Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2948 เหลิง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2948 เหลิง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2948 เหลิง!

“ข้า…ข้าไม่ไหวแล้ว!” เจิ้งหยูนั้นได้แต่ต้องหันไปยิ้มแห้งๆ ให้เย่หยวน

เขานั้นลองอยู่เกือบครึ่งวันแต่สุดท้ายก็ยังไม่อาจผสานมันเข้าไปได้

จากนั้นมันก็มีอีกหลายคนที่ขอออกมาลองแต่ก็ไม่มีใครสามารถผสานได้

ดูแล้วการผสานคลื่นกำเนิดมันย่อมจะมิใช่เรื่องง่ายสำหรับคนทั้งหลาย

“ข้าขอลองบ้าง!” ไป๋ชุยซานก้าวออกมา

ไม่มีใครสามารถทนความเย้ายวนของคลื่นกำเนิดได้ แน่นอนว่าไป๋ชุยซานก็เช่นกัน

ได้เห็นคนมากมายล้มเหลวเช่นนี้ เขาเองก็อยากจะลองดูบ้าง

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “พี่ไป๋ ท่านเชื่อข้าหรือไม่?”

ไป๋ชุยซานยิ้มตอบกลับไป “ไม่มีเจ้า เย่หยวนมันก็ไม่มีข้าไป๋ชุยซานคนนี้! หากข้าไม่เชื่อเจ้าแล้วจะให้ข้าไปเชื่อใคร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากท่านเชื่อข้าท่านอย่าหลอมตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิด”

ไป๋ชุยซานผงะไปเมื่อได้ยิน “ทำไมเล่า?”

เย่หยวนตอบกลับไป “คลื่นกำเนิดนี้เป็นเหมือนดาบที่คมกริบ แต่ก็เป็นโซ่ตรวนหนาเช่นกัน! แถมท่านนั้นก็ได้รับสมบัติสืบทอดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยแล้ว มันก็ไม่ต้องมาหลอมตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิดของท่านอีก และตราบใดที่ท่านเดินตามเส้นทางนี้ไปเรื่อยๆ ความสำเร็จของท่านย่อมจะอยู่เหนือคนที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้ด้วยซ้ำ! เพราะแท้จริงแล้วแม้แต่ตอนนี้เองท่านก็คงมีพลังเหนือกว่าคนที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดด้วย!”

เย่หยวนนั้นก็ผสานตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิดมาก่อน และคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นก็แตกต่างจากเลือดต้นของศิลาโลหิตโกลาหลอย่างสิ้นเชิง

เพราะว่าคลื่นกำเนิดจากเลือดต้นนั้นเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์อย่างมาก และเกิดขึ้นมาจากความโกลาหลโดยแท้!

มันสุดแสนที่จะบริสุทธิ์!

เย่หยวนจึงสามารถหลอมมันเข้ามาในดาบเต๋าได้อย่างไม่มีผลข้างเคียง!

แต่ว่าคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมันเต็มไปด้วยเอกลักษณ์

เพราะมันคือเต๋าของเจ้าโลกบู๋เมี่ย

หากผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้…

พลังของคนผู้นั้นก็คงพุ่งทะยานไปได้ในทันที

แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใดมันก็ยากที่จะพัฒนาต่อไปได้ด้วยตัวเอง

เมื่อไปจนถึงระดับคลื่นกำเนิด และคิดอยากจะบรรลุเจ้าโลกในตอนนั้นมันคงมิใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป!

เย่หยวนนั้นเห็นว่าไป๋ชุยซานนั้นเป็นคนดี แม้ว่าจะชอบขี้โม้อวดตัว แต่เขานั้นก็ซื่อสัตย์ไม่เหมือนใคร

ในรอบแรกเขาเสียเวลามาโน้มน้าวให้เย่หยวนออกไปตามหาคลื่นกำเนิดอยู่นาน

จากนั้นไป๋ชุยซานยังเป็นคนที่สามารถฝึกฝนและเข้าใจเต๋าทั้งหลายในเจดีย์เจ็ดสีนี้ได้มากกว่าใครๆ!

ความสามารถในตอนนี้ของเขามันเหนือกว่าหวางเฉียนไปมากแล้ว!

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงคิดห้ามเขาไว้

ไป๋ชุยซานนั้นหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ “ก็ได้ ข้าจะไม่ผสานกับมัน! หากพวกเจ้าคนใดอยากลองก็ลองเลย!”

คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างมองหน้าไป๋ชุยซานเมื่อได้ยิน

เจ้านี่มันบ้าไปแล้ว?

คำพูดเดียวของเย่หยวนนั้นมันกลับทำให้เขาทิ้งคลื่นกำเนิดไป?

ต่อให้มันอาจจะขัดขวางทำให้บรรลุเจ้าโลกยาก

แต่แค่ขึ้นไปเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นี้มันก็เป็นสิ่งที่ยอดอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วนไม่อาจทำได้แล้ว!

คนทั้งหลายในที่นี้ส่วนมากยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์

ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าใดกว่าที่พวกเขาจะบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้!

แต่เขานั้นกลับไม่อยากได้สมบัติล้ำค่านี้?

แม้ว่าไป๋ชุยซานนั้นจะได้รับความช่วยเหลือจากเย่หยวนมามากก็จริง

แต่ไป๋ชุยซานเองก็เป็นคนโง่ที่กลับเชื่อคำของเย่หยวนไปง่ายๆ อย่างไม่คิดเช่นนี้

คนทั้งหลายเริ่มกระซิบกระซาบกันขึ้นมา

เมื่อหวางเฉียนเห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้เช่นกัน

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นผู้ที่เดินนำในเส้นทางของพวกเขาทั้งหลาย!

พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างเป็นผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะ

และทำไมคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นจะสร้างปัญหาหยุดพวกเขาจากการบรรลุเจ้าโลกกัน?

ที่สำคัญไปกว่านั้นมีเพียงแค่เจ้าโลกบู๋เมี่ยเท่านั้นที่สามารถชี้ทางบรรลุเจ้าโลกด้วยร่างวิญญาณกึ่งอมตะนี้

ไม่ว่าคนอื่นนั้นจะเก่งกาจกันแค่ไหนมันก็ไม่เคยมีผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะคนใดบรรลุเจ้าโลกได้!

คลื่นกำเนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นความหวังที่จะบรรลุเจ้าโลกต่างหาก

โซ่ตรวน?

โง่เง่า!

ไม่นานนักคนทั้งหลายก็เข้ามาลองผสานมันอีกครั้งแต่ก็ไม่มีใครทำได้สำเร็จ!

การผสานคลื่นกำเนิดนั้นมันเป็นอะไรที่ยากเย็นยิ่ง

ต่อให้มันจะมีคลื่นกำเนิดตกอยู่ตรงหน้าก็ใช้ว่าจะสามารถใช้งานมันได้

“ให้ข้าลองไหม?” หวางเฉียนก้าวขึ้นมาถาม

เมื่อเขาก้าวออกมานั้นมันก็ย่อมจะทำให้เกิดเสียงเยาะเย้ยรอบด้าน

“หวางเฉียน เจ้ายังรู้จักคำว่ายางอายหรือไม่?”

“คนอื่นมีสิทธิ์ลอง แต่ในที่นี้มันมีแค่เจ้านั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์!”

“พอเถอะ อาจารย์เย่ไม่ยอมให้เจ้าได้ลองอยู่แล้ว!”

หวางเฉียนนั้นไม่คิดสนใครๆ แล้วในตอนนี้เขาแค่จ้องมองดูหน้าเย่หยวนเพื่อรอคำตอบเท่านั้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ก็ลองสิ ไม่ว่าจะอย่างไรปล่อยมันทิ้งไว้เช่นนี้ก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร”

หวางเฉียนนั้นแทบอยากจะฉีกร่างเย่หยวนเป็นชิ้นๆ!

เจ้ามันจะปากคมเกินไปแล้ว!

ที่แท้เขานั้นเป็นแค่ผ้าขี้ริ้วก็ไม่ปาน!

คนอื่นๆ เองก็หันไปมองเย่หยวนอย่างมึนงง และได้แต่สงสัยว่าเย่หยวนเสียสติไปแล้วหรือ?

เพราะเย่หยวนเองจริงๆ เองก็ไม่มีทางเลือกมากมายนัก

เพราะหากมันไม่มีใครหลอมผสานเข้าไปได้จริงๆ มันก็มีแต่เขาที่ต้องทำแล้ว

ด้วยร่างหมอกของเขานั้นมันย่อมจะผสานได้ไม่ยากเย็น

แต่เขานั้นไม่อยาก!

หากเขาออกไปโดยที่คลื่นกำเนิดยังไม่มีเจ้าของ…

หยุนหนีก็คงต้องบังคับเขาให้ผสานแน่ๆ

เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงพยายามยัดเยียดมันให้ใครสักคนให้ได้

หวางเฉียนนั้นรับผลึกไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

เขานั้นคือคนที่แม้แต่บรรพบุรุษท่านยังสนใจ เขาย่อมจะสามารถผสานได้แน่นอน!

ตราบเท่าที่เขาผสานคลื่นกำเนิดได้…

ความอับอายใดๆ ที่ผ่านมามันก็คงหายไปสิ้น!

เมื่อหายใจเข้าลึกหวางเฉียนนั้นก็เริ่มทำการผสานเข้าไป

ร่างวิญญาณของเขานั้นมันกลายเป็นหมอกและเริ่มโจมตีเข้าสู่คลื่นกำเนิด

และการผสานครั้งนี้มันก็ทำได้อย่างราบรื่น

ผลึกคลื่นกำเนิดนั้นค่อยๆ ละลายลง!

หวางเฉียนนั้นตื่นเต้นดีใจอย่างมากและเริ่มดูกลืนพลังของมันเข้ามาในร่าง

ทีละเล็กทีละน้อย

จนสุดท้ายเขานั้นก็สัมผัสได้ถึงคลื่นกำเนิดที่รุนแรงในร่างกาย

เดิมทีแล้วสิ่งใดที่เขายังสงสัยไม่แน่ใจในเต๋าของตัวเอง

มันกลับกระจ่างชัดขึ้นมาในทันที!

ตูม!

หวางเฉียนนั้นปล่อยคลื่นวิญญาณปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงจนสุดท้ายบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลางไป!

คนที่ได้เห็นนั้นต้องอ้าปากค้าง!

“ห…หลอมผสานได้จริง!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมหาจักรพรรดิซานหยางท่านถึงได้เห็นดีเห็นงามนัก ที่แท้ร่างวิญญาณของเขาคนนี้มันใกล้เคียงกับร่างวิญญาณของท่านบู๋เมี่ยจริงๆ!”

“เฮ้อ อาจารย์เย่ท่านคิดอะไรอยู่กัน? ของเช่นนี้ก็เอาไปให้คนอื่นง่ายๆ!”

คนทั้งหลายนั้นต่างร้องลั่นขึ้นมาอย่างตกตะลึงและโกรธที่เย่หยวนไม่อาจตอบสนองความหวังของพวกเขาได้

แต่เรื่องที่ว่าหวางเฉียนนั้นผสานคลื่นกำเนิดได้มันก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงแล้ว

“ฮ่าๆๆ…เจ้าคงไม่คิดล่ะสิเย่หยวน? ข้าหวางเฉียนนั้นสามารถผสานกับคลื่นกำเนิดของท่านบู๋เมี่ยได้! จากวันนี้ไปข้านั้นอยู่คนละโลกกับเจ้าแล้ว!”

หวางเฉียนนั้นรู้สึกได้ถึงพลังที่เหนือล้ำในร่างกาย

ตอนนี้ด้วยความที่เขามีพลังคลื่นกำเนิดในตัว…

เขาย่อมจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ห่างไกลจากเจ้าโลกแล้ว!

สิ่งใดที่มันเคยไม่ชัดเจนดูแสนเลือนรางนั้นมันก็กลายเป็นภาพที่ชัดเจนขึ้นมา!

คลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมิใช่คลื่นกำเนิดทั่วๆ ไป

นี่มันคือเจ้าโลกที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิญญาณ และสามารถเดินทางไปทุกสวรรค์ได้อย่างไม่มีใครขัดขวาง!

ความรู้สึกในตอนนี้มันไม่อาจจะอธิบายเป็นคำพูดได้

เย่หยวนนั้นตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน เพราะเขาก็ไม่มั่นใจว่าหวางเฉียนจะผสานได้จริงๆ

ดูท่าแล้วหวางเฉียนคนนี้คงมีร่างวิญญาณกึ่งอมตะที่แข็งแกร่งอย่างมาก และเทียบเคียงกับร่างวิญญาณอมตะของจริงได้

แต่ว่าไม่ว่ามันจะใกล้แค่ไหน มันก็เป็นแค่ร่างวิญญาณกึ่งอมตะ

คนทั้งหลายได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเพราะว่าพวกเขานั้นต่างเย้ยหยันหวางเฉียนมาตลอดทาง

แต่ตอนนี้สถานการณ์มันพลิกกลับแล้ว!

คนทั้งหลายนั้นได้แต่ตำหนิว่าเย่หยวนอยู่ในใจ

หวางเฉียนนั้นรู้สึกเหลิงตัวอย่างมากและเดินมายิ้มเย้ยหยุดตรงหน้าเย่หยวน “เย่หยวน เจ้าบอกว่ามันเก่งกว่าคนที่ผสานกับผลึกคลื่นกำเนิดใช่หรือไม่? ข้านั้นขอสู้กับมันในตอนนี้ เจ้าคงไม่ขัดแล้ว?”

ระหว่างที่พูดไปนั้นเขาก็ชี้หน้าไป๋ชุยซาน

สีหน้าของอีกฝ่ายนั้นเปลี่ยนสีไป กลายเป็นความกลัว

เขานั้นเดิมทีก่อนเข้าเจดีย์มาก็มิใช่คู่มือของหวางเฉียนอยู่แล้ว เวลานี้เมื่ออีกฝ่ายได้ผสานกับคลื่นกำเนิดมันจะให้เขาไปสู้อะไรได้อีก?

คำโม้ของเย่หยวนมันใหญ่เกินไปหน่อยแล้ว!

—————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2948 เหลิง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2948 เหลิง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2948 เหลิง!

“ข้า…ข้าไม่ไหวแล้ว!” เจิ้งหยูนั้นได้แต่ต้องหันไปยิ้มแห้งๆ ให้เย่หยวน

เขานั้นลองอยู่เกือบครึ่งวันแต่สุดท้ายก็ยังไม่อาจผสานมันเข้าไปได้

จากนั้นมันก็มีอีกหลายคนที่ขอออกมาลองแต่ก็ไม่มีใครสามารถผสานได้

ดูแล้วการผสานคลื่นกำเนิดมันย่อมจะมิใช่เรื่องง่ายสำหรับคนทั้งหลาย

“ข้าขอลองบ้าง!” ไป๋ชุยซานก้าวออกมา

ไม่มีใครสามารถทนความเย้ายวนของคลื่นกำเนิดได้ แน่นอนว่าไป๋ชุยซานก็เช่นกัน

ได้เห็นคนมากมายล้มเหลวเช่นนี้ เขาเองก็อยากจะลองดูบ้าง

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “พี่ไป๋ ท่านเชื่อข้าหรือไม่?”

ไป๋ชุยซานยิ้มตอบกลับไป “ไม่มีเจ้า เย่หยวนมันก็ไม่มีข้าไป๋ชุยซานคนนี้! หากข้าไม่เชื่อเจ้าแล้วจะให้ข้าไปเชื่อใคร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากท่านเชื่อข้าท่านอย่าหลอมตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิด”

ไป๋ชุยซานผงะไปเมื่อได้ยิน “ทำไมเล่า?”

เย่หยวนตอบกลับไป “คลื่นกำเนิดนี้เป็นเหมือนดาบที่คมกริบ แต่ก็เป็นโซ่ตรวนหนาเช่นกัน! แถมท่านนั้นก็ได้รับสมบัติสืบทอดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยแล้ว มันก็ไม่ต้องมาหลอมตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิดของท่านอีก และตราบใดที่ท่านเดินตามเส้นทางนี้ไปเรื่อยๆ ความสำเร็จของท่านย่อมจะอยู่เหนือคนที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้ด้วยซ้ำ! เพราะแท้จริงแล้วแม้แต่ตอนนี้เองท่านก็คงมีพลังเหนือกว่าคนที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดด้วย!”

เย่หยวนนั้นก็ผสานตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิดมาก่อน และคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นก็แตกต่างจากเลือดต้นของศิลาโลหิตโกลาหลอย่างสิ้นเชิง

เพราะว่าคลื่นกำเนิดจากเลือดต้นนั้นเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์อย่างมาก และเกิดขึ้นมาจากความโกลาหลโดยแท้!

มันสุดแสนที่จะบริสุทธิ์!

เย่หยวนจึงสามารถหลอมมันเข้ามาในดาบเต๋าได้อย่างไม่มีผลข้างเคียง!

แต่ว่าคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมันเต็มไปด้วยเอกลักษณ์

เพราะมันคือเต๋าของเจ้าโลกบู๋เมี่ย

หากผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้…

พลังของคนผู้นั้นก็คงพุ่งทะยานไปได้ในทันที

แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใดมันก็ยากที่จะพัฒนาต่อไปได้ด้วยตัวเอง

เมื่อไปจนถึงระดับคลื่นกำเนิด และคิดอยากจะบรรลุเจ้าโลกในตอนนั้นมันคงมิใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป!

เย่หยวนนั้นเห็นว่าไป๋ชุยซานนั้นเป็นคนดี แม้ว่าจะชอบขี้โม้อวดตัว แต่เขานั้นก็ซื่อสัตย์ไม่เหมือนใคร

ในรอบแรกเขาเสียเวลามาโน้มน้าวให้เย่หยวนออกไปตามหาคลื่นกำเนิดอยู่นาน

จากนั้นไป๋ชุยซานยังเป็นคนที่สามารถฝึกฝนและเข้าใจเต๋าทั้งหลายในเจดีย์เจ็ดสีนี้ได้มากกว่าใครๆ!

ความสามารถในตอนนี้ของเขามันเหนือกว่าหวางเฉียนไปมากแล้ว!

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงคิดห้ามเขาไว้

ไป๋ชุยซานนั้นหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ “ก็ได้ ข้าจะไม่ผสานกับมัน! หากพวกเจ้าคนใดอยากลองก็ลองเลย!”

คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างมองหน้าไป๋ชุยซานเมื่อได้ยิน

เจ้านี่มันบ้าไปแล้ว?

คำพูดเดียวของเย่หยวนนั้นมันกลับทำให้เขาทิ้งคลื่นกำเนิดไป?

ต่อให้มันอาจจะขัดขวางทำให้บรรลุเจ้าโลกยาก

แต่แค่ขึ้นไปเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นี้มันก็เป็นสิ่งที่ยอดอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วนไม่อาจทำได้แล้ว!

คนทั้งหลายในที่นี้ส่วนมากยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์

ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าใดกว่าที่พวกเขาจะบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้!

แต่เขานั้นกลับไม่อยากได้สมบัติล้ำค่านี้?

แม้ว่าไป๋ชุยซานนั้นจะได้รับความช่วยเหลือจากเย่หยวนมามากก็จริง

แต่ไป๋ชุยซานเองก็เป็นคนโง่ที่กลับเชื่อคำของเย่หยวนไปง่ายๆ อย่างไม่คิดเช่นนี้

คนทั้งหลายเริ่มกระซิบกระซาบกันขึ้นมา

เมื่อหวางเฉียนเห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้เช่นกัน

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นผู้ที่เดินนำในเส้นทางของพวกเขาทั้งหลาย!

พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างเป็นผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะ

และทำไมคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นจะสร้างปัญหาหยุดพวกเขาจากการบรรลุเจ้าโลกกัน?

ที่สำคัญไปกว่านั้นมีเพียงแค่เจ้าโลกบู๋เมี่ยเท่านั้นที่สามารถชี้ทางบรรลุเจ้าโลกด้วยร่างวิญญาณกึ่งอมตะนี้

ไม่ว่าคนอื่นนั้นจะเก่งกาจกันแค่ไหนมันก็ไม่เคยมีผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะคนใดบรรลุเจ้าโลกได้!

คลื่นกำเนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นความหวังที่จะบรรลุเจ้าโลกต่างหาก

โซ่ตรวน?

โง่เง่า!

ไม่นานนักคนทั้งหลายก็เข้ามาลองผสานมันอีกครั้งแต่ก็ไม่มีใครทำได้สำเร็จ!

การผสานคลื่นกำเนิดนั้นมันเป็นอะไรที่ยากเย็นยิ่ง

ต่อให้มันจะมีคลื่นกำเนิดตกอยู่ตรงหน้าก็ใช้ว่าจะสามารถใช้งานมันได้

“ให้ข้าลองไหม?” หวางเฉียนก้าวขึ้นมาถาม

เมื่อเขาก้าวออกมานั้นมันก็ย่อมจะทำให้เกิดเสียงเยาะเย้ยรอบด้าน

“หวางเฉียน เจ้ายังรู้จักคำว่ายางอายหรือไม่?”

“คนอื่นมีสิทธิ์ลอง แต่ในที่นี้มันมีแค่เจ้านั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์!”

“พอเถอะ อาจารย์เย่ไม่ยอมให้เจ้าได้ลองอยู่แล้ว!”

หวางเฉียนนั้นไม่คิดสนใครๆ แล้วในตอนนี้เขาแค่จ้องมองดูหน้าเย่หยวนเพื่อรอคำตอบเท่านั้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ก็ลองสิ ไม่ว่าจะอย่างไรปล่อยมันทิ้งไว้เช่นนี้ก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร”

หวางเฉียนนั้นแทบอยากจะฉีกร่างเย่หยวนเป็นชิ้นๆ!

เจ้ามันจะปากคมเกินไปแล้ว!

ที่แท้เขานั้นเป็นแค่ผ้าขี้ริ้วก็ไม่ปาน!

คนอื่นๆ เองก็หันไปมองเย่หยวนอย่างมึนงง และได้แต่สงสัยว่าเย่หยวนเสียสติไปแล้วหรือ?

เพราะเย่หยวนเองจริงๆ เองก็ไม่มีทางเลือกมากมายนัก

เพราะหากมันไม่มีใครหลอมผสานเข้าไปได้จริงๆ มันก็มีแต่เขาที่ต้องทำแล้ว

ด้วยร่างหมอกของเขานั้นมันย่อมจะผสานได้ไม่ยากเย็น

แต่เขานั้นไม่อยาก!

หากเขาออกไปโดยที่คลื่นกำเนิดยังไม่มีเจ้าของ…

หยุนหนีก็คงต้องบังคับเขาให้ผสานแน่ๆ

เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงพยายามยัดเยียดมันให้ใครสักคนให้ได้

หวางเฉียนนั้นรับผลึกไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

เขานั้นคือคนที่แม้แต่บรรพบุรุษท่านยังสนใจ เขาย่อมจะสามารถผสานได้แน่นอน!

ตราบเท่าที่เขาผสานคลื่นกำเนิดได้…

ความอับอายใดๆ ที่ผ่านมามันก็คงหายไปสิ้น!

เมื่อหายใจเข้าลึกหวางเฉียนนั้นก็เริ่มทำการผสานเข้าไป

ร่างวิญญาณของเขานั้นมันกลายเป็นหมอกและเริ่มโจมตีเข้าสู่คลื่นกำเนิด

และการผสานครั้งนี้มันก็ทำได้อย่างราบรื่น

ผลึกคลื่นกำเนิดนั้นค่อยๆ ละลายลง!

หวางเฉียนนั้นตื่นเต้นดีใจอย่างมากและเริ่มดูกลืนพลังของมันเข้ามาในร่าง

ทีละเล็กทีละน้อย

จนสุดท้ายเขานั้นก็สัมผัสได้ถึงคลื่นกำเนิดที่รุนแรงในร่างกาย

เดิมทีแล้วสิ่งใดที่เขายังสงสัยไม่แน่ใจในเต๋าของตัวเอง

มันกลับกระจ่างชัดขึ้นมาในทันที!

ตูม!

หวางเฉียนนั้นปล่อยคลื่นวิญญาณปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงจนสุดท้ายบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลางไป!

คนที่ได้เห็นนั้นต้องอ้าปากค้าง!

“ห…หลอมผสานได้จริง!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมหาจักรพรรดิซานหยางท่านถึงได้เห็นดีเห็นงามนัก ที่แท้ร่างวิญญาณของเขาคนนี้มันใกล้เคียงกับร่างวิญญาณของท่านบู๋เมี่ยจริงๆ!”

“เฮ้อ อาจารย์เย่ท่านคิดอะไรอยู่กัน? ของเช่นนี้ก็เอาไปให้คนอื่นง่ายๆ!”

คนทั้งหลายนั้นต่างร้องลั่นขึ้นมาอย่างตกตะลึงและโกรธที่เย่หยวนไม่อาจตอบสนองความหวังของพวกเขาได้

แต่เรื่องที่ว่าหวางเฉียนนั้นผสานคลื่นกำเนิดได้มันก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงแล้ว

“ฮ่าๆๆ…เจ้าคงไม่คิดล่ะสิเย่หยวน? ข้าหวางเฉียนนั้นสามารถผสานกับคลื่นกำเนิดของท่านบู๋เมี่ยได้! จากวันนี้ไปข้านั้นอยู่คนละโลกกับเจ้าแล้ว!”

หวางเฉียนนั้นรู้สึกได้ถึงพลังที่เหนือล้ำในร่างกาย

ตอนนี้ด้วยความที่เขามีพลังคลื่นกำเนิดในตัว…

เขาย่อมจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ห่างไกลจากเจ้าโลกแล้ว!

สิ่งใดที่มันเคยไม่ชัดเจนดูแสนเลือนรางนั้นมันก็กลายเป็นภาพที่ชัดเจนขึ้นมา!

คลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมิใช่คลื่นกำเนิดทั่วๆ ไป

นี่มันคือเจ้าโลกที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิญญาณ และสามารถเดินทางไปทุกสวรรค์ได้อย่างไม่มีใครขัดขวาง!

ความรู้สึกในตอนนี้มันไม่อาจจะอธิบายเป็นคำพูดได้

เย่หยวนนั้นตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน เพราะเขาก็ไม่มั่นใจว่าหวางเฉียนจะผสานได้จริงๆ

ดูท่าแล้วหวางเฉียนคนนี้คงมีร่างวิญญาณกึ่งอมตะที่แข็งแกร่งอย่างมาก และเทียบเคียงกับร่างวิญญาณอมตะของจริงได้

แต่ว่าไม่ว่ามันจะใกล้แค่ไหน มันก็เป็นแค่ร่างวิญญาณกึ่งอมตะ

คนทั้งหลายได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเพราะว่าพวกเขานั้นต่างเย้ยหยันหวางเฉียนมาตลอดทาง

แต่ตอนนี้สถานการณ์มันพลิกกลับแล้ว!

คนทั้งหลายนั้นได้แต่ตำหนิว่าเย่หยวนอยู่ในใจ

หวางเฉียนนั้นรู้สึกเหลิงตัวอย่างมากและเดินมายิ้มเย้ยหยุดตรงหน้าเย่หยวน “เย่หยวน เจ้าบอกว่ามันเก่งกว่าคนที่ผสานกับผลึกคลื่นกำเนิดใช่หรือไม่? ข้านั้นขอสู้กับมันในตอนนี้ เจ้าคงไม่ขัดแล้ว?”

ระหว่างที่พูดไปนั้นเขาก็ชี้หน้าไป๋ชุยซาน

สีหน้าของอีกฝ่ายนั้นเปลี่ยนสีไป กลายเป็นความกลัว

เขานั้นเดิมทีก่อนเข้าเจดีย์มาก็มิใช่คู่มือของหวางเฉียนอยู่แล้ว เวลานี้เมื่ออีกฝ่ายได้ผสานกับคลื่นกำเนิดมันจะให้เขาไปสู้อะไรได้อีก?

คำโม้ของเย่หยวนมันใหญ่เกินไปหน่อยแล้ว!

—————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2948 เหลิง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2948 เหลิง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2948 เหลิง!

“ข้า…ข้าไม่ไหวแล้ว!” เจิ้งหยูนั้นได้แต่ต้องหันไปยิ้มแห้งๆ ให้เย่หยวน

เขานั้นลองอยู่เกือบครึ่งวันแต่สุดท้ายก็ยังไม่อาจผสานมันเข้าไปได้

จากนั้นมันก็มีอีกหลายคนที่ขอออกมาลองแต่ก็ไม่มีใครสามารถผสานได้

ดูแล้วการผสานคลื่นกำเนิดมันย่อมจะมิใช่เรื่องง่ายสำหรับคนทั้งหลาย

“ข้าขอลองบ้าง!” ไป๋ชุยซานก้าวออกมา

ไม่มีใครสามารถทนความเย้ายวนของคลื่นกำเนิดได้ แน่นอนว่าไป๋ชุยซานก็เช่นกัน

ได้เห็นคนมากมายล้มเหลวเช่นนี้ เขาเองก็อยากจะลองดูบ้าง

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “พี่ไป๋ ท่านเชื่อข้าหรือไม่?”

ไป๋ชุยซานยิ้มตอบกลับไป “ไม่มีเจ้า เย่หยวนมันก็ไม่มีข้าไป๋ชุยซานคนนี้! หากข้าไม่เชื่อเจ้าแล้วจะให้ข้าไปเชื่อใคร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากท่านเชื่อข้าท่านอย่าหลอมตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิด”

ไป๋ชุยซานผงะไปเมื่อได้ยิน “ทำไมเล่า?”

เย่หยวนตอบกลับไป “คลื่นกำเนิดนี้เป็นเหมือนดาบที่คมกริบ แต่ก็เป็นโซ่ตรวนหนาเช่นกัน! แถมท่านนั้นก็ได้รับสมบัติสืบทอดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยแล้ว มันก็ไม่ต้องมาหลอมตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิดของท่านอีก และตราบใดที่ท่านเดินตามเส้นทางนี้ไปเรื่อยๆ ความสำเร็จของท่านย่อมจะอยู่เหนือคนที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้ด้วยซ้ำ! เพราะแท้จริงแล้วแม้แต่ตอนนี้เองท่านก็คงมีพลังเหนือกว่าคนที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดด้วย!”

เย่หยวนนั้นก็ผสานตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิดมาก่อน และคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นก็แตกต่างจากเลือดต้นของศิลาโลหิตโกลาหลอย่างสิ้นเชิง

เพราะว่าคลื่นกำเนิดจากเลือดต้นนั้นเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์อย่างมาก และเกิดขึ้นมาจากความโกลาหลโดยแท้!

มันสุดแสนที่จะบริสุทธิ์!

เย่หยวนจึงสามารถหลอมมันเข้ามาในดาบเต๋าได้อย่างไม่มีผลข้างเคียง!

แต่ว่าคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมันเต็มไปด้วยเอกลักษณ์

เพราะมันคือเต๋าของเจ้าโลกบู๋เมี่ย

หากผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้…

พลังของคนผู้นั้นก็คงพุ่งทะยานไปได้ในทันที

แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใดมันก็ยากที่จะพัฒนาต่อไปได้ด้วยตัวเอง

เมื่อไปจนถึงระดับคลื่นกำเนิด และคิดอยากจะบรรลุเจ้าโลกในตอนนั้นมันคงมิใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป!

เย่หยวนนั้นเห็นว่าไป๋ชุยซานนั้นเป็นคนดี แม้ว่าจะชอบขี้โม้อวดตัว แต่เขานั้นก็ซื่อสัตย์ไม่เหมือนใคร

ในรอบแรกเขาเสียเวลามาโน้มน้าวให้เย่หยวนออกไปตามหาคลื่นกำเนิดอยู่นาน

จากนั้นไป๋ชุยซานยังเป็นคนที่สามารถฝึกฝนและเข้าใจเต๋าทั้งหลายในเจดีย์เจ็ดสีนี้ได้มากกว่าใครๆ!

ความสามารถในตอนนี้ของเขามันเหนือกว่าหวางเฉียนไปมากแล้ว!

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงคิดห้ามเขาไว้

ไป๋ชุยซานนั้นหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ “ก็ได้ ข้าจะไม่ผสานกับมัน! หากพวกเจ้าคนใดอยากลองก็ลองเลย!”

คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างมองหน้าไป๋ชุยซานเมื่อได้ยิน

เจ้านี่มันบ้าไปแล้ว?

คำพูดเดียวของเย่หยวนนั้นมันกลับทำให้เขาทิ้งคลื่นกำเนิดไป?

ต่อให้มันอาจจะขัดขวางทำให้บรรลุเจ้าโลกยาก

แต่แค่ขึ้นไปเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นี้มันก็เป็นสิ่งที่ยอดอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วนไม่อาจทำได้แล้ว!

คนทั้งหลายในที่นี้ส่วนมากยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์

ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าใดกว่าที่พวกเขาจะบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้!

แต่เขานั้นกลับไม่อยากได้สมบัติล้ำค่านี้?

แม้ว่าไป๋ชุยซานนั้นจะได้รับความช่วยเหลือจากเย่หยวนมามากก็จริง

แต่ไป๋ชุยซานเองก็เป็นคนโง่ที่กลับเชื่อคำของเย่หยวนไปง่ายๆ อย่างไม่คิดเช่นนี้

คนทั้งหลายเริ่มกระซิบกระซาบกันขึ้นมา

เมื่อหวางเฉียนเห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้เช่นกัน

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นผู้ที่เดินนำในเส้นทางของพวกเขาทั้งหลาย!

พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างเป็นผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะ

และทำไมคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นจะสร้างปัญหาหยุดพวกเขาจากการบรรลุเจ้าโลกกัน?

ที่สำคัญไปกว่านั้นมีเพียงแค่เจ้าโลกบู๋เมี่ยเท่านั้นที่สามารถชี้ทางบรรลุเจ้าโลกด้วยร่างวิญญาณกึ่งอมตะนี้

ไม่ว่าคนอื่นนั้นจะเก่งกาจกันแค่ไหนมันก็ไม่เคยมีผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะคนใดบรรลุเจ้าโลกได้!

คลื่นกำเนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นความหวังที่จะบรรลุเจ้าโลกต่างหาก

โซ่ตรวน?

โง่เง่า!

ไม่นานนักคนทั้งหลายก็เข้ามาลองผสานมันอีกครั้งแต่ก็ไม่มีใครทำได้สำเร็จ!

การผสานคลื่นกำเนิดนั้นมันเป็นอะไรที่ยากเย็นยิ่ง

ต่อให้มันจะมีคลื่นกำเนิดตกอยู่ตรงหน้าก็ใช้ว่าจะสามารถใช้งานมันได้

“ให้ข้าลองไหม?” หวางเฉียนก้าวขึ้นมาถาม

เมื่อเขาก้าวออกมานั้นมันก็ย่อมจะทำให้เกิดเสียงเยาะเย้ยรอบด้าน

“หวางเฉียน เจ้ายังรู้จักคำว่ายางอายหรือไม่?”

“คนอื่นมีสิทธิ์ลอง แต่ในที่นี้มันมีแค่เจ้านั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์!”

“พอเถอะ อาจารย์เย่ไม่ยอมให้เจ้าได้ลองอยู่แล้ว!”

หวางเฉียนนั้นไม่คิดสนใครๆ แล้วในตอนนี้เขาแค่จ้องมองดูหน้าเย่หยวนเพื่อรอคำตอบเท่านั้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ก็ลองสิ ไม่ว่าจะอย่างไรปล่อยมันทิ้งไว้เช่นนี้ก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร”

หวางเฉียนนั้นแทบอยากจะฉีกร่างเย่หยวนเป็นชิ้นๆ!

เจ้ามันจะปากคมเกินไปแล้ว!

ที่แท้เขานั้นเป็นแค่ผ้าขี้ริ้วก็ไม่ปาน!

คนอื่นๆ เองก็หันไปมองเย่หยวนอย่างมึนงง และได้แต่สงสัยว่าเย่หยวนเสียสติไปแล้วหรือ?

เพราะเย่หยวนเองจริงๆ เองก็ไม่มีทางเลือกมากมายนัก

เพราะหากมันไม่มีใครหลอมผสานเข้าไปได้จริงๆ มันก็มีแต่เขาที่ต้องทำแล้ว

ด้วยร่างหมอกของเขานั้นมันย่อมจะผสานได้ไม่ยากเย็น

แต่เขานั้นไม่อยาก!

หากเขาออกไปโดยที่คลื่นกำเนิดยังไม่มีเจ้าของ…

หยุนหนีก็คงต้องบังคับเขาให้ผสานแน่ๆ

เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงพยายามยัดเยียดมันให้ใครสักคนให้ได้

หวางเฉียนนั้นรับผลึกไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ

เขานั้นคือคนที่แม้แต่บรรพบุรุษท่านยังสนใจ เขาย่อมจะสามารถผสานได้แน่นอน!

ตราบเท่าที่เขาผสานคลื่นกำเนิดได้…

ความอับอายใดๆ ที่ผ่านมามันก็คงหายไปสิ้น!

เมื่อหายใจเข้าลึกหวางเฉียนนั้นก็เริ่มทำการผสานเข้าไป

ร่างวิญญาณของเขานั้นมันกลายเป็นหมอกและเริ่มโจมตีเข้าสู่คลื่นกำเนิด

และการผสานครั้งนี้มันก็ทำได้อย่างราบรื่น

ผลึกคลื่นกำเนิดนั้นค่อยๆ ละลายลง!

หวางเฉียนนั้นตื่นเต้นดีใจอย่างมากและเริ่มดูกลืนพลังของมันเข้ามาในร่าง

ทีละเล็กทีละน้อย

จนสุดท้ายเขานั้นก็สัมผัสได้ถึงคลื่นกำเนิดที่รุนแรงในร่างกาย

เดิมทีแล้วสิ่งใดที่เขายังสงสัยไม่แน่ใจในเต๋าของตัวเอง

มันกลับกระจ่างชัดขึ้นมาในทันที!

ตูม!

หวางเฉียนนั้นปล่อยคลื่นวิญญาณปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงจนสุดท้ายบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลางไป!

คนที่ได้เห็นนั้นต้องอ้าปากค้าง!

“ห…หลอมผสานได้จริง!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมหาจักรพรรดิซานหยางท่านถึงได้เห็นดีเห็นงามนัก ที่แท้ร่างวิญญาณของเขาคนนี้มันใกล้เคียงกับร่างวิญญาณของท่านบู๋เมี่ยจริงๆ!”

“เฮ้อ อาจารย์เย่ท่านคิดอะไรอยู่กัน? ของเช่นนี้ก็เอาไปให้คนอื่นง่ายๆ!”

คนทั้งหลายนั้นต่างร้องลั่นขึ้นมาอย่างตกตะลึงและโกรธที่เย่หยวนไม่อาจตอบสนองความหวังของพวกเขาได้

แต่เรื่องที่ว่าหวางเฉียนนั้นผสานคลื่นกำเนิดได้มันก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงแล้ว

“ฮ่าๆๆ…เจ้าคงไม่คิดล่ะสิเย่หยวน? ข้าหวางเฉียนนั้นสามารถผสานกับคลื่นกำเนิดของท่านบู๋เมี่ยได้! จากวันนี้ไปข้านั้นอยู่คนละโลกกับเจ้าแล้ว!”

หวางเฉียนนั้นรู้สึกได้ถึงพลังที่เหนือล้ำในร่างกาย

ตอนนี้ด้วยความที่เขามีพลังคลื่นกำเนิดในตัว…

เขาย่อมจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ห่างไกลจากเจ้าโลกแล้ว!

สิ่งใดที่มันเคยไม่ชัดเจนดูแสนเลือนรางนั้นมันก็กลายเป็นภาพที่ชัดเจนขึ้นมา!

คลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมิใช่คลื่นกำเนิดทั่วๆ ไป

นี่มันคือเจ้าโลกที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าวิญญาณ และสามารถเดินทางไปทุกสวรรค์ได้อย่างไม่มีใครขัดขวาง!

ความรู้สึกในตอนนี้มันไม่อาจจะอธิบายเป็นคำพูดได้

เย่หยวนนั้นตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน เพราะเขาก็ไม่มั่นใจว่าหวางเฉียนจะผสานได้จริงๆ

ดูท่าแล้วหวางเฉียนคนนี้คงมีร่างวิญญาณกึ่งอมตะที่แข็งแกร่งอย่างมาก และเทียบเคียงกับร่างวิญญาณอมตะของจริงได้

แต่ว่าไม่ว่ามันจะใกล้แค่ไหน มันก็เป็นแค่ร่างวิญญาณกึ่งอมตะ

คนทั้งหลายได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเพราะว่าพวกเขานั้นต่างเย้ยหยันหวางเฉียนมาตลอดทาง

แต่ตอนนี้สถานการณ์มันพลิกกลับแล้ว!

คนทั้งหลายนั้นได้แต่ตำหนิว่าเย่หยวนอยู่ในใจ

หวางเฉียนนั้นรู้สึกเหลิงตัวอย่างมากและเดินมายิ้มเย้ยหยุดตรงหน้าเย่หยวน “เย่หยวน เจ้าบอกว่ามันเก่งกว่าคนที่ผสานกับผลึกคลื่นกำเนิดใช่หรือไม่? ข้านั้นขอสู้กับมันในตอนนี้ เจ้าคงไม่ขัดแล้ว?”

ระหว่างที่พูดไปนั้นเขาก็ชี้หน้าไป๋ชุยซาน

สีหน้าของอีกฝ่ายนั้นเปลี่ยนสีไป กลายเป็นความกลัว

เขานั้นเดิมทีก่อนเข้าเจดีย์มาก็มิใช่คู่มือของหวางเฉียนอยู่แล้ว เวลานี้เมื่ออีกฝ่ายได้ผสานกับคลื่นกำเนิดมันจะให้เขาไปสู้อะไรได้อีก?

คำโม้ของเย่หยวนมันใหญ่เกินไปหน่อยแล้ว!

—————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+