Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3056 ต่อรอง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3056 ต่อรอง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3056 ต่อรอง!

“ออกมาแล้ว! ออกมาจริง!”

จู่ๆ มันก็มีเสียงร้องแตกตื่นดังขึ้นมาจากกลุ่มคน

หลังจากหายไปเป็นวันสุดท้ายเย่หยวนก็ก้าวออกมาจากห้วงมิติซ้อนและปรากฏตัวแก่สายตาคนทั้งหลายอีกครั้ง

ครั้งนี้เย่หยวนก็เข้าไปใกล้สมบัติมากกว่าเดิม

“เจ้าบ้านี่มันยังไม่ตายจริงๆ!”

“ทำไมกัน? ค่ายกลปิดกั้นที่แม้แต่เจ้าโลกยังไม่อาจทำอะไรได้ ทำไมเขาถึงเข้าไปได้?”

“ไร้เทียมทานในเต๋าโอสถเอาชนะคนรุ่นเดียวกันได้สิ้น! ตอนนี้เขายังจะมีเต๋าค่ายกลที่เหนือล้ำกว่าเจ้าโลกอย่างนั้นหรือ?”

การเอาชนะคนรุ่นเดียวกันได้นั้นมันเป็นสิ่งที่น่าตกตะลึงอย่างมากแต่มันก็ยังไม่น่าตกตะลึงเท่าภาพตรงหน้านี้

เพราะจะอย่างไรเสียเจ้าโลกนั้นก็คือเจ้าโลก

คนทั้งหลายนั้นรู้ดีว่าเจ้าโลกหยุนเซียงนั้นคือจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเจ้าโลก!

เช่นนั้นจะบอกว่าเย่หยวน จอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับแปดคนนี้กลับเอาชนะเจ้าโลกหยุนเซียงได้หรือ?

หยุนเซียงนั้นอดทำหน้าเหยเกขึ้นไม่ได้

นางนั้นกำลังลังเลใจอย่างมาก

เรื่องสมบัตินั้นมันย่อมจะอยากได้

แต่หากเย่หยวนเอาสมบัติกลับออกมาได้จริงๆ แล้วนางคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

‘สังหารมันเสียก่อนจะดีที่สุด’

แต่ที่นางบอกไว้นั้นมันก็ไม่ผิดจากความจริงมากนัก เพราะยิ่งหลังๆ ไปความซับซ้อนของค่ายกลมันก็จะยิ่งมาก

แต่ละจุดที่เย่หยวนหยุดเท้าลงนั้นมันก็ยิ่งใช้เวลามากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ตอนนี้มันไม่มีใครกล้าเร่งเขาอีกแล้ว

เพราะทุกคนนั้นต่างนั่งรอ รอให้เขาก้าวออกไปอีกครั้ง

การหยุดครั้งนี้เย่หยวนใช้เวลาไปหนึ่งวันเต็ม

จากนั้นมันก็เป็นวันครึ่ง เป็นสองวัน สามวัน

หลังจากนั้นเจ็ดวันเย่หยวนก็หายไปจากสายตาของคนทั้งหลายอีกครั้ง

ครึ่งเดือนต่อมาเย่หยวนก็ปรากฏตัวออกมาและตอนนี้เขาก็ยืนอยู่หน้าสมบัตินั้นแล้ว

คนทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต่างแทบลืมหายใจ

เพราะเบื้องหน้าของเขาในตอนนี้มันมีสมบัติยอดหมอกระดับห้าที่มีรูปร่างเป็นกระบี่ดำยาววางไว้

เย่หยวนก้มลงไปเก็บได้อย่างไม่มีอะไรผิดปกติ

“ซี๊ด…มันทำได้จริง! มันทำได้จริงๆ!” จางเหอชินร้องขึ้นมา

พวกเขานั้นพ่ายให้แก่พลังของค่ายกลนี้ไปหลายครั้งและคิดไปเสียว่าหวูเทียนนั้นกำลังเล่นตลกกับตัวเองอยู่

แต่สุดท้ายมันกลับมิใช่!

ที่พวกเขาไม่อาจเข้าไปได้มันเพราะพวกเขาไม่มีปัญญาเอง!

“ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ! เจ้าเด็กนี่มันกลับได้สมบัติมาจากมือของเฒ่าหวูเทียน!” คงไหกล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง

“เจ้าเด็กนี่มันเก่งกาจจริง! หากให้เวลามันอีกหน่อยแล้วมันคงจะกลายเป็นตัวตนที่ก้าวล้ำสวรรค์ไปได้แน่!

มันอาจจะขึ้นไปถึงระดับของเฒ่าหวูเทียนได้ในวันหน้า!” เจ้าโลกยู่เซียนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

เมื่อเจ้าโลกชาวมนุษย์ทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องหันมามองด้วยหน้าเหยเก

นี่มันพูดกรอกหูพวกเขาชัดๆ

หากหวูเทียนคนที่สองปรากฏตัวขึ้นแล้วมันย่อมจะกลายเป็นปัญหาใหญ่!

แม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะรู้ดีว่าที่ยู่เซียนกล่าวเช่นนี้มันก็เพื่อจะยั่วให้พวกเขาลงมือแต่มันก็ทำให้พวกเขารู้สึก เกรงกลัวขึ้นมาจริงๆ

สามสวรรค์ของมนุษย์นั้นย่อมจะไม่อยากก้มหัวให้สวรรค์ระดับต่ำไป

“เฮอะ น้องยู่เซียน แทนที่จะมายุให้พวกเราตีกันเช่นนี้มาตกลงเรื่องการแบ่งสมบัติกันจะดีกว่า” จางเหอชินกล่าว

ยู่เซียนยิ้มตอบกลับไป “เสื้อคลุมปีกนั้นมันคงเป็นของที่บรรพบุรุษจากเผ่าข้าทิ้งไว้แน่นอน ข้าขอมันไปคงไม่เป็นปัญหาแล้ว?”

คงไหกล่าวขึ้น “เช่นนั้นข้าอยากจะได้หอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาด!”

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา “คงไห เจ้ามันคงยังไม่เข้าใจสถานะตัวเองสินะ? เจ้าลืมเรื่องหอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาดไปได้เลย”

คงไหตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มแสนมั่นใจ “พวกเจ้าคงไม่คิดจริงๆ ใช่ไหมว่าเผ่าปีศาจนั้นมีเจ้าโลกแค่ข้าคนเดียว? เจ้าโลกเผ่าปีศาจเรานั้นต่างคนต่างอยู่แต่พวกเจ้าคิดหรือว่าพวกเขาจะมองดูข้าตายไปเฉยๆ?”

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วแน่นตอบไป “เช่นนั้นเจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าโลกเผ่ามนุษย์เรามากันแค่ห้าคนนี้? เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว หอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาดนี้มันไม่มีทางตกเป็นของเจ้าแน่!”

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นเริ่มถกเถียงและต่อรองกับเรื่องการแบ่งสมบัติไป

ราวกับว่าสมบัตินั้นมันอยู่ตรงหน้าพวกเขาไปแล้ว

เพราะจริงๆ ต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนเจ้าโลกทั้งหลายก็ยังไม่คิดเกรงกลัวเขามากมาย

ฝีมือยุทธนั้นต่างหากคือสิ่งที่ใช้ได้จริง

วิชาฝีมืออื่นใดนั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นแค่ของเสริม

สามเดือนต่อมาเย่หยวนก็เก็บสมบัติมาได้จนครบ

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ในค่ายกลปิดกั้นนั้นมันมีสามสมบัติโกลาหลสวรรค์ เจ็ดสมบัติยอดหมอกและสมุนไพรสวรรค์โกลาหล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาดนั้นมันเป็นสมบัติโกลาหลสวรรค์ที่มีระดับสูงส่งล้ำ

ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกเองก็ยังถือว่ามันเป็นของล้ำค่า

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

เย่หยวนเดินพ้นระยะค่ายกลปิดกั้นนั้นออกมาได้ไม่ถึงก้าวก็ต้องถูกคนทั้งเจ็ดเดินเข้ามาล้อมอย่างไม่มีช่องว่างให้หนีไปไหนได้

จางเหอชินยื่นมือออกมาพร้อมกล่าว “ส่งมันมา!”

เดิมทีแล้วเขาแค่ขัดตาไม่ชอบหน้าเย่หยวนและคิดส่งเขาไปตาย

แต่ใครจะไปคิดว่าเด็กคนนี้มันจะทำได้จริงๆ!

ต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่ดีไม่น้อย

เขานั้นย่อมจะไม่รู้เลยว่าที่เย่หยวนทำได้นั้นส่วนมากแล้วมันก็เพราะว่าตัวเจ้าโลกทั้งเจ็ดนี้ทดลองวิธีต่างๆ ให้ได้เห็นก่อน

เย่หยวนนั้นไม่คิดจะยอมและตอบกลับไป “ทีนี้จะต่อรองกันได้หรือยัง?”

จางเหอชินหัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ เจ้ามันก็แค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ คิดจะต่อรองกับเราเจ้าโลกทั้งหลายนี้? เจ้าไม่คิดว่ามันน่าขันบ้างหรือ?”

“ฮ่าๆๆ”

คนทั้งหลายเริ่มหัวเราะขึ้นตามๆ กัน

เพราะคำพูดของเย่หยวนนี้มันฟังดูโง่เง่ามากในสายตาของผู้คน

ไร้เทียมทานในการหลอมโอสถ ไม่มีใครเทียบได้ในเต๋าค่ายกลแต่สุดท้ายแล้วก็ยังมิใช่เจ้าโลก!

“ไอ้หนู หากเจ้ามีเวลาอีกสักพันปีเจ้าอาจจะขึ้นมาต่อรองกับเราได้ แต่ตัวเจ้าตอนนี้มันไม่มีค่าพอ!”

เจ้าโลกหยุนเซียงกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

เย่หยวนหันไปมองหน้าหยุนเซียงอย่างผิดหวัง “คนที่ไม่มีค่าพอมันเป็นพวกเจ้าต่างหาก! ตัวเจ้านั้นเป็นเจ้าโลกจอมเทพค่ายกลสวรรค์มิใช่หรือ? นี่เจ้าไม่อายบ้างหรือที่มาถึงขั้นนี้แล้วยังไม่รู้อีกว่าตัวเองนั้นยืนอยู่ที่ไหน?”

หยุนเซียงนั้นหรี่ตาลงตวาดกลับไปทันที “ไอ้เด็กเวร เจ้าคิดขู่พวกเรา?”

“ขู่? ฮ่าๆ พวกเจ้าบอกว่านี่มันคือค่ายกลปิดกั้น?” เย่หยวนชี้นิ้วกลับเข้าป่าด้านหลังไป

หยุนเซียงที่ได้ยินนั้นต้องขมวดคิ้วตอบกลับไป “หากมันมิใช่ค่ายกลปิดกั้นแล้วมันจะเป็นอะไร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ในเมื่อเจ้าเองก็เป็นเจ้าโลก เช่นนั้นเจ้าน่าจะเคยได้ยินมาใช่หรือไม่ว่ามหาค่ายกลที่ ทรงพลังที่สุดบนสวรรค์นั้นมันคือมหาค่ายกลใด?”

หยุนเซียงที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะขึ้น “เจ้าคิดจะทดสอบความรู้ข้า? มหาค่ายกลอันดับหนึ่งของสวรรค์นั้นมันย่อมจะเป็นค่ายกลสวรรค์แห่งวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต! เจ้าจะบอกว่าสิ่งนี้มันคือ ‘สวรรค์’ หรือ?”

“ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่ามันคืออะไรเล่า?” เย่หยวนถามกลับไป

“ฮ่าๆ ไอ้หนู หลังจากเข้าใจค่ายกลได้แล้วเจ้าคิดว่าตัวเองเก่งกาจกว่าข้ามากมาย? ค่ายกลสวรรค์นั้นมันคือเครื่องจักรสังหารที่ทรงพลังที่สุดตั้งแต่บรรพกาลมา พลังของมันนั้นไร้ขีดจำกัด อย่าว่าแต่เจ้า ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกทั้งหลายนี้ก็คงไม่อาจรอดชีวิตกลับออกมาได้ แค่คนอย่างเจ้านี้มันยังไม่มีคุณสมบัติพอจะทำความเข้าใจค่ายกลสวรรค์หรอก!”

หยุนเซียงกล่าวขึ้นขัด

หากจะพูดตรงๆ แล้วตอนที่ได้ยินนามของค่ายกลสวรรค์นั้นเจ้าโลกทั้งหลายก็ใจหายวาบไป

เพราะเจ้าโลกที่ตายลงในค่ายกลสวรรค์นั้นมันมีมากเกินนับ

แต่ได้ยินคำของหยุนเซียงนั้นพวกเขาก็ต้องลอบถอนหายใจยาวออกมา

“ไอ้หนู ข้าจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว ส่งสมบัติมา!” จางเหอชินกล่าวขึ้นสั่ง

เย่หยวนยิ้มและก้าวเท้าออกไป

“รนหาที่ตาย!” จางเหอชินร้องขึ้นพร้อมต่อยหมัดออกไป

พลังหมัดของเจ้าโลกนั้นมันรุนแรงล้ำมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ย่อมจะไม่มีปัญญารับมันไว้ได้แน่

สีหน้าของหยางชิงและพวกนั้นเปลี่ยนสีไปแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้

ตูม!

หมัดนั้นต่อยถูกแค่ความว่างเปล่า

ร่างของเย่หยวนกลับหายไปแล้ว

หยุนเซียงนั้นเบิกตากว้างร้องขึ้นมา “เป็นไปได้อย่างไรกัน! นี่มัน…พ้นระยะของค่ายกลปิดกั้นมาแล้ว ทำไมมันถึงยังทำเช่นนี้ได้อีก?”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3056 ต่อรอง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3056 ต่อรอง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3056 ต่อรอง!

“ออกมาแล้ว! ออกมาจริง!”

จู่ๆ มันก็มีเสียงร้องแตกตื่นดังขึ้นมาจากกลุ่มคน

หลังจากหายไปเป็นวันสุดท้ายเย่หยวนก็ก้าวออกมาจากห้วงมิติซ้อนและปรากฏตัวแก่สายตาคนทั้งหลายอีกครั้ง

ครั้งนี้เย่หยวนก็เข้าไปใกล้สมบัติมากกว่าเดิม

“เจ้าบ้านี่มันยังไม่ตายจริงๆ!”

“ทำไมกัน? ค่ายกลปิดกั้นที่แม้แต่เจ้าโลกยังไม่อาจทำอะไรได้ ทำไมเขาถึงเข้าไปได้?”

“ไร้เทียมทานในเต๋าโอสถเอาชนะคนรุ่นเดียวกันได้สิ้น! ตอนนี้เขายังจะมีเต๋าค่ายกลที่เหนือล้ำกว่าเจ้าโลกอย่างนั้นหรือ?”

การเอาชนะคนรุ่นเดียวกันได้นั้นมันเป็นสิ่งที่น่าตกตะลึงอย่างมากแต่มันก็ยังไม่น่าตกตะลึงเท่าภาพตรงหน้านี้

เพราะจะอย่างไรเสียเจ้าโลกนั้นก็คือเจ้าโลก

คนทั้งหลายนั้นรู้ดีว่าเจ้าโลกหยุนเซียงนั้นคือจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเจ้าโลก!

เช่นนั้นจะบอกว่าเย่หยวน จอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับแปดคนนี้กลับเอาชนะเจ้าโลกหยุนเซียงได้หรือ?

หยุนเซียงนั้นอดทำหน้าเหยเกขึ้นไม่ได้

นางนั้นกำลังลังเลใจอย่างมาก

เรื่องสมบัตินั้นมันย่อมจะอยากได้

แต่หากเย่หยวนเอาสมบัติกลับออกมาได้จริงๆ แล้วนางคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

‘สังหารมันเสียก่อนจะดีที่สุด’

แต่ที่นางบอกไว้นั้นมันก็ไม่ผิดจากความจริงมากนัก เพราะยิ่งหลังๆ ไปความซับซ้อนของค่ายกลมันก็จะยิ่งมาก

แต่ละจุดที่เย่หยวนหยุดเท้าลงนั้นมันก็ยิ่งใช้เวลามากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ตอนนี้มันไม่มีใครกล้าเร่งเขาอีกแล้ว

เพราะทุกคนนั้นต่างนั่งรอ รอให้เขาก้าวออกไปอีกครั้ง

การหยุดครั้งนี้เย่หยวนใช้เวลาไปหนึ่งวันเต็ม

จากนั้นมันก็เป็นวันครึ่ง เป็นสองวัน สามวัน

หลังจากนั้นเจ็ดวันเย่หยวนก็หายไปจากสายตาของคนทั้งหลายอีกครั้ง

ครึ่งเดือนต่อมาเย่หยวนก็ปรากฏตัวออกมาและตอนนี้เขาก็ยืนอยู่หน้าสมบัตินั้นแล้ว

คนทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต่างแทบลืมหายใจ

เพราะเบื้องหน้าของเขาในตอนนี้มันมีสมบัติยอดหมอกระดับห้าที่มีรูปร่างเป็นกระบี่ดำยาววางไว้

เย่หยวนก้มลงไปเก็บได้อย่างไม่มีอะไรผิดปกติ

“ซี๊ด…มันทำได้จริง! มันทำได้จริงๆ!” จางเหอชินร้องขึ้นมา

พวกเขานั้นพ่ายให้แก่พลังของค่ายกลนี้ไปหลายครั้งและคิดไปเสียว่าหวูเทียนนั้นกำลังเล่นตลกกับตัวเองอยู่

แต่สุดท้ายมันกลับมิใช่!

ที่พวกเขาไม่อาจเข้าไปได้มันเพราะพวกเขาไม่มีปัญญาเอง!

“ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ! เจ้าเด็กนี่มันกลับได้สมบัติมาจากมือของเฒ่าหวูเทียน!” คงไหกล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง

“เจ้าเด็กนี่มันเก่งกาจจริง! หากให้เวลามันอีกหน่อยแล้วมันคงจะกลายเป็นตัวตนที่ก้าวล้ำสวรรค์ไปได้แน่!

มันอาจจะขึ้นไปถึงระดับของเฒ่าหวูเทียนได้ในวันหน้า!” เจ้าโลกยู่เซียนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

เมื่อเจ้าโลกชาวมนุษย์ทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องหันมามองด้วยหน้าเหยเก

นี่มันพูดกรอกหูพวกเขาชัดๆ

หากหวูเทียนคนที่สองปรากฏตัวขึ้นแล้วมันย่อมจะกลายเป็นปัญหาใหญ่!

แม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะรู้ดีว่าที่ยู่เซียนกล่าวเช่นนี้มันก็เพื่อจะยั่วให้พวกเขาลงมือแต่มันก็ทำให้พวกเขารู้สึก เกรงกลัวขึ้นมาจริงๆ

สามสวรรค์ของมนุษย์นั้นย่อมจะไม่อยากก้มหัวให้สวรรค์ระดับต่ำไป

“เฮอะ น้องยู่เซียน แทนที่จะมายุให้พวกเราตีกันเช่นนี้มาตกลงเรื่องการแบ่งสมบัติกันจะดีกว่า” จางเหอชินกล่าว

ยู่เซียนยิ้มตอบกลับไป “เสื้อคลุมปีกนั้นมันคงเป็นของที่บรรพบุรุษจากเผ่าข้าทิ้งไว้แน่นอน ข้าขอมันไปคงไม่เป็นปัญหาแล้ว?”

คงไหกล่าวขึ้น “เช่นนั้นข้าอยากจะได้หอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาด!”

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา “คงไห เจ้ามันคงยังไม่เข้าใจสถานะตัวเองสินะ? เจ้าลืมเรื่องหอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาดไปได้เลย”

คงไหตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มแสนมั่นใจ “พวกเจ้าคงไม่คิดจริงๆ ใช่ไหมว่าเผ่าปีศาจนั้นมีเจ้าโลกแค่ข้าคนเดียว? เจ้าโลกเผ่าปีศาจเรานั้นต่างคนต่างอยู่แต่พวกเจ้าคิดหรือว่าพวกเขาจะมองดูข้าตายไปเฉยๆ?”

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วแน่นตอบไป “เช่นนั้นเจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าโลกเผ่ามนุษย์เรามากันแค่ห้าคนนี้? เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว หอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาดนี้มันไม่มีทางตกเป็นของเจ้าแน่!”

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นเริ่มถกเถียงและต่อรองกับเรื่องการแบ่งสมบัติไป

ราวกับว่าสมบัตินั้นมันอยู่ตรงหน้าพวกเขาไปแล้ว

เพราะจริงๆ ต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนเจ้าโลกทั้งหลายก็ยังไม่คิดเกรงกลัวเขามากมาย

ฝีมือยุทธนั้นต่างหากคือสิ่งที่ใช้ได้จริง

วิชาฝีมืออื่นใดนั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นแค่ของเสริม

สามเดือนต่อมาเย่หยวนก็เก็บสมบัติมาได้จนครบ

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ในค่ายกลปิดกั้นนั้นมันมีสามสมบัติโกลาหลสวรรค์ เจ็ดสมบัติยอดหมอกและสมุนไพรสวรรค์โกลาหล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาดนั้นมันเป็นสมบัติโกลาหลสวรรค์ที่มีระดับสูงส่งล้ำ

ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกเองก็ยังถือว่ามันเป็นของล้ำค่า

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

เย่หยวนเดินพ้นระยะค่ายกลปิดกั้นนั้นออกมาได้ไม่ถึงก้าวก็ต้องถูกคนทั้งเจ็ดเดินเข้ามาล้อมอย่างไม่มีช่องว่างให้หนีไปไหนได้

จางเหอชินยื่นมือออกมาพร้อมกล่าว “ส่งมันมา!”

เดิมทีแล้วเขาแค่ขัดตาไม่ชอบหน้าเย่หยวนและคิดส่งเขาไปตาย

แต่ใครจะไปคิดว่าเด็กคนนี้มันจะทำได้จริงๆ!

ต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่ดีไม่น้อย

เขานั้นย่อมจะไม่รู้เลยว่าที่เย่หยวนทำได้นั้นส่วนมากแล้วมันก็เพราะว่าตัวเจ้าโลกทั้งเจ็ดนี้ทดลองวิธีต่างๆ ให้ได้เห็นก่อน

เย่หยวนนั้นไม่คิดจะยอมและตอบกลับไป “ทีนี้จะต่อรองกันได้หรือยัง?”

จางเหอชินหัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ เจ้ามันก็แค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ คิดจะต่อรองกับเราเจ้าโลกทั้งหลายนี้? เจ้าไม่คิดว่ามันน่าขันบ้างหรือ?”

“ฮ่าๆๆ”

คนทั้งหลายเริ่มหัวเราะขึ้นตามๆ กัน

เพราะคำพูดของเย่หยวนนี้มันฟังดูโง่เง่ามากในสายตาของผู้คน

ไร้เทียมทานในการหลอมโอสถ ไม่มีใครเทียบได้ในเต๋าค่ายกลแต่สุดท้ายแล้วก็ยังมิใช่เจ้าโลก!

“ไอ้หนู หากเจ้ามีเวลาอีกสักพันปีเจ้าอาจจะขึ้นมาต่อรองกับเราได้ แต่ตัวเจ้าตอนนี้มันไม่มีค่าพอ!”

เจ้าโลกหยุนเซียงกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

เย่หยวนหันไปมองหน้าหยุนเซียงอย่างผิดหวัง “คนที่ไม่มีค่าพอมันเป็นพวกเจ้าต่างหาก! ตัวเจ้านั้นเป็นเจ้าโลกจอมเทพค่ายกลสวรรค์มิใช่หรือ? นี่เจ้าไม่อายบ้างหรือที่มาถึงขั้นนี้แล้วยังไม่รู้อีกว่าตัวเองนั้นยืนอยู่ที่ไหน?”

หยุนเซียงนั้นหรี่ตาลงตวาดกลับไปทันที “ไอ้เด็กเวร เจ้าคิดขู่พวกเรา?”

“ขู่? ฮ่าๆ พวกเจ้าบอกว่านี่มันคือค่ายกลปิดกั้น?” เย่หยวนชี้นิ้วกลับเข้าป่าด้านหลังไป

หยุนเซียงที่ได้ยินนั้นต้องขมวดคิ้วตอบกลับไป “หากมันมิใช่ค่ายกลปิดกั้นแล้วมันจะเป็นอะไร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ในเมื่อเจ้าเองก็เป็นเจ้าโลก เช่นนั้นเจ้าน่าจะเคยได้ยินมาใช่หรือไม่ว่ามหาค่ายกลที่ ทรงพลังที่สุดบนสวรรค์นั้นมันคือมหาค่ายกลใด?”

หยุนเซียงที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะขึ้น “เจ้าคิดจะทดสอบความรู้ข้า? มหาค่ายกลอันดับหนึ่งของสวรรค์นั้นมันย่อมจะเป็นค่ายกลสวรรค์แห่งวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต! เจ้าจะบอกว่าสิ่งนี้มันคือ ‘สวรรค์’ หรือ?”

“ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่ามันคืออะไรเล่า?” เย่หยวนถามกลับไป

“ฮ่าๆ ไอ้หนู หลังจากเข้าใจค่ายกลได้แล้วเจ้าคิดว่าตัวเองเก่งกาจกว่าข้ามากมาย? ค่ายกลสวรรค์นั้นมันคือเครื่องจักรสังหารที่ทรงพลังที่สุดตั้งแต่บรรพกาลมา พลังของมันนั้นไร้ขีดจำกัด อย่าว่าแต่เจ้า ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกทั้งหลายนี้ก็คงไม่อาจรอดชีวิตกลับออกมาได้ แค่คนอย่างเจ้านี้มันยังไม่มีคุณสมบัติพอจะทำความเข้าใจค่ายกลสวรรค์หรอก!”

หยุนเซียงกล่าวขึ้นขัด

หากจะพูดตรงๆ แล้วตอนที่ได้ยินนามของค่ายกลสวรรค์นั้นเจ้าโลกทั้งหลายก็ใจหายวาบไป

เพราะเจ้าโลกที่ตายลงในค่ายกลสวรรค์นั้นมันมีมากเกินนับ

แต่ได้ยินคำของหยุนเซียงนั้นพวกเขาก็ต้องลอบถอนหายใจยาวออกมา

“ไอ้หนู ข้าจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว ส่งสมบัติมา!” จางเหอชินกล่าวขึ้นสั่ง

เย่หยวนยิ้มและก้าวเท้าออกไป

“รนหาที่ตาย!” จางเหอชินร้องขึ้นพร้อมต่อยหมัดออกไป

พลังหมัดของเจ้าโลกนั้นมันรุนแรงล้ำมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ย่อมจะไม่มีปัญญารับมันไว้ได้แน่

สีหน้าของหยางชิงและพวกนั้นเปลี่ยนสีไปแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้

ตูม!

หมัดนั้นต่อยถูกแค่ความว่างเปล่า

ร่างของเย่หยวนกลับหายไปแล้ว

หยุนเซียงนั้นเบิกตากว้างร้องขึ้นมา “เป็นไปได้อย่างไรกัน! นี่มัน…พ้นระยะของค่ายกลปิดกั้นมาแล้ว ทำไมมันถึงยังทำเช่นนี้ได้อีก?”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3056 ต่อรอง!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3056 ต่อรอง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 3056 ต่อรอง!

“ออกมาแล้ว! ออกมาจริง!”

จู่ๆ มันก็มีเสียงร้องแตกตื่นดังขึ้นมาจากกลุ่มคน

หลังจากหายไปเป็นวันสุดท้ายเย่หยวนก็ก้าวออกมาจากห้วงมิติซ้อนและปรากฏตัวแก่สายตาคนทั้งหลายอีกครั้ง

ครั้งนี้เย่หยวนก็เข้าไปใกล้สมบัติมากกว่าเดิม

“เจ้าบ้านี่มันยังไม่ตายจริงๆ!”

“ทำไมกัน? ค่ายกลปิดกั้นที่แม้แต่เจ้าโลกยังไม่อาจทำอะไรได้ ทำไมเขาถึงเข้าไปได้?”

“ไร้เทียมทานในเต๋าโอสถเอาชนะคนรุ่นเดียวกันได้สิ้น! ตอนนี้เขายังจะมีเต๋าค่ายกลที่เหนือล้ำกว่าเจ้าโลกอย่างนั้นหรือ?”

การเอาชนะคนรุ่นเดียวกันได้นั้นมันเป็นสิ่งที่น่าตกตะลึงอย่างมากแต่มันก็ยังไม่น่าตกตะลึงเท่าภาพตรงหน้านี้

เพราะจะอย่างไรเสียเจ้าโลกนั้นก็คือเจ้าโลก

คนทั้งหลายนั้นรู้ดีว่าเจ้าโลกหยุนเซียงนั้นคือจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเจ้าโลก!

เช่นนั้นจะบอกว่าเย่หยวน จอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับแปดคนนี้กลับเอาชนะเจ้าโลกหยุนเซียงได้หรือ?

หยุนเซียงนั้นอดทำหน้าเหยเกขึ้นไม่ได้

นางนั้นกำลังลังเลใจอย่างมาก

เรื่องสมบัตินั้นมันย่อมจะอยากได้

แต่หากเย่หยวนเอาสมบัติกลับออกมาได้จริงๆ แล้วนางคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

‘สังหารมันเสียก่อนจะดีที่สุด’

แต่ที่นางบอกไว้นั้นมันก็ไม่ผิดจากความจริงมากนัก เพราะยิ่งหลังๆ ไปความซับซ้อนของค่ายกลมันก็จะยิ่งมาก

แต่ละจุดที่เย่หยวนหยุดเท้าลงนั้นมันก็ยิ่งใช้เวลามากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ตอนนี้มันไม่มีใครกล้าเร่งเขาอีกแล้ว

เพราะทุกคนนั้นต่างนั่งรอ รอให้เขาก้าวออกไปอีกครั้ง

การหยุดครั้งนี้เย่หยวนใช้เวลาไปหนึ่งวันเต็ม

จากนั้นมันก็เป็นวันครึ่ง เป็นสองวัน สามวัน

หลังจากนั้นเจ็ดวันเย่หยวนก็หายไปจากสายตาของคนทั้งหลายอีกครั้ง

ครึ่งเดือนต่อมาเย่หยวนก็ปรากฏตัวออกมาและตอนนี้เขาก็ยืนอยู่หน้าสมบัตินั้นแล้ว

คนทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต่างแทบลืมหายใจ

เพราะเบื้องหน้าของเขาในตอนนี้มันมีสมบัติยอดหมอกระดับห้าที่มีรูปร่างเป็นกระบี่ดำยาววางไว้

เย่หยวนก้มลงไปเก็บได้อย่างไม่มีอะไรผิดปกติ

“ซี๊ด…มันทำได้จริง! มันทำได้จริงๆ!” จางเหอชินร้องขึ้นมา

พวกเขานั้นพ่ายให้แก่พลังของค่ายกลนี้ไปหลายครั้งและคิดไปเสียว่าหวูเทียนนั้นกำลังเล่นตลกกับตัวเองอยู่

แต่สุดท้ายมันกลับมิใช่!

ที่พวกเขาไม่อาจเข้าไปได้มันเพราะพวกเขาไม่มีปัญญาเอง!

“ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ! เจ้าเด็กนี่มันกลับได้สมบัติมาจากมือของเฒ่าหวูเทียน!” คงไหกล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง

“เจ้าเด็กนี่มันเก่งกาจจริง! หากให้เวลามันอีกหน่อยแล้วมันคงจะกลายเป็นตัวตนที่ก้าวล้ำสวรรค์ไปได้แน่!

มันอาจจะขึ้นไปถึงระดับของเฒ่าหวูเทียนได้ในวันหน้า!” เจ้าโลกยู่เซียนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

เมื่อเจ้าโลกชาวมนุษย์ทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องหันมามองด้วยหน้าเหยเก

นี่มันพูดกรอกหูพวกเขาชัดๆ

หากหวูเทียนคนที่สองปรากฏตัวขึ้นแล้วมันย่อมจะกลายเป็นปัญหาใหญ่!

แม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะรู้ดีว่าที่ยู่เซียนกล่าวเช่นนี้มันก็เพื่อจะยั่วให้พวกเขาลงมือแต่มันก็ทำให้พวกเขารู้สึก เกรงกลัวขึ้นมาจริงๆ

สามสวรรค์ของมนุษย์นั้นย่อมจะไม่อยากก้มหัวให้สวรรค์ระดับต่ำไป

“เฮอะ น้องยู่เซียน แทนที่จะมายุให้พวกเราตีกันเช่นนี้มาตกลงเรื่องการแบ่งสมบัติกันจะดีกว่า” จางเหอชินกล่าว

ยู่เซียนยิ้มตอบกลับไป “เสื้อคลุมปีกนั้นมันคงเป็นของที่บรรพบุรุษจากเผ่าข้าทิ้งไว้แน่นอน ข้าขอมันไปคงไม่เป็นปัญหาแล้ว?”

คงไหกล่าวขึ้น “เช่นนั้นข้าอยากจะได้หอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาด!”

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา “คงไห เจ้ามันคงยังไม่เข้าใจสถานะตัวเองสินะ? เจ้าลืมเรื่องหอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาดไปได้เลย”

คงไหตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มแสนมั่นใจ “พวกเจ้าคงไม่คิดจริงๆ ใช่ไหมว่าเผ่าปีศาจนั้นมีเจ้าโลกแค่ข้าคนเดียว? เจ้าโลกเผ่าปีศาจเรานั้นต่างคนต่างอยู่แต่พวกเจ้าคิดหรือว่าพวกเขาจะมองดูข้าตายไปเฉยๆ?”

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วแน่นตอบไป “เช่นนั้นเจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าโลกเผ่ามนุษย์เรามากันแค่ห้าคนนี้? เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว หอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาดนี้มันไม่มีทางตกเป็นของเจ้าแน่!”

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นเริ่มถกเถียงและต่อรองกับเรื่องการแบ่งสมบัติไป

ราวกับว่าสมบัตินั้นมันอยู่ตรงหน้าพวกเขาไปแล้ว

เพราะจริงๆ ต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนเจ้าโลกทั้งหลายก็ยังไม่คิดเกรงกลัวเขามากมาย

ฝีมือยุทธนั้นต่างหากคือสิ่งที่ใช้ได้จริง

วิชาฝีมืออื่นใดนั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นแค่ของเสริม

สามเดือนต่อมาเย่หยวนก็เก็บสมบัติมาได้จนครบ

เจ้าโลกทั้งหลายนั้นต่างยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ในค่ายกลปิดกั้นนั้นมันมีสามสมบัติโกลาหลสวรรค์ เจ็ดสมบัติยอดหมอกและสมุนไพรสวรรค์โกลาหล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอกหอนสวรรค์เปลวเพลิงชาดนั้นมันเป็นสมบัติโกลาหลสวรรค์ที่มีระดับสูงส่งล้ำ

ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกเองก็ยังถือว่ามันเป็นของล้ำค่า

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

เย่หยวนเดินพ้นระยะค่ายกลปิดกั้นนั้นออกมาได้ไม่ถึงก้าวก็ต้องถูกคนทั้งเจ็ดเดินเข้ามาล้อมอย่างไม่มีช่องว่างให้หนีไปไหนได้

จางเหอชินยื่นมือออกมาพร้อมกล่าว “ส่งมันมา!”

เดิมทีแล้วเขาแค่ขัดตาไม่ชอบหน้าเย่หยวนและคิดส่งเขาไปตาย

แต่ใครจะไปคิดว่าเด็กคนนี้มันจะทำได้จริงๆ!

ต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นเรื่องไม่คาดฝันที่ดีไม่น้อย

เขานั้นย่อมจะไม่รู้เลยว่าที่เย่หยวนทำได้นั้นส่วนมากแล้วมันก็เพราะว่าตัวเจ้าโลกทั้งเจ็ดนี้ทดลองวิธีต่างๆ ให้ได้เห็นก่อน

เย่หยวนนั้นไม่คิดจะยอมและตอบกลับไป “ทีนี้จะต่อรองกันได้หรือยัง?”

จางเหอชินหัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ เจ้ามันก็แค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ คิดจะต่อรองกับเราเจ้าโลกทั้งหลายนี้? เจ้าไม่คิดว่ามันน่าขันบ้างหรือ?”

“ฮ่าๆๆ”

คนทั้งหลายเริ่มหัวเราะขึ้นตามๆ กัน

เพราะคำพูดของเย่หยวนนี้มันฟังดูโง่เง่ามากในสายตาของผู้คน

ไร้เทียมทานในการหลอมโอสถ ไม่มีใครเทียบได้ในเต๋าค่ายกลแต่สุดท้ายแล้วก็ยังมิใช่เจ้าโลก!

“ไอ้หนู หากเจ้ามีเวลาอีกสักพันปีเจ้าอาจจะขึ้นมาต่อรองกับเราได้ แต่ตัวเจ้าตอนนี้มันไม่มีค่าพอ!”

เจ้าโลกหยุนเซียงกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

เย่หยวนหันไปมองหน้าหยุนเซียงอย่างผิดหวัง “คนที่ไม่มีค่าพอมันเป็นพวกเจ้าต่างหาก! ตัวเจ้านั้นเป็นเจ้าโลกจอมเทพค่ายกลสวรรค์มิใช่หรือ? นี่เจ้าไม่อายบ้างหรือที่มาถึงขั้นนี้แล้วยังไม่รู้อีกว่าตัวเองนั้นยืนอยู่ที่ไหน?”

หยุนเซียงนั้นหรี่ตาลงตวาดกลับไปทันที “ไอ้เด็กเวร เจ้าคิดขู่พวกเรา?”

“ขู่? ฮ่าๆ พวกเจ้าบอกว่านี่มันคือค่ายกลปิดกั้น?” เย่หยวนชี้นิ้วกลับเข้าป่าด้านหลังไป

หยุนเซียงที่ได้ยินนั้นต้องขมวดคิ้วตอบกลับไป “หากมันมิใช่ค่ายกลปิดกั้นแล้วมันจะเป็นอะไร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ในเมื่อเจ้าเองก็เป็นเจ้าโลก เช่นนั้นเจ้าน่าจะเคยได้ยินมาใช่หรือไม่ว่ามหาค่ายกลที่ ทรงพลังที่สุดบนสวรรค์นั้นมันคือมหาค่ายกลใด?”

หยุนเซียงที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะขึ้น “เจ้าคิดจะทดสอบความรู้ข้า? มหาค่ายกลอันดับหนึ่งของสวรรค์นั้นมันย่อมจะเป็นค่ายกลสวรรค์แห่งวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต! เจ้าจะบอกว่าสิ่งนี้มันคือ ‘สวรรค์’ หรือ?”

“ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่ามันคืออะไรเล่า?” เย่หยวนถามกลับไป

“ฮ่าๆ ไอ้หนู หลังจากเข้าใจค่ายกลได้แล้วเจ้าคิดว่าตัวเองเก่งกาจกว่าข้ามากมาย? ค่ายกลสวรรค์นั้นมันคือเครื่องจักรสังหารที่ทรงพลังที่สุดตั้งแต่บรรพกาลมา พลังของมันนั้นไร้ขีดจำกัด อย่าว่าแต่เจ้า ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกทั้งหลายนี้ก็คงไม่อาจรอดชีวิตกลับออกมาได้ แค่คนอย่างเจ้านี้มันยังไม่มีคุณสมบัติพอจะทำความเข้าใจค่ายกลสวรรค์หรอก!”

หยุนเซียงกล่าวขึ้นขัด

หากจะพูดตรงๆ แล้วตอนที่ได้ยินนามของค่ายกลสวรรค์นั้นเจ้าโลกทั้งหลายก็ใจหายวาบไป

เพราะเจ้าโลกที่ตายลงในค่ายกลสวรรค์นั้นมันมีมากเกินนับ

แต่ได้ยินคำของหยุนเซียงนั้นพวกเขาก็ต้องลอบถอนหายใจยาวออกมา

“ไอ้หนู ข้าจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว ส่งสมบัติมา!” จางเหอชินกล่าวขึ้นสั่ง

เย่หยวนยิ้มและก้าวเท้าออกไป

“รนหาที่ตาย!” จางเหอชินร้องขึ้นพร้อมต่อยหมัดออกไป

พลังหมัดของเจ้าโลกนั้นมันรุนแรงล้ำมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ย่อมจะไม่มีปัญญารับมันไว้ได้แน่

สีหน้าของหยางชิงและพวกนั้นเปลี่ยนสีไปแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้

ตูม!

หมัดนั้นต่อยถูกแค่ความว่างเปล่า

ร่างของเย่หยวนกลับหายไปแล้ว

หยุนเซียงนั้นเบิกตากว้างร้องขึ้นมา “เป็นไปได้อย่างไรกัน! นี่มัน…พ้นระยะของค่ายกลปิดกั้นมาแล้ว ทำไมมันถึงยังทำเช่นนี้ได้อีก?”

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+