Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2952 ตำนานของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2952 ตำนานของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? เจ้ามีดีแค่พูดแต่ไม่มีหลักฐานอะไร เจ้าบอกว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มเช่นนี้

ไม่คิดว่ามันน่าขันบ้างหรือ?” ซานหยางหัวเราะลั่นขึ้น

“เย่หยวน หากเจ้าจะบอกว่ามันมีใครที่มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริง มันก็คงเป็นข้ามากกว่า! เพราะว่าข้านั้นคือ

ผู้ที่ได้ผสานกับคลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่าน! ที่เจ้าผ่านแต่ละชั้นมาได้ก่อนใครนั้นมันก็แค่เพราะว่าเจ้าหัวดี เรื่องนั้นข้ายอมรับ! แต่เจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริง?” หวางเฉียนนั้นเห็นช่องว่างจึงได้ยื่นหน้าออกมาเย้ยหยันเย่หยวนด้วย

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นสิ่งที่มีแต่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยที่จะมองออก

คนอื่นๆ นั้นต่อให้จะเป็นใครมันก็คงไม่มีทางพิสูจน์ได้ทั้งนั้น!

เพราะฉะนั้นเวลานี้มันจึงเหมาะที่จะลากเย่หยวนลงมาสังหารให้จบๆ ไป!

คิดเย้ยหยันไม่ยอมรับคลื่นกำเนิดตอนนี้คงถูกกรรมตามสนองแล้ว!

หวางเฉียนนั้นรู้สึกสะใจขึ้นอย่างมาก

หญิงชราศิษย์พี่มู่คนนั้นกล่าวขึ้นมาตาม “ที่หวางเฉียนพูดมามันไม่มีอะไรผิด! เจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าตัวเองนั้นมีร่างวิญญาณอมตะของจริง?”

หยุนหนีนั้นไม่พูดอะไรแต่สายตาของนางนั้นมันเห็นด้วยกับคำถามของคนทั้งหลาย

หากไม่อยากตายก็พิสูจน์มา!

เย่หยวนรู้ดีว่าตอนนี้เวลาที่อันตรายที่สุดมันได้ผ่านไปแล้ว

หยุนหนีนั้นยังให้ค่าเขาสูงมากนัก

“เย่หยวนฝึกตัวในเจดีย์เจ็ดสีแต่ละชั้นจนถึงขั้นสุดได้ก่อนใครเพื่อน! ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าใจถึงสมบัติสืบทอดที่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านทิ้งไว้ด้วย! ข้าว่าเขานั้นคงเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะอย่างแท้จริง!” ในตอนนั้นเองที่ไป๋ชุยซานก้าวขึ้นมากล่าว

คำพูดนั้นมันออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ

“ยังไม่พอ!” หยุนหนีตอบไป

ได้ยินเช่นนั้นหวางเฉียนก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา ตัวเขานั้นไม่ได้รู้ว่าทำไมหยุนหนีถึงได้เปลี่ยนท่าทีไปเช่นนี้

ตราบเท่าที่เย่หยวนตายลง มันก็ไม่มีอะไรต้องสนอีกแล้ว!

ส่วนเรื่องการพิสูจน์ว่าเย่หยวนนั้นเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะของจริงหรือไม่มันย่อมจะไม่มีทางทำได้!

“เย่หยวน เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะรู้ที่อยู่ของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านเจ้าคงไม่มีทางรอดไปได้แน่!” หวางเฉียนยิ้มกว้างกล่าวขึ้นมา

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มกว้างตอบกลับมาพร้อมปล่อยคลื่นพลังวิญญาณออกจากร่าง

คลื่นวิญญาณรุนแรงนั้นกระแทกออกมารอบด้านจนเมฆบนฟ้าแตกกระจาย!

บนท้องฟ้านั้นมันค่อยๆ ปรากฏประตูใหญ่ขึ้นมา

บนประตูหินนั้นมันมีอักษร ‘ไม่ถ้วน’ เขียนไว้อยู่

ภาพนี้มันทำให้เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นรอบด้าน

“นั่นมันประตูแห่งชีวานิรันดร์! อาจารย์เย่ช่างเก่งกาจล้ำนัก เรียกมันออกมาได้ง่ายๆ เช่นนี้เลย?”

“หรือว่าอาจารย์เย่คิดใช้การบรรลุมหาจักรพรรดิเป็นเครื่องพิสูจน์?”

“ข้าเองก็คิดว่าอาจารย์เย่คงเป็นร่างวิญญาณอมตะจริงๆ!”

ประตูหินนั้นปรากฏขึ้นบนหัวของเย่หยวนและมีชื่อเรียกว่าประตูแห่งชีวานิรันดร์!

ตราบเท่าที่คนผู้หนึ่งสามารถเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์ลงมาได้

มันก็จะนับว่าคนผู้นั้นบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์แล้ว!

การฝึกฝนของเหล่ามหาจักรพรรดิครึ่งก้าวนั้นมันก็คือการฝึกฝนเพื่อเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้ออกมา

สำหรับคนอื่นๆ แล้วเรื่องนี้มันสุดแสนยากเย็น

แต่วินาทีที่เย่หยวนปล่อยคลื่นวิญญาณออกมานั้นประตูก็ปรากฏอย่างไม่ยากลำบากใดๆ!

การบ่มเพาะในอาณาจักรมหาจักรพรรดินั้นมันเกี่ยวข้องกับประตูแห่งชีวานิรันดร์อย่างมาก

คำว่า ‘ไม่ถ้วน’ นั้นมันมีสามชั้นสามผนึกหมายถึงมหาจักรพรรดิทั้งสามอาณาจักร!

สามผนึกสามโซ่ตรวน!

หากคิดอยากจะบรรลุเจ้าโลก…

คนผู้นั้นก็ต้องใช้พลังคลื่นกำเนิดทลายผนึกชั้นที่สามลง และเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกเพื่อก้าวข้ามนิพพานขึ้นสู่ความเป็นนิรันดร์!

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นไม่ถูกผูกมัดด้วยอายุขัย ดังนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องเผชิญกับเต๋าทุกข์ใด

ตราบเท่าที่ไม่ถูกสังหารลงพวกเขาก็สามารถอยู่ได้ตลอดกาล!

เพียงแค่ว่ายิ่งเวลาผ่านไปเจ้าโลกทั้งหลายมันก็จะมีการเปลี่ยนถ่ายไปเรื่อยๆ

คนที่เป็นนิรันดร์อย่างแท้จริงนั้นมันไม่มีอยู่จริง

เมื่อมาถึงเผ่าวิญญาณนั้นเย่หยวนก็ได้เจอกับการทดสอบของโถงวิญญาณนิพพาน

พร้อมกับฝึกฝนตัวเองในเจดีย์เจ็ดสีจนตอนนี้เขาสามารถเข้าใจกำเนิดเทพระดับที่สามได้แล้ว!

เมื่อเขาปลดปล่อยมันออกมาการเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นจึงมิใช่เรื่องยากเย็นใดๆ แม้แต่น้อย

“ประตูแห่งชีวานิรันดร์! เจ้านี่มันคิดจะบรรลุมหาจักรพรรดิ? เพียงแค่ว่าการบรรลุมหาจักรพรรดิแล้วมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับการพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นผู้มีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? น่าขัน!” หวางเฉียนนั้นอดร้องเย้ยขึ้นไม่ได้

ซานหยางนั้นเองก็หัวเราะขึ้นมาตาม “อ่อนหัดนัก! มันคิดว่าการบรรลุมหาจักรพรรดิตอนนี้มันจะรอดชีวิตไปได้? ศิษย์น้องหยุนหนี ตอนนี้คลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเราก็ได้มาแล้ว เป้าหมายของเราควรเป็นการออกตามหาท่านมากกว่าจะมาเสียเวลาเช่นนี้! หรือว่าเจ้าเองก็คิดจะมานั่งดูมันบรรลุยอมเสียเวลาไปด้วย?”

หญิงชราคนนั้นเองก็กล่าวขึ้นตาม “การหาตัวบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านคือเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้! หยุนหนี หากเจ้ามีเวลานักก็อยู่เล่นกับมันเถอะ เราจะไปก่อนแล้ว!”

หยุนหนียังคงทำหน้านิ่งตอบกลับไป “พวกเจ้าลืมตำนานของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านไปแล้ว?”

“ตำนาน? ตำนานใดกัน?” หวางเฉียนนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน

แต่ว่ายอดฝีมือทั้งสี่นั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย!

พวกเขานั้นลืมไปจริงๆ!

เพราะมันเป็นตำนานที่ผ่านมานานแสนนาน!

ซานหยางหรี่ตาลงกล่าว “เจ้าจะบอกว่ามันทำได้? ไม่มีทางน่า!”

หญิงชราคนนั้นเองก็กล่าวขึ้นตาม “น่าขัน! เรื่องนั้นมันก็แค่ตำนาน! แม้แต่ตัวท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเองยังไม่เคยยอมรับเลยว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ!”

หยุนหนีหันกลับไปมอง “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครเล่า? ทำไมท่านบู๋เมี่ยต้องมาเล่าอธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้เจ้าฟังด้วย?”

“เจ้า!” หญิงชรานั้นแทบจะกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน

มหาจักรพรรดิล้ำหมิงเจียนกล่าวขึ้นบ้าง “เรื่องนี้จะอย่างไรมันก็เป็นความลับของคนระดับสูง ขนาดพวกเราเองยังได้ยินมาแค่เล็กน้อย เจ้าเด็กนี่มันไปรู้ได้อย่างไร?”

หยุนหนีตอบไป “ไม่สำคัญ! ตอนนี้ที่สำคัญคือมันจะทำได้หรือไม่!”

สีหน้าของคนทั้งสี่นั้นเปลี่ยนสีไปทันทีและหยุดพูดลง

หวางเฉียนนั้นได้แต่ต้องทำหน้ามึนงงถามขึ้น “บรรพบุรุษท่านพูดเรื่องอะไรกัน? หรือว่าการบรรลุมหาจักรพรรดินั้นมีความสำคัญยิ่ง?”

ซานหยางหรี่ตาลงตอบ “ตำนานว่ากันว่าเมื่อนานมาแล้วนั้นตระกูลวิญญาณนิพพานของเรานั้นไม่มียอดเจ้าโลกใดๆ! ตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นเป็นแค่ทาสของตระกูลวิญญาณฉี และเป็นแค่ตระกูลรองของตระกูลวิญญาณฉีจนถึงวันที่ท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยปรากฏตัวขึ้น! ตอนที่ท่านบู๋เมี่ยบรรลุเต๋าก้าวสู่มหาจักรพรรดินั้นท่านได้บรรลุคลื่นกำเนิดหมอกหุ้ม! ท่านเป็นคนแรกในรอบหลายล้านปีของเผ่าวิญญาณที่สามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดได้ตั้งแต่เป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์! เพราะฉะนั้นท่านจึงได้นำให้ตระกูลวิญญาณนิพพานเราผงาดขึ้นมายืนเคียงกับตระกูลวิญญาณฉีได้!”

“ถ้า..ข้าแค่บอกว่าถ้านะ ถ้าเจ้าเด็กนี่มันสามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดหมอกหุ้มได้ตอนที่บรรลุมหาจักรพรรดิ! มันก็ย่อมจะหมายความว่ามันนั้นคือผู้มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแน่แล้ว! เพราะที่ผ่านๆ มามีเพียงแค่ท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยที่สามารถทำเช่นนั้นได้!”

คำพูดของซานหยางนั้นทำให้เหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายแตกตื่น!

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาได้เข้าใจว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงนั้นมันกลับมีเรื่องเช่นนั้นด้วย

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสถานะของผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะในตระกูลวิญญาณนิพพานถึงไม่ต่างกับคนธรรมดา

ที่แท้แล้วพวกเขาเหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะนั้นมันก็เป็นแค่ร่างวิญญาณกึ่งอมตะจริงๆ

แต่เย่หยวน?

“ชิ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก!” เมื่อหวางเฉียนได้ยินเขาก็อดเถียงกลับออกมาไม่ได้

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นตัวตนเดียวตลอดทุกยุคสมัยที่ผ่านมาที่ทำได้!

แล้วเย่หยวนนั้นมีดีอะไร?

เขาจะสามารถตามรอยเท้าบรรพบุรุษบู๋เมี่ยไปได้หรือ?

ศิษย์พี่มู่คนนั้นหัวเราะขึ้นมา “หยุนหนี เจ้าทำเราเสียเวลาเปล่าแล้ว! ทุกนาทีที่เราช้าไปนั้นมันอาจจะหมายถึงชีวิตของท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ย! ข้าชักจะเริ่มสงสัยว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่แล้ว! ซานหยาง ข้าว่าตอนนี้เราไปเรียกท่านยู่เทียนมาจัดการเรื่องราวจะดีกว่า!”

คำพูดของนางนั้นมันกล่าวขึ้นเพื่อหาเรื่องหยุนหนีตรงๆ

เดิมทีแล้วห้าดินแดนนั้นต่างมีเรื่องไม่ลงรอยกันเสมอ

แต่วันนี้เพื่อจะตามหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยพวกเขาทั้งหลายจึงได้ร่วมมือกันก็เท่านั้น

ซานหยางนั้นขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “ศิษย์น้องหยุนหนี สถานการณ์ตอนนี้มันจะรอช้าไม่ได้แล้ว! หากเจ้าคิดจะเล่นกับเจ้าเด็กนี่จริงๆ แล้วข้าคงมีแต่ต้องทำให้เจ้าไม่พอใจแล้ว!”

แต่เมื่อหยุนหนีได้ยินนางกลับกล่าวตอบไปสั้นๆ “แล้วแต่!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2952 ตำนานของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2952 ตำนานของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? เจ้ามีดีแค่พูดแต่ไม่มีหลักฐานอะไร เจ้าบอกว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มเช่นนี้

ไม่คิดว่ามันน่าขันบ้างหรือ?” ซานหยางหัวเราะลั่นขึ้น

“เย่หยวน หากเจ้าจะบอกว่ามันมีใครที่มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริง มันก็คงเป็นข้ามากกว่า! เพราะว่าข้านั้นคือ

ผู้ที่ได้ผสานกับคลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่าน! ที่เจ้าผ่านแต่ละชั้นมาได้ก่อนใครนั้นมันก็แค่เพราะว่าเจ้าหัวดี เรื่องนั้นข้ายอมรับ! แต่เจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริง?” หวางเฉียนนั้นเห็นช่องว่างจึงได้ยื่นหน้าออกมาเย้ยหยันเย่หยวนด้วย

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นสิ่งที่มีแต่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยที่จะมองออก

คนอื่นๆ นั้นต่อให้จะเป็นใครมันก็คงไม่มีทางพิสูจน์ได้ทั้งนั้น!

เพราะฉะนั้นเวลานี้มันจึงเหมาะที่จะลากเย่หยวนลงมาสังหารให้จบๆ ไป!

คิดเย้ยหยันไม่ยอมรับคลื่นกำเนิดตอนนี้คงถูกกรรมตามสนองแล้ว!

หวางเฉียนนั้นรู้สึกสะใจขึ้นอย่างมาก

หญิงชราศิษย์พี่มู่คนนั้นกล่าวขึ้นมาตาม “ที่หวางเฉียนพูดมามันไม่มีอะไรผิด! เจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าตัวเองนั้นมีร่างวิญญาณอมตะของจริง?”

หยุนหนีนั้นไม่พูดอะไรแต่สายตาของนางนั้นมันเห็นด้วยกับคำถามของคนทั้งหลาย

หากไม่อยากตายก็พิสูจน์มา!

เย่หยวนรู้ดีว่าตอนนี้เวลาที่อันตรายที่สุดมันได้ผ่านไปแล้ว

หยุนหนีนั้นยังให้ค่าเขาสูงมากนัก

“เย่หยวนฝึกตัวในเจดีย์เจ็ดสีแต่ละชั้นจนถึงขั้นสุดได้ก่อนใครเพื่อน! ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าใจถึงสมบัติสืบทอดที่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านทิ้งไว้ด้วย! ข้าว่าเขานั้นคงเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะอย่างแท้จริง!” ในตอนนั้นเองที่ไป๋ชุยซานก้าวขึ้นมากล่าว

คำพูดนั้นมันออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ

“ยังไม่พอ!” หยุนหนีตอบไป

ได้ยินเช่นนั้นหวางเฉียนก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา ตัวเขานั้นไม่ได้รู้ว่าทำไมหยุนหนีถึงได้เปลี่ยนท่าทีไปเช่นนี้

ตราบเท่าที่เย่หยวนตายลง มันก็ไม่มีอะไรต้องสนอีกแล้ว!

ส่วนเรื่องการพิสูจน์ว่าเย่หยวนนั้นเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะของจริงหรือไม่มันย่อมจะไม่มีทางทำได้!

“เย่หยวน เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะรู้ที่อยู่ของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านเจ้าคงไม่มีทางรอดไปได้แน่!” หวางเฉียนยิ้มกว้างกล่าวขึ้นมา

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มกว้างตอบกลับมาพร้อมปล่อยคลื่นพลังวิญญาณออกจากร่าง

คลื่นวิญญาณรุนแรงนั้นกระแทกออกมารอบด้านจนเมฆบนฟ้าแตกกระจาย!

บนท้องฟ้านั้นมันค่อยๆ ปรากฏประตูใหญ่ขึ้นมา

บนประตูหินนั้นมันมีอักษร ‘ไม่ถ้วน’ เขียนไว้อยู่

ภาพนี้มันทำให้เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นรอบด้าน

“นั่นมันประตูแห่งชีวานิรันดร์! อาจารย์เย่ช่างเก่งกาจล้ำนัก เรียกมันออกมาได้ง่ายๆ เช่นนี้เลย?”

“หรือว่าอาจารย์เย่คิดใช้การบรรลุมหาจักรพรรดิเป็นเครื่องพิสูจน์?”

“ข้าเองก็คิดว่าอาจารย์เย่คงเป็นร่างวิญญาณอมตะจริงๆ!”

ประตูหินนั้นปรากฏขึ้นบนหัวของเย่หยวนและมีชื่อเรียกว่าประตูแห่งชีวานิรันดร์!

ตราบเท่าที่คนผู้หนึ่งสามารถเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์ลงมาได้

มันก็จะนับว่าคนผู้นั้นบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์แล้ว!

การฝึกฝนของเหล่ามหาจักรพรรดิครึ่งก้าวนั้นมันก็คือการฝึกฝนเพื่อเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้ออกมา

สำหรับคนอื่นๆ แล้วเรื่องนี้มันสุดแสนยากเย็น

แต่วินาทีที่เย่หยวนปล่อยคลื่นวิญญาณออกมานั้นประตูก็ปรากฏอย่างไม่ยากลำบากใดๆ!

การบ่มเพาะในอาณาจักรมหาจักรพรรดินั้นมันเกี่ยวข้องกับประตูแห่งชีวานิรันดร์อย่างมาก

คำว่า ‘ไม่ถ้วน’ นั้นมันมีสามชั้นสามผนึกหมายถึงมหาจักรพรรดิทั้งสามอาณาจักร!

สามผนึกสามโซ่ตรวน!

หากคิดอยากจะบรรลุเจ้าโลก…

คนผู้นั้นก็ต้องใช้พลังคลื่นกำเนิดทลายผนึกชั้นที่สามลง และเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกเพื่อก้าวข้ามนิพพานขึ้นสู่ความเป็นนิรันดร์!

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นไม่ถูกผูกมัดด้วยอายุขัย ดังนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องเผชิญกับเต๋าทุกข์ใด

ตราบเท่าที่ไม่ถูกสังหารลงพวกเขาก็สามารถอยู่ได้ตลอดกาล!

เพียงแค่ว่ายิ่งเวลาผ่านไปเจ้าโลกทั้งหลายมันก็จะมีการเปลี่ยนถ่ายไปเรื่อยๆ

คนที่เป็นนิรันดร์อย่างแท้จริงนั้นมันไม่มีอยู่จริง

เมื่อมาถึงเผ่าวิญญาณนั้นเย่หยวนก็ได้เจอกับการทดสอบของโถงวิญญาณนิพพาน

พร้อมกับฝึกฝนตัวเองในเจดีย์เจ็ดสีจนตอนนี้เขาสามารถเข้าใจกำเนิดเทพระดับที่สามได้แล้ว!

เมื่อเขาปลดปล่อยมันออกมาการเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นจึงมิใช่เรื่องยากเย็นใดๆ แม้แต่น้อย

“ประตูแห่งชีวานิรันดร์! เจ้านี่มันคิดจะบรรลุมหาจักรพรรดิ? เพียงแค่ว่าการบรรลุมหาจักรพรรดิแล้วมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับการพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นผู้มีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? น่าขัน!” หวางเฉียนนั้นอดร้องเย้ยขึ้นไม่ได้

ซานหยางนั้นเองก็หัวเราะขึ้นมาตาม “อ่อนหัดนัก! มันคิดว่าการบรรลุมหาจักรพรรดิตอนนี้มันจะรอดชีวิตไปได้? ศิษย์น้องหยุนหนี ตอนนี้คลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเราก็ได้มาแล้ว เป้าหมายของเราควรเป็นการออกตามหาท่านมากกว่าจะมาเสียเวลาเช่นนี้! หรือว่าเจ้าเองก็คิดจะมานั่งดูมันบรรลุยอมเสียเวลาไปด้วย?”

หญิงชราคนนั้นเองก็กล่าวขึ้นตาม “การหาตัวบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านคือเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้! หยุนหนี หากเจ้ามีเวลานักก็อยู่เล่นกับมันเถอะ เราจะไปก่อนแล้ว!”

หยุนหนียังคงทำหน้านิ่งตอบกลับไป “พวกเจ้าลืมตำนานของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านไปแล้ว?”

“ตำนาน? ตำนานใดกัน?” หวางเฉียนนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน

แต่ว่ายอดฝีมือทั้งสี่นั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย!

พวกเขานั้นลืมไปจริงๆ!

เพราะมันเป็นตำนานที่ผ่านมานานแสนนาน!

ซานหยางหรี่ตาลงกล่าว “เจ้าจะบอกว่ามันทำได้? ไม่มีทางน่า!”

หญิงชราคนนั้นเองก็กล่าวขึ้นตาม “น่าขัน! เรื่องนั้นมันก็แค่ตำนาน! แม้แต่ตัวท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเองยังไม่เคยยอมรับเลยว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ!”

หยุนหนีหันกลับไปมอง “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครเล่า? ทำไมท่านบู๋เมี่ยต้องมาเล่าอธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้เจ้าฟังด้วย?”

“เจ้า!” หญิงชรานั้นแทบจะกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน

มหาจักรพรรดิล้ำหมิงเจียนกล่าวขึ้นบ้าง “เรื่องนี้จะอย่างไรมันก็เป็นความลับของคนระดับสูง ขนาดพวกเราเองยังได้ยินมาแค่เล็กน้อย เจ้าเด็กนี่มันไปรู้ได้อย่างไร?”

หยุนหนีตอบไป “ไม่สำคัญ! ตอนนี้ที่สำคัญคือมันจะทำได้หรือไม่!”

สีหน้าของคนทั้งสี่นั้นเปลี่ยนสีไปทันทีและหยุดพูดลง

หวางเฉียนนั้นได้แต่ต้องทำหน้ามึนงงถามขึ้น “บรรพบุรุษท่านพูดเรื่องอะไรกัน? หรือว่าการบรรลุมหาจักรพรรดินั้นมีความสำคัญยิ่ง?”

ซานหยางหรี่ตาลงตอบ “ตำนานว่ากันว่าเมื่อนานมาแล้วนั้นตระกูลวิญญาณนิพพานของเรานั้นไม่มียอดเจ้าโลกใดๆ! ตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นเป็นแค่ทาสของตระกูลวิญญาณฉี และเป็นแค่ตระกูลรองของตระกูลวิญญาณฉีจนถึงวันที่ท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยปรากฏตัวขึ้น! ตอนที่ท่านบู๋เมี่ยบรรลุเต๋าก้าวสู่มหาจักรพรรดินั้นท่านได้บรรลุคลื่นกำเนิดหมอกหุ้ม! ท่านเป็นคนแรกในรอบหลายล้านปีของเผ่าวิญญาณที่สามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดได้ตั้งแต่เป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์! เพราะฉะนั้นท่านจึงได้นำให้ตระกูลวิญญาณนิพพานเราผงาดขึ้นมายืนเคียงกับตระกูลวิญญาณฉีได้!”

“ถ้า..ข้าแค่บอกว่าถ้านะ ถ้าเจ้าเด็กนี่มันสามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดหมอกหุ้มได้ตอนที่บรรลุมหาจักรพรรดิ! มันก็ย่อมจะหมายความว่ามันนั้นคือผู้มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแน่แล้ว! เพราะที่ผ่านๆ มามีเพียงแค่ท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยที่สามารถทำเช่นนั้นได้!”

คำพูดของซานหยางนั้นทำให้เหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายแตกตื่น!

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาได้เข้าใจว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงนั้นมันกลับมีเรื่องเช่นนั้นด้วย

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสถานะของผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะในตระกูลวิญญาณนิพพานถึงไม่ต่างกับคนธรรมดา

ที่แท้แล้วพวกเขาเหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะนั้นมันก็เป็นแค่ร่างวิญญาณกึ่งอมตะจริงๆ

แต่เย่หยวน?

“ชิ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก!” เมื่อหวางเฉียนได้ยินเขาก็อดเถียงกลับออกมาไม่ได้

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นตัวตนเดียวตลอดทุกยุคสมัยที่ผ่านมาที่ทำได้!

แล้วเย่หยวนนั้นมีดีอะไร?

เขาจะสามารถตามรอยเท้าบรรพบุรุษบู๋เมี่ยไปได้หรือ?

ศิษย์พี่มู่คนนั้นหัวเราะขึ้นมา “หยุนหนี เจ้าทำเราเสียเวลาเปล่าแล้ว! ทุกนาทีที่เราช้าไปนั้นมันอาจจะหมายถึงชีวิตของท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ย! ข้าชักจะเริ่มสงสัยว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่แล้ว! ซานหยาง ข้าว่าตอนนี้เราไปเรียกท่านยู่เทียนมาจัดการเรื่องราวจะดีกว่า!”

คำพูดของนางนั้นมันกล่าวขึ้นเพื่อหาเรื่องหยุนหนีตรงๆ

เดิมทีแล้วห้าดินแดนนั้นต่างมีเรื่องไม่ลงรอยกันเสมอ

แต่วันนี้เพื่อจะตามหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยพวกเขาทั้งหลายจึงได้ร่วมมือกันก็เท่านั้น

ซานหยางนั้นขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “ศิษย์น้องหยุนหนี สถานการณ์ตอนนี้มันจะรอช้าไม่ได้แล้ว! หากเจ้าคิดจะเล่นกับเจ้าเด็กนี่จริงๆ แล้วข้าคงมีแต่ต้องทำให้เจ้าไม่พอใจแล้ว!”

แต่เมื่อหยุนหนีได้ยินนางกลับกล่าวตอบไปสั้นๆ “แล้วแต่!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2952 ตำนานของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2952 ตำนานของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? เจ้ามีดีแค่พูดแต่ไม่มีหลักฐานอะไร เจ้าบอกว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มเช่นนี้

ไม่คิดว่ามันน่าขันบ้างหรือ?” ซานหยางหัวเราะลั่นขึ้น

“เย่หยวน หากเจ้าจะบอกว่ามันมีใครที่มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริง มันก็คงเป็นข้ามากกว่า! เพราะว่าข้านั้นคือ

ผู้ที่ได้ผสานกับคลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่าน! ที่เจ้าผ่านแต่ละชั้นมาได้ก่อนใครนั้นมันก็แค่เพราะว่าเจ้าหัวดี เรื่องนั้นข้ายอมรับ! แต่เจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริง?” หวางเฉียนนั้นเห็นช่องว่างจึงได้ยื่นหน้าออกมาเย้ยหยันเย่หยวนด้วย

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นสิ่งที่มีแต่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยที่จะมองออก

คนอื่นๆ นั้นต่อให้จะเป็นใครมันก็คงไม่มีทางพิสูจน์ได้ทั้งนั้น!

เพราะฉะนั้นเวลานี้มันจึงเหมาะที่จะลากเย่หยวนลงมาสังหารให้จบๆ ไป!

คิดเย้ยหยันไม่ยอมรับคลื่นกำเนิดตอนนี้คงถูกกรรมตามสนองแล้ว!

หวางเฉียนนั้นรู้สึกสะใจขึ้นอย่างมาก

หญิงชราศิษย์พี่มู่คนนั้นกล่าวขึ้นมาตาม “ที่หวางเฉียนพูดมามันไม่มีอะไรผิด! เจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าตัวเองนั้นมีร่างวิญญาณอมตะของจริง?”

หยุนหนีนั้นไม่พูดอะไรแต่สายตาของนางนั้นมันเห็นด้วยกับคำถามของคนทั้งหลาย

หากไม่อยากตายก็พิสูจน์มา!

เย่หยวนรู้ดีว่าตอนนี้เวลาที่อันตรายที่สุดมันได้ผ่านไปแล้ว

หยุนหนีนั้นยังให้ค่าเขาสูงมากนัก

“เย่หยวนฝึกตัวในเจดีย์เจ็ดสีแต่ละชั้นจนถึงขั้นสุดได้ก่อนใครเพื่อน! ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าใจถึงสมบัติสืบทอดที่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านทิ้งไว้ด้วย! ข้าว่าเขานั้นคงเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะอย่างแท้จริง!” ในตอนนั้นเองที่ไป๋ชุยซานก้าวขึ้นมากล่าว

คำพูดนั้นมันออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ

“ยังไม่พอ!” หยุนหนีตอบไป

ได้ยินเช่นนั้นหวางเฉียนก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา ตัวเขานั้นไม่ได้รู้ว่าทำไมหยุนหนีถึงได้เปลี่ยนท่าทีไปเช่นนี้

ตราบเท่าที่เย่หยวนตายลง มันก็ไม่มีอะไรต้องสนอีกแล้ว!

ส่วนเรื่องการพิสูจน์ว่าเย่หยวนนั้นเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะของจริงหรือไม่มันย่อมจะไม่มีทางทำได้!

“เย่หยวน เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะรู้ที่อยู่ของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านเจ้าคงไม่มีทางรอดไปได้แน่!” หวางเฉียนยิ้มกว้างกล่าวขึ้นมา

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มกว้างตอบกลับมาพร้อมปล่อยคลื่นพลังวิญญาณออกจากร่าง

คลื่นวิญญาณรุนแรงนั้นกระแทกออกมารอบด้านจนเมฆบนฟ้าแตกกระจาย!

บนท้องฟ้านั้นมันค่อยๆ ปรากฏประตูใหญ่ขึ้นมา

บนประตูหินนั้นมันมีอักษร ‘ไม่ถ้วน’ เขียนไว้อยู่

ภาพนี้มันทำให้เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นรอบด้าน

“นั่นมันประตูแห่งชีวานิรันดร์! อาจารย์เย่ช่างเก่งกาจล้ำนัก เรียกมันออกมาได้ง่ายๆ เช่นนี้เลย?”

“หรือว่าอาจารย์เย่คิดใช้การบรรลุมหาจักรพรรดิเป็นเครื่องพิสูจน์?”

“ข้าเองก็คิดว่าอาจารย์เย่คงเป็นร่างวิญญาณอมตะจริงๆ!”

ประตูหินนั้นปรากฏขึ้นบนหัวของเย่หยวนและมีชื่อเรียกว่าประตูแห่งชีวานิรันดร์!

ตราบเท่าที่คนผู้หนึ่งสามารถเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์ลงมาได้

มันก็จะนับว่าคนผู้นั้นบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์แล้ว!

การฝึกฝนของเหล่ามหาจักรพรรดิครึ่งก้าวนั้นมันก็คือการฝึกฝนเพื่อเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้ออกมา

สำหรับคนอื่นๆ แล้วเรื่องนี้มันสุดแสนยากเย็น

แต่วินาทีที่เย่หยวนปล่อยคลื่นวิญญาณออกมานั้นประตูก็ปรากฏอย่างไม่ยากลำบากใดๆ!

การบ่มเพาะในอาณาจักรมหาจักรพรรดินั้นมันเกี่ยวข้องกับประตูแห่งชีวานิรันดร์อย่างมาก

คำว่า ‘ไม่ถ้วน’ นั้นมันมีสามชั้นสามผนึกหมายถึงมหาจักรพรรดิทั้งสามอาณาจักร!

สามผนึกสามโซ่ตรวน!

หากคิดอยากจะบรรลุเจ้าโลก…

คนผู้นั้นก็ต้องใช้พลังคลื่นกำเนิดทลายผนึกชั้นที่สามลง และเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออกเพื่อก้าวข้ามนิพพานขึ้นสู่ความเป็นนิรันดร์!

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นไม่ถูกผูกมัดด้วยอายุขัย ดังนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องเผชิญกับเต๋าทุกข์ใด

ตราบเท่าที่ไม่ถูกสังหารลงพวกเขาก็สามารถอยู่ได้ตลอดกาล!

เพียงแค่ว่ายิ่งเวลาผ่านไปเจ้าโลกทั้งหลายมันก็จะมีการเปลี่ยนถ่ายไปเรื่อยๆ

คนที่เป็นนิรันดร์อย่างแท้จริงนั้นมันไม่มีอยู่จริง

เมื่อมาถึงเผ่าวิญญาณนั้นเย่หยวนก็ได้เจอกับการทดสอบของโถงวิญญาณนิพพาน

พร้อมกับฝึกฝนตัวเองในเจดีย์เจ็ดสีจนตอนนี้เขาสามารถเข้าใจกำเนิดเทพระดับที่สามได้แล้ว!

เมื่อเขาปลดปล่อยมันออกมาการเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นจึงมิใช่เรื่องยากเย็นใดๆ แม้แต่น้อย

“ประตูแห่งชีวานิรันดร์! เจ้านี่มันคิดจะบรรลุมหาจักรพรรดิ? เพียงแค่ว่าการบรรลุมหาจักรพรรดิแล้วมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับการพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นผู้มีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? น่าขัน!” หวางเฉียนนั้นอดร้องเย้ยขึ้นไม่ได้

ซานหยางนั้นเองก็หัวเราะขึ้นมาตาม “อ่อนหัดนัก! มันคิดว่าการบรรลุมหาจักรพรรดิตอนนี้มันจะรอดชีวิตไปได้? ศิษย์น้องหยุนหนี ตอนนี้คลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเราก็ได้มาแล้ว เป้าหมายของเราควรเป็นการออกตามหาท่านมากกว่าจะมาเสียเวลาเช่นนี้! หรือว่าเจ้าเองก็คิดจะมานั่งดูมันบรรลุยอมเสียเวลาไปด้วย?”

หญิงชราคนนั้นเองก็กล่าวขึ้นตาม “การหาตัวบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านคือเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้! หยุนหนี หากเจ้ามีเวลานักก็อยู่เล่นกับมันเถอะ เราจะไปก่อนแล้ว!”

หยุนหนียังคงทำหน้านิ่งตอบกลับไป “พวกเจ้าลืมตำนานของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านไปแล้ว?”

“ตำนาน? ตำนานใดกัน?” หวางเฉียนนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน

แต่ว่ายอดฝีมือทั้งสี่นั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย!

พวกเขานั้นลืมไปจริงๆ!

เพราะมันเป็นตำนานที่ผ่านมานานแสนนาน!

ซานหยางหรี่ตาลงกล่าว “เจ้าจะบอกว่ามันทำได้? ไม่มีทางน่า!”

หญิงชราคนนั้นเองก็กล่าวขึ้นตาม “น่าขัน! เรื่องนั้นมันก็แค่ตำนาน! แม้แต่ตัวท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยเองยังไม่เคยยอมรับเลยว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ!”

หยุนหนีหันกลับไปมอง “เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครเล่า? ทำไมท่านบู๋เมี่ยต้องมาเล่าอธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้เจ้าฟังด้วย?”

“เจ้า!” หญิงชรานั้นแทบจะกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน

มหาจักรพรรดิล้ำหมิงเจียนกล่าวขึ้นบ้าง “เรื่องนี้จะอย่างไรมันก็เป็นความลับของคนระดับสูง ขนาดพวกเราเองยังได้ยินมาแค่เล็กน้อย เจ้าเด็กนี่มันไปรู้ได้อย่างไร?”

หยุนหนีตอบไป “ไม่สำคัญ! ตอนนี้ที่สำคัญคือมันจะทำได้หรือไม่!”

สีหน้าของคนทั้งสี่นั้นเปลี่ยนสีไปทันทีและหยุดพูดลง

หวางเฉียนนั้นได้แต่ต้องทำหน้ามึนงงถามขึ้น “บรรพบุรุษท่านพูดเรื่องอะไรกัน? หรือว่าการบรรลุมหาจักรพรรดินั้นมีความสำคัญยิ่ง?”

ซานหยางหรี่ตาลงตอบ “ตำนานว่ากันว่าเมื่อนานมาแล้วนั้นตระกูลวิญญาณนิพพานของเรานั้นไม่มียอดเจ้าโลกใดๆ! ตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นเป็นแค่ทาสของตระกูลวิญญาณฉี และเป็นแค่ตระกูลรองของตระกูลวิญญาณฉีจนถึงวันที่ท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยปรากฏตัวขึ้น! ตอนที่ท่านบู๋เมี่ยบรรลุเต๋าก้าวสู่มหาจักรพรรดินั้นท่านได้บรรลุคลื่นกำเนิดหมอกหุ้ม! ท่านเป็นคนแรกในรอบหลายล้านปีของเผ่าวิญญาณที่สามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดได้ตั้งแต่เป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์! เพราะฉะนั้นท่านจึงได้นำให้ตระกูลวิญญาณนิพพานเราผงาดขึ้นมายืนเคียงกับตระกูลวิญญาณฉีได้!”

“ถ้า..ข้าแค่บอกว่าถ้านะ ถ้าเจ้าเด็กนี่มันสามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดหมอกหุ้มได้ตอนที่บรรลุมหาจักรพรรดิ! มันก็ย่อมจะหมายความว่ามันนั้นคือผู้มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแน่แล้ว! เพราะที่ผ่านๆ มามีเพียงแค่ท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ยที่สามารถทำเช่นนั้นได้!”

คำพูดของซานหยางนั้นทำให้เหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายแตกตื่น!

เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาได้เข้าใจว่าร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงนั้นมันกลับมีเรื่องเช่นนั้นด้วย

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสถานะของผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะในตระกูลวิญญาณนิพพานถึงไม่ต่างกับคนธรรมดา

ที่แท้แล้วพวกเขาเหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะนั้นมันก็เป็นแค่ร่างวิญญาณกึ่งอมตะจริงๆ

แต่เย่หยวน?

“ชิ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก!” เมื่อหวางเฉียนได้ยินเขาก็อดเถียงกลับออกมาไม่ได้

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นตัวตนเดียวตลอดทุกยุคสมัยที่ผ่านมาที่ทำได้!

แล้วเย่หยวนนั้นมีดีอะไร?

เขาจะสามารถตามรอยเท้าบรรพบุรุษบู๋เมี่ยไปได้หรือ?

ศิษย์พี่มู่คนนั้นหัวเราะขึ้นมา “หยุนหนี เจ้าทำเราเสียเวลาเปล่าแล้ว! ทุกนาทีที่เราช้าไปนั้นมันอาจจะหมายถึงชีวิตของท่านบรรพบุรุษบู๋เมี่ย! ข้าชักจะเริ่มสงสัยว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่แล้ว! ซานหยาง ข้าว่าตอนนี้เราไปเรียกท่านยู่เทียนมาจัดการเรื่องราวจะดีกว่า!”

คำพูดของนางนั้นมันกล่าวขึ้นเพื่อหาเรื่องหยุนหนีตรงๆ

เดิมทีแล้วห้าดินแดนนั้นต่างมีเรื่องไม่ลงรอยกันเสมอ

แต่วันนี้เพื่อจะตามหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยพวกเขาทั้งหลายจึงได้ร่วมมือกันก็เท่านั้น

ซานหยางนั้นขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “ศิษย์น้องหยุนหนี สถานการณ์ตอนนี้มันจะรอช้าไม่ได้แล้ว! หากเจ้าคิดจะเล่นกับเจ้าเด็กนี่จริงๆ แล้วข้าคงมีแต่ต้องทำให้เจ้าไม่พอใจแล้ว!”

แต่เมื่อหยุนหนีได้ยินนางกลับกล่าวตอบไปสั้นๆ “แล้วแต่!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+