Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว!

การทดสอบนั้นยังคงดำเนินต่อไป

โดยที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นก็ยังคงมุ่งหน้าออกมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

แน่นอนว่า ‘น่าเหลือเชื่อ’ นี่มันคือพูดตามมาตรฐานปกติ

คนทั้งหลายนั้นมองดูที่จุดแสงบนหน้าจอนั้นราวกับว่ากำลังตั้งใจดูความพยายามผ่านป่าสุวิมลของพวกเขา

แต่หันมามองเย่หยวนที่ยืนรออยู่นั้นความพยายามใดๆ นั้นมันก็ช่างน่าหัวเราะ

คนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องคาดเดาสีหน้าของพวกฉินซื่อเถียนหลังจากออกมาเห็น

จนในที่สุดมันก็ครบเวลาหกชั่วโมงและจุดแสงของฉินซื่อเถียนก็หายวับไปจากจอ!

“ฮ่าๆๆ… หกชั่วโมง! ข้าทำลายสถิติของป่าสุวิมลแล้ว! ข้าฉินซื่อเถียนนั้นคืออันดับหนึ่งแห่งโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบ!”

เมื่อเขาออกมาถึงเขาก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา

เพราะเขานั้นกำลังรู้สึกภาคภูมิอย่างมากล้นหัวใจ!

เอาชนะโจวหยูและเหอเฉิน ทำลายสถิติของป่าสุวิมล!

เขานั้นได้แต่ต้องคิดจินตนาการถึงคำชมมากมายจากปากอาจารย์

แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์!

มันช่างเป็นอะไรที่น่าภาคภูมินัก!

เพราะว่าก่อนหน้าที่จะมีการทดสอบครั้งนี้สถิติที่เร็วที่สุดของป่าสุวิมลนั้นคือหกชั่วโมงสิบห้านาที

แต่ตัวเขา ฉินซื่อเถียนคนนี้กลับสามารถทำลายสถิติไปได้ถึงสิบห้านาที!

นี่มันคือการทำลายสถิติอย่างยิ่งใหญ่

ความสำเร็จระดับนี้มันย่อมจะทำให้ทั้งโถงวิญญาณนิพพานแตกตื่นหากไม่มีเย่หยวน

ไม่นานนักพวกโจวหยูและเหอเฉินก็ตามออกจากป่ามาติดๆ ด้วยสีหน้าเหยเก

พวกเขาทั้งสองเองก็ทำลายสถิติลงได้เช่นกัน

เพียงแค่ว่าสุดท้ายพวกเขาก็ยังพ่ายให้แก่ฉินซื่อเถียน

ฉินซื่อเถียนหัวเราะลั่นขึ้นมา “พวกเจ้าทั้งสองอย่าได้ทำหน้าเช่นนั้นไป พ่ายให้ข้านั้นมันมิใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย! เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเจ้านั้นก็ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนได้!”

โจวหยูนั้นทำหน้าตาไม่เป็นมิตรตอบกลับไป “เจ้าจะทำเป็นวางท่าเพื่อ? เจ้ามันก็แค่โชคดีกว่าเราเท่านั้น! หากเราไม่ได้เจอวิญญาณเต๋าน่ารำคาญหลายตัวติดกันแล้วมีหรือที่จะแพ้พ่ายให้กับเจ้า?”

ฉินซื่อเถียนยิ้มเย้ยตอบกลับไป “แพ้ก็คือแพ้สิ จะหาข้อแก้ตัวเพื่อ? ป่าสุวิมลนั้นมันยุติธรรมที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะใช้มันเป็นหัวข้อทดสอบหรือ? ทำไม? แพ้แล้วไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้หรือ?”

โจวหยูนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้? เดี๋ยวอีกไม่นานเจ้านั่นแหละที่จะเป็นคนแพ้!”

“อ่าว แล้วเจ้าเด็กเวรนั่นไปไหนแล้ว?” เหอเฉินที่เงียบปากมาตลอดนั้นหันหลังกลับไปมองพร้อมกล่าวทักขึ้น

ฉินซื่อเถียนผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้น “ไอ้เด็กนั่นมันคงอยู่ห่างจากเราไปมากแล้วมั้ง? ฮ่าๆๆ แต่มันก็ไม่ธรรมดาจริงๆ คงไม่ถึงขั้นไม่ผ่านหรอก”

คนทั้งสามนั้นพูดคุยกันเสียงดังอย่างไม่กลัวใครได้ยินพร้อมเดินมาหาผู้ดูแลป่า

คนทั้งสามนั้นยิ้มกว้างเพราะว่าการทำลายสถิติจนไม่ได้สังเกตเลยว่าบรรยากาศรอบๆ มันแปลกประหลาดแค่ไหน

แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะไม่เห็นเย่หยวนตามหลังมา

ฉินซื่อเถียนก้มหัวลงคารวะมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ ศิษย์ไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังแล้ว ข้านั้นเอาอันดับหนึ่งมาพร้อมทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวน! ในที่สุดข้าก็ตอบความคาดหวังของท่านอาจารย์ได้!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “อืม เจ้า…เจ้าพยายามได้ดีมากแล้ว”

ฉินซื่อเถียนนั้นผงะไป

‘พ…พยายามได้ดีมาก?’

‘มันหมายความว่าอย่างไร?’

เวลาเช่นนี้อาจารย์ควรจะชมเขาด้วยรอยยิ้มมิใช่หรือ?

ทำไมมันกลับกลายเป็นคำพูดเหมือนปลอบใจ?

นี่มันไม่ถูกต้อง!

“อาจารย์…”

ฉินซื่อเถียนเงยหน้าขึ้นมา และเป็นเวลานั้นเองที่เขาได้เห็นเย่หยวนที่กำลังยืนมองเรื่องราวอยู่ข้างตัวเหยียนยูเจิน จนทำให้เขาต้องยืนนิ่งไป

มันออกมาตอนไหน? ดูอย่างไรเบื้องหน้าของพวกเขามันก็ไม่เคยมีใคร!

ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มมึนงงจนไม่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของฉินซื่อเถียน “ซื่อเถียน เจ้านั้นทำได้ดีมากแล้วจริงๆ แต่น่าเสียดายแค่…เจ้าไม่ได้ทำลายสถิติ! เพราะก่อนหน้าเจ้านั้นเย่หยวนได้สร้างสถิติใหม่ไว้แล้ว!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าผ่าลงกลางหัวพร้อมๆ กันต้องหันไปมองหน้าเย่หยวนอย่างตกตะลึง

จะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันเร็วกว่าพวกเขาทั้งสาม?

นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?

เขานั้นเป็นคนที่ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนลงถึงสิบห้านาที!

หรือจะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันออกมาได้ก่อนหกชั่วโมง?

“บ้าน่า! ไอ้เด็กนี่มันจะออกมาก่อนหกชั่วโมงได้อย่างไร?” ฉินซื่อเถียนร้องออกมา

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นไม่อยากจะทำร้ายศิษย์ของตัวเองไปมากกว่านี้แต่ความเป็นจริงมันช่างโหดร้าย!

“หกชั่วโมง? ฮ่าๆๆ หกชั่วโมงนั้นคงมากพอให้เย่หยวนมันไปกลับในป่าสุวิมลได้เป็นหมื่นๆ รอบแล้ว!” คนที่พูดขึ้นมานั้นคือมหาจักรพรรดิชีหยู

เพราะว่าเย่หยวนนั้นได้ปฏิเสธคำเชิญของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางไปก่อนหน้านี้แล้ว

มันชัดเจนมากว่าเย่หยวนนั้นคิดจะเข้าเป็นศิษย์ภายใต้การสั่งสอนของเขา

เพราะคนที่พาเย่หยวนมานั้นมันคือเหยียนยูเจิน!

ก่อนหน้านี้เขายังว่าเหยียนยูเจินไม่รู้เรื่องรู้ราวไปพาใครไม่รู้มาทำให้เขาต้องอับอาย

แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองมุมไหนเหยียนยูเจินก็ช่างน่าเอ็นดู

ได้ศิษย์ระดับนี้มามันย่อมจะถือเป็นบุญของอาจารย์ด้วย!

“เป็นหมื่นๆ! เหลว…มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกท่าน!”

คำว่า ‘เหลวไหล’ นั้นมันถูกกลืนลงคอฉินซื่อเถียน

เพราะจะอย่างไรชีหยูนั้นก็คือมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง จะไปลบหลู่มันคงไม่ดี

แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเช่นนั้นตัวชีหยูเองก็ทำหน้าตาดุร้ายขึ้นมา “เจ้าโถงเองก็อยู่ที่นี่เจ้าคิดว่าเจ้าคนนี้จะมาล้อเล่นกับเด็กน้อยอย่างเจ้า? หลังจากเย่หยวนเข้าป่าสุวิมลแล้วเขาก็ใช้เวลาแค่ห้าอึดใจเท่านั้นในการผ่านออกมา!”

“ห…ห้าอึดใจ?” พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันอย่างไม่อยากเชื่อหู

ฉินซื่อเถียนนั้นหันไปมองหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยางทันทีและอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับด้วยท่าทางหมดแรง “ใช่แล้ว มันแค่ห้าอึดใจจริงๆ! ข้านั้นตามเข้าไปดูกับตามาแล้ว”

ตูม!

ร่างของฉินซื่อเถียนนั้นระเบิดออกจากภายใน!

นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว

พวกเขาทั้งสามนั้นสังหารฆ่าเผ่าเลือดมากมายในสนามรบเจาะชาดกว่าที่จะได้จิตเต๋าที่หนักแน่นเช่นนี้ขึ้นมา

หกชั่วโมงนั้นมันคือสิ่งที่เป็นประวัติการณ์แล้ว

แต่มันกลับมีคนใช้แค่ห้าอึดใจ?

ฉินซื่อเถียนนั้นรู้สึกเหมือนว่าคนทั้งหลายรวมหัวกันล้อเล่นกับตน

แน่นอนว่าในการทดสอบนี้มันไม่ได้มียอดอัจฉริยะแค่พวกฉินซื่อเถียนสามคน

เพราะแท้จริงแล้วอัจฉริยะที่มาวันนี้มันก็มีไม่น้อย

ไม่นานมันก็มีคนตามหลังออกมา

เพียงแค่ว่าไม่ว่าจะเป็นใครที่ออกมาเมื่อได้ยินสถิติใหม่ห้าอึดใจนั้นพวกเขาก็ต้องลืมหายใจไป

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นต่างภาคภูมิว่าตัวเองนั้นได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างมาก

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นเริ่มจะสงสัยแล้วว่าชีวิตของตนนั้นมีค่าจริงหรือไม่

สามวันต่อมาการทดสอบของป่าสุวิมลมันก็จบลง

สุดท้ายแล้วมันก็มีคนที่ผ่านป่าสุวิมลมาได้สามร้อยเจ็ดสิบสองคน

และอีกกว่าสองร้อยคนได้ตายลงไปในป่าสุวิมล

คนที่ผ่านมานั้นต่างมารวมตัวกันที่ด่านทดสอบที่สอง เส้นทางคุมวิญญาณ

เดิมทีแล้วพวกมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมาเพื่อดูเรื่องราวเอาสนุกเล่นๆ

เพราะไม่ว่าอย่างไรการทดสอบเช่นนี้มันก็ไม่อาจจะถือเป็นเรื่องใหญ่ได้

แต่ตอนนี้เพราะการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวน…

มันได้ทำให้มหาจักรพรรดิทั้งหมดต้องมารวมตัวกันที่เส้นทางคุมวิญญาณ

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันถูกสร้างขึ้นระหว่างสองยอดเขาเป็นเส้นทางที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ด่านทดสอบเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันคือการทดสอบพลังป้องกัน

สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วนั้นพลังป้องกันคือทุกสิ่งอย่าง

เพราะหากเป็นเผ่าอื่นแล้วหลังจากเสียร่างเนื้อไปมันก็ไม่แน่ว่าจะตายลง เหมือนเหยียนยูเจินนั้น

แต่สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วหากเสียร่างวิญญาณไปแล้วมันย่อมจะเท่ากับการดับสูญ

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเข้าโถงวิญญาณนิพพานไปนั้นจึงต้องมีการทดสอบความถึกทนของร่างวิญญาณก่อน

นี่คือจุดที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นมั่นใจกว่าใครเพื่อน!

เพราะว่าพวกเขานั้นคือทหารหนุ่มจากสนามรบเจาะชาด!

พวกเขานั้นฝึกฝนร่างวิญญาณของตัวเองจนแข็งแรงเหมือนเหล็กกล้า!

หลายวันผ่านไปนี้คนทั้งสามก็เริ่มกลับมาตั้งสติกันได้แล้ว

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็คือทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน!

ฉินซื่อเถียนมองหน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ไอ้เด็กเวร ผ่านป่าสุวิมลมานั้นมันมิใช่เรื่องใหญ่อะไร!

เส้นทางคุมวิญญาณนี้ต่างหากคือการทดสอบฝีมือที่แท้จริง! ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่ายอดฝีมือนั้นคืออะไร!”

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว!

การทดสอบนั้นยังคงดำเนินต่อไป

โดยที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นก็ยังคงมุ่งหน้าออกมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

แน่นอนว่า ‘น่าเหลือเชื่อ’ นี่มันคือพูดตามมาตรฐานปกติ

คนทั้งหลายนั้นมองดูที่จุดแสงบนหน้าจอนั้นราวกับว่ากำลังตั้งใจดูความพยายามผ่านป่าสุวิมลของพวกเขา

แต่หันมามองเย่หยวนที่ยืนรออยู่นั้นความพยายามใดๆ นั้นมันก็ช่างน่าหัวเราะ

คนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องคาดเดาสีหน้าของพวกฉินซื่อเถียนหลังจากออกมาเห็น

จนในที่สุดมันก็ครบเวลาหกชั่วโมงและจุดแสงของฉินซื่อเถียนก็หายวับไปจากจอ!

“ฮ่าๆๆ… หกชั่วโมง! ข้าทำลายสถิติของป่าสุวิมลแล้ว! ข้าฉินซื่อเถียนนั้นคืออันดับหนึ่งแห่งโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบ!”

เมื่อเขาออกมาถึงเขาก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา

เพราะเขานั้นกำลังรู้สึกภาคภูมิอย่างมากล้นหัวใจ!

เอาชนะโจวหยูและเหอเฉิน ทำลายสถิติของป่าสุวิมล!

เขานั้นได้แต่ต้องคิดจินตนาการถึงคำชมมากมายจากปากอาจารย์

แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์!

มันช่างเป็นอะไรที่น่าภาคภูมินัก!

เพราะว่าก่อนหน้าที่จะมีการทดสอบครั้งนี้สถิติที่เร็วที่สุดของป่าสุวิมลนั้นคือหกชั่วโมงสิบห้านาที

แต่ตัวเขา ฉินซื่อเถียนคนนี้กลับสามารถทำลายสถิติไปได้ถึงสิบห้านาที!

นี่มันคือการทำลายสถิติอย่างยิ่งใหญ่

ความสำเร็จระดับนี้มันย่อมจะทำให้ทั้งโถงวิญญาณนิพพานแตกตื่นหากไม่มีเย่หยวน

ไม่นานนักพวกโจวหยูและเหอเฉินก็ตามออกจากป่ามาติดๆ ด้วยสีหน้าเหยเก

พวกเขาทั้งสองเองก็ทำลายสถิติลงได้เช่นกัน

เพียงแค่ว่าสุดท้ายพวกเขาก็ยังพ่ายให้แก่ฉินซื่อเถียน

ฉินซื่อเถียนหัวเราะลั่นขึ้นมา “พวกเจ้าทั้งสองอย่าได้ทำหน้าเช่นนั้นไป พ่ายให้ข้านั้นมันมิใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย! เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเจ้านั้นก็ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนได้!”

โจวหยูนั้นทำหน้าตาไม่เป็นมิตรตอบกลับไป “เจ้าจะทำเป็นวางท่าเพื่อ? เจ้ามันก็แค่โชคดีกว่าเราเท่านั้น! หากเราไม่ได้เจอวิญญาณเต๋าน่ารำคาญหลายตัวติดกันแล้วมีหรือที่จะแพ้พ่ายให้กับเจ้า?”

ฉินซื่อเถียนยิ้มเย้ยตอบกลับไป “แพ้ก็คือแพ้สิ จะหาข้อแก้ตัวเพื่อ? ป่าสุวิมลนั้นมันยุติธรรมที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะใช้มันเป็นหัวข้อทดสอบหรือ? ทำไม? แพ้แล้วไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้หรือ?”

โจวหยูนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้? เดี๋ยวอีกไม่นานเจ้านั่นแหละที่จะเป็นคนแพ้!”

“อ่าว แล้วเจ้าเด็กเวรนั่นไปไหนแล้ว?” เหอเฉินที่เงียบปากมาตลอดนั้นหันหลังกลับไปมองพร้อมกล่าวทักขึ้น

ฉินซื่อเถียนผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้น “ไอ้เด็กนั่นมันคงอยู่ห่างจากเราไปมากแล้วมั้ง? ฮ่าๆๆ แต่มันก็ไม่ธรรมดาจริงๆ คงไม่ถึงขั้นไม่ผ่านหรอก”

คนทั้งสามนั้นพูดคุยกันเสียงดังอย่างไม่กลัวใครได้ยินพร้อมเดินมาหาผู้ดูแลป่า

คนทั้งสามนั้นยิ้มกว้างเพราะว่าการทำลายสถิติจนไม่ได้สังเกตเลยว่าบรรยากาศรอบๆ มันแปลกประหลาดแค่ไหน

แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะไม่เห็นเย่หยวนตามหลังมา

ฉินซื่อเถียนก้มหัวลงคารวะมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ ศิษย์ไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังแล้ว ข้านั้นเอาอันดับหนึ่งมาพร้อมทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวน! ในที่สุดข้าก็ตอบความคาดหวังของท่านอาจารย์ได้!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “อืม เจ้า…เจ้าพยายามได้ดีมากแล้ว”

ฉินซื่อเถียนนั้นผงะไป

‘พ…พยายามได้ดีมาก?’

‘มันหมายความว่าอย่างไร?’

เวลาเช่นนี้อาจารย์ควรจะชมเขาด้วยรอยยิ้มมิใช่หรือ?

ทำไมมันกลับกลายเป็นคำพูดเหมือนปลอบใจ?

นี่มันไม่ถูกต้อง!

“อาจารย์…”

ฉินซื่อเถียนเงยหน้าขึ้นมา และเป็นเวลานั้นเองที่เขาได้เห็นเย่หยวนที่กำลังยืนมองเรื่องราวอยู่ข้างตัวเหยียนยูเจิน จนทำให้เขาต้องยืนนิ่งไป

มันออกมาตอนไหน? ดูอย่างไรเบื้องหน้าของพวกเขามันก็ไม่เคยมีใคร!

ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มมึนงงจนไม่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของฉินซื่อเถียน “ซื่อเถียน เจ้านั้นทำได้ดีมากแล้วจริงๆ แต่น่าเสียดายแค่…เจ้าไม่ได้ทำลายสถิติ! เพราะก่อนหน้าเจ้านั้นเย่หยวนได้สร้างสถิติใหม่ไว้แล้ว!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าผ่าลงกลางหัวพร้อมๆ กันต้องหันไปมองหน้าเย่หยวนอย่างตกตะลึง

จะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันเร็วกว่าพวกเขาทั้งสาม?

นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?

เขานั้นเป็นคนที่ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนลงถึงสิบห้านาที!

หรือจะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันออกมาได้ก่อนหกชั่วโมง?

“บ้าน่า! ไอ้เด็กนี่มันจะออกมาก่อนหกชั่วโมงได้อย่างไร?” ฉินซื่อเถียนร้องออกมา

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นไม่อยากจะทำร้ายศิษย์ของตัวเองไปมากกว่านี้แต่ความเป็นจริงมันช่างโหดร้าย!

“หกชั่วโมง? ฮ่าๆๆ หกชั่วโมงนั้นคงมากพอให้เย่หยวนมันไปกลับในป่าสุวิมลได้เป็นหมื่นๆ รอบแล้ว!” คนที่พูดขึ้นมานั้นคือมหาจักรพรรดิชีหยู

เพราะว่าเย่หยวนนั้นได้ปฏิเสธคำเชิญของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางไปก่อนหน้านี้แล้ว

มันชัดเจนมากว่าเย่หยวนนั้นคิดจะเข้าเป็นศิษย์ภายใต้การสั่งสอนของเขา

เพราะคนที่พาเย่หยวนมานั้นมันคือเหยียนยูเจิน!

ก่อนหน้านี้เขายังว่าเหยียนยูเจินไม่รู้เรื่องรู้ราวไปพาใครไม่รู้มาทำให้เขาต้องอับอาย

แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองมุมไหนเหยียนยูเจินก็ช่างน่าเอ็นดู

ได้ศิษย์ระดับนี้มามันย่อมจะถือเป็นบุญของอาจารย์ด้วย!

“เป็นหมื่นๆ! เหลว…มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกท่าน!”

คำว่า ‘เหลวไหล’ นั้นมันถูกกลืนลงคอฉินซื่อเถียน

เพราะจะอย่างไรชีหยูนั้นก็คือมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง จะไปลบหลู่มันคงไม่ดี

แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเช่นนั้นตัวชีหยูเองก็ทำหน้าตาดุร้ายขึ้นมา “เจ้าโถงเองก็อยู่ที่นี่เจ้าคิดว่าเจ้าคนนี้จะมาล้อเล่นกับเด็กน้อยอย่างเจ้า? หลังจากเย่หยวนเข้าป่าสุวิมลแล้วเขาก็ใช้เวลาแค่ห้าอึดใจเท่านั้นในการผ่านออกมา!”

“ห…ห้าอึดใจ?” พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันอย่างไม่อยากเชื่อหู

ฉินซื่อเถียนนั้นหันไปมองหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยางทันทีและอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับด้วยท่าทางหมดแรง “ใช่แล้ว มันแค่ห้าอึดใจจริงๆ! ข้านั้นตามเข้าไปดูกับตามาแล้ว”

ตูม!

ร่างของฉินซื่อเถียนนั้นระเบิดออกจากภายใน!

นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว

พวกเขาทั้งสามนั้นสังหารฆ่าเผ่าเลือดมากมายในสนามรบเจาะชาดกว่าที่จะได้จิตเต๋าที่หนักแน่นเช่นนี้ขึ้นมา

หกชั่วโมงนั้นมันคือสิ่งที่เป็นประวัติการณ์แล้ว

แต่มันกลับมีคนใช้แค่ห้าอึดใจ?

ฉินซื่อเถียนนั้นรู้สึกเหมือนว่าคนทั้งหลายรวมหัวกันล้อเล่นกับตน

แน่นอนว่าในการทดสอบนี้มันไม่ได้มียอดอัจฉริยะแค่พวกฉินซื่อเถียนสามคน

เพราะแท้จริงแล้วอัจฉริยะที่มาวันนี้มันก็มีไม่น้อย

ไม่นานมันก็มีคนตามหลังออกมา

เพียงแค่ว่าไม่ว่าจะเป็นใครที่ออกมาเมื่อได้ยินสถิติใหม่ห้าอึดใจนั้นพวกเขาก็ต้องลืมหายใจไป

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นต่างภาคภูมิว่าตัวเองนั้นได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างมาก

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นเริ่มจะสงสัยแล้วว่าชีวิตของตนนั้นมีค่าจริงหรือไม่

สามวันต่อมาการทดสอบของป่าสุวิมลมันก็จบลง

สุดท้ายแล้วมันก็มีคนที่ผ่านป่าสุวิมลมาได้สามร้อยเจ็ดสิบสองคน

และอีกกว่าสองร้อยคนได้ตายลงไปในป่าสุวิมล

คนที่ผ่านมานั้นต่างมารวมตัวกันที่ด่านทดสอบที่สอง เส้นทางคุมวิญญาณ

เดิมทีแล้วพวกมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมาเพื่อดูเรื่องราวเอาสนุกเล่นๆ

เพราะไม่ว่าอย่างไรการทดสอบเช่นนี้มันก็ไม่อาจจะถือเป็นเรื่องใหญ่ได้

แต่ตอนนี้เพราะการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวน…

มันได้ทำให้มหาจักรพรรดิทั้งหมดต้องมารวมตัวกันที่เส้นทางคุมวิญญาณ

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันถูกสร้างขึ้นระหว่างสองยอดเขาเป็นเส้นทางที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ด่านทดสอบเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันคือการทดสอบพลังป้องกัน

สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วนั้นพลังป้องกันคือทุกสิ่งอย่าง

เพราะหากเป็นเผ่าอื่นแล้วหลังจากเสียร่างเนื้อไปมันก็ไม่แน่ว่าจะตายลง เหมือนเหยียนยูเจินนั้น

แต่สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วหากเสียร่างวิญญาณไปแล้วมันย่อมจะเท่ากับการดับสูญ

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเข้าโถงวิญญาณนิพพานไปนั้นจึงต้องมีการทดสอบความถึกทนของร่างวิญญาณก่อน

นี่คือจุดที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นมั่นใจกว่าใครเพื่อน!

เพราะว่าพวกเขานั้นคือทหารหนุ่มจากสนามรบเจาะชาด!

พวกเขานั้นฝึกฝนร่างวิญญาณของตัวเองจนแข็งแรงเหมือนเหล็กกล้า!

หลายวันผ่านไปนี้คนทั้งสามก็เริ่มกลับมาตั้งสติกันได้แล้ว

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็คือทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน!

ฉินซื่อเถียนมองหน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ไอ้เด็กเวร ผ่านป่าสุวิมลมานั้นมันมิใช่เรื่องใหญ่อะไร!

เส้นทางคุมวิญญาณนี้ต่างหากคือการทดสอบฝีมือที่แท้จริง! ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่ายอดฝีมือนั้นคืออะไร!”

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว!

การทดสอบนั้นยังคงดำเนินต่อไป

โดยที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นก็ยังคงมุ่งหน้าออกมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

แน่นอนว่า ‘น่าเหลือเชื่อ’ นี่มันคือพูดตามมาตรฐานปกติ

คนทั้งหลายนั้นมองดูที่จุดแสงบนหน้าจอนั้นราวกับว่ากำลังตั้งใจดูความพยายามผ่านป่าสุวิมลของพวกเขา

แต่หันมามองเย่หยวนที่ยืนรออยู่นั้นความพยายามใดๆ นั้นมันก็ช่างน่าหัวเราะ

คนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องคาดเดาสีหน้าของพวกฉินซื่อเถียนหลังจากออกมาเห็น

จนในที่สุดมันก็ครบเวลาหกชั่วโมงและจุดแสงของฉินซื่อเถียนก็หายวับไปจากจอ!

“ฮ่าๆๆ… หกชั่วโมง! ข้าทำลายสถิติของป่าสุวิมลแล้ว! ข้าฉินซื่อเถียนนั้นคืออันดับหนึ่งแห่งโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบ!”

เมื่อเขาออกมาถึงเขาก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา

เพราะเขานั้นกำลังรู้สึกภาคภูมิอย่างมากล้นหัวใจ!

เอาชนะโจวหยูและเหอเฉิน ทำลายสถิติของป่าสุวิมล!

เขานั้นได้แต่ต้องคิดจินตนาการถึงคำชมมากมายจากปากอาจารย์

แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์!

มันช่างเป็นอะไรที่น่าภาคภูมินัก!

เพราะว่าก่อนหน้าที่จะมีการทดสอบครั้งนี้สถิติที่เร็วที่สุดของป่าสุวิมลนั้นคือหกชั่วโมงสิบห้านาที

แต่ตัวเขา ฉินซื่อเถียนคนนี้กลับสามารถทำลายสถิติไปได้ถึงสิบห้านาที!

นี่มันคือการทำลายสถิติอย่างยิ่งใหญ่

ความสำเร็จระดับนี้มันย่อมจะทำให้ทั้งโถงวิญญาณนิพพานแตกตื่นหากไม่มีเย่หยวน

ไม่นานนักพวกโจวหยูและเหอเฉินก็ตามออกจากป่ามาติดๆ ด้วยสีหน้าเหยเก

พวกเขาทั้งสองเองก็ทำลายสถิติลงได้เช่นกัน

เพียงแค่ว่าสุดท้ายพวกเขาก็ยังพ่ายให้แก่ฉินซื่อเถียน

ฉินซื่อเถียนหัวเราะลั่นขึ้นมา “พวกเจ้าทั้งสองอย่าได้ทำหน้าเช่นนั้นไป พ่ายให้ข้านั้นมันมิใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย! เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเจ้านั้นก็ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนได้!”

โจวหยูนั้นทำหน้าตาไม่เป็นมิตรตอบกลับไป “เจ้าจะทำเป็นวางท่าเพื่อ? เจ้ามันก็แค่โชคดีกว่าเราเท่านั้น! หากเราไม่ได้เจอวิญญาณเต๋าน่ารำคาญหลายตัวติดกันแล้วมีหรือที่จะแพ้พ่ายให้กับเจ้า?”

ฉินซื่อเถียนยิ้มเย้ยตอบกลับไป “แพ้ก็คือแพ้สิ จะหาข้อแก้ตัวเพื่อ? ป่าสุวิมลนั้นมันยุติธรรมที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะใช้มันเป็นหัวข้อทดสอบหรือ? ทำไม? แพ้แล้วไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้หรือ?”

โจวหยูนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้? เดี๋ยวอีกไม่นานเจ้านั่นแหละที่จะเป็นคนแพ้!”

“อ่าว แล้วเจ้าเด็กเวรนั่นไปไหนแล้ว?” เหอเฉินที่เงียบปากมาตลอดนั้นหันหลังกลับไปมองพร้อมกล่าวทักขึ้น

ฉินซื่อเถียนผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้น “ไอ้เด็กนั่นมันคงอยู่ห่างจากเราไปมากแล้วมั้ง? ฮ่าๆๆ แต่มันก็ไม่ธรรมดาจริงๆ คงไม่ถึงขั้นไม่ผ่านหรอก”

คนทั้งสามนั้นพูดคุยกันเสียงดังอย่างไม่กลัวใครได้ยินพร้อมเดินมาหาผู้ดูแลป่า

คนทั้งสามนั้นยิ้มกว้างเพราะว่าการทำลายสถิติจนไม่ได้สังเกตเลยว่าบรรยากาศรอบๆ มันแปลกประหลาดแค่ไหน

แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะไม่เห็นเย่หยวนตามหลังมา

ฉินซื่อเถียนก้มหัวลงคารวะมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ ศิษย์ไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังแล้ว ข้านั้นเอาอันดับหนึ่งมาพร้อมทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวน! ในที่สุดข้าก็ตอบความคาดหวังของท่านอาจารย์ได้!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “อืม เจ้า…เจ้าพยายามได้ดีมากแล้ว”

ฉินซื่อเถียนนั้นผงะไป

‘พ…พยายามได้ดีมาก?’

‘มันหมายความว่าอย่างไร?’

เวลาเช่นนี้อาจารย์ควรจะชมเขาด้วยรอยยิ้มมิใช่หรือ?

ทำไมมันกลับกลายเป็นคำพูดเหมือนปลอบใจ?

นี่มันไม่ถูกต้อง!

“อาจารย์…”

ฉินซื่อเถียนเงยหน้าขึ้นมา และเป็นเวลานั้นเองที่เขาได้เห็นเย่หยวนที่กำลังยืนมองเรื่องราวอยู่ข้างตัวเหยียนยูเจิน จนทำให้เขาต้องยืนนิ่งไป

มันออกมาตอนไหน? ดูอย่างไรเบื้องหน้าของพวกเขามันก็ไม่เคยมีใคร!

ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มมึนงงจนไม่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของฉินซื่อเถียน “ซื่อเถียน เจ้านั้นทำได้ดีมากแล้วจริงๆ แต่น่าเสียดายแค่…เจ้าไม่ได้ทำลายสถิติ! เพราะก่อนหน้าเจ้านั้นเย่หยวนได้สร้างสถิติใหม่ไว้แล้ว!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าผ่าลงกลางหัวพร้อมๆ กันต้องหันไปมองหน้าเย่หยวนอย่างตกตะลึง

จะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันเร็วกว่าพวกเขาทั้งสาม?

นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?

เขานั้นเป็นคนที่ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนลงถึงสิบห้านาที!

หรือจะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันออกมาได้ก่อนหกชั่วโมง?

“บ้าน่า! ไอ้เด็กนี่มันจะออกมาก่อนหกชั่วโมงได้อย่างไร?” ฉินซื่อเถียนร้องออกมา

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นไม่อยากจะทำร้ายศิษย์ของตัวเองไปมากกว่านี้แต่ความเป็นจริงมันช่างโหดร้าย!

“หกชั่วโมง? ฮ่าๆๆ หกชั่วโมงนั้นคงมากพอให้เย่หยวนมันไปกลับในป่าสุวิมลได้เป็นหมื่นๆ รอบแล้ว!” คนที่พูดขึ้นมานั้นคือมหาจักรพรรดิชีหยู

เพราะว่าเย่หยวนนั้นได้ปฏิเสธคำเชิญของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางไปก่อนหน้านี้แล้ว

มันชัดเจนมากว่าเย่หยวนนั้นคิดจะเข้าเป็นศิษย์ภายใต้การสั่งสอนของเขา

เพราะคนที่พาเย่หยวนมานั้นมันคือเหยียนยูเจิน!

ก่อนหน้านี้เขายังว่าเหยียนยูเจินไม่รู้เรื่องรู้ราวไปพาใครไม่รู้มาทำให้เขาต้องอับอาย

แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองมุมไหนเหยียนยูเจินก็ช่างน่าเอ็นดู

ได้ศิษย์ระดับนี้มามันย่อมจะถือเป็นบุญของอาจารย์ด้วย!

“เป็นหมื่นๆ! เหลว…มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกท่าน!”

คำว่า ‘เหลวไหล’ นั้นมันถูกกลืนลงคอฉินซื่อเถียน

เพราะจะอย่างไรชีหยูนั้นก็คือมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง จะไปลบหลู่มันคงไม่ดี

แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเช่นนั้นตัวชีหยูเองก็ทำหน้าตาดุร้ายขึ้นมา “เจ้าโถงเองก็อยู่ที่นี่เจ้าคิดว่าเจ้าคนนี้จะมาล้อเล่นกับเด็กน้อยอย่างเจ้า? หลังจากเย่หยวนเข้าป่าสุวิมลแล้วเขาก็ใช้เวลาแค่ห้าอึดใจเท่านั้นในการผ่านออกมา!”

“ห…ห้าอึดใจ?” พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันอย่างไม่อยากเชื่อหู

ฉินซื่อเถียนนั้นหันไปมองหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยางทันทีและอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับด้วยท่าทางหมดแรง “ใช่แล้ว มันแค่ห้าอึดใจจริงๆ! ข้านั้นตามเข้าไปดูกับตามาแล้ว”

ตูม!

ร่างของฉินซื่อเถียนนั้นระเบิดออกจากภายใน!

นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว

พวกเขาทั้งสามนั้นสังหารฆ่าเผ่าเลือดมากมายในสนามรบเจาะชาดกว่าที่จะได้จิตเต๋าที่หนักแน่นเช่นนี้ขึ้นมา

หกชั่วโมงนั้นมันคือสิ่งที่เป็นประวัติการณ์แล้ว

แต่มันกลับมีคนใช้แค่ห้าอึดใจ?

ฉินซื่อเถียนนั้นรู้สึกเหมือนว่าคนทั้งหลายรวมหัวกันล้อเล่นกับตน

แน่นอนว่าในการทดสอบนี้มันไม่ได้มียอดอัจฉริยะแค่พวกฉินซื่อเถียนสามคน

เพราะแท้จริงแล้วอัจฉริยะที่มาวันนี้มันก็มีไม่น้อย

ไม่นานมันก็มีคนตามหลังออกมา

เพียงแค่ว่าไม่ว่าจะเป็นใครที่ออกมาเมื่อได้ยินสถิติใหม่ห้าอึดใจนั้นพวกเขาก็ต้องลืมหายใจไป

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นต่างภาคภูมิว่าตัวเองนั้นได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างมาก

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นเริ่มจะสงสัยแล้วว่าชีวิตของตนนั้นมีค่าจริงหรือไม่

สามวันต่อมาการทดสอบของป่าสุวิมลมันก็จบลง

สุดท้ายแล้วมันก็มีคนที่ผ่านป่าสุวิมลมาได้สามร้อยเจ็ดสิบสองคน

และอีกกว่าสองร้อยคนได้ตายลงไปในป่าสุวิมล

คนที่ผ่านมานั้นต่างมารวมตัวกันที่ด่านทดสอบที่สอง เส้นทางคุมวิญญาณ

เดิมทีแล้วพวกมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมาเพื่อดูเรื่องราวเอาสนุกเล่นๆ

เพราะไม่ว่าอย่างไรการทดสอบเช่นนี้มันก็ไม่อาจจะถือเป็นเรื่องใหญ่ได้

แต่ตอนนี้เพราะการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวน…

มันได้ทำให้มหาจักรพรรดิทั้งหมดต้องมารวมตัวกันที่เส้นทางคุมวิญญาณ

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันถูกสร้างขึ้นระหว่างสองยอดเขาเป็นเส้นทางที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ด่านทดสอบเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันคือการทดสอบพลังป้องกัน

สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วนั้นพลังป้องกันคือทุกสิ่งอย่าง

เพราะหากเป็นเผ่าอื่นแล้วหลังจากเสียร่างเนื้อไปมันก็ไม่แน่ว่าจะตายลง เหมือนเหยียนยูเจินนั้น

แต่สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วหากเสียร่างวิญญาณไปแล้วมันย่อมจะเท่ากับการดับสูญ

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเข้าโถงวิญญาณนิพพานไปนั้นจึงต้องมีการทดสอบความถึกทนของร่างวิญญาณก่อน

นี่คือจุดที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นมั่นใจกว่าใครเพื่อน!

เพราะว่าพวกเขานั้นคือทหารหนุ่มจากสนามรบเจาะชาด!

พวกเขานั้นฝึกฝนร่างวิญญาณของตัวเองจนแข็งแรงเหมือนเหล็กกล้า!

หลายวันผ่านไปนี้คนทั้งสามก็เริ่มกลับมาตั้งสติกันได้แล้ว

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็คือทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน!

ฉินซื่อเถียนมองหน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ไอ้เด็กเวร ผ่านป่าสุวิมลมานั้นมันมิใช่เรื่องใหญ่อะไร!

เส้นทางคุมวิญญาณนี้ต่างหากคือการทดสอบฝีมือที่แท้จริง! ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่ายอดฝีมือนั้นคืออะไร!”

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2921 พยายามได้ดีมากแล้ว!

การทดสอบนั้นยังคงดำเนินต่อไป

โดยที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นก็ยังคงมุ่งหน้าออกมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

แน่นอนว่า ‘น่าเหลือเชื่อ’ นี่มันคือพูดตามมาตรฐานปกติ

คนทั้งหลายนั้นมองดูที่จุดแสงบนหน้าจอนั้นราวกับว่ากำลังตั้งใจดูความพยายามผ่านป่าสุวิมลของพวกเขา

แต่หันมามองเย่หยวนที่ยืนรออยู่นั้นความพยายามใดๆ นั้นมันก็ช่างน่าหัวเราะ

คนทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องคาดเดาสีหน้าของพวกฉินซื่อเถียนหลังจากออกมาเห็น

จนในที่สุดมันก็ครบเวลาหกชั่วโมงและจุดแสงของฉินซื่อเถียนก็หายวับไปจากจอ!

“ฮ่าๆๆ… หกชั่วโมง! ข้าทำลายสถิติของป่าสุวิมลแล้ว! ข้าฉินซื่อเถียนนั้นคืออันดับหนึ่งแห่งโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบ!”

เมื่อเขาออกมาถึงเขาก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา

เพราะเขานั้นกำลังรู้สึกภาคภูมิอย่างมากล้นหัวใจ!

เอาชนะโจวหยูและเหอเฉิน ทำลายสถิติของป่าสุวิมล!

เขานั้นได้แต่ต้องคิดจินตนาการถึงคำชมมากมายจากปากอาจารย์

แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์!

มันช่างเป็นอะไรที่น่าภาคภูมินัก!

เพราะว่าก่อนหน้าที่จะมีการทดสอบครั้งนี้สถิติที่เร็วที่สุดของป่าสุวิมลนั้นคือหกชั่วโมงสิบห้านาที

แต่ตัวเขา ฉินซื่อเถียนคนนี้กลับสามารถทำลายสถิติไปได้ถึงสิบห้านาที!

นี่มันคือการทำลายสถิติอย่างยิ่งใหญ่

ความสำเร็จระดับนี้มันย่อมจะทำให้ทั้งโถงวิญญาณนิพพานแตกตื่นหากไม่มีเย่หยวน

ไม่นานนักพวกโจวหยูและเหอเฉินก็ตามออกจากป่ามาติดๆ ด้วยสีหน้าเหยเก

พวกเขาทั้งสองเองก็ทำลายสถิติลงได้เช่นกัน

เพียงแค่ว่าสุดท้ายพวกเขาก็ยังพ่ายให้แก่ฉินซื่อเถียน

ฉินซื่อเถียนหัวเราะลั่นขึ้นมา “พวกเจ้าทั้งสองอย่าได้ทำหน้าเช่นนั้นไป พ่ายให้ข้านั้นมันมิใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย! เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเจ้านั้นก็ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนได้!”

โจวหยูนั้นทำหน้าตาไม่เป็นมิตรตอบกลับไป “เจ้าจะทำเป็นวางท่าเพื่อ? เจ้ามันก็แค่โชคดีกว่าเราเท่านั้น! หากเราไม่ได้เจอวิญญาณเต๋าน่ารำคาญหลายตัวติดกันแล้วมีหรือที่จะแพ้พ่ายให้กับเจ้า?”

ฉินซื่อเถียนยิ้มเย้ยตอบกลับไป “แพ้ก็คือแพ้สิ จะหาข้อแก้ตัวเพื่อ? ป่าสุวิมลนั้นมันยุติธรรมที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะใช้มันเป็นหัวข้อทดสอบหรือ? ทำไม? แพ้แล้วไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้หรือ?”

โจวหยูนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ไม่รู้จักยอมรับความพ่ายแพ้? เดี๋ยวอีกไม่นานเจ้านั่นแหละที่จะเป็นคนแพ้!”

“อ่าว แล้วเจ้าเด็กเวรนั่นไปไหนแล้ว?” เหอเฉินที่เงียบปากมาตลอดนั้นหันหลังกลับไปมองพร้อมกล่าวทักขึ้น

ฉินซื่อเถียนผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้น “ไอ้เด็กนั่นมันคงอยู่ห่างจากเราไปมากแล้วมั้ง? ฮ่าๆๆ แต่มันก็ไม่ธรรมดาจริงๆ คงไม่ถึงขั้นไม่ผ่านหรอก”

คนทั้งสามนั้นพูดคุยกันเสียงดังอย่างไม่กลัวใครได้ยินพร้อมเดินมาหาผู้ดูแลป่า

คนทั้งสามนั้นยิ้มกว้างเพราะว่าการทำลายสถิติจนไม่ได้สังเกตเลยว่าบรรยากาศรอบๆ มันแปลกประหลาดแค่ไหน

แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะไม่เห็นเย่หยวนตามหลังมา

ฉินซื่อเถียนก้มหัวลงคารวะมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ ศิษย์ไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังแล้ว ข้านั้นเอาอันดับหนึ่งมาพร้อมทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวน! ในที่สุดข้าก็ตอบความคาดหวังของท่านอาจารย์ได้!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นทำหน้าเหยเกตอบกลับไป “อืม เจ้า…เจ้าพยายามได้ดีมากแล้ว”

ฉินซื่อเถียนนั้นผงะไป

‘พ…พยายามได้ดีมาก?’

‘มันหมายความว่าอย่างไร?’

เวลาเช่นนี้อาจารย์ควรจะชมเขาด้วยรอยยิ้มมิใช่หรือ?

ทำไมมันกลับกลายเป็นคำพูดเหมือนปลอบใจ?

นี่มันไม่ถูกต้อง!

“อาจารย์…”

ฉินซื่อเถียนเงยหน้าขึ้นมา และเป็นเวลานั้นเองที่เขาได้เห็นเย่หยวนที่กำลังยืนมองเรื่องราวอยู่ข้างตัวเหยียนยูเจิน จนทำให้เขาต้องยืนนิ่งไป

มันออกมาตอนไหน? ดูอย่างไรเบื้องหน้าของพวกเขามันก็ไม่เคยมีใคร!

ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มมึนงงจนไม่อาจจะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าได้

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของฉินซื่อเถียน “ซื่อเถียน เจ้านั้นทำได้ดีมากแล้วจริงๆ แต่น่าเสียดายแค่…เจ้าไม่ได้ทำลายสถิติ! เพราะก่อนหน้าเจ้านั้นเย่หยวนได้สร้างสถิติใหม่ไว้แล้ว!”

พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าผ่าลงกลางหัวพร้อมๆ กันต้องหันไปมองหน้าเย่หยวนอย่างตกตะลึง

จะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันเร็วกว่าพวกเขาทั้งสาม?

นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน?

เขานั้นเป็นคนที่ทำลายสถิติของศิษย์พี่จิ่วหยวนลงถึงสิบห้านาที!

หรือจะบอกว่าเจ้าเด็กนี่มันออกมาได้ก่อนหกชั่วโมง?

“บ้าน่า! ไอ้เด็กนี่มันจะออกมาก่อนหกชั่วโมงได้อย่างไร?” ฉินซื่อเถียนร้องออกมา

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นไม่อยากจะทำร้ายศิษย์ของตัวเองไปมากกว่านี้แต่ความเป็นจริงมันช่างโหดร้าย!

“หกชั่วโมง? ฮ่าๆๆ หกชั่วโมงนั้นคงมากพอให้เย่หยวนมันไปกลับในป่าสุวิมลได้เป็นหมื่นๆ รอบแล้ว!” คนที่พูดขึ้นมานั้นคือมหาจักรพรรดิชีหยู

เพราะว่าเย่หยวนนั้นได้ปฏิเสธคำเชิญของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางไปก่อนหน้านี้แล้ว

มันชัดเจนมากว่าเย่หยวนนั้นคิดจะเข้าเป็นศิษย์ภายใต้การสั่งสอนของเขา

เพราะคนที่พาเย่หยวนมานั้นมันคือเหยียนยูเจิน!

ก่อนหน้านี้เขายังว่าเหยียนยูเจินไม่รู้เรื่องรู้ราวไปพาใครไม่รู้มาทำให้เขาต้องอับอาย

แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองมุมไหนเหยียนยูเจินก็ช่างน่าเอ็นดู

ได้ศิษย์ระดับนี้มามันย่อมจะถือเป็นบุญของอาจารย์ด้วย!

“เป็นหมื่นๆ! เหลว…มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกท่าน!”

คำว่า ‘เหลวไหล’ นั้นมันถูกกลืนลงคอฉินซื่อเถียน

เพราะจะอย่างไรชีหยูนั้นก็คือมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง จะไปลบหลู่มันคงไม่ดี

แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเช่นนั้นตัวชีหยูเองก็ทำหน้าตาดุร้ายขึ้นมา “เจ้าโถงเองก็อยู่ที่นี่เจ้าคิดว่าเจ้าคนนี้จะมาล้อเล่นกับเด็กน้อยอย่างเจ้า? หลังจากเย่หยวนเข้าป่าสุวิมลแล้วเขาก็ใช้เวลาแค่ห้าอึดใจเท่านั้นในการผ่านออกมา!”

“ห…ห้าอึดใจ?” พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นร้องขึ้นมาพร้อมๆ กันอย่างไม่อยากเชื่อหู

ฉินซื่อเถียนนั้นหันไปมองหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยางทันทีและอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับด้วยท่าทางหมดแรง “ใช่แล้ว มันแค่ห้าอึดใจจริงๆ! ข้านั้นตามเข้าไปดูกับตามาแล้ว”

ตูม!

ร่างของฉินซื่อเถียนนั้นระเบิดออกจากภายใน!

นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว

พวกเขาทั้งสามนั้นสังหารฆ่าเผ่าเลือดมากมายในสนามรบเจาะชาดกว่าที่จะได้จิตเต๋าที่หนักแน่นเช่นนี้ขึ้นมา

หกชั่วโมงนั้นมันคือสิ่งที่เป็นประวัติการณ์แล้ว

แต่มันกลับมีคนใช้แค่ห้าอึดใจ?

ฉินซื่อเถียนนั้นรู้สึกเหมือนว่าคนทั้งหลายรวมหัวกันล้อเล่นกับตน

แน่นอนว่าในการทดสอบนี้มันไม่ได้มียอดอัจฉริยะแค่พวกฉินซื่อเถียนสามคน

เพราะแท้จริงแล้วอัจฉริยะที่มาวันนี้มันก็มีไม่น้อย

ไม่นานมันก็มีคนตามหลังออกมา

เพียงแค่ว่าไม่ว่าจะเป็นใครที่ออกมาเมื่อได้ยินสถิติใหม่ห้าอึดใจนั้นพวกเขาก็ต้องลืมหายใจไป

เดิมทีแล้วพวกเขานั้นต่างภาคภูมิว่าตัวเองนั้นได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างมาก

แต่ตอนนี้พวกเขานั้นเริ่มจะสงสัยแล้วว่าชีวิตของตนนั้นมีค่าจริงหรือไม่

สามวันต่อมาการทดสอบของป่าสุวิมลมันก็จบลง

สุดท้ายแล้วมันก็มีคนที่ผ่านป่าสุวิมลมาได้สามร้อยเจ็ดสิบสองคน

และอีกกว่าสองร้อยคนได้ตายลงไปในป่าสุวิมล

คนที่ผ่านมานั้นต่างมารวมตัวกันที่ด่านทดสอบที่สอง เส้นทางคุมวิญญาณ

เดิมทีแล้วพวกมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมาเพื่อดูเรื่องราวเอาสนุกเล่นๆ

เพราะไม่ว่าอย่างไรการทดสอบเช่นนี้มันก็ไม่อาจจะถือเป็นเรื่องใหญ่ได้

แต่ตอนนี้เพราะการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวน…

มันได้ทำให้มหาจักรพรรดิทั้งหมดต้องมารวมตัวกันที่เส้นทางคุมวิญญาณ

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันถูกสร้างขึ้นระหว่างสองยอดเขาเป็นเส้นทางที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ด่านทดสอบเส้นทางคุมวิญญาณนี้มันคือการทดสอบพลังป้องกัน

สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วนั้นพลังป้องกันคือทุกสิ่งอย่าง

เพราะหากเป็นเผ่าอื่นแล้วหลังจากเสียร่างเนื้อไปมันก็ไม่แน่ว่าจะตายลง เหมือนเหยียนยูเจินนั้น

แต่สำหรับเผ่าวิญญาณแล้วหากเสียร่างวิญญาณไปแล้วมันย่อมจะเท่ากับการดับสูญ

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเข้าโถงวิญญาณนิพพานไปนั้นจึงต้องมีการทดสอบความถึกทนของร่างวิญญาณก่อน

นี่คือจุดที่พวกฉินซื่อเถียนทั้งสามนั้นมั่นใจกว่าใครเพื่อน!

เพราะว่าพวกเขานั้นคือทหารหนุ่มจากสนามรบเจาะชาด!

พวกเขานั้นฝึกฝนร่างวิญญาณของตัวเองจนแข็งแรงเหมือนเหล็กกล้า!

หลายวันผ่านไปนี้คนทั้งสามก็เริ่มกลับมาตั้งสติกันได้แล้ว

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็คือทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน!

ฉินซื่อเถียนมองหน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้น “ไอ้เด็กเวร ผ่านป่าสุวิมลมานั้นมันมิใช่เรื่องใหญ่อะไร!

เส้นทางคุมวิญญาณนี้ต่างหากคือการทดสอบฝีมือที่แท้จริง! ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่ายอดฝีมือนั้นคืออะไร!”

——————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+