“วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้มันยิ่งใหญ่เสียจริง! วังทั้งหลายนั้นมันสร้างขึ้นมาจากทองล้ำจักรวาล หากนับมูลค่าของมันแล้วคงซื้อสวรรค์ได้ทั้งสวรรค์ทีเดียว!”

“เจ้าดูโคมไฟนั่น มันกลับเป็นถึงสมบัติยอดหมอกระดับหนึ่ง! พระเจ้าช่วย! นี่มันจะหรูเกินไปแล้ว!”

“หินปูทางพวกนี้มันคือศิลาวิญญาณมรรคพลัง! ได้บ่มเพาะที่นี่มันคงง่ายดายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก!”

“หรูหรา! หรูหราเสียจริง!”

…

ต่อให้จะเป็นเจ้าโลกทั้งหลายเองพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างร้องกล่าวขึ้นมาไม่ขาดเมื่อได้เห็นภายในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต

เพราะวังทั้งหลายนี้มันคงไม่อาจจะเรียกเป็นอย่างอื่นได้นอกจากหรูหรา!

พวกเขาคิดอยากจะยกทั้งวังนี้กลับไปบ้าน

แน่นอนว่าพวกเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ

ของดีใดๆ ที่ได้เห็นนั้นพวกเขาต่างฉกมันกลับติดมือไป

วังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นมันมีวังมากมายตั้งเรียงรายทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา

วังใหญ่ที่ด้านหลังสุดนั้นสูงใหญ่จนเสียดเมฆ เหมือนดั่งสัตว์ร้ายที่จะกลืนกินทุกสิ่งอย่างไปได้

ได้เห็นมันอยู่ตรงหน้านี้คนมากมายก็ถึงขั้นคิดอยากจะก้มลงกราบเหมือนมันเป็นของศักดิ์สิทธิ์

ในหมู่วังหลักนั้นมีสิบสองวังที่ยิ่งใหญ่กว่าวังใดๆ ตั้งอยู่ในตำแหน่งสิบสองทิศของวังใหญ่ตรงกลาง

เย่หยวนได้ยินมาว่าตอนที่มันยังยิ่งใหญ่นั้นวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตเคยมีเจ้าโลกล้ำสวรรค์อยู่ถึงสิบสองคนที่ถูกขนานนามว่าเป็นสิบสองราชันสวรรค์

สิบสองราชันสวรรค์ทั้งหมดนั้นแต่ละคนต่างเป็นยอดฝีมือที่เหนือล้ำฟ้าดิน

เจ้าโลกชีฟางเองก็เป็นหนึ่งในสิบสองราชันสวรรค์

แน่นอนว่าสิบสองวังราชันสวรรค์นี่มันย่อมจะเป็นที่อยู่ของสิบสองราชันสวรรค์แล้ว

“สิบสองวังราชันสวรรค์นั้นพวกเจ้าอย่าได้เข้าไปใกล้เชียว เจ้าโลกทั้งหลายที่มากันนี้ต่างหมายตาสิบสองวังราชันสวรรค์และโถงศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตตรงกลางกันสิ้น หากมันเกิดการปะทะขึ้นมาเราที่พลังไม่ถึงระดับเจ้าโลกคงไม่เหลือแม้แต่ซากร่างไป! พวกเราลองดูตามวังด้านล่างทั้งหลายเอาเถอะด้วยรากฐานระดับวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตแล้วหากพวกเจ้ามีโชคมันก็คงพอจะก้าวขึ้นเจ้าโลกได้ไม่ยาก” เย่หยวนหันไปบอกคนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดทั้งหลาย

“นักบุญสวรรค์เย่ ท่านนั้นเข้าใจค่ายกลสวรรค์แล้วเราไม่กลัวพวกมันหรอก!” หูเกาชานกล่าวขึ้น

ดูท่าแล้วเขาคงไม่คิดยอมแพ้

เพราะว่าสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดมันย่อมจะอยู่ในสิบสองวังราชันสวรรค์และโถงศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตอย่างไม่ต้องสงสัย

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ระยะของค่ายกลสวรรค์นั้นมันไม่ได้ครอบคลุมไปทุกที่ ทั้งสิบสองวังราชันสวรรค์และโถงศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นต่างล้วนไม่มีมัน ด้วยกำลังของเจ้าโลกชีฟางนั้นมันคงไม่พอจะช่วยเหลืออะไรคนที่อยู่ในวังพวกนี้ได้ หากเราเข้าไปแล้วมันคงได้ตายอย่างไม่ทันรู้ตัวแน่”

เป็นตอนนั้นเองที่คนทั้งหลายได้เข้าใจ

สิบสองวังราชันสวรรค์และโถงศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนั้นคือหัวใจของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต และเจ้าของของวังนั้นย่อมไม่ได้อ่อนแอกว่าเจ้าโลกชีฟางเลย

แม้ว่าค่ายกลสวรรค์นั้นมันจะทรงพลังแค่ไหนมันก็ไม่ได้ไร้เทียมทาน

“เช่นนั้นเราต้องมองดูคนอื่นเอาสมบัติล้ำค่าไปต่อหน้าต่อตาหรือ?” หยางชิงกล่าวขึ้นอย่างคับแค้นใจ

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เรื่องนั้นมันก็ยังไม่แน่หรอก เพราะทุกสิ่งอย่างนั้นมันขึ้นอยู่กับดวงชะตา และยังไงดวงชะตามันก็ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด”

ตูม!

ก่อนที่เย่หยวนจะทันพูดขาดคำมันก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากบนฟ้า

เจ้าโลกเริ่มปะทะกันแล้ว

ตอนนี้สองยอดเจ้าโลกนั้นเข้าปะทะกัน หนึ่งในนั้นคือเจ้าโลกหยุนชางส่วนอีกคนนั้นเป็นยอดเจ้าโลกเผ่าปีศาจ

“เฒ่าเจินยี่ ข้านั้นมาเพื่อเอากรวยเซียนเมฆาเท่านั้น! หากเจ้ากล้าแย่งไปแล้วเราจะได้มีเรื่องบาดหมางกันจนตายแน่!”

เจ้าโลกหยุนชางนั้นร้องลั่นขึ้นมาจนฟ้าดินสั่นสะท้าน

ในตอนนี้เจ้าโลกหยุนชางนั้นคับแค้นจนสุดใจเมื่อต่อสู้นั้นมันทำให้แม้แต่ห้วงมิติยังบิดเบี้ยว

แต่ว่าห้วงมิติในสิบสองวังราชันสวรรค์นั้นมันก็หนักแน่นแข็งแรงอย่างมาก แม้จะบิดเบี้ยวแต่มันก็ไม่แสดงท่าทีจะแตกสลายออกมา

อีกด้านนั้นฝีมือของยอดเจ้าโลกเผ่าปีศาจเองก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย

คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันอย่างสุดกำลังชีวิต

ไม่นานจากนั้นมันก็เกิดการต่อสู้ขึ้นที่วังราชันสวรรค์ผลาญฟ้าเช่นกัน

แน่นอนว่าศึกนั้นมันก็คือการต่อสู้ของยอดเจ้าโลก!

และไม่นานจากนั้นมันก็เกิดการต่อสู้ขึ้นทั่วทุกสิบสองวังราชันสวรรค์

รอบๆ สิบสองวังราชันสวรรค์นั้นท้องฟ้ามันเปลี่ยนสีลมพัดรุนแรงแผ่นดินแตกแยกด้วยคลื่นกำเนิด

พวกเขานั้นเก่งกาจ เก่งกาจจนเทียบเคียงระดับเจ้าโลกล้ำสวรรค์ได้!

เหล่ายอดอัจฉริยะที่ไม่ได้เข้าไปในวังราชันสวรรค์นั้นมองดูภาพตรงหน้าด้วยตัวสั่น พวกเขานั้นตกตะลึงกับภาพตรงหน้านี้อย่างมาก

“พระเจ้าช่วย มันมียอดเจ้าโลกซ่อนตัวอยู่ปานนี้!”

“โชคดีที่ข้าไม่ได้เข้าไป ไม่เช่นนั้นข้าคงกลายเป็นแค่ฝุ่นเลือดแล้ว!”

“ยอดเจ้าโลกสิบแปดคน! นี่มันมากันอะไรขนาดนี้เนี่ย?”

…

เวลานี้ยอดเจ้าโลกทั้งหลายก็ปรากฏตัวขึ้นจนทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

สำหรับเจ้าโลกธรรมดาและเจ้าโลกระดับสูงนั้นพวกเขาก็เริ่มเข้าไปร่วมการต่อสู้ด้วย

แต่ละฝ่ายนั้นต่างต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่งเพื่อแย่งชิงสมบัติกัน

ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดและมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์บางคนที่ไม่ประเมินตัวเองนั้นย่อมจะถูกพลังการต่อสู้ของเจ้าโลกทั้งหลายซัดจนไม่เหลือแม้แต่ซาก

ตูม!

เจ้าโลกหยุนชางนั้นซัดฝ่ามือออกมากระแทกใส่ร่างเจ้าโลกคงไห

เจ้าโลกคงไหนั้นร่วงตกลงมา ไม่หายใจอีกต่อไป

เจ้าโลกตายลง!

คนทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต้องหน้าซีดขาวลงทันที เพิ่งได้เข้าใจความน่ากลัวของศึกครั้งนี้

จากนั้นมันก็มีเจ้าโลกอีกมากมายตายตกลงไป

พริบตาเดียวนั้นมันมีเจ้าโลกธรรมดาถึงแปดคนตายลงไปและมีเจ้าโลกอีกกว่ายี่สิบคนที่ต้องกลับออกไปด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส!

เป็นตอนนี้เองที่คนทั้งหลายได้เข้าใจว่าสำหรับยอดฝีมือระดับสูงทั้งหลายนั้น แค่มีพลังระดับเจ้าโลกมันไม่ได้ถือว่าเก่งกาจใดๆ

…

แต่ในตอนนี้ ณ วังราชันสวรรค์มันก็ยังมีคนที่ไม่คิดสนใจศึกด้านนอกและเดินเข้ามาภายในอย่างไม่มีใครทันสังเกต

ชายวัยกลางคนในชุดดำคนนี้มองดูไปรอบด้าน

แต่จู่ๆ สายตาของเขาก็ไปหยุดที่โต๊ะตรงกลาง

บนโต๊ะนั้นมันมีชั้นวางปากกาอยู่เขาเอื้อมมือเข้าไปจับและพบว่ามันไม่อาจขยับเคลื่อนได้

เขาจึงค่อยๆ ลูบปากกาทั้งหลายและมาหยุดลงที่ปากกาหนึ่ง

จากนั้นเขาก็หมุนมัน

ฟุบ!

ด้านหลังโต๊ะนั้นมันกลับมีประตูห้วงมิติปรากฏขึ้นมา!

คลื่นพลังเต๋าสวรรค์อันหนักหน่วงนั้นมันไหลออกมาจากประตูห้วงมิตินั้น

ชายคนนี้ต้องอมยิ้มขึ้นมาเมื่อได้เห็น “เฒ่าหวูเทียน เจ้าคิดว่าตัวเองซ่อนมันไว้ดีแล้วหรือ? คิดข้าจะหามันไม่เจอ? ข้าขอรับหนึ่งในสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ไปล่ะ!”

เมื่อชายคนนั้นเดินกลับออกมาจากประตูห้วงมิติเขาก็ถือคัมภีร์หยกสีแดงอมเขียวไว้ในมือ

คัมภีร์หยกสีแดงอมเขียวนี้มันปล่อยคลื่นพลังแห่งยอดเต๋าออกมาทำให้คนที่ได้เห็นนั้นรู้ทันทีว่ามันมิใช่แค่คัมภีร์ธรรมดาๆ!

ชายชุดดำคนนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาพร้อมหัวเราะลั่น “เฒ่าหวูเทียน เจ้าเรียกตัวเองว่าเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งนับแต่บรรพกาลมาแต่แท้จริงแล้วเจ้ามันก็แค่พึ่งพลังของสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์เท่านั้น! ได้มาอันหนึ่งแล้วข้าย่อมจะก้าวล้ำเจ้าไปได้แน่นอน! คอยดูเถอะ!”

“พี่หมิงฮุ่ย เจ้าจะไม่ดีใจเร็วเกินไปหน่อยหรือ?” ในโถงใหญ่นั้นมันมีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา ผู้มาถึงนี้เป็นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบในชุดคลุมสีฟ้าคราม

เมื่อชายชุดดำได้เห็นเขาคนนี้เขาก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น!

แต่ไม่นานเขาก็ยิ้มตอบกลับไป “หมิงฮุ่ย? ไม่ได้ยินคนเรียกข้าเช่นนี้มาเสียนาน! เฒ่าหวู่หยา สิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์นั้นมันมีทั้งหมดสิบสองคัมภีร์ด้วยกัน เจ้าคิดจะมาสู้กับข้าเพื่อแค่คัมภีร์เดียวนี้?”

ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มตอบกลับมา “คัมภีร์ในมือเจ้ามันคือคัมภีร์สวรรค์ที่ล้ำค่าที่สุด เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยมันให้เจ้าไป? ส่งมันมาดีๆ เสียเถอะ พวกเราจะได้ไม่ต้องมีใครเจ็บตัวไป”

ชายชุดดำนั้นกัดฟันหรี่ตาลงมอง “เฒ่าหวู่หยา เจ้าคิดว่าจะขู่ข้าได้?”

ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มตอบกลับไปแต่ไม่ได้พูดอะไรอีก

แต่คลื่นพลังจากร่างของชายวัยกลางคนผู้นั้นกลับปะทุขึ้นมา

ไม่มีใครรู้เลยว่าในการเดินทางครั้งนี้ เจ้าโลกผู้ปกครองสวรรค์ถ้ำกำเนิดล่วงนรก ยอดฝีมือการโอสถอันดับหนึ่งอย่างบรรพบุรุษหวู่หยาคนนั้นจะลอบเดินทางเข้ามาด้วย!

เวลาเดียวกันนี้เย่หยวนที่กำลังเดินอยู่ในวังด้านนอกก็พบเข้ากับคัมภีร์จากหนังแพะในชั้นหนังสือ

คัมภีร์หนังแพะนี้มันดูเก่าและมีแต่ฝุ่น ดูอย่างไรก็เป็นแค่ของธรรมดาๆ

เย่หยวนนั้นค่อยๆ ปัดฝุ่นออกจากคัมภีร์นั้นและพบตัวอักษรโบราณเขียนไว้

แต่เย่หยวนนั้นอ่านมันออกได้ทันที บนคัมภีร์นี้มันเขียนไว้ว่า ‘สวรรค์’

…………………………