Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3060 กลั่นแกล้งพวกเจ้าเล่น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3060 กลั่นแกล้งพวกเจ้าเล่น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แก้ค่ายกล? ค่ายกลใดเล่า?” เย่หยวนหันกลับไปถามด้วยหน้างงๆ

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องแยกเขี้ยวร้องกลับไปทันที “ไอ้เด็กเวร เจ้าคิดจะเล่นตลกกับข้าหรือ?”

เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับไป “ขอโทษที สิ่งที่ข้าวิเคราะห์นั้นมันอยู่ในสัญลักษณ์ที่ข้าเขียนสิ้น ตอนนี้เมื่อสัญลักษณ์เหล่านั้นหายไปแล้วความรู้ของข้าเองก็หายไปเช่นกัน ข้าคงไม่อาจจะแก้ค่ายกลใดๆ ได้อีกแล้ว”

จางเหอชินนั้นแทบต้องกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน เจ้าเด็กนี่มันจงใจจะกดหัวเขา!

เขาไม่เชื่อว่าด้วยสมองระดับเย่หยวนนี้มันจะไม่อาจจดจำสิ่งที่เคยเขียนไปนั้นได้

เย่หยวนนั้นกำลังแก้แค้นพวกเขา!

“ไอ้หนู เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าจะสังหารเจ้าจริงๆ?” จางเหอชินกล่าวขึ้นมาด้วยจิตสังหารรุนแรงล้ำ

แต่น่าเสียดายที่เย่หยวนกลับยิ้มตอบกลับมาหน้าตาเฉย “ผู้อาวุโสท่านจะขู่ข้าทำไมอีก? ยิ่งท่านขู่ข้าเท่าไหร่ข้าก็ยิ่งจะลืมไปเท่านั้นแล้ว! ยิ่งข้าลืมไปเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะไม่มีทางแก้ค่ายกลนั้นได้เช่นกัน”

จางเหอชินนั้นแทบจะกรีดออกมาเมื่อได้ยิน

แต่คงไหที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้นกล่าวขึ้นมาเสริม “จะยังพูดไร้สาระกับมันทำไมอีก? ทรมานมันสิ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าถึงเวลานั้นแล้วมันจะยังไม่ลงมือ!”

ได้ยินเช่นนั้นจางเหอชินก็ต้องผงะไปเช่นกัน

เพราะว่านี่มันคือสิ่งที่เสี่ยงอย่างมาก หยุนเซียงนั้นไม่มีปัญญาจะแก้ไขแล้ว ตอนนี้มันเหลือเพียงแค่เย่หยวน

หากว่าพวกเขานั้นไปทำให้เย่หยวนคับแค้นจนสุดใจแล้วเกิดเย่หยวนยอมที่จะแลกชีวิต ชีวิตของพวกเขาคงได้สิ้นลงที่นี่แน่

แต่จะให้เขาก้มหัวให้เย่หยวนนั้นมันย่อมจะไม่ได้เช่นกัน

คำพูดของเย่หยวนนั้นมันชัดเจนว่าเขาต้องการให้คนทั้งหลายก้มหัวยอมรับผิด!

แต่สุดท้ายแล้วชื่อเสียงมันก็ค้ำคอพวกเขาไว้

จางเหอชินขยับตัวพุ่งตัวเข้าไปหมายจับตัวเย่หยวนด้วยความเร็วที่เหนือล้ำ

แน่นอนว่าเย่หยวนเองก็ไม่คิดจะป้องกันตัวใดๆ

เขานั้นยืนอยู่ตรงหน้าราวกับว่าการโจมตีของจางเหอชินนั้นมันไม่มีอยู่จริง

แต่ก่อนที่มือของจางเหอชินจะไปถึงตัวเย่หยวนนั้นมันก็มีหมัดหนึ่งต่อยเข้าด้านข้างมาก่อน

ปัง!

จางเหอชินนั้นเสียหลักพุ่งตัวออกไปนับร้อยๆ ก้าวก่อนที่จะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง

ตอนนี้มีเงาร่างหนึ่งกำลังยืนบังหน้าเย่หยวนไว้

“เฮอะ! ไอ้พวกขยะไร้สมอง!”

จางเหอชินนั้นผงะไปทันทีที่ได้เห็นคนผู้นี้ “เจ้าโลกหยุนชาง!”

เขาผู้นี้คือผู้บ่มเพาะชาวมนุษย์ ยอดเจ้าโลกหยุนชาง!

เขานั้นอดไม่ได้และต้องลงมือออกมา

เจ้าโลกหยุนชางนั้นกล่าวขึ้นด่า “พวกเจ้าโง่! หากเจ้าคิดรนหาที่ตายเองมันย่อมจะไม่มีใครสนใจแต่นี่เจ้าคิดจะลากคนมากมายลงไปตายกับเจ้าด้วยหรือ?”

พวกจางเหอชินได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเมื่อได้ยินเพราะว่าเจ้าโลกถูกคนด่าว่าโง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันย่อมจะเสียหน้าอย่างไม่อาจกู้กลับ!

เขาร้องกลับไปด้วยใบหน้าแดงดำ “หยุนชาง เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? คนอย่างเจ้ามีสิทธิ์มาพูดเช่นนี้ต่อหน้านิกายสวรรค์ทำนองอเวจีหรือ?”

เจ้าโลกหยุนชางได้แต่ต้องส่ายหัวกล่าวขึ้น “นิกายสวรรค์ทำนองอเวจีของเจ้านั้นมันยิ่งใหญ่ทรงพลังมาก

แต่เทียบกับค่ายสำนักจากทุกสวรรค์แล้วเจ้าคิดว่ามันยิ่งใหญ่มากหรือ? เจ้าคิดว่าการเดินทางครั้งนี้มันมีเจ้าโลกเข้ามาด้วยกี่คน? เจ้าคิดว่ามันจะไม่มียอดฝีมือล้ำสวรรค์ลอบเข้ามาเลยหรือ? ที่ข้าออกมาด่าเจ้าให้นี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าเจ้า!

ไม่เช่นนั้นแล้วหากเป็นคนอื่นพวกเจ้าคงได้ตายอย่างไม่ทันรู้ตัวแน่!”

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องหน้าซีดขาวลงมองดูคนรอบๆ ทันที

แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็ไม่เห็นมีเจ้าโลกอยู่สักคน

เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นมันเป็นสิ่งที่ล้ำเส้นไปมาก

เขานั้นยอมที่จะเสี่ยงชีวิต แต่ว่าเจ้าโลกคนอื่นๆ จะยอมเสี่ยงกับเขาด้วยหรือไม่?

ที่คนทั้งหลายยังไม่ออกมานั้นมันย่อมจะเพราะว่าพวกเขายังไม่คิดว่ามันถึงเวลาลงมือ

แต่ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์แล้วมันก็ยังไม่แน่ว่าจะออกจากค่ายกลสวรรค์นี้ไปได้!

“พวกเจ้ามันโง่! ฝีมือมีไม่เท่าคนอื่นก็แค่ยอมรับและขอโทษไปเสีย! ตอนนี้สหายหนุ่มเย่นั้นคือความหวังเดียวของเรา เจ้ากลับกล้าโจมตีเขา? หากพวกเจ้าคิดสังหารเขาจริงๆ ก็ได้! ครั้งนี้ข้าจะไม่ออกมาช่วยพวกเจ้าแล้ว ถึงเวลานั้นรอดูเอาเถอะว่าหัวของพวกเจ้านั้นจะยังติดอยู่บนบ่าได้หรือไม่!” เจ้าโลกหยุนชางกล่าวขึ้น

เจ้าโลกทั้งเจ็ดนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเก

แต่ได้ยินคำพูดของเจ้าโลกหยุนชางนั้นพวกเขาก็ได้สติกลับขึ้นมาทันที

เมื่อได้เห็นคนทั้งเจ็ดเงียบปากไปหยุนเซียงก็กล่าวขึ้น “ทำไมเล่า? ไม่พูดแล้ว? หากเจ้าไม่พูดก็วางความอวดดีโง่ๆ นั่นลงเสีย! ทำตามที่สหายหนุ่มเย่บอก!”

พูดจบเขาก็หันมายิ้มกล่าวกับเย่หยวน “สหายหนุ่มเย่ ถือว่าเห็นแก่หน้าเฒ่าคนนี้ เจ้าช่วยสงบจิตสงบใจลงหน่อยได้หรือไม่? หากเจ้ายังไม่พอใจข้าจะไปสั่งสอนพวกมันให้ถึงกระดูกเอง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้าย่อมจะต้องไว้หน้าของผู้อาวุโสหยุนชาง แต่ตอนนี้ข้าลืมสิ่งที่ข้าได้วิเคราะห์ไปก่อนหน้าสิ้นเชิงแล้ว หากคิดจะวิเคราะห์ค่ายกลนี้มันก็ต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรก!”

“ไอ้สัตว์นรกเจ้าโกหกหน้าด้านๆ!” จางเหอชินร้องขึ้น

เจ้าโลกทั้งหกนั้นแทบจะสิ้นสติไปเมื่อได้ยิน

ส่วนตัวเจ้าโลกหยุนเซียงนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาทำแกล้งตายอยู่ไม่ไกล

ตอนนี้นางบาดเจ็บสาหัสและไม่อาจจะเข้าไปทดสอบพลังค่ายกลใดๆ ได้

การต้องบุกเข้าค่ายกลไปแบบนั้นมันเจ็บปวดไม่น้อย

“หา?” เจ้าโลกหยุนชางหันมาด้วยความไม่พอใจ

จางเหอชินและพวกต้องก้มหน้าลงหลบทันที

เย่หยวนก้าวออกมาและชี้มือสั่งจุดตำแหน่ง “ผู้อาวุโสทั้งหลายเชิญ!”

จางเหอชินกัดฟันแน่นขึ้น “ไอ้หนู ข้าจะจำมันไว้ให้ขึ้นใจ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

หนึ่งชั่วโมงต่อมาคนทั้งหลายก็กลับมาด้วยใบหน้าเขียวช้ำ

แต่เย่หยวนนั้นกลับยังไม่ได้เริ่มทำอะไร

“ไอ้หนู เรากลับออกมาจากค่ายกลแล้วทำไมเจ้ายังไม่เริ่มเขียนอีก?” จางเหอชินกล่าวขึ้น

“ข้าชี้จุดผิดไปหน่อย ตอนนี้ข้าเลยยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร พวกเจ้าเข้าไปอีกรอบเถอะนะ” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

ตูม!

ตูม!

ตูม!

คลื่นพลังหกสายปะทุขึ้นพร้อมๆ กัน

เจ้าโลกทั้งหกนั้นกำลังคับแค้นสุดใจ

“ไอ้หนู เจ้ากล้าปั่นหัวพวกเราเล่น?” จางเหอชินตวาดขึ้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ใช่ ข้าแกล้งพวกเจ้าเล่น พวกเจ้ามีอะไรจะขัด? พวกเจ้าหาเรื่องข้ามาเป็นวันๆ ข้าจะหาเรื่องพวกเจ้ากลับไม่ได้?”

“ข้าจะสังหารเจ้าลงเสีย!” จางเหอชินร้องลั่นขึ้นด้วยความโกรธ

เขานั้นคับแค้นอย่างสุดหัวใจ

“ฮึ่ม!” ในเวลานั้นเองที่เจ้าโลกหยุนชางได้ส่งเสียงขึ้นมาดับความโกรธของคนทั้งหกลง

“ไอ้หนู จำไว้ให้ดีเถอะ!” จางเหอชินร้องลั่นก่อนจะเดินเข้าค่ายกลอีกครั้ง

เมื่อคนทั้งหกเดินหายไปเย่หยวนก็หยิบเอาหินขึ้นมาขีดเขียนบนพื้นอีกครั้ง

และรายละเอียดนั้นมันเหมือนกับก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน

คนที่ได้เห็นนั้นต่างต้องยิ้มแห้งๆ ออกมา

“หึๆ เรื่องในวันนี้มันได้เปิดหูเปิดตาข้าจริงๆ! มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นกลับปั่นหัวเจ้าโลกหกคนเหมือนเป็นแค่ตัวตลก!”

“หากเจ้าโลกทั้งหกกลับมาเห็นสิ่งที่เย่หยวนเขียนตอนนี้แล้วพวกเขาคงต้องกระอักเลือดแน่ใช่ไหม?”

“เฮ้อ เจ้าโลกจางเหอชินนั้นใจร้อนเกินไป! หากเขายั้งมือไว้หน่อยแล้วรอให้เจ้าโลกหยุนเซียงถูกซัดออกมาจากค่ายกลก่อนมันจะยังมีปัญหาเช่นนี้หรือ? ทีนี้มันยิ่งเสียหน้าหนักเท่านั้น!”

คนทั้งหลายเริ่มจะเห็นใจพวกจางเหอชินทั้งหลายขึ้นมา

เพราะตอนนี้แม้แต่เจ้าโลกหยุนชางเองก็ต้องยิ้มแห้งๆ มองดูภาพตรงหน้า และก็คิดว่าดีแล้วที่เขาไม่ได้ออกมาด้วย

ไม่เช่นนั้นแล้วมันคงมีสภาพไม่ต่างกัน!

‘ก่อนออกจากค่ายกลสวรรค์นี้ข้าจะไม่มีทางทำให้เจ้าเด็กนี่ไม่พอใจเด็ดขาด!’

เจ้าโลกหยุนชางนั้นสาบานขึ้นในใจ

ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงคนทั้งหกก็กลับออกมาด้วยสภาพน่าสมเพชไม่ต่างจากเดิม

เมื่อจางเหอชินได้เห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนพื้นนั้นเขาก็ต้องผงะไป

แต่ตอนนี้เขากลับไม่อาจจะโกรธได้อีกแล้ว!

เขานั้นเป็นคนหัวร้อนมือเร็ว และตอนนี้ในอกของเขามันก็มีความคับแค้นสะสมจนไม่รู้จะไประบายออกที่ใดแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3060 กลั่นแกล้งพวกเจ้าเล่น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3060 กลั่นแกล้งพวกเจ้าเล่น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แก้ค่ายกล? ค่ายกลใดเล่า?” เย่หยวนหันกลับไปถามด้วยหน้างงๆ

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องแยกเขี้ยวร้องกลับไปทันที “ไอ้เด็กเวร เจ้าคิดจะเล่นตลกกับข้าหรือ?”

เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับไป “ขอโทษที สิ่งที่ข้าวิเคราะห์นั้นมันอยู่ในสัญลักษณ์ที่ข้าเขียนสิ้น ตอนนี้เมื่อสัญลักษณ์เหล่านั้นหายไปแล้วความรู้ของข้าเองก็หายไปเช่นกัน ข้าคงไม่อาจจะแก้ค่ายกลใดๆ ได้อีกแล้ว”

จางเหอชินนั้นแทบต้องกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน เจ้าเด็กนี่มันจงใจจะกดหัวเขา!

เขาไม่เชื่อว่าด้วยสมองระดับเย่หยวนนี้มันจะไม่อาจจดจำสิ่งที่เคยเขียนไปนั้นได้

เย่หยวนนั้นกำลังแก้แค้นพวกเขา!

“ไอ้หนู เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าจะสังหารเจ้าจริงๆ?” จางเหอชินกล่าวขึ้นมาด้วยจิตสังหารรุนแรงล้ำ

แต่น่าเสียดายที่เย่หยวนกลับยิ้มตอบกลับมาหน้าตาเฉย “ผู้อาวุโสท่านจะขู่ข้าทำไมอีก? ยิ่งท่านขู่ข้าเท่าไหร่ข้าก็ยิ่งจะลืมไปเท่านั้นแล้ว! ยิ่งข้าลืมไปเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะไม่มีทางแก้ค่ายกลนั้นได้เช่นกัน”

จางเหอชินนั้นแทบจะกรีดออกมาเมื่อได้ยิน

แต่คงไหที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้นกล่าวขึ้นมาเสริม “จะยังพูดไร้สาระกับมันทำไมอีก? ทรมานมันสิ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าถึงเวลานั้นแล้วมันจะยังไม่ลงมือ!”

ได้ยินเช่นนั้นจางเหอชินก็ต้องผงะไปเช่นกัน

เพราะว่านี่มันคือสิ่งที่เสี่ยงอย่างมาก หยุนเซียงนั้นไม่มีปัญญาจะแก้ไขแล้ว ตอนนี้มันเหลือเพียงแค่เย่หยวน

หากว่าพวกเขานั้นไปทำให้เย่หยวนคับแค้นจนสุดใจแล้วเกิดเย่หยวนยอมที่จะแลกชีวิต ชีวิตของพวกเขาคงได้สิ้นลงที่นี่แน่

แต่จะให้เขาก้มหัวให้เย่หยวนนั้นมันย่อมจะไม่ได้เช่นกัน

คำพูดของเย่หยวนนั้นมันชัดเจนว่าเขาต้องการให้คนทั้งหลายก้มหัวยอมรับผิด!

แต่สุดท้ายแล้วชื่อเสียงมันก็ค้ำคอพวกเขาไว้

จางเหอชินขยับตัวพุ่งตัวเข้าไปหมายจับตัวเย่หยวนด้วยความเร็วที่เหนือล้ำ

แน่นอนว่าเย่หยวนเองก็ไม่คิดจะป้องกันตัวใดๆ

เขานั้นยืนอยู่ตรงหน้าราวกับว่าการโจมตีของจางเหอชินนั้นมันไม่มีอยู่จริง

แต่ก่อนที่มือของจางเหอชินจะไปถึงตัวเย่หยวนนั้นมันก็มีหมัดหนึ่งต่อยเข้าด้านข้างมาก่อน

ปัง!

จางเหอชินนั้นเสียหลักพุ่งตัวออกไปนับร้อยๆ ก้าวก่อนที่จะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง

ตอนนี้มีเงาร่างหนึ่งกำลังยืนบังหน้าเย่หยวนไว้

“เฮอะ! ไอ้พวกขยะไร้สมอง!”

จางเหอชินนั้นผงะไปทันทีที่ได้เห็นคนผู้นี้ “เจ้าโลกหยุนชาง!”

เขาผู้นี้คือผู้บ่มเพาะชาวมนุษย์ ยอดเจ้าโลกหยุนชาง!

เขานั้นอดไม่ได้และต้องลงมือออกมา

เจ้าโลกหยุนชางนั้นกล่าวขึ้นด่า “พวกเจ้าโง่! หากเจ้าคิดรนหาที่ตายเองมันย่อมจะไม่มีใครสนใจแต่นี่เจ้าคิดจะลากคนมากมายลงไปตายกับเจ้าด้วยหรือ?”

พวกจางเหอชินได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเมื่อได้ยินเพราะว่าเจ้าโลกถูกคนด่าว่าโง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันย่อมจะเสียหน้าอย่างไม่อาจกู้กลับ!

เขาร้องกลับไปด้วยใบหน้าแดงดำ “หยุนชาง เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? คนอย่างเจ้ามีสิทธิ์มาพูดเช่นนี้ต่อหน้านิกายสวรรค์ทำนองอเวจีหรือ?”

เจ้าโลกหยุนชางได้แต่ต้องส่ายหัวกล่าวขึ้น “นิกายสวรรค์ทำนองอเวจีของเจ้านั้นมันยิ่งใหญ่ทรงพลังมาก

แต่เทียบกับค่ายสำนักจากทุกสวรรค์แล้วเจ้าคิดว่ามันยิ่งใหญ่มากหรือ? เจ้าคิดว่าการเดินทางครั้งนี้มันมีเจ้าโลกเข้ามาด้วยกี่คน? เจ้าคิดว่ามันจะไม่มียอดฝีมือล้ำสวรรค์ลอบเข้ามาเลยหรือ? ที่ข้าออกมาด่าเจ้าให้นี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าเจ้า!

ไม่เช่นนั้นแล้วหากเป็นคนอื่นพวกเจ้าคงได้ตายอย่างไม่ทันรู้ตัวแน่!”

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องหน้าซีดขาวลงมองดูคนรอบๆ ทันที

แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็ไม่เห็นมีเจ้าโลกอยู่สักคน

เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นมันเป็นสิ่งที่ล้ำเส้นไปมาก

เขานั้นยอมที่จะเสี่ยงชีวิต แต่ว่าเจ้าโลกคนอื่นๆ จะยอมเสี่ยงกับเขาด้วยหรือไม่?

ที่คนทั้งหลายยังไม่ออกมานั้นมันย่อมจะเพราะว่าพวกเขายังไม่คิดว่ามันถึงเวลาลงมือ

แต่ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์แล้วมันก็ยังไม่แน่ว่าจะออกจากค่ายกลสวรรค์นี้ไปได้!

“พวกเจ้ามันโง่! ฝีมือมีไม่เท่าคนอื่นก็แค่ยอมรับและขอโทษไปเสีย! ตอนนี้สหายหนุ่มเย่นั้นคือความหวังเดียวของเรา เจ้ากลับกล้าโจมตีเขา? หากพวกเจ้าคิดสังหารเขาจริงๆ ก็ได้! ครั้งนี้ข้าจะไม่ออกมาช่วยพวกเจ้าแล้ว ถึงเวลานั้นรอดูเอาเถอะว่าหัวของพวกเจ้านั้นจะยังติดอยู่บนบ่าได้หรือไม่!” เจ้าโลกหยุนชางกล่าวขึ้น

เจ้าโลกทั้งเจ็ดนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเก

แต่ได้ยินคำพูดของเจ้าโลกหยุนชางนั้นพวกเขาก็ได้สติกลับขึ้นมาทันที

เมื่อได้เห็นคนทั้งเจ็ดเงียบปากไปหยุนเซียงก็กล่าวขึ้น “ทำไมเล่า? ไม่พูดแล้ว? หากเจ้าไม่พูดก็วางความอวดดีโง่ๆ นั่นลงเสีย! ทำตามที่สหายหนุ่มเย่บอก!”

พูดจบเขาก็หันมายิ้มกล่าวกับเย่หยวน “สหายหนุ่มเย่ ถือว่าเห็นแก่หน้าเฒ่าคนนี้ เจ้าช่วยสงบจิตสงบใจลงหน่อยได้หรือไม่? หากเจ้ายังไม่พอใจข้าจะไปสั่งสอนพวกมันให้ถึงกระดูกเอง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้าย่อมจะต้องไว้หน้าของผู้อาวุโสหยุนชาง แต่ตอนนี้ข้าลืมสิ่งที่ข้าได้วิเคราะห์ไปก่อนหน้าสิ้นเชิงแล้ว หากคิดจะวิเคราะห์ค่ายกลนี้มันก็ต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรก!”

“ไอ้สัตว์นรกเจ้าโกหกหน้าด้านๆ!” จางเหอชินร้องขึ้น

เจ้าโลกทั้งหกนั้นแทบจะสิ้นสติไปเมื่อได้ยิน

ส่วนตัวเจ้าโลกหยุนเซียงนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาทำแกล้งตายอยู่ไม่ไกล

ตอนนี้นางบาดเจ็บสาหัสและไม่อาจจะเข้าไปทดสอบพลังค่ายกลใดๆ ได้

การต้องบุกเข้าค่ายกลไปแบบนั้นมันเจ็บปวดไม่น้อย

“หา?” เจ้าโลกหยุนชางหันมาด้วยความไม่พอใจ

จางเหอชินและพวกต้องก้มหน้าลงหลบทันที

เย่หยวนก้าวออกมาและชี้มือสั่งจุดตำแหน่ง “ผู้อาวุโสทั้งหลายเชิญ!”

จางเหอชินกัดฟันแน่นขึ้น “ไอ้หนู ข้าจะจำมันไว้ให้ขึ้นใจ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

หนึ่งชั่วโมงต่อมาคนทั้งหลายก็กลับมาด้วยใบหน้าเขียวช้ำ

แต่เย่หยวนนั้นกลับยังไม่ได้เริ่มทำอะไร

“ไอ้หนู เรากลับออกมาจากค่ายกลแล้วทำไมเจ้ายังไม่เริ่มเขียนอีก?” จางเหอชินกล่าวขึ้น

“ข้าชี้จุดผิดไปหน่อย ตอนนี้ข้าเลยยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร พวกเจ้าเข้าไปอีกรอบเถอะนะ” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

ตูม!

ตูม!

ตูม!

คลื่นพลังหกสายปะทุขึ้นพร้อมๆ กัน

เจ้าโลกทั้งหกนั้นกำลังคับแค้นสุดใจ

“ไอ้หนู เจ้ากล้าปั่นหัวพวกเราเล่น?” จางเหอชินตวาดขึ้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ใช่ ข้าแกล้งพวกเจ้าเล่น พวกเจ้ามีอะไรจะขัด? พวกเจ้าหาเรื่องข้ามาเป็นวันๆ ข้าจะหาเรื่องพวกเจ้ากลับไม่ได้?”

“ข้าจะสังหารเจ้าลงเสีย!” จางเหอชินร้องลั่นขึ้นด้วยความโกรธ

เขานั้นคับแค้นอย่างสุดหัวใจ

“ฮึ่ม!” ในเวลานั้นเองที่เจ้าโลกหยุนชางได้ส่งเสียงขึ้นมาดับความโกรธของคนทั้งหกลง

“ไอ้หนู จำไว้ให้ดีเถอะ!” จางเหอชินร้องลั่นก่อนจะเดินเข้าค่ายกลอีกครั้ง

เมื่อคนทั้งหกเดินหายไปเย่หยวนก็หยิบเอาหินขึ้นมาขีดเขียนบนพื้นอีกครั้ง

และรายละเอียดนั้นมันเหมือนกับก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน

คนที่ได้เห็นนั้นต่างต้องยิ้มแห้งๆ ออกมา

“หึๆ เรื่องในวันนี้มันได้เปิดหูเปิดตาข้าจริงๆ! มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นกลับปั่นหัวเจ้าโลกหกคนเหมือนเป็นแค่ตัวตลก!”

“หากเจ้าโลกทั้งหกกลับมาเห็นสิ่งที่เย่หยวนเขียนตอนนี้แล้วพวกเขาคงต้องกระอักเลือดแน่ใช่ไหม?”

“เฮ้อ เจ้าโลกจางเหอชินนั้นใจร้อนเกินไป! หากเขายั้งมือไว้หน่อยแล้วรอให้เจ้าโลกหยุนเซียงถูกซัดออกมาจากค่ายกลก่อนมันจะยังมีปัญหาเช่นนี้หรือ? ทีนี้มันยิ่งเสียหน้าหนักเท่านั้น!”

คนทั้งหลายเริ่มจะเห็นใจพวกจางเหอชินทั้งหลายขึ้นมา

เพราะตอนนี้แม้แต่เจ้าโลกหยุนชางเองก็ต้องยิ้มแห้งๆ มองดูภาพตรงหน้า และก็คิดว่าดีแล้วที่เขาไม่ได้ออกมาด้วย

ไม่เช่นนั้นแล้วมันคงมีสภาพไม่ต่างกัน!

‘ก่อนออกจากค่ายกลสวรรค์นี้ข้าจะไม่มีทางทำให้เจ้าเด็กนี่ไม่พอใจเด็ดขาด!’

เจ้าโลกหยุนชางนั้นสาบานขึ้นในใจ

ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงคนทั้งหกก็กลับออกมาด้วยสภาพน่าสมเพชไม่ต่างจากเดิม

เมื่อจางเหอชินได้เห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนพื้นนั้นเขาก็ต้องผงะไป

แต่ตอนนี้เขากลับไม่อาจจะโกรธได้อีกแล้ว!

เขานั้นเป็นคนหัวร้อนมือเร็ว และตอนนี้ในอกของเขามันก็มีความคับแค้นสะสมจนไม่รู้จะไประบายออกที่ใดแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3060 กลั่นแกล้งพวกเจ้าเล่น!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3060 กลั่นแกล้งพวกเจ้าเล่น! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แก้ค่ายกล? ค่ายกลใดเล่า?” เย่หยวนหันกลับไปถามด้วยหน้างงๆ

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องแยกเขี้ยวร้องกลับไปทันที “ไอ้เด็กเวร เจ้าคิดจะเล่นตลกกับข้าหรือ?”

เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับไป “ขอโทษที สิ่งที่ข้าวิเคราะห์นั้นมันอยู่ในสัญลักษณ์ที่ข้าเขียนสิ้น ตอนนี้เมื่อสัญลักษณ์เหล่านั้นหายไปแล้วความรู้ของข้าเองก็หายไปเช่นกัน ข้าคงไม่อาจจะแก้ค่ายกลใดๆ ได้อีกแล้ว”

จางเหอชินนั้นแทบต้องกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน เจ้าเด็กนี่มันจงใจจะกดหัวเขา!

เขาไม่เชื่อว่าด้วยสมองระดับเย่หยวนนี้มันจะไม่อาจจดจำสิ่งที่เคยเขียนไปนั้นได้

เย่หยวนนั้นกำลังแก้แค้นพวกเขา!

“ไอ้หนู เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าจะสังหารเจ้าจริงๆ?” จางเหอชินกล่าวขึ้นมาด้วยจิตสังหารรุนแรงล้ำ

แต่น่าเสียดายที่เย่หยวนกลับยิ้มตอบกลับมาหน้าตาเฉย “ผู้อาวุโสท่านจะขู่ข้าทำไมอีก? ยิ่งท่านขู่ข้าเท่าไหร่ข้าก็ยิ่งจะลืมไปเท่านั้นแล้ว! ยิ่งข้าลืมไปเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะไม่มีทางแก้ค่ายกลนั้นได้เช่นกัน”

จางเหอชินนั้นแทบจะกรีดออกมาเมื่อได้ยิน

แต่คงไหที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้นกล่าวขึ้นมาเสริม “จะยังพูดไร้สาระกับมันทำไมอีก? ทรมานมันสิ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าถึงเวลานั้นแล้วมันจะยังไม่ลงมือ!”

ได้ยินเช่นนั้นจางเหอชินก็ต้องผงะไปเช่นกัน

เพราะว่านี่มันคือสิ่งที่เสี่ยงอย่างมาก หยุนเซียงนั้นไม่มีปัญญาจะแก้ไขแล้ว ตอนนี้มันเหลือเพียงแค่เย่หยวน

หากว่าพวกเขานั้นไปทำให้เย่หยวนคับแค้นจนสุดใจแล้วเกิดเย่หยวนยอมที่จะแลกชีวิต ชีวิตของพวกเขาคงได้สิ้นลงที่นี่แน่

แต่จะให้เขาก้มหัวให้เย่หยวนนั้นมันย่อมจะไม่ได้เช่นกัน

คำพูดของเย่หยวนนั้นมันชัดเจนว่าเขาต้องการให้คนทั้งหลายก้มหัวยอมรับผิด!

แต่สุดท้ายแล้วชื่อเสียงมันก็ค้ำคอพวกเขาไว้

จางเหอชินขยับตัวพุ่งตัวเข้าไปหมายจับตัวเย่หยวนด้วยความเร็วที่เหนือล้ำ

แน่นอนว่าเย่หยวนเองก็ไม่คิดจะป้องกันตัวใดๆ

เขานั้นยืนอยู่ตรงหน้าราวกับว่าการโจมตีของจางเหอชินนั้นมันไม่มีอยู่จริง

แต่ก่อนที่มือของจางเหอชินจะไปถึงตัวเย่หยวนนั้นมันก็มีหมัดหนึ่งต่อยเข้าด้านข้างมาก่อน

ปัง!

จางเหอชินนั้นเสียหลักพุ่งตัวออกไปนับร้อยๆ ก้าวก่อนที่จะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง

ตอนนี้มีเงาร่างหนึ่งกำลังยืนบังหน้าเย่หยวนไว้

“เฮอะ! ไอ้พวกขยะไร้สมอง!”

จางเหอชินนั้นผงะไปทันทีที่ได้เห็นคนผู้นี้ “เจ้าโลกหยุนชาง!”

เขาผู้นี้คือผู้บ่มเพาะชาวมนุษย์ ยอดเจ้าโลกหยุนชาง!

เขานั้นอดไม่ได้และต้องลงมือออกมา

เจ้าโลกหยุนชางนั้นกล่าวขึ้นด่า “พวกเจ้าโง่! หากเจ้าคิดรนหาที่ตายเองมันย่อมจะไม่มีใครสนใจแต่นี่เจ้าคิดจะลากคนมากมายลงไปตายกับเจ้าด้วยหรือ?”

พวกจางเหอชินได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเมื่อได้ยินเพราะว่าเจ้าโลกถูกคนด่าว่าโง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันย่อมจะเสียหน้าอย่างไม่อาจกู้กลับ!

เขาร้องกลับไปด้วยใบหน้าแดงดำ “หยุนชาง เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? คนอย่างเจ้ามีสิทธิ์มาพูดเช่นนี้ต่อหน้านิกายสวรรค์ทำนองอเวจีหรือ?”

เจ้าโลกหยุนชางได้แต่ต้องส่ายหัวกล่าวขึ้น “นิกายสวรรค์ทำนองอเวจีของเจ้านั้นมันยิ่งใหญ่ทรงพลังมาก

แต่เทียบกับค่ายสำนักจากทุกสวรรค์แล้วเจ้าคิดว่ามันยิ่งใหญ่มากหรือ? เจ้าคิดว่าการเดินทางครั้งนี้มันมีเจ้าโลกเข้ามาด้วยกี่คน? เจ้าคิดว่ามันจะไม่มียอดฝีมือล้ำสวรรค์ลอบเข้ามาเลยหรือ? ที่ข้าออกมาด่าเจ้าให้นี้ก็เพราะเห็นแก่หน้าเจ้า!

ไม่เช่นนั้นแล้วหากเป็นคนอื่นพวกเจ้าคงได้ตายอย่างไม่ทันรู้ตัวแน่!”

จางเหอชินที่ได้ยินก็ต้องหน้าซีดขาวลงมองดูคนรอบๆ ทันที

แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็ไม่เห็นมีเจ้าโลกอยู่สักคน

เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นมันเป็นสิ่งที่ล้ำเส้นไปมาก

เขานั้นยอมที่จะเสี่ยงชีวิต แต่ว่าเจ้าโลกคนอื่นๆ จะยอมเสี่ยงกับเขาด้วยหรือไม่?

ที่คนทั้งหลายยังไม่ออกมานั้นมันย่อมจะเพราะว่าพวกเขายังไม่คิดว่ามันถึงเวลาลงมือ

แต่ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือล้ำสวรรค์แล้วมันก็ยังไม่แน่ว่าจะออกจากค่ายกลสวรรค์นี้ไปได้!

“พวกเจ้ามันโง่! ฝีมือมีไม่เท่าคนอื่นก็แค่ยอมรับและขอโทษไปเสีย! ตอนนี้สหายหนุ่มเย่นั้นคือความหวังเดียวของเรา เจ้ากลับกล้าโจมตีเขา? หากพวกเจ้าคิดสังหารเขาจริงๆ ก็ได้! ครั้งนี้ข้าจะไม่ออกมาช่วยพวกเจ้าแล้ว ถึงเวลานั้นรอดูเอาเถอะว่าหัวของพวกเจ้านั้นจะยังติดอยู่บนบ่าได้หรือไม่!” เจ้าโลกหยุนชางกล่าวขึ้น

เจ้าโลกทั้งเจ็ดนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเก

แต่ได้ยินคำพูดของเจ้าโลกหยุนชางนั้นพวกเขาก็ได้สติกลับขึ้นมาทันที

เมื่อได้เห็นคนทั้งเจ็ดเงียบปากไปหยุนเซียงก็กล่าวขึ้น “ทำไมเล่า? ไม่พูดแล้ว? หากเจ้าไม่พูดก็วางความอวดดีโง่ๆ นั่นลงเสีย! ทำตามที่สหายหนุ่มเย่บอก!”

พูดจบเขาก็หันมายิ้มกล่าวกับเย่หยวน “สหายหนุ่มเย่ ถือว่าเห็นแก่หน้าเฒ่าคนนี้ เจ้าช่วยสงบจิตสงบใจลงหน่อยได้หรือไม่? หากเจ้ายังไม่พอใจข้าจะไปสั่งสอนพวกมันให้ถึงกระดูกเอง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้าย่อมจะต้องไว้หน้าของผู้อาวุโสหยุนชาง แต่ตอนนี้ข้าลืมสิ่งที่ข้าได้วิเคราะห์ไปก่อนหน้าสิ้นเชิงแล้ว หากคิดจะวิเคราะห์ค่ายกลนี้มันก็ต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรก!”

“ไอ้สัตว์นรกเจ้าโกหกหน้าด้านๆ!” จางเหอชินร้องขึ้น

เจ้าโลกทั้งหกนั้นแทบจะสิ้นสติไปเมื่อได้ยิน

ส่วนตัวเจ้าโลกหยุนเซียงนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาทำแกล้งตายอยู่ไม่ไกล

ตอนนี้นางบาดเจ็บสาหัสและไม่อาจจะเข้าไปทดสอบพลังค่ายกลใดๆ ได้

การต้องบุกเข้าค่ายกลไปแบบนั้นมันเจ็บปวดไม่น้อย

“หา?” เจ้าโลกหยุนชางหันมาด้วยความไม่พอใจ

จางเหอชินและพวกต้องก้มหน้าลงหลบทันที

เย่หยวนก้าวออกมาและชี้มือสั่งจุดตำแหน่ง “ผู้อาวุโสทั้งหลายเชิญ!”

จางเหอชินกัดฟันแน่นขึ้น “ไอ้หนู ข้าจะจำมันไว้ให้ขึ้นใจ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

หนึ่งชั่วโมงต่อมาคนทั้งหลายก็กลับมาด้วยใบหน้าเขียวช้ำ

แต่เย่หยวนนั้นกลับยังไม่ได้เริ่มทำอะไร

“ไอ้หนู เรากลับออกมาจากค่ายกลแล้วทำไมเจ้ายังไม่เริ่มเขียนอีก?” จางเหอชินกล่าวขึ้น

“ข้าชี้จุดผิดไปหน่อย ตอนนี้ข้าเลยยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร พวกเจ้าเข้าไปอีกรอบเถอะนะ” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

ตูม!

ตูม!

ตูม!

คลื่นพลังหกสายปะทุขึ้นพร้อมๆ กัน

เจ้าโลกทั้งหกนั้นกำลังคับแค้นสุดใจ

“ไอ้หนู เจ้ากล้าปั่นหัวพวกเราเล่น?” จางเหอชินตวาดขึ้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ใช่ ข้าแกล้งพวกเจ้าเล่น พวกเจ้ามีอะไรจะขัด? พวกเจ้าหาเรื่องข้ามาเป็นวันๆ ข้าจะหาเรื่องพวกเจ้ากลับไม่ได้?”

“ข้าจะสังหารเจ้าลงเสีย!” จางเหอชินร้องลั่นขึ้นด้วยความโกรธ

เขานั้นคับแค้นอย่างสุดหัวใจ

“ฮึ่ม!” ในเวลานั้นเองที่เจ้าโลกหยุนชางได้ส่งเสียงขึ้นมาดับความโกรธของคนทั้งหกลง

“ไอ้หนู จำไว้ให้ดีเถอะ!” จางเหอชินร้องลั่นก่อนจะเดินเข้าค่ายกลอีกครั้ง

เมื่อคนทั้งหกเดินหายไปเย่หยวนก็หยิบเอาหินขึ้นมาขีดเขียนบนพื้นอีกครั้ง

และรายละเอียดนั้นมันเหมือนกับก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน

คนที่ได้เห็นนั้นต่างต้องยิ้มแห้งๆ ออกมา

“หึๆ เรื่องในวันนี้มันได้เปิดหูเปิดตาข้าจริงๆ! มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นกลับปั่นหัวเจ้าโลกหกคนเหมือนเป็นแค่ตัวตลก!”

“หากเจ้าโลกทั้งหกกลับมาเห็นสิ่งที่เย่หยวนเขียนตอนนี้แล้วพวกเขาคงต้องกระอักเลือดแน่ใช่ไหม?”

“เฮ้อ เจ้าโลกจางเหอชินนั้นใจร้อนเกินไป! หากเขายั้งมือไว้หน่อยแล้วรอให้เจ้าโลกหยุนเซียงถูกซัดออกมาจากค่ายกลก่อนมันจะยังมีปัญหาเช่นนี้หรือ? ทีนี้มันยิ่งเสียหน้าหนักเท่านั้น!”

คนทั้งหลายเริ่มจะเห็นใจพวกจางเหอชินทั้งหลายขึ้นมา

เพราะตอนนี้แม้แต่เจ้าโลกหยุนชางเองก็ต้องยิ้มแห้งๆ มองดูภาพตรงหน้า และก็คิดว่าดีแล้วที่เขาไม่ได้ออกมาด้วย

ไม่เช่นนั้นแล้วมันคงมีสภาพไม่ต่างกัน!

‘ก่อนออกจากค่ายกลสวรรค์นี้ข้าจะไม่มีทางทำให้เจ้าเด็กนี่ไม่พอใจเด็ดขาด!’

เจ้าโลกหยุนชางนั้นสาบานขึ้นในใจ

ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงคนทั้งหกก็กลับออกมาด้วยสภาพน่าสมเพชไม่ต่างจากเดิม

เมื่อจางเหอชินได้เห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนพื้นนั้นเขาก็ต้องผงะไป

แต่ตอนนี้เขากลับไม่อาจจะโกรธได้อีกแล้ว!

เขานั้นเป็นคนหัวร้อนมือเร็ว และตอนนี้ในอกของเขามันก็มีความคับแค้นสะสมจนไม่รู้จะไประบายออกที่ใดแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+