Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย
“ผ…ผ่านด่านแล้ว!”

มันไม่มีเสียงแตกตื่นฮือฮาใดๆ ในตอนนี้มีเพียงแค่ความเงียบงัน

เพราะจนตอนนี้หลายๆ คนก็ยังไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้า

โถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบนั้นไม่เคยจะมีใครผ่านด่านนี้มาได้

แต่วันนี้มันมีคนผ่านแล้ว!

ไม่มีใครคิดว่าเต๋าอย่างเย่หยวนนั้นกลับจะสร้างตำนานขึ้นมาในที่สุด!

ผ่านด่าน!

“นี่มันผ่านด่านจริงๆ! เขา…ทำได้อย่างไรกัน?”

“ยังมีหน้ามาบอกว่าเผลอ…เจ้าบ้านี่มันจะถ่อมตัวไม่เป็นเลยหรือ!”

“ก่อนหน้านี้ข้ายังคิดว่าฉินซื่อเถียนนั้นเก่งกาจมากแล้ว แต่เทียบกับเย่หยวนแล้วเขาเป็นได้เพียงแค่เศษดิน!”

“ได้เห็นคนผ่านด่านกับตาเช่นนี้ชีวิตข้าไม่เสียเปล่าแล้ว!”

จู่ๆ คนทั้งหลายก็เริ่มได้สติและโห่ร้องขึ้นมา!

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันไม่เคยมีใครผ่านมาได้ก่อนเลย!

บ้างนั้นตื่นเต้นจนน้ำตาไหลออกมา

ได้เห็นปาฏิหาริย์กับตาเช่นนี้มันย่อมจะนับว่าเป็นเกียรติอย่างมาก

เรื่องเช่นนี้เอาไปโม้ได้อีกเป็นหมื่นปี

ความอับอายใดๆ ก่อนหน้ามันได้จางหายไปจากใจของคนสิ้น

มันยังมีอะไรให้ต้องอายอีก?

ผู้เข้าทดสอบหลายคนนั้นยึดถือเย่หยวนเป็นดั่งเทพก้มกราบเขาไปแล้ว

คนเรานั้นเป็นเช่นนี้ ใครที่เก่งกาจกว่าเล็กน้อยนั้นมันย่อมจะทำให้ผู้คนเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมาได้

แต่หากเมื่อเก่งกาจกว่ามากล้ำจนเกินไปแล้ว ความอิจฉาริษยาใดๆ มันก็จะเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง

ความรู้สึกเดียวที่เหลือคือชื่นชม!

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมองดูเย่หยวนและหันมามองดูหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกับถอนหายใจ

เมื่ออีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงสายตานั้นเขาก็แทบอยากจะตายลงไปให้สิ้นเสียตรงนี้

ยิ่งเมื่อสักครู่นั้นเขายิ่งใหญ่แค่ไหน ตอนนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาอับอายมากเท่านั้น

ความภาคภูมิของเขานั้นมันเป็นได้แค่หินให้เย่หยวนเหยียบ

สำหรับยอดอัจฉริยะแล้วมันไม่มีอะไรจะน่าอายไปกว่านี้

“ซีเฉิน หากข้าจำไม่ผิดช่วงสามหมื่นปีที่ผ่านมานั้นมันคงมีแต่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านที่ผ่านด่านนี้ได้ใช่หรือไม่?” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถามขึ้นมา

มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินตอบกลับมาด้วยท่าทางตกตะลึงเช่นกัน “ใช่แล้ว! ที่โถงวิญญาณนิพพานรบวารีกลายเป็นหนึ่งในสิบโถงวิญญาณนิพพานที่ใหญ่ที่สุดก็เพราะว่าเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน! ไม่คิดเลยว่าเราเองจะมีโอกาสนี้ด้วย!”

แต่มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นกลับถอนหายใจยาวออกมา “น่าเสียดายที่เขานั้นสุดท้ายก็แค่เก้ารูป เทียบกับเจ้าโลกฟู่เทียนท่านแล้วมันยังอ่อนแอกว่ามาก!”

ซีเฉินกล่าวขึ้นต่อ “ก็จริง ตอนที่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านผ่านเส้นทางคุมวิญญาณในตอนนั้นท่านได้พัฒนาร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นมาพร้อมสิบรูป! จากนั้นท่านก็ใช้พลังของร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชนั้นผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดกลายเป็นเจ้าโลกในที่สุด! เย่หยวนนั้นจะอย่างไรก็อ่อนแอกว่าท่านไปไม่น้อย!”

“ความแตกต่างแค่ปลายเส้นผมมันอาจจะสร้างช่องว่างนับหมื่นกิโลเมตรได้! ต่อให้จะเป็นเก้ารูปแต่คิดอยากขึ้นเจ้าโลกมันคงไม่ง่ายดายแล้ว!” ซีเฉินกล่าวขึ้นมาอย่างเสียดาย

หากไม่ถึงเจ้าโลกแล้วผลสุดท้ายมันก็คงจบแค่ที่ระดับพวกเขา

เพราะต่อให้จะเก่งกาจกว่าพวกเขาไปมาก แต่สุดท้ายมันก็จะยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิล้ำในที่สุด

มิได้กลายเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง

มีเพียงแค่การบรรลุเจ้าโลกเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็นการผงาดขึ้นอย่างแท้จริง

มันเป็นการก้าวสู่สวรรค์ด้วยย่างก้าวเดียว!

เพราะฉะนั้นต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหน…ในท้ายสุดแล้วมหาจักรพรรดิตงหยางก็ต้องเสียดายสุดใจขึ้นมา

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องผงะไป

ที่แท้มันกลับยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย!

ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มกลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง

มันยังมีด่านที่สามอยู่มิใช่หรือ?

เย่หยวนทำได้ เขาก็ย่อมจะทำได้เช่นกัน!

‘ใครกำหนดเล่าว่าข้า ฉินซื่อเถียนคนนี้จะไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้?’

บนสนามรบเจาะชาดนั้นเขาเองก็ผ่านจังหวะเฉียดตายมามาก

กี่ครั้งแล้วที่เขารอดกลับมาจากนรก กี่ครั้งแล้วที่เขาพลิกสถานการณ์กลับอย่างไม่หวาดหวั่น?

ครั้งนี้เองก็เช่นกัน!

ฉินซื่อเถียนนั้นจะขอสู้สุดชีวิต!

คิดมาถึงตรงนี้ฉินซื่อเถียนก็คุกเข่าลงต่อหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ท่าน รอบที่สามนี้ศิษย์จะพลิกสถานการณ์กู้หน้ากลับมาให้ได้!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นเห็นได้ถึงความมุ่งมั่นใจสายตาของฉินซื่อเถียน

นี่มันคือความหนักแน่นที่เกิดขึ้นจากสนามรบเจาะชาด

ฉินซื่อเถียนนั้นจะไม่ยอมแพ้ให้เย่หยวนง่ายๆ!

กลับกันยิ่งเย่หยวนเก่งกาจเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ตัวฉินซื่อเถียนมีแรงสู้มากเท่านั้น!

มุมปากของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางยิ้มขึ้นมา “ดี อาจารย์คาดหวังกับเจ้าไว้มาก! บางทีการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนี้มันอาจจะเป็นเรื่องดีกับเจ้าก็ได้!”

ฉินซื่อเถียนสั่นสะท้านไปทั้งกายเพราะเขานั้นเข้าใจถึงความหมายของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางได้ดี

หลายปีที่ผ่านมานั้นเขาหลงตัวเองมากขึ้นทุกวัน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดสอบนี้ที่ขาของเขาแทบจะไม่ติดพื้น

คิดว่าตัวเองผ่านไปถึงสุดระดับหกแล้วจะเหนือล้ำฟ้าดิน!

แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนนั้นได้ทำให้เขามีสติขึ้นมา!

จิตใจที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้านี้ทำให้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางมั่นใจว่าฉินซื่อเถียน อาจจะไปได้ไกลกว่าเย่หยวน!

เพราะจะอย่างไรเสียตอนนี้พวกเขาก็เป็นแค่จักรพรรดิเที่ยง มันยังมีช่องว่างให้พัฒนาอีกมากล้น!

ในเวลานี้เย่หยวนได้ลอยตัวกลับลงมาพร้อมด้วยสายตาผู้คนมากมายที่จับจ้อง

แต่พวกเขาทั้งหลายก็รู้ดีว่าศึกระหว่างเย่หยวนและฉินซื่อเถียนนั้นมันยังไม่จบลง

การต่อสู้นี้มันจะตัดสินอนาคตของคนทั้งสอง!

ได้เห็นสายตาคาดหวังของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นคนอื่นๆ ก็ย่อมจะรู้ได้ดีว่ามันยังไม่จบง่ายๆ

สายตาของเจ้าโถงนั้นมันเฉียบคม

แน่นอนว่าเขาย่อมจะเห็นอะไรในตัวฉินซื่อเถียนถึงได้เลือกเขามาจากสามบุตรเจาะชาด

เย่หยวนนั้นไม่คิดอวดตัวโม้ใดๆ เพราะเขานั้นบ่มเพาะกำเนิดเทพ

หากเส้นทางคุมวิญญาณแค่นี้ยังผ่านไม่ได้แล้ว เขาก็คงต้องเอาหัวไปโขกเต้าหู้ตายแล้ว

ระหว่างตัวเขาและฉินซื่อเถียนนั้นมันไม่อาจจะเทียบกันได้เลย เขาจึงไม่ได้มองว่าอีกฝ่ายเป็นคู่ปรับใดๆ

แต่ว่าฉินซื่อเถียนไม่คิดเช่นนั้น

เขานั้นได้มองเย่หยวนเป็นคู่ปรับไปแล้ว

ได้เห็นเย่หยวนลอยตัวลงมานั้นฉินซื่อเถียนก็ต้องกล่าวขึ้นทันที “เย่หยวน เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! ชัยชนะจะเป็นของใครมันยังไม่แน่หรอก! ด่านที่สามนั้นมันคือเตาหลอมวิญญาณ ที่นี่คือศึกตัดสินของเรา! ครั้งนี้ข้าจะเอาชนะเจ้าลงให้ได้! เจ้านั้นจะกลายเป็นแค่ก้อนหินให้ข้าเหยียบขึ้นไปสู่อาณาจักรเจ้าโลก!”

เย่หยวนได้แต่ต้องผงะเมื่อได้ยินเช่นนั้น ‘ข้าผ่านด่านมาก็ไม่ได้โอ้อวดใดๆ ทำไมเป็นเจ้าที่มาอวดโม้แทนเล่า?’

‘ใครจะไปอยากตัดสินแพ้ชนะกับเจ้า?’

‘ตั้งแต่เริ่มมานั้นมันมีแต่เจ้าเองที่หาเรื่องใส่ตัวมิใช่หรือ?’

“อ่า เจ้าโลก? เป้าหมายใหญ่นี่! พยายามเข้าล่ะ!” เย่หยวนตอบกลับไป

ฉินซื่อเถียนนั้นแทบต้องสำลักออกมาเมื่อได้ยิน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเอาหมัดไปต่อยเมฆ

หากเย่หยวนต่อล้อต่อเถียงกลับมาเขาก็คงจะยิ่งไฟลุก

แต่นี่มันเรื่องบ้าอะไร?

เตาหลอมวิญญาณนั้นมันคือสมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังอย่างมาก!

แน่นอนว่าเตาหลอมวิญญาณจริงๆ นั้นมันย่อมจะไม่ได้อยู่ในโถงวิญญาณนิพพาน

สิ่งนี่เป็นแค่ภาพที่ฉายขึ้นมาจากของจริงเท่านั้น

ในด่านที่สามนั้นคือเตาหลอมวิญญาณ

ซึ่งชาววิญญาณที่เข้าไปภายในจะได้รับการตีหลอมจากไฟเจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้าเต๋าไฟ!

เต๋าไฟทั้งสี่สิบเก้าแบบนั้นมันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!

หากคนผู้นั้นสามารถผ่านเต๋าไฟไปได้เจ็ดอย่างแล้วมันก็จะถือว่าผ่านการทดสอบไป

ครั้งนี้เองก็เหมือนๆ กับการทดสอบด่านก่อน มันเป็นการทดสอบที่สามารถพัฒนาตัวเองได้มากมายเช่นกัน

การตีหลอมจากเต๋าไฟนั้นมันเป็นอะไรที่อันตรายต่อร่างวิญญาณมาก

แต่ว่าเทพแท้ไม่กลัวไฟ การตีหลอมและคืนชีพขึ้นมาในเต๋าไฟนั้นมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของรอบนี้

บางคนนั้นเข้าเตาหลอมไปแล้วและร่างกายของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

พร้อมกับลุกผงาดขึ้นจากเถ้ากลายเป็นยอดคนในที่สุด

หลังจากด่านทดสอบทั้งสองนั้นตอนนี้คนที่ยังมีสิทธิ์ทดสอบด่านสามมันเหลือเพียงแค่เก้าสิบเจ็ดคนแล้ว!

หลังจากผ่านด่านสามนี้ไปมันก็จะถือว่าพวกเขาได้เข้าเป็นศิษย์โถงวิญญาณนิพพานจริงๆ

แต่ว่าด่านสามนี้เองมันคือจุดที่อันตรายที่สุด

เพราะว่ามันไม่มีการถอนตัวในด่านนี้!

คนที่เข้าไปแล้วจะต้องรับเจ็ดเต๋าไฟไว้ให้ได้!

และเตาหลอมวิญญาณถึงจะเปิดขึ้นมาอีกครั้งให้พวกเขาได้ออกมาสู่โลกภายนอก

ไม่สำเร็จก็มีแต่ต้องตาย!

“ข้าจะขอเตือนอีกครั้งว่าเต๋าไฟในเตาหลอมวิญญาณนั้นมันมิใช่เต๋าไฟทั่วๆ ไป! เต๋าไฟเจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้ารูปแบบนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเต๋าไฟโกลาหล! เผ่าวิญญาณเรานั้นทุ่มกำลังไปมากมายกว่าที่จะรวบรวมมันมาได้! แน่นอนว่าเต๋าไฟของจริงย่อมจะอยู่กับเตาหลอมวิญญาณของจริง แต่ถึงมันจะเป็นแค่ภาพฉาย พวกเจ้าก็อย่าได้ประมาทไป ตอนนี้ใครคิดจะถอนตัวไปก็ยังถอนตัวได้! ไม่เช่นนั้นหากเข้าเตาหลอมวิญญาณไปแล้ว พวกเจ้าจะไม่อาจออกมาได้จนกว่าจะผ่านการทดสอบ!” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางประกาศ

……………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย
“ผ…ผ่านด่านแล้ว!”

มันไม่มีเสียงแตกตื่นฮือฮาใดๆ ในตอนนี้มีเพียงแค่ความเงียบงัน

เพราะจนตอนนี้หลายๆ คนก็ยังไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้า

โถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบนั้นไม่เคยจะมีใครผ่านด่านนี้มาได้

แต่วันนี้มันมีคนผ่านแล้ว!

ไม่มีใครคิดว่าเต๋าอย่างเย่หยวนนั้นกลับจะสร้างตำนานขึ้นมาในที่สุด!

ผ่านด่าน!

“นี่มันผ่านด่านจริงๆ! เขา…ทำได้อย่างไรกัน?”

“ยังมีหน้ามาบอกว่าเผลอ…เจ้าบ้านี่มันจะถ่อมตัวไม่เป็นเลยหรือ!”

“ก่อนหน้านี้ข้ายังคิดว่าฉินซื่อเถียนนั้นเก่งกาจมากแล้ว แต่เทียบกับเย่หยวนแล้วเขาเป็นได้เพียงแค่เศษดิน!”

“ได้เห็นคนผ่านด่านกับตาเช่นนี้ชีวิตข้าไม่เสียเปล่าแล้ว!”

จู่ๆ คนทั้งหลายก็เริ่มได้สติและโห่ร้องขึ้นมา!

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันไม่เคยมีใครผ่านมาได้ก่อนเลย!

บ้างนั้นตื่นเต้นจนน้ำตาไหลออกมา

ได้เห็นปาฏิหาริย์กับตาเช่นนี้มันย่อมจะนับว่าเป็นเกียรติอย่างมาก

เรื่องเช่นนี้เอาไปโม้ได้อีกเป็นหมื่นปี

ความอับอายใดๆ ก่อนหน้ามันได้จางหายไปจากใจของคนสิ้น

มันยังมีอะไรให้ต้องอายอีก?

ผู้เข้าทดสอบหลายคนนั้นยึดถือเย่หยวนเป็นดั่งเทพก้มกราบเขาไปแล้ว

คนเรานั้นเป็นเช่นนี้ ใครที่เก่งกาจกว่าเล็กน้อยนั้นมันย่อมจะทำให้ผู้คนเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมาได้

แต่หากเมื่อเก่งกาจกว่ามากล้ำจนเกินไปแล้ว ความอิจฉาริษยาใดๆ มันก็จะเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง

ความรู้สึกเดียวที่เหลือคือชื่นชม!

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมองดูเย่หยวนและหันมามองดูหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกับถอนหายใจ

เมื่ออีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงสายตานั้นเขาก็แทบอยากจะตายลงไปให้สิ้นเสียตรงนี้

ยิ่งเมื่อสักครู่นั้นเขายิ่งใหญ่แค่ไหน ตอนนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาอับอายมากเท่านั้น

ความภาคภูมิของเขานั้นมันเป็นได้แค่หินให้เย่หยวนเหยียบ

สำหรับยอดอัจฉริยะแล้วมันไม่มีอะไรจะน่าอายไปกว่านี้

“ซีเฉิน หากข้าจำไม่ผิดช่วงสามหมื่นปีที่ผ่านมานั้นมันคงมีแต่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านที่ผ่านด่านนี้ได้ใช่หรือไม่?” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถามขึ้นมา

มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินตอบกลับมาด้วยท่าทางตกตะลึงเช่นกัน “ใช่แล้ว! ที่โถงวิญญาณนิพพานรบวารีกลายเป็นหนึ่งในสิบโถงวิญญาณนิพพานที่ใหญ่ที่สุดก็เพราะว่าเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน! ไม่คิดเลยว่าเราเองจะมีโอกาสนี้ด้วย!”

แต่มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นกลับถอนหายใจยาวออกมา “น่าเสียดายที่เขานั้นสุดท้ายก็แค่เก้ารูป เทียบกับเจ้าโลกฟู่เทียนท่านแล้วมันยังอ่อนแอกว่ามาก!”

ซีเฉินกล่าวขึ้นต่อ “ก็จริง ตอนที่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านผ่านเส้นทางคุมวิญญาณในตอนนั้นท่านได้พัฒนาร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นมาพร้อมสิบรูป! จากนั้นท่านก็ใช้พลังของร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชนั้นผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดกลายเป็นเจ้าโลกในที่สุด! เย่หยวนนั้นจะอย่างไรก็อ่อนแอกว่าท่านไปไม่น้อย!”

“ความแตกต่างแค่ปลายเส้นผมมันอาจจะสร้างช่องว่างนับหมื่นกิโลเมตรได้! ต่อให้จะเป็นเก้ารูปแต่คิดอยากขึ้นเจ้าโลกมันคงไม่ง่ายดายแล้ว!” ซีเฉินกล่าวขึ้นมาอย่างเสียดาย

หากไม่ถึงเจ้าโลกแล้วผลสุดท้ายมันก็คงจบแค่ที่ระดับพวกเขา

เพราะต่อให้จะเก่งกาจกว่าพวกเขาไปมาก แต่สุดท้ายมันก็จะยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิล้ำในที่สุด

มิได้กลายเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง

มีเพียงแค่การบรรลุเจ้าโลกเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็นการผงาดขึ้นอย่างแท้จริง

มันเป็นการก้าวสู่สวรรค์ด้วยย่างก้าวเดียว!

เพราะฉะนั้นต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหน…ในท้ายสุดแล้วมหาจักรพรรดิตงหยางก็ต้องเสียดายสุดใจขึ้นมา

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องผงะไป

ที่แท้มันกลับยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย!

ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มกลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง

มันยังมีด่านที่สามอยู่มิใช่หรือ?

เย่หยวนทำได้ เขาก็ย่อมจะทำได้เช่นกัน!

‘ใครกำหนดเล่าว่าข้า ฉินซื่อเถียนคนนี้จะไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้?’

บนสนามรบเจาะชาดนั้นเขาเองก็ผ่านจังหวะเฉียดตายมามาก

กี่ครั้งแล้วที่เขารอดกลับมาจากนรก กี่ครั้งแล้วที่เขาพลิกสถานการณ์กลับอย่างไม่หวาดหวั่น?

ครั้งนี้เองก็เช่นกัน!

ฉินซื่อเถียนนั้นจะขอสู้สุดชีวิต!

คิดมาถึงตรงนี้ฉินซื่อเถียนก็คุกเข่าลงต่อหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ท่าน รอบที่สามนี้ศิษย์จะพลิกสถานการณ์กู้หน้ากลับมาให้ได้!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นเห็นได้ถึงความมุ่งมั่นใจสายตาของฉินซื่อเถียน

นี่มันคือความหนักแน่นที่เกิดขึ้นจากสนามรบเจาะชาด

ฉินซื่อเถียนนั้นจะไม่ยอมแพ้ให้เย่หยวนง่ายๆ!

กลับกันยิ่งเย่หยวนเก่งกาจเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ตัวฉินซื่อเถียนมีแรงสู้มากเท่านั้น!

มุมปากของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางยิ้มขึ้นมา “ดี อาจารย์คาดหวังกับเจ้าไว้มาก! บางทีการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนี้มันอาจจะเป็นเรื่องดีกับเจ้าก็ได้!”

ฉินซื่อเถียนสั่นสะท้านไปทั้งกายเพราะเขานั้นเข้าใจถึงความหมายของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางได้ดี

หลายปีที่ผ่านมานั้นเขาหลงตัวเองมากขึ้นทุกวัน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดสอบนี้ที่ขาของเขาแทบจะไม่ติดพื้น

คิดว่าตัวเองผ่านไปถึงสุดระดับหกแล้วจะเหนือล้ำฟ้าดิน!

แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนนั้นได้ทำให้เขามีสติขึ้นมา!

จิตใจที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้านี้ทำให้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางมั่นใจว่าฉินซื่อเถียน อาจจะไปได้ไกลกว่าเย่หยวน!

เพราะจะอย่างไรเสียตอนนี้พวกเขาก็เป็นแค่จักรพรรดิเที่ยง มันยังมีช่องว่างให้พัฒนาอีกมากล้น!

ในเวลานี้เย่หยวนได้ลอยตัวกลับลงมาพร้อมด้วยสายตาผู้คนมากมายที่จับจ้อง

แต่พวกเขาทั้งหลายก็รู้ดีว่าศึกระหว่างเย่หยวนและฉินซื่อเถียนนั้นมันยังไม่จบลง

การต่อสู้นี้มันจะตัดสินอนาคตของคนทั้งสอง!

ได้เห็นสายตาคาดหวังของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นคนอื่นๆ ก็ย่อมจะรู้ได้ดีว่ามันยังไม่จบง่ายๆ

สายตาของเจ้าโถงนั้นมันเฉียบคม

แน่นอนว่าเขาย่อมจะเห็นอะไรในตัวฉินซื่อเถียนถึงได้เลือกเขามาจากสามบุตรเจาะชาด

เย่หยวนนั้นไม่คิดอวดตัวโม้ใดๆ เพราะเขานั้นบ่มเพาะกำเนิดเทพ

หากเส้นทางคุมวิญญาณแค่นี้ยังผ่านไม่ได้แล้ว เขาก็คงต้องเอาหัวไปโขกเต้าหู้ตายแล้ว

ระหว่างตัวเขาและฉินซื่อเถียนนั้นมันไม่อาจจะเทียบกันได้เลย เขาจึงไม่ได้มองว่าอีกฝ่ายเป็นคู่ปรับใดๆ

แต่ว่าฉินซื่อเถียนไม่คิดเช่นนั้น

เขานั้นได้มองเย่หยวนเป็นคู่ปรับไปแล้ว

ได้เห็นเย่หยวนลอยตัวลงมานั้นฉินซื่อเถียนก็ต้องกล่าวขึ้นทันที “เย่หยวน เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! ชัยชนะจะเป็นของใครมันยังไม่แน่หรอก! ด่านที่สามนั้นมันคือเตาหลอมวิญญาณ ที่นี่คือศึกตัดสินของเรา! ครั้งนี้ข้าจะเอาชนะเจ้าลงให้ได้! เจ้านั้นจะกลายเป็นแค่ก้อนหินให้ข้าเหยียบขึ้นไปสู่อาณาจักรเจ้าโลก!”

เย่หยวนได้แต่ต้องผงะเมื่อได้ยินเช่นนั้น ‘ข้าผ่านด่านมาก็ไม่ได้โอ้อวดใดๆ ทำไมเป็นเจ้าที่มาอวดโม้แทนเล่า?’

‘ใครจะไปอยากตัดสินแพ้ชนะกับเจ้า?’

‘ตั้งแต่เริ่มมานั้นมันมีแต่เจ้าเองที่หาเรื่องใส่ตัวมิใช่หรือ?’

“อ่า เจ้าโลก? เป้าหมายใหญ่นี่! พยายามเข้าล่ะ!” เย่หยวนตอบกลับไป

ฉินซื่อเถียนนั้นแทบต้องสำลักออกมาเมื่อได้ยิน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเอาหมัดไปต่อยเมฆ

หากเย่หยวนต่อล้อต่อเถียงกลับมาเขาก็คงจะยิ่งไฟลุก

แต่นี่มันเรื่องบ้าอะไร?

เตาหลอมวิญญาณนั้นมันคือสมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังอย่างมาก!

แน่นอนว่าเตาหลอมวิญญาณจริงๆ นั้นมันย่อมจะไม่ได้อยู่ในโถงวิญญาณนิพพาน

สิ่งนี่เป็นแค่ภาพที่ฉายขึ้นมาจากของจริงเท่านั้น

ในด่านที่สามนั้นคือเตาหลอมวิญญาณ

ซึ่งชาววิญญาณที่เข้าไปภายในจะได้รับการตีหลอมจากไฟเจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้าเต๋าไฟ!

เต๋าไฟทั้งสี่สิบเก้าแบบนั้นมันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!

หากคนผู้นั้นสามารถผ่านเต๋าไฟไปได้เจ็ดอย่างแล้วมันก็จะถือว่าผ่านการทดสอบไป

ครั้งนี้เองก็เหมือนๆ กับการทดสอบด่านก่อน มันเป็นการทดสอบที่สามารถพัฒนาตัวเองได้มากมายเช่นกัน

การตีหลอมจากเต๋าไฟนั้นมันเป็นอะไรที่อันตรายต่อร่างวิญญาณมาก

แต่ว่าเทพแท้ไม่กลัวไฟ การตีหลอมและคืนชีพขึ้นมาในเต๋าไฟนั้นมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของรอบนี้

บางคนนั้นเข้าเตาหลอมไปแล้วและร่างกายของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

พร้อมกับลุกผงาดขึ้นจากเถ้ากลายเป็นยอดคนในที่สุด

หลังจากด่านทดสอบทั้งสองนั้นตอนนี้คนที่ยังมีสิทธิ์ทดสอบด่านสามมันเหลือเพียงแค่เก้าสิบเจ็ดคนแล้ว!

หลังจากผ่านด่านสามนี้ไปมันก็จะถือว่าพวกเขาได้เข้าเป็นศิษย์โถงวิญญาณนิพพานจริงๆ

แต่ว่าด่านสามนี้เองมันคือจุดที่อันตรายที่สุด

เพราะว่ามันไม่มีการถอนตัวในด่านนี้!

คนที่เข้าไปแล้วจะต้องรับเจ็ดเต๋าไฟไว้ให้ได้!

และเตาหลอมวิญญาณถึงจะเปิดขึ้นมาอีกครั้งให้พวกเขาได้ออกมาสู่โลกภายนอก

ไม่สำเร็จก็มีแต่ต้องตาย!

“ข้าจะขอเตือนอีกครั้งว่าเต๋าไฟในเตาหลอมวิญญาณนั้นมันมิใช่เต๋าไฟทั่วๆ ไป! เต๋าไฟเจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้ารูปแบบนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเต๋าไฟโกลาหล! เผ่าวิญญาณเรานั้นทุ่มกำลังไปมากมายกว่าที่จะรวบรวมมันมาได้! แน่นอนว่าเต๋าไฟของจริงย่อมจะอยู่กับเตาหลอมวิญญาณของจริง แต่ถึงมันจะเป็นแค่ภาพฉาย พวกเจ้าก็อย่าได้ประมาทไป ตอนนี้ใครคิดจะถอนตัวไปก็ยังถอนตัวได้! ไม่เช่นนั้นหากเข้าเตาหลอมวิญญาณไปแล้ว พวกเจ้าจะไม่อาจออกมาได้จนกว่าจะผ่านการทดสอบ!” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางประกาศ

……………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย
“ผ…ผ่านด่านแล้ว!”

มันไม่มีเสียงแตกตื่นฮือฮาใดๆ ในตอนนี้มีเพียงแค่ความเงียบงัน

เพราะจนตอนนี้หลายๆ คนก็ยังไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้า

โถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบนั้นไม่เคยจะมีใครผ่านด่านนี้มาได้

แต่วันนี้มันมีคนผ่านแล้ว!

ไม่มีใครคิดว่าเต๋าอย่างเย่หยวนนั้นกลับจะสร้างตำนานขึ้นมาในที่สุด!

ผ่านด่าน!

“นี่มันผ่านด่านจริงๆ! เขา…ทำได้อย่างไรกัน?”

“ยังมีหน้ามาบอกว่าเผลอ…เจ้าบ้านี่มันจะถ่อมตัวไม่เป็นเลยหรือ!”

“ก่อนหน้านี้ข้ายังคิดว่าฉินซื่อเถียนนั้นเก่งกาจมากแล้ว แต่เทียบกับเย่หยวนแล้วเขาเป็นได้เพียงแค่เศษดิน!”

“ได้เห็นคนผ่านด่านกับตาเช่นนี้ชีวิตข้าไม่เสียเปล่าแล้ว!”

จู่ๆ คนทั้งหลายก็เริ่มได้สติและโห่ร้องขึ้นมา!

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันไม่เคยมีใครผ่านมาได้ก่อนเลย!

บ้างนั้นตื่นเต้นจนน้ำตาไหลออกมา

ได้เห็นปาฏิหาริย์กับตาเช่นนี้มันย่อมจะนับว่าเป็นเกียรติอย่างมาก

เรื่องเช่นนี้เอาไปโม้ได้อีกเป็นหมื่นปี

ความอับอายใดๆ ก่อนหน้ามันได้จางหายไปจากใจของคนสิ้น

มันยังมีอะไรให้ต้องอายอีก?

ผู้เข้าทดสอบหลายคนนั้นยึดถือเย่หยวนเป็นดั่งเทพก้มกราบเขาไปแล้ว

คนเรานั้นเป็นเช่นนี้ ใครที่เก่งกาจกว่าเล็กน้อยนั้นมันย่อมจะทำให้ผู้คนเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมาได้

แต่หากเมื่อเก่งกาจกว่ามากล้ำจนเกินไปแล้ว ความอิจฉาริษยาใดๆ มันก็จะเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง

ความรู้สึกเดียวที่เหลือคือชื่นชม!

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมองดูเย่หยวนและหันมามองดูหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกับถอนหายใจ

เมื่ออีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงสายตานั้นเขาก็แทบอยากจะตายลงไปให้สิ้นเสียตรงนี้

ยิ่งเมื่อสักครู่นั้นเขายิ่งใหญ่แค่ไหน ตอนนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาอับอายมากเท่านั้น

ความภาคภูมิของเขานั้นมันเป็นได้แค่หินให้เย่หยวนเหยียบ

สำหรับยอดอัจฉริยะแล้วมันไม่มีอะไรจะน่าอายไปกว่านี้

“ซีเฉิน หากข้าจำไม่ผิดช่วงสามหมื่นปีที่ผ่านมานั้นมันคงมีแต่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านที่ผ่านด่านนี้ได้ใช่หรือไม่?” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถามขึ้นมา

มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินตอบกลับมาด้วยท่าทางตกตะลึงเช่นกัน “ใช่แล้ว! ที่โถงวิญญาณนิพพานรบวารีกลายเป็นหนึ่งในสิบโถงวิญญาณนิพพานที่ใหญ่ที่สุดก็เพราะว่าเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน! ไม่คิดเลยว่าเราเองจะมีโอกาสนี้ด้วย!”

แต่มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นกลับถอนหายใจยาวออกมา “น่าเสียดายที่เขานั้นสุดท้ายก็แค่เก้ารูป เทียบกับเจ้าโลกฟู่เทียนท่านแล้วมันยังอ่อนแอกว่ามาก!”

ซีเฉินกล่าวขึ้นต่อ “ก็จริง ตอนที่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านผ่านเส้นทางคุมวิญญาณในตอนนั้นท่านได้พัฒนาร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นมาพร้อมสิบรูป! จากนั้นท่านก็ใช้พลังของร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชนั้นผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดกลายเป็นเจ้าโลกในที่สุด! เย่หยวนนั้นจะอย่างไรก็อ่อนแอกว่าท่านไปไม่น้อย!”

“ความแตกต่างแค่ปลายเส้นผมมันอาจจะสร้างช่องว่างนับหมื่นกิโลเมตรได้! ต่อให้จะเป็นเก้ารูปแต่คิดอยากขึ้นเจ้าโลกมันคงไม่ง่ายดายแล้ว!” ซีเฉินกล่าวขึ้นมาอย่างเสียดาย

หากไม่ถึงเจ้าโลกแล้วผลสุดท้ายมันก็คงจบแค่ที่ระดับพวกเขา

เพราะต่อให้จะเก่งกาจกว่าพวกเขาไปมาก แต่สุดท้ายมันก็จะยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิล้ำในที่สุด

มิได้กลายเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง

มีเพียงแค่การบรรลุเจ้าโลกเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็นการผงาดขึ้นอย่างแท้จริง

มันเป็นการก้าวสู่สวรรค์ด้วยย่างก้าวเดียว!

เพราะฉะนั้นต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหน…ในท้ายสุดแล้วมหาจักรพรรดิตงหยางก็ต้องเสียดายสุดใจขึ้นมา

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องผงะไป

ที่แท้มันกลับยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย!

ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มกลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง

มันยังมีด่านที่สามอยู่มิใช่หรือ?

เย่หยวนทำได้ เขาก็ย่อมจะทำได้เช่นกัน!

‘ใครกำหนดเล่าว่าข้า ฉินซื่อเถียนคนนี้จะไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้?’

บนสนามรบเจาะชาดนั้นเขาเองก็ผ่านจังหวะเฉียดตายมามาก

กี่ครั้งแล้วที่เขารอดกลับมาจากนรก กี่ครั้งแล้วที่เขาพลิกสถานการณ์กลับอย่างไม่หวาดหวั่น?

ครั้งนี้เองก็เช่นกัน!

ฉินซื่อเถียนนั้นจะขอสู้สุดชีวิต!

คิดมาถึงตรงนี้ฉินซื่อเถียนก็คุกเข่าลงต่อหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ท่าน รอบที่สามนี้ศิษย์จะพลิกสถานการณ์กู้หน้ากลับมาให้ได้!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นเห็นได้ถึงความมุ่งมั่นใจสายตาของฉินซื่อเถียน

นี่มันคือความหนักแน่นที่เกิดขึ้นจากสนามรบเจาะชาด

ฉินซื่อเถียนนั้นจะไม่ยอมแพ้ให้เย่หยวนง่ายๆ!

กลับกันยิ่งเย่หยวนเก่งกาจเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ตัวฉินซื่อเถียนมีแรงสู้มากเท่านั้น!

มุมปากของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางยิ้มขึ้นมา “ดี อาจารย์คาดหวังกับเจ้าไว้มาก! บางทีการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนี้มันอาจจะเป็นเรื่องดีกับเจ้าก็ได้!”

ฉินซื่อเถียนสั่นสะท้านไปทั้งกายเพราะเขานั้นเข้าใจถึงความหมายของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางได้ดี

หลายปีที่ผ่านมานั้นเขาหลงตัวเองมากขึ้นทุกวัน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดสอบนี้ที่ขาของเขาแทบจะไม่ติดพื้น

คิดว่าตัวเองผ่านไปถึงสุดระดับหกแล้วจะเหนือล้ำฟ้าดิน!

แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนนั้นได้ทำให้เขามีสติขึ้นมา!

จิตใจที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้านี้ทำให้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางมั่นใจว่าฉินซื่อเถียน อาจจะไปได้ไกลกว่าเย่หยวน!

เพราะจะอย่างไรเสียตอนนี้พวกเขาก็เป็นแค่จักรพรรดิเที่ยง มันยังมีช่องว่างให้พัฒนาอีกมากล้น!

ในเวลานี้เย่หยวนได้ลอยตัวกลับลงมาพร้อมด้วยสายตาผู้คนมากมายที่จับจ้อง

แต่พวกเขาทั้งหลายก็รู้ดีว่าศึกระหว่างเย่หยวนและฉินซื่อเถียนนั้นมันยังไม่จบลง

การต่อสู้นี้มันจะตัดสินอนาคตของคนทั้งสอง!

ได้เห็นสายตาคาดหวังของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นคนอื่นๆ ก็ย่อมจะรู้ได้ดีว่ามันยังไม่จบง่ายๆ

สายตาของเจ้าโถงนั้นมันเฉียบคม

แน่นอนว่าเขาย่อมจะเห็นอะไรในตัวฉินซื่อเถียนถึงได้เลือกเขามาจากสามบุตรเจาะชาด

เย่หยวนนั้นไม่คิดอวดตัวโม้ใดๆ เพราะเขานั้นบ่มเพาะกำเนิดเทพ

หากเส้นทางคุมวิญญาณแค่นี้ยังผ่านไม่ได้แล้ว เขาก็คงต้องเอาหัวไปโขกเต้าหู้ตายแล้ว

ระหว่างตัวเขาและฉินซื่อเถียนนั้นมันไม่อาจจะเทียบกันได้เลย เขาจึงไม่ได้มองว่าอีกฝ่ายเป็นคู่ปรับใดๆ

แต่ว่าฉินซื่อเถียนไม่คิดเช่นนั้น

เขานั้นได้มองเย่หยวนเป็นคู่ปรับไปแล้ว

ได้เห็นเย่หยวนลอยตัวลงมานั้นฉินซื่อเถียนก็ต้องกล่าวขึ้นทันที “เย่หยวน เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! ชัยชนะจะเป็นของใครมันยังไม่แน่หรอก! ด่านที่สามนั้นมันคือเตาหลอมวิญญาณ ที่นี่คือศึกตัดสินของเรา! ครั้งนี้ข้าจะเอาชนะเจ้าลงให้ได้! เจ้านั้นจะกลายเป็นแค่ก้อนหินให้ข้าเหยียบขึ้นไปสู่อาณาจักรเจ้าโลก!”

เย่หยวนได้แต่ต้องผงะเมื่อได้ยินเช่นนั้น ‘ข้าผ่านด่านมาก็ไม่ได้โอ้อวดใดๆ ทำไมเป็นเจ้าที่มาอวดโม้แทนเล่า?’

‘ใครจะไปอยากตัดสินแพ้ชนะกับเจ้า?’

‘ตั้งแต่เริ่มมานั้นมันมีแต่เจ้าเองที่หาเรื่องใส่ตัวมิใช่หรือ?’

“อ่า เจ้าโลก? เป้าหมายใหญ่นี่! พยายามเข้าล่ะ!” เย่หยวนตอบกลับไป

ฉินซื่อเถียนนั้นแทบต้องสำลักออกมาเมื่อได้ยิน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเอาหมัดไปต่อยเมฆ

หากเย่หยวนต่อล้อต่อเถียงกลับมาเขาก็คงจะยิ่งไฟลุก

แต่นี่มันเรื่องบ้าอะไร?

เตาหลอมวิญญาณนั้นมันคือสมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังอย่างมาก!

แน่นอนว่าเตาหลอมวิญญาณจริงๆ นั้นมันย่อมจะไม่ได้อยู่ในโถงวิญญาณนิพพาน

สิ่งนี่เป็นแค่ภาพที่ฉายขึ้นมาจากของจริงเท่านั้น

ในด่านที่สามนั้นคือเตาหลอมวิญญาณ

ซึ่งชาววิญญาณที่เข้าไปภายในจะได้รับการตีหลอมจากไฟเจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้าเต๋าไฟ!

เต๋าไฟทั้งสี่สิบเก้าแบบนั้นมันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!

หากคนผู้นั้นสามารถผ่านเต๋าไฟไปได้เจ็ดอย่างแล้วมันก็จะถือว่าผ่านการทดสอบไป

ครั้งนี้เองก็เหมือนๆ กับการทดสอบด่านก่อน มันเป็นการทดสอบที่สามารถพัฒนาตัวเองได้มากมายเช่นกัน

การตีหลอมจากเต๋าไฟนั้นมันเป็นอะไรที่อันตรายต่อร่างวิญญาณมาก

แต่ว่าเทพแท้ไม่กลัวไฟ การตีหลอมและคืนชีพขึ้นมาในเต๋าไฟนั้นมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของรอบนี้

บางคนนั้นเข้าเตาหลอมไปแล้วและร่างกายของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

พร้อมกับลุกผงาดขึ้นจากเถ้ากลายเป็นยอดคนในที่สุด

หลังจากด่านทดสอบทั้งสองนั้นตอนนี้คนที่ยังมีสิทธิ์ทดสอบด่านสามมันเหลือเพียงแค่เก้าสิบเจ็ดคนแล้ว!

หลังจากผ่านด่านสามนี้ไปมันก็จะถือว่าพวกเขาได้เข้าเป็นศิษย์โถงวิญญาณนิพพานจริงๆ

แต่ว่าด่านสามนี้เองมันคือจุดที่อันตรายที่สุด

เพราะว่ามันไม่มีการถอนตัวในด่านนี้!

คนที่เข้าไปแล้วจะต้องรับเจ็ดเต๋าไฟไว้ให้ได้!

และเตาหลอมวิญญาณถึงจะเปิดขึ้นมาอีกครั้งให้พวกเขาได้ออกมาสู่โลกภายนอก

ไม่สำเร็จก็มีแต่ต้องตาย!

“ข้าจะขอเตือนอีกครั้งว่าเต๋าไฟในเตาหลอมวิญญาณนั้นมันมิใช่เต๋าไฟทั่วๆ ไป! เต๋าไฟเจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้ารูปแบบนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเต๋าไฟโกลาหล! เผ่าวิญญาณเรานั้นทุ่มกำลังไปมากมายกว่าที่จะรวบรวมมันมาได้! แน่นอนว่าเต๋าไฟของจริงย่อมจะอยู่กับเตาหลอมวิญญาณของจริง แต่ถึงมันจะเป็นแค่ภาพฉาย พวกเจ้าก็อย่าได้ประมาทไป ตอนนี้ใครคิดจะถอนตัวไปก็ยังถอนตัวได้! ไม่เช่นนั้นหากเข้าเตาหลอมวิญญาณไปแล้ว พวกเจ้าจะไม่อาจออกมาได้จนกว่าจะผ่านการทดสอบ!” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางประกาศ

……………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2926 ด้อยกว่าเล็กน้อย
“ผ…ผ่านด่านแล้ว!”

มันไม่มีเสียงแตกตื่นฮือฮาใดๆ ในตอนนี้มีเพียงแค่ความเงียบงัน

เพราะจนตอนนี้หลายๆ คนก็ยังไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้า

โถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบนั้นไม่เคยจะมีใครผ่านด่านนี้มาได้

แต่วันนี้มันมีคนผ่านแล้ว!

ไม่มีใครคิดว่าเต๋าอย่างเย่หยวนนั้นกลับจะสร้างตำนานขึ้นมาในที่สุด!

ผ่านด่าน!

“นี่มันผ่านด่านจริงๆ! เขา…ทำได้อย่างไรกัน?”

“ยังมีหน้ามาบอกว่าเผลอ…เจ้าบ้านี่มันจะถ่อมตัวไม่เป็นเลยหรือ!”

“ก่อนหน้านี้ข้ายังคิดว่าฉินซื่อเถียนนั้นเก่งกาจมากแล้ว แต่เทียบกับเย่หยวนแล้วเขาเป็นได้เพียงแค่เศษดิน!”

“ได้เห็นคนผ่านด่านกับตาเช่นนี้ชีวิตข้าไม่เสียเปล่าแล้ว!”

จู่ๆ คนทั้งหลายก็เริ่มได้สติและโห่ร้องขึ้นมา!

เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันไม่เคยมีใครผ่านมาได้ก่อนเลย!

บ้างนั้นตื่นเต้นจนน้ำตาไหลออกมา

ได้เห็นปาฏิหาริย์กับตาเช่นนี้มันย่อมจะนับว่าเป็นเกียรติอย่างมาก

เรื่องเช่นนี้เอาไปโม้ได้อีกเป็นหมื่นปี

ความอับอายใดๆ ก่อนหน้ามันได้จางหายไปจากใจของคนสิ้น

มันยังมีอะไรให้ต้องอายอีก?

ผู้เข้าทดสอบหลายคนนั้นยึดถือเย่หยวนเป็นดั่งเทพก้มกราบเขาไปแล้ว

คนเรานั้นเป็นเช่นนี้ ใครที่เก่งกาจกว่าเล็กน้อยนั้นมันย่อมจะทำให้ผู้คนเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมาได้

แต่หากเมื่อเก่งกาจกว่ามากล้ำจนเกินไปแล้ว ความอิจฉาริษยาใดๆ มันก็จะเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง

ความรู้สึกเดียวที่เหลือคือชื่นชม!

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมองดูเย่หยวนและหันมามองดูหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกับถอนหายใจ

เมื่ออีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงสายตานั้นเขาก็แทบอยากจะตายลงไปให้สิ้นเสียตรงนี้

ยิ่งเมื่อสักครู่นั้นเขายิ่งใหญ่แค่ไหน ตอนนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาอับอายมากเท่านั้น

ความภาคภูมิของเขานั้นมันเป็นได้แค่หินให้เย่หยวนเหยียบ

สำหรับยอดอัจฉริยะแล้วมันไม่มีอะไรจะน่าอายไปกว่านี้

“ซีเฉิน หากข้าจำไม่ผิดช่วงสามหมื่นปีที่ผ่านมานั้นมันคงมีแต่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านที่ผ่านด่านนี้ได้ใช่หรือไม่?” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถามขึ้นมา

มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินตอบกลับมาด้วยท่าทางตกตะลึงเช่นกัน “ใช่แล้ว! ที่โถงวิญญาณนิพพานรบวารีกลายเป็นหนึ่งในสิบโถงวิญญาณนิพพานที่ใหญ่ที่สุดก็เพราะว่าเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน! ไม่คิดเลยว่าเราเองจะมีโอกาสนี้ด้วย!”

แต่มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นกลับถอนหายใจยาวออกมา “น่าเสียดายที่เขานั้นสุดท้ายก็แค่เก้ารูป เทียบกับเจ้าโลกฟู่เทียนท่านแล้วมันยังอ่อนแอกว่ามาก!”

ซีเฉินกล่าวขึ้นต่อ “ก็จริง ตอนที่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านผ่านเส้นทางคุมวิญญาณในตอนนั้นท่านได้พัฒนาร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นมาพร้อมสิบรูป! จากนั้นท่านก็ใช้พลังของร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชนั้นผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดกลายเป็นเจ้าโลกในที่สุด! เย่หยวนนั้นจะอย่างไรก็อ่อนแอกว่าท่านไปไม่น้อย!”

“ความแตกต่างแค่ปลายเส้นผมมันอาจจะสร้างช่องว่างนับหมื่นกิโลเมตรได้! ต่อให้จะเป็นเก้ารูปแต่คิดอยากขึ้นเจ้าโลกมันคงไม่ง่ายดายแล้ว!” ซีเฉินกล่าวขึ้นมาอย่างเสียดาย

หากไม่ถึงเจ้าโลกแล้วผลสุดท้ายมันก็คงจบแค่ที่ระดับพวกเขา

เพราะต่อให้จะเก่งกาจกว่าพวกเขาไปมาก แต่สุดท้ายมันก็จะยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิล้ำในที่สุด

มิได้กลายเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง

มีเพียงแค่การบรรลุเจ้าโลกเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็นการผงาดขึ้นอย่างแท้จริง

มันเป็นการก้าวสู่สวรรค์ด้วยย่างก้าวเดียว!

เพราะฉะนั้นต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหน…ในท้ายสุดแล้วมหาจักรพรรดิตงหยางก็ต้องเสียดายสุดใจขึ้นมา

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องผงะไป

ที่แท้มันกลับยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย!

ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มกลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง

มันยังมีด่านที่สามอยู่มิใช่หรือ?

เย่หยวนทำได้ เขาก็ย่อมจะทำได้เช่นกัน!

‘ใครกำหนดเล่าว่าข้า ฉินซื่อเถียนคนนี้จะไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้?’

บนสนามรบเจาะชาดนั้นเขาเองก็ผ่านจังหวะเฉียดตายมามาก

กี่ครั้งแล้วที่เขารอดกลับมาจากนรก กี่ครั้งแล้วที่เขาพลิกสถานการณ์กลับอย่างไม่หวาดหวั่น?

ครั้งนี้เองก็เช่นกัน!

ฉินซื่อเถียนนั้นจะขอสู้สุดชีวิต!

คิดมาถึงตรงนี้ฉินซื่อเถียนก็คุกเข่าลงต่อหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ท่าน รอบที่สามนี้ศิษย์จะพลิกสถานการณ์กู้หน้ากลับมาให้ได้!”

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นเห็นได้ถึงความมุ่งมั่นใจสายตาของฉินซื่อเถียน

นี่มันคือความหนักแน่นที่เกิดขึ้นจากสนามรบเจาะชาด

ฉินซื่อเถียนนั้นจะไม่ยอมแพ้ให้เย่หยวนง่ายๆ!

กลับกันยิ่งเย่หยวนเก่งกาจเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ตัวฉินซื่อเถียนมีแรงสู้มากเท่านั้น!

มุมปากของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางยิ้มขึ้นมา “ดี อาจารย์คาดหวังกับเจ้าไว้มาก! บางทีการปรากฏตัวขึ้นของเย่หยวนนี้มันอาจจะเป็นเรื่องดีกับเจ้าก็ได้!”

ฉินซื่อเถียนสั่นสะท้านไปทั้งกายเพราะเขานั้นเข้าใจถึงความหมายของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางได้ดี

หลายปีที่ผ่านมานั้นเขาหลงตัวเองมากขึ้นทุกวัน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดสอบนี้ที่ขาของเขาแทบจะไม่ติดพื้น

คิดว่าตัวเองผ่านไปถึงสุดระดับหกแล้วจะเหนือล้ำฟ้าดิน!

แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนนั้นได้ทำให้เขามีสติขึ้นมา!

จิตใจที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้านี้ทำให้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางมั่นใจว่าฉินซื่อเถียน อาจจะไปได้ไกลกว่าเย่หยวน!

เพราะจะอย่างไรเสียตอนนี้พวกเขาก็เป็นแค่จักรพรรดิเที่ยง มันยังมีช่องว่างให้พัฒนาอีกมากล้น!

ในเวลานี้เย่หยวนได้ลอยตัวกลับลงมาพร้อมด้วยสายตาผู้คนมากมายที่จับจ้อง

แต่พวกเขาทั้งหลายก็รู้ดีว่าศึกระหว่างเย่หยวนและฉินซื่อเถียนนั้นมันยังไม่จบลง

การต่อสู้นี้มันจะตัดสินอนาคตของคนทั้งสอง!

ได้เห็นสายตาคาดหวังของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นคนอื่นๆ ก็ย่อมจะรู้ได้ดีว่ามันยังไม่จบง่ายๆ

สายตาของเจ้าโถงนั้นมันเฉียบคม

แน่นอนว่าเขาย่อมจะเห็นอะไรในตัวฉินซื่อเถียนถึงได้เลือกเขามาจากสามบุตรเจาะชาด

เย่หยวนนั้นไม่คิดอวดตัวโม้ใดๆ เพราะเขานั้นบ่มเพาะกำเนิดเทพ

หากเส้นทางคุมวิญญาณแค่นี้ยังผ่านไม่ได้แล้ว เขาก็คงต้องเอาหัวไปโขกเต้าหู้ตายแล้ว

ระหว่างตัวเขาและฉินซื่อเถียนนั้นมันไม่อาจจะเทียบกันได้เลย เขาจึงไม่ได้มองว่าอีกฝ่ายเป็นคู่ปรับใดๆ

แต่ว่าฉินซื่อเถียนไม่คิดเช่นนั้น

เขานั้นได้มองเย่หยวนเป็นคู่ปรับไปแล้ว

ได้เห็นเย่หยวนลอยตัวลงมานั้นฉินซื่อเถียนก็ต้องกล่าวขึ้นทันที “เย่หยวน เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! ชัยชนะจะเป็นของใครมันยังไม่แน่หรอก! ด่านที่สามนั้นมันคือเตาหลอมวิญญาณ ที่นี่คือศึกตัดสินของเรา! ครั้งนี้ข้าจะเอาชนะเจ้าลงให้ได้! เจ้านั้นจะกลายเป็นแค่ก้อนหินให้ข้าเหยียบขึ้นไปสู่อาณาจักรเจ้าโลก!”

เย่หยวนได้แต่ต้องผงะเมื่อได้ยินเช่นนั้น ‘ข้าผ่านด่านมาก็ไม่ได้โอ้อวดใดๆ ทำไมเป็นเจ้าที่มาอวดโม้แทนเล่า?’

‘ใครจะไปอยากตัดสินแพ้ชนะกับเจ้า?’

‘ตั้งแต่เริ่มมานั้นมันมีแต่เจ้าเองที่หาเรื่องใส่ตัวมิใช่หรือ?’

“อ่า เจ้าโลก? เป้าหมายใหญ่นี่! พยายามเข้าล่ะ!” เย่หยวนตอบกลับไป

ฉินซื่อเถียนนั้นแทบต้องสำลักออกมาเมื่อได้ยิน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเอาหมัดไปต่อยเมฆ

หากเย่หยวนต่อล้อต่อเถียงกลับมาเขาก็คงจะยิ่งไฟลุก

แต่นี่มันเรื่องบ้าอะไร?

เตาหลอมวิญญาณนั้นมันคือสมบัติโกลาหลศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังอย่างมาก!

แน่นอนว่าเตาหลอมวิญญาณจริงๆ นั้นมันย่อมจะไม่ได้อยู่ในโถงวิญญาณนิพพาน

สิ่งนี่เป็นแค่ภาพที่ฉายขึ้นมาจากของจริงเท่านั้น

ในด่านที่สามนั้นคือเตาหลอมวิญญาณ

ซึ่งชาววิญญาณที่เข้าไปภายในจะได้รับการตีหลอมจากไฟเจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้าเต๋าไฟ!

เต๋าไฟทั้งสี่สิบเก้าแบบนั้นมันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!

หากคนผู้นั้นสามารถผ่านเต๋าไฟไปได้เจ็ดอย่างแล้วมันก็จะถือว่าผ่านการทดสอบไป

ครั้งนี้เองก็เหมือนๆ กับการทดสอบด่านก่อน มันเป็นการทดสอบที่สามารถพัฒนาตัวเองได้มากมายเช่นกัน

การตีหลอมจากเต๋าไฟนั้นมันเป็นอะไรที่อันตรายต่อร่างวิญญาณมาก

แต่ว่าเทพแท้ไม่กลัวไฟ การตีหลอมและคืนชีพขึ้นมาในเต๋าไฟนั้นมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของรอบนี้

บางคนนั้นเข้าเตาหลอมไปแล้วและร่างกายของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

พร้อมกับลุกผงาดขึ้นจากเถ้ากลายเป็นยอดคนในที่สุด

หลังจากด่านทดสอบทั้งสองนั้นตอนนี้คนที่ยังมีสิทธิ์ทดสอบด่านสามมันเหลือเพียงแค่เก้าสิบเจ็ดคนแล้ว!

หลังจากผ่านด่านสามนี้ไปมันก็จะถือว่าพวกเขาได้เข้าเป็นศิษย์โถงวิญญาณนิพพานจริงๆ

แต่ว่าด่านสามนี้เองมันคือจุดที่อันตรายที่สุด

เพราะว่ามันไม่มีการถอนตัวในด่านนี้!

คนที่เข้าไปแล้วจะต้องรับเจ็ดเต๋าไฟไว้ให้ได้!

และเตาหลอมวิญญาณถึงจะเปิดขึ้นมาอีกครั้งให้พวกเขาได้ออกมาสู่โลกภายนอก

ไม่สำเร็จก็มีแต่ต้องตาย!

“ข้าจะขอเตือนอีกครั้งว่าเต๋าไฟในเตาหลอมวิญญาณนั้นมันมิใช่เต๋าไฟทั่วๆ ไป! เต๋าไฟเจ็ดต่อเจ็ด สี่สิบเก้ารูปแบบนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเต๋าไฟโกลาหล! เผ่าวิญญาณเรานั้นทุ่มกำลังไปมากมายกว่าที่จะรวบรวมมันมาได้! แน่นอนว่าเต๋าไฟของจริงย่อมจะอยู่กับเตาหลอมวิญญาณของจริง แต่ถึงมันจะเป็นแค่ภาพฉาย พวกเจ้าก็อย่าได้ประมาทไป ตอนนี้ใครคิดจะถอนตัวไปก็ยังถอนตัวได้! ไม่เช่นนั้นหากเข้าเตาหลอมวิญญาณไปแล้ว พวกเจ้าจะไม่อาจออกมาได้จนกว่าจะผ่านการทดสอบ!” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางประกาศ

……………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+