอมร่างวิญญาณของตัวเองเหมือนที่มนุษย์ฝึกฝนกล้ามเนื้อ

แต่เส้นทางของเย่หยวนนั้นมันเป็นยอดเต๋าที่แตกต่างไป!

ตอนที่สู้กับเย่หยวนนั้น…

เขาก็สัมผัสได้ว่าวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนมันเหมือนกับหมอกหนาที่ไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ ได้

แม้ว่าพลังงานเน่ามันจะหนักหน่วงแต่มันก็ยังไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้

หากมิใช่พลังงานเน่าจากมหาจักรพรรดิแล้วมันก็คงไม่มีทางจะทำอันตรายใดๆ เย่หยวนได้เลย

“ดูท่าครั้งนี้มันจะมีคนกล้าท้าทายเราแล้ว! น่าสนใจจริงๆ!” ฉินซื่อเถียนกัดฟันหัวเราะขึ้นมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

คนทั้งสามนั้นต่างโหดร้ายป่าเถื่อนสังหารคนมามากมาย

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเผ่าเลือด พวกเขานั้นต่างฆ่าสังหารมามากมาย

เดิมทีแล้วพวกเขาคิดว่าครั้งนี้มันคงเป็นการแข่งขันระหว่างกันเท่านั้น

ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะมาเจอเข้ากับคนที่คิดท้าทายพวกเขาทั้งสามพร้อมๆ กัน

แต่โจวหยูนั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นมา “มันก็ดีมิใช่หรือ? เดิมทีข้าคิดว่าการทดสอบครั้งนี้มันจะน่าเบื่อเป็นแน่

แต่ในตอนนี้การได้ฉีกร่างไอ้เด็กไม่รู้จักฟ้าดินนั้นมันก็น่าสนใจไม่น้อย เพียงแต่ว่าข้าไม่รู้ว่ามันจะออกจากป่าสุวิมลไปได้หรือไม่น่ะสิ!”

คนทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกดีว่าโจวหยูนั้นแท้จริงเป็นคนที่โหดร้ายที่สุด

เวลาเดียวกันนั้นเองมันก็ปรากฏเงาร่างขึ้นมาบนทางเข้าป่าสุวิมล

มหาจักรพรรดิ!

“เอาล่ะ คนมากันครบแล้ว เข้าป่าสุวิมลไปเสีย! เวลาจำกัดนั้นคือสามวัน หลังจากครบสามวันแล้วใครที่ออกมาไม่ได้ก็จะถูกดึงกลับออกมา แต่หากเจ้าอยู่รอดไม่ถึงสามวัน มันก็ไม่อาจจะโทษใครได้แล้ว ตอนนี้พวกเจ้าคนใดที่ไม่มั่นใจ

ก็ยังสามารถถอนตัวออกมาได้” มหาจักรพรรดิคนนั้นประกาศขึ้น

ไม่มีใครขยับหนีไปไหนเพราะคนที่มานั้นต่างรู้ถึงความน่ากลัวของป่าสุวิมลกันดีแต่แรก

มหาจักรพรรดิคนนั้นยิ้มกล่าวขึ้นต่อ “ในเมื่อไม่มีใครถอนตัวแล้วก็เข้าป่ากันได้!”

ภายใต้คำสั่งนี้ยอดอัจฉริยะเผ่าวิญญาณนับพันๆ ก็ได้เดินเข้าสู่ป่าสุวิมลกันอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นมันก็ปรากฏจอแสงขึ้นมาเหนือป่า แสดงจุดที่แต่ละคนนั้นเข้าไป

และคนใดที่จุดแสดงตำแหน่งจางหายไป…

มันก็หมายความว่าพวกเขาได้ตายลงกลายเป็นส่วนหนึ่งของป่าสุวิมลไปแล้ว

แต่ละครั้งที่มีการทดสอบนั้นมันจะมีคนนับร้อยๆ ตายลงไป

ไม่นานหลังจากเข้าป่าสุวิมลไปมันก็มีเงาร่างอีกหลายเงาปรากฏขึ้น

มหาจักรพรรดิคนนั้นเบิกตากว้างและรีบก้มหัวลงทันที “ขอคารวะท่านเจ้าโถงทั้งสาม! คารวะท่านผู้อาวุโส!”

“อืม เจ้าทำการทดสอบต่อไปเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเราหรอก!”

“ขอรับ!”

คนที่มานั้นมันคือเจ้าโถงและรองเจ้าโถงทั้งสอง!

เรื่องนี้ทำให้กรรมการทดสอบครั้งนี้เย็นสันหลังวาบ!

เพราะดูท่าแล้วเจ้าโถงทั้งสามนั้นจะให้ค่ากับศิษย์ทั้งสามนั้นอย่างมาก!

เจ้าโถงมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง รองเจ้าโถงมหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินและมหาจักรพรรดิล้ำหลินฟาง

พวกเขาทั้งสามนั้นต่างเป็นยอดฝีมือมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์

การทำให้พวกเขาหันมาสนใจได้นั้นมันย่อมจะหมายความว่าสามบุตรเจาะชาดนั้นไม่ธรรมดาจริง

นอกจากนั้นแล้วมันยังมีอาจารย์ของเหยียนยูเจิน มหาจักรพรรดิชีหยูมาด้วย

“อาจารย์!” เหยียนยูเจินรีบเข้าไปทักทาย

เมื่อชีหยูเห็นเหยียนยูเจินนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น “เจ้าก็มาดูกับเขาด้วย?”

เหยียนยูเจินยิ้มตอบกลับไป “ขอรับ ศิษย์นั้นเดินทางออกไปครั้งนี้ได้เจอสหายที่ดีคนหนึ่งและเขาอยากจะร่วมทดสอบเข้าโถงวิญญาณนิพพาน ข้าจึงได้มาส่งเขาเข้าทดสอบ!”

ชีหยูพยักหน้ารับและคิดว่ามันมิใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

แต่เหยียนยูเจินนั้นกลับผิดหวังสุดหัวใจ

เขานั้นหวังว่าอาจารย์ของตัวนั้นจะสามารถมองได้ว่าร่างกายของเขามันมีอะไรผิดปกติ

แต่ดูท่าคงไม่!

ดูแล้ววิชาที่เย่หยวนใช้ออกมานั้นมันคงเหนือล้ำแม้แต่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ก็ยังไม่อาจจะมองมันออกได้

“สหายเจ้ามีนามว่าอะไร?” ชีหยูถามขึ้นพร้อมมองจอแสง

“เรื่องนั้น…คนที่รั้งท้ายนามว่าเย่หยวนคนนั้น” เหยียนยูเจินชี้มือขึ้นไป

ตอนนี้แต่ละจุดบนจอแสงนั้นมันจะมีนามเขียนติดไว้ด้วย

ชีหยูอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ชั้นนอกนั้นมันเป็นส่วนที่มีวิญญาณร้ายน้อยที่สุดแต่เขากลับยังหยุดอยู่แค่ที่ชั้นนอกหรือ ดูท่า…คงอยู่ได้ไม่ถึงสามวันเสียแล้วมั้ง?”

เหยียนยูเจินนั้นได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป เพราะเขาเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

ด้วยจิตเต๋าของเย่หยวนนั้นเขาควรจะผ่านมาได้อย่างรวดเร็วแต่นี่กลับไปหยุดอยู่ทางเข้าเสียอย่างนั้น

นี่มันหมายความว่าเขากำลังเจอปัญหา!

เรื่องของป่าสุวิมลนี้ยิ่งเข้าไปส่วนลึกมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งมีวิญญาณร้ายอันตรายมากขึ้นเท่านั้น พลังแห่งการหลอกลวงมันก็จะเพิ่มพูนขึ้น

“ฮ่าๆ อาจารย์ลุงชีหยู ไอ้เด็กนี่มันคนที่หาเรื่องสามบุตรเจาะชาดก่อนหน้านี้มิใช่หรือนี่ ข้าก็นึกว่ามันจะเก่งแค่ไหนที่แท้มันกลับไม่อาจจะผ่านชั้นนอกไปได้ด้วยซ้ำ ขยะเสียจริง! ฮ่าๆ ศิษย์น้องยูเจินนั้นมีฝีมือไม่น้อยแต่ว่าสายตาของเขานั้นช่างอ่อนหัดนัก กลับไปผูกมิตรกับขยะเช่นนี้เข้า สามบุตรเจาะชาดนั้นสมชื่อว่าเป็นศิษย์ของสามเจ้าโถงท่านจริงๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป…พวกเขาอาจจะทำลายสถิติลงก็ได้!”

คนที่พูดขึ้นมานั้นคือเจียงห่าวเขาเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสอีกคนและมีฝีมือสูสีกับเหยียนยูเจิน

ระหว่างคนทั้งสองนั้นมันมักจะมีแต่เรื่องให้แข่งกันเสมอๆ

ภาพก่อนหน้านั้นเขาเองก็เห็นมันกับตาเช่นกัน

เดิมทีเขานั้นคิดว่าเย่หยวนคงเก่งกาจไม่เบา เพราะเขาสามารถทนรับพลังงานเน่าของสามบุตรเจาะชาดได้

แต่ใครจะไปคิดว่าเขากลับอ่อนแอปานนี้

ได้เห็นเหยียนยูเจินทำหน้าเหยเกเช่นนั้นเขาย่อมจะไม่รอช้าซ้ำแผลทันที

ได้ยินเช่นนั้นชีหยูเองก็ต้องหันมามองตัวเหยียนยูเจินด้วยสีหน้าไม่พอใจเช่นกัน

‘ไปสร้างสหายบ้าบออะไรมา?’

นอกจากว่าจะอ่อนแอแล้วยังมีหน้าไปอวดดีอวดเก่งท้าทายสามศิษย์ของเจ้าโถงอีก นี่มันจะไม่เรียกว่าโง่ได้หรือ?

เพราะมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์อย่างเขานี้จะเสียหน้าไม่ได้!

ดูสภาพของสามบุตรเจาะชาดอีกครั้งในตอนนี้แล้วพวกเขาก็ค่อยๆ เข้าไปในป่าลึกถึงสิบกิโลเมตรแล้ว!

ป่าสุวิมลนั้นไม่ได้ใหญ่โตมีพื้นที่แค่ราวๆ สิบกิโลเมตร

แต่ยิ่งเข้าไปลึก มันก็จะยิ่งช้าลง

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2919 เข้าป่า

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2919 เข้าป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2919 เข้าป่า

อึดอัด!

บรรยากาศมันอึดอัดนัก!

เสียงที่ร้องสั่งถอยไปนั้นมันดังลั่นแค่ไหน?

แต่เย่หยวนกลับไม่ขยับแม้สักก้าว

ความอึดอัดในบรรยากาศหน้าทางเข้าป่าสุวิมลตอนนี้มันก็ไม่มีอย่างอื่นผสมเลย

เดิมทีนั้นพวกเขาต่างคิดว่าเย่หยวนย่อมจะอ่อนแอไม่มีแรงต้านทานใดๆ

และหากถูกแรงกดดันนี้เข้าไป ต่อให้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน

ใครจะไปคิดว่าเขานั้นกลับไม่แสดงท่าทีใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย

“ไม่มีทางน่า? เจ้าเด็กนี่มันแค่จักรพรรดิเที่ยงขั้นกลางแท้ๆ ทำไมถึงสามารถทนรับพลังเน่าของฉินซื่อเถียนได้?”

“ข้าได้ยินมาว่าพลังเน่าของฉินซื่อเถียนนั้นมันสามารถกดดันได้แม้แต่พลังเลือดของเผ่าเลือด แต่มันกลับไม่อาจจะกดดันเจ้าเด็กนี่ได้!”

“น่าอายเสียจริงๆ พวกเจ้าดูหน้าฉินซื่อเถียนตอนนี้สิ แดงจนเขียวเลย!”

ฉินซื่อเถียนนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมากทั้งในสนามรบเจาะชาดและแดนกล้วยไม้สงบ

ใครจะไปคิดว่าเขานั้นกลับต้องมาเสียหน้าให้กับเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่ง?!

โจวหยูนั้นใจเย็นกว่าอีกสองคนมาก เขาแค่จ้องมองหน้าเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย็นเยือกและถามขึ้น “น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ! ไม่นึกเลยว่าการทดสอบเข้าครั้งนี้ข้ากลับจะมาเจอคนน่าสนใจเช่นนี้เข้า เจ้ามีนามว่าอะไร?”

เย่หยวนส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายและเดินจากไป

คนทั้งสามนั้นต้องผงะอ้าปากค้างไป

เจ้าบ้านี่กลับเมินพวกเขาสิ้นเชิง!

คนอื่นๆ นั้นไม่มีใครกล้าจะเมินสามบุตรเจาะชาดอย่างเด็ดขาด!

ครั้งนี้แม้แต่โจวหยูก็ยังเดือดดาลขึ้นมา

“ไอ้เวร ข้าพูดกับเจ้า หูหนวกหรือ?” โจวหยูร้องลั่นขึ้นมา

“คิดอยากจะอวดตัวก็ไปผ่านการทดสอบให้ได้ก่อนเถอะ เจ้ายังไม่ผ่านป่าสุวิมลเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาอวดอ้าง

ตัวเองเสียแล้ว ช่างหาเรื่องขายหน้าแท้ๆ” เย่หยวนกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดจะหันหน้ากลับมามอง

“ซีด…”

คนทั้งหลายต่างต้องสูดลมหายใจเข้าลึกไป

เย่อหยิ่งโดยแท้!

ไกลออกไปนั้นเหยียนยูเจินเองก็ได้เห็นเรื่องราวนี้และอดยิ้มแห้งๆ ขึ้นไม่ได้

เย่หยวนมันก็ยังคงเป็นเย่หยวน!

แม้ว่าคนทั้งสามนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ไม่อาจจะเทียบเคียงกับเย่หยวนได้เลย!

คลื่นพลังเน่าจากร่างของสามบุตรเจาะชาดนั้นหนักหน่วงอย่างมาก

จนวิญญาณของพวกเขาแทบจะกลายเป็นวัตถุได้และมันย่อมจะไม่อาจรับมือได้ง่ายๆ

แต่เส้นทางของเย่หยวนนั้นมันแตกต่างจากคนทั้งสามสิ้นเชิง

สามบุตรเจาะชาดนั้นผ่านสงครามมาอย่างยาวนาน

เหมือนกับการหล่อหลอมร่างวิญญาณของตัวเองเหมือนที่มนุษย์ฝึกฝนกล้ามเนื้อ

แต่เส้นทางของเย่หยวนนั้นมันเป็นยอดเต๋าที่แตกต่างไป!

ตอนที่สู้กับเย่หยวนนั้น…

เขาก็สัมผัสได้ว่าวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนมันเหมือนกับหมอกหนาที่ไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ ได้

แม้ว่าพลังงานเน่ามันจะหนักหน่วงแต่มันก็ยังไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้

หากมิใช่พลังงานเน่าจากมหาจักรพรรดิแล้วมันก็คงไม่มีทางจะทำอันตรายใดๆ เย่หยวนได้เลย

“ดูท่าครั้งนี้มันจะมีคนกล้าท้าทายเราแล้ว! น่าสนใจจริงๆ!” ฉินซื่อเถียนกัดฟันหัวเราะขึ้นมาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

คนทั้งสามนั้นต่างโหดร้ายป่าเถื่อนสังหารคนมามากมาย

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเผ่าเลือด พวกเขานั้นต่างฆ่าสังหารมามากมาย

เดิมทีแล้วพวกเขาคิดว่าครั้งนี้มันคงเป็นการแข่งขันระหว่างกันเท่านั้น

ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะมาเจอเข้ากับคนที่คิดท้าทายพวกเขาทั้งสามพร้อมๆ กัน

แต่โจวหยูนั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นมา “มันก็ดีมิใช่หรือ? เดิมทีข้าคิดว่าการทดสอบครั้งนี้มันจะน่าเบื่อเป็นแน่

แต่ในตอนนี้การได้ฉีกร่างไอ้เด็กไม่รู้จักฟ้าดินนั้นมันก็น่าสนใจไม่น้อย เพียงแต่ว่าข้าไม่รู้ว่ามันจะออกจากป่าสุวิมลไปได้หรือไม่น่ะสิ!”

คนทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกดีว่าโจวหยูนั้นแท้จริงเป็นคนที่โหดร้ายที่สุด

เวลาเดียวกันนั้นเองมันก็ปรากฏเงาร่างขึ้นมาบนทางเข้าป่าสุวิมล

มหาจักรพรรดิ!

“เอาล่ะ คนมากันครบแล้ว เข้าป่าสุวิมลไปเสีย! เวลาจำกัดนั้นคือสามวัน หลังจากครบสามวันแล้วใครที่ออกมาไม่ได้ก็จะถูกดึงกลับออกมา แต่หากเจ้าอยู่รอดไม่ถึงสามวัน มันก็ไม่อาจจะโทษใครได้แล้ว ตอนนี้พวกเจ้าคนใดที่ไม่มั่นใจ

ก็ยังสามารถถอนตัวออกมาได้” มหาจักรพรรดิคนนั้นประกาศขึ้น

ไม่มีใครขยับหนีไปไหนเพราะคนที่มานั้นต่างรู้ถึงความน่ากลัวของป่าสุวิมลกันดีแต่แรก

มหาจักรพรรดิคนนั้นยิ้มกล่าวขึ้นต่อ “ในเมื่อไม่มีใครถอนตัวแล้วก็เข้าป่ากันได้!”

ภายใต้คำสั่งนี้ยอดอัจฉริยะเผ่าวิญญาณนับพันๆ ก็ได้เดินเข้าสู่ป่าสุวิมลกันอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นมันก็ปรากฏจอแสงขึ้นมาเหนือป่า แสดงจุดที่แต่ละคนนั้นเข้าไป

และคนใดที่จุดแสดงตำแหน่งจางหายไป…

มันก็หมายความว่าพวกเขาได้ตายลงกลายเป็นส่วนหนึ่งของป่าสุวิมลไปแล้ว

แต่ละครั้งที่มีการทดสอบนั้นมันจะมีคนนับร้อยๆ ตายลงไป

ไม่นานหลังจากเข้าป่าสุวิมลไปมันก็มีเงาร่างอีกหลายเงาปรากฏขึ้น

มหาจักรพรรดิคนนั้นเบิกตากว้างและรีบก้มหัวลงทันที “ขอคารวะท่านเจ้าโถงทั้งสาม! คารวะท่านผู้อาวุโส!”

“อืม เจ้าทำการทดสอบต่อไปเถอะ ไม่ต้องสนใจพวกเราหรอก!”

“ขอรับ!”

คนที่มานั้นมันคือเจ้าโถงและรองเจ้าโถงทั้งสอง!

เรื่องนี้ทำให้กรรมการทดสอบครั้งนี้เย็นสันหลังวาบ!

เพราะดูท่าแล้วเจ้าโถงทั้งสามนั้นจะให้ค่ากับศิษย์ทั้งสามนั้นอย่างมาก!

เจ้าโถงมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง รองเจ้าโถงมหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินและมหาจักรพรรดิล้ำหลินฟาง

พวกเขาทั้งสามนั้นต่างเป็นยอดฝีมือมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์

การทำให้พวกเขาหันมาสนใจได้นั้นมันย่อมจะหมายความว่าสามบุตรเจาะชาดนั้นไม่ธรรมดาจริง

นอกจากนั้นแล้วมันยังมีอาจารย์ของเหยียนยูเจิน มหาจักรพรรดิชีหยูมาด้วย

“อาจารย์!” เหยียนยูเจินรีบเข้าไปทักทาย

เมื่อชีหยูเห็นเหยียนยูเจินนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น “เจ้าก็มาดูกับเขาด้วย?”

เหยียนยูเจินยิ้มตอบกลับไป “ขอรับ ศิษย์นั้นเดินทางออกไปครั้งนี้ได้เจอสหายที่ดีคนหนึ่งและเขาอยากจะร่วมทดสอบเข้าโถงวิญญาณนิพพาน ข้าจึงได้มาส่งเขาเข้าทดสอบ!”

ชีหยูพยักหน้ารับและคิดว่ามันมิใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

แต่เหยียนยูเจินนั้นกลับผิดหวังสุดหัวใจ

เขานั้นหวังว่าอาจารย์ของตัวนั้นจะสามารถมองได้ว่าร่างกายของเขามันมีอะไรผิดปกติ

แต่ดูท่าคงไม่!

ดูแล้ววิชาที่เย่หยวนใช้ออกมานั้นมันคงเหนือล้ำแม้แต่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ก็ยังไม่อาจจะมองมันออกได้

“สหายเจ้ามีนามว่าอะไร?” ชีหยูถามขึ้นพร้อมมองจอแสง

“เรื่องนั้น…คนที่รั้งท้ายนามว่าเย่หยวนคนนั้น” เหยียนยูเจินชี้มือขึ้นไป

ตอนนี้แต่ละจุดบนจอแสงนั้นมันจะมีนามเขียนติดไว้ด้วย

ชีหยูอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ชั้นนอกนั้นมันเป็นส่วนที่มีวิญญาณร้ายน้อยที่สุดแต่เขากลับยังหยุดอยู่แค่ที่ชั้นนอกหรือ ดูท่า…คงอยู่ได้ไม่ถึงสามวันเสียแล้วมั้ง?”

เหยียนยูเจินนั้นได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป เพราะเขาเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

ด้วยจิตเต๋าของเย่หยวนนั้นเขาควรจะผ่านมาได้อย่างรวดเร็วแต่นี่กลับไปหยุดอยู่ทางเข้าเสียอย่างนั้น

นี่มันหมายความว่าเขากำลังเจอปัญหา!

เรื่องของป่าสุวิมลนี้ยิ่งเข้าไปส่วนลึกมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งมีวิญญาณร้ายอันตรายมากขึ้นเท่านั้น พลังแห่งการหลอกลวงมันก็จะเพิ่มพูนขึ้น

“ฮ่าๆ อาจารย์ลุงชีหยู ไอ้เด็กนี่มันคนที่หาเรื่องสามบุตรเจาะชาดก่อนหน้านี้มิใช่หรือนี่ ข้าก็นึกว่ามันจะเก่งแค่ไหนที่แท้มันกลับไม่อาจจะผ่านชั้นนอกไปได้ด้วยซ้ำ ขยะเสียจริง! ฮ่าๆ ศิษย์น้องยูเจินนั้นมีฝีมือไม่น้อยแต่ว่าสายตาของเขานั้นช่างอ่อนหัดนัก กลับไปผูกมิตรกับขยะเช่นนี้เข้า สามบุตรเจาะชาดนั้นสมชื่อว่าเป็นศิษย์ของสามเจ้าโถงท่านจริงๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป…พวกเขาอาจจะทำลายสถิติลงก็ได้!”

คนที่พูดขึ้นมานั้นคือเจียงห่าวเขาเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสอีกคนและมีฝีมือสูสีกับเหยียนยูเจิน

ระหว่างคนทั้งสองนั้นมันมักจะมีแต่เรื่องให้แข่งกันเสมอๆ

ภาพก่อนหน้านั้นเขาเองก็เห็นมันกับตาเช่นกัน

เดิมทีเขานั้นคิดว่าเย่หยวนคงเก่งกาจไม่เบา เพราะเขาสามารถทนรับพลังงานเน่าของสามบุตรเจาะชาดได้

แต่ใครจะไปคิดว่าเขากลับอ่อนแอปานนี้

ได้เห็นเหยียนยูเจินทำหน้าเหยเกเช่นนั้นเขาย่อมจะไม่รอช้าซ้ำแผลทันที

ได้ยินเช่นนั้นชีหยูเองก็ต้องหันมามองตัวเหยียนยูเจินด้วยสีหน้าไม่พอใจเช่นกัน

‘ไปสร้างสหายบ้าบออะไรมา?’

นอกจากว่าจะอ่อนแอแล้วยังมีหน้าไปอวดดีอวดเก่งท้าทายสามศิษย์ของเจ้าโถงอีก นี่มันจะไม่เรียกว่าโง่ได้หรือ?

เพราะมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์อย่างเขานี้จะเสียหน้าไม่ได้!

ดูสภาพของสามบุตรเจาะชาดอีกครั้งในตอนนี้แล้วพวกเขาก็ค่อยๆ เข้าไปในป่าลึกถึงสิบกิโลเมตรแล้ว!

ป่าสุวิมลนั้นไม่ได้ใหญ่โตมีพื้นที่แค่ราวๆ สิบกิโลเมตร

แต่ยิ่งเข้าไปลึก มันก็จะยิ่งช้าลง

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+