Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2998 ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้ม!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2998 ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้ม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2998 ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้ม!

หลงชานั้นตกตะลึงอยู่ในหัวใจ

เพราะเขามั่นใจว่าการโจมตีเมื่อครู่มันต้องทำให้เย่หยวนบาดเจ็บหนักจนไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีกแน่!

แต่เย่หยวนกลับลุกขึ้นมา และยังชี้หน้าด่าเขาอีกด้วย!

หรือก็คือตอนนี้เย่หยวนกำลังทนรับสภาพที่กระดูกหักทั่วร่าง

เป็นอาการที่คนทั่วไปไม่อาจจะจินตนาการได้และยืนกลับขึ้นมา?

ไอ้เด็กนี่มันเป็นคนบ้าหรือ?

หลงชานั้นไม่นึกฝันว่ามหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์น้อยๆ คนหนึ่งกลับจะบ้าบิ่นได้ขนาดนี้!

“กลัว? หึๆ นอกจากบรรพบุรุษท่านแล้วมันไม่มีใครที่ทำให้ข้ากลัวได้ในโลกนี้! แค่คนอย่างเจ้า!

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยนี้? การโจมตีเมื่อครู่นั้นข้าแค่คิดสั่งสอนเจ้าให้ได้รู้ว่าตัวเองต่ำต้อยแค่ไหนเท่านั้น!

เรื่องของเจ้าโลกนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะเข้ามายุ่งด้วยได้! แล้วเจ้าคิดจริงๆ ว่าข้าไม่กล้าสังหารเจ้าลง?”

เจ้าโลกหลงชานั้นกล่าวขึ้นมาอย่างจิตสังหารหนักหน่วง

หลงหรานเองก็ไม่คิดว่าหลงชานั้นจะไม่สนใจไว้หน้าใครๆ และลงมือกับมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์อย่างหนักหน่วงเช่นนี้

ในตอนนี้เขาจึงต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ “หลงชา เจ้ายังมียางอายบ้างหรือไม่? เอาสิ! หากเจ้ามีปัญญาก็สังหารพวกเราให้หมดพันกว่าคนเลย! เอาเลย!”

“ไอ้เฒ่าหน้าด้าน! กล้าก็สังหารสิวะ!”

“ยอดเจ้าโลกกลับลงมือต่อมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยคนหนึ่ง เจ้ายังรู้จักยางอายหรือไม่?”

“มาสิวะ! ฆ่าสิ!”

“ฆ่าเลย!”

คนแดนตรังค์ตะวันออกนับพันนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน!

ต่อให้หลงชาจะทำอะไรพวกเขาก็ไม่เคยแสดงทีท่าเช่นนี้ออกมา

แต่ตอนนี้หลงชากลับทำร้ายเย่หยวน!

เย่หยวนนั้นคือผู้กอบกู้ของพวกเขา หากไม่มีเย่หยวนแล้วพวกเขาทั้งหลายคงยังต้องนอนทรมานอยู่ในคุกนรกนั่น

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างผงะไปตามๆ กัน

เพราะดูท่าแล้วพวกเขาเองก็ไม่คิดว่าการลงมือของหลงชานั้นมันจะเหมือนการไปแหย่รังแตนเช่นนี้

ในความคิดของคนทั้งหลายนั้นแม้ว่าหลงชาจะรังแกเด็กแต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดใหญ่โต!

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นมันไม่มีคุณสมบัติจะเข้ามายุ่งเรื่องการพูดคุยของเจ้าโลก

พวกเขานั้นคิดมาตั้งแต่แรกเห็นว่าผู้นำของกลุ่มมันคงเป็นหลงหราน

แต่ตอนนี้พวกเขาได้พบแล้วว่าตัวเองคิดผิดไป!

แต่ละครั้งที่เย่หยวนพูดกล่าวขึ้นมาสีหน้าของคนทั้งหลายมันก็จะเปลี่ยนสีไป

“เฮอะ! ข้าก็อยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะมีหลักฐานอะไรได้! ข้าจะบอกเจ้าก่อน หากเจ้าเอาหลักฐานออกมาไม่ได้และแค่พูดจาไร้สาระ เช่นนั้นแล้ว…ข้าก็จะสังหารให้ พันหรือหมื่นก็สังหารให้ได้!” หลงชากล่าวขึ้นตอบ

เขาต้องยอมแพ้

หากไปหาเรื่องคนทั้งแดนตรังค์ตะวันออกในตอนนี้มันคงมีราคาที่ต้องจ่ายมากเกินไป

ที่เขาวางท่าได้ก่อนหน้านั้นมันก็เพราะว่าตำแหน่งของตัวเอง

เจ้าโลกนั้นสูงส่งไม่อาจจะถูกลบหลู่ได้ นี่คือความคิดที่ทุกคนมีในหัวใจ

แต่ตอนนี้เย่หยวนมีทั้งแดนตรังค์ตะวันออกหนุนหลัง

ดังนั้นสถานะของเย่หยวนมันย่อมจะไม่เป็นแค่เห็นน้อยคนหนึ่งแล้ว

“จ้าวเยว่!”

เย่หยวนหันไปมองเรียก

จ้าวเยว่นั้นเข้าใจเป้าหมายของเย่หยวนทันทีและอ้าปากคายเศษวิญญาณหนึ่งออกมา

เศษวิญญาณนี้มีแต่รูทั่วร่าง

มันเป็นสภาพที่น่าสมเพชอย่างมากแต่หน้าตาของเขานั้นมันก็ยังแยกแยะได้ชัดเจนว่าเป็นใคร

หลงเฉียนเซียง!

“หลงเฉียนเซียง! มันกลับยังไม่ตาย!”

“แต่สภาพเช่นนี้มันจะต่างอะไรจากคนตาย?”

“สติของมันนั้นเลือนรางเต็มที เช่นนี้มันจะต่างอะไรจากคนบ้า คำพูดของมันนี้จะเป็นหลักฐานได้หรือ?”

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องส่ายหัวออกมาเพราะรู้สึกว่าเย่หยวนช่างโง่เง่า

มันมิใช่ว่าคำพูดของหลงเฉียนเซียงสาวถึงตัวหลงชาไม่ได้

แต่อย่างน้อยๆ มันก็ต้องเป็นคำพูดของหลงเฉียนเซียงในตอนที่ยังมีสติวิญญาณดั่งเดิมสมประกอบมิใช่หรือ?

แล้วนี่มันอะไร?

เมื่อหลงชาได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “นี่หรือคือหลักฐานของเจ้า? เจ้าคิดว่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นโง่เง่ามากนักแล้ว?”

ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นหมี่เจิ้นไม่ได้กล่าวพูดอะไรออกมา

เขานั้นวางตัวเหนือกิจบนโลกหล้า ราวกับว่าฟ้าดินนี้มันอยู่ใต้การดูแลของเขา

เย่หยวนไม่คิดพูดเถียงใดๆ กลับไปและแยกร่างวิญญาณมนุษย์ของตัวเองออกมาเปลี่ยนกลายเป็นหมอกหนา

หลงชาต้องเบิกตากว้างขึ้น “ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! ไอ้เด็กนี่มันกลับมีเต๋าวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนี้หรือ?”

ตอนนี้แม้แต่หมี่เจิ้นเองก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นร่างวิญญาณขึ้นชื่อของเผ่าวิญญาณ!

เพราะแม้แต่เจ้าโลกเทียนเหวินนั้นเองก็ยังอ่อนแอไปเลยเมื่อเทียบกับร่างวิญญาณนี้

แต่จู่ๆ มันกลับมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มปรากฏขึ้นมาต่อหน้าพวกเขา มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่แตกตื่นได้?

เจ้าโลกคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาขัดไว้ “ข้าได้ยินมาว่าตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นมีร่างวิญญาณกึ่งอมตะอยู่มากมาย บางทีเจ้าเด็กนี่ก็คงเป็นเช่นนั้นแล้ว? ไม่ต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตหรอก!”

“ไม่ ร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแน่นอน เพราะในร่างวิญญาณของเขานั้นมันมีคลื่นโกลาหลแฝงอยู่ทั่วไปหมด เหมือนกับผีเฒ่าบู๋เมี่ย! ไม่สิ เดี๋ยวนะ! ร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเจ้าเด็กนี่มันแปลกนัก มันกลับมีเมล็ดคลื่นกำเนิดแฝงไว้มากมาย!” หลงเจี้ยนนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างตกตะลึง

เขาและหลงชานั้นต่างเป็นยอดเจ้าโลกของเผ่ามังกรย่อมจะมีพลังไม่ด้อยกว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยและมีประสบการณ์ความรู้ที่ไม่ด้อยกว่ากันด้วย

คำพูดของเขานี้ทำให้คนทั้งหลายแตกตื่นไปทันที

เช่นนั้นหมายความว่าร่างวิญญาณของเย่หยวนนี้มันอาจจะพัฒนาได้มากกว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยหรือ?

“แต่ว่าเขา…คิดจะทำอะไรกัน?” คนทั้งหลายต่างอดสงสัยขึ้นไม่ได้

ท่ามกลางเสียงแห่งความสงสัยและการตั้งคำถาม

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มก็พุ่งเข้าร่างวิญญาณดั่งเดิมของหลงเฉียนเซียงไป

“อัก…อ้ากกก!” เสียงร้องแปลกประหลาดดังออกมาจากปากของหลงเฉียนเซียง

แต่ไม่นานจากนั้นร่างวิญญาณหมอกหุ้มมันก็แผ่ตัวออกฉายภาพต่างๆ มากมายในหมอกนั้นให้คนทั้งหลายได้มองดูกัน

“นี่คือเศษเสี้ยวความทรงจำของหลงเฉียนเซียงหรือ?”

“นั่นมันเผ่าสายลม! เจ้ามารร้ายนี่กลับไปทำลายเผ่าสายลมทั้งเผ่าลงหรือ?”

“แล้วนั่นมันหลานเจ้าโลกหลงเจียงมิใช่หรือ? เขา…เขากลับถูกจับไปทดลองที่เกาะมังกรเลือดด้วย?”

“พระเจ้าช่วย เจ้ามารร้ายนี่มันทำเรื่องชั่วร้ายไว้มากแค่ไหนกัน?”

ภาพต่างๆ มากมายปรากฏขึ้นมาให้เจ้าโลกบนเกาะมังกรสวรรค์ได้เห็น

นี่มันเป็นแค่ภาพจากเสี้ยวความทรงจำของหลงเฉียนเซียงและมิใช่ความทรงจำสมบูรณ์

แต่มันก็มากพอจะทำให้คนทั้งหลายเดือดดาลขึ้นมาได้

หลงเฉียนเซียงและหลงเย่สองคนนั้นได้สร้างความชั่วร้ายไว้มากมายจนเกินกว่าที่จะเอามารร้ายใดๆ มาเทียบ!

บางครั้งนั้นมันเกี่ยวข้องถึงลูกหลานสายตรงหน้าของเจ้าโลกทั้งหลาย!

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายนั้นดำมืดลงไปทันทีที่ได้เห็น

หากเป็นเรื่องคนอื่นย่อมปล่อยผ่านได้ง่าย

แต่ตอนนี้เรื่องที่หลงเฉียนเซียงทำไว้มันบาดลึกเข้าไปถึงจิตใจของใครหลายๆ คน!

จู่ๆ มันก็มีเสียงหนึ่งร้องขึ้น “ดูนั่น! นั่นมันเสียงของเจ้าโลกหลงชา เขากำลังสั่งงานหลงเฉียนเซียง!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างหันไปมองที่จุดเดียวกันทันที

ภาพที่ปรากฏตรงนั้นมันคือภาพตัวหลงเฉียนเซียงที่คุกเข่าลงกับพื้นและฟังคำสั่งของใครบางคนที่ไม่เห็นหน้าอยู่

แต่เสียงนั้นย่อมจะเป็นเจ้าโลกหลงชาแล้ว!

“งานช้าเกินไป ข้าต้องการสายเลือดที่ทรงพลังกว่านี้!” หลงชากล่าวขึ้น

หลงเฉียนเซียงสั่นสะท้านไปทั้งกายและตอบกลับไป “ท่านหลงชาโปรดอภัยให้ความไร้สามารถของเราด้วย ตอนนี้เราพยายามกันมากแล้วจริงๆ เพียงแค่ว่า…มันยังขาดเลือดไปอีกมาก!”

“เช่นนั้นก็ไปฆ่า! แดนตรังค์ตะวันออกนั้นมันมีเผ่าตั้งมากมาย มันย่อมจะมีเลือดหายากอยู่ไม่น้อย! หากเจ้าไปฆ่าคนแล้วมันก็ย่อมจะได้เลือดมาเพิ่มแน่นอน!” หลงชากล่าว

“ขอรับ! ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!” หลงเฉียนเซียงรับคำ

การสนทนานั้นมันไม่สั้นไม่ยาว

แต่คำพูดช่างโหดร้าย ความไม่สนใจชีวิตคนเผ่าเดียวกันนี้มันทำให้คนทั้งหลายขนลุกตั้ง

ความทรงจำของหลงเฉียนเซียงนั้นเผยให้เป็นหลงชาแค่ไม่กี่ครั้ง

มันจึงยืนยันได้ชัดเจนว่าเขานั้นทำการได้อย่างระมัดระวังแค่ไหน

แต่สุดท้ายมันก็ยังมีหลักฐานจนได้!

ฟุบ!

จากนั้นภาพทั้งหมดก็ดับไป

จากนั้นร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเย่หยวนมันก็ค่อยๆ กลับเป็นร่างและเข้าในกายเนื้อเย่หยวนอีกครั้ง

“บรรพบุรุษหมี่เจิ้น เช่นนี้แล้วถือว่าเป็นหลักฐานหรือไม่?” เย่หยวนหันไปมองมังกรฟ้าโกลาหลตัวยักษ์นั้นและกล่าวถามขึ้น

หมี่เจิ้นพยักหน้ารับ “ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมีชื่อเสียงโด่งดัง มันย่อมจะเป็นหลักฐานได้แล้ว!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2998 ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้ม!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2998 ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้ม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2998 ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้ม!

หลงชานั้นตกตะลึงอยู่ในหัวใจ

เพราะเขามั่นใจว่าการโจมตีเมื่อครู่มันต้องทำให้เย่หยวนบาดเจ็บหนักจนไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีกแน่!

แต่เย่หยวนกลับลุกขึ้นมา และยังชี้หน้าด่าเขาอีกด้วย!

หรือก็คือตอนนี้เย่หยวนกำลังทนรับสภาพที่กระดูกหักทั่วร่าง

เป็นอาการที่คนทั่วไปไม่อาจจะจินตนาการได้และยืนกลับขึ้นมา?

ไอ้เด็กนี่มันเป็นคนบ้าหรือ?

หลงชานั้นไม่นึกฝันว่ามหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์น้อยๆ คนหนึ่งกลับจะบ้าบิ่นได้ขนาดนี้!

“กลัว? หึๆ นอกจากบรรพบุรุษท่านแล้วมันไม่มีใครที่ทำให้ข้ากลัวได้ในโลกนี้! แค่คนอย่างเจ้า!

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยนี้? การโจมตีเมื่อครู่นั้นข้าแค่คิดสั่งสอนเจ้าให้ได้รู้ว่าตัวเองต่ำต้อยแค่ไหนเท่านั้น!

เรื่องของเจ้าโลกนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะเข้ามายุ่งด้วยได้! แล้วเจ้าคิดจริงๆ ว่าข้าไม่กล้าสังหารเจ้าลง?”

เจ้าโลกหลงชานั้นกล่าวขึ้นมาอย่างจิตสังหารหนักหน่วง

หลงหรานเองก็ไม่คิดว่าหลงชานั้นจะไม่สนใจไว้หน้าใครๆ และลงมือกับมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์อย่างหนักหน่วงเช่นนี้

ในตอนนี้เขาจึงต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ “หลงชา เจ้ายังมียางอายบ้างหรือไม่? เอาสิ! หากเจ้ามีปัญญาก็สังหารพวกเราให้หมดพันกว่าคนเลย! เอาเลย!”

“ไอ้เฒ่าหน้าด้าน! กล้าก็สังหารสิวะ!”

“ยอดเจ้าโลกกลับลงมือต่อมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยคนหนึ่ง เจ้ายังรู้จักยางอายหรือไม่?”

“มาสิวะ! ฆ่าสิ!”

“ฆ่าเลย!”

คนแดนตรังค์ตะวันออกนับพันนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน!

ต่อให้หลงชาจะทำอะไรพวกเขาก็ไม่เคยแสดงทีท่าเช่นนี้ออกมา

แต่ตอนนี้หลงชากลับทำร้ายเย่หยวน!

เย่หยวนนั้นคือผู้กอบกู้ของพวกเขา หากไม่มีเย่หยวนแล้วพวกเขาทั้งหลายคงยังต้องนอนทรมานอยู่ในคุกนรกนั่น

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างผงะไปตามๆ กัน

เพราะดูท่าแล้วพวกเขาเองก็ไม่คิดว่าการลงมือของหลงชานั้นมันจะเหมือนการไปแหย่รังแตนเช่นนี้

ในความคิดของคนทั้งหลายนั้นแม้ว่าหลงชาจะรังแกเด็กแต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดใหญ่โต!

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นมันไม่มีคุณสมบัติจะเข้ามายุ่งเรื่องการพูดคุยของเจ้าโลก

พวกเขานั้นคิดมาตั้งแต่แรกเห็นว่าผู้นำของกลุ่มมันคงเป็นหลงหราน

แต่ตอนนี้พวกเขาได้พบแล้วว่าตัวเองคิดผิดไป!

แต่ละครั้งที่เย่หยวนพูดกล่าวขึ้นมาสีหน้าของคนทั้งหลายมันก็จะเปลี่ยนสีไป

“เฮอะ! ข้าก็อยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะมีหลักฐานอะไรได้! ข้าจะบอกเจ้าก่อน หากเจ้าเอาหลักฐานออกมาไม่ได้และแค่พูดจาไร้สาระ เช่นนั้นแล้ว…ข้าก็จะสังหารให้ พันหรือหมื่นก็สังหารให้ได้!” หลงชากล่าวขึ้นตอบ

เขาต้องยอมแพ้

หากไปหาเรื่องคนทั้งแดนตรังค์ตะวันออกในตอนนี้มันคงมีราคาที่ต้องจ่ายมากเกินไป

ที่เขาวางท่าได้ก่อนหน้านั้นมันก็เพราะว่าตำแหน่งของตัวเอง

เจ้าโลกนั้นสูงส่งไม่อาจจะถูกลบหลู่ได้ นี่คือความคิดที่ทุกคนมีในหัวใจ

แต่ตอนนี้เย่หยวนมีทั้งแดนตรังค์ตะวันออกหนุนหลัง

ดังนั้นสถานะของเย่หยวนมันย่อมจะไม่เป็นแค่เห็นน้อยคนหนึ่งแล้ว

“จ้าวเยว่!”

เย่หยวนหันไปมองเรียก

จ้าวเยว่นั้นเข้าใจเป้าหมายของเย่หยวนทันทีและอ้าปากคายเศษวิญญาณหนึ่งออกมา

เศษวิญญาณนี้มีแต่รูทั่วร่าง

มันเป็นสภาพที่น่าสมเพชอย่างมากแต่หน้าตาของเขานั้นมันก็ยังแยกแยะได้ชัดเจนว่าเป็นใคร

หลงเฉียนเซียง!

“หลงเฉียนเซียง! มันกลับยังไม่ตาย!”

“แต่สภาพเช่นนี้มันจะต่างอะไรจากคนตาย?”

“สติของมันนั้นเลือนรางเต็มที เช่นนี้มันจะต่างอะไรจากคนบ้า คำพูดของมันนี้จะเป็นหลักฐานได้หรือ?”

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องส่ายหัวออกมาเพราะรู้สึกว่าเย่หยวนช่างโง่เง่า

มันมิใช่ว่าคำพูดของหลงเฉียนเซียงสาวถึงตัวหลงชาไม่ได้

แต่อย่างน้อยๆ มันก็ต้องเป็นคำพูดของหลงเฉียนเซียงในตอนที่ยังมีสติวิญญาณดั่งเดิมสมประกอบมิใช่หรือ?

แล้วนี่มันอะไร?

เมื่อหลงชาได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “นี่หรือคือหลักฐานของเจ้า? เจ้าคิดว่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นโง่เง่ามากนักแล้ว?”

ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นหมี่เจิ้นไม่ได้กล่าวพูดอะไรออกมา

เขานั้นวางตัวเหนือกิจบนโลกหล้า ราวกับว่าฟ้าดินนี้มันอยู่ใต้การดูแลของเขา

เย่หยวนไม่คิดพูดเถียงใดๆ กลับไปและแยกร่างวิญญาณมนุษย์ของตัวเองออกมาเปลี่ยนกลายเป็นหมอกหนา

หลงชาต้องเบิกตากว้างขึ้น “ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! ไอ้เด็กนี่มันกลับมีเต๋าวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนี้หรือ?”

ตอนนี้แม้แต่หมี่เจิ้นเองก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นร่างวิญญาณขึ้นชื่อของเผ่าวิญญาณ!

เพราะแม้แต่เจ้าโลกเทียนเหวินนั้นเองก็ยังอ่อนแอไปเลยเมื่อเทียบกับร่างวิญญาณนี้

แต่จู่ๆ มันกลับมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มปรากฏขึ้นมาต่อหน้าพวกเขา มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่แตกตื่นได้?

เจ้าโลกคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาขัดไว้ “ข้าได้ยินมาว่าตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นมีร่างวิญญาณกึ่งอมตะอยู่มากมาย บางทีเจ้าเด็กนี่ก็คงเป็นเช่นนั้นแล้ว? ไม่ต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตหรอก!”

“ไม่ ร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแน่นอน เพราะในร่างวิญญาณของเขานั้นมันมีคลื่นโกลาหลแฝงอยู่ทั่วไปหมด เหมือนกับผีเฒ่าบู๋เมี่ย! ไม่สิ เดี๋ยวนะ! ร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเจ้าเด็กนี่มันแปลกนัก มันกลับมีเมล็ดคลื่นกำเนิดแฝงไว้มากมาย!” หลงเจี้ยนนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างตกตะลึง

เขาและหลงชานั้นต่างเป็นยอดเจ้าโลกของเผ่ามังกรย่อมจะมีพลังไม่ด้อยกว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยและมีประสบการณ์ความรู้ที่ไม่ด้อยกว่ากันด้วย

คำพูดของเขานี้ทำให้คนทั้งหลายแตกตื่นไปทันที

เช่นนั้นหมายความว่าร่างวิญญาณของเย่หยวนนี้มันอาจจะพัฒนาได้มากกว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยหรือ?

“แต่ว่าเขา…คิดจะทำอะไรกัน?” คนทั้งหลายต่างอดสงสัยขึ้นไม่ได้

ท่ามกลางเสียงแห่งความสงสัยและการตั้งคำถาม

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มก็พุ่งเข้าร่างวิญญาณดั่งเดิมของหลงเฉียนเซียงไป

“อัก…อ้ากกก!” เสียงร้องแปลกประหลาดดังออกมาจากปากของหลงเฉียนเซียง

แต่ไม่นานจากนั้นร่างวิญญาณหมอกหุ้มมันก็แผ่ตัวออกฉายภาพต่างๆ มากมายในหมอกนั้นให้คนทั้งหลายได้มองดูกัน

“นี่คือเศษเสี้ยวความทรงจำของหลงเฉียนเซียงหรือ?”

“นั่นมันเผ่าสายลม! เจ้ามารร้ายนี่กลับไปทำลายเผ่าสายลมทั้งเผ่าลงหรือ?”

“แล้วนั่นมันหลานเจ้าโลกหลงเจียงมิใช่หรือ? เขา…เขากลับถูกจับไปทดลองที่เกาะมังกรเลือดด้วย?”

“พระเจ้าช่วย เจ้ามารร้ายนี่มันทำเรื่องชั่วร้ายไว้มากแค่ไหนกัน?”

ภาพต่างๆ มากมายปรากฏขึ้นมาให้เจ้าโลกบนเกาะมังกรสวรรค์ได้เห็น

นี่มันเป็นแค่ภาพจากเสี้ยวความทรงจำของหลงเฉียนเซียงและมิใช่ความทรงจำสมบูรณ์

แต่มันก็มากพอจะทำให้คนทั้งหลายเดือดดาลขึ้นมาได้

หลงเฉียนเซียงและหลงเย่สองคนนั้นได้สร้างความชั่วร้ายไว้มากมายจนเกินกว่าที่จะเอามารร้ายใดๆ มาเทียบ!

บางครั้งนั้นมันเกี่ยวข้องถึงลูกหลานสายตรงหน้าของเจ้าโลกทั้งหลาย!

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายนั้นดำมืดลงไปทันทีที่ได้เห็น

หากเป็นเรื่องคนอื่นย่อมปล่อยผ่านได้ง่าย

แต่ตอนนี้เรื่องที่หลงเฉียนเซียงทำไว้มันบาดลึกเข้าไปถึงจิตใจของใครหลายๆ คน!

จู่ๆ มันก็มีเสียงหนึ่งร้องขึ้น “ดูนั่น! นั่นมันเสียงของเจ้าโลกหลงชา เขากำลังสั่งงานหลงเฉียนเซียง!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างหันไปมองที่จุดเดียวกันทันที

ภาพที่ปรากฏตรงนั้นมันคือภาพตัวหลงเฉียนเซียงที่คุกเข่าลงกับพื้นและฟังคำสั่งของใครบางคนที่ไม่เห็นหน้าอยู่

แต่เสียงนั้นย่อมจะเป็นเจ้าโลกหลงชาแล้ว!

“งานช้าเกินไป ข้าต้องการสายเลือดที่ทรงพลังกว่านี้!” หลงชากล่าวขึ้น

หลงเฉียนเซียงสั่นสะท้านไปทั้งกายและตอบกลับไป “ท่านหลงชาโปรดอภัยให้ความไร้สามารถของเราด้วย ตอนนี้เราพยายามกันมากแล้วจริงๆ เพียงแค่ว่า…มันยังขาดเลือดไปอีกมาก!”

“เช่นนั้นก็ไปฆ่า! แดนตรังค์ตะวันออกนั้นมันมีเผ่าตั้งมากมาย มันย่อมจะมีเลือดหายากอยู่ไม่น้อย! หากเจ้าไปฆ่าคนแล้วมันก็ย่อมจะได้เลือดมาเพิ่มแน่นอน!” หลงชากล่าว

“ขอรับ! ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!” หลงเฉียนเซียงรับคำ

การสนทนานั้นมันไม่สั้นไม่ยาว

แต่คำพูดช่างโหดร้าย ความไม่สนใจชีวิตคนเผ่าเดียวกันนี้มันทำให้คนทั้งหลายขนลุกตั้ง

ความทรงจำของหลงเฉียนเซียงนั้นเผยให้เป็นหลงชาแค่ไม่กี่ครั้ง

มันจึงยืนยันได้ชัดเจนว่าเขานั้นทำการได้อย่างระมัดระวังแค่ไหน

แต่สุดท้ายมันก็ยังมีหลักฐานจนได้!

ฟุบ!

จากนั้นภาพทั้งหมดก็ดับไป

จากนั้นร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเย่หยวนมันก็ค่อยๆ กลับเป็นร่างและเข้าในกายเนื้อเย่หยวนอีกครั้ง

“บรรพบุรุษหมี่เจิ้น เช่นนี้แล้วถือว่าเป็นหลักฐานหรือไม่?” เย่หยวนหันไปมองมังกรฟ้าโกลาหลตัวยักษ์นั้นและกล่าวถามขึ้น

หมี่เจิ้นพยักหน้ารับ “ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมีชื่อเสียงโด่งดัง มันย่อมจะเป็นหลักฐานได้แล้ว!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 2998 ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้ม!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 2998 ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้ม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2998 ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้ม!

หลงชานั้นตกตะลึงอยู่ในหัวใจ

เพราะเขามั่นใจว่าการโจมตีเมื่อครู่มันต้องทำให้เย่หยวนบาดเจ็บหนักจนไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีกแน่!

แต่เย่หยวนกลับลุกขึ้นมา และยังชี้หน้าด่าเขาอีกด้วย!

หรือก็คือตอนนี้เย่หยวนกำลังทนรับสภาพที่กระดูกหักทั่วร่าง

เป็นอาการที่คนทั่วไปไม่อาจจะจินตนาการได้และยืนกลับขึ้นมา?

ไอ้เด็กนี่มันเป็นคนบ้าหรือ?

หลงชานั้นไม่นึกฝันว่ามหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์น้อยๆ คนหนึ่งกลับจะบ้าบิ่นได้ขนาดนี้!

“กลัว? หึๆ นอกจากบรรพบุรุษท่านแล้วมันไม่มีใครที่ทำให้ข้ากลัวได้ในโลกนี้! แค่คนอย่างเจ้า!

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยนี้? การโจมตีเมื่อครู่นั้นข้าแค่คิดสั่งสอนเจ้าให้ได้รู้ว่าตัวเองต่ำต้อยแค่ไหนเท่านั้น!

เรื่องของเจ้าโลกนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะเข้ามายุ่งด้วยได้! แล้วเจ้าคิดจริงๆ ว่าข้าไม่กล้าสังหารเจ้าลง?”

เจ้าโลกหลงชานั้นกล่าวขึ้นมาอย่างจิตสังหารหนักหน่วง

หลงหรานเองก็ไม่คิดว่าหลงชานั้นจะไม่สนใจไว้หน้าใครๆ และลงมือกับมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์อย่างหนักหน่วงเช่นนี้

ในตอนนี้เขาจึงต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ “หลงชา เจ้ายังมียางอายบ้างหรือไม่? เอาสิ! หากเจ้ามีปัญญาก็สังหารพวกเราให้หมดพันกว่าคนเลย! เอาเลย!”

“ไอ้เฒ่าหน้าด้าน! กล้าก็สังหารสิวะ!”

“ยอดเจ้าโลกกลับลงมือต่อมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยคนหนึ่ง เจ้ายังรู้จักยางอายหรือไม่?”

“มาสิวะ! ฆ่าสิ!”

“ฆ่าเลย!”

คนแดนตรังค์ตะวันออกนับพันนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน!

ต่อให้หลงชาจะทำอะไรพวกเขาก็ไม่เคยแสดงทีท่าเช่นนี้ออกมา

แต่ตอนนี้หลงชากลับทำร้ายเย่หยวน!

เย่หยวนนั้นคือผู้กอบกู้ของพวกเขา หากไม่มีเย่หยวนแล้วพวกเขาทั้งหลายคงยังต้องนอนทรมานอยู่ในคุกนรกนั่น

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างผงะไปตามๆ กัน

เพราะดูท่าแล้วพวกเขาเองก็ไม่คิดว่าการลงมือของหลงชานั้นมันจะเหมือนการไปแหย่รังแตนเช่นนี้

ในความคิดของคนทั้งหลายนั้นแม้ว่าหลงชาจะรังแกเด็กแต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดใหญ่โต!

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นมันไม่มีคุณสมบัติจะเข้ามายุ่งเรื่องการพูดคุยของเจ้าโลก

พวกเขานั้นคิดมาตั้งแต่แรกเห็นว่าผู้นำของกลุ่มมันคงเป็นหลงหราน

แต่ตอนนี้พวกเขาได้พบแล้วว่าตัวเองคิดผิดไป!

แต่ละครั้งที่เย่หยวนพูดกล่าวขึ้นมาสีหน้าของคนทั้งหลายมันก็จะเปลี่ยนสีไป

“เฮอะ! ข้าก็อยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะมีหลักฐานอะไรได้! ข้าจะบอกเจ้าก่อน หากเจ้าเอาหลักฐานออกมาไม่ได้และแค่พูดจาไร้สาระ เช่นนั้นแล้ว…ข้าก็จะสังหารให้ พันหรือหมื่นก็สังหารให้ได้!” หลงชากล่าวขึ้นตอบ

เขาต้องยอมแพ้

หากไปหาเรื่องคนทั้งแดนตรังค์ตะวันออกในตอนนี้มันคงมีราคาที่ต้องจ่ายมากเกินไป

ที่เขาวางท่าได้ก่อนหน้านั้นมันก็เพราะว่าตำแหน่งของตัวเอง

เจ้าโลกนั้นสูงส่งไม่อาจจะถูกลบหลู่ได้ นี่คือความคิดที่ทุกคนมีในหัวใจ

แต่ตอนนี้เย่หยวนมีทั้งแดนตรังค์ตะวันออกหนุนหลัง

ดังนั้นสถานะของเย่หยวนมันย่อมจะไม่เป็นแค่เห็นน้อยคนหนึ่งแล้ว

“จ้าวเยว่!”

เย่หยวนหันไปมองเรียก

จ้าวเยว่นั้นเข้าใจเป้าหมายของเย่หยวนทันทีและอ้าปากคายเศษวิญญาณหนึ่งออกมา

เศษวิญญาณนี้มีแต่รูทั่วร่าง

มันเป็นสภาพที่น่าสมเพชอย่างมากแต่หน้าตาของเขานั้นมันก็ยังแยกแยะได้ชัดเจนว่าเป็นใคร

หลงเฉียนเซียง!

“หลงเฉียนเซียง! มันกลับยังไม่ตาย!”

“แต่สภาพเช่นนี้มันจะต่างอะไรจากคนตาย?”

“สติของมันนั้นเลือนรางเต็มที เช่นนี้มันจะต่างอะไรจากคนบ้า คำพูดของมันนี้จะเป็นหลักฐานได้หรือ?”

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องส่ายหัวออกมาเพราะรู้สึกว่าเย่หยวนช่างโง่เง่า

มันมิใช่ว่าคำพูดของหลงเฉียนเซียงสาวถึงตัวหลงชาไม่ได้

แต่อย่างน้อยๆ มันก็ต้องเป็นคำพูดของหลงเฉียนเซียงในตอนที่ยังมีสติวิญญาณดั่งเดิมสมประกอบมิใช่หรือ?

แล้วนี่มันอะไร?

เมื่อหลงชาได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “นี่หรือคือหลักฐานของเจ้า? เจ้าคิดว่าเจ้าโลกทั้งหลายนั้นโง่เง่ามากนักแล้ว?”

ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นหมี่เจิ้นไม่ได้กล่าวพูดอะไรออกมา

เขานั้นวางตัวเหนือกิจบนโลกหล้า ราวกับว่าฟ้าดินนี้มันอยู่ใต้การดูแลของเขา

เย่หยวนไม่คิดพูดเถียงใดๆ กลับไปและแยกร่างวิญญาณมนุษย์ของตัวเองออกมาเปลี่ยนกลายเป็นหมอกหนา

หลงชาต้องเบิกตากว้างขึ้น “ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม! ไอ้เด็กนี่มันกลับมีเต๋าวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนี้หรือ?”

ตอนนี้แม้แต่หมี่เจิ้นเองก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นร่างวิญญาณขึ้นชื่อของเผ่าวิญญาณ!

เพราะแม้แต่เจ้าโลกเทียนเหวินนั้นเองก็ยังอ่อนแอไปเลยเมื่อเทียบกับร่างวิญญาณนี้

แต่จู่ๆ มันกลับมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มปรากฏขึ้นมาต่อหน้าพวกเขา มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่แตกตื่นได้?

เจ้าโลกคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาขัดไว้ “ข้าได้ยินมาว่าตระกูลวิญญาณนิพพานนั้นมีร่างวิญญาณกึ่งอมตะอยู่มากมาย บางทีเจ้าเด็กนี่ก็คงเป็นเช่นนั้นแล้ว? ไม่ต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตหรอก!”

“ไม่ ร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงแน่นอน เพราะในร่างวิญญาณของเขานั้นมันมีคลื่นโกลาหลแฝงอยู่ทั่วไปหมด เหมือนกับผีเฒ่าบู๋เมี่ย! ไม่สิ เดี๋ยวนะ! ร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเจ้าเด็กนี่มันแปลกนัก มันกลับมีเมล็ดคลื่นกำเนิดแฝงไว้มากมาย!” หลงเจี้ยนนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างตกตะลึง

เขาและหลงชานั้นต่างเป็นยอดเจ้าโลกของเผ่ามังกรย่อมจะมีพลังไม่ด้อยกว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยและมีประสบการณ์ความรู้ที่ไม่ด้อยกว่ากันด้วย

คำพูดของเขานี้ทำให้คนทั้งหลายแตกตื่นไปทันที

เช่นนั้นหมายความว่าร่างวิญญาณของเย่หยวนนี้มันอาจจะพัฒนาได้มากกว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยหรือ?

“แต่ว่าเขา…คิดจะทำอะไรกัน?” คนทั้งหลายต่างอดสงสัยขึ้นไม่ได้

ท่ามกลางเสียงแห่งความสงสัยและการตั้งคำถาม

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มก็พุ่งเข้าร่างวิญญาณดั่งเดิมของหลงเฉียนเซียงไป

“อัก…อ้ากกก!” เสียงร้องแปลกประหลาดดังออกมาจากปากของหลงเฉียนเซียง

แต่ไม่นานจากนั้นร่างวิญญาณหมอกหุ้มมันก็แผ่ตัวออกฉายภาพต่างๆ มากมายในหมอกนั้นให้คนทั้งหลายได้มองดูกัน

“นี่คือเศษเสี้ยวความทรงจำของหลงเฉียนเซียงหรือ?”

“นั่นมันเผ่าสายลม! เจ้ามารร้ายนี่กลับไปทำลายเผ่าสายลมทั้งเผ่าลงหรือ?”

“แล้วนั่นมันหลานเจ้าโลกหลงเจียงมิใช่หรือ? เขา…เขากลับถูกจับไปทดลองที่เกาะมังกรเลือดด้วย?”

“พระเจ้าช่วย เจ้ามารร้ายนี่มันทำเรื่องชั่วร้ายไว้มากแค่ไหนกัน?”

ภาพต่างๆ มากมายปรากฏขึ้นมาให้เจ้าโลกบนเกาะมังกรสวรรค์ได้เห็น

นี่มันเป็นแค่ภาพจากเสี้ยวความทรงจำของหลงเฉียนเซียงและมิใช่ความทรงจำสมบูรณ์

แต่มันก็มากพอจะทำให้คนทั้งหลายเดือดดาลขึ้นมาได้

หลงเฉียนเซียงและหลงเย่สองคนนั้นได้สร้างความชั่วร้ายไว้มากมายจนเกินกว่าที่จะเอามารร้ายใดๆ มาเทียบ!

บางครั้งนั้นมันเกี่ยวข้องถึงลูกหลานสายตรงหน้าของเจ้าโลกทั้งหลาย!

สีหน้าของเจ้าโลกทั้งหลายนั้นดำมืดลงไปทันทีที่ได้เห็น

หากเป็นเรื่องคนอื่นย่อมปล่อยผ่านได้ง่าย

แต่ตอนนี้เรื่องที่หลงเฉียนเซียงทำไว้มันบาดลึกเข้าไปถึงจิตใจของใครหลายๆ คน!

จู่ๆ มันก็มีเสียงหนึ่งร้องขึ้น “ดูนั่น! นั่นมันเสียงของเจ้าโลกหลงชา เขากำลังสั่งงานหลงเฉียนเซียง!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างหันไปมองที่จุดเดียวกันทันที

ภาพที่ปรากฏตรงนั้นมันคือภาพตัวหลงเฉียนเซียงที่คุกเข่าลงกับพื้นและฟังคำสั่งของใครบางคนที่ไม่เห็นหน้าอยู่

แต่เสียงนั้นย่อมจะเป็นเจ้าโลกหลงชาแล้ว!

“งานช้าเกินไป ข้าต้องการสายเลือดที่ทรงพลังกว่านี้!” หลงชากล่าวขึ้น

หลงเฉียนเซียงสั่นสะท้านไปทั้งกายและตอบกลับไป “ท่านหลงชาโปรดอภัยให้ความไร้สามารถของเราด้วย ตอนนี้เราพยายามกันมากแล้วจริงๆ เพียงแค่ว่า…มันยังขาดเลือดไปอีกมาก!”

“เช่นนั้นก็ไปฆ่า! แดนตรังค์ตะวันออกนั้นมันมีเผ่าตั้งมากมาย มันย่อมจะมีเลือดหายากอยู่ไม่น้อย! หากเจ้าไปฆ่าคนแล้วมันก็ย่อมจะได้เลือดมาเพิ่มแน่นอน!” หลงชากล่าว

“ขอรับ! ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!” หลงเฉียนเซียงรับคำ

การสนทนานั้นมันไม่สั้นไม่ยาว

แต่คำพูดช่างโหดร้าย ความไม่สนใจชีวิตคนเผ่าเดียวกันนี้มันทำให้คนทั้งหลายขนลุกตั้ง

ความทรงจำของหลงเฉียนเซียงนั้นเผยให้เป็นหลงชาแค่ไม่กี่ครั้ง

มันจึงยืนยันได้ชัดเจนว่าเขานั้นทำการได้อย่างระมัดระวังแค่ไหน

แต่สุดท้ายมันก็ยังมีหลักฐานจนได้!

ฟุบ!

จากนั้นภาพทั้งหมดก็ดับไป

จากนั้นร่างวิญญาณหมอกหุ้มของเย่หยวนมันก็ค่อยๆ กลับเป็นร่างและเข้าในกายเนื้อเย่หยวนอีกครั้ง

“บรรพบุรุษหมี่เจิ้น เช่นนี้แล้วถือว่าเป็นหลักฐานหรือไม่?” เย่หยวนหันไปมองมังกรฟ้าโกลาหลตัวยักษ์นั้นและกล่าวถามขึ้น

หมี่เจิ้นพยักหน้ารับ “ศาสตร์อ่านวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมีชื่อเสียงโด่งดัง มันย่อมจะเป็นหลักฐานได้แล้ว!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+