Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2968 ยืมร่ม!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2968 ยืมร่ม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2968 ยืมร่ม!

“ไอ้หนู บางเรื่องแค่คำพูดมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก!” เชียหลงนั้นกล่าวขึ้น

แต่เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายร่างของหยุนหนีก็หายไปกับตา

คลื่นกำเนิดทั้งแปดสิบเอ็ดนั้นรวมเป็นหนึ่งพุ่งเข้ากระแทกประตูแห่งชีวานิรันดร์!

ตูม!

ผนึกที่สามนั้นมันค่อยๆ มีรอยร้าวออกมา

แต่เมื่อหยุนหนีปรากฏร่างขึ้นมาอีกครั้งร่างวิญญาณของนางกลับจางไปลงอย่างมาก

ร่างวิญญาณของนางใกล้จะแตกสลายลงเต็มที!

สามเจ้าโลกนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกร้องขึ้นมา “นังเด็กนี่มันไม่คิดมีชีวิตต่อไปแล้วหรืออย่างไร?

เผาร่างวิญญาณของตัวเองเป็นพลังเช่นนี้มันเท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ!”

หยุนหนีนั้นไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาและหายตัวไปอีกครั้ง

ตูม!

ครั้งนี้รอยร้าวนั้นมันใหญ่ขึ้นอย่างมากแต่ว่าร่างของหยุนหนีเองก็จางลงไปกว่าเก่าเช่นกัน

สี่ยอดเจ้าโลกนั้นต้องอ้าปากค้างพร้อมหันมามองหน้าเย่หยวนเป็นตาเดียว

ภาพนี้มันช่างดูคุ้นตา!

เจ้าเด็กสองคนที่บุกเข้ามาในคราวนี้มันกลับเป็นคนบ้าที่ไม่คิดรักชีวิตตัวเองเหมือนๆ กัน!

ตูม!

ตูม!

ตูม!

หยุนหนีนั้นกระแทกเข้าไปเรื่อยๆ จนร่างแทบจางหายไปแต่ว่ารอยร้าวของผนึกนั้นมันก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

พริบตาเดียวนั้นร่างของหยุนหนีมันก็ไม่อาจจะปรากฏให้สายตาได้เห็นอีกต่อไป

มันเป็นสภาพที่หนักหนายิ่งกว่าตัวเย่หยวน

แต่ว่านางนั้นก็ยังทุ่มสุดตัวเข้าโจมตีผนึกอย่างไม่คิดชีวิต

ตูม!

ผนึกที่เปิดออกในที่สุด!

ประตูแห่งชีวานิรันดร์ที่ไม่เคยเปิดออกนั้นมันกลับค่อยๆ แง้มออกมา!

จากนั้นคลื่นพลังยอดเต๋ารุนแรงมหาศาลก็พุ่งออกมาจากภายในเหมือนเขื่อนแตก

สีหน้าของพวกเชียหลงทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปทันที

นังเด็กนี่กลับทำได้สำเร็จ!

สำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นข่าวร้ายอย่างมาก

เพราะพวกเขาทั้งสามที่แทบไม่เหลือแรงขยับตัวนี้ พวกเขาย่อมจะไม่อาจหนีไปได้แน่นอน!

หรือก็คือการบรรลุขึ้นของหยุนหนีนั้นมันเป็นดั่งสาสน์สั่งตายสำหรับพวกเขา!

ฟุบ!

ร่างวิญญาณของหยุนหนีที่แทบจะแตกสลายนั้นกลับมาก่อรูปใหม่ภายใต้พลังของยอดเต๋าจากหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์

คลื่นพลังของนางพุ่งทะยานขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

คลื่นกำเนิดทั้งแปดสิบเอ็ดนั้นมันเจิดจ้าขึ้นมาจนแทบไม่อาจมองตรงๆ ได้อีก

หยุนหนียืนมั่นอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่ว่าพลังจากตัวของนางแทบจะเป็นพลังจากสวรรค์

ต่อให้จะเป็นเย่หยวนเขาก็ยังต้องอ้าปากค้างออกมา

จากนั้นนางก็ทิ้งตัวกลับลงมาและเดินมาหยุดก้มหัวคารวะเจ้าโลกบู๋เมี่ย “คารวะบรรพบุรุษ”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างโล่งใจเพราะว่าหยุนหนีนั้นคือไพ่ตายที่เขาเก็บไว้จัดการกับตระกูลวิญญาณฉี

เขานั้นไม่นึกฝันว่าในเวลานี้ตัวนางกลับจะบรรลุเจ้าโลกขึ้นมา!

เจ้าโลกที่เหลือทั้งสามคนนั้นไม่คิดฝันเช่นกันว่าพริบตาเดียวนี้นังเด็กน้อยคนนี้กลับจะกลายเป็นคนตัดสินชีวิตของพวกเขา

“ฮ่าๆ หยุนหนี เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ! เอาล่ะ ฆ่าเจ้าเด็กนี่ก่อนเลย!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยชี้หน้าเย่หยวนพร้อมสั่ง

เจ้าเด็กนี่มันทำให้เขาต้องอับอาย

เขานั้นไร้เทียมทานมาตลอดชีวิตไม่เคยถูกใครเย้ยหยามขนาดนี้มาก่อน

แต่เขานั้นต้องยอมก้มหัวให้เย่หยวน!

โชคยังดีที่เขานั้นยังไม่ได้สาบานต่อเต๋าสวรรค์

เวลานี้เขาจึงสามารถสั่งฆ่าเย่หยวนลงได้โดยไม่ต้องคิดมาก!

เชียหลงและพวกนั้นต่างได้แต่ต้องยิ้มเย้ย

เพราะพวกเขาเองก็ไม่ได้ชอบหน้าเย่หยวนแม้แต่น้อย

หากมิใช่เพราะเจ้าเด็กนี่แล้วพวกเขาคงหนีไปได้ก่อนหยุนหนีจะบรรลุ

มีหรือที่จะต้องมานั่งรอความตายตรงนี้?

หยุนหนีหันไปมองหน้าเย่หยวนโดยที่ตัวเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยิ้มยักไหล่ตอบกลับไป

เขาเองก็ไม่คิดว่าหยุนหนีจะบรรลุขึ้นมาในวินาทีสำคัญก่อนที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยจะได้สาบานต่อเต๋าสวรรค์เช่นนี้

แต่ว่าหยุนหนีกลับก้มหัวให้แก่เจ้าโลกบู๋เมี่ยอีกครั้งพร้อมกล่าวเรื่องที่ทำให้คนทั้งหลายต้องเบิกตาค้าง

“หยุนหนีขอร้องท่านบรรพบุรุษด้วยอีกคน ขอให้ท่านช่วยมอบร่มคลื่นม่วงแก่เย่หยวนได้ยืมใช้ด้วย”

“เจ้าว่าอะไรนะ!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมจองหน้าหยุนหนีด้วยตาแดงก่ำ

เขานั้นไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง หยุนหนีนั้นกลับกำลังขอให้เขาเอาร่มคลื่นม่วงให้แก่เย่หยวน?

เชียหลงและพวกนั้นต่างต้องเบิกตากว้างขึ้นมา มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?

นางนั้นเป็นคนของผีเฒ่าบู๋เมี่ยมิใช่หรือ? ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น?

หยุนหนีนั้นไม่คิดหลบสายตาของเจ้าโลกบู๋เมี่ยแม้แต่น้อยและกล่าวอธิบายขึ้น “เย่หยวนนั้นแค่ต้องการยืมใช้ร่มคลื่นม่วงเพื่อช่วยเหลือคนรักเท่านั้น หยุนหนีเองก็จะตามเขาไปด้วย หากเขาใช้มันแล้วข้าจะเอาร่มคลื่นม่วงกลับมาคืนท่านแน่นอน บรรพบุรุษโปรดมีเมตตาด้วย”

ตอนนี้แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังต้องเลิกคิ้วสูง

นางนั้นกลับ…คิดช่วยเขา?

ก่อนนั้นนางไม่เคยจะแสดงสีหน้าใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย!

ใช่แล้ว

ระหว่างทางที่แกะรอยพลังหมอกหุ้มมา เย่หยวนได้เล่าเรื่องที่ว่าทำไมเขาถึงอยากได้ร่มคลื่นม่วงให้แก่หยุนหนีฟัง

เพียงแค่ว่าระหว่างที่ฟังไปนั้นหยุนหนีก็ทำหน้านิ่งเหมือนไม่ได้สนใจใดๆ แม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้นางนั้นกลับกล่าวขึ้นมาเพื่อช่วยเขาขอร้องถึงขั้นทำให้เจ้าโลกบู๋เมี่ยไม่พอใจ?

นางคนนี้…

ช่างคล้ายกับนางผู้นั้น!

ก่อนหน้านี้เย่หยวนคิดว่าหยุนหนีนั้นเป็นคนเลือดเย็นเห็นแก่ตัวฆ่าสังหารคนได้อย่างไม่กะพริบตา

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับได้พบว่าเขาคิดผิดไปอย่างมหันต์

ความเย็นเยือกของนางนั้นมันเป็นแค่นิสัยภายนอก

จิตใจของนางนั้นสุดแสนจะมีเมตตา

นิสัยแข็งนอกอ่อนในเช่นนี้มันช่างเหมือนกับมู่หลินเสวียนัก!

มู่หลินเสวียในตอนนั้นเป็นคนที่มากศักดิ์ศรีเย่อหยิ่งเหมือนดั่งนางสวรรค์

แต่เมื่อนางรักกับเขาเข้าแล้ว

ต่อให้จะต้องตายกลายเป็นผีนางก็จะไม่ลังเล!

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่หลงตัวเองถึงขั้นคิดว่าหยุนหนีนั้นหลงรักตัวเองเข้า

แต่ว่านางนั้นคงซาบซึ้งในเรื่องราวของเขาจริงๆ

คนที่อดทนผ่านความยากลำบากมากมายก้าวขึ้นมาจากภพเบื้องล่างเพื่อคนที่รัก ก้าวขึ้นมาจนถึงสวรรค์ในวันนี้

เรื่องราวเช่นนี้ใครบ้างเล่าที่จะไม่รู้สึกเห็นใจ?

เย่หยวนนั้นเดาไม่ผิด หยุนหนีนั้นเห็นใจเขาจริงๆ

แต่สิ่งที่นางเห็นใจนั้นมันมิใช่เรื่องราวเป็นแค่ความยากลำบากที่เขาต้องผ่านมาต่างหาก

เย่หยวนนั้นไม่ยอมตายลง ไม่ยอมสิ้นสูญจนถึงตอนที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นปลุกเขาขึ้นมา

เขานั้นไม่กลัวที่จะต้องตายตกลงไปพร้อมกันเพื่อกดดันให้ยอดเจ้าโลกอย่างบู๋เมี่ยต้องก้มหัวให้

เรื่องเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางปลอมแปลงได้แล้ว

แม้ว่าหยุนหนีนั้นกำลังบรรลุเต๋าแต่นางนั้นเห็นทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในสนามรบเทพฉงนนี้ทั้งหมด

นางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงทำเช่นนี้ บางทีมันอาจจะเพราะว่าพลังลึกลับอะไรบางอย่างก็เป็นได้

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นกัดฟันแน่นกล่าวขึ้นด้วยสายตาเย็นเยือก “หากข้าไม่รับปาก เจ้าคงคิดช่วยมันจัดการกับข้าลง?”

หยุนหนีตอบกลับไป “บรรพบุรุษ ทำไมมันต้องทำถึงขั้นนั้นด้วย?”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยหัวเราะลั่นขึ้นอย่างคับแค้นใจ “ดี! ดีมาก! ข้าไม่นึกเลยว่าตัวเองกลับจะเลี้ยงเด็กเนรคุณอย่างเจ้าขึ้นมา! เอาไปเสีย! แล้วไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!”

ร่มสีม่วงนั้นพุ่งมาหาตัวหยุนหนีและเมื่อหยุนหนีรับมันมานางก็มอบให้แก่เย่หยวนไป “หากเจ้าวางแผนอะไรข้าจะสังหารเจ้าลงเอง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

เขานั้นไม่ได้คิดอยากครอบครองร่มคลื่นม่วงแม้แต่น้อย

สิ่งที่เขาต้องการนั้นมันคือการช่วยเหลือมู่หลินเสวียเพียงเท่านั้น!

วินาทีต่อมาคลื่นกำเนิดมากมายมันก็ปะทุขึ้นจากร่างของหยุนหนี

จากนั้นห้วงมิติก็สั่นสะเทือนก่อนที่ร่างของเจ้าโลกเชียหลงจะแหลกสลายมอดดับไปจนถึงวิญญาณมังกร

ยอดเจ้าโลกคนหนึ่งได้ตายลงไปในทันที!

จากนั้นนางก็ชี้นิ้วเตรียมยิงพลังดัชนีใส่เฉียเกอต่อ

เฉียเกอนั้นได้แต่ต้องร้องขึ้นมาด้วยหน้าซีดขาว “ศิลามารดา ช่วยข้าด้วย!”

พูดจบคำนั้นมันก็มีแสงสีแดงเลือดพุ่งทะยานแหวกฟ้าเข้ามายังสนามรบเทพฉงน

ตูม!

หยุนหนีนั้นต้องกระเด็นออกมาไกล แม้แต่ใบหน้าเย็นเยือกของนางนั้นก็ยังต้องกระตุกขึ้น

ในตอนนี้เฉียเกอนั้นได้หายไปจากจุดที่เคยยืนอยู่แล้ว

“ช่างทรงพลังนัก! บรรพบุรุษ มันกลับยังมีตัวตนเช่นนี้อยู่ในเผ่าเลือดหรือ?” หยุนหนีร้องลั่นขึ้น

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเองก็ไม่มีเวลาจะมาคับแค้นใดๆ อีกต่อไปตอนนี้จิตใจของเขานั้นมันมีแต่ความตกตะลึงแทน

ดูท่าแล้วเขาเองก็คงเพิ่งเคยได้เห็นพลังนี้เป็นครั้งแรก
—————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2968 ยืมร่ม!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2968 ยืมร่ม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2968 ยืมร่ม!

“ไอ้หนู บางเรื่องแค่คำพูดมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก!” เชียหลงนั้นกล่าวขึ้น

แต่เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายร่างของหยุนหนีก็หายไปกับตา

คลื่นกำเนิดทั้งแปดสิบเอ็ดนั้นรวมเป็นหนึ่งพุ่งเข้ากระแทกประตูแห่งชีวานิรันดร์!

ตูม!

ผนึกที่สามนั้นมันค่อยๆ มีรอยร้าวออกมา

แต่เมื่อหยุนหนีปรากฏร่างขึ้นมาอีกครั้งร่างวิญญาณของนางกลับจางไปลงอย่างมาก

ร่างวิญญาณของนางใกล้จะแตกสลายลงเต็มที!

สามเจ้าโลกนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกร้องขึ้นมา “นังเด็กนี่มันไม่คิดมีชีวิตต่อไปแล้วหรืออย่างไร?

เผาร่างวิญญาณของตัวเองเป็นพลังเช่นนี้มันเท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ!”

หยุนหนีนั้นไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาและหายตัวไปอีกครั้ง

ตูม!

ครั้งนี้รอยร้าวนั้นมันใหญ่ขึ้นอย่างมากแต่ว่าร่างของหยุนหนีเองก็จางลงไปกว่าเก่าเช่นกัน

สี่ยอดเจ้าโลกนั้นต้องอ้าปากค้างพร้อมหันมามองหน้าเย่หยวนเป็นตาเดียว

ภาพนี้มันช่างดูคุ้นตา!

เจ้าเด็กสองคนที่บุกเข้ามาในคราวนี้มันกลับเป็นคนบ้าที่ไม่คิดรักชีวิตตัวเองเหมือนๆ กัน!

ตูม!

ตูม!

ตูม!

หยุนหนีนั้นกระแทกเข้าไปเรื่อยๆ จนร่างแทบจางหายไปแต่ว่ารอยร้าวของผนึกนั้นมันก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

พริบตาเดียวนั้นร่างของหยุนหนีมันก็ไม่อาจจะปรากฏให้สายตาได้เห็นอีกต่อไป

มันเป็นสภาพที่หนักหนายิ่งกว่าตัวเย่หยวน

แต่ว่านางนั้นก็ยังทุ่มสุดตัวเข้าโจมตีผนึกอย่างไม่คิดชีวิต

ตูม!

ผนึกที่เปิดออกในที่สุด!

ประตูแห่งชีวานิรันดร์ที่ไม่เคยเปิดออกนั้นมันกลับค่อยๆ แง้มออกมา!

จากนั้นคลื่นพลังยอดเต๋ารุนแรงมหาศาลก็พุ่งออกมาจากภายในเหมือนเขื่อนแตก

สีหน้าของพวกเชียหลงทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปทันที

นังเด็กนี่กลับทำได้สำเร็จ!

สำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นข่าวร้ายอย่างมาก

เพราะพวกเขาทั้งสามที่แทบไม่เหลือแรงขยับตัวนี้ พวกเขาย่อมจะไม่อาจหนีไปได้แน่นอน!

หรือก็คือการบรรลุขึ้นของหยุนหนีนั้นมันเป็นดั่งสาสน์สั่งตายสำหรับพวกเขา!

ฟุบ!

ร่างวิญญาณของหยุนหนีที่แทบจะแตกสลายนั้นกลับมาก่อรูปใหม่ภายใต้พลังของยอดเต๋าจากหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์

คลื่นพลังของนางพุ่งทะยานขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

คลื่นกำเนิดทั้งแปดสิบเอ็ดนั้นมันเจิดจ้าขึ้นมาจนแทบไม่อาจมองตรงๆ ได้อีก

หยุนหนียืนมั่นอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่ว่าพลังจากตัวของนางแทบจะเป็นพลังจากสวรรค์

ต่อให้จะเป็นเย่หยวนเขาก็ยังต้องอ้าปากค้างออกมา

จากนั้นนางก็ทิ้งตัวกลับลงมาและเดินมาหยุดก้มหัวคารวะเจ้าโลกบู๋เมี่ย “คารวะบรรพบุรุษ”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างโล่งใจเพราะว่าหยุนหนีนั้นคือไพ่ตายที่เขาเก็บไว้จัดการกับตระกูลวิญญาณฉี

เขานั้นไม่นึกฝันว่าในเวลานี้ตัวนางกลับจะบรรลุเจ้าโลกขึ้นมา!

เจ้าโลกที่เหลือทั้งสามคนนั้นไม่คิดฝันเช่นกันว่าพริบตาเดียวนี้นังเด็กน้อยคนนี้กลับจะกลายเป็นคนตัดสินชีวิตของพวกเขา

“ฮ่าๆ หยุนหนี เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ! เอาล่ะ ฆ่าเจ้าเด็กนี่ก่อนเลย!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยชี้หน้าเย่หยวนพร้อมสั่ง

เจ้าเด็กนี่มันทำให้เขาต้องอับอาย

เขานั้นไร้เทียมทานมาตลอดชีวิตไม่เคยถูกใครเย้ยหยามขนาดนี้มาก่อน

แต่เขานั้นต้องยอมก้มหัวให้เย่หยวน!

โชคยังดีที่เขานั้นยังไม่ได้สาบานต่อเต๋าสวรรค์

เวลานี้เขาจึงสามารถสั่งฆ่าเย่หยวนลงได้โดยไม่ต้องคิดมาก!

เชียหลงและพวกนั้นต่างได้แต่ต้องยิ้มเย้ย

เพราะพวกเขาเองก็ไม่ได้ชอบหน้าเย่หยวนแม้แต่น้อย

หากมิใช่เพราะเจ้าเด็กนี่แล้วพวกเขาคงหนีไปได้ก่อนหยุนหนีจะบรรลุ

มีหรือที่จะต้องมานั่งรอความตายตรงนี้?

หยุนหนีหันไปมองหน้าเย่หยวนโดยที่ตัวเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยิ้มยักไหล่ตอบกลับไป

เขาเองก็ไม่คิดว่าหยุนหนีจะบรรลุขึ้นมาในวินาทีสำคัญก่อนที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยจะได้สาบานต่อเต๋าสวรรค์เช่นนี้

แต่ว่าหยุนหนีกลับก้มหัวให้แก่เจ้าโลกบู๋เมี่ยอีกครั้งพร้อมกล่าวเรื่องที่ทำให้คนทั้งหลายต้องเบิกตาค้าง

“หยุนหนีขอร้องท่านบรรพบุรุษด้วยอีกคน ขอให้ท่านช่วยมอบร่มคลื่นม่วงแก่เย่หยวนได้ยืมใช้ด้วย”

“เจ้าว่าอะไรนะ!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมจองหน้าหยุนหนีด้วยตาแดงก่ำ

เขานั้นไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง หยุนหนีนั้นกลับกำลังขอให้เขาเอาร่มคลื่นม่วงให้แก่เย่หยวน?

เชียหลงและพวกนั้นต่างต้องเบิกตากว้างขึ้นมา มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?

นางนั้นเป็นคนของผีเฒ่าบู๋เมี่ยมิใช่หรือ? ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น?

หยุนหนีนั้นไม่คิดหลบสายตาของเจ้าโลกบู๋เมี่ยแม้แต่น้อยและกล่าวอธิบายขึ้น “เย่หยวนนั้นแค่ต้องการยืมใช้ร่มคลื่นม่วงเพื่อช่วยเหลือคนรักเท่านั้น หยุนหนีเองก็จะตามเขาไปด้วย หากเขาใช้มันแล้วข้าจะเอาร่มคลื่นม่วงกลับมาคืนท่านแน่นอน บรรพบุรุษโปรดมีเมตตาด้วย”

ตอนนี้แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังต้องเลิกคิ้วสูง

นางนั้นกลับ…คิดช่วยเขา?

ก่อนนั้นนางไม่เคยจะแสดงสีหน้าใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย!

ใช่แล้ว

ระหว่างทางที่แกะรอยพลังหมอกหุ้มมา เย่หยวนได้เล่าเรื่องที่ว่าทำไมเขาถึงอยากได้ร่มคลื่นม่วงให้แก่หยุนหนีฟัง

เพียงแค่ว่าระหว่างที่ฟังไปนั้นหยุนหนีก็ทำหน้านิ่งเหมือนไม่ได้สนใจใดๆ แม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้นางนั้นกลับกล่าวขึ้นมาเพื่อช่วยเขาขอร้องถึงขั้นทำให้เจ้าโลกบู๋เมี่ยไม่พอใจ?

นางคนนี้…

ช่างคล้ายกับนางผู้นั้น!

ก่อนหน้านี้เย่หยวนคิดว่าหยุนหนีนั้นเป็นคนเลือดเย็นเห็นแก่ตัวฆ่าสังหารคนได้อย่างไม่กะพริบตา

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับได้พบว่าเขาคิดผิดไปอย่างมหันต์

ความเย็นเยือกของนางนั้นมันเป็นแค่นิสัยภายนอก

จิตใจของนางนั้นสุดแสนจะมีเมตตา

นิสัยแข็งนอกอ่อนในเช่นนี้มันช่างเหมือนกับมู่หลินเสวียนัก!

มู่หลินเสวียในตอนนั้นเป็นคนที่มากศักดิ์ศรีเย่อหยิ่งเหมือนดั่งนางสวรรค์

แต่เมื่อนางรักกับเขาเข้าแล้ว

ต่อให้จะต้องตายกลายเป็นผีนางก็จะไม่ลังเล!

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่หลงตัวเองถึงขั้นคิดว่าหยุนหนีนั้นหลงรักตัวเองเข้า

แต่ว่านางนั้นคงซาบซึ้งในเรื่องราวของเขาจริงๆ

คนที่อดทนผ่านความยากลำบากมากมายก้าวขึ้นมาจากภพเบื้องล่างเพื่อคนที่รัก ก้าวขึ้นมาจนถึงสวรรค์ในวันนี้

เรื่องราวเช่นนี้ใครบ้างเล่าที่จะไม่รู้สึกเห็นใจ?

เย่หยวนนั้นเดาไม่ผิด หยุนหนีนั้นเห็นใจเขาจริงๆ

แต่สิ่งที่นางเห็นใจนั้นมันมิใช่เรื่องราวเป็นแค่ความยากลำบากที่เขาต้องผ่านมาต่างหาก

เย่หยวนนั้นไม่ยอมตายลง ไม่ยอมสิ้นสูญจนถึงตอนที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นปลุกเขาขึ้นมา

เขานั้นไม่กลัวที่จะต้องตายตกลงไปพร้อมกันเพื่อกดดันให้ยอดเจ้าโลกอย่างบู๋เมี่ยต้องก้มหัวให้

เรื่องเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางปลอมแปลงได้แล้ว

แม้ว่าหยุนหนีนั้นกำลังบรรลุเต๋าแต่นางนั้นเห็นทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในสนามรบเทพฉงนนี้ทั้งหมด

นางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงทำเช่นนี้ บางทีมันอาจจะเพราะว่าพลังลึกลับอะไรบางอย่างก็เป็นได้

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นกัดฟันแน่นกล่าวขึ้นด้วยสายตาเย็นเยือก “หากข้าไม่รับปาก เจ้าคงคิดช่วยมันจัดการกับข้าลง?”

หยุนหนีตอบกลับไป “บรรพบุรุษ ทำไมมันต้องทำถึงขั้นนั้นด้วย?”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยหัวเราะลั่นขึ้นอย่างคับแค้นใจ “ดี! ดีมาก! ข้าไม่นึกเลยว่าตัวเองกลับจะเลี้ยงเด็กเนรคุณอย่างเจ้าขึ้นมา! เอาไปเสีย! แล้วไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!”

ร่มสีม่วงนั้นพุ่งมาหาตัวหยุนหนีและเมื่อหยุนหนีรับมันมานางก็มอบให้แก่เย่หยวนไป “หากเจ้าวางแผนอะไรข้าจะสังหารเจ้าลงเอง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

เขานั้นไม่ได้คิดอยากครอบครองร่มคลื่นม่วงแม้แต่น้อย

สิ่งที่เขาต้องการนั้นมันคือการช่วยเหลือมู่หลินเสวียเพียงเท่านั้น!

วินาทีต่อมาคลื่นกำเนิดมากมายมันก็ปะทุขึ้นจากร่างของหยุนหนี

จากนั้นห้วงมิติก็สั่นสะเทือนก่อนที่ร่างของเจ้าโลกเชียหลงจะแหลกสลายมอดดับไปจนถึงวิญญาณมังกร

ยอดเจ้าโลกคนหนึ่งได้ตายลงไปในทันที!

จากนั้นนางก็ชี้นิ้วเตรียมยิงพลังดัชนีใส่เฉียเกอต่อ

เฉียเกอนั้นได้แต่ต้องร้องขึ้นมาด้วยหน้าซีดขาว “ศิลามารดา ช่วยข้าด้วย!”

พูดจบคำนั้นมันก็มีแสงสีแดงเลือดพุ่งทะยานแหวกฟ้าเข้ามายังสนามรบเทพฉงน

ตูม!

หยุนหนีนั้นต้องกระเด็นออกมาไกล แม้แต่ใบหน้าเย็นเยือกของนางนั้นก็ยังต้องกระตุกขึ้น

ในตอนนี้เฉียเกอนั้นได้หายไปจากจุดที่เคยยืนอยู่แล้ว

“ช่างทรงพลังนัก! บรรพบุรุษ มันกลับยังมีตัวตนเช่นนี้อยู่ในเผ่าเลือดหรือ?” หยุนหนีร้องลั่นขึ้น

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเองก็ไม่มีเวลาจะมาคับแค้นใดๆ อีกต่อไปตอนนี้จิตใจของเขานั้นมันมีแต่ความตกตะลึงแทน

ดูท่าแล้วเขาเองก็คงเพิ่งเคยได้เห็นพลังนี้เป็นครั้งแรก
—————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2968 ยืมร่ม!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2968 ยืมร่ม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2968 ยืมร่ม!

“ไอ้หนู บางเรื่องแค่คำพูดมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก!” เชียหลงนั้นกล่าวขึ้น

แต่เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายร่างของหยุนหนีก็หายไปกับตา

คลื่นกำเนิดทั้งแปดสิบเอ็ดนั้นรวมเป็นหนึ่งพุ่งเข้ากระแทกประตูแห่งชีวานิรันดร์!

ตูม!

ผนึกที่สามนั้นมันค่อยๆ มีรอยร้าวออกมา

แต่เมื่อหยุนหนีปรากฏร่างขึ้นมาอีกครั้งร่างวิญญาณของนางกลับจางไปลงอย่างมาก

ร่างวิญญาณของนางใกล้จะแตกสลายลงเต็มที!

สามเจ้าโลกนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกร้องขึ้นมา “นังเด็กนี่มันไม่คิดมีชีวิตต่อไปแล้วหรืออย่างไร?

เผาร่างวิญญาณของตัวเองเป็นพลังเช่นนี้มันเท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ!”

หยุนหนีนั้นไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาและหายตัวไปอีกครั้ง

ตูม!

ครั้งนี้รอยร้าวนั้นมันใหญ่ขึ้นอย่างมากแต่ว่าร่างของหยุนหนีเองก็จางลงไปกว่าเก่าเช่นกัน

สี่ยอดเจ้าโลกนั้นต้องอ้าปากค้างพร้อมหันมามองหน้าเย่หยวนเป็นตาเดียว

ภาพนี้มันช่างดูคุ้นตา!

เจ้าเด็กสองคนที่บุกเข้ามาในคราวนี้มันกลับเป็นคนบ้าที่ไม่คิดรักชีวิตตัวเองเหมือนๆ กัน!

ตูม!

ตูม!

ตูม!

หยุนหนีนั้นกระแทกเข้าไปเรื่อยๆ จนร่างแทบจางหายไปแต่ว่ารอยร้าวของผนึกนั้นมันก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

พริบตาเดียวนั้นร่างของหยุนหนีมันก็ไม่อาจจะปรากฏให้สายตาได้เห็นอีกต่อไป

มันเป็นสภาพที่หนักหนายิ่งกว่าตัวเย่หยวน

แต่ว่านางนั้นก็ยังทุ่มสุดตัวเข้าโจมตีผนึกอย่างไม่คิดชีวิต

ตูม!

ผนึกที่เปิดออกในที่สุด!

ประตูแห่งชีวานิรันดร์ที่ไม่เคยเปิดออกนั้นมันกลับค่อยๆ แง้มออกมา!

จากนั้นคลื่นพลังยอดเต๋ารุนแรงมหาศาลก็พุ่งออกมาจากภายในเหมือนเขื่อนแตก

สีหน้าของพวกเชียหลงทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปทันที

นังเด็กนี่กลับทำได้สำเร็จ!

สำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นข่าวร้ายอย่างมาก

เพราะพวกเขาทั้งสามที่แทบไม่เหลือแรงขยับตัวนี้ พวกเขาย่อมจะไม่อาจหนีไปได้แน่นอน!

หรือก็คือการบรรลุขึ้นของหยุนหนีนั้นมันเป็นดั่งสาสน์สั่งตายสำหรับพวกเขา!

ฟุบ!

ร่างวิญญาณของหยุนหนีที่แทบจะแตกสลายนั้นกลับมาก่อรูปใหม่ภายใต้พลังของยอดเต๋าจากหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์

คลื่นพลังของนางพุ่งทะยานขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

คลื่นกำเนิดทั้งแปดสิบเอ็ดนั้นมันเจิดจ้าขึ้นมาจนแทบไม่อาจมองตรงๆ ได้อีก

หยุนหนียืนมั่นอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่ว่าพลังจากตัวของนางแทบจะเป็นพลังจากสวรรค์

ต่อให้จะเป็นเย่หยวนเขาก็ยังต้องอ้าปากค้างออกมา

จากนั้นนางก็ทิ้งตัวกลับลงมาและเดินมาหยุดก้มหัวคารวะเจ้าโลกบู๋เมี่ย “คารวะบรรพบุรุษ”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างโล่งใจเพราะว่าหยุนหนีนั้นคือไพ่ตายที่เขาเก็บไว้จัดการกับตระกูลวิญญาณฉี

เขานั้นไม่นึกฝันว่าในเวลานี้ตัวนางกลับจะบรรลุเจ้าโลกขึ้นมา!

เจ้าโลกที่เหลือทั้งสามคนนั้นไม่คิดฝันเช่นกันว่าพริบตาเดียวนี้นังเด็กน้อยคนนี้กลับจะกลายเป็นคนตัดสินชีวิตของพวกเขา

“ฮ่าๆ หยุนหนี เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ! เอาล่ะ ฆ่าเจ้าเด็กนี่ก่อนเลย!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยชี้หน้าเย่หยวนพร้อมสั่ง

เจ้าเด็กนี่มันทำให้เขาต้องอับอาย

เขานั้นไร้เทียมทานมาตลอดชีวิตไม่เคยถูกใครเย้ยหยามขนาดนี้มาก่อน

แต่เขานั้นต้องยอมก้มหัวให้เย่หยวน!

โชคยังดีที่เขานั้นยังไม่ได้สาบานต่อเต๋าสวรรค์

เวลานี้เขาจึงสามารถสั่งฆ่าเย่หยวนลงได้โดยไม่ต้องคิดมาก!

เชียหลงและพวกนั้นต่างได้แต่ต้องยิ้มเย้ย

เพราะพวกเขาเองก็ไม่ได้ชอบหน้าเย่หยวนแม้แต่น้อย

หากมิใช่เพราะเจ้าเด็กนี่แล้วพวกเขาคงหนีไปได้ก่อนหยุนหนีจะบรรลุ

มีหรือที่จะต้องมานั่งรอความตายตรงนี้?

หยุนหนีหันไปมองหน้าเย่หยวนโดยที่ตัวเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยิ้มยักไหล่ตอบกลับไป

เขาเองก็ไม่คิดว่าหยุนหนีจะบรรลุขึ้นมาในวินาทีสำคัญก่อนที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยจะได้สาบานต่อเต๋าสวรรค์เช่นนี้

แต่ว่าหยุนหนีกลับก้มหัวให้แก่เจ้าโลกบู๋เมี่ยอีกครั้งพร้อมกล่าวเรื่องที่ทำให้คนทั้งหลายต้องเบิกตาค้าง

“หยุนหนีขอร้องท่านบรรพบุรุษด้วยอีกคน ขอให้ท่านช่วยมอบร่มคลื่นม่วงแก่เย่หยวนได้ยืมใช้ด้วย”

“เจ้าว่าอะไรนะ!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมจองหน้าหยุนหนีด้วยตาแดงก่ำ

เขานั้นไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง หยุนหนีนั้นกลับกำลังขอให้เขาเอาร่มคลื่นม่วงให้แก่เย่หยวน?

เชียหลงและพวกนั้นต่างต้องเบิกตากว้างขึ้นมา มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?

นางนั้นเป็นคนของผีเฒ่าบู๋เมี่ยมิใช่หรือ? ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น?

หยุนหนีนั้นไม่คิดหลบสายตาของเจ้าโลกบู๋เมี่ยแม้แต่น้อยและกล่าวอธิบายขึ้น “เย่หยวนนั้นแค่ต้องการยืมใช้ร่มคลื่นม่วงเพื่อช่วยเหลือคนรักเท่านั้น หยุนหนีเองก็จะตามเขาไปด้วย หากเขาใช้มันแล้วข้าจะเอาร่มคลื่นม่วงกลับมาคืนท่านแน่นอน บรรพบุรุษโปรดมีเมตตาด้วย”

ตอนนี้แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังต้องเลิกคิ้วสูง

นางนั้นกลับ…คิดช่วยเขา?

ก่อนนั้นนางไม่เคยจะแสดงสีหน้าใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย!

ใช่แล้ว

ระหว่างทางที่แกะรอยพลังหมอกหุ้มมา เย่หยวนได้เล่าเรื่องที่ว่าทำไมเขาถึงอยากได้ร่มคลื่นม่วงให้แก่หยุนหนีฟัง

เพียงแค่ว่าระหว่างที่ฟังไปนั้นหยุนหนีก็ทำหน้านิ่งเหมือนไม่ได้สนใจใดๆ แม้แต่น้อย

แต่ตอนนี้นางนั้นกลับกล่าวขึ้นมาเพื่อช่วยเขาขอร้องถึงขั้นทำให้เจ้าโลกบู๋เมี่ยไม่พอใจ?

นางคนนี้…

ช่างคล้ายกับนางผู้นั้น!

ก่อนหน้านี้เย่หยวนคิดว่าหยุนหนีนั้นเป็นคนเลือดเย็นเห็นแก่ตัวฆ่าสังหารคนได้อย่างไม่กะพริบตา

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับได้พบว่าเขาคิดผิดไปอย่างมหันต์

ความเย็นเยือกของนางนั้นมันเป็นแค่นิสัยภายนอก

จิตใจของนางนั้นสุดแสนจะมีเมตตา

นิสัยแข็งนอกอ่อนในเช่นนี้มันช่างเหมือนกับมู่หลินเสวียนัก!

มู่หลินเสวียในตอนนั้นเป็นคนที่มากศักดิ์ศรีเย่อหยิ่งเหมือนดั่งนางสวรรค์

แต่เมื่อนางรักกับเขาเข้าแล้ว

ต่อให้จะต้องตายกลายเป็นผีนางก็จะไม่ลังเล!

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่หลงตัวเองถึงขั้นคิดว่าหยุนหนีนั้นหลงรักตัวเองเข้า

แต่ว่านางนั้นคงซาบซึ้งในเรื่องราวของเขาจริงๆ

คนที่อดทนผ่านความยากลำบากมากมายก้าวขึ้นมาจากภพเบื้องล่างเพื่อคนที่รัก ก้าวขึ้นมาจนถึงสวรรค์ในวันนี้

เรื่องราวเช่นนี้ใครบ้างเล่าที่จะไม่รู้สึกเห็นใจ?

เย่หยวนนั้นเดาไม่ผิด หยุนหนีนั้นเห็นใจเขาจริงๆ

แต่สิ่งที่นางเห็นใจนั้นมันมิใช่เรื่องราวเป็นแค่ความยากลำบากที่เขาต้องผ่านมาต่างหาก

เย่หยวนนั้นไม่ยอมตายลง ไม่ยอมสิ้นสูญจนถึงตอนที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นปลุกเขาขึ้นมา

เขานั้นไม่กลัวที่จะต้องตายตกลงไปพร้อมกันเพื่อกดดันให้ยอดเจ้าโลกอย่างบู๋เมี่ยต้องก้มหัวให้

เรื่องเช่นนี้มันย่อมจะไม่มีทางปลอมแปลงได้แล้ว

แม้ว่าหยุนหนีนั้นกำลังบรรลุเต๋าแต่นางนั้นเห็นทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในสนามรบเทพฉงนนี้ทั้งหมด

นางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงทำเช่นนี้ บางทีมันอาจจะเพราะว่าพลังลึกลับอะไรบางอย่างก็เป็นได้

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นกัดฟันแน่นกล่าวขึ้นด้วยสายตาเย็นเยือก “หากข้าไม่รับปาก เจ้าคงคิดช่วยมันจัดการกับข้าลง?”

หยุนหนีตอบกลับไป “บรรพบุรุษ ทำไมมันต้องทำถึงขั้นนั้นด้วย?”

เจ้าโลกบู๋เมี่ยหัวเราะลั่นขึ้นอย่างคับแค้นใจ “ดี! ดีมาก! ข้าไม่นึกเลยว่าตัวเองกลับจะเลี้ยงเด็กเนรคุณอย่างเจ้าขึ้นมา! เอาไปเสีย! แล้วไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!”

ร่มสีม่วงนั้นพุ่งมาหาตัวหยุนหนีและเมื่อหยุนหนีรับมันมานางก็มอบให้แก่เย่หยวนไป “หากเจ้าวางแผนอะไรข้าจะสังหารเจ้าลงเอง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

เขานั้นไม่ได้คิดอยากครอบครองร่มคลื่นม่วงแม้แต่น้อย

สิ่งที่เขาต้องการนั้นมันคือการช่วยเหลือมู่หลินเสวียเพียงเท่านั้น!

วินาทีต่อมาคลื่นกำเนิดมากมายมันก็ปะทุขึ้นจากร่างของหยุนหนี

จากนั้นห้วงมิติก็สั่นสะเทือนก่อนที่ร่างของเจ้าโลกเชียหลงจะแหลกสลายมอดดับไปจนถึงวิญญาณมังกร

ยอดเจ้าโลกคนหนึ่งได้ตายลงไปในทันที!

จากนั้นนางก็ชี้นิ้วเตรียมยิงพลังดัชนีใส่เฉียเกอต่อ

เฉียเกอนั้นได้แต่ต้องร้องขึ้นมาด้วยหน้าซีดขาว “ศิลามารดา ช่วยข้าด้วย!”

พูดจบคำนั้นมันก็มีแสงสีแดงเลือดพุ่งทะยานแหวกฟ้าเข้ามายังสนามรบเทพฉงน

ตูม!

หยุนหนีนั้นต้องกระเด็นออกมาไกล แม้แต่ใบหน้าเย็นเยือกของนางนั้นก็ยังต้องกระตุกขึ้น

ในตอนนี้เฉียเกอนั้นได้หายไปจากจุดที่เคยยืนอยู่แล้ว

“ช่างทรงพลังนัก! บรรพบุรุษ มันกลับยังมีตัวตนเช่นนี้อยู่ในเผ่าเลือดหรือ?” หยุนหนีร้องลั่นขึ้น

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเองก็ไม่มีเวลาจะมาคับแค้นใดๆ อีกต่อไปตอนนี้จิตใจของเขานั้นมันมีแต่ความตกตะลึงแทน

ดูท่าแล้วเขาเองก็คงเพิ่งเคยได้เห็นพลังนี้เป็นครั้งแรก
—————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+