Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3033 บันไดสวรรค์ตั้ง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3033 บันไดสวรรค์ตั้ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3033 บันไดสวรรค์ตั้ง!

สวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก หนึ่งในสามสุดยอดสวรรค์ของเผ่ามนุษย์

ที่แห่งนี้คือสวรรค์ที่มีมนุษย์ปกครองสิ้นเชิง นิกายใหญ่ๆ ทั้งหลายนั้นมันต่างล้วนแล้วแต่เป็นนิกายของเผ่ามนุษย์

แน่นอนว่ายอดอัจฉริยะบนสวรรค์นี้มันก็มีมากมายจนเกินกว่าที่จะนับหัวได้เช่นกัน

บนท้องฟ้านั้นมันมีหลายเงาร่างกำลังยืนมองดูภาพเบื้องล่างด้วยท่าทางเย้ยหยัน

“เฮอะ ไอ้พวกมดปลวกพวกนี้มันคิดจริงๆ หรือว่าโอกาสครั้งใหญ่เช่นนี้จะตกไปถึงมือพวกมันได้? ต่อให้มันจะผ่านบันไดสวรรค์ตั้งไปจริงๆ มันคิดหรือว่าสมบัติสืบทอดนั้นจะตกสู่มือพวกมัน?”

คนที่พูดนั้นเป็นชายหนุ่มนามว่าจั่วชิงหยาง นายน้อยผู้สืบสายเลือดจากตระกูลจั่ว หนึ่งในตระกูลผู้ปกครองสวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก

เขาและคนรอบๆ ตัวเขาในตอนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นยอดอัจฉริยะที่เก่งกาจล้ำที่สุดของสวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก

ฝีมือของพวกเขานั้นมันเหนือล้ำคนระดับเดียวกันไปสิ้นเชิง

พวกเขาทั้งหลายนั้นหนึ่งคือหลู่ห่าวหรันจากนิกายสวรรค์ทำนองอเวจี อีกหนึ่งคือหวังหนิงเหยียนจากศาลาสวรรค์ม่วงล้ำและสุดท้ายคือโจวเซียนเฉินจากราชวังสวรรค์โจว

คนทั้งสี่นี้คืออัจฉริยะที่เก่งกาจที่สุดของเผ่ามนุษย์ในยุคสมัยนี้แล้วก็ว่าได้!

ก่อนนั้นแม้ว่าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตจะพลาดท่าล่มสลายลงแต่มันก็ได้ผลักดันให้มนุษย์กลายเป็นเผ่าใหญ่ค้ำสวรรค์ขึ้นมา

สวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก สวรรค์มหาศาลจำกัดนภาและสวรรค์สาบานเมฆาไร้ยอดนั้นได้ผงาดขึ้นมาเป็นสามสุดยอดสวรรค์ที่มีมนุษย์ปกครองเด็ดขาด!

สามสุดยอดสวรรค์ของเผ่ามนุษย์นี้มีสิบสามค่ายสำนักใหญ่ปกครองและมียอดฝีมือล้ำสวรรค์รวมๆ ถึงสิบคนด้วยกัน มากกว่าสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างไปเสียด้วยซ้ำ

จั่วชิงหยาง หลู่ห่าวหรัน หวังหนิงเหยียนและโจวเซียนเฉินทั้งสี่คนนี้ต่างเป็นยอดอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามนุษย์!

พวกเขาแต่ละคนนั้นสามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้ง่ายๆ มีฝีมือเก่งกาจล้ำ!

เพราะฉะนั้นคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันนั้นจึงไม่อยู่ในสายตาพวกเขาเลย

บันไดสวรรค์ตั้งนั้นมันเป็นเส้นทางที่นำขึ้นไปสู่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต มีเพียงแค่คนที่ผ่านบันไดนี้ขึ้นไปได้เท่านั้นที่จะถือว่าผ่านการทดสอบแรก

ในทุกสวรรค์นั้นมันมีมนุษย์อยู่มากมายแค่ไหน? มันย่อมมิใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิเข้าถึงวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต

“ชิ พูดอย่างกับว่าเจ้าจะได้เองเช่นนั้น!” โจวเซียนเฉินกล่าวขึ้นมาขัด

จั่วชิงหยางไม่ได้ไม่พอใจอะไรแต่ตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก “ใครมันไม่รู้จักโม้บ้าง? แต่การกระทำนั้นมันดังกว่าคำพูดเสมอ เดี๋ยวเราก็คงได้รู้กันว่าใครมีค่ากว่ากัน”

หวังหนิงเหยียนนั้นเป็นหญิงงามที่มีท่าทางสุดสง่า ความสวยงามของนางนั้นมันทำให้คนที่ได้เห็นต้องแทบสิ้นใจ

แต่ตอนนี้นางได้เปิดปากกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหวานไพเราะ “พี่จั่วพูดถูกแล้ว การทดสอบเช่นนี้มันไม่มีค่าใด หากไม่พูดถึงเผ่าอื่นๆ และพูดถึงแค่เผ่ามนุษย์เราสุดท้ายแล้วคนที่จะขึ้นไปได้มันก็คงมีแต่คนจากสิบสามค่ายสำนักใหญ่เราเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเปิดเส้นทางนี้ให้สวรรค์ระดับล่างๆ เลย หวูเทียนคนนี้เก่งกาจมากพรสวรรค์คาดเดาถึงอนาคตได้แต่ข้าว่ามันก็คงไม่ได้เหนือล้ำไปกว่านั้นหรอก”

โจวเซียนเฉินและพวกพยักหน้ารับขึ้นทันที เพราะพวกเขานั้นก็คิดไม่ต่างจากนางมากมาย เพียงแค่ว่าคนทั้งหลายนั้นคิดอวดอ้างทับถมกันจึงไม่คิดจะเสริมคำพูดของกันและกันเท่านั้น

จั่วชิงหยางกล่าวขึ้น “พูดกับพวกเจ้าไปอีกก็เสียเวลาเปล่า ข้าลงไปก่อนล่ะ! ให้พวกมดปลวกมันได้รู้เสียหน่อยว่าตัวเองไร้ค่าแค่ไหน เผื่อพวกมันจะกลับใจได้!”

พูดจบจั่วชิงหยางก็พุ่งตัวลงไปเหยียบบันไดสวรรค์ตั้งขั้นแรก

โจวเซียนเฉินยิ้มขึ้น “เจ้าหมอนี่มันช่างขี้โม้โอ้อวดเสียจริงๆ!”

แน่นอนว่าเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นคนที่กำลังก้าวขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งนั้นต่างแตกตื่นไป

“เร็วนัก! ใครกันนั่นทำไมถึงไม่สนใจพลังกดดันยอดเต๋าได้เช่นนี้?”

“นั่นมันจั่วชิงหยางแห่งตระกูลจั่ว! สมชื่อว่าเป็นนายน้อยแห่งสวรรค์จริงๆ กำลังของเขานั้นมันเหนือล้ำนัก!”

“มีเขาอยู่ด้วยแล้วต่อให้เราจะปีนบันไดสวรรค์ตั้งขึ้นไปได้แล้วมันจะยังมีค่าใดอีก?”

“เฮ้อ ช่องว่างนี้มันใหญ่เกินไป! ข้ารู้ว่าข้านั้นหมายตาสิ่งที่สูงเหนือหัวตน! แต่ข้าก็ไม่อยากจะยอมแพ้เช่นนี้!”

“พวกเจ้าอย่าเพิ่งหมดหวัง! ต่อให้พวกเจ้าจะไม่ได้รับสมบัติสืบทอดแต่ตราบเท่าที่เข้าไปถึงวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้แล้วมันก็คงได้ประโยชน์กลับมาไม่น้อย!”

ได้เห็นการก้าวขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งนั้นคนทั้งหลายก็ต่างรู้สึกไร้ค่าขึ้นมาเต็มอก แต่คนที่ยังดื้อด้านและไม่คิดยอมแพ้มันก็ยังมีอีกมาก เพียงแค่ว่าในตอนนี้บนบันไดสวรรค์ตั้งมันเริ่มจะกลายเป็นบันไดเลือดขึ้นมาแล้ว

บันไดสวรรค์ตั้งนั้นมีทั้งหมดด้วยกันเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้นและแต่ละขั้นนั้นจะต้องทดรับแรงกดดันจากยอดเต๋าที่หนักหน่วงขึ้นกว่าเก่า

บางคนที่ไม่อาจทนรับแรงกดดันได้แต่ฝืนตัวเองขึ้นไปนั้นต่างถูกพลังบดขยี้จนร่างแหลกสลาย

มันเป็นภาพที่เหมือนนรก

คนที่มิใช่ยอดอัจฉริยะจริงๆ นั้นไม่อาจจะผ่านได้แม้แต่ขั้นแรกของบันได

แต่ว่าแรงกดดันยอดเต๋านี้มันก็ยุติธรรมอย่างมาก เพราะมันไม่ต้องใช้พลังบ่มเพาะใดๆ เข้าสู้ สิ่งที่มันทดสอบนั้นคือความใจต่อเต๋า

ต่อให้จะเป็นแค่นักยุทธพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อย หากเข้าใจเต๋าได้อย่างลึกล้ำมันก็มีหวังที่จะผ่านได้

ต่อให้จะมีพลังบ่มเพาะต่ำแค่ไหนมันก็ยังสามารถก้าวขึ้นไปได้หากเข้าใจ

จากนั้นมันก็ปรากฏอีกสามเงาร่างก้าวขึ้นตามหลังไป แน่นอนว่ามันจะเป็นพวกหลู่ห่าวหรันแล้ว

คนทั้งสามนั้นพุ่งตัวขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วตามหลังจั่วชิงหยางไปติดๆ เป็นความเร็วที่ไม่อาจจะมองตามได้ทันเสียด้วยซ้ำ

การปรากฏตัวขึ้นของคนทั้งสามมันย่อมจะทำให้คนที่กำลังไต่บันไดสวรรค์ตั้งนี้แตกตื่นไปอีกรอบ เพราะว่าคนทั้งสามนั้นช่างเก่งกาจล้ำ

คนอื่นๆ นั้นแค่จะก้าวขึ้นไปทีละขั้นยังต้องกระอักเลือดแต่พวกเขานั้นเหมือนกำลังเดินขึ้นบันไดปกติทั่วไป

พวกเขานั้นใช้วิชาการเคลื่อนไหวออกมาเสียด้วยซ้ำ แต่กลับไม่ถูกพลังกดดันยอดเต๋าเล่นงาน

คนทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต้องถอนหายใจยาวออกมา ช่องว่างระหว่างพวกเขามันช่างยิ่งใหญ่นัก

คนทั้งสี่นั้นเคลื่อนไหวกันได้อย่างรวดเร็วพริบตาเดียวก็ไปถึงช่วงห้าหมื่นขั้นแล้ว

แต่หลังจากผ่านห้าหมื่นขั้นแรกไปได้พวกเขาก็ค่อยๆ ช้าลงแต่ก็ยังเร็วกว่าคนทั้งหลายที่ขั้นแรกๆ มากมายนัก เพราะว่าพลังกดดันยอดเต๋าที่ขั้นแรกๆ นั้นมันแทบจะไม่ส่งผลอะไรกับพวกเขาเลย

เพราะฉะนั้นคนทั้งหลายนั้นจึงสามารถวิ่งได้อย่างสุดกำลัง

จนถึงขั้นที่เจ็ดหมื่นที่พวกเขาเริ่มจะต้องหยุดเท้าลงเดิน

“เฮอะ จั่วชิงหยาง เจ้ามันชักช้านัก! เช่นนี้เจ้าจะถูกข้าตามทันแน่แล้ว!” หลู่ห่าวหรันร้องตามหลังมา

ในหมู่คนทั้งหลายนั้นเขาเป็นคนที่พูดน้อยที่สุดแต่ก็แข็งแกร่งอย่างมาก

แน่นอนว่าพวกเขานั้นต่อให้จะแข็งแกร่งอ่อนแอกว่ากันไปบ้างแต่สุดท้ายก็มีฝีมือในระดับเดียวกัน

แต่ว่าบันไดสวรรค์ตั้งนี้ แม้แต่ช่องว่างเล็กๆ มันก็จะปรากฏขึ้นมาหลังจากก้าวขึ้นบันไดทั้งเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น

บางสิ่งมันไม่อาจจะปกปิดได้

แน่นอนว่าตอนนี้จั่วชิงหยางไม่กล้าจะเถียงอะไรกลับมาแล้ว

แต่ว่าจั่วชิงหยางนั้นก็ยังไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ และใช้กำลังทั้งหมดเร่งความเร็วขึ้น

ฟุบ!

จั่วชิงหยางกระโดดขึ้นมาเป็นคนแรกที่ก้าวพ้นบันได

เขาหันไปมองหลู่ห่าวหรันที่ตามหลังมาก่อนจะกล่าวเย้ยขึ้น “หลู่ห่าวหรัน โจวเซียนเฉิน พวกเจ้ามันก็ได้แค่นี้แหละ! แต่เรื่องที่แม่นางหนิงเหยียนนั้นได้อันดับหนึ่ง ข้าก็คงได้แต่ต้องยอมรับ!”

เพราะสิ่งที่บันไดสวรรค์ตั้งนี้วัดนั้นคือเวลาที่ใช้

แม้ว่าเขานั้นจะเป็นคนแรกที่ขึ้นพ้นบันไดสวรรค์ตั้ง แต่ว่าเขาก็เป็นคนแรกที่เริ่มก้าวขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งมาเช่นกัน

เพราะฉะนั้นหากนับกันแค่เวลาที่ใช้แล้วหวังหนิงเหยียนจึงนับว่าเป็นคนที่เร็วที่สุด

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

ร่างทั้งสามนั้นเรียกได้ว่าก้าวขึ้นมาแทบพร้อมกัน

ส่วนเบื้องล่างของพวกเขานั้นมันยังมีคนอีกมาที่ได้แต่ค่อยๆ ก้าวขึ้นมาทีละขั้นๆ

หลังจากคนทั้งสี่ขึ้นมาถึงได้พักหนึ่งมันก็มีคนอีกกลุ่มที่ตามขึ้นมาได้

หลู่ห่าวหรันหันไปกล่าว “เจ้าจะทำหน้าภาคภูมิไปเพื่อ? ข้านั้นใช้กำลังไม่ถึงแปดในสิบ เจ้าคงใช้กำลังที่มีทั้งหมดออกมาแล้วมั้ง?”

โจวเซียนเฉินเองก็กล่าวขึ้นตาม “ข้าเองก็ใช้กำลังไปแค่แปดในสิบ ตำแหน่งอันดับหนึ่งนั้นยกให้แม่นาง หนิงเหยียนไปเถอะ!”

หวังหนิงเหยียนที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “ทำไม? หรือว่าอันดับหนึ่งของข้านี้ยังต้องให้พวกเจ้าอ่อนข้อให้ด้วย?”

โจวเซียนเฉินยิ้มตอบกลับไป “ดูปากข้าสิ แม่นางหนิงเหยียนนั้นเป็นนางงามที่สุดบนสวรรค์ ทำไมต้องให้คนอื่นมาอ่อนข้อให้ด้วย? ข้านั้นแค่จะเย้ยหยันจั่วชิงหยางมันเท่านั้น แม่นางหนิงเหยียนนั้นสมควรได้รับอันดับหนึ่งที่สุดแล้ว!”

หวังหนิงเหยียนได้แต่ต้องหัวเราะส่ายหัวกล่าวขึ้น “เลิกมาพูดจาไร้สาระเสียที ไปดูรายชื่อรวมสวรรค์กันเถอะ มาดูกันว่าใครที่จะเป็นอันดับหนึ่งในการปีนบันไดสวรรค์ตั้งครั้งนี้!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3033 บันไดสวรรค์ตั้ง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3033 บันไดสวรรค์ตั้ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3033 บันไดสวรรค์ตั้ง!

สวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก หนึ่งในสามสุดยอดสวรรค์ของเผ่ามนุษย์

ที่แห่งนี้คือสวรรค์ที่มีมนุษย์ปกครองสิ้นเชิง นิกายใหญ่ๆ ทั้งหลายนั้นมันต่างล้วนแล้วแต่เป็นนิกายของเผ่ามนุษย์

แน่นอนว่ายอดอัจฉริยะบนสวรรค์นี้มันก็มีมากมายจนเกินกว่าที่จะนับหัวได้เช่นกัน

บนท้องฟ้านั้นมันมีหลายเงาร่างกำลังยืนมองดูภาพเบื้องล่างด้วยท่าทางเย้ยหยัน

“เฮอะ ไอ้พวกมดปลวกพวกนี้มันคิดจริงๆ หรือว่าโอกาสครั้งใหญ่เช่นนี้จะตกไปถึงมือพวกมันได้? ต่อให้มันจะผ่านบันไดสวรรค์ตั้งไปจริงๆ มันคิดหรือว่าสมบัติสืบทอดนั้นจะตกสู่มือพวกมัน?”

คนที่พูดนั้นเป็นชายหนุ่มนามว่าจั่วชิงหยาง นายน้อยผู้สืบสายเลือดจากตระกูลจั่ว หนึ่งในตระกูลผู้ปกครองสวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก

เขาและคนรอบๆ ตัวเขาในตอนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นยอดอัจฉริยะที่เก่งกาจล้ำที่สุดของสวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก

ฝีมือของพวกเขานั้นมันเหนือล้ำคนระดับเดียวกันไปสิ้นเชิง

พวกเขาทั้งหลายนั้นหนึ่งคือหลู่ห่าวหรันจากนิกายสวรรค์ทำนองอเวจี อีกหนึ่งคือหวังหนิงเหยียนจากศาลาสวรรค์ม่วงล้ำและสุดท้ายคือโจวเซียนเฉินจากราชวังสวรรค์โจว

คนทั้งสี่นี้คืออัจฉริยะที่เก่งกาจที่สุดของเผ่ามนุษย์ในยุคสมัยนี้แล้วก็ว่าได้!

ก่อนนั้นแม้ว่าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตจะพลาดท่าล่มสลายลงแต่มันก็ได้ผลักดันให้มนุษย์กลายเป็นเผ่าใหญ่ค้ำสวรรค์ขึ้นมา

สวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก สวรรค์มหาศาลจำกัดนภาและสวรรค์สาบานเมฆาไร้ยอดนั้นได้ผงาดขึ้นมาเป็นสามสุดยอดสวรรค์ที่มีมนุษย์ปกครองเด็ดขาด!

สามสุดยอดสวรรค์ของเผ่ามนุษย์นี้มีสิบสามค่ายสำนักใหญ่ปกครองและมียอดฝีมือล้ำสวรรค์รวมๆ ถึงสิบคนด้วยกัน มากกว่าสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างไปเสียด้วยซ้ำ

จั่วชิงหยาง หลู่ห่าวหรัน หวังหนิงเหยียนและโจวเซียนเฉินทั้งสี่คนนี้ต่างเป็นยอดอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามนุษย์!

พวกเขาแต่ละคนนั้นสามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้ง่ายๆ มีฝีมือเก่งกาจล้ำ!

เพราะฉะนั้นคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันนั้นจึงไม่อยู่ในสายตาพวกเขาเลย

บันไดสวรรค์ตั้งนั้นมันเป็นเส้นทางที่นำขึ้นไปสู่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต มีเพียงแค่คนที่ผ่านบันไดนี้ขึ้นไปได้เท่านั้นที่จะถือว่าผ่านการทดสอบแรก

ในทุกสวรรค์นั้นมันมีมนุษย์อยู่มากมายแค่ไหน? มันย่อมมิใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิเข้าถึงวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต

“ชิ พูดอย่างกับว่าเจ้าจะได้เองเช่นนั้น!” โจวเซียนเฉินกล่าวขึ้นมาขัด

จั่วชิงหยางไม่ได้ไม่พอใจอะไรแต่ตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก “ใครมันไม่รู้จักโม้บ้าง? แต่การกระทำนั้นมันดังกว่าคำพูดเสมอ เดี๋ยวเราก็คงได้รู้กันว่าใครมีค่ากว่ากัน”

หวังหนิงเหยียนนั้นเป็นหญิงงามที่มีท่าทางสุดสง่า ความสวยงามของนางนั้นมันทำให้คนที่ได้เห็นต้องแทบสิ้นใจ

แต่ตอนนี้นางได้เปิดปากกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหวานไพเราะ “พี่จั่วพูดถูกแล้ว การทดสอบเช่นนี้มันไม่มีค่าใด หากไม่พูดถึงเผ่าอื่นๆ และพูดถึงแค่เผ่ามนุษย์เราสุดท้ายแล้วคนที่จะขึ้นไปได้มันก็คงมีแต่คนจากสิบสามค่ายสำนักใหญ่เราเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเปิดเส้นทางนี้ให้สวรรค์ระดับล่างๆ เลย หวูเทียนคนนี้เก่งกาจมากพรสวรรค์คาดเดาถึงอนาคตได้แต่ข้าว่ามันก็คงไม่ได้เหนือล้ำไปกว่านั้นหรอก”

โจวเซียนเฉินและพวกพยักหน้ารับขึ้นทันที เพราะพวกเขานั้นก็คิดไม่ต่างจากนางมากมาย เพียงแค่ว่าคนทั้งหลายนั้นคิดอวดอ้างทับถมกันจึงไม่คิดจะเสริมคำพูดของกันและกันเท่านั้น

จั่วชิงหยางกล่าวขึ้น “พูดกับพวกเจ้าไปอีกก็เสียเวลาเปล่า ข้าลงไปก่อนล่ะ! ให้พวกมดปลวกมันได้รู้เสียหน่อยว่าตัวเองไร้ค่าแค่ไหน เผื่อพวกมันจะกลับใจได้!”

พูดจบจั่วชิงหยางก็พุ่งตัวลงไปเหยียบบันไดสวรรค์ตั้งขั้นแรก

โจวเซียนเฉินยิ้มขึ้น “เจ้าหมอนี่มันช่างขี้โม้โอ้อวดเสียจริงๆ!”

แน่นอนว่าเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นคนที่กำลังก้าวขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งนั้นต่างแตกตื่นไป

“เร็วนัก! ใครกันนั่นทำไมถึงไม่สนใจพลังกดดันยอดเต๋าได้เช่นนี้?”

“นั่นมันจั่วชิงหยางแห่งตระกูลจั่ว! สมชื่อว่าเป็นนายน้อยแห่งสวรรค์จริงๆ กำลังของเขานั้นมันเหนือล้ำนัก!”

“มีเขาอยู่ด้วยแล้วต่อให้เราจะปีนบันไดสวรรค์ตั้งขึ้นไปได้แล้วมันจะยังมีค่าใดอีก?”

“เฮ้อ ช่องว่างนี้มันใหญ่เกินไป! ข้ารู้ว่าข้านั้นหมายตาสิ่งที่สูงเหนือหัวตน! แต่ข้าก็ไม่อยากจะยอมแพ้เช่นนี้!”

“พวกเจ้าอย่าเพิ่งหมดหวัง! ต่อให้พวกเจ้าจะไม่ได้รับสมบัติสืบทอดแต่ตราบเท่าที่เข้าไปถึงวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้แล้วมันก็คงได้ประโยชน์กลับมาไม่น้อย!”

ได้เห็นการก้าวขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งนั้นคนทั้งหลายก็ต่างรู้สึกไร้ค่าขึ้นมาเต็มอก แต่คนที่ยังดื้อด้านและไม่คิดยอมแพ้มันก็ยังมีอีกมาก เพียงแค่ว่าในตอนนี้บนบันไดสวรรค์ตั้งมันเริ่มจะกลายเป็นบันไดเลือดขึ้นมาแล้ว

บันไดสวรรค์ตั้งนั้นมีทั้งหมดด้วยกันเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้นและแต่ละขั้นนั้นจะต้องทดรับแรงกดดันจากยอดเต๋าที่หนักหน่วงขึ้นกว่าเก่า

บางคนที่ไม่อาจทนรับแรงกดดันได้แต่ฝืนตัวเองขึ้นไปนั้นต่างถูกพลังบดขยี้จนร่างแหลกสลาย

มันเป็นภาพที่เหมือนนรก

คนที่มิใช่ยอดอัจฉริยะจริงๆ นั้นไม่อาจจะผ่านได้แม้แต่ขั้นแรกของบันได

แต่ว่าแรงกดดันยอดเต๋านี้มันก็ยุติธรรมอย่างมาก เพราะมันไม่ต้องใช้พลังบ่มเพาะใดๆ เข้าสู้ สิ่งที่มันทดสอบนั้นคือความใจต่อเต๋า

ต่อให้จะเป็นแค่นักยุทธพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อย หากเข้าใจเต๋าได้อย่างลึกล้ำมันก็มีหวังที่จะผ่านได้

ต่อให้จะมีพลังบ่มเพาะต่ำแค่ไหนมันก็ยังสามารถก้าวขึ้นไปได้หากเข้าใจ

จากนั้นมันก็ปรากฏอีกสามเงาร่างก้าวขึ้นตามหลังไป แน่นอนว่ามันจะเป็นพวกหลู่ห่าวหรันแล้ว

คนทั้งสามนั้นพุ่งตัวขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วตามหลังจั่วชิงหยางไปติดๆ เป็นความเร็วที่ไม่อาจจะมองตามได้ทันเสียด้วยซ้ำ

การปรากฏตัวขึ้นของคนทั้งสามมันย่อมจะทำให้คนที่กำลังไต่บันไดสวรรค์ตั้งนี้แตกตื่นไปอีกรอบ เพราะว่าคนทั้งสามนั้นช่างเก่งกาจล้ำ

คนอื่นๆ นั้นแค่จะก้าวขึ้นไปทีละขั้นยังต้องกระอักเลือดแต่พวกเขานั้นเหมือนกำลังเดินขึ้นบันไดปกติทั่วไป

พวกเขานั้นใช้วิชาการเคลื่อนไหวออกมาเสียด้วยซ้ำ แต่กลับไม่ถูกพลังกดดันยอดเต๋าเล่นงาน

คนทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต้องถอนหายใจยาวออกมา ช่องว่างระหว่างพวกเขามันช่างยิ่งใหญ่นัก

คนทั้งสี่นั้นเคลื่อนไหวกันได้อย่างรวดเร็วพริบตาเดียวก็ไปถึงช่วงห้าหมื่นขั้นแล้ว

แต่หลังจากผ่านห้าหมื่นขั้นแรกไปได้พวกเขาก็ค่อยๆ ช้าลงแต่ก็ยังเร็วกว่าคนทั้งหลายที่ขั้นแรกๆ มากมายนัก เพราะว่าพลังกดดันยอดเต๋าที่ขั้นแรกๆ นั้นมันแทบจะไม่ส่งผลอะไรกับพวกเขาเลย

เพราะฉะนั้นคนทั้งหลายนั้นจึงสามารถวิ่งได้อย่างสุดกำลัง

จนถึงขั้นที่เจ็ดหมื่นที่พวกเขาเริ่มจะต้องหยุดเท้าลงเดิน

“เฮอะ จั่วชิงหยาง เจ้ามันชักช้านัก! เช่นนี้เจ้าจะถูกข้าตามทันแน่แล้ว!” หลู่ห่าวหรันร้องตามหลังมา

ในหมู่คนทั้งหลายนั้นเขาเป็นคนที่พูดน้อยที่สุดแต่ก็แข็งแกร่งอย่างมาก

แน่นอนว่าพวกเขานั้นต่อให้จะแข็งแกร่งอ่อนแอกว่ากันไปบ้างแต่สุดท้ายก็มีฝีมือในระดับเดียวกัน

แต่ว่าบันไดสวรรค์ตั้งนี้ แม้แต่ช่องว่างเล็กๆ มันก็จะปรากฏขึ้นมาหลังจากก้าวขึ้นบันไดทั้งเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น

บางสิ่งมันไม่อาจจะปกปิดได้

แน่นอนว่าตอนนี้จั่วชิงหยางไม่กล้าจะเถียงอะไรกลับมาแล้ว

แต่ว่าจั่วชิงหยางนั้นก็ยังไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ และใช้กำลังทั้งหมดเร่งความเร็วขึ้น

ฟุบ!

จั่วชิงหยางกระโดดขึ้นมาเป็นคนแรกที่ก้าวพ้นบันได

เขาหันไปมองหลู่ห่าวหรันที่ตามหลังมาก่อนจะกล่าวเย้ยขึ้น “หลู่ห่าวหรัน โจวเซียนเฉิน พวกเจ้ามันก็ได้แค่นี้แหละ! แต่เรื่องที่แม่นางหนิงเหยียนนั้นได้อันดับหนึ่ง ข้าก็คงได้แต่ต้องยอมรับ!”

เพราะสิ่งที่บันไดสวรรค์ตั้งนี้วัดนั้นคือเวลาที่ใช้

แม้ว่าเขานั้นจะเป็นคนแรกที่ขึ้นพ้นบันไดสวรรค์ตั้ง แต่ว่าเขาก็เป็นคนแรกที่เริ่มก้าวขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งมาเช่นกัน

เพราะฉะนั้นหากนับกันแค่เวลาที่ใช้แล้วหวังหนิงเหยียนจึงนับว่าเป็นคนที่เร็วที่สุด

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

ร่างทั้งสามนั้นเรียกได้ว่าก้าวขึ้นมาแทบพร้อมกัน

ส่วนเบื้องล่างของพวกเขานั้นมันยังมีคนอีกมาที่ได้แต่ค่อยๆ ก้าวขึ้นมาทีละขั้นๆ

หลังจากคนทั้งสี่ขึ้นมาถึงได้พักหนึ่งมันก็มีคนอีกกลุ่มที่ตามขึ้นมาได้

หลู่ห่าวหรันหันไปกล่าว “เจ้าจะทำหน้าภาคภูมิไปเพื่อ? ข้านั้นใช้กำลังไม่ถึงแปดในสิบ เจ้าคงใช้กำลังที่มีทั้งหมดออกมาแล้วมั้ง?”

โจวเซียนเฉินเองก็กล่าวขึ้นตาม “ข้าเองก็ใช้กำลังไปแค่แปดในสิบ ตำแหน่งอันดับหนึ่งนั้นยกให้แม่นาง หนิงเหยียนไปเถอะ!”

หวังหนิงเหยียนที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “ทำไม? หรือว่าอันดับหนึ่งของข้านี้ยังต้องให้พวกเจ้าอ่อนข้อให้ด้วย?”

โจวเซียนเฉินยิ้มตอบกลับไป “ดูปากข้าสิ แม่นางหนิงเหยียนนั้นเป็นนางงามที่สุดบนสวรรค์ ทำไมต้องให้คนอื่นมาอ่อนข้อให้ด้วย? ข้านั้นแค่จะเย้ยหยันจั่วชิงหยางมันเท่านั้น แม่นางหนิงเหยียนนั้นสมควรได้รับอันดับหนึ่งที่สุดแล้ว!”

หวังหนิงเหยียนได้แต่ต้องหัวเราะส่ายหัวกล่าวขึ้น “เลิกมาพูดจาไร้สาระเสียที ไปดูรายชื่อรวมสวรรค์กันเถอะ มาดูกันว่าใครที่จะเป็นอันดับหนึ่งในการปีนบันไดสวรรค์ตั้งครั้งนี้!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3033 บันไดสวรรค์ตั้ง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3033 บันไดสวรรค์ตั้ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3033 บันไดสวรรค์ตั้ง!

สวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก หนึ่งในสามสุดยอดสวรรค์ของเผ่ามนุษย์

ที่แห่งนี้คือสวรรค์ที่มีมนุษย์ปกครองสิ้นเชิง นิกายใหญ่ๆ ทั้งหลายนั้นมันต่างล้วนแล้วแต่เป็นนิกายของเผ่ามนุษย์

แน่นอนว่ายอดอัจฉริยะบนสวรรค์นี้มันก็มีมากมายจนเกินกว่าที่จะนับหัวได้เช่นกัน

บนท้องฟ้านั้นมันมีหลายเงาร่างกำลังยืนมองดูภาพเบื้องล่างด้วยท่าทางเย้ยหยัน

“เฮอะ ไอ้พวกมดปลวกพวกนี้มันคิดจริงๆ หรือว่าโอกาสครั้งใหญ่เช่นนี้จะตกไปถึงมือพวกมันได้? ต่อให้มันจะผ่านบันไดสวรรค์ตั้งไปจริงๆ มันคิดหรือว่าสมบัติสืบทอดนั้นจะตกสู่มือพวกมัน?”

คนที่พูดนั้นเป็นชายหนุ่มนามว่าจั่วชิงหยาง นายน้อยผู้สืบสายเลือดจากตระกูลจั่ว หนึ่งในตระกูลผู้ปกครองสวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก

เขาและคนรอบๆ ตัวเขาในตอนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นยอดอัจฉริยะที่เก่งกาจล้ำที่สุดของสวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก

ฝีมือของพวกเขานั้นมันเหนือล้ำคนระดับเดียวกันไปสิ้นเชิง

พวกเขาทั้งหลายนั้นหนึ่งคือหลู่ห่าวหรันจากนิกายสวรรค์ทำนองอเวจี อีกหนึ่งคือหวังหนิงเหยียนจากศาลาสวรรค์ม่วงล้ำและสุดท้ายคือโจวเซียนเฉินจากราชวังสวรรค์โจว

คนทั้งสี่นี้คืออัจฉริยะที่เก่งกาจที่สุดของเผ่ามนุษย์ในยุคสมัยนี้แล้วก็ว่าได้!

ก่อนนั้นแม้ว่าวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตจะพลาดท่าล่มสลายลงแต่มันก็ได้ผลักดันให้มนุษย์กลายเป็นเผ่าใหญ่ค้ำสวรรค์ขึ้นมา

สวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก สวรรค์มหาศาลจำกัดนภาและสวรรค์สาบานเมฆาไร้ยอดนั้นได้ผงาดขึ้นมาเป็นสามสุดยอดสวรรค์ที่มีมนุษย์ปกครองเด็ดขาด!

สามสุดยอดสวรรค์ของเผ่ามนุษย์นี้มีสิบสามค่ายสำนักใหญ่ปกครองและมียอดฝีมือล้ำสวรรค์รวมๆ ถึงสิบคนด้วยกัน มากกว่าสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างไปเสียด้วยซ้ำ

จั่วชิงหยาง หลู่ห่าวหรัน หวังหนิงเหยียนและโจวเซียนเฉินทั้งสี่คนนี้ต่างเป็นยอดอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามนุษย์!

พวกเขาแต่ละคนนั้นสามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้ง่ายๆ มีฝีมือเก่งกาจล้ำ!

เพราะฉะนั้นคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันนั้นจึงไม่อยู่ในสายตาพวกเขาเลย

บันไดสวรรค์ตั้งนั้นมันเป็นเส้นทางที่นำขึ้นไปสู่วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต มีเพียงแค่คนที่ผ่านบันไดนี้ขึ้นไปได้เท่านั้นที่จะถือว่าผ่านการทดสอบแรก

ในทุกสวรรค์นั้นมันมีมนุษย์อยู่มากมายแค่ไหน? มันย่อมมิใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิเข้าถึงวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต

“ชิ พูดอย่างกับว่าเจ้าจะได้เองเช่นนั้น!” โจวเซียนเฉินกล่าวขึ้นมาขัด

จั่วชิงหยางไม่ได้ไม่พอใจอะไรแต่ตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก “ใครมันไม่รู้จักโม้บ้าง? แต่การกระทำนั้นมันดังกว่าคำพูดเสมอ เดี๋ยวเราก็คงได้รู้กันว่าใครมีค่ากว่ากัน”

หวังหนิงเหยียนนั้นเป็นหญิงงามที่มีท่าทางสุดสง่า ความสวยงามของนางนั้นมันทำให้คนที่ได้เห็นต้องแทบสิ้นใจ

แต่ตอนนี้นางได้เปิดปากกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหวานไพเราะ “พี่จั่วพูดถูกแล้ว การทดสอบเช่นนี้มันไม่มีค่าใด หากไม่พูดถึงเผ่าอื่นๆ และพูดถึงแค่เผ่ามนุษย์เราสุดท้ายแล้วคนที่จะขึ้นไปได้มันก็คงมีแต่คนจากสิบสามค่ายสำนักใหญ่เราเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเปิดเส้นทางนี้ให้สวรรค์ระดับล่างๆ เลย หวูเทียนคนนี้เก่งกาจมากพรสวรรค์คาดเดาถึงอนาคตได้แต่ข้าว่ามันก็คงไม่ได้เหนือล้ำไปกว่านั้นหรอก”

โจวเซียนเฉินและพวกพยักหน้ารับขึ้นทันที เพราะพวกเขานั้นก็คิดไม่ต่างจากนางมากมาย เพียงแค่ว่าคนทั้งหลายนั้นคิดอวดอ้างทับถมกันจึงไม่คิดจะเสริมคำพูดของกันและกันเท่านั้น

จั่วชิงหยางกล่าวขึ้น “พูดกับพวกเจ้าไปอีกก็เสียเวลาเปล่า ข้าลงไปก่อนล่ะ! ให้พวกมดปลวกมันได้รู้เสียหน่อยว่าตัวเองไร้ค่าแค่ไหน เผื่อพวกมันจะกลับใจได้!”

พูดจบจั่วชิงหยางก็พุ่งตัวลงไปเหยียบบันไดสวรรค์ตั้งขั้นแรก

โจวเซียนเฉินยิ้มขึ้น “เจ้าหมอนี่มันช่างขี้โม้โอ้อวดเสียจริงๆ!”

แน่นอนว่าเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นคนที่กำลังก้าวขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งนั้นต่างแตกตื่นไป

“เร็วนัก! ใครกันนั่นทำไมถึงไม่สนใจพลังกดดันยอดเต๋าได้เช่นนี้?”

“นั่นมันจั่วชิงหยางแห่งตระกูลจั่ว! สมชื่อว่าเป็นนายน้อยแห่งสวรรค์จริงๆ กำลังของเขานั้นมันเหนือล้ำนัก!”

“มีเขาอยู่ด้วยแล้วต่อให้เราจะปีนบันไดสวรรค์ตั้งขึ้นไปได้แล้วมันจะยังมีค่าใดอีก?”

“เฮ้อ ช่องว่างนี้มันใหญ่เกินไป! ข้ารู้ว่าข้านั้นหมายตาสิ่งที่สูงเหนือหัวตน! แต่ข้าก็ไม่อยากจะยอมแพ้เช่นนี้!”

“พวกเจ้าอย่าเพิ่งหมดหวัง! ต่อให้พวกเจ้าจะไม่ได้รับสมบัติสืบทอดแต่ตราบเท่าที่เข้าไปถึงวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้แล้วมันก็คงได้ประโยชน์กลับมาไม่น้อย!”

ได้เห็นการก้าวขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งนั้นคนทั้งหลายก็ต่างรู้สึกไร้ค่าขึ้นมาเต็มอก แต่คนที่ยังดื้อด้านและไม่คิดยอมแพ้มันก็ยังมีอีกมาก เพียงแค่ว่าในตอนนี้บนบันไดสวรรค์ตั้งมันเริ่มจะกลายเป็นบันไดเลือดขึ้นมาแล้ว

บันไดสวรรค์ตั้งนั้นมีทั้งหมดด้วยกันเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้นและแต่ละขั้นนั้นจะต้องทดรับแรงกดดันจากยอดเต๋าที่หนักหน่วงขึ้นกว่าเก่า

บางคนที่ไม่อาจทนรับแรงกดดันได้แต่ฝืนตัวเองขึ้นไปนั้นต่างถูกพลังบดขยี้จนร่างแหลกสลาย

มันเป็นภาพที่เหมือนนรก

คนที่มิใช่ยอดอัจฉริยะจริงๆ นั้นไม่อาจจะผ่านได้แม้แต่ขั้นแรกของบันได

แต่ว่าแรงกดดันยอดเต๋านี้มันก็ยุติธรรมอย่างมาก เพราะมันไม่ต้องใช้พลังบ่มเพาะใดๆ เข้าสู้ สิ่งที่มันทดสอบนั้นคือความใจต่อเต๋า

ต่อให้จะเป็นแค่นักยุทธพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อย หากเข้าใจเต๋าได้อย่างลึกล้ำมันก็มีหวังที่จะผ่านได้

ต่อให้จะมีพลังบ่มเพาะต่ำแค่ไหนมันก็ยังสามารถก้าวขึ้นไปได้หากเข้าใจ

จากนั้นมันก็ปรากฏอีกสามเงาร่างก้าวขึ้นตามหลังไป แน่นอนว่ามันจะเป็นพวกหลู่ห่าวหรันแล้ว

คนทั้งสามนั้นพุ่งตัวขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็วตามหลังจั่วชิงหยางไปติดๆ เป็นความเร็วที่ไม่อาจจะมองตามได้ทันเสียด้วยซ้ำ

การปรากฏตัวขึ้นของคนทั้งสามมันย่อมจะทำให้คนที่กำลังไต่บันไดสวรรค์ตั้งนี้แตกตื่นไปอีกรอบ เพราะว่าคนทั้งสามนั้นช่างเก่งกาจล้ำ

คนอื่นๆ นั้นแค่จะก้าวขึ้นไปทีละขั้นยังต้องกระอักเลือดแต่พวกเขานั้นเหมือนกำลังเดินขึ้นบันไดปกติทั่วไป

พวกเขานั้นใช้วิชาการเคลื่อนไหวออกมาเสียด้วยซ้ำ แต่กลับไม่ถูกพลังกดดันยอดเต๋าเล่นงาน

คนทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต้องถอนหายใจยาวออกมา ช่องว่างระหว่างพวกเขามันช่างยิ่งใหญ่นัก

คนทั้งสี่นั้นเคลื่อนไหวกันได้อย่างรวดเร็วพริบตาเดียวก็ไปถึงช่วงห้าหมื่นขั้นแล้ว

แต่หลังจากผ่านห้าหมื่นขั้นแรกไปได้พวกเขาก็ค่อยๆ ช้าลงแต่ก็ยังเร็วกว่าคนทั้งหลายที่ขั้นแรกๆ มากมายนัก เพราะว่าพลังกดดันยอดเต๋าที่ขั้นแรกๆ นั้นมันแทบจะไม่ส่งผลอะไรกับพวกเขาเลย

เพราะฉะนั้นคนทั้งหลายนั้นจึงสามารถวิ่งได้อย่างสุดกำลัง

จนถึงขั้นที่เจ็ดหมื่นที่พวกเขาเริ่มจะต้องหยุดเท้าลงเดิน

“เฮอะ จั่วชิงหยาง เจ้ามันชักช้านัก! เช่นนี้เจ้าจะถูกข้าตามทันแน่แล้ว!” หลู่ห่าวหรันร้องตามหลังมา

ในหมู่คนทั้งหลายนั้นเขาเป็นคนที่พูดน้อยที่สุดแต่ก็แข็งแกร่งอย่างมาก

แน่นอนว่าพวกเขานั้นต่อให้จะแข็งแกร่งอ่อนแอกว่ากันไปบ้างแต่สุดท้ายก็มีฝีมือในระดับเดียวกัน

แต่ว่าบันไดสวรรค์ตั้งนี้ แม้แต่ช่องว่างเล็กๆ มันก็จะปรากฏขึ้นมาหลังจากก้าวขึ้นบันไดทั้งเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น

บางสิ่งมันไม่อาจจะปกปิดได้

แน่นอนว่าตอนนี้จั่วชิงหยางไม่กล้าจะเถียงอะไรกลับมาแล้ว

แต่ว่าจั่วชิงหยางนั้นก็ยังไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ และใช้กำลังทั้งหมดเร่งความเร็วขึ้น

ฟุบ!

จั่วชิงหยางกระโดดขึ้นมาเป็นคนแรกที่ก้าวพ้นบันได

เขาหันไปมองหลู่ห่าวหรันที่ตามหลังมาก่อนจะกล่าวเย้ยขึ้น “หลู่ห่าวหรัน โจวเซียนเฉิน พวกเจ้ามันก็ได้แค่นี้แหละ! แต่เรื่องที่แม่นางหนิงเหยียนนั้นได้อันดับหนึ่ง ข้าก็คงได้แต่ต้องยอมรับ!”

เพราะสิ่งที่บันไดสวรรค์ตั้งนี้วัดนั้นคือเวลาที่ใช้

แม้ว่าเขานั้นจะเป็นคนแรกที่ขึ้นพ้นบันไดสวรรค์ตั้ง แต่ว่าเขาก็เป็นคนแรกที่เริ่มก้าวขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งมาเช่นกัน

เพราะฉะนั้นหากนับกันแค่เวลาที่ใช้แล้วหวังหนิงเหยียนจึงนับว่าเป็นคนที่เร็วที่สุด

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

ร่างทั้งสามนั้นเรียกได้ว่าก้าวขึ้นมาแทบพร้อมกัน

ส่วนเบื้องล่างของพวกเขานั้นมันยังมีคนอีกมาที่ได้แต่ค่อยๆ ก้าวขึ้นมาทีละขั้นๆ

หลังจากคนทั้งสี่ขึ้นมาถึงได้พักหนึ่งมันก็มีคนอีกกลุ่มที่ตามขึ้นมาได้

หลู่ห่าวหรันหันไปกล่าว “เจ้าจะทำหน้าภาคภูมิไปเพื่อ? ข้านั้นใช้กำลังไม่ถึงแปดในสิบ เจ้าคงใช้กำลังที่มีทั้งหมดออกมาแล้วมั้ง?”

โจวเซียนเฉินเองก็กล่าวขึ้นตาม “ข้าเองก็ใช้กำลังไปแค่แปดในสิบ ตำแหน่งอันดับหนึ่งนั้นยกให้แม่นาง หนิงเหยียนไปเถอะ!”

หวังหนิงเหยียนที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “ทำไม? หรือว่าอันดับหนึ่งของข้านี้ยังต้องให้พวกเจ้าอ่อนข้อให้ด้วย?”

โจวเซียนเฉินยิ้มตอบกลับไป “ดูปากข้าสิ แม่นางหนิงเหยียนนั้นเป็นนางงามที่สุดบนสวรรค์ ทำไมต้องให้คนอื่นมาอ่อนข้อให้ด้วย? ข้านั้นแค่จะเย้ยหยันจั่วชิงหยางมันเท่านั้น แม่นางหนิงเหยียนนั้นสมควรได้รับอันดับหนึ่งที่สุดแล้ว!”

หวังหนิงเหยียนได้แต่ต้องหัวเราะส่ายหัวกล่าวขึ้น “เลิกมาพูดจาไร้สาระเสียที ไปดูรายชื่อรวมสวรรค์กันเถอะ มาดูกันว่าใครที่จะเป็นอันดับหนึ่งในการปีนบันไดสวรรค์ตั้งครั้งนี้!”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+