Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2978 ท้าขุนเขา!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2978 ท้าขุนเขา! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บนท้องฟ้านั้นมันมีเงาของมังกรและหงส์ค่อยๆ หลอมเข้าเป็นหนึ่งเดียว!

สองสายเลือดที่ไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้กลับผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นพลังเดียวและส่งพลังที่มากกว่าเก่าออกมา

นี่มันคือสิ่งที่ไม่มีใครคาดฝัน

สองสายเลือดนั้นมันได้กลายเป็นหนึ่ง สุดยอดกระบวนท่ามังกรเคียงหงส์ที่เย่หยวนสร้างขึ้นมา!

ในพริบตาพลังของหงส์แดงเก้าตระการและมังกรเคียงหงส์ก็ปะทะกันจนทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนห้วงมิติขึ้น!

แม้แต่ยอดฝีมืออย่างเฟิ่งจิ่วเกอยังต้องหน้าเปลี่ยนสีไปเพราะพลังตรงหน้านี้

พลังของคนทั้งสองนั้นมันมิใช่พลังในขอบเขตของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์อีกต่อไปแล้ว!

นี่มันคือศึกของยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง!

ตูม!

เฟิ่งชิงซวนนั้นถูกพลังของมังกรและหงส์สองสายเลือดกดดันจนเสียหลักไปทันที

จากนั้นคลื่นพลังหนักหน่วงที่เหนือล้ำกว่าขุนเขาใหญ่ก็ปะทะเข้ากับร่างของนาง

เฟิ่งชิงซวนนั้นต้องกระอักเลือดออกมาทันทีและปลิวร่วงจมพื้นดินไป

ส่วนตัวเย่หยวนนั้นกลับไม่แม้แต่จะบาดเจ็บ

เขานั้นยืนมั่นอยู่กลางอากาศพร้อมนึกย้อนถึงพลังที่เขาเพิ่งจะใช้ออกมา

พลังของมังกรเคียงหงส์นี้มันเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดคิดไปมากนัก

กระบวนท่านี้มันเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยความเข้าใจต่อคลื่นกำเนิดเลือดที่เขามี

แต่เขาก็ไม่คิดว่าพลังของการผสานสองสุดยอดสายเลือดภูตแท้มันจะทรงพลังได้ขนาดนี้!

“ผู้อาวุโส…”

“อืม ข้าเองก็ไม่นึกเช่นกันว่าหลังจากผสานสายเลือดมังกรและหงส์เข้าด้วยกันแล้วมันกลับจะสร้างพลังงานที่รุนแรงขนาดนี้ขึ้นมาได้! เช่นนั้นแล้วหากผสานสี่สายเลือดภูตแท้โกลาหลได้แล้วมันย่อมจะ…”

หมี่เทียนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างมาก

เรื่องการผสานสุดยอดสายเลือดนี้ปกติแล้วมันย่อมจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้

เพราะคนในสี่สายเลือดภูตแท้โกลาหลนั้นต่างมีร่างกายที่เกิดมาพร้อมสายเลือดนั้นๆ

มันไม่มีทางจะผสานเข้ากับสายเลือดอื่นได้แน่นอน!

และแม้มนุษย์นั้นจะมีความเข้ากันได้ต่อสายเลือดต่างๆ สูงแต่ว่าเมื่อสายเลือดใดสายเลือดหนึ่งเข้าสู่ร่างของพวกเขาแล้วมันก็จะอ่อนแอลงไปอย่างมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นสายเลือดแต่ละอย่างนั้นมันจะขัดขวางซึ่งกันและกันย่อมไม่มีทางผสานเข้าด้วยกันได้

หากมนุษย์ทั่วไปคิดผสานสายเลือดแล้ว พวกเขาก็คงต้องตัวแตกตายไปเพราะพลังที่ไม่เข้ากันของสายเลือดอย่างแน่นอน!

แต่เย่หยวนนั้นมีคลื่นกำเนิดเลือดอยู่ในตัวและยังมีสายเลือดมังกรแต่มีร่างเป็นมนุษย์

มันเป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการลองผสานสายเลือดที่สุด!

หากมันสามารถผสานสี่สายเลือดได้จริงๆ แล้วพลังนั้นย่อมจะเหนือคาดเดาไปมากนัก

“หากมันทำได้จริงข้าก็อยากจะลอง” เย่หยวนกล่าวขึ้น

แต่ว่าเขานั้นก็รู้ดีว่าเรื่องนี้มันยากเย็นแค่ไหน

ครั้งนี้เขาแค่บังเอิญได้มาเจอกับคนระดับเฟิ่งชิงซวนที่ถูกไล่ล่าเอาชีวิต

ไม่เช่นนั้นแล้วสายเลือดระดับสวรรค์แห้งนั้นมันย่อมจะเป็นสมบัติล้ำค่าที่คนนอกเผ่าไม่อาจจะเข้าถึงได้ง่ายๆ

ส่วนตัวเฟิ่งจิ่วเกอทั้งหลายนั้นพวกเขาไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้แล้ว

เมื่อคลื่นพลังทั้งหลายมันจางหายไปพวกเขาทั้งหลายถึงเริ่มได้สติกลับมา

“สายเลือดมังกรและหงส์กลับผสานเข้าด้วยกันได้!”

“พลังของสายเลือดที่ผสานเข้าด้วยกันนี้มันจะไม่รุนแรงเกินไปหรือ?”

“ท่านเย่นั้นเอาชนะเฟิ่งชิงซวนได้ด้วยพลังของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลาง! นี่มัน…ไม่อยากจะเชื่อเลย!”

พวกเขาทั้งหลายนั้นเข้าใจดีว่าเฟิ่งชิงซวนทรงพลังแค่ไหน

ต่อให้จะเป็นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์เองก็ยังเอาชีวิตนางไม่ได้

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นถามใจตัวเองดูและรู้สึกว่าต่อหน้าเฟิ่งชิงซวนนั้นนางเป็นได้แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง

แต่ว่าบุตรีแห่งสวรรค์เช่นนี้กลับพ่ายแพ้ลงอย่างง่ายดาย

“พวกเจ้าไปได้แล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้น

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน “ท่าน…ท่านจะปล่อยเราไปจริง?”

เย่หยวนตอบกลับไป “เย่ผู้นี้รักษาคำพูดเสมอ ในเมื่อข้าสัญญาแล้วมันก็ต้องทำตามอย่างแน่นอน หากเจ้าคิดอยากพาเผ่าหงส์แดงออกมาตามล่าข้าทีหลังก็พามาเถอะ”

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป ที่แท้แล้วเย่หยวนกลับเข้าใจเรื่องราวเบื้องหลังทั้งสิ้น

แน่นอนล่ะว่าเขาคนนี้มีคำพูดที่หนักแน่นดั่งขุนเขาจริงๆ!

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนและกล่าว “เรื่องนี้จิ่วเกอจะไม่มีทางบอกใครแน่ นายท่านวางใจเถอะ!”

เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกไล่ “แล้วแต่พวกเจ้าเถอะ”

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นได้แต่ยิ้มแห้งๆ พาคนทั้งหลายเดินจากไป

การผสานสายเลือดนั้นมันเป็นสิ่งที่เผ่าภูตแท้ทั้งหลายมองว่าไม่เหมาะไม่ดี

ที่สำคัญเย่หยวนยังไปผสานเข้ากับสายเลือดระดับสวรรค์แห้ง

แน่นอนว่ามันย่อมจะเป็นเรื่องที่เผ่าหงส์แดงไม่อาจปล่อยไปได้

หากเผ่าหงส์แดงรู้เรื่องนี้เข้าแล้วพวกเขาต้องส่งคนออกมาไล่ล่าเย่หยวนเป็นแน่

แต่เย่หยวนไม่คิดกลัว

หลังจากที่พวกเฟิ่งจิ่วเกอจากไปแล้วเย่หยวนก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังแดนตรังค์ตะวันออก

แต่เดินทางไปได้ไม่นานเขาก็ต้องหยุดลง

เพราะเฟิ่งชิงซวนคนนั้นกลับบินตามเขามาติดๆ

“เจ้าจะตามข้ามาเพื่อ?” เย่หยวนถามขึ้น

“ข้าไม่มีที่ไปแล้ว”

“สัญญาของเรามันจบลงแล้ว!”

“ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนดีอยู่ไม่น้อย”

เย่หยวนได้แต่ต้องกุมขมับ

บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นการอยู่อาศัยตั้งถิ่นฐานของภูตแท้ทั้งหลายมันจะแยกกันเป็นชนเผ่าเล็กๆ

เผ่ามังกรนั้นมันมีชนเผ่าย่อยอีกมากมายเกินกว่าจะนับได้

เผ่าที่แข็งแกร่งหน่อยก็อาจจะมีเจ้าโลกคอยดูแล

ส่วนเผ่าที่อ่อนแอนั้นมันอาจจะไม่มีแม้แต่ผู้มีสายเลือดระดับภูตศึก

ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นผู้ตรวจตราโลกหล้าคิดอยากจะเรียกร้องความสนใจให้ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์หันมามองนั้นมันมีวิธีง่ายๆ ที่เรียกว่าท้าขุนเขาอยู่!

ท้าขุนเขานั้นมันหมายถึงการที่คนผู้นั้นเดินทางไปยังเผ่าภูตแท้ต่างๆ และท้าทายยอดฝีมือสายเลือดของเผ่านั้นๆ

นี่มันคือเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดที่จะไปถึงเกาะมังกรสวรรค์!

เผ่ากรุงมังกรนั้นมันเป็นเผ่ามังกรที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนตรังค์ตะวันออก

แต่แม้พวกเขานั้นจะเรียกตัวเองเป็นเผ่ามังกรแต่แท้จริงแล้วเผ่ากรุงมังกรนี้มันเป็นเผ่าของงูหลามกลืนสวรรค์

แต่ว่างูหลามกลืนสวรรค์นั้นมีสายเลือดมังกรที่ทรงพลังอย่างมาก

และตามที่หมี่เทียนเล่ามานั้นพวกเขาเคยให้กำเนิดแม้แต่ผู้มีสายเลือดมังกรระดับสวรรค์แห้ง

เพราะฉะนั้นเผ่ากรุงมังกรจึงได้กลายเป็นเผ่าที่ทรงพลังอย่างมาก

การท้าขุนเขานั้นมันไม่มีทางเลี้ยงเผ่ากรุงมังกรไปได้เลย

เย่หยวนและเฟิ่งชิงซวนนั้นเดินทางมาถึงหน้าทางเข้าเผ่ากรุงมังกรในที่สุด

“หยุด! เจ้ามนุษย์หน้าโง่กลับกล้ามาเหยียบแผ่นดินของเผ่ามังกร! รีบๆ ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!” ก่อนที่จะทันได้เข้าประตูเผ่าไปนั้นเย่หยวนก็ถูกชายมนุษย์คนหนึ่งเข้ามาหยุดไว้

เย่หยวนได้แต่ต้องเลิกคิ้วสูง “เจ้าเองก็มนุษย์มิใช่เรอะ?”

ได้ยินเขาถามเช่นนั้นอีกฝ่ายก็ต้องหัวเราะตอบกลับไป “เจ้ามันจะไปรู้อะไร? ข้านั้นคือนักยุทธสายเลือดมังกรที่กำลังพัฒนาตัวขึ้นสู่การเป็นภูตแท้!”

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจยาว ดูท่าในสวรรค์นี้มนุษย์มันจะต่ำต้อยกว่าที่เขาคิดไปมากนัก

เขารู้ดีว่ามนุษย์บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมันใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเกิดมาได้แต่ต้องอยู่ในเผ่าเล็กๆ

แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะถึงขั้นนี้ไป

นักยุทธสายเลือดมังกรคนนี้มีพลังบ่มเพาะสูงถึงอาณาจักรมหาจักรพรรดิ

แต่ว่าเขานั้นมีสายเลือดที่อ่อนแอไม่ถึงระดับภูตศึกเสียด้วยซ้ำไป

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นจะอย่างไรก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือได้แต่ว่าพวกเขานั้นกลับเป็นได้แค่ยามเฝ้าประตูให้เผ่ากรุงมังกร

“ข้ามาเพื่อท้าขุนเขา!” เย่หยวนประกาศออกไป

ชายคนนั้นกลับหัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เจ้ามนุษย์กลับมายังเผ่ากรุงมังกรเพื่อท้าขุนเขา? เจ้าล้อข้าเล่นเรอะ?”

แต่ว่าวินาทีต่อหน้าสีหน้าของชายคนนั้นก็ต้องเปลี่ยนสีไป

เพราะตอนนี้ร่างกายของเย่หยวนนั้นมันกลับปล่อยคลื่นสายเลือดมังกรอันบริสุทธิ์ออกมาจนตัวเขานั้นแทบไม่อาจหายใจได้!

ชายคนนั้นร้องขึ้นมาด้วยท่าทางหวาดกลัวและตกตะลึง “สายเลือดระดับขยายปฐพี! เจ้ามันเป็นไปได้อย่างไร?”

เขานั้นไม่อาจคิดได้เลยว่าทำไมมนุษย์คนหนึ่งถึงได้มีสายเลือดมังกรถึงระดับขยายปฐพีได้!

นักยุทธสายเลือดมังกรในสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมันมีมากเกินกว่าจะนับ

แต่ว่าคนส่วนใหญ่นั้นย่อมจะไม่มีทางผ่านระดับวิญญาณศึกไปได้แน่

ส่วนคนที่ถึงระดับเทพศึกนั้นยิ่งเป็นดั่งขนหงส์แดงหรือเขากิเลน ล้วนหาได้ยากยิ่ง

พวกเขาเหล่านั้นต่างเป็นสุดยอดนักยุทธสายเลือดที่เก่งกาจ

แต่ชายหนุ่มตรงหน้าของเขานี้กลับมีสายเลือดระดับขยายปฐพี!

มันย่อมจะทำให้เขานั้นตกตะลึงจนแทบไม่อาจหายใจ

“ทีนี้ข้าจะเข้าไปได้หรือยัง?” เย่หยวนถามขึ้นมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2978 ท้าขุนเขา!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2978 ท้าขุนเขา! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บนท้องฟ้านั้นมันมีเงาของมังกรและหงส์ค่อยๆ หลอมเข้าเป็นหนึ่งเดียว!

สองสายเลือดที่ไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้กลับผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นพลังเดียวและส่งพลังที่มากกว่าเก่าออกมา

นี่มันคือสิ่งที่ไม่มีใครคาดฝัน

สองสายเลือดนั้นมันได้กลายเป็นหนึ่ง สุดยอดกระบวนท่ามังกรเคียงหงส์ที่เย่หยวนสร้างขึ้นมา!

ในพริบตาพลังของหงส์แดงเก้าตระการและมังกรเคียงหงส์ก็ปะทะกันจนทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนห้วงมิติขึ้น!

แม้แต่ยอดฝีมืออย่างเฟิ่งจิ่วเกอยังต้องหน้าเปลี่ยนสีไปเพราะพลังตรงหน้านี้

พลังของคนทั้งสองนั้นมันมิใช่พลังในขอบเขตของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์อีกต่อไปแล้ว!

นี่มันคือศึกของยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง!

ตูม!

เฟิ่งชิงซวนนั้นถูกพลังของมังกรและหงส์สองสายเลือดกดดันจนเสียหลักไปทันที

จากนั้นคลื่นพลังหนักหน่วงที่เหนือล้ำกว่าขุนเขาใหญ่ก็ปะทะเข้ากับร่างของนาง

เฟิ่งชิงซวนนั้นต้องกระอักเลือดออกมาทันทีและปลิวร่วงจมพื้นดินไป

ส่วนตัวเย่หยวนนั้นกลับไม่แม้แต่จะบาดเจ็บ

เขานั้นยืนมั่นอยู่กลางอากาศพร้อมนึกย้อนถึงพลังที่เขาเพิ่งจะใช้ออกมา

พลังของมังกรเคียงหงส์นี้มันเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดคิดไปมากนัก

กระบวนท่านี้มันเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยความเข้าใจต่อคลื่นกำเนิดเลือดที่เขามี

แต่เขาก็ไม่คิดว่าพลังของการผสานสองสุดยอดสายเลือดภูตแท้มันจะทรงพลังได้ขนาดนี้!

“ผู้อาวุโส…”

“อืม ข้าเองก็ไม่นึกเช่นกันว่าหลังจากผสานสายเลือดมังกรและหงส์เข้าด้วยกันแล้วมันกลับจะสร้างพลังงานที่รุนแรงขนาดนี้ขึ้นมาได้! เช่นนั้นแล้วหากผสานสี่สายเลือดภูตแท้โกลาหลได้แล้วมันย่อมจะ…”

หมี่เทียนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างมาก

เรื่องการผสานสุดยอดสายเลือดนี้ปกติแล้วมันย่อมจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้

เพราะคนในสี่สายเลือดภูตแท้โกลาหลนั้นต่างมีร่างกายที่เกิดมาพร้อมสายเลือดนั้นๆ

มันไม่มีทางจะผสานเข้ากับสายเลือดอื่นได้แน่นอน!

และแม้มนุษย์นั้นจะมีความเข้ากันได้ต่อสายเลือดต่างๆ สูงแต่ว่าเมื่อสายเลือดใดสายเลือดหนึ่งเข้าสู่ร่างของพวกเขาแล้วมันก็จะอ่อนแอลงไปอย่างมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นสายเลือดแต่ละอย่างนั้นมันจะขัดขวางซึ่งกันและกันย่อมไม่มีทางผสานเข้าด้วยกันได้

หากมนุษย์ทั่วไปคิดผสานสายเลือดแล้ว พวกเขาก็คงต้องตัวแตกตายไปเพราะพลังที่ไม่เข้ากันของสายเลือดอย่างแน่นอน!

แต่เย่หยวนนั้นมีคลื่นกำเนิดเลือดอยู่ในตัวและยังมีสายเลือดมังกรแต่มีร่างเป็นมนุษย์

มันเป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการลองผสานสายเลือดที่สุด!

หากมันสามารถผสานสี่สายเลือดได้จริงๆ แล้วพลังนั้นย่อมจะเหนือคาดเดาไปมากนัก

“หากมันทำได้จริงข้าก็อยากจะลอง” เย่หยวนกล่าวขึ้น

แต่ว่าเขานั้นก็รู้ดีว่าเรื่องนี้มันยากเย็นแค่ไหน

ครั้งนี้เขาแค่บังเอิญได้มาเจอกับคนระดับเฟิ่งชิงซวนที่ถูกไล่ล่าเอาชีวิต

ไม่เช่นนั้นแล้วสายเลือดระดับสวรรค์แห้งนั้นมันย่อมจะเป็นสมบัติล้ำค่าที่คนนอกเผ่าไม่อาจจะเข้าถึงได้ง่ายๆ

ส่วนตัวเฟิ่งจิ่วเกอทั้งหลายนั้นพวกเขาไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้แล้ว

เมื่อคลื่นพลังทั้งหลายมันจางหายไปพวกเขาทั้งหลายถึงเริ่มได้สติกลับมา

“สายเลือดมังกรและหงส์กลับผสานเข้าด้วยกันได้!”

“พลังของสายเลือดที่ผสานเข้าด้วยกันนี้มันจะไม่รุนแรงเกินไปหรือ?”

“ท่านเย่นั้นเอาชนะเฟิ่งชิงซวนได้ด้วยพลังของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลาง! นี่มัน…ไม่อยากจะเชื่อเลย!”

พวกเขาทั้งหลายนั้นเข้าใจดีว่าเฟิ่งชิงซวนทรงพลังแค่ไหน

ต่อให้จะเป็นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์เองก็ยังเอาชีวิตนางไม่ได้

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นถามใจตัวเองดูและรู้สึกว่าต่อหน้าเฟิ่งชิงซวนนั้นนางเป็นได้แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง

แต่ว่าบุตรีแห่งสวรรค์เช่นนี้กลับพ่ายแพ้ลงอย่างง่ายดาย

“พวกเจ้าไปได้แล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้น

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน “ท่าน…ท่านจะปล่อยเราไปจริง?”

เย่หยวนตอบกลับไป “เย่ผู้นี้รักษาคำพูดเสมอ ในเมื่อข้าสัญญาแล้วมันก็ต้องทำตามอย่างแน่นอน หากเจ้าคิดอยากพาเผ่าหงส์แดงออกมาตามล่าข้าทีหลังก็พามาเถอะ”

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป ที่แท้แล้วเย่หยวนกลับเข้าใจเรื่องราวเบื้องหลังทั้งสิ้น

แน่นอนล่ะว่าเขาคนนี้มีคำพูดที่หนักแน่นดั่งขุนเขาจริงๆ!

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนและกล่าว “เรื่องนี้จิ่วเกอจะไม่มีทางบอกใครแน่ นายท่านวางใจเถอะ!”

เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกไล่ “แล้วแต่พวกเจ้าเถอะ”

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นได้แต่ยิ้มแห้งๆ พาคนทั้งหลายเดินจากไป

การผสานสายเลือดนั้นมันเป็นสิ่งที่เผ่าภูตแท้ทั้งหลายมองว่าไม่เหมาะไม่ดี

ที่สำคัญเย่หยวนยังไปผสานเข้ากับสายเลือดระดับสวรรค์แห้ง

แน่นอนว่ามันย่อมจะเป็นเรื่องที่เผ่าหงส์แดงไม่อาจปล่อยไปได้

หากเผ่าหงส์แดงรู้เรื่องนี้เข้าแล้วพวกเขาต้องส่งคนออกมาไล่ล่าเย่หยวนเป็นแน่

แต่เย่หยวนไม่คิดกลัว

หลังจากที่พวกเฟิ่งจิ่วเกอจากไปแล้วเย่หยวนก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังแดนตรังค์ตะวันออก

แต่เดินทางไปได้ไม่นานเขาก็ต้องหยุดลง

เพราะเฟิ่งชิงซวนคนนั้นกลับบินตามเขามาติดๆ

“เจ้าจะตามข้ามาเพื่อ?” เย่หยวนถามขึ้น

“ข้าไม่มีที่ไปแล้ว”

“สัญญาของเรามันจบลงแล้ว!”

“ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนดีอยู่ไม่น้อย”

เย่หยวนได้แต่ต้องกุมขมับ

บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นการอยู่อาศัยตั้งถิ่นฐานของภูตแท้ทั้งหลายมันจะแยกกันเป็นชนเผ่าเล็กๆ

เผ่ามังกรนั้นมันมีชนเผ่าย่อยอีกมากมายเกินกว่าจะนับได้

เผ่าที่แข็งแกร่งหน่อยก็อาจจะมีเจ้าโลกคอยดูแล

ส่วนเผ่าที่อ่อนแอนั้นมันอาจจะไม่มีแม้แต่ผู้มีสายเลือดระดับภูตศึก

ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นผู้ตรวจตราโลกหล้าคิดอยากจะเรียกร้องความสนใจให้ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์หันมามองนั้นมันมีวิธีง่ายๆ ที่เรียกว่าท้าขุนเขาอยู่!

ท้าขุนเขานั้นมันหมายถึงการที่คนผู้นั้นเดินทางไปยังเผ่าภูตแท้ต่างๆ และท้าทายยอดฝีมือสายเลือดของเผ่านั้นๆ

นี่มันคือเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดที่จะไปถึงเกาะมังกรสวรรค์!

เผ่ากรุงมังกรนั้นมันเป็นเผ่ามังกรที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนตรังค์ตะวันออก

แต่แม้พวกเขานั้นจะเรียกตัวเองเป็นเผ่ามังกรแต่แท้จริงแล้วเผ่ากรุงมังกรนี้มันเป็นเผ่าของงูหลามกลืนสวรรค์

แต่ว่างูหลามกลืนสวรรค์นั้นมีสายเลือดมังกรที่ทรงพลังอย่างมาก

และตามที่หมี่เทียนเล่ามานั้นพวกเขาเคยให้กำเนิดแม้แต่ผู้มีสายเลือดมังกรระดับสวรรค์แห้ง

เพราะฉะนั้นเผ่ากรุงมังกรจึงได้กลายเป็นเผ่าที่ทรงพลังอย่างมาก

การท้าขุนเขานั้นมันไม่มีทางเลี้ยงเผ่ากรุงมังกรไปได้เลย

เย่หยวนและเฟิ่งชิงซวนนั้นเดินทางมาถึงหน้าทางเข้าเผ่ากรุงมังกรในที่สุด

“หยุด! เจ้ามนุษย์หน้าโง่กลับกล้ามาเหยียบแผ่นดินของเผ่ามังกร! รีบๆ ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!” ก่อนที่จะทันได้เข้าประตูเผ่าไปนั้นเย่หยวนก็ถูกชายมนุษย์คนหนึ่งเข้ามาหยุดไว้

เย่หยวนได้แต่ต้องเลิกคิ้วสูง “เจ้าเองก็มนุษย์มิใช่เรอะ?”

ได้ยินเขาถามเช่นนั้นอีกฝ่ายก็ต้องหัวเราะตอบกลับไป “เจ้ามันจะไปรู้อะไร? ข้านั้นคือนักยุทธสายเลือดมังกรที่กำลังพัฒนาตัวขึ้นสู่การเป็นภูตแท้!”

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจยาว ดูท่าในสวรรค์นี้มนุษย์มันจะต่ำต้อยกว่าที่เขาคิดไปมากนัก

เขารู้ดีว่ามนุษย์บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมันใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเกิดมาได้แต่ต้องอยู่ในเผ่าเล็กๆ

แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะถึงขั้นนี้ไป

นักยุทธสายเลือดมังกรคนนี้มีพลังบ่มเพาะสูงถึงอาณาจักรมหาจักรพรรดิ

แต่ว่าเขานั้นมีสายเลือดที่อ่อนแอไม่ถึงระดับภูตศึกเสียด้วยซ้ำไป

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นจะอย่างไรก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือได้แต่ว่าพวกเขานั้นกลับเป็นได้แค่ยามเฝ้าประตูให้เผ่ากรุงมังกร

“ข้ามาเพื่อท้าขุนเขา!” เย่หยวนประกาศออกไป

ชายคนนั้นกลับหัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เจ้ามนุษย์กลับมายังเผ่ากรุงมังกรเพื่อท้าขุนเขา? เจ้าล้อข้าเล่นเรอะ?”

แต่ว่าวินาทีต่อหน้าสีหน้าของชายคนนั้นก็ต้องเปลี่ยนสีไป

เพราะตอนนี้ร่างกายของเย่หยวนนั้นมันกลับปล่อยคลื่นสายเลือดมังกรอันบริสุทธิ์ออกมาจนตัวเขานั้นแทบไม่อาจหายใจได้!

ชายคนนั้นร้องขึ้นมาด้วยท่าทางหวาดกลัวและตกตะลึง “สายเลือดระดับขยายปฐพี! เจ้ามันเป็นไปได้อย่างไร?”

เขานั้นไม่อาจคิดได้เลยว่าทำไมมนุษย์คนหนึ่งถึงได้มีสายเลือดมังกรถึงระดับขยายปฐพีได้!

นักยุทธสายเลือดมังกรในสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมันมีมากเกินกว่าจะนับ

แต่ว่าคนส่วนใหญ่นั้นย่อมจะไม่มีทางผ่านระดับวิญญาณศึกไปได้แน่

ส่วนคนที่ถึงระดับเทพศึกนั้นยิ่งเป็นดั่งขนหงส์แดงหรือเขากิเลน ล้วนหาได้ยากยิ่ง

พวกเขาเหล่านั้นต่างเป็นสุดยอดนักยุทธสายเลือดที่เก่งกาจ

แต่ชายหนุ่มตรงหน้าของเขานี้กลับมีสายเลือดระดับขยายปฐพี!

มันย่อมจะทำให้เขานั้นตกตะลึงจนแทบไม่อาจหายใจ

“ทีนี้ข้าจะเข้าไปได้หรือยัง?” เย่หยวนถามขึ้นมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2978 ท้าขุนเขา!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2978 ท้าขุนเขา! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บนท้องฟ้านั้นมันมีเงาของมังกรและหงส์ค่อยๆ หลอมเข้าเป็นหนึ่งเดียว!

สองสายเลือดที่ไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้กลับผสานเข้าด้วยกันกลายเป็นพลังเดียวและส่งพลังที่มากกว่าเก่าออกมา

นี่มันคือสิ่งที่ไม่มีใครคาดฝัน

สองสายเลือดนั้นมันได้กลายเป็นหนึ่ง สุดยอดกระบวนท่ามังกรเคียงหงส์ที่เย่หยวนสร้างขึ้นมา!

ในพริบตาพลังของหงส์แดงเก้าตระการและมังกรเคียงหงส์ก็ปะทะกันจนทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนห้วงมิติขึ้น!

แม้แต่ยอดฝีมืออย่างเฟิ่งจิ่วเกอยังต้องหน้าเปลี่ยนสีไปเพราะพลังตรงหน้านี้

พลังของคนทั้งสองนั้นมันมิใช่พลังในขอบเขตของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์อีกต่อไปแล้ว!

นี่มันคือศึกของยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง!

ตูม!

เฟิ่งชิงซวนนั้นถูกพลังของมังกรและหงส์สองสายเลือดกดดันจนเสียหลักไปทันที

จากนั้นคลื่นพลังหนักหน่วงที่เหนือล้ำกว่าขุนเขาใหญ่ก็ปะทะเข้ากับร่างของนาง

เฟิ่งชิงซวนนั้นต้องกระอักเลือดออกมาทันทีและปลิวร่วงจมพื้นดินไป

ส่วนตัวเย่หยวนนั้นกลับไม่แม้แต่จะบาดเจ็บ

เขานั้นยืนมั่นอยู่กลางอากาศพร้อมนึกย้อนถึงพลังที่เขาเพิ่งจะใช้ออกมา

พลังของมังกรเคียงหงส์นี้มันเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดคิดไปมากนัก

กระบวนท่านี้มันเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยความเข้าใจต่อคลื่นกำเนิดเลือดที่เขามี

แต่เขาก็ไม่คิดว่าพลังของการผสานสองสุดยอดสายเลือดภูตแท้มันจะทรงพลังได้ขนาดนี้!

“ผู้อาวุโส…”

“อืม ข้าเองก็ไม่นึกเช่นกันว่าหลังจากผสานสายเลือดมังกรและหงส์เข้าด้วยกันแล้วมันกลับจะสร้างพลังงานที่รุนแรงขนาดนี้ขึ้นมาได้! เช่นนั้นแล้วหากผสานสี่สายเลือดภูตแท้โกลาหลได้แล้วมันย่อมจะ…”

หมี่เทียนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างมาก

เรื่องการผสานสุดยอดสายเลือดนี้ปกติแล้วมันย่อมจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้

เพราะคนในสี่สายเลือดภูตแท้โกลาหลนั้นต่างมีร่างกายที่เกิดมาพร้อมสายเลือดนั้นๆ

มันไม่มีทางจะผสานเข้ากับสายเลือดอื่นได้แน่นอน!

และแม้มนุษย์นั้นจะมีความเข้ากันได้ต่อสายเลือดต่างๆ สูงแต่ว่าเมื่อสายเลือดใดสายเลือดหนึ่งเข้าสู่ร่างของพวกเขาแล้วมันก็จะอ่อนแอลงไปอย่างมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้นสายเลือดแต่ละอย่างนั้นมันจะขัดขวางซึ่งกันและกันย่อมไม่มีทางผสานเข้าด้วยกันได้

หากมนุษย์ทั่วไปคิดผสานสายเลือดแล้ว พวกเขาก็คงต้องตัวแตกตายไปเพราะพลังที่ไม่เข้ากันของสายเลือดอย่างแน่นอน!

แต่เย่หยวนนั้นมีคลื่นกำเนิดเลือดอยู่ในตัวและยังมีสายเลือดมังกรแต่มีร่างเป็นมนุษย์

มันเป็นสภาพที่เหมาะสมต่อการลองผสานสายเลือดที่สุด!

หากมันสามารถผสานสี่สายเลือดได้จริงๆ แล้วพลังนั้นย่อมจะเหนือคาดเดาไปมากนัก

“หากมันทำได้จริงข้าก็อยากจะลอง” เย่หยวนกล่าวขึ้น

แต่ว่าเขานั้นก็รู้ดีว่าเรื่องนี้มันยากเย็นแค่ไหน

ครั้งนี้เขาแค่บังเอิญได้มาเจอกับคนระดับเฟิ่งชิงซวนที่ถูกไล่ล่าเอาชีวิต

ไม่เช่นนั้นแล้วสายเลือดระดับสวรรค์แห้งนั้นมันย่อมจะเป็นสมบัติล้ำค่าที่คนนอกเผ่าไม่อาจจะเข้าถึงได้ง่ายๆ

ส่วนตัวเฟิ่งจิ่วเกอทั้งหลายนั้นพวกเขาไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้แล้ว

เมื่อคลื่นพลังทั้งหลายมันจางหายไปพวกเขาทั้งหลายถึงเริ่มได้สติกลับมา

“สายเลือดมังกรและหงส์กลับผสานเข้าด้วยกันได้!”

“พลังของสายเลือดที่ผสานเข้าด้วยกันนี้มันจะไม่รุนแรงเกินไปหรือ?”

“ท่านเย่นั้นเอาชนะเฟิ่งชิงซวนได้ด้วยพลังของมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลาง! นี่มัน…ไม่อยากจะเชื่อเลย!”

พวกเขาทั้งหลายนั้นเข้าใจดีว่าเฟิ่งชิงซวนทรงพลังแค่ไหน

ต่อให้จะเป็นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์เองก็ยังเอาชีวิตนางไม่ได้

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นถามใจตัวเองดูและรู้สึกว่าต่อหน้าเฟิ่งชิงซวนนั้นนางเป็นได้แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง

แต่ว่าบุตรีแห่งสวรรค์เช่นนี้กลับพ่ายแพ้ลงอย่างง่ายดาย

“พวกเจ้าไปได้แล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้น

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยิน “ท่าน…ท่านจะปล่อยเราไปจริง?”

เย่หยวนตอบกลับไป “เย่ผู้นี้รักษาคำพูดเสมอ ในเมื่อข้าสัญญาแล้วมันก็ต้องทำตามอย่างแน่นอน หากเจ้าคิดอยากพาเผ่าหงส์แดงออกมาตามล่าข้าทีหลังก็พามาเถอะ”

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป ที่แท้แล้วเย่หยวนกลับเข้าใจเรื่องราวเบื้องหลังทั้งสิ้น

แน่นอนล่ะว่าเขาคนนี้มีคำพูดที่หนักแน่นดั่งขุนเขาจริงๆ!

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนและกล่าว “เรื่องนี้จิ่วเกอจะไม่มีทางบอกใครแน่ นายท่านวางใจเถอะ!”

เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกไล่ “แล้วแต่พวกเจ้าเถอะ”

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นได้แต่ยิ้มแห้งๆ พาคนทั้งหลายเดินจากไป

การผสานสายเลือดนั้นมันเป็นสิ่งที่เผ่าภูตแท้ทั้งหลายมองว่าไม่เหมาะไม่ดี

ที่สำคัญเย่หยวนยังไปผสานเข้ากับสายเลือดระดับสวรรค์แห้ง

แน่นอนว่ามันย่อมจะเป็นเรื่องที่เผ่าหงส์แดงไม่อาจปล่อยไปได้

หากเผ่าหงส์แดงรู้เรื่องนี้เข้าแล้วพวกเขาต้องส่งคนออกมาไล่ล่าเย่หยวนเป็นแน่

แต่เย่หยวนไม่คิดกลัว

หลังจากที่พวกเฟิ่งจิ่วเกอจากไปแล้วเย่หยวนก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังแดนตรังค์ตะวันออก

แต่เดินทางไปได้ไม่นานเขาก็ต้องหยุดลง

เพราะเฟิ่งชิงซวนคนนั้นกลับบินตามเขามาติดๆ

“เจ้าจะตามข้ามาเพื่อ?” เย่หยวนถามขึ้น

“ข้าไม่มีที่ไปแล้ว”

“สัญญาของเรามันจบลงแล้ว!”

“ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนดีอยู่ไม่น้อย”

เย่หยวนได้แต่ต้องกุมขมับ

บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นการอยู่อาศัยตั้งถิ่นฐานของภูตแท้ทั้งหลายมันจะแยกกันเป็นชนเผ่าเล็กๆ

เผ่ามังกรนั้นมันมีชนเผ่าย่อยอีกมากมายเกินกว่าจะนับได้

เผ่าที่แข็งแกร่งหน่อยก็อาจจะมีเจ้าโลกคอยดูแล

ส่วนเผ่าที่อ่อนแอนั้นมันอาจจะไม่มีแม้แต่ผู้มีสายเลือดระดับภูตศึก

ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นผู้ตรวจตราโลกหล้าคิดอยากจะเรียกร้องความสนใจให้ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์หันมามองนั้นมันมีวิธีง่ายๆ ที่เรียกว่าท้าขุนเขาอยู่!

ท้าขุนเขานั้นมันหมายถึงการที่คนผู้นั้นเดินทางไปยังเผ่าภูตแท้ต่างๆ และท้าทายยอดฝีมือสายเลือดของเผ่านั้นๆ

นี่มันคือเส้นทางที่รวดเร็วที่สุดที่จะไปถึงเกาะมังกรสวรรค์!

เผ่ากรุงมังกรนั้นมันเป็นเผ่ามังกรที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนตรังค์ตะวันออก

แต่แม้พวกเขานั้นจะเรียกตัวเองเป็นเผ่ามังกรแต่แท้จริงแล้วเผ่ากรุงมังกรนี้มันเป็นเผ่าของงูหลามกลืนสวรรค์

แต่ว่างูหลามกลืนสวรรค์นั้นมีสายเลือดมังกรที่ทรงพลังอย่างมาก

และตามที่หมี่เทียนเล่ามานั้นพวกเขาเคยให้กำเนิดแม้แต่ผู้มีสายเลือดมังกรระดับสวรรค์แห้ง

เพราะฉะนั้นเผ่ากรุงมังกรจึงได้กลายเป็นเผ่าที่ทรงพลังอย่างมาก

การท้าขุนเขานั้นมันไม่มีทางเลี้ยงเผ่ากรุงมังกรไปได้เลย

เย่หยวนและเฟิ่งชิงซวนนั้นเดินทางมาถึงหน้าทางเข้าเผ่ากรุงมังกรในที่สุด

“หยุด! เจ้ามนุษย์หน้าโง่กลับกล้ามาเหยียบแผ่นดินของเผ่ามังกร! รีบๆ ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า!” ก่อนที่จะทันได้เข้าประตูเผ่าไปนั้นเย่หยวนก็ถูกชายมนุษย์คนหนึ่งเข้ามาหยุดไว้

เย่หยวนได้แต่ต้องเลิกคิ้วสูง “เจ้าเองก็มนุษย์มิใช่เรอะ?”

ได้ยินเขาถามเช่นนั้นอีกฝ่ายก็ต้องหัวเราะตอบกลับไป “เจ้ามันจะไปรู้อะไร? ข้านั้นคือนักยุทธสายเลือดมังกรที่กำลังพัฒนาตัวขึ้นสู่การเป็นภูตแท้!”

เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจยาว ดูท่าในสวรรค์นี้มนุษย์มันจะต่ำต้อยกว่าที่เขาคิดไปมากนัก

เขารู้ดีว่ามนุษย์บนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมันใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเกิดมาได้แต่ต้องอยู่ในเผ่าเล็กๆ

แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะถึงขั้นนี้ไป

นักยุทธสายเลือดมังกรคนนี้มีพลังบ่มเพาะสูงถึงอาณาจักรมหาจักรพรรดิ

แต่ว่าเขานั้นมีสายเลือดที่อ่อนแอไม่ถึงระดับภูตศึกเสียด้วยซ้ำไป

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นจะอย่างไรก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือได้แต่ว่าพวกเขานั้นกลับเป็นได้แค่ยามเฝ้าประตูให้เผ่ากรุงมังกร

“ข้ามาเพื่อท้าขุนเขา!” เย่หยวนประกาศออกไป

ชายคนนั้นกลับหัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เจ้ามนุษย์กลับมายังเผ่ากรุงมังกรเพื่อท้าขุนเขา? เจ้าล้อข้าเล่นเรอะ?”

แต่ว่าวินาทีต่อหน้าสีหน้าของชายคนนั้นก็ต้องเปลี่ยนสีไป

เพราะตอนนี้ร่างกายของเย่หยวนนั้นมันกลับปล่อยคลื่นสายเลือดมังกรอันบริสุทธิ์ออกมาจนตัวเขานั้นแทบไม่อาจหายใจได้!

ชายคนนั้นร้องขึ้นมาด้วยท่าทางหวาดกลัวและตกตะลึง “สายเลือดระดับขยายปฐพี! เจ้ามันเป็นไปได้อย่างไร?”

เขานั้นไม่อาจคิดได้เลยว่าทำไมมนุษย์คนหนึ่งถึงได้มีสายเลือดมังกรถึงระดับขยายปฐพีได้!

นักยุทธสายเลือดมังกรในสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมันมีมากเกินกว่าจะนับ

แต่ว่าคนส่วนใหญ่นั้นย่อมจะไม่มีทางผ่านระดับวิญญาณศึกไปได้แน่

ส่วนคนที่ถึงระดับเทพศึกนั้นยิ่งเป็นดั่งขนหงส์แดงหรือเขากิเลน ล้วนหาได้ยากยิ่ง

พวกเขาเหล่านั้นต่างเป็นสุดยอดนักยุทธสายเลือดที่เก่งกาจ

แต่ชายหนุ่มตรงหน้าของเขานี้กลับมีสายเลือดระดับขยายปฐพี!

มันย่อมจะทำให้เขานั้นตกตะลึงจนแทบไม่อาจหายใจ

“ทีนี้ข้าจะเข้าไปได้หรือยัง?” เย่หยวนถามขึ้นมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+