Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด!

ไร้เหตุผล!

หยุนหนีนางนี้มีนิสัยหัวรั้นไม่ยอมคน และไม่คิดสนใจความคิดของคนอื่นแม้แต่น้อย

ซานหยางนั้นรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

เขานั้นหัวเราะขึ้นมาพร้อมส่งคลื่นวิญญาณทะลวงฟ้าออกไป

หยุนหนีนั้นยังคงมองดูเย่หยวนอย่างไม่วางตาไม่คิดสนใจว่าซานหยางนั้นคิดจะทำอะไร

ไม่นานจากนั้นห้วงมิติมันก็แหวกออกเผยให้เห็นเงาร่างของคนผู้หนึ่ง

นี่คือผู้นำของแดนวิญญาณกลาง เจ้าโลกยู่เทียน!

“ขอคารวะท่านยู่เทียน!”

ซานหยางและมหาจักรพรรดิล้ำทั้งสี่นั้นก้มหัวลงคารวะเจ้าโลกยู่เทียน แต่หยุนหนีนั้นกลับไม่คิดสนใจใดๆ

เรื่องนี้ย่อมจะทำให้เจ้าโลกยู่เทียนนั้นเกิดไม่พอใจขึ้นมาในใจและกล่าว “ในเมื่อหวางเฉียนได้คลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษท่านมาแล้วเราจะยังรออะไรกันอีก? แค่เด็กมันสร้างเรื่อง…พวกเจ้าก็จะยอมเสียเวลาไปกับมันด้วย?”

เขานั้นหันไปมองเย่หยวนพร้อมความเย้ยหยันดูถูกอย่างถึงที่สุด

มหาจักรพรรดิคิดเข้าใจคลื่นกำเนิดนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาเคยลองและก็ไม่อาจทำได้สำเร็จในที่สุด

เพราะมันยากจนเกินไป!

ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีเพียงแค่บู๋เมี่ยคนเดียวที่ทำได้

แน่นอนว่าสิ่งที่ยู่เทียนพยายามทำความเข้าใจนั้นมันย่อมจะมิใช่คลื่นกำเนิดหมอกหุ้มแต่เป็นสิ่งที่ง่ายดายกว่าหลายเท่าตัว

ทว่าตัวเขาในตอนนั้นก็ยังรู้สึกว่ามันยากล้ำสวรรค์ไป

แท้จริงแล้วมันมิใช่แค่เขาเท่านั้นที่คิดทำเช่นนั้นตอนบรรลุมหาจักรพรรดิ

เพราะคนส่วนมากที่คิดลองก็ต่างล้มเหลวลงทั้งสิ้น

ตอนนี้กลับบอกว่าไอ้เด็กน้อยคนนี้จะสำเร็จคลื่นกำเนิดได้?

ตลกแล้ว!

พูดไปนั้นเจ้าโลกยู่เทียนก็ปล่อยคลื่นวิญญาณออกมาหมายสังหารเย่หยวน

“หากเจ้ากล้าลงมือจริงๆ ข้าจะบรรลุเจ้าโลกและสู้กับเจ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปตรงนี้!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นมาเบาๆ ราวกับแค่พูดเล่น

แต่คำพูดเดียวนี้มันหยุดคลื่นวิญญาณของเจ้าโลกยู่เทียนไว้ทันที

“หากพวกเจ้ารีบกันนักก็พาหวางเฉียนมันไปก่อนข้าเลย หากเย่หยวนมันไม่สำเร็จคลื่นกำเนิดจริงๆ ข้าก็ย่อมจะสังหารมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาช่วยเรื่องของข้า แน่นอนว่าหากเจ้าคิดว่าเรื่องนี้มีปัญหา ข้าก็พร้อมจะสู้กับพวกเจ้าทุกคน!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหวานๆ

แต่คำพูดของนางนั้นมันกลับเย่อหยิ่งจนไม่รับฟังคำค้านใครๆ

เจ้าโลกนั้นคือจุดสูงสุดของชีวิตที่ทุกคนหมายเหยียบเข้าไป

แต่ในสายตาของหยุนหนีนั้นมันเหมือนเป็นแค่หน้าผาสูงไม่กี่เมตรเท่านั้น

หากคิดอยากจะปีนมันก็ปีนได้!

เจ้าโลกยู่เทียนนั้นเป็นเจ้าโลกสุดแกร่งของแดนวิญญาณกลาง

แต่ตอนนี้เขาเริ่มลังเลขึ้นมา

เพราะแม้แต่ซานหยางและพวกทั้งหลายนั้นก็ไม่รู้ถึงฝีมือที่แท้จริงของหยุนหนี

แต่เขานั้นรู้!

หากหยุนหนีคิดเสี่ยงชีวิตแล้วแดนวิญญาณอมตะนี้มันคงตกอยู่ในสภาพโกลาหลแน่นอน

คำขู่!

ขู่กันซึ่งๆ หน้า!

‘เจ้าโลกอย่างข้านั้นจะต้องถูกมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์อย่างเจ้าขู่?’

“ในเมื่อหลานศิษย์หยุนหนีมั่นใจขนาดนั้น เราก็แค่เฝ้าดูมันเถอะ!” เจ้าโลกยู่เทียนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

คนที่ได้ยินนั้นต่างต้องอ้าปากค้าง!

เรื่องบ้าอะไรกัน?

ท่านเป็นเจ้าโลกนะ จะไม่อายหน่อยหรือ?

ตูม!

ขณะที่คนทั้งหลายกำลังสนใจเรื่องทางนี้อยู่ประตูแห่งชีวานิรันดร์มันก็ระเบิดพลังรุนแรงออกมา

พลังของมันนั้นอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มากนักแต่มันก็ทำให้เจ้าโลกต้องผงะไปได้

เย่หยวนที่กำลังบรรลุอยู่นั้นเบิกตากว้างขึ้นมา

ความลับที่อยู่หลังบานประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันเหมือนราวกับว่าเขาได้มองเห็นความลับของโลก

“นี่หรือคือประตูแห่งชีวานิรันดร์? ดูแล้วความลับใดๆ ของข้ามันช่างน่าขันไปทีเดียว! ประตูนี้มันเชื่อมต่อไปถึงที่ใดกันนะ?” เย่หยวนสงสัยขึ้นในใจ

ตอนที่เขาอยู่ในเจดีย์เจ็ดสีนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว

การบรรลุมหาจักรพรรดินั้นเป็นแค่การที่ตัวเขาใช้อะไรบางอย่างออกมา

การบ่มเพาะของเขาที่ผ่านๆ มามันก็มากพอที่จะส่งเขาขึ้นมหาจักรพรรดิได้ไม่ยากเย็นแล้ว

แต่สมบัติสืบทอดที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยทิ้งไว้นั้นมันกลับเปิดประตูบานใหม่ให้แก่เขา

ตอนนี้คลื่นกำเนิดสายหนึ่งมันค่อยๆ หมุนวนรอบตัวเย่หยวน

มันเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องลำบากลงแรงใดๆ

แต่ในสายตาของคนที่มองอยู่ด้านล่างนั้นพวกเขาแทบจะไม่อยากเชื่อสายตา!

“คลื่นกำเนิด! นั่นมัน…คลื่นกำเนิดจริงๆ! มหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด! เขานั้นเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะจริงๆ!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่คิดสนใจผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย ที่แท้เขามองเห็นมันมาตั้งแต่แรกแล้ว! และการที่มีคลื่นกำเนิดของตัวเองเช่นนี้ ยังต้องไปเอาของคนอื่นมาทำไมอีก?”

“ก็จริง! นอกจากร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแล้วมันจะมีใครทำความเข้าใจเจดีย์เจ็ดสีได้อีก?”

หลังจากการปรากฏขึ้นของคลื่นกำเนิดนั้นเหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง

ตอนนี้แม้แต่เจ้าโลกยู่เทียนเองก็ยังแทบลืมหายใจ!

“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน? เขานั้นกลับมีร่างวิญญาณอมตะของจริง!” ยู่เทียนนั้นร้องขึ้นมาด้วยเสียงสั่นๆ

หวางเฉียนนั้นร้อนไปทั้งหน้าเหมือนถูกตบเข้าอีกครั้ง

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันน่าตกตะลึงกว่าครั้งใดๆ

แม้แต่ตอนที่เย่หยวนเล่นงานเขาจนปางตายนั้นเขาก็ไม่คิดว่าเย่หยวนจะมีร่างวิญญาณอมตะของจริง

แต่ตอนนี้จะไม่เชื่อมันก็คงไม่ได้แล้ว

หนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์!

หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้มันมีเพียงแค่เจ้าโลกบู๋เมี่ยที่ทำได้

ตอนนี้มันกลับมีเย่หยวนขึ้นมาอีกคน!

ศิษย์พี่มู่ หมิงเจียน ซานหยางพวกเขาที่เคยพูดกล่าวใดๆ กลับต้องหุบปากลงด้วยความอับอาย

เย่หยวนนั้นสำเร็จคลื่นกำเนิดได้มันย่อมจะไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยอีก!

หยุนหนีนั้นเองก็ต้องผงะไปด้วยความตกตะลึงเช่นกัน

แม้ว่านางนั้นจะมั่นใจในตัวเย่หยวนมาก

แต่นางก็ไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของเย่หยวน แถมยังได้แต่ปล่อยให้เขาเข้าเจดีย์เจ็ดสีไป

ต่อให้เย่หยวนจะบอกว่าตัวเองสามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดได้นางก็เชื่อคำพูดนั้นแค่หนึ่งในหมื่นเท่านั้น

ใครจะไปคิดว่าหนึ่งในหมื่นนั้นมันกลับเกิดขึ้นจริง?!

ประตูแห่งชีวานิรันดร์กำลังค่อยๆ จางหายไป

คลื่นวิญญาณของเย่หยวนนั้นผงาดขึ้นจนถึงระดับของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ไป!

เขานั้นหันไปมองหน้าหยุนหนีและกล่าวขึ้น “ตอนนี้ถือว่าข้าพิสูจน์ตัวเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะแล้วใช่หรือไม่?”

หยุนหนีนั้นเงียบลงไป

ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นเผ่าวิญญาณมีร่างวิญญาณอมตะแค่สองคนเท่านั้น

นางเชื่อว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันได้แน่นอนระหว่างร่างวิญญาณอมตะทั้งสอง

แต่ตอนนี้นางเริ่มกลัวอะไรบางอย่าง…

กลัวว่าเย่หยวนนั้นจะหลุดรอดจากการควบคุมของนางไป

คนผู้นี้อันตราย!

ให้เขาไปหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยด้วยมันจะเป็นทางเลือกที่ดีจริงๆ?

เจ้าเด็กคนนี้มันมีเป้าหมายอะไรกันแน่?

คนทั้งหลายต่างหันมามองหน้าหยุนหนีเป็นตาเดียว

ตอนนี้แม้แต่ยู่เทียน เจ้าโลกคนนี้เองก็ยังถูกเมิน

ดูท่าแล้วคนที่ตัดสินความเป็นความตายของเย่หยวนได้ในที่นี้มันมิใช่ยู่เทียนแต่เป็นหยุนหนี!

“เรื่องนี้จะรอช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไปกันเถอะ!” หลังจากหยุดคิดไปนานหยุนหนีก็กล่าวขึ้นมา

ซานหยาง หญิงชราและหมิงเจียนทั้งสามคนนั้นต่างหุบปากลงทันที

พวกเขานั้นตามหลังหยุนหนีออกไป เดินทางออกจากแดนวิญญาณกลาง

พร้อมกับไม่มีอะไรจะพูด!

เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาใช้เรื่องที่เย่หยวนไม่มีคลื่นกำเนิดเล่นงานได้

แต่ตอนนี้จะพูดอะไรได้อีก?

นี่มันคือร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริง ตัวตนระดับเดียวกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

คนที่สองในประวัติศาสตร์!

เย่หยวนจะมีส่วนอย่างมากในการช่วยหาตัวบรรพบุรุษบู๋เมี่ยในครั้งนี้

เย่หยวนเองก็ไม่พูดอะไรมากความและตามหลังยอดฝีมือทั้งหลายเดินทางออกไป

ระหว่างทางนั้นมันก็มียอดฝีมือจากทั่วทิศเดินทางมาร่วม

แต่ละคนที่มาถึงนั้นต่างหันมองดูเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ

พวกเขานั้นเดินทางออกจากแดนวิญญาณอมตะและไปถึงทะเลแห่งหนึ่งในที่สุด

บนทะเลนั้นมันมีประตูหินบานใหญ่ตั้งอยู่

“นี่คือประตูนรก! สถานที่สุดท้ายที่ท่านบู๋เมี่ยมุ่งหน้าไป! เดิมทีแล้วเราได้ส่งคนไม่น้อยเข้าไปค้นหาหลังประตูนรกแต่ว่ากลับไม่มีใครรอดออกมาได้เลย พวกเจ้าทั้งสองลองสัมผัสดูว่าสามารถรับรู้ถึงคลื่นพลังของท่านบรรพบุรุษได้หรือไม่” หยุนหนีสั่ง

————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด!

ไร้เหตุผล!

หยุนหนีนางนี้มีนิสัยหัวรั้นไม่ยอมคน และไม่คิดสนใจความคิดของคนอื่นแม้แต่น้อย

ซานหยางนั้นรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

เขานั้นหัวเราะขึ้นมาพร้อมส่งคลื่นวิญญาณทะลวงฟ้าออกไป

หยุนหนีนั้นยังคงมองดูเย่หยวนอย่างไม่วางตาไม่คิดสนใจว่าซานหยางนั้นคิดจะทำอะไร

ไม่นานจากนั้นห้วงมิติมันก็แหวกออกเผยให้เห็นเงาร่างของคนผู้หนึ่ง

นี่คือผู้นำของแดนวิญญาณกลาง เจ้าโลกยู่เทียน!

“ขอคารวะท่านยู่เทียน!”

ซานหยางและมหาจักรพรรดิล้ำทั้งสี่นั้นก้มหัวลงคารวะเจ้าโลกยู่เทียน แต่หยุนหนีนั้นกลับไม่คิดสนใจใดๆ

เรื่องนี้ย่อมจะทำให้เจ้าโลกยู่เทียนนั้นเกิดไม่พอใจขึ้นมาในใจและกล่าว “ในเมื่อหวางเฉียนได้คลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษท่านมาแล้วเราจะยังรออะไรกันอีก? แค่เด็กมันสร้างเรื่อง…พวกเจ้าก็จะยอมเสียเวลาไปกับมันด้วย?”

เขานั้นหันไปมองเย่หยวนพร้อมความเย้ยหยันดูถูกอย่างถึงที่สุด

มหาจักรพรรดิคิดเข้าใจคลื่นกำเนิดนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาเคยลองและก็ไม่อาจทำได้สำเร็จในที่สุด

เพราะมันยากจนเกินไป!

ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีเพียงแค่บู๋เมี่ยคนเดียวที่ทำได้

แน่นอนว่าสิ่งที่ยู่เทียนพยายามทำความเข้าใจนั้นมันย่อมจะมิใช่คลื่นกำเนิดหมอกหุ้มแต่เป็นสิ่งที่ง่ายดายกว่าหลายเท่าตัว

ทว่าตัวเขาในตอนนั้นก็ยังรู้สึกว่ามันยากล้ำสวรรค์ไป

แท้จริงแล้วมันมิใช่แค่เขาเท่านั้นที่คิดทำเช่นนั้นตอนบรรลุมหาจักรพรรดิ

เพราะคนส่วนมากที่คิดลองก็ต่างล้มเหลวลงทั้งสิ้น

ตอนนี้กลับบอกว่าไอ้เด็กน้อยคนนี้จะสำเร็จคลื่นกำเนิดได้?

ตลกแล้ว!

พูดไปนั้นเจ้าโลกยู่เทียนก็ปล่อยคลื่นวิญญาณออกมาหมายสังหารเย่หยวน

“หากเจ้ากล้าลงมือจริงๆ ข้าจะบรรลุเจ้าโลกและสู้กับเจ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปตรงนี้!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นมาเบาๆ ราวกับแค่พูดเล่น

แต่คำพูดเดียวนี้มันหยุดคลื่นวิญญาณของเจ้าโลกยู่เทียนไว้ทันที

“หากพวกเจ้ารีบกันนักก็พาหวางเฉียนมันไปก่อนข้าเลย หากเย่หยวนมันไม่สำเร็จคลื่นกำเนิดจริงๆ ข้าก็ย่อมจะสังหารมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาช่วยเรื่องของข้า แน่นอนว่าหากเจ้าคิดว่าเรื่องนี้มีปัญหา ข้าก็พร้อมจะสู้กับพวกเจ้าทุกคน!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหวานๆ

แต่คำพูดของนางนั้นมันกลับเย่อหยิ่งจนไม่รับฟังคำค้านใครๆ

เจ้าโลกนั้นคือจุดสูงสุดของชีวิตที่ทุกคนหมายเหยียบเข้าไป

แต่ในสายตาของหยุนหนีนั้นมันเหมือนเป็นแค่หน้าผาสูงไม่กี่เมตรเท่านั้น

หากคิดอยากจะปีนมันก็ปีนได้!

เจ้าโลกยู่เทียนนั้นเป็นเจ้าโลกสุดแกร่งของแดนวิญญาณกลาง

แต่ตอนนี้เขาเริ่มลังเลขึ้นมา

เพราะแม้แต่ซานหยางและพวกทั้งหลายนั้นก็ไม่รู้ถึงฝีมือที่แท้จริงของหยุนหนี

แต่เขานั้นรู้!

หากหยุนหนีคิดเสี่ยงชีวิตแล้วแดนวิญญาณอมตะนี้มันคงตกอยู่ในสภาพโกลาหลแน่นอน

คำขู่!

ขู่กันซึ่งๆ หน้า!

‘เจ้าโลกอย่างข้านั้นจะต้องถูกมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์อย่างเจ้าขู่?’

“ในเมื่อหลานศิษย์หยุนหนีมั่นใจขนาดนั้น เราก็แค่เฝ้าดูมันเถอะ!” เจ้าโลกยู่เทียนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

คนที่ได้ยินนั้นต่างต้องอ้าปากค้าง!

เรื่องบ้าอะไรกัน?

ท่านเป็นเจ้าโลกนะ จะไม่อายหน่อยหรือ?

ตูม!

ขณะที่คนทั้งหลายกำลังสนใจเรื่องทางนี้อยู่ประตูแห่งชีวานิรันดร์มันก็ระเบิดพลังรุนแรงออกมา

พลังของมันนั้นอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มากนักแต่มันก็ทำให้เจ้าโลกต้องผงะไปได้

เย่หยวนที่กำลังบรรลุอยู่นั้นเบิกตากว้างขึ้นมา

ความลับที่อยู่หลังบานประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันเหมือนราวกับว่าเขาได้มองเห็นความลับของโลก

“นี่หรือคือประตูแห่งชีวานิรันดร์? ดูแล้วความลับใดๆ ของข้ามันช่างน่าขันไปทีเดียว! ประตูนี้มันเชื่อมต่อไปถึงที่ใดกันนะ?” เย่หยวนสงสัยขึ้นในใจ

ตอนที่เขาอยู่ในเจดีย์เจ็ดสีนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว

การบรรลุมหาจักรพรรดินั้นเป็นแค่การที่ตัวเขาใช้อะไรบางอย่างออกมา

การบ่มเพาะของเขาที่ผ่านๆ มามันก็มากพอที่จะส่งเขาขึ้นมหาจักรพรรดิได้ไม่ยากเย็นแล้ว

แต่สมบัติสืบทอดที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยทิ้งไว้นั้นมันกลับเปิดประตูบานใหม่ให้แก่เขา

ตอนนี้คลื่นกำเนิดสายหนึ่งมันค่อยๆ หมุนวนรอบตัวเย่หยวน

มันเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องลำบากลงแรงใดๆ

แต่ในสายตาของคนที่มองอยู่ด้านล่างนั้นพวกเขาแทบจะไม่อยากเชื่อสายตา!

“คลื่นกำเนิด! นั่นมัน…คลื่นกำเนิดจริงๆ! มหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด! เขานั้นเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะจริงๆ!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่คิดสนใจผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย ที่แท้เขามองเห็นมันมาตั้งแต่แรกแล้ว! และการที่มีคลื่นกำเนิดของตัวเองเช่นนี้ ยังต้องไปเอาของคนอื่นมาทำไมอีก?”

“ก็จริง! นอกจากร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแล้วมันจะมีใครทำความเข้าใจเจดีย์เจ็ดสีได้อีก?”

หลังจากการปรากฏขึ้นของคลื่นกำเนิดนั้นเหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง

ตอนนี้แม้แต่เจ้าโลกยู่เทียนเองก็ยังแทบลืมหายใจ!

“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน? เขานั้นกลับมีร่างวิญญาณอมตะของจริง!” ยู่เทียนนั้นร้องขึ้นมาด้วยเสียงสั่นๆ

หวางเฉียนนั้นร้อนไปทั้งหน้าเหมือนถูกตบเข้าอีกครั้ง

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันน่าตกตะลึงกว่าครั้งใดๆ

แม้แต่ตอนที่เย่หยวนเล่นงานเขาจนปางตายนั้นเขาก็ไม่คิดว่าเย่หยวนจะมีร่างวิญญาณอมตะของจริง

แต่ตอนนี้จะไม่เชื่อมันก็คงไม่ได้แล้ว

หนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์!

หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้มันมีเพียงแค่เจ้าโลกบู๋เมี่ยที่ทำได้

ตอนนี้มันกลับมีเย่หยวนขึ้นมาอีกคน!

ศิษย์พี่มู่ หมิงเจียน ซานหยางพวกเขาที่เคยพูดกล่าวใดๆ กลับต้องหุบปากลงด้วยความอับอาย

เย่หยวนนั้นสำเร็จคลื่นกำเนิดได้มันย่อมจะไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยอีก!

หยุนหนีนั้นเองก็ต้องผงะไปด้วยความตกตะลึงเช่นกัน

แม้ว่านางนั้นจะมั่นใจในตัวเย่หยวนมาก

แต่นางก็ไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของเย่หยวน แถมยังได้แต่ปล่อยให้เขาเข้าเจดีย์เจ็ดสีไป

ต่อให้เย่หยวนจะบอกว่าตัวเองสามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดได้นางก็เชื่อคำพูดนั้นแค่หนึ่งในหมื่นเท่านั้น

ใครจะไปคิดว่าหนึ่งในหมื่นนั้นมันกลับเกิดขึ้นจริง?!

ประตูแห่งชีวานิรันดร์กำลังค่อยๆ จางหายไป

คลื่นวิญญาณของเย่หยวนนั้นผงาดขึ้นจนถึงระดับของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ไป!

เขานั้นหันไปมองหน้าหยุนหนีและกล่าวขึ้น “ตอนนี้ถือว่าข้าพิสูจน์ตัวเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะแล้วใช่หรือไม่?”

หยุนหนีนั้นเงียบลงไป

ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นเผ่าวิญญาณมีร่างวิญญาณอมตะแค่สองคนเท่านั้น

นางเชื่อว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันได้แน่นอนระหว่างร่างวิญญาณอมตะทั้งสอง

แต่ตอนนี้นางเริ่มกลัวอะไรบางอย่าง…

กลัวว่าเย่หยวนนั้นจะหลุดรอดจากการควบคุมของนางไป

คนผู้นี้อันตราย!

ให้เขาไปหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยด้วยมันจะเป็นทางเลือกที่ดีจริงๆ?

เจ้าเด็กคนนี้มันมีเป้าหมายอะไรกันแน่?

คนทั้งหลายต่างหันมามองหน้าหยุนหนีเป็นตาเดียว

ตอนนี้แม้แต่ยู่เทียน เจ้าโลกคนนี้เองก็ยังถูกเมิน

ดูท่าแล้วคนที่ตัดสินความเป็นความตายของเย่หยวนได้ในที่นี้มันมิใช่ยู่เทียนแต่เป็นหยุนหนี!

“เรื่องนี้จะรอช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไปกันเถอะ!” หลังจากหยุดคิดไปนานหยุนหนีก็กล่าวขึ้นมา

ซานหยาง หญิงชราและหมิงเจียนทั้งสามคนนั้นต่างหุบปากลงทันที

พวกเขานั้นตามหลังหยุนหนีออกไป เดินทางออกจากแดนวิญญาณกลาง

พร้อมกับไม่มีอะไรจะพูด!

เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาใช้เรื่องที่เย่หยวนไม่มีคลื่นกำเนิดเล่นงานได้

แต่ตอนนี้จะพูดอะไรได้อีก?

นี่มันคือร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริง ตัวตนระดับเดียวกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

คนที่สองในประวัติศาสตร์!

เย่หยวนจะมีส่วนอย่างมากในการช่วยหาตัวบรรพบุรุษบู๋เมี่ยในครั้งนี้

เย่หยวนเองก็ไม่พูดอะไรมากความและตามหลังยอดฝีมือทั้งหลายเดินทางออกไป

ระหว่างทางนั้นมันก็มียอดฝีมือจากทั่วทิศเดินทางมาร่วม

แต่ละคนที่มาถึงนั้นต่างหันมองดูเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ

พวกเขานั้นเดินทางออกจากแดนวิญญาณอมตะและไปถึงทะเลแห่งหนึ่งในที่สุด

บนทะเลนั้นมันมีประตูหินบานใหญ่ตั้งอยู่

“นี่คือประตูนรก! สถานที่สุดท้ายที่ท่านบู๋เมี่ยมุ่งหน้าไป! เดิมทีแล้วเราได้ส่งคนไม่น้อยเข้าไปค้นหาหลังประตูนรกแต่ว่ากลับไม่มีใครรอดออกมาได้เลย พวกเจ้าทั้งสองลองสัมผัสดูว่าสามารถรับรู้ถึงคลื่นพลังของท่านบรรพบุรุษได้หรือไม่” หยุนหนีสั่ง

————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2953 บรรลุมหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด!

ไร้เหตุผล!

หยุนหนีนางนี้มีนิสัยหัวรั้นไม่ยอมคน และไม่คิดสนใจความคิดของคนอื่นแม้แต่น้อย

ซานหยางนั้นรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

เขานั้นหัวเราะขึ้นมาพร้อมส่งคลื่นวิญญาณทะลวงฟ้าออกไป

หยุนหนีนั้นยังคงมองดูเย่หยวนอย่างไม่วางตาไม่คิดสนใจว่าซานหยางนั้นคิดจะทำอะไร

ไม่นานจากนั้นห้วงมิติมันก็แหวกออกเผยให้เห็นเงาร่างของคนผู้หนึ่ง

นี่คือผู้นำของแดนวิญญาณกลาง เจ้าโลกยู่เทียน!

“ขอคารวะท่านยู่เทียน!”

ซานหยางและมหาจักรพรรดิล้ำทั้งสี่นั้นก้มหัวลงคารวะเจ้าโลกยู่เทียน แต่หยุนหนีนั้นกลับไม่คิดสนใจใดๆ

เรื่องนี้ย่อมจะทำให้เจ้าโลกยู่เทียนนั้นเกิดไม่พอใจขึ้นมาในใจและกล่าว “ในเมื่อหวางเฉียนได้คลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษท่านมาแล้วเราจะยังรออะไรกันอีก? แค่เด็กมันสร้างเรื่อง…พวกเจ้าก็จะยอมเสียเวลาไปกับมันด้วย?”

เขานั้นหันไปมองเย่หยวนพร้อมความเย้ยหยันดูถูกอย่างถึงที่สุด

มหาจักรพรรดิคิดเข้าใจคลื่นกำเนิดนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาเคยลองและก็ไม่อาจทำได้สำเร็จในที่สุด

เพราะมันยากจนเกินไป!

ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันมีเพียงแค่บู๋เมี่ยคนเดียวที่ทำได้

แน่นอนว่าสิ่งที่ยู่เทียนพยายามทำความเข้าใจนั้นมันย่อมจะมิใช่คลื่นกำเนิดหมอกหุ้มแต่เป็นสิ่งที่ง่ายดายกว่าหลายเท่าตัว

ทว่าตัวเขาในตอนนั้นก็ยังรู้สึกว่ามันยากล้ำสวรรค์ไป

แท้จริงแล้วมันมิใช่แค่เขาเท่านั้นที่คิดทำเช่นนั้นตอนบรรลุมหาจักรพรรดิ

เพราะคนส่วนมากที่คิดลองก็ต่างล้มเหลวลงทั้งสิ้น

ตอนนี้กลับบอกว่าไอ้เด็กน้อยคนนี้จะสำเร็จคลื่นกำเนิดได้?

ตลกแล้ว!

พูดไปนั้นเจ้าโลกยู่เทียนก็ปล่อยคลื่นวิญญาณออกมาหมายสังหารเย่หยวน

“หากเจ้ากล้าลงมือจริงๆ ข้าจะบรรลุเจ้าโลกและสู้กับเจ้าให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปตรงนี้!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นมาเบาๆ ราวกับแค่พูดเล่น

แต่คำพูดเดียวนี้มันหยุดคลื่นวิญญาณของเจ้าโลกยู่เทียนไว้ทันที

“หากพวกเจ้ารีบกันนักก็พาหวางเฉียนมันไปก่อนข้าเลย หากเย่หยวนมันไม่สำเร็จคลื่นกำเนิดจริงๆ ข้าก็ย่อมจะสังหารมันด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาช่วยเรื่องของข้า แน่นอนว่าหากเจ้าคิดว่าเรื่องนี้มีปัญหา ข้าก็พร้อมจะสู้กับพวกเจ้าทุกคน!”

หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหวานๆ

แต่คำพูดของนางนั้นมันกลับเย่อหยิ่งจนไม่รับฟังคำค้านใครๆ

เจ้าโลกนั้นคือจุดสูงสุดของชีวิตที่ทุกคนหมายเหยียบเข้าไป

แต่ในสายตาของหยุนหนีนั้นมันเหมือนเป็นแค่หน้าผาสูงไม่กี่เมตรเท่านั้น

หากคิดอยากจะปีนมันก็ปีนได้!

เจ้าโลกยู่เทียนนั้นเป็นเจ้าโลกสุดแกร่งของแดนวิญญาณกลาง

แต่ตอนนี้เขาเริ่มลังเลขึ้นมา

เพราะแม้แต่ซานหยางและพวกทั้งหลายนั้นก็ไม่รู้ถึงฝีมือที่แท้จริงของหยุนหนี

แต่เขานั้นรู้!

หากหยุนหนีคิดเสี่ยงชีวิตแล้วแดนวิญญาณอมตะนี้มันคงตกอยู่ในสภาพโกลาหลแน่นอน

คำขู่!

ขู่กันซึ่งๆ หน้า!

‘เจ้าโลกอย่างข้านั้นจะต้องถูกมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์อย่างเจ้าขู่?’

“ในเมื่อหลานศิษย์หยุนหนีมั่นใจขนาดนั้น เราก็แค่เฝ้าดูมันเถอะ!” เจ้าโลกยู่เทียนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

คนที่ได้ยินนั้นต่างต้องอ้าปากค้าง!

เรื่องบ้าอะไรกัน?

ท่านเป็นเจ้าโลกนะ จะไม่อายหน่อยหรือ?

ตูม!

ขณะที่คนทั้งหลายกำลังสนใจเรื่องทางนี้อยู่ประตูแห่งชีวานิรันดร์มันก็ระเบิดพลังรุนแรงออกมา

พลังของมันนั้นอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มากนักแต่มันก็ทำให้เจ้าโลกต้องผงะไปได้

เย่หยวนที่กำลังบรรลุอยู่นั้นเบิกตากว้างขึ้นมา

ความลับที่อยู่หลังบานประตูแห่งชีวานิรันดร์นั้นมันเหมือนราวกับว่าเขาได้มองเห็นความลับของโลก

“นี่หรือคือประตูแห่งชีวานิรันดร์? ดูแล้วความลับใดๆ ของข้ามันช่างน่าขันไปทีเดียว! ประตูนี้มันเชื่อมต่อไปถึงที่ใดกันนะ?” เย่หยวนสงสัยขึ้นในใจ

ตอนที่เขาอยู่ในเจดีย์เจ็ดสีนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว

การบรรลุมหาจักรพรรดินั้นเป็นแค่การที่ตัวเขาใช้อะไรบางอย่างออกมา

การบ่มเพาะของเขาที่ผ่านๆ มามันก็มากพอที่จะส่งเขาขึ้นมหาจักรพรรดิได้ไม่ยากเย็นแล้ว

แต่สมบัติสืบทอดที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยทิ้งไว้นั้นมันกลับเปิดประตูบานใหม่ให้แก่เขา

ตอนนี้คลื่นกำเนิดสายหนึ่งมันค่อยๆ หมุนวนรอบตัวเย่หยวน

มันเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องลำบากลงแรงใดๆ

แต่ในสายตาของคนที่มองอยู่ด้านล่างนั้นพวกเขาแทบจะไม่อยากเชื่อสายตา!

“คลื่นกำเนิด! นั่นมัน…คลื่นกำเนิดจริงๆ! มหาจักรพรรดิสำเร็จคลื่นกำเนิด! เขานั้นเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะจริงๆ!”

“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่คิดสนใจผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ย ที่แท้เขามองเห็นมันมาตั้งแต่แรกแล้ว! และการที่มีคลื่นกำเนิดของตัวเองเช่นนี้ ยังต้องไปเอาของคนอื่นมาทำไมอีก?”

“ก็จริง! นอกจากร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแล้วมันจะมีใครทำความเข้าใจเจดีย์เจ็ดสีได้อีก?”

หลังจากการปรากฏขึ้นของคลื่นกำเนิดนั้นเหล่าผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง

ตอนนี้แม้แต่เจ้าโลกยู่เทียนเองก็ยังแทบลืมหายใจ!

“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน? เขานั้นกลับมีร่างวิญญาณอมตะของจริง!” ยู่เทียนนั้นร้องขึ้นมาด้วยเสียงสั่นๆ

หวางเฉียนนั้นร้อนไปทั้งหน้าเหมือนถูกตบเข้าอีกครั้ง

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันน่าตกตะลึงกว่าครั้งใดๆ

แม้แต่ตอนที่เย่หยวนเล่นงานเขาจนปางตายนั้นเขาก็ไม่คิดว่าเย่หยวนจะมีร่างวิญญาณอมตะของจริง

แต่ตอนนี้จะไม่เชื่อมันก็คงไม่ได้แล้ว

หนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์!

หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้มันมีเพียงแค่เจ้าโลกบู๋เมี่ยที่ทำได้

ตอนนี้มันกลับมีเย่หยวนขึ้นมาอีกคน!

ศิษย์พี่มู่ หมิงเจียน ซานหยางพวกเขาที่เคยพูดกล่าวใดๆ กลับต้องหุบปากลงด้วยความอับอาย

เย่หยวนนั้นสำเร็จคลื่นกำเนิดได้มันย่อมจะไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยอีก!

หยุนหนีนั้นเองก็ต้องผงะไปด้วยความตกตะลึงเช่นกัน

แม้ว่านางนั้นจะมั่นใจในตัวเย่หยวนมาก

แต่นางก็ไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของเย่หยวน แถมยังได้แต่ปล่อยให้เขาเข้าเจดีย์เจ็ดสีไป

ต่อให้เย่หยวนจะบอกว่าตัวเองสามารถสำเร็จคลื่นกำเนิดได้นางก็เชื่อคำพูดนั้นแค่หนึ่งในหมื่นเท่านั้น

ใครจะไปคิดว่าหนึ่งในหมื่นนั้นมันกลับเกิดขึ้นจริง?!

ประตูแห่งชีวานิรันดร์กำลังค่อยๆ จางหายไป

คลื่นวิญญาณของเย่หยวนนั้นผงาดขึ้นจนถึงระดับของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ไป!

เขานั้นหันไปมองหน้าหยุนหนีและกล่าวขึ้น “ตอนนี้ถือว่าข้าพิสูจน์ตัวเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะแล้วใช่หรือไม่?”

หยุนหนีนั้นเงียบลงไป

ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นเผ่าวิญญาณมีร่างวิญญาณอมตะแค่สองคนเท่านั้น

นางเชื่อว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันได้แน่นอนระหว่างร่างวิญญาณอมตะทั้งสอง

แต่ตอนนี้นางเริ่มกลัวอะไรบางอย่าง…

กลัวว่าเย่หยวนนั้นจะหลุดรอดจากการควบคุมของนางไป

คนผู้นี้อันตราย!

ให้เขาไปหาบรรพบุรุษบู๋เมี่ยด้วยมันจะเป็นทางเลือกที่ดีจริงๆ?

เจ้าเด็กคนนี้มันมีเป้าหมายอะไรกันแน่?

คนทั้งหลายต่างหันมามองหน้าหยุนหนีเป็นตาเดียว

ตอนนี้แม้แต่ยู่เทียน เจ้าโลกคนนี้เองก็ยังถูกเมิน

ดูท่าแล้วคนที่ตัดสินความเป็นความตายของเย่หยวนได้ในที่นี้มันมิใช่ยู่เทียนแต่เป็นหยุนหนี!

“เรื่องนี้จะรอช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไปกันเถอะ!” หลังจากหยุดคิดไปนานหยุนหนีก็กล่าวขึ้นมา

ซานหยาง หญิงชราและหมิงเจียนทั้งสามคนนั้นต่างหุบปากลงทันที

พวกเขานั้นตามหลังหยุนหนีออกไป เดินทางออกจากแดนวิญญาณกลาง

พร้อมกับไม่มีอะไรจะพูด!

เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาใช้เรื่องที่เย่หยวนไม่มีคลื่นกำเนิดเล่นงานได้

แต่ตอนนี้จะพูดอะไรได้อีก?

นี่มันคือร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริง ตัวตนระดับเดียวกับบรรพบุรุษบู๋เมี่ย!

คนที่สองในประวัติศาสตร์!

เย่หยวนจะมีส่วนอย่างมากในการช่วยหาตัวบรรพบุรุษบู๋เมี่ยในครั้งนี้

เย่หยวนเองก็ไม่พูดอะไรมากความและตามหลังยอดฝีมือทั้งหลายเดินทางออกไป

ระหว่างทางนั้นมันก็มียอดฝีมือจากทั่วทิศเดินทางมาร่วม

แต่ละคนที่มาถึงนั้นต่างหันมองดูเย่หยวนด้วยสายตาแปลกๆ

พวกเขานั้นเดินทางออกจากแดนวิญญาณอมตะและไปถึงทะเลแห่งหนึ่งในที่สุด

บนทะเลนั้นมันมีประตูหินบานใหญ่ตั้งอยู่

“นี่คือประตูนรก! สถานที่สุดท้ายที่ท่านบู๋เมี่ยมุ่งหน้าไป! เดิมทีแล้วเราได้ส่งคนไม่น้อยเข้าไปค้นหาหลังประตูนรกแต่ว่ากลับไม่มีใครรอดออกมาได้เลย พวกเจ้าทั้งสองลองสัมผัสดูว่าสามารถรับรู้ถึงคลื่นพลังของท่านบรรพบุรุษได้หรือไม่” หยุนหนีสั่ง

————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+