Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3054 ยอมตายแทน!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3054 ยอมตายแทน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หยุนเซียง ไม่ต้องไปพูดกับมันให้เสียเวลาแล้ว! มาคิดหาวิธีเอาสมบัติออกมาดีกว่า!” ข้างๆ ตัวนางนั้นชายแก่ คนหนึ่งได้กล่าวขึ้นห้าม

ชายแก่คนนี้คือเจ้าโลกจางเหอชินแห่งนิกายสวรรค์ทำนองอเวจี

ที่เจ้าโลกทั้งหลายไม่คิดลงมือตั้งแต่แรกนั้นมันเป็นเพราะว่าพวกเขากลัวเกรงหวูเทียน

แต่สมบัติเบื้องหน้านี้มันทรงพลังและล้ำค่าเกินกว่าที่จะปล่อยผ่านไป พวกเขาจึงต้องเผยตัวออกมา

หยุนเซียงหรี่ตาลงกล่าวขึ้น “พวกเราลองเปลี่ยนตำแหน่งดู!”

คนทั้งห้านั้นหรี่ตาลงก่อนจะพยักหน้ารับ

พวกเขาเห็นด้วยกันแผนนี้อย่างเต็มอก

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นเริ่มเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองไป

จางเหอชินกล่าวให้สัญญาณขึ้นมา “ไป!”

เงาร่างทั้งเจ็ดนั้นพุ่งตัวออกไปอย่างรุนแรงทรงพลัง

แต่ว่าพวกเขานั้นกลับดูทรงพลังได้ไม่ถึงสามวินาที เพราะจากนั้นมันก็เกิดเสียงระเบิดส่งร่างของคนทั้งเจ็ดนั้นปลิวกลับออกมา

เมื่อถูกพลังระเบิดกระแทกใส่ถึงสองครั้งนี้พวกเขาก็ย่อมจะได้รับบาดเจ็บกันไปไม่น้อย

ต่อหน้าศิษย์รุ่นลูกหลานทั้งหลายนั้นพวกเขาย่อมจะรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

แต่ว่าต่อหน้าสมบัติล้ำค่าเช่นนี้เจ้าโลกทั้งหลายย่อมจะไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ

หลังจากพักไปครู่ใหญ่พวกเขาก็ทดลองกันอีกห้าถึงหกครั้ง

แต่มันก็จบไม่สวยแม้สักครั้งเดียว

“หวูเทียนเจ้าเฒ่านี่ล้อเล่นกับเราแน่แล้ว! สมบัติมากมายตรงหน้านี้กลับให้แค่พวกเรามองไม่อาจเข้าไปถึงได้!” จางเหอชินร้องลั่นขึ้นมา

คงไหนั้นหัวเราะขึ้นตาม “ไอ้โง่นี่ เมื่อกี้ยังทำหน้าเหมือนคนมีแผนอยู่เลยมิใช่หรือ?”

จางเหอชินหันกลับมาสวนทันที “พ่อเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ไปแล้วเจ้าจะยังเอามันมาได้เองหรือ?”

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นมีสภาพเหมือนพืชในฤดูหนาวแห้งเหี่ยวลงอย่างมากจากตอนแรก มันเป็นสภาพที่คนทั้งหลายแทบอดหัวเราะไม่ได้

ไกลออกไปนั้นเย่หยวนได้มองดูการทดลองของเจ้าโลกทั้งหลายอยู่ตลอดและนั่งคิดอย่างไม่ขยับตัวไปไหน

หลายวันมานี้เย่หยวนได้แต่คิดศึกษาเรื่องค่ายกลสวรรค์

เขานั้นพบว่ามหาค่ายกลนี้มันวิเศษจนเกินเข้าใจ

เจ้าโลกทั้งหลายนี้ดูท่าจะไม่รู้ตัวเลยว่าพวกตนเองนั้นติดเข้ามาในมหาค่ายกลแล้ว

แต่เย่หยวนคิดว่าหวูเทียนนั้นสร้างเรื่องลำบากและหยอกล้อพวกเขาเล่นได้ง่ายๆ

ไม่แปลกใจเลยว่ามันทรงพลังถึงขั้นจะสังหารเจ้าโลกลงได้มากมาย!

เพราะตัวเย่หยวนเองก็ไม่อาจจะมองช่องว่างหรือจุดอ่อนของมหาค่ายกลสวรรค์นี้ได้เลย

เข้ามาแล้วทุกสิ่งอย่างมันช่างดูเป็นธรรมชาติไร้ที่ติ

หากมิใช่เพราะหมี่เทียนเคยเล่าเรื่องราวต่างๆ ของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตให้เขาฟังแล้วแม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็อาจจะยังไม่รู้ตัว

แต่ตอนนี้หลังได้เห็นการทดสอบของเจ้าโลกทั้งหลายเย่หยวนก็เหมือนจะเริ่มได้เห็นเส้นทาง

มหาค่ายกลนี้มันเหมือนงานศิลปะชิ้นเอก ไร้ซึ่งจุดอ่อน

มันเหมือนเครื่องจักรที่มีความคิด ทำงานได้ด้วยกฎของตัวมันเอง

มันสามารถจะเปลี่ยนตำแหน่งจุดพลังงานเพื่อรับมือการโจมตีจากเจ้าโลกทั้งหลายได้

แต่ดูแล้วค่ายกลสวรรค์นี้มันไม่ได้เข้าสู่รูปแบบการสังหาร ไม่เช่นนั้นพลังเจ้าโลกทั้งหลายคงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้

เย่หยวนเชื่อว่าคนที่ควบคุมมันไว้นั้นย่อมจะเป็นหวูเทียน

หวูเทียนนั้นไม่คิดสังหารคนและเอาสมบัติมาล่อตา มันเพื่ออะไรกันแน่?

เป้าหมายของเขานั้นมันยากเกินกว่าจะเดา!

“ไอ้หนู มานี่!” เย่หยวนที่กำลังนั่งมองดูเรื่องราวอยู่นั้นถูกเรียกขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะไป ไม่รู้ว่าทำไมจางเหอชินถึงคิดสนใจเขาขึ้นมา

ส่วนเจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินก็ต้องยิ้มเย้ยขึ้น

จางเหอชินนั้นกำลังคับแค้นใจหาที่ระบาย

เย่หยวนจึงเป็นตัวเลือกที่เลิศล้ำที่สุด!

ในฐานะเจ้าโลกแห่งสามยอดสวรรค์ของมนุษย์ พวกเขาทั้งห้าย่อมจะไม่มีใครอยากเห็นสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดผงาดขึ้นมาแย่งอำนาจตนเอง

แต่ไม่ว่าจะเป็นหยางชิงหรือเย่หยวนนั้นพวกเขาต่างมีพรสวรรค์ที่เกินกว่าจะปล่อยไว้

การเดินทางครั้งนี้เย่หยวนได้สร้างยอดฝีมือคลื่นกำเนิดขึ้นมานับร้อยๆ

นอกจากนั้นเขายังได้ปลุกพรสวรรค์ของคนทั้งห้าหมื่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน

ไม่ต้องถามเลยว่าจางเหอชินกลัวหรือไม่!

แน่นอนว่ามันมิใช่แค่ตัวเขาเท่านั้น เจ้าโลกทั้งห้าของฝ่ายมนุษย์เองก็คิดไม่ต่างกัน!

เย่หยวนลุกขึ้นแต่นั่นกลับทำให้สีหน้าของหยางชิงและคนทั้งหลายซีดขาวลง

“เจ้าไม่ต้องไป! ข้าไปเอง!” หยางชิงกล่าวขึ้นห้าม

“ไม่ต้องทำหน้าเศร้าไป เจ้าก็มาด้วย!” จางเหอชินร้องขึ้น

เท่านี้คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดก็ย่อมจะไม่อาจอยู่เฉยได้อีก

“ข้าไปเอง!”

“ข้าไปด้วย!”

จางเหอชินนั้นย่อมอยากจะทำร้ายเย่หยวนแน่แล้ว มีหรือที่พวกเขาจะปล่อยให้เย่หยวนเดินไปหาที่ตายต่อหน้าต่อตาได้?

ต่อให้ใครจะตายมันก็ไม่มีทางปล่อยให้นักบุญสวรรค์เย่ต้องตายลง!

เย่หยวนยกมือขึ้นห้ามคนทั้งหลายไว้ “ไม่ต้องรีบร้อนไป ฟังก่อนเถอะว่ามันจะพูดอะไร”

เย่หยวนและหยางชิงทั้งสองคนนั้นค่อยๆ เดินเข้ามาหาจางเหอชิน “ไอ้หนู ระหว่างทางมาเจ้ามันเก่งกาจดีจริง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “มันมิใช่ว่าข้าเก่งกาจแต่เป็นคนของพวกเจ้าต่างหากที่อ่อนแอ สามยอดสวรรค์แห่งเผ่ามนุษย์มันฟังดูทรงพลังจริงแต่สุดท้ายก็โดนเผ่าปีกกับเผ่าปีศาจกดหัวจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นมิใช่หรือ? หากไม่ได้หยางชิงแล้วเผ่ามนุษย์คงต้องเสียหน้าไปอย่างกู่ไม่กลับแน่นอน!”

อีกฝ่ายนั้นดูอย่างไรก็คิดหาเรื่อง มีหรือที่เย่หยวนจะยังรักษามารยาทใด?

ตอนนี้ทั้งหวังหนิงเหยียนและหลู่ห่าวหรันต่างต้องก้มหน้าด้วยความอับอาย

เพราะคำพูดนี้มันคือการลากพวกเขาไปตบหน้าชัดๆ

แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเถียงเพราะมันคือความจริง

จริงๆ ตัวเย่หยวนเองก็พอเดาได้ว่าจางเหอชินนั้นต้องการให้เขาทำอะไร

เพราะว่าฝ่ายสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมีคนมาเยอะ มันไม่แปลกหากว่าเขาจะคิดใช้จำนวนนี้เข้าหา จุดอ่อนของค่ายกล

“รนหาที่ตาย!” แน่นอนว่าเมื่อจางเหอชินได้ยินเขาก็ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยหน้าดำมืด ปลดปล่อยคลื่นพลังเจ้าโลกออกมาพร้อมฝ่ามือที่พุ่งหาเย่หยวน

สีหน้าของคนที่ได้เห็นนั้นต่างเปลี่ยนสีร้องลั่นขึ้นมา

เฟิ่งชิงซวนนั้นกัดฟันแน่นด้วยหน้าซีดเป็นกระดาษก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหวังรับหมัดนั้นแทนเย่หยวน

แต่นางนั้นยังช้าไปมาก

แต่เย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่คิดเปลี่ยนสีหน้า หัวใจหนักแน่นดั่งขุนเขายืนมองหน้าจางเหอชินไป

“ช่างกล้า!” ต่อให้อีกฝ่ายนั้นจะเกลียดชังเย่หยวนแค่ไหนเขาก็อดกล่าวชมขึ้นไม่ได้

ตูม!

ลมรุนแรงนั้นพัดผ่านหน้าเย่หยวนไปพร้อมพลังรุนแรงจนแทบฉีกแขนขาเขาออกจากกัน

ฝ่ามือของเจ้าโลกนั้นมันทรงพลัง!

แต่ว่าฝ่ามือนี้มันกลับหยุดก่อนถึงตัวเย่หยวนไปเพียงคืบ

ได้เห็นเย่หยวนยังทำหน้านิ่งไม่เกรงกลัวเช่นนั้นจางเหอชินก็ผิดหวังขึ้นไม่น้อย

“หึ! สังหารเจ้าไปเช่นนี้มันจะเป็นการส่งเจ้าไปสบายเกิน! ไอ้หนู ข้าจะให้โอกาสเจ้า บุกเข้าไปหาเส้นทางใน ค่ายกลนี้มาหรือสั่งให้คนของเจ้าเข้าไปแทน ตราบเท่าที่เจ้าเอาสมบัติออกมาได้สักชิ้นข้าจะไว้ชีวิตเจ้าให้!” จางเหอชินกล่าว

“จางเหอชิน หากเจ้ากล้าทำร้ายเย่หยวนแม้สักนิด เจ้าจะกลายเป็นศัตรูร้ายที่ทั้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างข้าหมายหัวเอาชีวิต!” เฟิ่งชิงซวนกล่าวขึ้นขู่

จางเหอชินหัวเราะขึ้นตอบไป “นังเด็กหงส์แดง เจ้าคิดขู่ข้าหรือ? สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างเจ้ามันทรงพลังจริงแต่เจ้าคิดว่าสามสวรรค์เผ่ามนุษย์เรากลัวพวกเจ้า? พวกเราเองก็ไม่ได้อ่อนแอ หากคิดสู้กันจริงๆ แล้วมันก็ไม่แน่หรอกว่าใครจะชนะกันแน่! ตอนนี้สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างของพวกเจ้าเพิ่งผ่านพ้นหายนะไปด้วย เจ้าคิดว่าพวกเราเผ่ามนุษย์จะกลัวคำขู่เจ้า?”

เฟิ่งชิงซวนนั้นหน้าซีดลงไปเพราะนางรู้สึกว่าตัวเองช่างไร้พลัง

เจ้าโลกนั้นไม่กลัวคำขู่ง่ายๆ

พวกเขานั้นมีค่ายสำนักนิกายอันทรงพลังอยู่เบื้องหลังเสมอๆ!

“นักบุญสวรรค์เย่ ให้ข้าไปเถอะ!”

“ข้าขอไปเองดีกว่า!”

“ข้าขอมอบชีวิตนี้คืนให้แก่นักบุญสวรรค์เย่!”

คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต่างก้าวออกมาร้องขอให้เย่หยวนส่งตัวเองเข้าไปเปิดเส้นทางในค่ายกลไม่ขาดสาย

ภาพนี้มันทำให้จางเหอชินต้องผงะไปอย่างไม่อาจเข้าใจได้…

เขาไม่นึกฝันว่าเด็กน้อยคนนี้กลับจะได้รับความเคารพนับถือถึงปานนี้

เดิมทีแล้วที่เขาพูดเช่นนั้นออกก็เพื่อหวังจะแยกกำลังของเย่หยวนออกจากกัน

เพราะเย่หยวนนั้นย่อมจะรักชีวิตและไม่คิดเข้าไปในค่ายกลเอง เขาต้องเลือกส่งคนเข้าไปตายแทนแน่

ทำเช่นนั้นแล้วคนทั้งหลายย่อมจะรู้สึกคับแค้นเย่หยวนขึ้นมาในใจ

แต่เขาไม่นึกฝันว่าคนทั้งหลายนั้นกลับจะขอให้เย่หยวนส่งพวกเขาไปตายแทน!

เดิมทีแล้วจางเหอชินคิดว่าที่พวกเขาเชื่อฟังเย่หยวนนั้นมันเป็นเพราะว่ามันยังไม่ถึงสถานการณ์แห่งความเป็นความตายจริงๆ

เรื่องที่สำคัญที่สุดนั้นคือพวกเขาต้องการให้เย่หยวนช่วยหลอมโอสถให้

จางเหอชินคิดว่าสายสัมพันธ์เช่นนี้มันเปราะบางที่สุด

เขานั้นทำเรื่องเช่นนี้มาไม่รู้กี่ครั้งและมันก็สำเร็จทุกครั้งไป

แต่ครั้งนี้มันกลับไม่เป็นผล!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3054 ยอมตายแทน!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3054 ยอมตายแทน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หยุนเซียง ไม่ต้องไปพูดกับมันให้เสียเวลาแล้ว! มาคิดหาวิธีเอาสมบัติออกมาดีกว่า!” ข้างๆ ตัวนางนั้นชายแก่ คนหนึ่งได้กล่าวขึ้นห้าม

ชายแก่คนนี้คือเจ้าโลกจางเหอชินแห่งนิกายสวรรค์ทำนองอเวจี

ที่เจ้าโลกทั้งหลายไม่คิดลงมือตั้งแต่แรกนั้นมันเป็นเพราะว่าพวกเขากลัวเกรงหวูเทียน

แต่สมบัติเบื้องหน้านี้มันทรงพลังและล้ำค่าเกินกว่าที่จะปล่อยผ่านไป พวกเขาจึงต้องเผยตัวออกมา

หยุนเซียงหรี่ตาลงกล่าวขึ้น “พวกเราลองเปลี่ยนตำแหน่งดู!”

คนทั้งห้านั้นหรี่ตาลงก่อนจะพยักหน้ารับ

พวกเขาเห็นด้วยกันแผนนี้อย่างเต็มอก

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นเริ่มเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองไป

จางเหอชินกล่าวให้สัญญาณขึ้นมา “ไป!”

เงาร่างทั้งเจ็ดนั้นพุ่งตัวออกไปอย่างรุนแรงทรงพลัง

แต่ว่าพวกเขานั้นกลับดูทรงพลังได้ไม่ถึงสามวินาที เพราะจากนั้นมันก็เกิดเสียงระเบิดส่งร่างของคนทั้งเจ็ดนั้นปลิวกลับออกมา

เมื่อถูกพลังระเบิดกระแทกใส่ถึงสองครั้งนี้พวกเขาก็ย่อมจะได้รับบาดเจ็บกันไปไม่น้อย

ต่อหน้าศิษย์รุ่นลูกหลานทั้งหลายนั้นพวกเขาย่อมจะรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

แต่ว่าต่อหน้าสมบัติล้ำค่าเช่นนี้เจ้าโลกทั้งหลายย่อมจะไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ

หลังจากพักไปครู่ใหญ่พวกเขาก็ทดลองกันอีกห้าถึงหกครั้ง

แต่มันก็จบไม่สวยแม้สักครั้งเดียว

“หวูเทียนเจ้าเฒ่านี่ล้อเล่นกับเราแน่แล้ว! สมบัติมากมายตรงหน้านี้กลับให้แค่พวกเรามองไม่อาจเข้าไปถึงได้!” จางเหอชินร้องลั่นขึ้นมา

คงไหนั้นหัวเราะขึ้นตาม “ไอ้โง่นี่ เมื่อกี้ยังทำหน้าเหมือนคนมีแผนอยู่เลยมิใช่หรือ?”

จางเหอชินหันกลับมาสวนทันที “พ่อเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ไปแล้วเจ้าจะยังเอามันมาได้เองหรือ?”

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นมีสภาพเหมือนพืชในฤดูหนาวแห้งเหี่ยวลงอย่างมากจากตอนแรก มันเป็นสภาพที่คนทั้งหลายแทบอดหัวเราะไม่ได้

ไกลออกไปนั้นเย่หยวนได้มองดูการทดลองของเจ้าโลกทั้งหลายอยู่ตลอดและนั่งคิดอย่างไม่ขยับตัวไปไหน

หลายวันมานี้เย่หยวนได้แต่คิดศึกษาเรื่องค่ายกลสวรรค์

เขานั้นพบว่ามหาค่ายกลนี้มันวิเศษจนเกินเข้าใจ

เจ้าโลกทั้งหลายนี้ดูท่าจะไม่รู้ตัวเลยว่าพวกตนเองนั้นติดเข้ามาในมหาค่ายกลแล้ว

แต่เย่หยวนคิดว่าหวูเทียนนั้นสร้างเรื่องลำบากและหยอกล้อพวกเขาเล่นได้ง่ายๆ

ไม่แปลกใจเลยว่ามันทรงพลังถึงขั้นจะสังหารเจ้าโลกลงได้มากมาย!

เพราะตัวเย่หยวนเองก็ไม่อาจจะมองช่องว่างหรือจุดอ่อนของมหาค่ายกลสวรรค์นี้ได้เลย

เข้ามาแล้วทุกสิ่งอย่างมันช่างดูเป็นธรรมชาติไร้ที่ติ

หากมิใช่เพราะหมี่เทียนเคยเล่าเรื่องราวต่างๆ ของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตให้เขาฟังแล้วแม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็อาจจะยังไม่รู้ตัว

แต่ตอนนี้หลังได้เห็นการทดสอบของเจ้าโลกทั้งหลายเย่หยวนก็เหมือนจะเริ่มได้เห็นเส้นทาง

มหาค่ายกลนี้มันเหมือนงานศิลปะชิ้นเอก ไร้ซึ่งจุดอ่อน

มันเหมือนเครื่องจักรที่มีความคิด ทำงานได้ด้วยกฎของตัวมันเอง

มันสามารถจะเปลี่ยนตำแหน่งจุดพลังงานเพื่อรับมือการโจมตีจากเจ้าโลกทั้งหลายได้

แต่ดูแล้วค่ายกลสวรรค์นี้มันไม่ได้เข้าสู่รูปแบบการสังหาร ไม่เช่นนั้นพลังเจ้าโลกทั้งหลายคงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้

เย่หยวนเชื่อว่าคนที่ควบคุมมันไว้นั้นย่อมจะเป็นหวูเทียน

หวูเทียนนั้นไม่คิดสังหารคนและเอาสมบัติมาล่อตา มันเพื่ออะไรกันแน่?

เป้าหมายของเขานั้นมันยากเกินกว่าจะเดา!

“ไอ้หนู มานี่!” เย่หยวนที่กำลังนั่งมองดูเรื่องราวอยู่นั้นถูกเรียกขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะไป ไม่รู้ว่าทำไมจางเหอชินถึงคิดสนใจเขาขึ้นมา

ส่วนเจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินก็ต้องยิ้มเย้ยขึ้น

จางเหอชินนั้นกำลังคับแค้นใจหาที่ระบาย

เย่หยวนจึงเป็นตัวเลือกที่เลิศล้ำที่สุด!

ในฐานะเจ้าโลกแห่งสามยอดสวรรค์ของมนุษย์ พวกเขาทั้งห้าย่อมจะไม่มีใครอยากเห็นสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดผงาดขึ้นมาแย่งอำนาจตนเอง

แต่ไม่ว่าจะเป็นหยางชิงหรือเย่หยวนนั้นพวกเขาต่างมีพรสวรรค์ที่เกินกว่าจะปล่อยไว้

การเดินทางครั้งนี้เย่หยวนได้สร้างยอดฝีมือคลื่นกำเนิดขึ้นมานับร้อยๆ

นอกจากนั้นเขายังได้ปลุกพรสวรรค์ของคนทั้งห้าหมื่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน

ไม่ต้องถามเลยว่าจางเหอชินกลัวหรือไม่!

แน่นอนว่ามันมิใช่แค่ตัวเขาเท่านั้น เจ้าโลกทั้งห้าของฝ่ายมนุษย์เองก็คิดไม่ต่างกัน!

เย่หยวนลุกขึ้นแต่นั่นกลับทำให้สีหน้าของหยางชิงและคนทั้งหลายซีดขาวลง

“เจ้าไม่ต้องไป! ข้าไปเอง!” หยางชิงกล่าวขึ้นห้าม

“ไม่ต้องทำหน้าเศร้าไป เจ้าก็มาด้วย!” จางเหอชินร้องขึ้น

เท่านี้คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดก็ย่อมจะไม่อาจอยู่เฉยได้อีก

“ข้าไปเอง!”

“ข้าไปด้วย!”

จางเหอชินนั้นย่อมอยากจะทำร้ายเย่หยวนแน่แล้ว มีหรือที่พวกเขาจะปล่อยให้เย่หยวนเดินไปหาที่ตายต่อหน้าต่อตาได้?

ต่อให้ใครจะตายมันก็ไม่มีทางปล่อยให้นักบุญสวรรค์เย่ต้องตายลง!

เย่หยวนยกมือขึ้นห้ามคนทั้งหลายไว้ “ไม่ต้องรีบร้อนไป ฟังก่อนเถอะว่ามันจะพูดอะไร”

เย่หยวนและหยางชิงทั้งสองคนนั้นค่อยๆ เดินเข้ามาหาจางเหอชิน “ไอ้หนู ระหว่างทางมาเจ้ามันเก่งกาจดีจริง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “มันมิใช่ว่าข้าเก่งกาจแต่เป็นคนของพวกเจ้าต่างหากที่อ่อนแอ สามยอดสวรรค์แห่งเผ่ามนุษย์มันฟังดูทรงพลังจริงแต่สุดท้ายก็โดนเผ่าปีกกับเผ่าปีศาจกดหัวจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นมิใช่หรือ? หากไม่ได้หยางชิงแล้วเผ่ามนุษย์คงต้องเสียหน้าไปอย่างกู่ไม่กลับแน่นอน!”

อีกฝ่ายนั้นดูอย่างไรก็คิดหาเรื่อง มีหรือที่เย่หยวนจะยังรักษามารยาทใด?

ตอนนี้ทั้งหวังหนิงเหยียนและหลู่ห่าวหรันต่างต้องก้มหน้าด้วยความอับอาย

เพราะคำพูดนี้มันคือการลากพวกเขาไปตบหน้าชัดๆ

แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเถียงเพราะมันคือความจริง

จริงๆ ตัวเย่หยวนเองก็พอเดาได้ว่าจางเหอชินนั้นต้องการให้เขาทำอะไร

เพราะว่าฝ่ายสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมีคนมาเยอะ มันไม่แปลกหากว่าเขาจะคิดใช้จำนวนนี้เข้าหา จุดอ่อนของค่ายกล

“รนหาที่ตาย!” แน่นอนว่าเมื่อจางเหอชินได้ยินเขาก็ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยหน้าดำมืด ปลดปล่อยคลื่นพลังเจ้าโลกออกมาพร้อมฝ่ามือที่พุ่งหาเย่หยวน

สีหน้าของคนที่ได้เห็นนั้นต่างเปลี่ยนสีร้องลั่นขึ้นมา

เฟิ่งชิงซวนนั้นกัดฟันแน่นด้วยหน้าซีดเป็นกระดาษก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหวังรับหมัดนั้นแทนเย่หยวน

แต่นางนั้นยังช้าไปมาก

แต่เย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่คิดเปลี่ยนสีหน้า หัวใจหนักแน่นดั่งขุนเขายืนมองหน้าจางเหอชินไป

“ช่างกล้า!” ต่อให้อีกฝ่ายนั้นจะเกลียดชังเย่หยวนแค่ไหนเขาก็อดกล่าวชมขึ้นไม่ได้

ตูม!

ลมรุนแรงนั้นพัดผ่านหน้าเย่หยวนไปพร้อมพลังรุนแรงจนแทบฉีกแขนขาเขาออกจากกัน

ฝ่ามือของเจ้าโลกนั้นมันทรงพลัง!

แต่ว่าฝ่ามือนี้มันกลับหยุดก่อนถึงตัวเย่หยวนไปเพียงคืบ

ได้เห็นเย่หยวนยังทำหน้านิ่งไม่เกรงกลัวเช่นนั้นจางเหอชินก็ผิดหวังขึ้นไม่น้อย

“หึ! สังหารเจ้าไปเช่นนี้มันจะเป็นการส่งเจ้าไปสบายเกิน! ไอ้หนู ข้าจะให้โอกาสเจ้า บุกเข้าไปหาเส้นทางใน ค่ายกลนี้มาหรือสั่งให้คนของเจ้าเข้าไปแทน ตราบเท่าที่เจ้าเอาสมบัติออกมาได้สักชิ้นข้าจะไว้ชีวิตเจ้าให้!” จางเหอชินกล่าว

“จางเหอชิน หากเจ้ากล้าทำร้ายเย่หยวนแม้สักนิด เจ้าจะกลายเป็นศัตรูร้ายที่ทั้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างข้าหมายหัวเอาชีวิต!” เฟิ่งชิงซวนกล่าวขึ้นขู่

จางเหอชินหัวเราะขึ้นตอบไป “นังเด็กหงส์แดง เจ้าคิดขู่ข้าหรือ? สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างเจ้ามันทรงพลังจริงแต่เจ้าคิดว่าสามสวรรค์เผ่ามนุษย์เรากลัวพวกเจ้า? พวกเราเองก็ไม่ได้อ่อนแอ หากคิดสู้กันจริงๆ แล้วมันก็ไม่แน่หรอกว่าใครจะชนะกันแน่! ตอนนี้สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างของพวกเจ้าเพิ่งผ่านพ้นหายนะไปด้วย เจ้าคิดว่าพวกเราเผ่ามนุษย์จะกลัวคำขู่เจ้า?”

เฟิ่งชิงซวนนั้นหน้าซีดลงไปเพราะนางรู้สึกว่าตัวเองช่างไร้พลัง

เจ้าโลกนั้นไม่กลัวคำขู่ง่ายๆ

พวกเขานั้นมีค่ายสำนักนิกายอันทรงพลังอยู่เบื้องหลังเสมอๆ!

“นักบุญสวรรค์เย่ ให้ข้าไปเถอะ!”

“ข้าขอไปเองดีกว่า!”

“ข้าขอมอบชีวิตนี้คืนให้แก่นักบุญสวรรค์เย่!”

คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต่างก้าวออกมาร้องขอให้เย่หยวนส่งตัวเองเข้าไปเปิดเส้นทางในค่ายกลไม่ขาดสาย

ภาพนี้มันทำให้จางเหอชินต้องผงะไปอย่างไม่อาจเข้าใจได้…

เขาไม่นึกฝันว่าเด็กน้อยคนนี้กลับจะได้รับความเคารพนับถือถึงปานนี้

เดิมทีแล้วที่เขาพูดเช่นนั้นออกก็เพื่อหวังจะแยกกำลังของเย่หยวนออกจากกัน

เพราะเย่หยวนนั้นย่อมจะรักชีวิตและไม่คิดเข้าไปในค่ายกลเอง เขาต้องเลือกส่งคนเข้าไปตายแทนแน่

ทำเช่นนั้นแล้วคนทั้งหลายย่อมจะรู้สึกคับแค้นเย่หยวนขึ้นมาในใจ

แต่เขาไม่นึกฝันว่าคนทั้งหลายนั้นกลับจะขอให้เย่หยวนส่งพวกเขาไปตายแทน!

เดิมทีแล้วจางเหอชินคิดว่าที่พวกเขาเชื่อฟังเย่หยวนนั้นมันเป็นเพราะว่ามันยังไม่ถึงสถานการณ์แห่งความเป็นความตายจริงๆ

เรื่องที่สำคัญที่สุดนั้นคือพวกเขาต้องการให้เย่หยวนช่วยหลอมโอสถให้

จางเหอชินคิดว่าสายสัมพันธ์เช่นนี้มันเปราะบางที่สุด

เขานั้นทำเรื่องเช่นนี้มาไม่รู้กี่ครั้งและมันก็สำเร็จทุกครั้งไป

แต่ครั้งนี้มันกลับไม่เป็นผล!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3054 ยอมตายแทน!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3054 ยอมตายแทน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หยุนเซียง ไม่ต้องไปพูดกับมันให้เสียเวลาแล้ว! มาคิดหาวิธีเอาสมบัติออกมาดีกว่า!” ข้างๆ ตัวนางนั้นชายแก่ คนหนึ่งได้กล่าวขึ้นห้าม

ชายแก่คนนี้คือเจ้าโลกจางเหอชินแห่งนิกายสวรรค์ทำนองอเวจี

ที่เจ้าโลกทั้งหลายไม่คิดลงมือตั้งแต่แรกนั้นมันเป็นเพราะว่าพวกเขากลัวเกรงหวูเทียน

แต่สมบัติเบื้องหน้านี้มันทรงพลังและล้ำค่าเกินกว่าที่จะปล่อยผ่านไป พวกเขาจึงต้องเผยตัวออกมา

หยุนเซียงหรี่ตาลงกล่าวขึ้น “พวกเราลองเปลี่ยนตำแหน่งดู!”

คนทั้งห้านั้นหรี่ตาลงก่อนจะพยักหน้ารับ

พวกเขาเห็นด้วยกันแผนนี้อย่างเต็มอก

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นเริ่มเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองไป

จางเหอชินกล่าวให้สัญญาณขึ้นมา “ไป!”

เงาร่างทั้งเจ็ดนั้นพุ่งตัวออกไปอย่างรุนแรงทรงพลัง

แต่ว่าพวกเขานั้นกลับดูทรงพลังได้ไม่ถึงสามวินาที เพราะจากนั้นมันก็เกิดเสียงระเบิดส่งร่างของคนทั้งเจ็ดนั้นปลิวกลับออกมา

เมื่อถูกพลังระเบิดกระแทกใส่ถึงสองครั้งนี้พวกเขาก็ย่อมจะได้รับบาดเจ็บกันไปไม่น้อย

ต่อหน้าศิษย์รุ่นลูกหลานทั้งหลายนั้นพวกเขาย่อมจะรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

แต่ว่าต่อหน้าสมบัติล้ำค่าเช่นนี้เจ้าโลกทั้งหลายย่อมจะไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ

หลังจากพักไปครู่ใหญ่พวกเขาก็ทดลองกันอีกห้าถึงหกครั้ง

แต่มันก็จบไม่สวยแม้สักครั้งเดียว

“หวูเทียนเจ้าเฒ่านี่ล้อเล่นกับเราแน่แล้ว! สมบัติมากมายตรงหน้านี้กลับให้แค่พวกเรามองไม่อาจเข้าไปถึงได้!” จางเหอชินร้องลั่นขึ้นมา

คงไหนั้นหัวเราะขึ้นตาม “ไอ้โง่นี่ เมื่อกี้ยังทำหน้าเหมือนคนมีแผนอยู่เลยมิใช่หรือ?”

จางเหอชินหันกลับมาสวนทันที “พ่อเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ไปแล้วเจ้าจะยังเอามันมาได้เองหรือ?”

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นมีสภาพเหมือนพืชในฤดูหนาวแห้งเหี่ยวลงอย่างมากจากตอนแรก มันเป็นสภาพที่คนทั้งหลายแทบอดหัวเราะไม่ได้

ไกลออกไปนั้นเย่หยวนได้มองดูการทดลองของเจ้าโลกทั้งหลายอยู่ตลอดและนั่งคิดอย่างไม่ขยับตัวไปไหน

หลายวันมานี้เย่หยวนได้แต่คิดศึกษาเรื่องค่ายกลสวรรค์

เขานั้นพบว่ามหาค่ายกลนี้มันวิเศษจนเกินเข้าใจ

เจ้าโลกทั้งหลายนี้ดูท่าจะไม่รู้ตัวเลยว่าพวกตนเองนั้นติดเข้ามาในมหาค่ายกลแล้ว

แต่เย่หยวนคิดว่าหวูเทียนนั้นสร้างเรื่องลำบากและหยอกล้อพวกเขาเล่นได้ง่ายๆ

ไม่แปลกใจเลยว่ามันทรงพลังถึงขั้นจะสังหารเจ้าโลกลงได้มากมาย!

เพราะตัวเย่หยวนเองก็ไม่อาจจะมองช่องว่างหรือจุดอ่อนของมหาค่ายกลสวรรค์นี้ได้เลย

เข้ามาแล้วทุกสิ่งอย่างมันช่างดูเป็นธรรมชาติไร้ที่ติ

หากมิใช่เพราะหมี่เทียนเคยเล่าเรื่องราวต่างๆ ของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตให้เขาฟังแล้วแม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็อาจจะยังไม่รู้ตัว

แต่ตอนนี้หลังได้เห็นการทดสอบของเจ้าโลกทั้งหลายเย่หยวนก็เหมือนจะเริ่มได้เห็นเส้นทาง

มหาค่ายกลนี้มันเหมือนงานศิลปะชิ้นเอก ไร้ซึ่งจุดอ่อน

มันเหมือนเครื่องจักรที่มีความคิด ทำงานได้ด้วยกฎของตัวมันเอง

มันสามารถจะเปลี่ยนตำแหน่งจุดพลังงานเพื่อรับมือการโจมตีจากเจ้าโลกทั้งหลายได้

แต่ดูแล้วค่ายกลสวรรค์นี้มันไม่ได้เข้าสู่รูปแบบการสังหาร ไม่เช่นนั้นพลังเจ้าโลกทั้งหลายคงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้

เย่หยวนเชื่อว่าคนที่ควบคุมมันไว้นั้นย่อมจะเป็นหวูเทียน

หวูเทียนนั้นไม่คิดสังหารคนและเอาสมบัติมาล่อตา มันเพื่ออะไรกันแน่?

เป้าหมายของเขานั้นมันยากเกินกว่าจะเดา!

“ไอ้หนู มานี่!” เย่หยวนที่กำลังนั่งมองดูเรื่องราวอยู่นั้นถูกเรียกขึ้น

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะไป ไม่รู้ว่าทำไมจางเหอชินถึงคิดสนใจเขาขึ้นมา

ส่วนเจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินก็ต้องยิ้มเย้ยขึ้น

จางเหอชินนั้นกำลังคับแค้นใจหาที่ระบาย

เย่หยวนจึงเป็นตัวเลือกที่เลิศล้ำที่สุด!

ในฐานะเจ้าโลกแห่งสามยอดสวรรค์ของมนุษย์ พวกเขาทั้งห้าย่อมจะไม่มีใครอยากเห็นสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดผงาดขึ้นมาแย่งอำนาจตนเอง

แต่ไม่ว่าจะเป็นหยางชิงหรือเย่หยวนนั้นพวกเขาต่างมีพรสวรรค์ที่เกินกว่าจะปล่อยไว้

การเดินทางครั้งนี้เย่หยวนได้สร้างยอดฝีมือคลื่นกำเนิดขึ้นมานับร้อยๆ

นอกจากนั้นเขายังได้ปลุกพรสวรรค์ของคนทั้งห้าหมื่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน

ไม่ต้องถามเลยว่าจางเหอชินกลัวหรือไม่!

แน่นอนว่ามันมิใช่แค่ตัวเขาเท่านั้น เจ้าโลกทั้งห้าของฝ่ายมนุษย์เองก็คิดไม่ต่างกัน!

เย่หยวนลุกขึ้นแต่นั่นกลับทำให้สีหน้าของหยางชิงและคนทั้งหลายซีดขาวลง

“เจ้าไม่ต้องไป! ข้าไปเอง!” หยางชิงกล่าวขึ้นห้าม

“ไม่ต้องทำหน้าเศร้าไป เจ้าก็มาด้วย!” จางเหอชินร้องขึ้น

เท่านี้คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดก็ย่อมจะไม่อาจอยู่เฉยได้อีก

“ข้าไปเอง!”

“ข้าไปด้วย!”

จางเหอชินนั้นย่อมอยากจะทำร้ายเย่หยวนแน่แล้ว มีหรือที่พวกเขาจะปล่อยให้เย่หยวนเดินไปหาที่ตายต่อหน้าต่อตาได้?

ต่อให้ใครจะตายมันก็ไม่มีทางปล่อยให้นักบุญสวรรค์เย่ต้องตายลง!

เย่หยวนยกมือขึ้นห้ามคนทั้งหลายไว้ “ไม่ต้องรีบร้อนไป ฟังก่อนเถอะว่ามันจะพูดอะไร”

เย่หยวนและหยางชิงทั้งสองคนนั้นค่อยๆ เดินเข้ามาหาจางเหอชิน “ไอ้หนู ระหว่างทางมาเจ้ามันเก่งกาจดีจริง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “มันมิใช่ว่าข้าเก่งกาจแต่เป็นคนของพวกเจ้าต่างหากที่อ่อนแอ สามยอดสวรรค์แห่งเผ่ามนุษย์มันฟังดูทรงพลังจริงแต่สุดท้ายก็โดนเผ่าปีกกับเผ่าปีศาจกดหัวจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นมิใช่หรือ? หากไม่ได้หยางชิงแล้วเผ่ามนุษย์คงต้องเสียหน้าไปอย่างกู่ไม่กลับแน่นอน!”

อีกฝ่ายนั้นดูอย่างไรก็คิดหาเรื่อง มีหรือที่เย่หยวนจะยังรักษามารยาทใด?

ตอนนี้ทั้งหวังหนิงเหยียนและหลู่ห่าวหรันต่างต้องก้มหน้าด้วยความอับอาย

เพราะคำพูดนี้มันคือการลากพวกเขาไปตบหน้าชัดๆ

แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเถียงเพราะมันคือความจริง

จริงๆ ตัวเย่หยวนเองก็พอเดาได้ว่าจางเหอชินนั้นต้องการให้เขาทำอะไร

เพราะว่าฝ่ายสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมีคนมาเยอะ มันไม่แปลกหากว่าเขาจะคิดใช้จำนวนนี้เข้าหา จุดอ่อนของค่ายกล

“รนหาที่ตาย!” แน่นอนว่าเมื่อจางเหอชินได้ยินเขาก็ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยหน้าดำมืด ปลดปล่อยคลื่นพลังเจ้าโลกออกมาพร้อมฝ่ามือที่พุ่งหาเย่หยวน

สีหน้าของคนที่ได้เห็นนั้นต่างเปลี่ยนสีร้องลั่นขึ้นมา

เฟิ่งชิงซวนนั้นกัดฟันแน่นด้วยหน้าซีดเป็นกระดาษก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหวังรับหมัดนั้นแทนเย่หยวน

แต่นางนั้นยังช้าไปมาก

แต่เย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่คิดเปลี่ยนสีหน้า หัวใจหนักแน่นดั่งขุนเขายืนมองหน้าจางเหอชินไป

“ช่างกล้า!” ต่อให้อีกฝ่ายนั้นจะเกลียดชังเย่หยวนแค่ไหนเขาก็อดกล่าวชมขึ้นไม่ได้

ตูม!

ลมรุนแรงนั้นพัดผ่านหน้าเย่หยวนไปพร้อมพลังรุนแรงจนแทบฉีกแขนขาเขาออกจากกัน

ฝ่ามือของเจ้าโลกนั้นมันทรงพลัง!

แต่ว่าฝ่ามือนี้มันกลับหยุดก่อนถึงตัวเย่หยวนไปเพียงคืบ

ได้เห็นเย่หยวนยังทำหน้านิ่งไม่เกรงกลัวเช่นนั้นจางเหอชินก็ผิดหวังขึ้นไม่น้อย

“หึ! สังหารเจ้าไปเช่นนี้มันจะเป็นการส่งเจ้าไปสบายเกิน! ไอ้หนู ข้าจะให้โอกาสเจ้า บุกเข้าไปหาเส้นทางใน ค่ายกลนี้มาหรือสั่งให้คนของเจ้าเข้าไปแทน ตราบเท่าที่เจ้าเอาสมบัติออกมาได้สักชิ้นข้าจะไว้ชีวิตเจ้าให้!” จางเหอชินกล่าว

“จางเหอชิน หากเจ้ากล้าทำร้ายเย่หยวนแม้สักนิด เจ้าจะกลายเป็นศัตรูร้ายที่ทั้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างข้าหมายหัวเอาชีวิต!” เฟิ่งชิงซวนกล่าวขึ้นขู่

จางเหอชินหัวเราะขึ้นตอบไป “นังเด็กหงส์แดง เจ้าคิดขู่ข้าหรือ? สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างเจ้ามันทรงพลังจริงแต่เจ้าคิดว่าสามสวรรค์เผ่ามนุษย์เรากลัวพวกเจ้า? พวกเราเองก็ไม่ได้อ่อนแอ หากคิดสู้กันจริงๆ แล้วมันก็ไม่แน่หรอกว่าใครจะชนะกันแน่! ตอนนี้สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างของพวกเจ้าเพิ่งผ่านพ้นหายนะไปด้วย เจ้าคิดว่าพวกเราเผ่ามนุษย์จะกลัวคำขู่เจ้า?”

เฟิ่งชิงซวนนั้นหน้าซีดลงไปเพราะนางรู้สึกว่าตัวเองช่างไร้พลัง

เจ้าโลกนั้นไม่กลัวคำขู่ง่ายๆ

พวกเขานั้นมีค่ายสำนักนิกายอันทรงพลังอยู่เบื้องหลังเสมอๆ!

“นักบุญสวรรค์เย่ ให้ข้าไปเถอะ!”

“ข้าขอไปเองดีกว่า!”

“ข้าขอมอบชีวิตนี้คืนให้แก่นักบุญสวรรค์เย่!”

คนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต่างก้าวออกมาร้องขอให้เย่หยวนส่งตัวเองเข้าไปเปิดเส้นทางในค่ายกลไม่ขาดสาย

ภาพนี้มันทำให้จางเหอชินต้องผงะไปอย่างไม่อาจเข้าใจได้…

เขาไม่นึกฝันว่าเด็กน้อยคนนี้กลับจะได้รับความเคารพนับถือถึงปานนี้

เดิมทีแล้วที่เขาพูดเช่นนั้นออกก็เพื่อหวังจะแยกกำลังของเย่หยวนออกจากกัน

เพราะเย่หยวนนั้นย่อมจะรักชีวิตและไม่คิดเข้าไปในค่ายกลเอง เขาต้องเลือกส่งคนเข้าไปตายแทนแน่

ทำเช่นนั้นแล้วคนทั้งหลายย่อมจะรู้สึกคับแค้นเย่หยวนขึ้นมาในใจ

แต่เขาไม่นึกฝันว่าคนทั้งหลายนั้นกลับจะขอให้เย่หยวนส่งพวกเขาไปตายแทน!

เดิมทีแล้วจางเหอชินคิดว่าที่พวกเขาเชื่อฟังเย่หยวนนั้นมันเป็นเพราะว่ามันยังไม่ถึงสถานการณ์แห่งความเป็นความตายจริงๆ

เรื่องที่สำคัญที่สุดนั้นคือพวกเขาต้องการให้เย่หยวนช่วยหลอมโอสถให้

จางเหอชินคิดว่าสายสัมพันธ์เช่นนี้มันเปราะบางที่สุด

เขานั้นทำเรื่องเช่นนี้มาไม่รู้กี่ครั้งและมันก็สำเร็จทุกครั้งไป

แต่ครั้งนี้มันกลับไม่เป็นผล!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+