Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2951 เพราะข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอขี้แพ้?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2951 เพราะข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอขี้แพ้? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2951 เพราะข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอขี้แพ้?

เขานั้นแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ยอดอัจฉริยะที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกอันเก่งกาจล้ำนั้นกลับถูกคนอื่นมาชี้หน้าเรียกเป็นขี้แพ้?

จะบ้ากันไปแล้วหรืออย่างไร?

“ฮ่าๆ ไอ้เด็กตระกูลไป๋ เจ้าอย่าคิดว่าตัวเองมีบรรพบุรุษคุ้มครองหัวแล้วจะมาพูดจาอะไรต่อหน้าข้าก็ได้! เจ้าคิดหรือว่าคลื่นกำเนิดมันสามารถผสานได้ง่ายๆ? ข้าว่าเจ้านั้นเองก็คงไม่อาจผสานได้จึงได้มาเรียกคนอื่นเป็นขี้แพ้เพราะความคับแค้นใจแล้ว?” ซานหยางนั้นกล่าวขึ้นมาเย้ยไป๋ชุยซาน

“ฮ่าๆๆ”

แต่คำพูดนั้นมันกลับทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมารอบด้าน

เหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะที่เข้าเจดีย์เจ็ดสีไปทุกๆ คนนั้นต่างหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน!

แม้ว่าซานหยางนั้นจะเป็นถึงมหาจักรพรรดิล้ำที่มีชื่อเสียงลือลั่นดินแดนวิญญาณอมตะแต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความผิดปกติและต้องอับอายขึ้น

‘ข้ากำลังถูกขยะร่างวิญญาณกึ่งอมตะมันหัวเราะเยาะ?’

‘หัวเราะลั่นจนตอนนี้ก็ยังไม่คิดจะหยุดกัน’

‘หัวเราะกับพ่อเจ้าหรือ?!’

“หุบปาก!” ซานหยางนั้นร้องลั่นขึ้นมา

เมื่อมหาจักรพรรดิล้ำโกรธขึ้นมา มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายต้องรีบหุบปากลงแทบไม่ทัน

และก็ไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอีก

แต่ว่าซานหยางเองก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในมันคงไม่เหมือนอย่างที่เขาคาดคิดไว้!

“หวางเฉียน เจ้าว่ามาเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเจดีย์เจ็ดสีกันแน่!” ซานหยางถามขึ้นมา

“ท่านซานหยาง ข้า…” หวางเฉียนนั้นได้แต่ต้องพูดติดๆ ขัดๆ

“ฮ่าๆๆ ท่านซานหยาง แม้ว่าหวางเฉียนมันจะหน้าด้านแค่ไหนแล้วมันก็คงยังไม่กล้าจะพูดถึงเรื่องในเจดีย์เจ็ดสีออกมาจากปากตัวเองหรอกท่าน! ให้ข้าเล่าให้ท่านฟังแทนดีไหม?” ไป๋ชุยซานกล่าวขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะ

ได้เห็นว่าหวางเฉียนนั้นยังอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมกล่าวออกมา

ซานหยางจึงพ่นลมหันหน้ามาหาไป๋ชุยซานเป็นการแสดงท่าทียอมรับไป

มหาจักรพรรดิล้ำคนอื่นๆ เองก็ต่างสนใจในเรื่องนี้ไม่แพ้กันและต้องเงี่ยหูฟังเรื่องราวอย่างสนใจ

แต่เมื่อได้ยินเข้าพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา

ต่อให้พวกเขานั้นจะมากประสบการณ์แค่ไหน…

พวกเขาก็ไม่เคยคิดฝันว่ามันจะมีเรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นในเจดีย์เจ็ดสีได้

และสิ่งที่พวกเขาทั้งหมดได้ค้นพบนี้มันก็เพราะว่าเย่หยวนคนนี้!

ตอนนี้แม้แต่หยุนหนีเองก็ต้องหันไปมองดูเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ ราวกับอีกฝ่ายนั้นเป็นสัตว์ประหลาด

พวกเขานั้นคิดว่าการเข้าเจดีย์เจ็ดสีครั้งนี้อย่างมากที่สุดมันก็คงมีคนออกมาได้แค่หนึ่งคน

แต่ใครจะไปคิดว่าคนกว่าร้อยคนกลับออกมาจากเจดีย์ได้!

นอกจากนั้นแล้วคนนับร้อยนี้ยังพัฒนาตัวเองไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เหมือนตัวไป๋ชุยซานนั้นที่สามารถเอาชนะหวางเฉียนผู้ผสานคลื่นกำเนิดลงได้อย่างง่ายดาย!

“ไอ้ขี้แพ้!” ซานหยางนั้นแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยควันออกหู

หวางเฉียนนั้นเป็นสุนัขขี้แพ้อย่างถึงที่สุด!

ผสานกับคลื่นกำเนิดแล้วยังแพ้ให้คนอื่นราบคาบ!

แดนวิญญาณกลางของเขานั้นมันเสียหน้าสิ้นเชิงแล้ว!

“ศิษย์พี่มู่ ท่านบอกว่า…เย่หยวนเป็นแค่ตัวตลก?”

“ศิษย์พี่หมิงเจียน ท่านบอกว่า…เย่หยวนนั้นเป็นแค่โคลนเน่าๆ ที่ไม่มีค่าเอาไปทำอะไร?”

“พี่ซานหยาง ท่านพูดว่าหวางเฉียนมันเก่งกาจล้ำคนอื่นๆ ขนาดไหนนะ?”

วินาทีที่ไป๋ชุยซานเล่าเรื่องจบเสียงของหยุนหนีมันก็แทรกตามขึ้นมาทันที

คนทั้งสามนั้นหน้าแดงก่ำขึ้นอย่างรุนแรง

เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ พวกเขาว่าด่าเย่หยวนไม่ขาดปาก

หยุนหนีนั้นเองก็ไม่คิดจะโต้เถียงใดๆ กลับไป

แต่ใครจะไปคิดว่านางนั้นทนฟังมาเดือนกว่าและสุดท้ายก็โจมตีสวนกลับมาอย่างไม่ให้ใครได้ตั้งตัว!

มันมิใช่ว่านางนั้นไม่สนใจแต่ว่านางนั้นแค่รอโอกาสสวนกลับอยู่เท่านั้น!

โอกาสตบหน้าให้ดังลั่น!

เย่หยวนเองที่ได้ยินก็ต้องผงะไปเช่นกัน

เพราะแน่นอนผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิง!

ที่สำคัญหญิงนางนี้ยังเก่งกาจในเต๋าแห่งการโอ้อวดด้วย

ให้อีกฝ่ายพูดกันไปก่อนให้สะใจ!

หลังจากโม้กันจบแล้วนางจึงใช้ความจริงเข้าตบ!

ตบให้หน้าหัน!

แต่ตอนที่เย่หยวนกำลังยืนนิ่งอยู่นั้นหยุนหนีก็หันมามองเขาพร้อมกล่าวขึ้น “ในเมื่อหวางเฉียนผสานกับคลื่นกำเนิดแล้วเจ้าก็ไร้ค่าใด! ไปตายเสียเถอะ!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นอย่างเย็นเยือกไร้อารมณ์ใดๆ

พริบตาต่อมานั้นเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารเย็นเยือกแทรกเข้ามาในร่างวิญญาณ

นางไม่ได้ล้อเล่น!

นางนั้นสงสัยในจุดประสงค์ของเขามาตั้งแต่แรกและย่อมคิดจะปิดปากเขาลงเพื่อไม่ให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ภายหลัง!

ความหมายของนางนั้นมันชัดเจน ‘เจ้าไม่มีค่าใดแล้ว ไปตายเสียเถอะ!’

ต่อให้เย่หยวนนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ไม่มีทางที่จะต่อสู้กับหยุนหนีด้วยสภาพตอนนี้ได้

นางคนนี้แข็งแกร่ง!

เย่หยวนขนลุกทั้งร่างเพราะนางคนนี้ช่างทำการได้อย่างรวดเร็วเขาไม่มีเวลาจะตั้งตัวใดๆ!

แน่นอนว่าเย่หยวนเข้าใจดีแต่แรกว่าการกระทำของเขามันคงทำให้หยุนหนีไม่พอใจ

นางสั่งให้เขาไปเอาคลื่นกำเนิดมา แต่เขานั้นกลับเอาไปมอบให้คนอื่นอย่างไม่สนใจไยดี

คลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมันมีค่าล้ำในแดนวิญญาณทั้งห้า

ใครก็ตามที่ได้ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้จะถือว่ากลายเป็นศิษย์ของเจ้าโลกบู๋เมี่ยไป

หลังจากที่หาตัวเจ้าโลกบู๋เมี่ยและพาเขากลับมาได้แล้ว ดินแดนบ้านเกิดของคนผู้นั้นคงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาครั้งใหญ่

‘แต่ข้าให้ค่าเจ้ามากมาย สุดท้ายเจ้ากลับทรยศข้าเสียได้!’

‘หากข้าไม่สังหารเจ้าลงแล้วข้าจะยังเอาหน้าไปพบใครได้?’

เย่หยวนได้แต่ต้องร้องตอบมาด้วยหน้าซีดขาว “เดี๋ยวก่อน! แม้ว่าหวางเฉียนนั้นมันจะผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดแล้ว มันก็ไม่แน่ว่าจะหาท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเจอ! บางทีข้าอาจจะยังช่วยได้อยู่!”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาสีหน้าของยอดฝีมือจากห้าดินแดนก็ต้องเปลี่ยนสีไป

ผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายนั้นต่างแตกตื่นไปตามๆ กัน

“หาท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ย? มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?”

“มันเกิดอะไรขึ้นกับท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยหรือ?”

“อ่ะ! ที่แท้ที่พวกเขาตัดสินใจผนึกทางออกของเจดีย์เจ็ดสีมันก็เพราะเรื่องนี้!”

เย่หยวนและหวางเฉียนนั้นมีข้อตกลงกันมาแต่แรกว่าจะไม่พูดถึงความจริง

แต่ตอนนี้ด้วยความคับขันมันทำให้เย่หยวนหลุดปากพูดออกมาต่อหน้าคน

มันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

นี่มันเป็นเรื่องใหญ่โตสะท้านแผ่นดิน!

หากมีบรรพบุรุษบู๋เมี่ยอยู่ ดินแดนวิญญาณอมตะก็จะไม่มีทางล่มสลาย!

แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านแล้ว แดนวิญญาณอมตะก็คงสิ้นสูญ!

นี่มันคือเรื่องที่คนทั้งหลายรู้แก่ใจ

ซานหยางนั้นร้องลั่นขึ้นมาทันที “เย่หยวน เจ้ารนหาที่ตายเองแล้ว! คลื่นกำเนิดนี้จะอย่างไรหวางเฉียนก็ได้มาแล้ว มันไม่ต้องใช้อะไรเจ้าอีกต่อไป! ในเมื่อศิษย์น้องหยุนหนีคิดอยากสังหารเจ้า เจ้าก็ตายไปเสียเถอะ!”

ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดของห้าดินแดนนั้นต่างโกรธแค้นไม่พอใจเย่หยวนขึ้นมาคิดสังหารเย่หยวนลงพร้อมๆ กัน

ซานหยางนั้นยกมือขึ้นมาสับลงใส่ร่างของเย่หยวนอย่างไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดอะไรอีก

เขานั้นไม่ชอบหน้าเย่หยวนมาตั้งแต่แรกและตอนนี้มันก็เป็นโอกาสดีที่จะได้ระบายออกมา!

การโจมตีเบาๆ ของซานหยางนี้มันคือหายนะของเย่หยวน!

เขานั้นเหมือนถูกตรึงไว้ไม่อาจขยับเคลื่อนไหวร่างได้

พลังคลื่นกำเนิดนั้นมันแข็งแกร่งล้ำ!

ตูม!

ซานหยางต้องผงะไปเพราะว่าการโจมตีของเขานั้นมันกลับถูกตัวหยุนหนีเองที่เข้ามาขัดไว้!

“ให้มันพูดก่อน!” หยุนหนีกล่าวขึ้นมาอย่างไม่คิดไว้หน้าซานหยางใดๆ

แม้ว่ามันจะเป็นร่างวิญญาณที่ไม่มีเลือดหรือเหงื่อ แต่เย่หยวนก็ยังรู้สึกเหมือนเหงื่อไหลท่วมกาย

เขานั้นสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าว “การหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยด้วยคลื่นกำเนิดของท่านนั้นมันเป็นแค่เรื่องที่พวกท่านคิดกันไปเอง! มันไม่แน่เสมอไปหรอกว่าหวางเฉียนนั้นจะตามหาเสี้ยวพลังของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเจอหรือไม่ แต่ข้านั้นมั่นใจว่าจะหาได้!”

ซานหยางนั้นเปลี่ยนความอับอายเป็นความโกรธและกล่าวร้องขึ้น “แม้แต่คลื่นกำเนิดของท่านบู๋เมี่ยยังหาตัวท่านไม่เจอแล้วเจ้าจะเอาอะไรมาหา?!”

เย่หยวนตอบกลับไป “เพราะว่าข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงอยู่!”

ซานหยางนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมา “ตลกแล้ว! สามสิบสามสวรรค์นั้นตั้งอยู่มาไม่รู้กี่ล้านปีแต่มันก็มีเพียงแค่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านคนเดียวที่มีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! เจ้าพูดจาเช่นนี้หลอกลวงคนคิดว่ามหาจักรพรรดิล้ำอย่างเราๆ นั้นโง่มาก?”

หญิงชราคนนั้นกล่าวขึ้นเสริม “หลายปีที่ผ่านมานี้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะปรากฏขึ้นมากมายเกินกว่าจะนับ พวกมันต่างบอกว่าตัวเองนั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีใคร! เจ้าคิดว่าตัวเองมีดีอะไรถึงได้มากล่าวพูดโง่ๆ เช่นนี้?”

เย่หยวนหันไปมองซานหยางด้วยรอยยิ้มเหมือนกับจะบอกว่า ‘ใช่ เจ้ามันโง่!’

แต่เขานั้นก็ไม่รอให้ซานหยางได้กล่าวตอบอะไรมา “ก่อนที่ข้าจะเข้าเจดีย์เจ็ดสีไป ข้าก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มหรือไม่! แต่ตอนนี้ข้ามั่นใจอย่างถึงที่สุดว่าข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงอย่างแน่นอน!”กหุ้มของจริง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2951 เพราะข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอขี้แพ้?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2951 เพราะข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอขี้แพ้? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2951 เพราะข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอขี้แพ้?

เขานั้นแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ยอดอัจฉริยะที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกอันเก่งกาจล้ำนั้นกลับถูกคนอื่นมาชี้หน้าเรียกเป็นขี้แพ้?

จะบ้ากันไปแล้วหรืออย่างไร?

“ฮ่าๆ ไอ้เด็กตระกูลไป๋ เจ้าอย่าคิดว่าตัวเองมีบรรพบุรุษคุ้มครองหัวแล้วจะมาพูดจาอะไรต่อหน้าข้าก็ได้! เจ้าคิดหรือว่าคลื่นกำเนิดมันสามารถผสานได้ง่ายๆ? ข้าว่าเจ้านั้นเองก็คงไม่อาจผสานได้จึงได้มาเรียกคนอื่นเป็นขี้แพ้เพราะความคับแค้นใจแล้ว?” ซานหยางนั้นกล่าวขึ้นมาเย้ยไป๋ชุยซาน

“ฮ่าๆๆ”

แต่คำพูดนั้นมันกลับทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมารอบด้าน

เหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะที่เข้าเจดีย์เจ็ดสีไปทุกๆ คนนั้นต่างหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน!

แม้ว่าซานหยางนั้นจะเป็นถึงมหาจักรพรรดิล้ำที่มีชื่อเสียงลือลั่นดินแดนวิญญาณอมตะแต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความผิดปกติและต้องอับอายขึ้น

‘ข้ากำลังถูกขยะร่างวิญญาณกึ่งอมตะมันหัวเราะเยาะ?’

‘หัวเราะลั่นจนตอนนี้ก็ยังไม่คิดจะหยุดกัน’

‘หัวเราะกับพ่อเจ้าหรือ?!’

“หุบปาก!” ซานหยางนั้นร้องลั่นขึ้นมา

เมื่อมหาจักรพรรดิล้ำโกรธขึ้นมา มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายต้องรีบหุบปากลงแทบไม่ทัน

และก็ไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอีก

แต่ว่าซานหยางเองก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในมันคงไม่เหมือนอย่างที่เขาคาดคิดไว้!

“หวางเฉียน เจ้าว่ามาเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเจดีย์เจ็ดสีกันแน่!” ซานหยางถามขึ้นมา

“ท่านซานหยาง ข้า…” หวางเฉียนนั้นได้แต่ต้องพูดติดๆ ขัดๆ

“ฮ่าๆๆ ท่านซานหยาง แม้ว่าหวางเฉียนมันจะหน้าด้านแค่ไหนแล้วมันก็คงยังไม่กล้าจะพูดถึงเรื่องในเจดีย์เจ็ดสีออกมาจากปากตัวเองหรอกท่าน! ให้ข้าเล่าให้ท่านฟังแทนดีไหม?” ไป๋ชุยซานกล่าวขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะ

ได้เห็นว่าหวางเฉียนนั้นยังอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมกล่าวออกมา

ซานหยางจึงพ่นลมหันหน้ามาหาไป๋ชุยซานเป็นการแสดงท่าทียอมรับไป

มหาจักรพรรดิล้ำคนอื่นๆ เองก็ต่างสนใจในเรื่องนี้ไม่แพ้กันและต้องเงี่ยหูฟังเรื่องราวอย่างสนใจ

แต่เมื่อได้ยินเข้าพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา

ต่อให้พวกเขานั้นจะมากประสบการณ์แค่ไหน…

พวกเขาก็ไม่เคยคิดฝันว่ามันจะมีเรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นในเจดีย์เจ็ดสีได้

และสิ่งที่พวกเขาทั้งหมดได้ค้นพบนี้มันก็เพราะว่าเย่หยวนคนนี้!

ตอนนี้แม้แต่หยุนหนีเองก็ต้องหันไปมองดูเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ ราวกับอีกฝ่ายนั้นเป็นสัตว์ประหลาด

พวกเขานั้นคิดว่าการเข้าเจดีย์เจ็ดสีครั้งนี้อย่างมากที่สุดมันก็คงมีคนออกมาได้แค่หนึ่งคน

แต่ใครจะไปคิดว่าคนกว่าร้อยคนกลับออกมาจากเจดีย์ได้!

นอกจากนั้นแล้วคนนับร้อยนี้ยังพัฒนาตัวเองไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เหมือนตัวไป๋ชุยซานนั้นที่สามารถเอาชนะหวางเฉียนผู้ผสานคลื่นกำเนิดลงได้อย่างง่ายดาย!

“ไอ้ขี้แพ้!” ซานหยางนั้นแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยควันออกหู

หวางเฉียนนั้นเป็นสุนัขขี้แพ้อย่างถึงที่สุด!

ผสานกับคลื่นกำเนิดแล้วยังแพ้ให้คนอื่นราบคาบ!

แดนวิญญาณกลางของเขานั้นมันเสียหน้าสิ้นเชิงแล้ว!

“ศิษย์พี่มู่ ท่านบอกว่า…เย่หยวนเป็นแค่ตัวตลก?”

“ศิษย์พี่หมิงเจียน ท่านบอกว่า…เย่หยวนนั้นเป็นแค่โคลนเน่าๆ ที่ไม่มีค่าเอาไปทำอะไร?”

“พี่ซานหยาง ท่านพูดว่าหวางเฉียนมันเก่งกาจล้ำคนอื่นๆ ขนาดไหนนะ?”

วินาทีที่ไป๋ชุยซานเล่าเรื่องจบเสียงของหยุนหนีมันก็แทรกตามขึ้นมาทันที

คนทั้งสามนั้นหน้าแดงก่ำขึ้นอย่างรุนแรง

เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ พวกเขาว่าด่าเย่หยวนไม่ขาดปาก

หยุนหนีนั้นเองก็ไม่คิดจะโต้เถียงใดๆ กลับไป

แต่ใครจะไปคิดว่านางนั้นทนฟังมาเดือนกว่าและสุดท้ายก็โจมตีสวนกลับมาอย่างไม่ให้ใครได้ตั้งตัว!

มันมิใช่ว่านางนั้นไม่สนใจแต่ว่านางนั้นแค่รอโอกาสสวนกลับอยู่เท่านั้น!

โอกาสตบหน้าให้ดังลั่น!

เย่หยวนเองที่ได้ยินก็ต้องผงะไปเช่นกัน

เพราะแน่นอนผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิง!

ที่สำคัญหญิงนางนี้ยังเก่งกาจในเต๋าแห่งการโอ้อวดด้วย

ให้อีกฝ่ายพูดกันไปก่อนให้สะใจ!

หลังจากโม้กันจบแล้วนางจึงใช้ความจริงเข้าตบ!

ตบให้หน้าหัน!

แต่ตอนที่เย่หยวนกำลังยืนนิ่งอยู่นั้นหยุนหนีก็หันมามองเขาพร้อมกล่าวขึ้น “ในเมื่อหวางเฉียนผสานกับคลื่นกำเนิดแล้วเจ้าก็ไร้ค่าใด! ไปตายเสียเถอะ!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นอย่างเย็นเยือกไร้อารมณ์ใดๆ

พริบตาต่อมานั้นเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารเย็นเยือกแทรกเข้ามาในร่างวิญญาณ

นางไม่ได้ล้อเล่น!

นางนั้นสงสัยในจุดประสงค์ของเขามาตั้งแต่แรกและย่อมคิดจะปิดปากเขาลงเพื่อไม่ให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ภายหลัง!

ความหมายของนางนั้นมันชัดเจน ‘เจ้าไม่มีค่าใดแล้ว ไปตายเสียเถอะ!’

ต่อให้เย่หยวนนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ไม่มีทางที่จะต่อสู้กับหยุนหนีด้วยสภาพตอนนี้ได้

นางคนนี้แข็งแกร่ง!

เย่หยวนขนลุกทั้งร่างเพราะนางคนนี้ช่างทำการได้อย่างรวดเร็วเขาไม่มีเวลาจะตั้งตัวใดๆ!

แน่นอนว่าเย่หยวนเข้าใจดีแต่แรกว่าการกระทำของเขามันคงทำให้หยุนหนีไม่พอใจ

นางสั่งให้เขาไปเอาคลื่นกำเนิดมา แต่เขานั้นกลับเอาไปมอบให้คนอื่นอย่างไม่สนใจไยดี

คลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมันมีค่าล้ำในแดนวิญญาณทั้งห้า

ใครก็ตามที่ได้ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้จะถือว่ากลายเป็นศิษย์ของเจ้าโลกบู๋เมี่ยไป

หลังจากที่หาตัวเจ้าโลกบู๋เมี่ยและพาเขากลับมาได้แล้ว ดินแดนบ้านเกิดของคนผู้นั้นคงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาครั้งใหญ่

‘แต่ข้าให้ค่าเจ้ามากมาย สุดท้ายเจ้ากลับทรยศข้าเสียได้!’

‘หากข้าไม่สังหารเจ้าลงแล้วข้าจะยังเอาหน้าไปพบใครได้?’

เย่หยวนได้แต่ต้องร้องตอบมาด้วยหน้าซีดขาว “เดี๋ยวก่อน! แม้ว่าหวางเฉียนนั้นมันจะผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดแล้ว มันก็ไม่แน่ว่าจะหาท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเจอ! บางทีข้าอาจจะยังช่วยได้อยู่!”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาสีหน้าของยอดฝีมือจากห้าดินแดนก็ต้องเปลี่ยนสีไป

ผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายนั้นต่างแตกตื่นไปตามๆ กัน

“หาท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ย? มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?”

“มันเกิดอะไรขึ้นกับท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยหรือ?”

“อ่ะ! ที่แท้ที่พวกเขาตัดสินใจผนึกทางออกของเจดีย์เจ็ดสีมันก็เพราะเรื่องนี้!”

เย่หยวนและหวางเฉียนนั้นมีข้อตกลงกันมาแต่แรกว่าจะไม่พูดถึงความจริง

แต่ตอนนี้ด้วยความคับขันมันทำให้เย่หยวนหลุดปากพูดออกมาต่อหน้าคน

มันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

นี่มันเป็นเรื่องใหญ่โตสะท้านแผ่นดิน!

หากมีบรรพบุรุษบู๋เมี่ยอยู่ ดินแดนวิญญาณอมตะก็จะไม่มีทางล่มสลาย!

แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านแล้ว แดนวิญญาณอมตะก็คงสิ้นสูญ!

นี่มันคือเรื่องที่คนทั้งหลายรู้แก่ใจ

ซานหยางนั้นร้องลั่นขึ้นมาทันที “เย่หยวน เจ้ารนหาที่ตายเองแล้ว! คลื่นกำเนิดนี้จะอย่างไรหวางเฉียนก็ได้มาแล้ว มันไม่ต้องใช้อะไรเจ้าอีกต่อไป! ในเมื่อศิษย์น้องหยุนหนีคิดอยากสังหารเจ้า เจ้าก็ตายไปเสียเถอะ!”

ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดของห้าดินแดนนั้นต่างโกรธแค้นไม่พอใจเย่หยวนขึ้นมาคิดสังหารเย่หยวนลงพร้อมๆ กัน

ซานหยางนั้นยกมือขึ้นมาสับลงใส่ร่างของเย่หยวนอย่างไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดอะไรอีก

เขานั้นไม่ชอบหน้าเย่หยวนมาตั้งแต่แรกและตอนนี้มันก็เป็นโอกาสดีที่จะได้ระบายออกมา!

การโจมตีเบาๆ ของซานหยางนี้มันคือหายนะของเย่หยวน!

เขานั้นเหมือนถูกตรึงไว้ไม่อาจขยับเคลื่อนไหวร่างได้

พลังคลื่นกำเนิดนั้นมันแข็งแกร่งล้ำ!

ตูม!

ซานหยางต้องผงะไปเพราะว่าการโจมตีของเขานั้นมันกลับถูกตัวหยุนหนีเองที่เข้ามาขัดไว้!

“ให้มันพูดก่อน!” หยุนหนีกล่าวขึ้นมาอย่างไม่คิดไว้หน้าซานหยางใดๆ

แม้ว่ามันจะเป็นร่างวิญญาณที่ไม่มีเลือดหรือเหงื่อ แต่เย่หยวนก็ยังรู้สึกเหมือนเหงื่อไหลท่วมกาย

เขานั้นสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าว “การหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยด้วยคลื่นกำเนิดของท่านนั้นมันเป็นแค่เรื่องที่พวกท่านคิดกันไปเอง! มันไม่แน่เสมอไปหรอกว่าหวางเฉียนนั้นจะตามหาเสี้ยวพลังของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเจอหรือไม่ แต่ข้านั้นมั่นใจว่าจะหาได้!”

ซานหยางนั้นเปลี่ยนความอับอายเป็นความโกรธและกล่าวร้องขึ้น “แม้แต่คลื่นกำเนิดของท่านบู๋เมี่ยยังหาตัวท่านไม่เจอแล้วเจ้าจะเอาอะไรมาหา?!”

เย่หยวนตอบกลับไป “เพราะว่าข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงอยู่!”

ซานหยางนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมา “ตลกแล้ว! สามสิบสามสวรรค์นั้นตั้งอยู่มาไม่รู้กี่ล้านปีแต่มันก็มีเพียงแค่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านคนเดียวที่มีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! เจ้าพูดจาเช่นนี้หลอกลวงคนคิดว่ามหาจักรพรรดิล้ำอย่างเราๆ นั้นโง่มาก?”

หญิงชราคนนั้นกล่าวขึ้นเสริม “หลายปีที่ผ่านมานี้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะปรากฏขึ้นมากมายเกินกว่าจะนับ พวกมันต่างบอกว่าตัวเองนั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีใคร! เจ้าคิดว่าตัวเองมีดีอะไรถึงได้มากล่าวพูดโง่ๆ เช่นนี้?”

เย่หยวนหันไปมองซานหยางด้วยรอยยิ้มเหมือนกับจะบอกว่า ‘ใช่ เจ้ามันโง่!’

แต่เขานั้นก็ไม่รอให้ซานหยางได้กล่าวตอบอะไรมา “ก่อนที่ข้าจะเข้าเจดีย์เจ็ดสีไป ข้าก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มหรือไม่! แต่ตอนนี้ข้ามั่นใจอย่างถึงที่สุดว่าข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงอย่างแน่นอน!”กหุ้มของจริง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2951 เพราะข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอขี้แพ้?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2951 เพราะข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอขี้แพ้? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2951 เพราะข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอขี้แพ้?

เขานั้นแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ยอดอัจฉริยะที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกอันเก่งกาจล้ำนั้นกลับถูกคนอื่นมาชี้หน้าเรียกเป็นขี้แพ้?

จะบ้ากันไปแล้วหรืออย่างไร?

“ฮ่าๆ ไอ้เด็กตระกูลไป๋ เจ้าอย่าคิดว่าตัวเองมีบรรพบุรุษคุ้มครองหัวแล้วจะมาพูดจาอะไรต่อหน้าข้าก็ได้! เจ้าคิดหรือว่าคลื่นกำเนิดมันสามารถผสานได้ง่ายๆ? ข้าว่าเจ้านั้นเองก็คงไม่อาจผสานได้จึงได้มาเรียกคนอื่นเป็นขี้แพ้เพราะความคับแค้นใจแล้ว?” ซานหยางนั้นกล่าวขึ้นมาเย้ยไป๋ชุยซาน

“ฮ่าๆๆ”

แต่คำพูดนั้นมันกลับทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมารอบด้าน

เหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะที่เข้าเจดีย์เจ็ดสีไปทุกๆ คนนั้นต่างหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน!

แม้ว่าซานหยางนั้นจะเป็นถึงมหาจักรพรรดิล้ำที่มีชื่อเสียงลือลั่นดินแดนวิญญาณอมตะแต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความผิดปกติและต้องอับอายขึ้น

‘ข้ากำลังถูกขยะร่างวิญญาณกึ่งอมตะมันหัวเราะเยาะ?’

‘หัวเราะลั่นจนตอนนี้ก็ยังไม่คิดจะหยุดกัน’

‘หัวเราะกับพ่อเจ้าหรือ?!’

“หุบปาก!” ซานหยางนั้นร้องลั่นขึ้นมา

เมื่อมหาจักรพรรดิล้ำโกรธขึ้นมา มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายต้องรีบหุบปากลงแทบไม่ทัน

และก็ไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอีก

แต่ว่าซานหยางเองก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในมันคงไม่เหมือนอย่างที่เขาคาดคิดไว้!

“หวางเฉียน เจ้าว่ามาเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเจดีย์เจ็ดสีกันแน่!” ซานหยางถามขึ้นมา

“ท่านซานหยาง ข้า…” หวางเฉียนนั้นได้แต่ต้องพูดติดๆ ขัดๆ

“ฮ่าๆๆ ท่านซานหยาง แม้ว่าหวางเฉียนมันจะหน้าด้านแค่ไหนแล้วมันก็คงยังไม่กล้าจะพูดถึงเรื่องในเจดีย์เจ็ดสีออกมาจากปากตัวเองหรอกท่าน! ให้ข้าเล่าให้ท่านฟังแทนดีไหม?” ไป๋ชุยซานกล่าวขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะ

ได้เห็นว่าหวางเฉียนนั้นยังอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมกล่าวออกมา

ซานหยางจึงพ่นลมหันหน้ามาหาไป๋ชุยซานเป็นการแสดงท่าทียอมรับไป

มหาจักรพรรดิล้ำคนอื่นๆ เองก็ต่างสนใจในเรื่องนี้ไม่แพ้กันและต้องเงี่ยหูฟังเรื่องราวอย่างสนใจ

แต่เมื่อได้ยินเข้าพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา

ต่อให้พวกเขานั้นจะมากประสบการณ์แค่ไหน…

พวกเขาก็ไม่เคยคิดฝันว่ามันจะมีเรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นในเจดีย์เจ็ดสีได้

และสิ่งที่พวกเขาทั้งหมดได้ค้นพบนี้มันก็เพราะว่าเย่หยวนคนนี้!

ตอนนี้แม้แต่หยุนหนีเองก็ต้องหันไปมองดูเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ ราวกับอีกฝ่ายนั้นเป็นสัตว์ประหลาด

พวกเขานั้นคิดว่าการเข้าเจดีย์เจ็ดสีครั้งนี้อย่างมากที่สุดมันก็คงมีคนออกมาได้แค่หนึ่งคน

แต่ใครจะไปคิดว่าคนกว่าร้อยคนกลับออกมาจากเจดีย์ได้!

นอกจากนั้นแล้วคนนับร้อยนี้ยังพัฒนาตัวเองไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เหมือนตัวไป๋ชุยซานนั้นที่สามารถเอาชนะหวางเฉียนผู้ผสานคลื่นกำเนิดลงได้อย่างง่ายดาย!

“ไอ้ขี้แพ้!” ซานหยางนั้นแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยควันออกหู

หวางเฉียนนั้นเป็นสุนัขขี้แพ้อย่างถึงที่สุด!

ผสานกับคลื่นกำเนิดแล้วยังแพ้ให้คนอื่นราบคาบ!

แดนวิญญาณกลางของเขานั้นมันเสียหน้าสิ้นเชิงแล้ว!

“ศิษย์พี่มู่ ท่านบอกว่า…เย่หยวนเป็นแค่ตัวตลก?”

“ศิษย์พี่หมิงเจียน ท่านบอกว่า…เย่หยวนนั้นเป็นแค่โคลนเน่าๆ ที่ไม่มีค่าเอาไปทำอะไร?”

“พี่ซานหยาง ท่านพูดว่าหวางเฉียนมันเก่งกาจล้ำคนอื่นๆ ขนาดไหนนะ?”

วินาทีที่ไป๋ชุยซานเล่าเรื่องจบเสียงของหยุนหนีมันก็แทรกตามขึ้นมาทันที

คนทั้งสามนั้นหน้าแดงก่ำขึ้นอย่างรุนแรง

เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ พวกเขาว่าด่าเย่หยวนไม่ขาดปาก

หยุนหนีนั้นเองก็ไม่คิดจะโต้เถียงใดๆ กลับไป

แต่ใครจะไปคิดว่านางนั้นทนฟังมาเดือนกว่าและสุดท้ายก็โจมตีสวนกลับมาอย่างไม่ให้ใครได้ตั้งตัว!

มันมิใช่ว่านางนั้นไม่สนใจแต่ว่านางนั้นแค่รอโอกาสสวนกลับอยู่เท่านั้น!

โอกาสตบหน้าให้ดังลั่น!

เย่หยวนเองที่ได้ยินก็ต้องผงะไปเช่นกัน

เพราะแน่นอนผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิง!

ที่สำคัญหญิงนางนี้ยังเก่งกาจในเต๋าแห่งการโอ้อวดด้วย

ให้อีกฝ่ายพูดกันไปก่อนให้สะใจ!

หลังจากโม้กันจบแล้วนางจึงใช้ความจริงเข้าตบ!

ตบให้หน้าหัน!

แต่ตอนที่เย่หยวนกำลังยืนนิ่งอยู่นั้นหยุนหนีก็หันมามองเขาพร้อมกล่าวขึ้น “ในเมื่อหวางเฉียนผสานกับคลื่นกำเนิดแล้วเจ้าก็ไร้ค่าใด! ไปตายเสียเถอะ!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นอย่างเย็นเยือกไร้อารมณ์ใดๆ

พริบตาต่อมานั้นเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารเย็นเยือกแทรกเข้ามาในร่างวิญญาณ

นางไม่ได้ล้อเล่น!

นางนั้นสงสัยในจุดประสงค์ของเขามาตั้งแต่แรกและย่อมคิดจะปิดปากเขาลงเพื่อไม่ให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ภายหลัง!

ความหมายของนางนั้นมันชัดเจน ‘เจ้าไม่มีค่าใดแล้ว ไปตายเสียเถอะ!’

ต่อให้เย่หยวนนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ไม่มีทางที่จะต่อสู้กับหยุนหนีด้วยสภาพตอนนี้ได้

นางคนนี้แข็งแกร่ง!

เย่หยวนขนลุกทั้งร่างเพราะนางคนนี้ช่างทำการได้อย่างรวดเร็วเขาไม่มีเวลาจะตั้งตัวใดๆ!

แน่นอนว่าเย่หยวนเข้าใจดีแต่แรกว่าการกระทำของเขามันคงทำให้หยุนหนีไม่พอใจ

นางสั่งให้เขาไปเอาคลื่นกำเนิดมา แต่เขานั้นกลับเอาไปมอบให้คนอื่นอย่างไม่สนใจไยดี

คลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมันมีค่าล้ำในแดนวิญญาณทั้งห้า

ใครก็ตามที่ได้ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้จะถือว่ากลายเป็นศิษย์ของเจ้าโลกบู๋เมี่ยไป

หลังจากที่หาตัวเจ้าโลกบู๋เมี่ยและพาเขากลับมาได้แล้ว ดินแดนบ้านเกิดของคนผู้นั้นคงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาครั้งใหญ่

‘แต่ข้าให้ค่าเจ้ามากมาย สุดท้ายเจ้ากลับทรยศข้าเสียได้!’

‘หากข้าไม่สังหารเจ้าลงแล้วข้าจะยังเอาหน้าไปพบใครได้?’

เย่หยวนได้แต่ต้องร้องตอบมาด้วยหน้าซีดขาว “เดี๋ยวก่อน! แม้ว่าหวางเฉียนนั้นมันจะผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดแล้ว มันก็ไม่แน่ว่าจะหาท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเจอ! บางทีข้าอาจจะยังช่วยได้อยู่!”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาสีหน้าของยอดฝีมือจากห้าดินแดนก็ต้องเปลี่ยนสีไป

ผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายนั้นต่างแตกตื่นไปตามๆ กัน

“หาท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ย? มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?”

“มันเกิดอะไรขึ้นกับท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยหรือ?”

“อ่ะ! ที่แท้ที่พวกเขาตัดสินใจผนึกทางออกของเจดีย์เจ็ดสีมันก็เพราะเรื่องนี้!”

เย่หยวนและหวางเฉียนนั้นมีข้อตกลงกันมาแต่แรกว่าจะไม่พูดถึงความจริง

แต่ตอนนี้ด้วยความคับขันมันทำให้เย่หยวนหลุดปากพูดออกมาต่อหน้าคน

มันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

นี่มันเป็นเรื่องใหญ่โตสะท้านแผ่นดิน!

หากมีบรรพบุรุษบู๋เมี่ยอยู่ ดินแดนวิญญาณอมตะก็จะไม่มีทางล่มสลาย!

แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านแล้ว แดนวิญญาณอมตะก็คงสิ้นสูญ!

นี่มันคือเรื่องที่คนทั้งหลายรู้แก่ใจ

ซานหยางนั้นร้องลั่นขึ้นมาทันที “เย่หยวน เจ้ารนหาที่ตายเองแล้ว! คลื่นกำเนิดนี้จะอย่างไรหวางเฉียนก็ได้มาแล้ว มันไม่ต้องใช้อะไรเจ้าอีกต่อไป! ในเมื่อศิษย์น้องหยุนหนีคิดอยากสังหารเจ้า เจ้าก็ตายไปเสียเถอะ!”

ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดของห้าดินแดนนั้นต่างโกรธแค้นไม่พอใจเย่หยวนขึ้นมาคิดสังหารเย่หยวนลงพร้อมๆ กัน

ซานหยางนั้นยกมือขึ้นมาสับลงใส่ร่างของเย่หยวนอย่างไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดอะไรอีก

เขานั้นไม่ชอบหน้าเย่หยวนมาตั้งแต่แรกและตอนนี้มันก็เป็นโอกาสดีที่จะได้ระบายออกมา!

การโจมตีเบาๆ ของซานหยางนี้มันคือหายนะของเย่หยวน!

เขานั้นเหมือนถูกตรึงไว้ไม่อาจขยับเคลื่อนไหวร่างได้

พลังคลื่นกำเนิดนั้นมันแข็งแกร่งล้ำ!

ตูม!

ซานหยางต้องผงะไปเพราะว่าการโจมตีของเขานั้นมันกลับถูกตัวหยุนหนีเองที่เข้ามาขัดไว้!

“ให้มันพูดก่อน!” หยุนหนีกล่าวขึ้นมาอย่างไม่คิดไว้หน้าซานหยางใดๆ

แม้ว่ามันจะเป็นร่างวิญญาณที่ไม่มีเลือดหรือเหงื่อ แต่เย่หยวนก็ยังรู้สึกเหมือนเหงื่อไหลท่วมกาย

เขานั้นสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าว “การหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยด้วยคลื่นกำเนิดของท่านนั้นมันเป็นแค่เรื่องที่พวกท่านคิดกันไปเอง! มันไม่แน่เสมอไปหรอกว่าหวางเฉียนนั้นจะตามหาเสี้ยวพลังของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเจอหรือไม่ แต่ข้านั้นมั่นใจว่าจะหาได้!”

ซานหยางนั้นเปลี่ยนความอับอายเป็นความโกรธและกล่าวร้องขึ้น “แม้แต่คลื่นกำเนิดของท่านบู๋เมี่ยยังหาตัวท่านไม่เจอแล้วเจ้าจะเอาอะไรมาหา?!”

เย่หยวนตอบกลับไป “เพราะว่าข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงอยู่!”

ซานหยางนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมา “ตลกแล้ว! สามสิบสามสวรรค์นั้นตั้งอยู่มาไม่รู้กี่ล้านปีแต่มันก็มีเพียงแค่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านคนเดียวที่มีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! เจ้าพูดจาเช่นนี้หลอกลวงคนคิดว่ามหาจักรพรรดิล้ำอย่างเราๆ นั้นโง่มาก?”

หญิงชราคนนั้นกล่าวขึ้นเสริม “หลายปีที่ผ่านมานี้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะปรากฏขึ้นมากมายเกินกว่าจะนับ พวกมันต่างบอกว่าตัวเองนั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีใคร! เจ้าคิดว่าตัวเองมีดีอะไรถึงได้มากล่าวพูดโง่ๆ เช่นนี้?”

เย่หยวนหันไปมองซานหยางด้วยรอยยิ้มเหมือนกับจะบอกว่า ‘ใช่ เจ้ามันโง่!’

แต่เขานั้นก็ไม่รอให้ซานหยางได้กล่าวตอบอะไรมา “ก่อนที่ข้าจะเข้าเจดีย์เจ็ดสีไป ข้าก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มหรือไม่! แต่ตอนนี้ข้ามั่นใจอย่างถึงที่สุดว่าข้านั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงอย่างแน่นอน!”กหุ้มของจริง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+