Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2980 มันคิดวางท่าเองข้าผิดอะไร?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2980 มันคิดวางท่าเองข้าผิดอะไร? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ช่างเป็นวิธีการที่ชั่วร้ายนัก! เจ้าต่อยห้วงมิติภายในของอานชานลงไปเช่นนี้มันก็เท่ากับทำให้เขาพิการไปแล้ว! ทำเรื่องเช่นนี้ในเผ่ากรุงมังกรข้า เจ้าคิดบ้างหรือไม่ว่ามันจะมีผลอย่างไรตามมา?”

ในฝูงคนนั้นมีงูหลามกลืนสวรรค์ผู้หนึ่งค่อยๆ เลื้อยออกมาจนทำให้คนทั้งหลายต้องแหวกทางให้

“ท่านต้าอี้! ท่านจะลงมือเองแล้ว!”

“ท่านต้าอี้นั้นเป็นผู้ติดอันดับท้าขุนเขาอันดับที่เจ็ดสิบห้า ฝีมือของท่านนั้นเก่งกาจล้ำฟ้า เจ้าเด็กนี่ได้ตายแน่!”

“มันกลับกล้าทำให้ท่านอานชานต้องพิการ รนหาที่ตายจริงๆ!”

ต้าอี้นั้นมีตำแหน่งสูงล้ำในเผ่ากรุงมังกรเมื่อเขาปรากฏตัวมันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายโห่ร้องขึ้นตามๆ กัน

มันก็ไม่แปลกเพราะว่าต้าอี้คนนี้ต่อสู้อย่างมากมายจนสร้างชื่อเสียงลือลั่น

เมื่อต้าอี้ปรากฏตัวขึ้นมามันก็ย่อมจะทำให้คนทั้งหลายใจสั่นไป

สายตานั้นมันเหมือนราวกับว่ามองขึ้นมาจากขุมนรกทำให้คนที่ได้เห็นต้องเหงื่อไหลท่วม

“มันคนนี้เก่ง เจ้าสู้มันไม่ได้หรอก! การท้าขุนเขามันไม่มีใครทำอย่างเจ้าหรอก!” ข้างๆ ตัวเย่หยวนนั้นเฟิ่งชิงซวนเดินเข้ามาเตือน

แน่นอนว่าที่นางพูดนั้นมันพูดเพราะรู้ว่าเย่หยวนจะไม่ใช้สายเลือดหงส์แดงออกมาในการท้าขุนเขาแน่นอน

นี่มันคือไม้ตายของเย่หยวน มันย่อมจะไม่มีทางใช้ออกมาให้คนอื่นได้เห็นง่ายๆ

เฟิ่งชิงซวนนั้นไม่อาจสู้เย่หยวนได้มันก็เพราะว่าเย่หยวนนั้นมีมังกรเคียงหงส์เท่านั้น

หากพูดถึงการใช้พลังสายเลือดเดียวแล้วเฟิ่งชิงซวนนั้นมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะเย่หยวนได้ไม่ยาก

เย่หยวนนั้นมีสายเลือดมังกรแค่ระดับขยายปฐพี การคิดอยากจะเอาชนะต้าอี้ที่มีระดับเดียวกันย่อมจะไม่ง่าย!

สายเลือดนั้นมันก็อย่างหนึ่งแต่แม้จะเป็นผู้มีระดับสายเลือดเดียวกันมันก็ยังมีความต่างในเรื่องของกำลังอย่างยิ่งใหญ่ มันขึ้นอยู่กับวิชาและพรสวรรค์ของคนคนนั้นด้วย

แต่ดูอย่างไรต้าอี้คนนี้ก็เก่งกาจ เก่งจนแม้แต่เฟิ่งชิงซวนยังสัมผัสได้!

เย่หยวนไม่คิดสนใจคำพูดของหญิงสาวน่ารำคาญที่ไล่ตามเขามาอย่างไม่ได้รับอนุญาตคนนี้!

“ช่างนักขัน! วินาทีแรกที่สู้กันมันก็คิดกลืนข้าลงท้องไป ดูอย่างไรก็มีเจตนาสังหาร! ทำไมเล่า? เผ่ากรุงมังกรเจ้าสังหารคนได้ฝ่ายเดียว? ข้าจะตอบโต้อะไรกลับไปไม่ได้?” เย่หยวนหันไปมองหน้าต้าอี้และกล่าวเย้ย

เพราะนี่มันคือความคิดปกติของเด็กน้อยที่มาจากตระกูลใหญ่ทั้งหลาย

ข้าสังหารเจ้าได้ แต่เจ้าห้ามแตะต้องข้าไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่ได้ตายดี!

อานชานคิดกลืนเย่หยวนลงไปอย่างที่เย่หยวนไม่ทันจะขัดขืน

หากมิใช่เพราะเย่หยวนแข็งแกร่งทรงพลังแล้วเขาคงกลายเป็นแค่เศษเนื้อในท้องของอานชานไป

ตอนนี้ต้าอี้กลับมาบอกว่าเขานั้นโหดร้าย

ต้าอี้หรี่ตาลงกล่าวขึ้นอย่างเย็นเยือก “เจ้าเด็กปากดี เจ้ากล้าสู้กับข้าไหมเล่า?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าคิดว่าข้ามาเพื่อแค่รังแกขยะอย่างมันหรือ?”

ต้าอี้หัวเราะตอบกลับไป “หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังแล้วกัน!”

คนทั้งสองนั้นสองมอบตรามังกรของกันและกันถือเป็นการเริ่มท้าขุนเขารอบที่สอง

การที่เย่หยวนท้าทายต้าอี้นี้มันย่อมจะทำให้คนเผ่ากรุงมังกรทั้งหลายหัวเราะเย้ย

ต่อให้เย่หยวนจะเอาชนะอานชานได้อย่างง่ายดายแต่มันก็ไม่มีค่าใด

เพราะจะอย่างไรเสียอานชานนั้นก็อยู่แค่อันดับสี่ร้อยเกือบห้าร้อย

ห้าร้อยและเจ็ดสิบห้านั้นมันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

“เจ้าเด็กนี่มันไม่ประเมินตัวเอง! มันคงไม่ได้รู้เลยสินะว่าอันดับท้าขุนเขานั้นมีความหมายว่าอย่างไร?”

“ท่านต้าอี้นั้นเคยท้าทายหยุนกุยแห่งเผ่ามังกรนรกมาก่อนและหลังจากกลับมาแล้วเขาก็เข้าเก็บตัวนานถึงสามปี! สามปีที่ผ่านมานี้เขาย่อมจะพัฒนาไปอย่างมากล้นแน่แล้ว!”

“แบบนี้ก็ดี! มันกลับทำท่านอานชานพิการไป ท่านต้าอี้ย่อมจะไม่ปล่อยมันรอดชีวิตไปแน่!”

“ข้าหวังแค่มันจะดูสนุกหน่อยก็เท่านั้น หวังว่ามันจะต้านทานท่านต้าอี้ได้บ้าง”

ต้าอี้นั้นยืนมั่นกล่าวขึ้น “ไอ้หนู ลงมือ! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่ได้มีโอกาสตอบโต้ใดๆ แล้ว”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องหัวเราะขึ้นมา คนเราบางทีมันก็ชอบวางท่าเสียจริงๆ

ราวกับหากไม่ได้วางท่าแล้วมันจะไม่มีใครนับถือว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือ

ต้าอี้ที่ได้เห็นเย่หยวนหัวเราะขึ้นมานั้นก็แทบจะร้องด่าออกไป

นี่มันคือการเย้ยหยัน!

แต่ว่าเขาพูดออกไปแล้วว่าจะให้เย่หยวนลงมือก่อน เขาจึงต้องรักษาท่าทางนี้ไว้ให้ถึงที่สุด

ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าเด็กนี่มันก็ต้องตายในไม่ช้า

เย่หยวนเองก็ไม่เกรงใจปล่อยพลังสายเลือดออกมาพร้อมด้วยคลื่นพลังมังกรที่สะเทือนแผ่นดิน

หมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์!

เพราะยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่พลังสายเลือดของเขาพัฒนาไปเท่าใด เย่หยวนก็ยิ่งรู้สึกได้ว่าพลังของหมัดนี้มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

นี่มันคือกระบวนท่าที่หมี่เทียนสอนให้แก่เขา เป็นการใช้งานพลังสายเลือดมังกรอย่างถึงที่สุด

เย่หยวนรู้ดีว่านี่เป็นวิชาที่หมี่เทียนสร้างขึ้นมาเองและหากบ่มเพาะฝึกฝนมันไปถึงที่สุดแล้ว แม้แต่เจ้าโลกเองก็คงไม่อาจจะรับมันไว้ได้เช่นกัน!

ยิ่งพลังสายเลือดพัฒนาไปเท่าไหร่มันก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น!

หากใช้ออกมาด้วยสายเลือดระดับโกลาหลแล้วการสังหารเจ้าโลกทั่วๆ ไปลงมันคงไม่ยากเย็นเลย

เมื่อเย่หยวนลงมือนั้นต้าอี้ก็ต้องหน้าถอดสี

หมัดนี้มันรุนแรงเกินไป!

เย่หยวนนั้นมีอาณาจักรบ่มเพาะต่ำกว่าเขาไปถึงสองขั้น แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่คิดเกรงกลัว

เขานั้นมั่นใจว่าไม่ว่าเย่หยวนจะใช้กระบวนท่าเช่นใดออกมามันก็ไม่มีทางทำร้ายเขาได้มาก

แต่หากหมัดนี้ต่อยโดนเข้าแล้วเขาคงมีสภาพไม่ต่างจากอานชาน มีรูเกิดขึ้นที่กลางตัวแน่

พริบตานั้นต้าอี้จึงได้อ้าปากขึ้นมาพร้อมปล่อยก้อนพลังงานออกมา

แต่มันก็สายเกินไปแล้ว!

เขานั้นเสียโอกาสที่จะสู้เพราะคิดอยากวางท่าเหนือหัวคน

เย่หยวนนั้นใช้พลังออกมาจนถึงที่สุดแล้วพลังของหมัดนั้นมันจะรุนแรงแค่ไหน?

ตูม!

ห้วงมิติสั่นสะท้านและร่างใหญ่ยักษ์ของต้าอี้นั้นก็ปลิวออกไปจมลงดิน

เมื่อเย่หยวนได้เปรียบขึ้นมาแล้วมีหรือที่เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว?

เขารีบพุ่งตามออกไปใช้หมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์อีกครั้ง

ตูม!

แผ่นดินแยก!

การแลกหมัดของยอดฝีมือนั้นมันย่อมจะเกิดขึ้นในเวลาแค่พริบตา

เย่หยวนที่ได้เปรียบนั้นตามไล่บี้อีกฝ่ายอย่างไม่ให้โอกาสหายใจ

ชาวเผ่ากรุงมังกรนั้นต่างต้องอ้าปากค้าง

พวกเขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าศึกครั้งนี้มันจะกลายสภาพเป็นเช่นนี้ไป

เทพสงครามต้าอี้ของพวกเขานั้นกลับถูกเด็กมนุษย์ต่อยจนหน้าหัน!

คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันจนฟ้าดินสั่นสะเทือนมุดลงใต้ดินบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

แต่เย่หยวนนั้นก็ยังคงความได้เปรียบไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ

มันเป็นการกระทืบฝ่ายเดียวอย่างแท้จริง

งูหลามกลืนสวรรค์นั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างมาก

แต่ตอนนี้ร่างของต้าอี้นั้นมันถูกต่อยจนเลือดเนื้อไหลนองไปทั่วแผ่นดินด้วยหมัดของเย่หยวน

แต่เย่หยวนเองก็ตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน

ต้าอี้นั้นเก่งกาจเกินกว่าที่เขาคิดไปมาก

เพราะหากเป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นสุดทั่วๆ ไป การโดนหมัดแล้วหมัดเล่าของเขานี้คงจะสังหารอีกฝ่ายจนไม่เหลือแม้แต่ซากแน่นอน

แต่ต้าอี้นั้นกลับยังมีสติจนถึงตอนนี้?

แม้ว่าเขาจะเสียหลักเสียเปรียบไปแต่ว่าจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงปัดป้องหมัดของเย่หยวนไว้

บางทีนั้นถึงขั้นสามารถโจมตีสวนกลับมาได้

หากเย่หยวนต่อยเบากว่านี้สักหน่อยต้าอี้คงพลิกสถานการณ์กลับมาได้จริงๆ

นี่คือยอดฝีมือที่เกิดขึ้นมาจากสนามรบอย่างแท้จริง

น่าเสียดายที่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือเย่หยวน

การต่อสู้นั้นก็คือการต่อสู้ ใครสั่งสอนให้เจ้ามาวางท่ากัน?

ในการต่อสู้ตัวต่อตัวนี้เสียหลักเมื่อไหร่มันก็มีแต่เสียท่าเท่านั้น!

ต้าอี้นั้นย่อมจะไม่มีโอกาสได้พลิกสถานการณ์กลับและเย่หยวนก็ไม่คิดจะเปิดโอกาสให้เขาได้ทำด้วย

บางครั้งบางทีการต่อสู้มันก็ง่ายดายเช่นนี้

“ข้ายอมแพ้!” ต้าอี้กล่าวลั่นขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ

เย่หยวนหยุดมือลงปล่อยให้ต้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆ ทิ้งตัวลงพื้นด้วยร่างกายที่อาบเลือดที่ส่วน

ชาวเผ่ากรุงมังกรทั้งหลายนั้นต่างต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

“ย…ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นนี้?”

“ท่านต้าอี้นั้นยังมีไม้ตายอีกมากมาย ทำไม…ถึงยอมแพ้เช่นนี้กันเล่า?”

“ชั่วร้าย! ไร้ยางอาย! ไอ้เด็กนี่มันชนะอย่างไร้ยางอาย!”

พริบตาเดียวนั้นคนเผ่ากรุงมังกรก็ร้องลั่นขึ้นมา

พวกเขานั้นต่างด่าว่าเย่หยวนหน้าไม่อายพูดเสียดสีสุดที่จะคิดได้

พวกเขานั้นรู้ดีว่าต้าอี้เก่งกาจแค่ไหน

แต่ตั้งแต่ต้นจนจบต้าอี้นั้นกลับไม่ได้มีโอกาสโจมตีสวนกลับใดๆ

ไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายใดๆ มันก็ไม่ได้ใช้ออกมาแม้แต่น้อย

ศึกเช่นนี้มันย่อมจะน่าคับแค้นใจอย่างมาก

ต้าอี้เองก็แทบจะอกแตกตาย

เขาแพ้อย่างไม่น่าแพ้!

เย่หยวนได้แต่ต้องส่ายหัวขึ้นเมื่อได้ยิน คนทั้งหลายนี้มันไม่มีสมองความคิดของตัวเองกันหรือ?

‘ตัวมันคิดวางท่าเอง ข้าผิดอะไร?’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2980 มันคิดวางท่าเองข้าผิดอะไร?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2980 มันคิดวางท่าเองข้าผิดอะไร? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ช่างเป็นวิธีการที่ชั่วร้ายนัก! เจ้าต่อยห้วงมิติภายในของอานชานลงไปเช่นนี้มันก็เท่ากับทำให้เขาพิการไปแล้ว! ทำเรื่องเช่นนี้ในเผ่ากรุงมังกรข้า เจ้าคิดบ้างหรือไม่ว่ามันจะมีผลอย่างไรตามมา?”

ในฝูงคนนั้นมีงูหลามกลืนสวรรค์ผู้หนึ่งค่อยๆ เลื้อยออกมาจนทำให้คนทั้งหลายต้องแหวกทางให้

“ท่านต้าอี้! ท่านจะลงมือเองแล้ว!”

“ท่านต้าอี้นั้นเป็นผู้ติดอันดับท้าขุนเขาอันดับที่เจ็ดสิบห้า ฝีมือของท่านนั้นเก่งกาจล้ำฟ้า เจ้าเด็กนี่ได้ตายแน่!”

“มันกลับกล้าทำให้ท่านอานชานต้องพิการ รนหาที่ตายจริงๆ!”

ต้าอี้นั้นมีตำแหน่งสูงล้ำในเผ่ากรุงมังกรเมื่อเขาปรากฏตัวมันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายโห่ร้องขึ้นตามๆ กัน

มันก็ไม่แปลกเพราะว่าต้าอี้คนนี้ต่อสู้อย่างมากมายจนสร้างชื่อเสียงลือลั่น

เมื่อต้าอี้ปรากฏตัวขึ้นมามันก็ย่อมจะทำให้คนทั้งหลายใจสั่นไป

สายตานั้นมันเหมือนราวกับว่ามองขึ้นมาจากขุมนรกทำให้คนที่ได้เห็นต้องเหงื่อไหลท่วม

“มันคนนี้เก่ง เจ้าสู้มันไม่ได้หรอก! การท้าขุนเขามันไม่มีใครทำอย่างเจ้าหรอก!” ข้างๆ ตัวเย่หยวนนั้นเฟิ่งชิงซวนเดินเข้ามาเตือน

แน่นอนว่าที่นางพูดนั้นมันพูดเพราะรู้ว่าเย่หยวนจะไม่ใช้สายเลือดหงส์แดงออกมาในการท้าขุนเขาแน่นอน

นี่มันคือไม้ตายของเย่หยวน มันย่อมจะไม่มีทางใช้ออกมาให้คนอื่นได้เห็นง่ายๆ

เฟิ่งชิงซวนนั้นไม่อาจสู้เย่หยวนได้มันก็เพราะว่าเย่หยวนนั้นมีมังกรเคียงหงส์เท่านั้น

หากพูดถึงการใช้พลังสายเลือดเดียวแล้วเฟิ่งชิงซวนนั้นมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะเย่หยวนได้ไม่ยาก

เย่หยวนนั้นมีสายเลือดมังกรแค่ระดับขยายปฐพี การคิดอยากจะเอาชนะต้าอี้ที่มีระดับเดียวกันย่อมจะไม่ง่าย!

สายเลือดนั้นมันก็อย่างหนึ่งแต่แม้จะเป็นผู้มีระดับสายเลือดเดียวกันมันก็ยังมีความต่างในเรื่องของกำลังอย่างยิ่งใหญ่ มันขึ้นอยู่กับวิชาและพรสวรรค์ของคนคนนั้นด้วย

แต่ดูอย่างไรต้าอี้คนนี้ก็เก่งกาจ เก่งจนแม้แต่เฟิ่งชิงซวนยังสัมผัสได้!

เย่หยวนไม่คิดสนใจคำพูดของหญิงสาวน่ารำคาญที่ไล่ตามเขามาอย่างไม่ได้รับอนุญาตคนนี้!

“ช่างนักขัน! วินาทีแรกที่สู้กันมันก็คิดกลืนข้าลงท้องไป ดูอย่างไรก็มีเจตนาสังหาร! ทำไมเล่า? เผ่ากรุงมังกรเจ้าสังหารคนได้ฝ่ายเดียว? ข้าจะตอบโต้อะไรกลับไปไม่ได้?” เย่หยวนหันไปมองหน้าต้าอี้และกล่าวเย้ย

เพราะนี่มันคือความคิดปกติของเด็กน้อยที่มาจากตระกูลใหญ่ทั้งหลาย

ข้าสังหารเจ้าได้ แต่เจ้าห้ามแตะต้องข้าไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่ได้ตายดี!

อานชานคิดกลืนเย่หยวนลงไปอย่างที่เย่หยวนไม่ทันจะขัดขืน

หากมิใช่เพราะเย่หยวนแข็งแกร่งทรงพลังแล้วเขาคงกลายเป็นแค่เศษเนื้อในท้องของอานชานไป

ตอนนี้ต้าอี้กลับมาบอกว่าเขานั้นโหดร้าย

ต้าอี้หรี่ตาลงกล่าวขึ้นอย่างเย็นเยือก “เจ้าเด็กปากดี เจ้ากล้าสู้กับข้าไหมเล่า?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าคิดว่าข้ามาเพื่อแค่รังแกขยะอย่างมันหรือ?”

ต้าอี้หัวเราะตอบกลับไป “หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังแล้วกัน!”

คนทั้งสองนั้นสองมอบตรามังกรของกันและกันถือเป็นการเริ่มท้าขุนเขารอบที่สอง

การที่เย่หยวนท้าทายต้าอี้นี้มันย่อมจะทำให้คนเผ่ากรุงมังกรทั้งหลายหัวเราะเย้ย

ต่อให้เย่หยวนจะเอาชนะอานชานได้อย่างง่ายดายแต่มันก็ไม่มีค่าใด

เพราะจะอย่างไรเสียอานชานนั้นก็อยู่แค่อันดับสี่ร้อยเกือบห้าร้อย

ห้าร้อยและเจ็ดสิบห้านั้นมันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

“เจ้าเด็กนี่มันไม่ประเมินตัวเอง! มันคงไม่ได้รู้เลยสินะว่าอันดับท้าขุนเขานั้นมีความหมายว่าอย่างไร?”

“ท่านต้าอี้นั้นเคยท้าทายหยุนกุยแห่งเผ่ามังกรนรกมาก่อนและหลังจากกลับมาแล้วเขาก็เข้าเก็บตัวนานถึงสามปี! สามปีที่ผ่านมานี้เขาย่อมจะพัฒนาไปอย่างมากล้นแน่แล้ว!”

“แบบนี้ก็ดี! มันกลับทำท่านอานชานพิการไป ท่านต้าอี้ย่อมจะไม่ปล่อยมันรอดชีวิตไปแน่!”

“ข้าหวังแค่มันจะดูสนุกหน่อยก็เท่านั้น หวังว่ามันจะต้านทานท่านต้าอี้ได้บ้าง”

ต้าอี้นั้นยืนมั่นกล่าวขึ้น “ไอ้หนู ลงมือ! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่ได้มีโอกาสตอบโต้ใดๆ แล้ว”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องหัวเราะขึ้นมา คนเราบางทีมันก็ชอบวางท่าเสียจริงๆ

ราวกับหากไม่ได้วางท่าแล้วมันจะไม่มีใครนับถือว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือ

ต้าอี้ที่ได้เห็นเย่หยวนหัวเราะขึ้นมานั้นก็แทบจะร้องด่าออกไป

นี่มันคือการเย้ยหยัน!

แต่ว่าเขาพูดออกไปแล้วว่าจะให้เย่หยวนลงมือก่อน เขาจึงต้องรักษาท่าทางนี้ไว้ให้ถึงที่สุด

ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าเด็กนี่มันก็ต้องตายในไม่ช้า

เย่หยวนเองก็ไม่เกรงใจปล่อยพลังสายเลือดออกมาพร้อมด้วยคลื่นพลังมังกรที่สะเทือนแผ่นดิน

หมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์!

เพราะยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่พลังสายเลือดของเขาพัฒนาไปเท่าใด เย่หยวนก็ยิ่งรู้สึกได้ว่าพลังของหมัดนี้มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

นี่มันคือกระบวนท่าที่หมี่เทียนสอนให้แก่เขา เป็นการใช้งานพลังสายเลือดมังกรอย่างถึงที่สุด

เย่หยวนรู้ดีว่านี่เป็นวิชาที่หมี่เทียนสร้างขึ้นมาเองและหากบ่มเพาะฝึกฝนมันไปถึงที่สุดแล้ว แม้แต่เจ้าโลกเองก็คงไม่อาจจะรับมันไว้ได้เช่นกัน!

ยิ่งพลังสายเลือดพัฒนาไปเท่าไหร่มันก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น!

หากใช้ออกมาด้วยสายเลือดระดับโกลาหลแล้วการสังหารเจ้าโลกทั่วๆ ไปลงมันคงไม่ยากเย็นเลย

เมื่อเย่หยวนลงมือนั้นต้าอี้ก็ต้องหน้าถอดสี

หมัดนี้มันรุนแรงเกินไป!

เย่หยวนนั้นมีอาณาจักรบ่มเพาะต่ำกว่าเขาไปถึงสองขั้น แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่คิดเกรงกลัว

เขานั้นมั่นใจว่าไม่ว่าเย่หยวนจะใช้กระบวนท่าเช่นใดออกมามันก็ไม่มีทางทำร้ายเขาได้มาก

แต่หากหมัดนี้ต่อยโดนเข้าแล้วเขาคงมีสภาพไม่ต่างจากอานชาน มีรูเกิดขึ้นที่กลางตัวแน่

พริบตานั้นต้าอี้จึงได้อ้าปากขึ้นมาพร้อมปล่อยก้อนพลังงานออกมา

แต่มันก็สายเกินไปแล้ว!

เขานั้นเสียโอกาสที่จะสู้เพราะคิดอยากวางท่าเหนือหัวคน

เย่หยวนนั้นใช้พลังออกมาจนถึงที่สุดแล้วพลังของหมัดนั้นมันจะรุนแรงแค่ไหน?

ตูม!

ห้วงมิติสั่นสะท้านและร่างใหญ่ยักษ์ของต้าอี้นั้นก็ปลิวออกไปจมลงดิน

เมื่อเย่หยวนได้เปรียบขึ้นมาแล้วมีหรือที่เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว?

เขารีบพุ่งตามออกไปใช้หมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์อีกครั้ง

ตูม!

แผ่นดินแยก!

การแลกหมัดของยอดฝีมือนั้นมันย่อมจะเกิดขึ้นในเวลาแค่พริบตา

เย่หยวนที่ได้เปรียบนั้นตามไล่บี้อีกฝ่ายอย่างไม่ให้โอกาสหายใจ

ชาวเผ่ากรุงมังกรนั้นต่างต้องอ้าปากค้าง

พวกเขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าศึกครั้งนี้มันจะกลายสภาพเป็นเช่นนี้ไป

เทพสงครามต้าอี้ของพวกเขานั้นกลับถูกเด็กมนุษย์ต่อยจนหน้าหัน!

คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันจนฟ้าดินสั่นสะเทือนมุดลงใต้ดินบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

แต่เย่หยวนนั้นก็ยังคงความได้เปรียบไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ

มันเป็นการกระทืบฝ่ายเดียวอย่างแท้จริง

งูหลามกลืนสวรรค์นั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างมาก

แต่ตอนนี้ร่างของต้าอี้นั้นมันถูกต่อยจนเลือดเนื้อไหลนองไปทั่วแผ่นดินด้วยหมัดของเย่หยวน

แต่เย่หยวนเองก็ตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน

ต้าอี้นั้นเก่งกาจเกินกว่าที่เขาคิดไปมาก

เพราะหากเป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นสุดทั่วๆ ไป การโดนหมัดแล้วหมัดเล่าของเขานี้คงจะสังหารอีกฝ่ายจนไม่เหลือแม้แต่ซากแน่นอน

แต่ต้าอี้นั้นกลับยังมีสติจนถึงตอนนี้?

แม้ว่าเขาจะเสียหลักเสียเปรียบไปแต่ว่าจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงปัดป้องหมัดของเย่หยวนไว้

บางทีนั้นถึงขั้นสามารถโจมตีสวนกลับมาได้

หากเย่หยวนต่อยเบากว่านี้สักหน่อยต้าอี้คงพลิกสถานการณ์กลับมาได้จริงๆ

นี่คือยอดฝีมือที่เกิดขึ้นมาจากสนามรบอย่างแท้จริง

น่าเสียดายที่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือเย่หยวน

การต่อสู้นั้นก็คือการต่อสู้ ใครสั่งสอนให้เจ้ามาวางท่ากัน?

ในการต่อสู้ตัวต่อตัวนี้เสียหลักเมื่อไหร่มันก็มีแต่เสียท่าเท่านั้น!

ต้าอี้นั้นย่อมจะไม่มีโอกาสได้พลิกสถานการณ์กลับและเย่หยวนก็ไม่คิดจะเปิดโอกาสให้เขาได้ทำด้วย

บางครั้งบางทีการต่อสู้มันก็ง่ายดายเช่นนี้

“ข้ายอมแพ้!” ต้าอี้กล่าวลั่นขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ

เย่หยวนหยุดมือลงปล่อยให้ต้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆ ทิ้งตัวลงพื้นด้วยร่างกายที่อาบเลือดที่ส่วน

ชาวเผ่ากรุงมังกรทั้งหลายนั้นต่างต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

“ย…ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นนี้?”

“ท่านต้าอี้นั้นยังมีไม้ตายอีกมากมาย ทำไม…ถึงยอมแพ้เช่นนี้กันเล่า?”

“ชั่วร้าย! ไร้ยางอาย! ไอ้เด็กนี่มันชนะอย่างไร้ยางอาย!”

พริบตาเดียวนั้นคนเผ่ากรุงมังกรก็ร้องลั่นขึ้นมา

พวกเขานั้นต่างด่าว่าเย่หยวนหน้าไม่อายพูดเสียดสีสุดที่จะคิดได้

พวกเขานั้นรู้ดีว่าต้าอี้เก่งกาจแค่ไหน

แต่ตั้งแต่ต้นจนจบต้าอี้นั้นกลับไม่ได้มีโอกาสโจมตีสวนกลับใดๆ

ไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายใดๆ มันก็ไม่ได้ใช้ออกมาแม้แต่น้อย

ศึกเช่นนี้มันย่อมจะน่าคับแค้นใจอย่างมาก

ต้าอี้เองก็แทบจะอกแตกตาย

เขาแพ้อย่างไม่น่าแพ้!

เย่หยวนได้แต่ต้องส่ายหัวขึ้นเมื่อได้ยิน คนทั้งหลายนี้มันไม่มีสมองความคิดของตัวเองกันหรือ?

‘ตัวมันคิดวางท่าเอง ข้าผิดอะไร?’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2980 มันคิดวางท่าเองข้าผิดอะไร?

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2980 มันคิดวางท่าเองข้าผิดอะไร? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ช่างเป็นวิธีการที่ชั่วร้ายนัก! เจ้าต่อยห้วงมิติภายในของอานชานลงไปเช่นนี้มันก็เท่ากับทำให้เขาพิการไปแล้ว! ทำเรื่องเช่นนี้ในเผ่ากรุงมังกรข้า เจ้าคิดบ้างหรือไม่ว่ามันจะมีผลอย่างไรตามมา?”

ในฝูงคนนั้นมีงูหลามกลืนสวรรค์ผู้หนึ่งค่อยๆ เลื้อยออกมาจนทำให้คนทั้งหลายต้องแหวกทางให้

“ท่านต้าอี้! ท่านจะลงมือเองแล้ว!”

“ท่านต้าอี้นั้นเป็นผู้ติดอันดับท้าขุนเขาอันดับที่เจ็ดสิบห้า ฝีมือของท่านนั้นเก่งกาจล้ำฟ้า เจ้าเด็กนี่ได้ตายแน่!”

“มันกลับกล้าทำให้ท่านอานชานต้องพิการ รนหาที่ตายจริงๆ!”

ต้าอี้นั้นมีตำแหน่งสูงล้ำในเผ่ากรุงมังกรเมื่อเขาปรากฏตัวมันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายโห่ร้องขึ้นตามๆ กัน

มันก็ไม่แปลกเพราะว่าต้าอี้คนนี้ต่อสู้อย่างมากมายจนสร้างชื่อเสียงลือลั่น

เมื่อต้าอี้ปรากฏตัวขึ้นมามันก็ย่อมจะทำให้คนทั้งหลายใจสั่นไป

สายตานั้นมันเหมือนราวกับว่ามองขึ้นมาจากขุมนรกทำให้คนที่ได้เห็นต้องเหงื่อไหลท่วม

“มันคนนี้เก่ง เจ้าสู้มันไม่ได้หรอก! การท้าขุนเขามันไม่มีใครทำอย่างเจ้าหรอก!” ข้างๆ ตัวเย่หยวนนั้นเฟิ่งชิงซวนเดินเข้ามาเตือน

แน่นอนว่าที่นางพูดนั้นมันพูดเพราะรู้ว่าเย่หยวนจะไม่ใช้สายเลือดหงส์แดงออกมาในการท้าขุนเขาแน่นอน

นี่มันคือไม้ตายของเย่หยวน มันย่อมจะไม่มีทางใช้ออกมาให้คนอื่นได้เห็นง่ายๆ

เฟิ่งชิงซวนนั้นไม่อาจสู้เย่หยวนได้มันก็เพราะว่าเย่หยวนนั้นมีมังกรเคียงหงส์เท่านั้น

หากพูดถึงการใช้พลังสายเลือดเดียวแล้วเฟิ่งชิงซวนนั้นมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะเย่หยวนได้ไม่ยาก

เย่หยวนนั้นมีสายเลือดมังกรแค่ระดับขยายปฐพี การคิดอยากจะเอาชนะต้าอี้ที่มีระดับเดียวกันย่อมจะไม่ง่าย!

สายเลือดนั้นมันก็อย่างหนึ่งแต่แม้จะเป็นผู้มีระดับสายเลือดเดียวกันมันก็ยังมีความต่างในเรื่องของกำลังอย่างยิ่งใหญ่ มันขึ้นอยู่กับวิชาและพรสวรรค์ของคนคนนั้นด้วย

แต่ดูอย่างไรต้าอี้คนนี้ก็เก่งกาจ เก่งจนแม้แต่เฟิ่งชิงซวนยังสัมผัสได้!

เย่หยวนไม่คิดสนใจคำพูดของหญิงสาวน่ารำคาญที่ไล่ตามเขามาอย่างไม่ได้รับอนุญาตคนนี้!

“ช่างนักขัน! วินาทีแรกที่สู้กันมันก็คิดกลืนข้าลงท้องไป ดูอย่างไรก็มีเจตนาสังหาร! ทำไมเล่า? เผ่ากรุงมังกรเจ้าสังหารคนได้ฝ่ายเดียว? ข้าจะตอบโต้อะไรกลับไปไม่ได้?” เย่หยวนหันไปมองหน้าต้าอี้และกล่าวเย้ย

เพราะนี่มันคือความคิดปกติของเด็กน้อยที่มาจากตระกูลใหญ่ทั้งหลาย

ข้าสังหารเจ้าได้ แต่เจ้าห้ามแตะต้องข้าไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่ได้ตายดี!

อานชานคิดกลืนเย่หยวนลงไปอย่างที่เย่หยวนไม่ทันจะขัดขืน

หากมิใช่เพราะเย่หยวนแข็งแกร่งทรงพลังแล้วเขาคงกลายเป็นแค่เศษเนื้อในท้องของอานชานไป

ตอนนี้ต้าอี้กลับมาบอกว่าเขานั้นโหดร้าย

ต้าอี้หรี่ตาลงกล่าวขึ้นอย่างเย็นเยือก “เจ้าเด็กปากดี เจ้ากล้าสู้กับข้าไหมเล่า?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าคิดว่าข้ามาเพื่อแค่รังแกขยะอย่างมันหรือ?”

ต้าอี้หัวเราะตอบกลับไป “หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังแล้วกัน!”

คนทั้งสองนั้นสองมอบตรามังกรของกันและกันถือเป็นการเริ่มท้าขุนเขารอบที่สอง

การที่เย่หยวนท้าทายต้าอี้นี้มันย่อมจะทำให้คนเผ่ากรุงมังกรทั้งหลายหัวเราะเย้ย

ต่อให้เย่หยวนจะเอาชนะอานชานได้อย่างง่ายดายแต่มันก็ไม่มีค่าใด

เพราะจะอย่างไรเสียอานชานนั้นก็อยู่แค่อันดับสี่ร้อยเกือบห้าร้อย

ห้าร้อยและเจ็ดสิบห้านั้นมันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

“เจ้าเด็กนี่มันไม่ประเมินตัวเอง! มันคงไม่ได้รู้เลยสินะว่าอันดับท้าขุนเขานั้นมีความหมายว่าอย่างไร?”

“ท่านต้าอี้นั้นเคยท้าทายหยุนกุยแห่งเผ่ามังกรนรกมาก่อนและหลังจากกลับมาแล้วเขาก็เข้าเก็บตัวนานถึงสามปี! สามปีที่ผ่านมานี้เขาย่อมจะพัฒนาไปอย่างมากล้นแน่แล้ว!”

“แบบนี้ก็ดี! มันกลับทำท่านอานชานพิการไป ท่านต้าอี้ย่อมจะไม่ปล่อยมันรอดชีวิตไปแน่!”

“ข้าหวังแค่มันจะดูสนุกหน่อยก็เท่านั้น หวังว่ามันจะต้านทานท่านต้าอี้ได้บ้าง”

ต้าอี้นั้นยืนมั่นกล่าวขึ้น “ไอ้หนู ลงมือ! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่ได้มีโอกาสตอบโต้ใดๆ แล้ว”

เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องหัวเราะขึ้นมา คนเราบางทีมันก็ชอบวางท่าเสียจริงๆ

ราวกับหากไม่ได้วางท่าแล้วมันจะไม่มีใครนับถือว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือ

ต้าอี้ที่ได้เห็นเย่หยวนหัวเราะขึ้นมานั้นก็แทบจะร้องด่าออกไป

นี่มันคือการเย้ยหยัน!

แต่ว่าเขาพูดออกไปแล้วว่าจะให้เย่หยวนลงมือก่อน เขาจึงต้องรักษาท่าทางนี้ไว้ให้ถึงที่สุด

ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าเด็กนี่มันก็ต้องตายในไม่ช้า

เย่หยวนเองก็ไม่เกรงใจปล่อยพลังสายเลือดออกมาพร้อมด้วยคลื่นพลังมังกรที่สะเทือนแผ่นดิน

หมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์!

เพราะยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่พลังสายเลือดของเขาพัฒนาไปเท่าใด เย่หยวนก็ยิ่งรู้สึกได้ว่าพลังของหมัดนี้มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

นี่มันคือกระบวนท่าที่หมี่เทียนสอนให้แก่เขา เป็นการใช้งานพลังสายเลือดมังกรอย่างถึงที่สุด

เย่หยวนรู้ดีว่านี่เป็นวิชาที่หมี่เทียนสร้างขึ้นมาเองและหากบ่มเพาะฝึกฝนมันไปถึงที่สุดแล้ว แม้แต่เจ้าโลกเองก็คงไม่อาจจะรับมันไว้ได้เช่นกัน!

ยิ่งพลังสายเลือดพัฒนาไปเท่าไหร่มันก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น!

หากใช้ออกมาด้วยสายเลือดระดับโกลาหลแล้วการสังหารเจ้าโลกทั่วๆ ไปลงมันคงไม่ยากเย็นเลย

เมื่อเย่หยวนลงมือนั้นต้าอี้ก็ต้องหน้าถอดสี

หมัดนี้มันรุนแรงเกินไป!

เย่หยวนนั้นมีอาณาจักรบ่มเพาะต่ำกว่าเขาไปถึงสองขั้น แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่คิดเกรงกลัว

เขานั้นมั่นใจว่าไม่ว่าเย่หยวนจะใช้กระบวนท่าเช่นใดออกมามันก็ไม่มีทางทำร้ายเขาได้มาก

แต่หากหมัดนี้ต่อยโดนเข้าแล้วเขาคงมีสภาพไม่ต่างจากอานชาน มีรูเกิดขึ้นที่กลางตัวแน่

พริบตานั้นต้าอี้จึงได้อ้าปากขึ้นมาพร้อมปล่อยก้อนพลังงานออกมา

แต่มันก็สายเกินไปแล้ว!

เขานั้นเสียโอกาสที่จะสู้เพราะคิดอยากวางท่าเหนือหัวคน

เย่หยวนนั้นใช้พลังออกมาจนถึงที่สุดแล้วพลังของหมัดนั้นมันจะรุนแรงแค่ไหน?

ตูม!

ห้วงมิติสั่นสะท้านและร่างใหญ่ยักษ์ของต้าอี้นั้นก็ปลิวออกไปจมลงดิน

เมื่อเย่หยวนได้เปรียบขึ้นมาแล้วมีหรือที่เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว?

เขารีบพุ่งตามออกไปใช้หมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์อีกครั้ง

ตูม!

แผ่นดินแยก!

การแลกหมัดของยอดฝีมือนั้นมันย่อมจะเกิดขึ้นในเวลาแค่พริบตา

เย่หยวนที่ได้เปรียบนั้นตามไล่บี้อีกฝ่ายอย่างไม่ให้โอกาสหายใจ

ชาวเผ่ากรุงมังกรนั้นต่างต้องอ้าปากค้าง

พวกเขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าศึกครั้งนี้มันจะกลายสภาพเป็นเช่นนี้ไป

เทพสงครามต้าอี้ของพวกเขานั้นกลับถูกเด็กมนุษย์ต่อยจนหน้าหัน!

คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันจนฟ้าดินสั่นสะเทือนมุดลงใต้ดินบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

แต่เย่หยวนนั้นก็ยังคงความได้เปรียบไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ

มันเป็นการกระทืบฝ่ายเดียวอย่างแท้จริง

งูหลามกลืนสวรรค์นั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างมาก

แต่ตอนนี้ร่างของต้าอี้นั้นมันถูกต่อยจนเลือดเนื้อไหลนองไปทั่วแผ่นดินด้วยหมัดของเย่หยวน

แต่เย่หยวนเองก็ตกตะลึงไม่น้อยเช่นกัน

ต้าอี้นั้นเก่งกาจเกินกว่าที่เขาคิดไปมาก

เพราะหากเป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นสุดทั่วๆ ไป การโดนหมัดแล้วหมัดเล่าของเขานี้คงจะสังหารอีกฝ่ายจนไม่เหลือแม้แต่ซากแน่นอน

แต่ต้าอี้นั้นกลับยังมีสติจนถึงตอนนี้?

แม้ว่าเขาจะเสียหลักเสียเปรียบไปแต่ว่าจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงปัดป้องหมัดของเย่หยวนไว้

บางทีนั้นถึงขั้นสามารถโจมตีสวนกลับมาได้

หากเย่หยวนต่อยเบากว่านี้สักหน่อยต้าอี้คงพลิกสถานการณ์กลับมาได้จริงๆ

นี่คือยอดฝีมือที่เกิดขึ้นมาจากสนามรบอย่างแท้จริง

น่าเสียดายที่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือเย่หยวน

การต่อสู้นั้นก็คือการต่อสู้ ใครสั่งสอนให้เจ้ามาวางท่ากัน?

ในการต่อสู้ตัวต่อตัวนี้เสียหลักเมื่อไหร่มันก็มีแต่เสียท่าเท่านั้น!

ต้าอี้นั้นย่อมจะไม่มีโอกาสได้พลิกสถานการณ์กลับและเย่หยวนก็ไม่คิดจะเปิดโอกาสให้เขาได้ทำด้วย

บางครั้งบางทีการต่อสู้มันก็ง่ายดายเช่นนี้

“ข้ายอมแพ้!” ต้าอี้กล่าวลั่นขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ

เย่หยวนหยุดมือลงปล่อยให้ต้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆ ทิ้งตัวลงพื้นด้วยร่างกายที่อาบเลือดที่ส่วน

ชาวเผ่ากรุงมังกรทั้งหลายนั้นต่างต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

“ย…ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นนี้?”

“ท่านต้าอี้นั้นยังมีไม้ตายอีกมากมาย ทำไม…ถึงยอมแพ้เช่นนี้กันเล่า?”

“ชั่วร้าย! ไร้ยางอาย! ไอ้เด็กนี่มันชนะอย่างไร้ยางอาย!”

พริบตาเดียวนั้นคนเผ่ากรุงมังกรก็ร้องลั่นขึ้นมา

พวกเขานั้นต่างด่าว่าเย่หยวนหน้าไม่อายพูดเสียดสีสุดที่จะคิดได้

พวกเขานั้นรู้ดีว่าต้าอี้เก่งกาจแค่ไหน

แต่ตั้งแต่ต้นจนจบต้าอี้นั้นกลับไม่ได้มีโอกาสโจมตีสวนกลับใดๆ

ไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายใดๆ มันก็ไม่ได้ใช้ออกมาแม้แต่น้อย

ศึกเช่นนี้มันย่อมจะน่าคับแค้นใจอย่างมาก

ต้าอี้เองก็แทบจะอกแตกตาย

เขาแพ้อย่างไม่น่าแพ้!

เย่หยวนได้แต่ต้องส่ายหัวขึ้นเมื่อได้ยิน คนทั้งหลายนี้มันไม่มีสมองความคิดของตัวเองกันหรือ?

‘ตัวมันคิดวางท่าเอง ข้าผิดอะไร?’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+