Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!
คนทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถึงได้มีท่าทางเช่นนี้

เพราะแม้แต่ต้องที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปขึ้นมาเมื่อสักครู่เขาก็ยังแค่ร้องลั่นด้วยความดีใจเท่านั้น

แต่ตอนนี้เขากลับมีท่าทางไม่อยากเชื่อ เช่นนั้นแล้วหมอกนั้นมันหมายถึงอะไร?

แต่ฝั่งซีเฉินและหลินฟางนั้นเมื่อได้เห็นก็นึกออกทันทีและต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

“เจ้าจะบอกว่านั่น…คือร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? นี่มัน… เป็นไปได้หรือ?” ซีเฉินกล่าวขึ้น

ตงหยางนั้นสูดหายใจเข้าลึกปรับสติตัวเองก่อนจะตอบไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าจะใช้อะไรมาอธิบายเรื่องที่เต๋าไฟยังไม่หยุดปะทุ? มันไม่ผิดแน่แล้ว มันต้องเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!”

ไม่ไกลออกไปนั้นฉินซื่อเถียนก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาร้อง “หรือว่าอาจารย์จะพูดถึง…ร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเจ้าโลกบู๋เมี่ย?”

ตงหยางพยักหน้ารับกลับไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่าอาจารย์จะพูดถึงร่างวิญญาณหมอกหุ้มไหนได้อีก?”

เท่านั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปจนเกิดความแตกตื่นอย่างมากล้น

“หนึ่งในสามมหาเจ้าโลก เจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ? จะบอกว่าร่างวิญญาณที่เย่หยวนปลุกขึ้นมานี้มันคือร่างวิญญาณเดียวกับท่านหรือ?”

“หรือจะบอกว่าเย่หยวนนั้นอาจจะกำลังเดินในเส้นทางแห่งยอดฝีมือล้ำสวรรค์หรือ?”

“ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! มันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นร่างวิญญาณอมตะ! เหตุผลที่ท่านเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นได้ฉายานี้มาก็เพราะว่าท่านนั้นมีร่างวิญญาณที่สุดแสนแข็งแกร่งไม่อาจถูกสังหารลงได้ เป็นอมตะอย่างแท้จริง! หรือว่า…เย่หยวนจะกลายเป็นคนระดับนั้นได้?”

“ไม่…ไม่มีทางน่า? มันจะ…เช่นนั้นแล้วฉินซื่อเถียนจะไม่กลายเป็นตัวตลกไปหรือ?”

เผ่าวิญญาณนั้นมันมียอดมหาเจ้าโลกอยู่ทั้งสิ้นสามคนคือเจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ เจ้าโลกหลุนฮวยแห่งวัฏสงสาร เจ้าโลกเทียนเหวินวิญญาณสวรรค์!

เจ้าโลกหลุนฮวยและเจ้าโลกเทียนเหวินนั้นเป็นเจ้าโลกโกลาหลที่เกิดขึ้นมาจากทางตระกูลวิญญาณฉี

ส่วนเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเกิดขึ้นมาจากตระกูลวิญญาณนิพพาน!

ที่เรียกว่าเป็นยอดมหาเจ้าโลกนั้นมิใช่เพราะว่าพวกเขาเก่งกาจที่สุดบนสวรรค์นี้แต่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นเก่งกาจที่สุดในเผ่าพันธุ์วิญญาณในทุกสวรรค์รวมกัน!

เจ้าโลกหยุนซานนั้นเก่งกาจล้ำในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

แต่ว่าเขาย่อมจะไม่อาจติดสามอันดับยอดฝีมือแรกของทั้งเผ่ามนุษย์ได้

แต่ว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นหนึ่งในสามเจ้าโลกที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิญญาณ!

ตอนนี้เย่หยวนกลับปลุกร่างวิญญาณเช่นเดียวกับเขาขึ้นมาได้ คนทั้งหลายจะตกตะลึงมันก็ไม่แปลก

เพราะร่างวิญญาณนี้มันทรงพลังเกินไป!

ไม่มีทางถูกสังหารลงไม่ว่าจะทำอย่างไร!

มันเรียกว่าเป็นร่างวิญญาณที่ประหลาดยิ่ง

ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนแต่หากอีกฝ่ายไม่มีวันตายแล้วจะยังสู้อะไรกันได้?

แม้ว่าทั้งร่างวิญญาณหมอกหุ้มและร่างวิญญาณสิบรูปนั้นมันจะถูกยกย่องไว้สูงล้ำไม่อาจสังหารลงได้แต่มันก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก!

เพราะร่างสิบรูปนั้นมันยังตายได้

แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีเจ้าโลกคนใดบนสวรรค์ที่จะสังหารเจ้าโลกบู๋เมี่ยลงได้!

ฉินซื่อเถียนนั้นจ้องมองเตาหลอมวิญญาณนั้นด้วยสายตาไม่อยากยอมรับ

มันเป็นไปได้อย่างไร?

สิบรูปนั้นมันย่อมมิใช่จุดสิ้นสุดของร่างวิญญาณ

เหนือจากสิบรูปนั้นมันยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อีกมากมายสามารถให้กำเนิดร่างวิญญาณที่มีพลังแตกต่างกันไปหลากหลาย

เหมือนดั่งตัวเจ้าโลกฟู่เทียนเมื่อสามหมื่นปีก่อน

เขาได้ปลุกร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นและทำชื่อเสียงให้เขาได้อย่างมหาศาล

แต่หลายต่อหลายปีมานี้มันมีร่างวิญญาณใหม่ๆ ถูกปลุกขึ้นมากมายแต่ยังไม่เคยมีร่างวิญญาณใดที่จะเหนือกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!

และตั้งแต่เจ้าโลกบู๋เมี่ยมานั้นมันไม่มีใครสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มได้อีกเลย

นี่มันคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากเกินไป!

คิดมาถึงตรงนี้มันก็ไม่แปลกที่เผ่าวิญญาณจะตั้งไว้ว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากที่สุด!

มิใช่แค่หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุด แต่มันคือสิ่งยากที่สุด!

แต่ว่าวันนี้เย่หยวนกลับสามารถปลุกมันขึ้นมาได้! มันย่อมจะสร้างผลกระทบใหญ่หลวงในวันหน้า!

หลังจากหายตื่นเต้นแล้วตงหยางก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา

เพราะหากโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบของเขาสามารถมียอดอัจฉริยะที่ปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้แล้วมันคงจะเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ล้ำ!

อย่างที่เขาว่า หากเจ้านายได้ดีลูกน้องก็จะพลอยได้ดีตามไปด้วย

สิบรูปนั้นมันจะมีค่าใดต่อหน้าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม?

ได้เห็นสีหน้านั้นของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางตัวฉินซื่อเถียนก็ต้องทำหน้าเหยเก

เขานั้นย่อมเข้าใจความคิดของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง

ร่างวิญญาณนั้นมันขึ้นอยู่กับความหายาก

หากเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงๆ

มันคงได้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของโถงวิญญาณนิพพานล้วนไม้สงบนี่แน่

ส่วนตัวเขาผู้มีร่างวิญญาณสิบรูปคนนี้มันคงไม่สำคัญใดๆ อีกต่อไป

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงหรือ?

“อาจารย์ ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้า! ผ่านมากี่หมื่นปีแล้วมันเคยมีปรากฏขึ้นหรือ? มันจะปรากฏขึ้นมาง่ายๆ ได้อย่างไร? ในความคิดข้านั้นต่อให้เย่หยวนจะปลุกร่างวิญญาณพิเศษขึ้นมาได้มันก็คงแค่ดูคล้ายแต่มิใช่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงๆ หรอก!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้นขัด

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับขึ้นมา

‘ก็จริง มีหรือที่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจะถูกปลุกขึ้นมาได้ง่ายๆ ด้วยแค่เงาเตาหลอมวิญญาณนี้?’

บนสามสิบสามสวรรค์นั้นมันมียอดคนเกิดขึ้นมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

แต่กี่ปีมาแล้วมันกลับมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มแค่หนึ่งเดียว!

ร่างวิญญาณรูปแบบอื่นไม่ว่าจะเป็นของที่หายากแค่ไหนมันก็เคยปรากฏซ้ำขึ้นทั้งสิ้น

มีเพียงแค่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนี้ที่ไม่ปรากฏ

ร่างวิญญาณของคนจากตระกูลวิญญาณฉีนั้นมันเกิดมาจากความโกลาหลย่อมจะแตกต่างจากตระกูลวิญญาณนิพพาน

มหาจักรพรรดิตงหยางขมวดคิ้วแน่นกล่าว “แต่สภาพในตอนนี้ของเขามันไม่ต่างจากร่างวิญญาณหมอกหุ้มในตำนานจริงๆ!”

ฉินซื่อเถียนยิ้มกล่าวขึ้น “เผ่าวิญญาณเรานั้นมีบันทึกร่างวิญญาณมากมายเก็บไว้! หลังจากผ่านมาได้หลายหมื่นหลายแสนปีนี้มันก็ได้มีร่างวิญญาณใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอๆ บางทีร่างวิญญาณของเย่หยวนมันอาจจะคล้ายร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงแต่ว่ามันอาจจะด้อยกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มมากก็ได้! มีหรือที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยที่สองจะเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ เช่นนี้?”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องพยักหน้ารับ!

หลายต่อหลายปีมานี้มันมีเจ้าโลกเกิดขึ้นในเผ่าวิญญาณมากมายและมีอีกมากมายที่ตายตกลง

แต่คนที่ยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคงได้บนยอดนั้นมันคือสามยอดมหาเจ้าโลก!

ตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นย่อมจะอยากให้มีเจ้าโลกคนใหม่ที่ขึ้นไปเทียบเคียงสามมหาเจ้าโลกได้

แต่ว่าพวกเขาไม่อาจจะทำ!

คำพูดของฉินซื่อเถียนนั้นมันทำให้คนทั้งหลายได้สติขึ้นมาทันที

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพยักหน้ารับ “ที่ซื่อเถียนว่ามามันก็ถูก! แต่ว่าหากยังยืนมองระยะนี้ต่อไปพวกเจ้าจะได้ตายกันหมดแล้ว!”

ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังคุยกันไปนั้นเตาหลอมวิญญาณมันก็สั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งแสดงให้เห็นถึงหมอกที่หนามากขึ้น

จนสุดท้ายก็ถึงเวลาสี่ชั่วโมง

ตูม!

เสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมาเพราะเตาหลอมวิญญาณนั้นระเบิดออกปล่อยเศษเสี้ยวพลังกระจัดกระจายไปทั่ว

เต๋าไฟนั้นมันพลุ่งพล่านอย่างไม่อาจหยุดยั้ง!

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีหมอกหนาลงมาท่ามกลางไฟนั้น

สีหน้าของคนทั้งหลายขาวซีดลง!

สามมหาจักรพรรดิล้ำนั้นหรี่ตาลงพร้อมแยกย้ายกันไปสกัดเต๋าไฟและดับมันลงอย่างสุดกำลัง

พร้อมๆ กันนั้นหมอกหนามันก็ค่อยๆ รวมตัวกลับเข้ามาเป็นเงาร่างของเย่หยวนอีกครั้ง

“ซีด…”

คนทั้งหลายต่างต้องสูดหายใจลึกอย่างตกตะลึง

“ไม่ตายจริงๆ! ที่สำคัญไปกว่านั้นสภาพนี้มันยังเหมือนตำนานของร่างวิญญาณหมอกหุ้มไม่มีผิด!”

“หรือว่ามันจะได้มีร่างวิญญาณหุ้มที่สองปรากฏขึ้นหลังจากเจ้าโลกบู๋เมี่ยท่านจริงๆ?”

“เดิมทีข้านั้นคิดว่าเย่หยวนเป็นแค่หินให้ฉินซื่อเถียนเหยียบ แต่ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเขานั้นเป็นหอคอยให้ฉินซื่อเถียนปีน!”

ในโถงวิญญาณนิพพานนั้นมันมีเสียงร้องกล่าวขึ้นรอบด้าน

ไม่มีใครคิดฝันว่าการทดสอบธรรมดาๆ วันหนึ่งมันจะกลายเป็นเช่นนี้ไป

อย่างแรกนั้นคือการที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปตามมาด้วยการที่เย่หยวนปลุกร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

เย่หยวนหันมามองหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ “อ่าว? ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะรอดเต๋าไฟโกลาหลสี่สิบสองอย่างมาได้จริงๆ! เจ้านี่มันมากพรสวรรค์ดีจริงๆ!”

คนทั้งหลายได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นพร้อมหันไปมองหน้าฉินซื่อเถียน

ตอนนี้ตัวฉินซื่อเถียนได้แต่ทำหน้าแห้ง

‘ทำไมมันฟังดูเหมือนคำเย้ยหยัน?’

‘หากข้าเรียกว่าดีแล้วเจ้าจะเป็นตัวอะไรเล่า?’

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!
คนทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถึงได้มีท่าทางเช่นนี้

เพราะแม้แต่ต้องที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปขึ้นมาเมื่อสักครู่เขาก็ยังแค่ร้องลั่นด้วยความดีใจเท่านั้น

แต่ตอนนี้เขากลับมีท่าทางไม่อยากเชื่อ เช่นนั้นแล้วหมอกนั้นมันหมายถึงอะไร?

แต่ฝั่งซีเฉินและหลินฟางนั้นเมื่อได้เห็นก็นึกออกทันทีและต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

“เจ้าจะบอกว่านั่น…คือร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? นี่มัน… เป็นไปได้หรือ?” ซีเฉินกล่าวขึ้น

ตงหยางนั้นสูดหายใจเข้าลึกปรับสติตัวเองก่อนจะตอบไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าจะใช้อะไรมาอธิบายเรื่องที่เต๋าไฟยังไม่หยุดปะทุ? มันไม่ผิดแน่แล้ว มันต้องเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!”

ไม่ไกลออกไปนั้นฉินซื่อเถียนก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาร้อง “หรือว่าอาจารย์จะพูดถึง…ร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเจ้าโลกบู๋เมี่ย?”

ตงหยางพยักหน้ารับกลับไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่าอาจารย์จะพูดถึงร่างวิญญาณหมอกหุ้มไหนได้อีก?”

เท่านั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปจนเกิดความแตกตื่นอย่างมากล้น

“หนึ่งในสามมหาเจ้าโลก เจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ? จะบอกว่าร่างวิญญาณที่เย่หยวนปลุกขึ้นมานี้มันคือร่างวิญญาณเดียวกับท่านหรือ?”

“หรือจะบอกว่าเย่หยวนนั้นอาจจะกำลังเดินในเส้นทางแห่งยอดฝีมือล้ำสวรรค์หรือ?”

“ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! มันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นร่างวิญญาณอมตะ! เหตุผลที่ท่านเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นได้ฉายานี้มาก็เพราะว่าท่านนั้นมีร่างวิญญาณที่สุดแสนแข็งแกร่งไม่อาจถูกสังหารลงได้ เป็นอมตะอย่างแท้จริง! หรือว่า…เย่หยวนจะกลายเป็นคนระดับนั้นได้?”

“ไม่…ไม่มีทางน่า? มันจะ…เช่นนั้นแล้วฉินซื่อเถียนจะไม่กลายเป็นตัวตลกไปหรือ?”

เผ่าวิญญาณนั้นมันมียอดมหาเจ้าโลกอยู่ทั้งสิ้นสามคนคือเจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ เจ้าโลกหลุนฮวยแห่งวัฏสงสาร เจ้าโลกเทียนเหวินวิญญาณสวรรค์!

เจ้าโลกหลุนฮวยและเจ้าโลกเทียนเหวินนั้นเป็นเจ้าโลกโกลาหลที่เกิดขึ้นมาจากทางตระกูลวิญญาณฉี

ส่วนเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเกิดขึ้นมาจากตระกูลวิญญาณนิพพาน!

ที่เรียกว่าเป็นยอดมหาเจ้าโลกนั้นมิใช่เพราะว่าพวกเขาเก่งกาจที่สุดบนสวรรค์นี้แต่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นเก่งกาจที่สุดในเผ่าพันธุ์วิญญาณในทุกสวรรค์รวมกัน!

เจ้าโลกหยุนซานนั้นเก่งกาจล้ำในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

แต่ว่าเขาย่อมจะไม่อาจติดสามอันดับยอดฝีมือแรกของทั้งเผ่ามนุษย์ได้

แต่ว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นหนึ่งในสามเจ้าโลกที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิญญาณ!

ตอนนี้เย่หยวนกลับปลุกร่างวิญญาณเช่นเดียวกับเขาขึ้นมาได้ คนทั้งหลายจะตกตะลึงมันก็ไม่แปลก

เพราะร่างวิญญาณนี้มันทรงพลังเกินไป!

ไม่มีทางถูกสังหารลงไม่ว่าจะทำอย่างไร!

มันเรียกว่าเป็นร่างวิญญาณที่ประหลาดยิ่ง

ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนแต่หากอีกฝ่ายไม่มีวันตายแล้วจะยังสู้อะไรกันได้?

แม้ว่าทั้งร่างวิญญาณหมอกหุ้มและร่างวิญญาณสิบรูปนั้นมันจะถูกยกย่องไว้สูงล้ำไม่อาจสังหารลงได้แต่มันก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก!

เพราะร่างสิบรูปนั้นมันยังตายได้

แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีเจ้าโลกคนใดบนสวรรค์ที่จะสังหารเจ้าโลกบู๋เมี่ยลงได้!

ฉินซื่อเถียนนั้นจ้องมองเตาหลอมวิญญาณนั้นด้วยสายตาไม่อยากยอมรับ

มันเป็นไปได้อย่างไร?

สิบรูปนั้นมันย่อมมิใช่จุดสิ้นสุดของร่างวิญญาณ

เหนือจากสิบรูปนั้นมันยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อีกมากมายสามารถให้กำเนิดร่างวิญญาณที่มีพลังแตกต่างกันไปหลากหลาย

เหมือนดั่งตัวเจ้าโลกฟู่เทียนเมื่อสามหมื่นปีก่อน

เขาได้ปลุกร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นและทำชื่อเสียงให้เขาได้อย่างมหาศาล

แต่หลายต่อหลายปีมานี้มันมีร่างวิญญาณใหม่ๆ ถูกปลุกขึ้นมากมายแต่ยังไม่เคยมีร่างวิญญาณใดที่จะเหนือกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!

และตั้งแต่เจ้าโลกบู๋เมี่ยมานั้นมันไม่มีใครสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มได้อีกเลย

นี่มันคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากเกินไป!

คิดมาถึงตรงนี้มันก็ไม่แปลกที่เผ่าวิญญาณจะตั้งไว้ว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากที่สุด!

มิใช่แค่หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุด แต่มันคือสิ่งยากที่สุด!

แต่ว่าวันนี้เย่หยวนกลับสามารถปลุกมันขึ้นมาได้! มันย่อมจะสร้างผลกระทบใหญ่หลวงในวันหน้า!

หลังจากหายตื่นเต้นแล้วตงหยางก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา

เพราะหากโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบของเขาสามารถมียอดอัจฉริยะที่ปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้แล้วมันคงจะเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ล้ำ!

อย่างที่เขาว่า หากเจ้านายได้ดีลูกน้องก็จะพลอยได้ดีตามไปด้วย

สิบรูปนั้นมันจะมีค่าใดต่อหน้าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม?

ได้เห็นสีหน้านั้นของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางตัวฉินซื่อเถียนก็ต้องทำหน้าเหยเก

เขานั้นย่อมเข้าใจความคิดของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง

ร่างวิญญาณนั้นมันขึ้นอยู่กับความหายาก

หากเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงๆ

มันคงได้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของโถงวิญญาณนิพพานล้วนไม้สงบนี่แน่

ส่วนตัวเขาผู้มีร่างวิญญาณสิบรูปคนนี้มันคงไม่สำคัญใดๆ อีกต่อไป

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงหรือ?

“อาจารย์ ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้า! ผ่านมากี่หมื่นปีแล้วมันเคยมีปรากฏขึ้นหรือ? มันจะปรากฏขึ้นมาง่ายๆ ได้อย่างไร? ในความคิดข้านั้นต่อให้เย่หยวนจะปลุกร่างวิญญาณพิเศษขึ้นมาได้มันก็คงแค่ดูคล้ายแต่มิใช่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงๆ หรอก!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้นขัด

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับขึ้นมา

‘ก็จริง มีหรือที่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจะถูกปลุกขึ้นมาได้ง่ายๆ ด้วยแค่เงาเตาหลอมวิญญาณนี้?’

บนสามสิบสามสวรรค์นั้นมันมียอดคนเกิดขึ้นมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

แต่กี่ปีมาแล้วมันกลับมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มแค่หนึ่งเดียว!

ร่างวิญญาณรูปแบบอื่นไม่ว่าจะเป็นของที่หายากแค่ไหนมันก็เคยปรากฏซ้ำขึ้นทั้งสิ้น

มีเพียงแค่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนี้ที่ไม่ปรากฏ

ร่างวิญญาณของคนจากตระกูลวิญญาณฉีนั้นมันเกิดมาจากความโกลาหลย่อมจะแตกต่างจากตระกูลวิญญาณนิพพาน

มหาจักรพรรดิตงหยางขมวดคิ้วแน่นกล่าว “แต่สภาพในตอนนี้ของเขามันไม่ต่างจากร่างวิญญาณหมอกหุ้มในตำนานจริงๆ!”

ฉินซื่อเถียนยิ้มกล่าวขึ้น “เผ่าวิญญาณเรานั้นมีบันทึกร่างวิญญาณมากมายเก็บไว้! หลังจากผ่านมาได้หลายหมื่นหลายแสนปีนี้มันก็ได้มีร่างวิญญาณใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอๆ บางทีร่างวิญญาณของเย่หยวนมันอาจจะคล้ายร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงแต่ว่ามันอาจจะด้อยกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มมากก็ได้! มีหรือที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยที่สองจะเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ เช่นนี้?”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องพยักหน้ารับ!

หลายต่อหลายปีมานี้มันมีเจ้าโลกเกิดขึ้นในเผ่าวิญญาณมากมายและมีอีกมากมายที่ตายตกลง

แต่คนที่ยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคงได้บนยอดนั้นมันคือสามยอดมหาเจ้าโลก!

ตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นย่อมจะอยากให้มีเจ้าโลกคนใหม่ที่ขึ้นไปเทียบเคียงสามมหาเจ้าโลกได้

แต่ว่าพวกเขาไม่อาจจะทำ!

คำพูดของฉินซื่อเถียนนั้นมันทำให้คนทั้งหลายได้สติขึ้นมาทันที

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพยักหน้ารับ “ที่ซื่อเถียนว่ามามันก็ถูก! แต่ว่าหากยังยืนมองระยะนี้ต่อไปพวกเจ้าจะได้ตายกันหมดแล้ว!”

ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังคุยกันไปนั้นเตาหลอมวิญญาณมันก็สั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งแสดงให้เห็นถึงหมอกที่หนามากขึ้น

จนสุดท้ายก็ถึงเวลาสี่ชั่วโมง

ตูม!

เสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมาเพราะเตาหลอมวิญญาณนั้นระเบิดออกปล่อยเศษเสี้ยวพลังกระจัดกระจายไปทั่ว

เต๋าไฟนั้นมันพลุ่งพล่านอย่างไม่อาจหยุดยั้ง!

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีหมอกหนาลงมาท่ามกลางไฟนั้น

สีหน้าของคนทั้งหลายขาวซีดลง!

สามมหาจักรพรรดิล้ำนั้นหรี่ตาลงพร้อมแยกย้ายกันไปสกัดเต๋าไฟและดับมันลงอย่างสุดกำลัง

พร้อมๆ กันนั้นหมอกหนามันก็ค่อยๆ รวมตัวกลับเข้ามาเป็นเงาร่างของเย่หยวนอีกครั้ง

“ซีด…”

คนทั้งหลายต่างต้องสูดหายใจลึกอย่างตกตะลึง

“ไม่ตายจริงๆ! ที่สำคัญไปกว่านั้นสภาพนี้มันยังเหมือนตำนานของร่างวิญญาณหมอกหุ้มไม่มีผิด!”

“หรือว่ามันจะได้มีร่างวิญญาณหุ้มที่สองปรากฏขึ้นหลังจากเจ้าโลกบู๋เมี่ยท่านจริงๆ?”

“เดิมทีข้านั้นคิดว่าเย่หยวนเป็นแค่หินให้ฉินซื่อเถียนเหยียบ แต่ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเขานั้นเป็นหอคอยให้ฉินซื่อเถียนปีน!”

ในโถงวิญญาณนิพพานนั้นมันมีเสียงร้องกล่าวขึ้นรอบด้าน

ไม่มีใครคิดฝันว่าการทดสอบธรรมดาๆ วันหนึ่งมันจะกลายเป็นเช่นนี้ไป

อย่างแรกนั้นคือการที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปตามมาด้วยการที่เย่หยวนปลุกร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

เย่หยวนหันมามองหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ “อ่าว? ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะรอดเต๋าไฟโกลาหลสี่สิบสองอย่างมาได้จริงๆ! เจ้านี่มันมากพรสวรรค์ดีจริงๆ!”

คนทั้งหลายได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นพร้อมหันไปมองหน้าฉินซื่อเถียน

ตอนนี้ตัวฉินซื่อเถียนได้แต่ทำหน้าแห้ง

‘ทำไมมันฟังดูเหมือนคำเย้ยหยัน?’

‘หากข้าเรียกว่าดีแล้วเจ้าจะเป็นตัวอะไรเล่า?’

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!
คนทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถึงได้มีท่าทางเช่นนี้

เพราะแม้แต่ต้องที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปขึ้นมาเมื่อสักครู่เขาก็ยังแค่ร้องลั่นด้วยความดีใจเท่านั้น

แต่ตอนนี้เขากลับมีท่าทางไม่อยากเชื่อ เช่นนั้นแล้วหมอกนั้นมันหมายถึงอะไร?

แต่ฝั่งซีเฉินและหลินฟางนั้นเมื่อได้เห็นก็นึกออกทันทีและต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

“เจ้าจะบอกว่านั่น…คือร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? นี่มัน… เป็นไปได้หรือ?” ซีเฉินกล่าวขึ้น

ตงหยางนั้นสูดหายใจเข้าลึกปรับสติตัวเองก่อนจะตอบไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าจะใช้อะไรมาอธิบายเรื่องที่เต๋าไฟยังไม่หยุดปะทุ? มันไม่ผิดแน่แล้ว มันต้องเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!”

ไม่ไกลออกไปนั้นฉินซื่อเถียนก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาร้อง “หรือว่าอาจารย์จะพูดถึง…ร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเจ้าโลกบู๋เมี่ย?”

ตงหยางพยักหน้ารับกลับไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่าอาจารย์จะพูดถึงร่างวิญญาณหมอกหุ้มไหนได้อีก?”

เท่านั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปจนเกิดความแตกตื่นอย่างมากล้น

“หนึ่งในสามมหาเจ้าโลก เจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ? จะบอกว่าร่างวิญญาณที่เย่หยวนปลุกขึ้นมานี้มันคือร่างวิญญาณเดียวกับท่านหรือ?”

“หรือจะบอกว่าเย่หยวนนั้นอาจจะกำลังเดินในเส้นทางแห่งยอดฝีมือล้ำสวรรค์หรือ?”

“ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! มันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นร่างวิญญาณอมตะ! เหตุผลที่ท่านเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นได้ฉายานี้มาก็เพราะว่าท่านนั้นมีร่างวิญญาณที่สุดแสนแข็งแกร่งไม่อาจถูกสังหารลงได้ เป็นอมตะอย่างแท้จริง! หรือว่า…เย่หยวนจะกลายเป็นคนระดับนั้นได้?”

“ไม่…ไม่มีทางน่า? มันจะ…เช่นนั้นแล้วฉินซื่อเถียนจะไม่กลายเป็นตัวตลกไปหรือ?”

เผ่าวิญญาณนั้นมันมียอดมหาเจ้าโลกอยู่ทั้งสิ้นสามคนคือเจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ เจ้าโลกหลุนฮวยแห่งวัฏสงสาร เจ้าโลกเทียนเหวินวิญญาณสวรรค์!

เจ้าโลกหลุนฮวยและเจ้าโลกเทียนเหวินนั้นเป็นเจ้าโลกโกลาหลที่เกิดขึ้นมาจากทางตระกูลวิญญาณฉี

ส่วนเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเกิดขึ้นมาจากตระกูลวิญญาณนิพพาน!

ที่เรียกว่าเป็นยอดมหาเจ้าโลกนั้นมิใช่เพราะว่าพวกเขาเก่งกาจที่สุดบนสวรรค์นี้แต่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นเก่งกาจที่สุดในเผ่าพันธุ์วิญญาณในทุกสวรรค์รวมกัน!

เจ้าโลกหยุนซานนั้นเก่งกาจล้ำในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

แต่ว่าเขาย่อมจะไม่อาจติดสามอันดับยอดฝีมือแรกของทั้งเผ่ามนุษย์ได้

แต่ว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นหนึ่งในสามเจ้าโลกที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิญญาณ!

ตอนนี้เย่หยวนกลับปลุกร่างวิญญาณเช่นเดียวกับเขาขึ้นมาได้ คนทั้งหลายจะตกตะลึงมันก็ไม่แปลก

เพราะร่างวิญญาณนี้มันทรงพลังเกินไป!

ไม่มีทางถูกสังหารลงไม่ว่าจะทำอย่างไร!

มันเรียกว่าเป็นร่างวิญญาณที่ประหลาดยิ่ง

ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนแต่หากอีกฝ่ายไม่มีวันตายแล้วจะยังสู้อะไรกันได้?

แม้ว่าทั้งร่างวิญญาณหมอกหุ้มและร่างวิญญาณสิบรูปนั้นมันจะถูกยกย่องไว้สูงล้ำไม่อาจสังหารลงได้แต่มันก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก!

เพราะร่างสิบรูปนั้นมันยังตายได้

แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีเจ้าโลกคนใดบนสวรรค์ที่จะสังหารเจ้าโลกบู๋เมี่ยลงได้!

ฉินซื่อเถียนนั้นจ้องมองเตาหลอมวิญญาณนั้นด้วยสายตาไม่อยากยอมรับ

มันเป็นไปได้อย่างไร?

สิบรูปนั้นมันย่อมมิใช่จุดสิ้นสุดของร่างวิญญาณ

เหนือจากสิบรูปนั้นมันยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อีกมากมายสามารถให้กำเนิดร่างวิญญาณที่มีพลังแตกต่างกันไปหลากหลาย

เหมือนดั่งตัวเจ้าโลกฟู่เทียนเมื่อสามหมื่นปีก่อน

เขาได้ปลุกร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นและทำชื่อเสียงให้เขาได้อย่างมหาศาล

แต่หลายต่อหลายปีมานี้มันมีร่างวิญญาณใหม่ๆ ถูกปลุกขึ้นมากมายแต่ยังไม่เคยมีร่างวิญญาณใดที่จะเหนือกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!

และตั้งแต่เจ้าโลกบู๋เมี่ยมานั้นมันไม่มีใครสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มได้อีกเลย

นี่มันคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากเกินไป!

คิดมาถึงตรงนี้มันก็ไม่แปลกที่เผ่าวิญญาณจะตั้งไว้ว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากที่สุด!

มิใช่แค่หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุด แต่มันคือสิ่งยากที่สุด!

แต่ว่าวันนี้เย่หยวนกลับสามารถปลุกมันขึ้นมาได้! มันย่อมจะสร้างผลกระทบใหญ่หลวงในวันหน้า!

หลังจากหายตื่นเต้นแล้วตงหยางก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา

เพราะหากโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบของเขาสามารถมียอดอัจฉริยะที่ปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้แล้วมันคงจะเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ล้ำ!

อย่างที่เขาว่า หากเจ้านายได้ดีลูกน้องก็จะพลอยได้ดีตามไปด้วย

สิบรูปนั้นมันจะมีค่าใดต่อหน้าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม?

ได้เห็นสีหน้านั้นของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางตัวฉินซื่อเถียนก็ต้องทำหน้าเหยเก

เขานั้นย่อมเข้าใจความคิดของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง

ร่างวิญญาณนั้นมันขึ้นอยู่กับความหายาก

หากเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงๆ

มันคงได้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของโถงวิญญาณนิพพานล้วนไม้สงบนี่แน่

ส่วนตัวเขาผู้มีร่างวิญญาณสิบรูปคนนี้มันคงไม่สำคัญใดๆ อีกต่อไป

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงหรือ?

“อาจารย์ ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้า! ผ่านมากี่หมื่นปีแล้วมันเคยมีปรากฏขึ้นหรือ? มันจะปรากฏขึ้นมาง่ายๆ ได้อย่างไร? ในความคิดข้านั้นต่อให้เย่หยวนจะปลุกร่างวิญญาณพิเศษขึ้นมาได้มันก็คงแค่ดูคล้ายแต่มิใช่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงๆ หรอก!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้นขัด

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับขึ้นมา

‘ก็จริง มีหรือที่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจะถูกปลุกขึ้นมาได้ง่ายๆ ด้วยแค่เงาเตาหลอมวิญญาณนี้?’

บนสามสิบสามสวรรค์นั้นมันมียอดคนเกิดขึ้นมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

แต่กี่ปีมาแล้วมันกลับมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มแค่หนึ่งเดียว!

ร่างวิญญาณรูปแบบอื่นไม่ว่าจะเป็นของที่หายากแค่ไหนมันก็เคยปรากฏซ้ำขึ้นทั้งสิ้น

มีเพียงแค่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนี้ที่ไม่ปรากฏ

ร่างวิญญาณของคนจากตระกูลวิญญาณฉีนั้นมันเกิดมาจากความโกลาหลย่อมจะแตกต่างจากตระกูลวิญญาณนิพพาน

มหาจักรพรรดิตงหยางขมวดคิ้วแน่นกล่าว “แต่สภาพในตอนนี้ของเขามันไม่ต่างจากร่างวิญญาณหมอกหุ้มในตำนานจริงๆ!”

ฉินซื่อเถียนยิ้มกล่าวขึ้น “เผ่าวิญญาณเรานั้นมีบันทึกร่างวิญญาณมากมายเก็บไว้! หลังจากผ่านมาได้หลายหมื่นหลายแสนปีนี้มันก็ได้มีร่างวิญญาณใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอๆ บางทีร่างวิญญาณของเย่หยวนมันอาจจะคล้ายร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงแต่ว่ามันอาจจะด้อยกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มมากก็ได้! มีหรือที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยที่สองจะเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ เช่นนี้?”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องพยักหน้ารับ!

หลายต่อหลายปีมานี้มันมีเจ้าโลกเกิดขึ้นในเผ่าวิญญาณมากมายและมีอีกมากมายที่ตายตกลง

แต่คนที่ยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคงได้บนยอดนั้นมันคือสามยอดมหาเจ้าโลก!

ตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นย่อมจะอยากให้มีเจ้าโลกคนใหม่ที่ขึ้นไปเทียบเคียงสามมหาเจ้าโลกได้

แต่ว่าพวกเขาไม่อาจจะทำ!

คำพูดของฉินซื่อเถียนนั้นมันทำให้คนทั้งหลายได้สติขึ้นมาทันที

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพยักหน้ารับ “ที่ซื่อเถียนว่ามามันก็ถูก! แต่ว่าหากยังยืนมองระยะนี้ต่อไปพวกเจ้าจะได้ตายกันหมดแล้ว!”

ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังคุยกันไปนั้นเตาหลอมวิญญาณมันก็สั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งแสดงให้เห็นถึงหมอกที่หนามากขึ้น

จนสุดท้ายก็ถึงเวลาสี่ชั่วโมง

ตูม!

เสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมาเพราะเตาหลอมวิญญาณนั้นระเบิดออกปล่อยเศษเสี้ยวพลังกระจัดกระจายไปทั่ว

เต๋าไฟนั้นมันพลุ่งพล่านอย่างไม่อาจหยุดยั้ง!

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีหมอกหนาลงมาท่ามกลางไฟนั้น

สีหน้าของคนทั้งหลายขาวซีดลง!

สามมหาจักรพรรดิล้ำนั้นหรี่ตาลงพร้อมแยกย้ายกันไปสกัดเต๋าไฟและดับมันลงอย่างสุดกำลัง

พร้อมๆ กันนั้นหมอกหนามันก็ค่อยๆ รวมตัวกลับเข้ามาเป็นเงาร่างของเย่หยวนอีกครั้ง

“ซีด…”

คนทั้งหลายต่างต้องสูดหายใจลึกอย่างตกตะลึง

“ไม่ตายจริงๆ! ที่สำคัญไปกว่านั้นสภาพนี้มันยังเหมือนตำนานของร่างวิญญาณหมอกหุ้มไม่มีผิด!”

“หรือว่ามันจะได้มีร่างวิญญาณหุ้มที่สองปรากฏขึ้นหลังจากเจ้าโลกบู๋เมี่ยท่านจริงๆ?”

“เดิมทีข้านั้นคิดว่าเย่หยวนเป็นแค่หินให้ฉินซื่อเถียนเหยียบ แต่ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเขานั้นเป็นหอคอยให้ฉินซื่อเถียนปีน!”

ในโถงวิญญาณนิพพานนั้นมันมีเสียงร้องกล่าวขึ้นรอบด้าน

ไม่มีใครคิดฝันว่าการทดสอบธรรมดาๆ วันหนึ่งมันจะกลายเป็นเช่นนี้ไป

อย่างแรกนั้นคือการที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปตามมาด้วยการที่เย่หยวนปลุกร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

เย่หยวนหันมามองหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ “อ่าว? ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะรอดเต๋าไฟโกลาหลสี่สิบสองอย่างมาได้จริงๆ! เจ้านี่มันมากพรสวรรค์ดีจริงๆ!”

คนทั้งหลายได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นพร้อมหันไปมองหน้าฉินซื่อเถียน

ตอนนี้ตัวฉินซื่อเถียนได้แต่ทำหน้าแห้ง

‘ทำไมมันฟังดูเหมือนคำเย้ยหยัน?’

‘หากข้าเรียกว่าดีแล้วเจ้าจะเป็นตัวอะไรเล่า?’

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2932 ร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!
คนทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเข้าใจได้ว่าทำไมมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถึงได้มีท่าทางเช่นนี้

เพราะแม้แต่ต้องที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปขึ้นมาเมื่อสักครู่เขาก็ยังแค่ร้องลั่นด้วยความดีใจเท่านั้น

แต่ตอนนี้เขากลับมีท่าทางไม่อยากเชื่อ เช่นนั้นแล้วหมอกนั้นมันหมายถึงอะไร?

แต่ฝั่งซีเฉินและหลินฟางนั้นเมื่อได้เห็นก็นึกออกทันทีและต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

“เจ้าจะบอกว่านั่น…คือร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? นี่มัน… เป็นไปได้หรือ?” ซีเฉินกล่าวขึ้น

ตงหยางนั้นสูดหายใจเข้าลึกปรับสติตัวเองก่อนจะตอบไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าจะใช้อะไรมาอธิบายเรื่องที่เต๋าไฟยังไม่หยุดปะทุ? มันไม่ผิดแน่แล้ว มันต้องเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!”

ไม่ไกลออกไปนั้นฉินซื่อเถียนก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาร้อง “หรือว่าอาจารย์จะพูดถึง…ร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเจ้าโลกบู๋เมี่ย?”

ตงหยางพยักหน้ารับกลับไป “ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่าอาจารย์จะพูดถึงร่างวิญญาณหมอกหุ้มไหนได้อีก?”

เท่านั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไปจนเกิดความแตกตื่นอย่างมากล้น

“หนึ่งในสามมหาเจ้าโลก เจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ? จะบอกว่าร่างวิญญาณที่เย่หยวนปลุกขึ้นมานี้มันคือร่างวิญญาณเดียวกับท่านหรือ?”

“หรือจะบอกว่าเย่หยวนนั้นอาจจะกำลังเดินในเส้นทางแห่งยอดฝีมือล้ำสวรรค์หรือ?”

“ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! มันเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเป็นร่างวิญญาณอมตะ! เหตุผลที่ท่านเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นได้ฉายานี้มาก็เพราะว่าท่านนั้นมีร่างวิญญาณที่สุดแสนแข็งแกร่งไม่อาจถูกสังหารลงได้ เป็นอมตะอย่างแท้จริง! หรือว่า…เย่หยวนจะกลายเป็นคนระดับนั้นได้?”

“ไม่…ไม่มีทางน่า? มันจะ…เช่นนั้นแล้วฉินซื่อเถียนจะไม่กลายเป็นตัวตลกไปหรือ?”

เผ่าวิญญาณนั้นมันมียอดมหาเจ้าโลกอยู่ทั้งสิ้นสามคนคือเจ้าโลกบู๋เมี่ยผู้อมตะ เจ้าโลกหลุนฮวยแห่งวัฏสงสาร เจ้าโลกเทียนเหวินวิญญาณสวรรค์!

เจ้าโลกหลุนฮวยและเจ้าโลกเทียนเหวินนั้นเป็นเจ้าโลกโกลาหลที่เกิดขึ้นมาจากทางตระกูลวิญญาณฉี

ส่วนเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเกิดขึ้นมาจากตระกูลวิญญาณนิพพาน!

ที่เรียกว่าเป็นยอดมหาเจ้าโลกนั้นมิใช่เพราะว่าพวกเขาเก่งกาจที่สุดบนสวรรค์นี้แต่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นเก่งกาจที่สุดในเผ่าพันธุ์วิญญาณในทุกสวรรค์รวมกัน!

เจ้าโลกหยุนซานนั้นเก่งกาจล้ำในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

แต่ว่าเขาย่อมจะไม่อาจติดสามอันดับยอดฝีมือแรกของทั้งเผ่ามนุษย์ได้

แต่ว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นหนึ่งในสามเจ้าโลกที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิญญาณ!

ตอนนี้เย่หยวนกลับปลุกร่างวิญญาณเช่นเดียวกับเขาขึ้นมาได้ คนทั้งหลายจะตกตะลึงมันก็ไม่แปลก

เพราะร่างวิญญาณนี้มันทรงพลังเกินไป!

ไม่มีทางถูกสังหารลงไม่ว่าจะทำอย่างไร!

มันเรียกว่าเป็นร่างวิญญาณที่ประหลาดยิ่ง

ไม่ว่าจะเก่งกาจแค่ไหนแต่หากอีกฝ่ายไม่มีวันตายแล้วจะยังสู้อะไรกันได้?

แม้ว่าทั้งร่างวิญญาณหมอกหุ้มและร่างวิญญาณสิบรูปนั้นมันจะถูกยกย่องไว้สูงล้ำไม่อาจสังหารลงได้แต่มันก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก!

เพราะร่างสิบรูปนั้นมันยังตายได้

แต่จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีเจ้าโลกคนใดบนสวรรค์ที่จะสังหารเจ้าโลกบู๋เมี่ยลงได้!

ฉินซื่อเถียนนั้นจ้องมองเตาหลอมวิญญาณนั้นด้วยสายตาไม่อยากยอมรับ

มันเป็นไปได้อย่างไร?

สิบรูปนั้นมันย่อมมิใช่จุดสิ้นสุดของร่างวิญญาณ

เหนือจากสิบรูปนั้นมันยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อีกมากมายสามารถให้กำเนิดร่างวิญญาณที่มีพลังแตกต่างกันไปหลากหลาย

เหมือนดั่งตัวเจ้าโลกฟู่เทียนเมื่อสามหมื่นปีก่อน

เขาได้ปลุกร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นและทำชื่อเสียงให้เขาได้อย่างมหาศาล

แต่หลายต่อหลายปีมานี้มันมีร่างวิญญาณใหม่ๆ ถูกปลุกขึ้นมากมายแต่ยังไม่เคยมีร่างวิญญาณใดที่จะเหนือกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม!

และตั้งแต่เจ้าโลกบู๋เมี่ยมานั้นมันไม่มีใครสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มได้อีกเลย

นี่มันคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากเกินไป!

คิดมาถึงตรงนี้มันก็ไม่แปลกที่เผ่าวิญญาณจะตั้งไว้ว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นคือร่างวิญญาณที่ปลุกขึ้นได้ยากที่สุด!

มิใช่แค่หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุด แต่มันคือสิ่งยากที่สุด!

แต่ว่าวันนี้เย่หยวนกลับสามารถปลุกมันขึ้นมาได้! มันย่อมจะสร้างผลกระทบใหญ่หลวงในวันหน้า!

หลังจากหายตื่นเต้นแล้วตงหยางก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา

เพราะหากโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบของเขาสามารถมียอดอัจฉริยะที่ปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้แล้วมันคงจะเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ล้ำ!

อย่างที่เขาว่า หากเจ้านายได้ดีลูกน้องก็จะพลอยได้ดีตามไปด้วย

สิบรูปนั้นมันจะมีค่าใดต่อหน้าร่างวิญญาณหมอกหุ้ม?

ได้เห็นสีหน้านั้นของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยางตัวฉินซื่อเถียนก็ต้องทำหน้าเหยเก

เขานั้นย่อมเข้าใจความคิดของมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง

ร่างวิญญาณนั้นมันขึ้นอยู่กับความหายาก

หากเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงๆ

มันคงได้กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของโถงวิญญาณนิพพานล้วนไม้สงบนี่แน่

ส่วนตัวเขาผู้มีร่างวิญญาณสิบรูปคนนี้มันคงไม่สำคัญใดๆ อีกต่อไป

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือเย่หยวนสามารถปลุกร่างวิญญาณหมอกหุ้มขึ้นมาได้จริงหรือ?

“อาจารย์ ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้า! ผ่านมากี่หมื่นปีแล้วมันเคยมีปรากฏขึ้นหรือ? มันจะปรากฏขึ้นมาง่ายๆ ได้อย่างไร? ในความคิดข้านั้นต่อให้เย่หยวนจะปลุกร่างวิญญาณพิเศษขึ้นมาได้มันก็คงแค่ดูคล้ายแต่มิใช่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงๆ หรอก!” ฉินซื่อเถียนกล่าวขึ้นขัด

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับขึ้นมา

‘ก็จริง มีหรือที่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มจะถูกปลุกขึ้นมาได้ง่ายๆ ด้วยแค่เงาเตาหลอมวิญญาณนี้?’

บนสามสิบสามสวรรค์นั้นมันมียอดคนเกิดขึ้นมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

แต่กี่ปีมาแล้วมันกลับมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มแค่หนึ่งเดียว!

ร่างวิญญาณรูปแบบอื่นไม่ว่าจะเป็นของที่หายากแค่ไหนมันก็เคยปรากฏซ้ำขึ้นทั้งสิ้น

มีเพียงแค่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนี้ที่ไม่ปรากฏ

ร่างวิญญาณของคนจากตระกูลวิญญาณฉีนั้นมันเกิดมาจากความโกลาหลย่อมจะแตกต่างจากตระกูลวิญญาณนิพพาน

มหาจักรพรรดิตงหยางขมวดคิ้วแน่นกล่าว “แต่สภาพในตอนนี้ของเขามันไม่ต่างจากร่างวิญญาณหมอกหุ้มในตำนานจริงๆ!”

ฉินซื่อเถียนยิ้มกล่าวขึ้น “เผ่าวิญญาณเรานั้นมีบันทึกร่างวิญญาณมากมายเก็บไว้! หลังจากผ่านมาได้หลายหมื่นหลายแสนปีนี้มันก็ได้มีร่างวิญญาณใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอๆ บางทีร่างวิญญาณของเย่หยวนมันอาจจะคล้ายร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริงแต่ว่ามันอาจจะด้อยกว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มมากก็ได้! มีหรือที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยที่สองจะเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ เช่นนี้?”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องพยักหน้ารับ!

หลายต่อหลายปีมานี้มันมีเจ้าโลกเกิดขึ้นในเผ่าวิญญาณมากมายและมีอีกมากมายที่ตายตกลง

แต่คนที่ยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคงได้บนยอดนั้นมันคือสามยอดมหาเจ้าโลก!

ตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นย่อมจะอยากให้มีเจ้าโลกคนใหม่ที่ขึ้นไปเทียบเคียงสามมหาเจ้าโลกได้

แต่ว่าพวกเขาไม่อาจจะทำ!

คำพูดของฉินซื่อเถียนนั้นมันทำให้คนทั้งหลายได้สติขึ้นมาทันที

มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นพยักหน้ารับ “ที่ซื่อเถียนว่ามามันก็ถูก! แต่ว่าหากยังยืนมองระยะนี้ต่อไปพวกเจ้าจะได้ตายกันหมดแล้ว!”

ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังคุยกันไปนั้นเตาหลอมวิญญาณมันก็สั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งแสดงให้เห็นถึงหมอกที่หนามากขึ้น

จนสุดท้ายก็ถึงเวลาสี่ชั่วโมง

ตูม!

เสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมาเพราะเตาหลอมวิญญาณนั้นระเบิดออกปล่อยเศษเสี้ยวพลังกระจัดกระจายไปทั่ว

เต๋าไฟนั้นมันพลุ่งพล่านอย่างไม่อาจหยุดยั้ง!

พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีหมอกหนาลงมาท่ามกลางไฟนั้น

สีหน้าของคนทั้งหลายขาวซีดลง!

สามมหาจักรพรรดิล้ำนั้นหรี่ตาลงพร้อมแยกย้ายกันไปสกัดเต๋าไฟและดับมันลงอย่างสุดกำลัง

พร้อมๆ กันนั้นหมอกหนามันก็ค่อยๆ รวมตัวกลับเข้ามาเป็นเงาร่างของเย่หยวนอีกครั้ง

“ซีด…”

คนทั้งหลายต่างต้องสูดหายใจลึกอย่างตกตะลึง

“ไม่ตายจริงๆ! ที่สำคัญไปกว่านั้นสภาพนี้มันยังเหมือนตำนานของร่างวิญญาณหมอกหุ้มไม่มีผิด!”

“หรือว่ามันจะได้มีร่างวิญญาณหุ้มที่สองปรากฏขึ้นหลังจากเจ้าโลกบู๋เมี่ยท่านจริงๆ?”

“เดิมทีข้านั้นคิดว่าเย่หยวนเป็นแค่หินให้ฉินซื่อเถียนเหยียบ แต่ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าเขานั้นเป็นหอคอยให้ฉินซื่อเถียนปีน!”

ในโถงวิญญาณนิพพานนั้นมันมีเสียงร้องกล่าวขึ้นรอบด้าน

ไม่มีใครคิดฝันว่าการทดสอบธรรมดาๆ วันหนึ่งมันจะกลายเป็นเช่นนี้ไป

อย่างแรกนั้นคือการที่ฉินซื่อเถียนบรรลุสิบรูปตามมาด้วยการที่เย่หยวนปลุกร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด!

เย่หยวนหันมามองหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ “อ่าว? ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะรอดเต๋าไฟโกลาหลสี่สิบสองอย่างมาได้จริงๆ! เจ้านี่มันมากพรสวรรค์ดีจริงๆ!”

คนทั้งหลายได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นพร้อมหันไปมองหน้าฉินซื่อเถียน

ตอนนี้ตัวฉินซื่อเถียนได้แต่ทำหน้าแห้ง

‘ทำไมมันฟังดูเหมือนคำเย้ยหยัน?’

‘หากข้าเรียกว่าดีแล้วเจ้าจะเป็นตัวอะไรเล่า?’

………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+