Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3072 อัศจรรย์เกินอธิบาย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3072 อัศจรรย์เกินอธิบาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่หยวนนั้นหยิบเอาคัมภีร์หนังแพะออกมาวางให้ทุกคนได้เห็น

พวกเขานั้นหันมามองหน้ากันด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา

“นี่คือสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ของจริง? มันไม่เห็นจะเหมือนของวิเศษใดๆ เลย!”

“สิ่งนี้มันจะธรรมดาเกินไปหรือไม่? หากเอามันให้ข้าไว้ข้าคงเผลอทิ้งอย่างไม่ทันรู้ตัวแน่”

“ที่น่าขันที่สุดก็คือคงถานนั้นคิดว่าตัวเองได้รับการยอมรับจากสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ ที่แท้แล้วมันก็แค่ของปลอมเท่านั้น!”

คัมภีร์หนังแพะนี้มันดูธรรมดาจนเกินไป

ต่อให้จะได้เห็นแก่สายตาแล้วมันก็ยังไม่อยากเชื่อว่านี่คือสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์

เพราะว่าสภาพของมันนั้นมิใช่ของวิเศษใดๆ ทั้งสิ้น

หากบรรพบุรุษหวูเทียนไม่ยอมรับออกมาเองแล้วพวกเขาทั้งหลายก็คงไม่เชื่อว่าคัมภีร์ในมือเย่หยวนนี้คือของจริง

เมื่อรู้จักหน้าตาแล้วคนทั้งหลายก็แยกย้ายกันออกไปหาคัมภีร์เอกภพ

เย่หยวนนั้นมีกฎห้วงมิติที่เหนือล้ำ ไม่ไกลจากอาณาจักรคลื่นกำเนิดมากนัก

ตอนนี้ด้วยพลังของเขา ตัวเขาย่อมจะสามารถหนีออกไปด้วยตัวเองได้

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นแปลงกายเป็นโกลาหลหรือก็คือโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโกลาหลในคงคานิรันดร์ไปแล้ว

สิ่งที่เย่หยวนต้องทำนั้นก็แค่ฉีดปราณเทวะโกลาหลของตัวเองเข้าสู่ความโกลาหลนี้และใช้วิชาห้วงมิติออกมาเขาก็จะสามารถกลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้เช่นกัน

จากนั้นค่อยทิ้งตัวหนีออกไปจากโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต

แต่ด้วยวิชาห้วงมิติของเขาในตอนนี้ เขาไม่อาจจะพาใครออกไปด้วยได้เลย

เย่หยวนนั้นไม่กล้าจะชักช้าไปแม้แต่วินาทีเดียวในการหาคัมภีร์เอกภพ

ยิ่งผ่านไปนานเท่าใดพลังของเพลิงเที่ยงสุดเต๋ามันก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

ต่อให้จะเป็นไฟที่อ่อนแค่ไหนสุดท้ายมันก็ยังย่างให้เนื้อสุกได้

ตอนนี้มีคนอีกมากมายค่อยๆ ตายตกลงไป

บนท้องฟ้านั้นมันยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นไม่ขาดสาย

ศึกอันดุเดือดระหว่างบรรพบุรุษหวูเทียนและเจ้าโลกทั้งหลายนั้นกำลังถึงจุดเดือด

เจ้าโลกมากมายนั้นกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ

ภายใต้การหลอมของเพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นพวกเขาย่อมจะเริ่มสูญเสียพลังไปอย่างไม่อาจหยุดตัวเองได้

เจ้าโลกหลุนฮวยและศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเองก็ย่อมจะได้รับบาดเจ็บไปเช่นกัน

ในโลกใบนี้พลังส่วนมากของเพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นมันกำลังเผาผลาญร่างพวกเขาอยู่

คนทั้งสองนั้นมีรอยแผลไหม้ทั่วกาย

แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดมือ!

แม้ว่าจุดห้วงมิติที่โจมตีนั้นมันจะค่อยๆ คืนสภาพได้แต่มันก็ไม่ได้เร็วเหมือนก่อนแล้ว

นี่มันทำให้คนทั้งหลายเริ่มมีความหวัง!

เดิมทีแล้วมันคืนกลับสภาพเดิมในไม่กี่อึดใจ

แต่ตอนนี้มันต้องใช้เวลาซ่อมแซมหลายร้อยอึดใจ

นอกจากนั้นการโจมตีมันก็ยังไม่มีหยุดลงไป

เพื่อความหวังน้อยๆ นี้พวกเขาเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายไม่คิดจะเก็บกักพลังใดๆ ไว้กับตัวอีก

เพราะอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็ไม่มีใครอยากจะตายลงและกลายเป็นโอสถสวรรค์ให้คนอื่นกิน!

ผลลัพธ์เช่นนั้นมันน่าสมเพชจนเกินรับ

ในโถงข้างนั้นเย่หยวนกำลังเงยหน้ามองดูสุดเพดานเพื่อตามหาภาพวาดเต๋าสวรรค์

แต่วินาทีนั้นเองที่มันปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นด้านหลังเย่หยวน

มันคือบรรพบุรุษหวูเทียน!

“เย่หยวน ยอมแพ้เถอะ! เจ้าไม่มีทางจะหาคัมภีร์เอกภพเจอหรอก! แม้ว่าเจ้านั้นจะหาภาพวาดเต๋าสวรรค์ไปเจอถึงสี่คัมภีร์แต่ว่าต่อให้เจ้าจะมีดวงเจอมันเพิ่มอีกอัน เจ้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันคือคัมภีร์เอกภพ?” บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นยืนมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าเย้ยหยัน

เงาร่างนี้มันจางจนมองทะลุได้ง่ายๆ ชัดเจนเลยว่ามันไม่มีพลังใดๆ

เขานั้นไม่เหลือพลังงานพอที่จะมาจัดการเย่หยวนในตอนนี้

เย่หยวนไม่คิดหันกลับไปมองแต่ก็ยังตอบกลับไป “ที่เจ้ามาหาข้านี้คงเพราะว่าข้าใกล้จะเจอคัมภีร์เอกภพแล้ว?”

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นผงะไปในใจแต่ใบหน้าของเขานั้นย่อมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

เฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างเขาย่อมจะไม่แสดงสีหน้าให้คนอื่นจับได้ง่ายๆ

แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญกับเย่หยวน

เพราะเขานั้นเชื่อในดวงชะตาของตนเอง!

“ฮ่าๆ เจ้าจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่เถอะ! บรรพบุรุษผู้นี้แค่มาบอกเจ้าว่าพวกมันใกล้จะถูกหลอมแล้วเต็มที หากมันถูกหลอมไปแล้วจริงๆ ต่อไปจะเป็นตาเจ้าที่ต้องตายลง! เจ้านั้นยังมีเวลาพอหนีออกไปได้เองในตอนนี้!” หวูเทียนกล่าวขึ้นมา

“เจ้านั้นมองการบ่มเพาะของข้าออก เจ้านั้นมองปราณเทวะโกลาหลของข้าออก แต่เรื่องบางเรื่องเจ้านั้นก็ยังมองข้าไม่ออกหรอกเช่นดวงชะตาของข้า!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

เขานั้นไม่คิดกลัวเกรงใดๆ

ดวงชะตานั้นมันคือสิ่งที่ลึกล้ำและไม่มีใครเข้าใจได้

หากมันเป็นเต๋าแล้ว มันก็คงเป็นเต๋าที่ไม่เคยมีใครสามารถศึกษาได้มาก่อน!

ยอดเต๋าอื่นๆ นั้นมีวิธีการบ่มเพาะทั้งสิ้น

แต่ดวงชะตา เต๋านี้เพียงแค่เต๋าเดียวที่ไม่มีใครเข้าใจมันได้

และพรของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันก็เป็นสิ่งที่สะสมมาจากบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆ ทั้งหลายจนเกิดกลายเป็นพลังงานสุดวิเศษ

แน่นอนว่าในนิกายยาสุดล้ำมันย่อมจะมีคนคิดศึกษาพลังของพรนี้แต่มันกลับไม่อาจจะเข้าใจได้แม้แต่น้อย

แต่เย่หยวนนั้นเป็นสิ่งอัศจรรย์

เพราะว่าบรรพบุรุษทุกคนนั้นยอมรับเย่หยวน!

หวูเทียนย่อมจะไม่คิดเชื่อและหัวเราะตอบกลับไป “ไอ้หนู เจ้านั้นจะบอกว่าที่ตัวเองเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์ก่อนหน้ามานี้มันเพราะว่าโชคหรือ? บรรพบุรุษผู้นี้เองก็เป็นคนที่มีโชคชะตายิ่งใหญ่ แต่หากจะบอกว่าตัวเองไปเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์ด้วยโชคแล้วมันย่อมจะไร้สาระเกินไป!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่เชื่อแต่ตอนที่ข้ามาถึงที่นี่ข้าไม่ได้คิดหาสมบัติใดๆ และแค่เดินออกไปดูในจุดต่างๆ และเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์เข้าในที่สุด”

หวูเทียนนั้นต้องผงะไปอีกครั้ง!

เพราะตัวตนระดับเขานั้นมีหรือที่จะถูกคำพูดหลอกลวงได้ง่ายๆ?

หวูเทียนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเย่หยวนไม่ได้โกหกใดๆ

พูดไปนั้นเย่หยวนก็เดินออกจากโถงข้างนี้มา

หวูเทียนนั้นยังไม่คิดยอมแพ้และตามหลังเย่หยวนไปห่างๆ

เย่หยวนนั้นเดาไม่ผิด เพราะที่แห่งนี้มันใกล้กับจุดที่เก็บซ่อนคัมภีร์เอกภพไว้จริงๆ

หลังจากออกโถงข้างมานั้นพวกเขาก็เดินมาถึงเรือนน้อยมากมายที่ตั้งเรียงรายสุดลูกหูลูกตา มันคือที่พักของศิษย์ทั้งหลาย

เย่หยวนนั้นเดินเข้ามาในบริเวณและหันมองซ้ายขวาราวกับแค่มาเที่ยวเล่น

หวูเทียนนั้นต้องใจสั่น

‘หรือว่าเจ้าเด็กนี่มันจะอัศจรรย์ปานนั้นจริง?’

‘มันยังมีคนที่ดวงชะตายิ่งใหญ่กว่าพ่อเจ้านี้?’

‘ข้าไม่ขอเชื่อ!’

‘อย่าไป! อย่าไป! อย่าไป!’ หวูเทียนร้องลั่นอยู่ในใจ

เขาย่อมจะรู้ว่าคัมภีร์เอกภพอยู่ที่ใด

เขาไม่ได้คิดซ่อนใดๆ เพียงแค่โยนมันทิ้งไปตามจุดต่างๆ

คัมภีร์เอกภพนั้นมันอยู่ในเรือนนี้ที่ห้องสาม

แต่ยิ่งพูดเหมือนสวรรค์ยิ่งแกล้งเพราะเย่หยวนนั้นเดินเข้าไปใกล้ห้องสาม มากขึ้นเรื่อยๆ!

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นไม่มีแรงพอจะย้ายภาพวาดเต๋าสวรรค์หนีไปที่อื่นแล้ว

การหลอมยอดฝีมือมากมายปานนั้นมันย่อมจะมิใช่เรื่องง่าย

จากนั้นเย่หยวนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้เดินเข้าห้องสาม ไป

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นต้องร้องลั่นขึ้นมาในใจ!

ห้องมันมีเป็นร้อยๆ ทำไมต้องมาเลี้ยวเข้าดูห้องนี้ด้วย?

‘สิ้นหวังนัก!’

เจ้าเด็กนี่มันจะอัศจรรย์เกินไปแล้ว!

‘จะว่าแล้วมันก็คงแค่บังเอิญมากเท่านั้น เพราะคัมภีร์เอกภพนั้นมันก็ซ่อนไว้อย่างดี บรรพบุรุษผู้นี้ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะหาเจอ!’

แม้ว่าตอนนี้จิตใจของเขาจะปั่นป่วนแค่ไหนแต่เขาก็ยังไม่คิดแสดงมันออกมา

เขานั้นแค่ทำเหมือนเดินตามมาเยาะเย้ยเย่หยวนและเข้าห้องสามมาด้วย

ทุกสิ่งอย่างนั้นมันดูเป็นธรรมชาติ

เย่หยวนรู้หรือว่าคัมภีร์เอกภพอยู่ที่นี่?

ย่อมจะไม่รู้!

เขานั้นแค่เดินเล่นมาเรื่อยๆ และคิดอยากจะเลี้ยวเข้าดูห้องนี้เท่านั้น

บางทีโชคนั้นมันก็เป็นเรื่องที่สุดแสนวิเศษเกินเข้าใจ

ต่อให้พลิกฟ้าดินหาก็ไม่อาจเจอ

แต่นั่งอยู่บ้านเฉยๆ มันกลับจะตกลงตรงหน้า

เย่หยวนนั้นเดินวนในห้องสามสองรอบก่อนจะหันหน้าเข้าห้องอ่านหนังสือไป

“บรรพบุรุษ ท่านคิดว่าคัมภีร์เอกภพมันจะอยู่ที่นี่หรือไม่?” เย่หยวนยิ้มขึ้นถาม

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจแต่ใบหน้านั้นยังเรียบเฉย “นี่คือห้องของศิษย์ระดับต่ำในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต พวกเขานั้นมีห้องเช่นนี้สร้างไว้เป็นหมื่นๆ เจ้าคิดว่าตัวเองเลือกห้องนี้มาแล้วก็จะเจอสมบัติหรือ? เช่นนั้นข้าคงกลายเป็นตัวตลกแล้ว? หรือว่าเจ้าคิดจะอ่านท่าทางของข้าจากคำถามนี้กันแน่?”

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าแค่เบื่อเลยหาเรื่องชวนคุยเท่านั้น ข้ารู้ว่าผีเฒ่าอย่างเจ้านั้นต่อให้ข้าจะพยายามแค่ไหนก็คงไม่มีทางอ่านสีหน้าท่าทางของเจ้าได้เช่นกัน”

พูดไปเย่หยวนนั้นก็เดินมาถึงหน้าชั้นหนังสือและหยิบสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมา

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นใจหายวาบ!

นี่มันจะน่าอัศจรรย์เกินบรรยายไปแล้ว!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3072 อัศจรรย์เกินอธิบาย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3072 อัศจรรย์เกินอธิบาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่หยวนนั้นหยิบเอาคัมภีร์หนังแพะออกมาวางให้ทุกคนได้เห็น

พวกเขานั้นหันมามองหน้ากันด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา

“นี่คือสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ของจริง? มันไม่เห็นจะเหมือนของวิเศษใดๆ เลย!”

“สิ่งนี้มันจะธรรมดาเกินไปหรือไม่? หากเอามันให้ข้าไว้ข้าคงเผลอทิ้งอย่างไม่ทันรู้ตัวแน่”

“ที่น่าขันที่สุดก็คือคงถานนั้นคิดว่าตัวเองได้รับการยอมรับจากสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ ที่แท้แล้วมันก็แค่ของปลอมเท่านั้น!”

คัมภีร์หนังแพะนี้มันดูธรรมดาจนเกินไป

ต่อให้จะได้เห็นแก่สายตาแล้วมันก็ยังไม่อยากเชื่อว่านี่คือสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์

เพราะว่าสภาพของมันนั้นมิใช่ของวิเศษใดๆ ทั้งสิ้น

หากบรรพบุรุษหวูเทียนไม่ยอมรับออกมาเองแล้วพวกเขาทั้งหลายก็คงไม่เชื่อว่าคัมภีร์ในมือเย่หยวนนี้คือของจริง

เมื่อรู้จักหน้าตาแล้วคนทั้งหลายก็แยกย้ายกันออกไปหาคัมภีร์เอกภพ

เย่หยวนนั้นมีกฎห้วงมิติที่เหนือล้ำ ไม่ไกลจากอาณาจักรคลื่นกำเนิดมากนัก

ตอนนี้ด้วยพลังของเขา ตัวเขาย่อมจะสามารถหนีออกไปด้วยตัวเองได้

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นแปลงกายเป็นโกลาหลหรือก็คือโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโกลาหลในคงคานิรันดร์ไปแล้ว

สิ่งที่เย่หยวนต้องทำนั้นก็แค่ฉีดปราณเทวะโกลาหลของตัวเองเข้าสู่ความโกลาหลนี้และใช้วิชาห้วงมิติออกมาเขาก็จะสามารถกลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้เช่นกัน

จากนั้นค่อยทิ้งตัวหนีออกไปจากโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต

แต่ด้วยวิชาห้วงมิติของเขาในตอนนี้ เขาไม่อาจจะพาใครออกไปด้วยได้เลย

เย่หยวนนั้นไม่กล้าจะชักช้าไปแม้แต่วินาทีเดียวในการหาคัมภีร์เอกภพ

ยิ่งผ่านไปนานเท่าใดพลังของเพลิงเที่ยงสุดเต๋ามันก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

ต่อให้จะเป็นไฟที่อ่อนแค่ไหนสุดท้ายมันก็ยังย่างให้เนื้อสุกได้

ตอนนี้มีคนอีกมากมายค่อยๆ ตายตกลงไป

บนท้องฟ้านั้นมันยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นไม่ขาดสาย

ศึกอันดุเดือดระหว่างบรรพบุรุษหวูเทียนและเจ้าโลกทั้งหลายนั้นกำลังถึงจุดเดือด

เจ้าโลกมากมายนั้นกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ

ภายใต้การหลอมของเพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นพวกเขาย่อมจะเริ่มสูญเสียพลังไปอย่างไม่อาจหยุดตัวเองได้

เจ้าโลกหลุนฮวยและศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเองก็ย่อมจะได้รับบาดเจ็บไปเช่นกัน

ในโลกใบนี้พลังส่วนมากของเพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นมันกำลังเผาผลาญร่างพวกเขาอยู่

คนทั้งสองนั้นมีรอยแผลไหม้ทั่วกาย

แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดมือ!

แม้ว่าจุดห้วงมิติที่โจมตีนั้นมันจะค่อยๆ คืนสภาพได้แต่มันก็ไม่ได้เร็วเหมือนก่อนแล้ว

นี่มันทำให้คนทั้งหลายเริ่มมีความหวัง!

เดิมทีแล้วมันคืนกลับสภาพเดิมในไม่กี่อึดใจ

แต่ตอนนี้มันต้องใช้เวลาซ่อมแซมหลายร้อยอึดใจ

นอกจากนั้นการโจมตีมันก็ยังไม่มีหยุดลงไป

เพื่อความหวังน้อยๆ นี้พวกเขาเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายไม่คิดจะเก็บกักพลังใดๆ ไว้กับตัวอีก

เพราะอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็ไม่มีใครอยากจะตายลงและกลายเป็นโอสถสวรรค์ให้คนอื่นกิน!

ผลลัพธ์เช่นนั้นมันน่าสมเพชจนเกินรับ

ในโถงข้างนั้นเย่หยวนกำลังเงยหน้ามองดูสุดเพดานเพื่อตามหาภาพวาดเต๋าสวรรค์

แต่วินาทีนั้นเองที่มันปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นด้านหลังเย่หยวน

มันคือบรรพบุรุษหวูเทียน!

“เย่หยวน ยอมแพ้เถอะ! เจ้าไม่มีทางจะหาคัมภีร์เอกภพเจอหรอก! แม้ว่าเจ้านั้นจะหาภาพวาดเต๋าสวรรค์ไปเจอถึงสี่คัมภีร์แต่ว่าต่อให้เจ้าจะมีดวงเจอมันเพิ่มอีกอัน เจ้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันคือคัมภีร์เอกภพ?” บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นยืนมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าเย้ยหยัน

เงาร่างนี้มันจางจนมองทะลุได้ง่ายๆ ชัดเจนเลยว่ามันไม่มีพลังใดๆ

เขานั้นไม่เหลือพลังงานพอที่จะมาจัดการเย่หยวนในตอนนี้

เย่หยวนไม่คิดหันกลับไปมองแต่ก็ยังตอบกลับไป “ที่เจ้ามาหาข้านี้คงเพราะว่าข้าใกล้จะเจอคัมภีร์เอกภพแล้ว?”

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นผงะไปในใจแต่ใบหน้าของเขานั้นย่อมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

เฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างเขาย่อมจะไม่แสดงสีหน้าให้คนอื่นจับได้ง่ายๆ

แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญกับเย่หยวน

เพราะเขานั้นเชื่อในดวงชะตาของตนเอง!

“ฮ่าๆ เจ้าจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่เถอะ! บรรพบุรุษผู้นี้แค่มาบอกเจ้าว่าพวกมันใกล้จะถูกหลอมแล้วเต็มที หากมันถูกหลอมไปแล้วจริงๆ ต่อไปจะเป็นตาเจ้าที่ต้องตายลง! เจ้านั้นยังมีเวลาพอหนีออกไปได้เองในตอนนี้!” หวูเทียนกล่าวขึ้นมา

“เจ้านั้นมองการบ่มเพาะของข้าออก เจ้านั้นมองปราณเทวะโกลาหลของข้าออก แต่เรื่องบางเรื่องเจ้านั้นก็ยังมองข้าไม่ออกหรอกเช่นดวงชะตาของข้า!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

เขานั้นไม่คิดกลัวเกรงใดๆ

ดวงชะตานั้นมันคือสิ่งที่ลึกล้ำและไม่มีใครเข้าใจได้

หากมันเป็นเต๋าแล้ว มันก็คงเป็นเต๋าที่ไม่เคยมีใครสามารถศึกษาได้มาก่อน!

ยอดเต๋าอื่นๆ นั้นมีวิธีการบ่มเพาะทั้งสิ้น

แต่ดวงชะตา เต๋านี้เพียงแค่เต๋าเดียวที่ไม่มีใครเข้าใจมันได้

และพรของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันก็เป็นสิ่งที่สะสมมาจากบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆ ทั้งหลายจนเกิดกลายเป็นพลังงานสุดวิเศษ

แน่นอนว่าในนิกายยาสุดล้ำมันย่อมจะมีคนคิดศึกษาพลังของพรนี้แต่มันกลับไม่อาจจะเข้าใจได้แม้แต่น้อย

แต่เย่หยวนนั้นเป็นสิ่งอัศจรรย์

เพราะว่าบรรพบุรุษทุกคนนั้นยอมรับเย่หยวน!

หวูเทียนย่อมจะไม่คิดเชื่อและหัวเราะตอบกลับไป “ไอ้หนู เจ้านั้นจะบอกว่าที่ตัวเองเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์ก่อนหน้ามานี้มันเพราะว่าโชคหรือ? บรรพบุรุษผู้นี้เองก็เป็นคนที่มีโชคชะตายิ่งใหญ่ แต่หากจะบอกว่าตัวเองไปเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์ด้วยโชคแล้วมันย่อมจะไร้สาระเกินไป!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่เชื่อแต่ตอนที่ข้ามาถึงที่นี่ข้าไม่ได้คิดหาสมบัติใดๆ และแค่เดินออกไปดูในจุดต่างๆ และเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์เข้าในที่สุด”

หวูเทียนนั้นต้องผงะไปอีกครั้ง!

เพราะตัวตนระดับเขานั้นมีหรือที่จะถูกคำพูดหลอกลวงได้ง่ายๆ?

หวูเทียนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเย่หยวนไม่ได้โกหกใดๆ

พูดไปนั้นเย่หยวนก็เดินออกจากโถงข้างนี้มา

หวูเทียนนั้นยังไม่คิดยอมแพ้และตามหลังเย่หยวนไปห่างๆ

เย่หยวนนั้นเดาไม่ผิด เพราะที่แห่งนี้มันใกล้กับจุดที่เก็บซ่อนคัมภีร์เอกภพไว้จริงๆ

หลังจากออกโถงข้างมานั้นพวกเขาก็เดินมาถึงเรือนน้อยมากมายที่ตั้งเรียงรายสุดลูกหูลูกตา มันคือที่พักของศิษย์ทั้งหลาย

เย่หยวนนั้นเดินเข้ามาในบริเวณและหันมองซ้ายขวาราวกับแค่มาเที่ยวเล่น

หวูเทียนนั้นต้องใจสั่น

‘หรือว่าเจ้าเด็กนี่มันจะอัศจรรย์ปานนั้นจริง?’

‘มันยังมีคนที่ดวงชะตายิ่งใหญ่กว่าพ่อเจ้านี้?’

‘ข้าไม่ขอเชื่อ!’

‘อย่าไป! อย่าไป! อย่าไป!’ หวูเทียนร้องลั่นอยู่ในใจ

เขาย่อมจะรู้ว่าคัมภีร์เอกภพอยู่ที่ใด

เขาไม่ได้คิดซ่อนใดๆ เพียงแค่โยนมันทิ้งไปตามจุดต่างๆ

คัมภีร์เอกภพนั้นมันอยู่ในเรือนนี้ที่ห้องสาม

แต่ยิ่งพูดเหมือนสวรรค์ยิ่งแกล้งเพราะเย่หยวนนั้นเดินเข้าไปใกล้ห้องสาม มากขึ้นเรื่อยๆ!

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นไม่มีแรงพอจะย้ายภาพวาดเต๋าสวรรค์หนีไปที่อื่นแล้ว

การหลอมยอดฝีมือมากมายปานนั้นมันย่อมจะมิใช่เรื่องง่าย

จากนั้นเย่หยวนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้เดินเข้าห้องสาม ไป

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นต้องร้องลั่นขึ้นมาในใจ!

ห้องมันมีเป็นร้อยๆ ทำไมต้องมาเลี้ยวเข้าดูห้องนี้ด้วย?

‘สิ้นหวังนัก!’

เจ้าเด็กนี่มันจะอัศจรรย์เกินไปแล้ว!

‘จะว่าแล้วมันก็คงแค่บังเอิญมากเท่านั้น เพราะคัมภีร์เอกภพนั้นมันก็ซ่อนไว้อย่างดี บรรพบุรุษผู้นี้ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะหาเจอ!’

แม้ว่าตอนนี้จิตใจของเขาจะปั่นป่วนแค่ไหนแต่เขาก็ยังไม่คิดแสดงมันออกมา

เขานั้นแค่ทำเหมือนเดินตามมาเยาะเย้ยเย่หยวนและเข้าห้องสามมาด้วย

ทุกสิ่งอย่างนั้นมันดูเป็นธรรมชาติ

เย่หยวนรู้หรือว่าคัมภีร์เอกภพอยู่ที่นี่?

ย่อมจะไม่รู้!

เขานั้นแค่เดินเล่นมาเรื่อยๆ และคิดอยากจะเลี้ยวเข้าดูห้องนี้เท่านั้น

บางทีโชคนั้นมันก็เป็นเรื่องที่สุดแสนวิเศษเกินเข้าใจ

ต่อให้พลิกฟ้าดินหาก็ไม่อาจเจอ

แต่นั่งอยู่บ้านเฉยๆ มันกลับจะตกลงตรงหน้า

เย่หยวนนั้นเดินวนในห้องสามสองรอบก่อนจะหันหน้าเข้าห้องอ่านหนังสือไป

“บรรพบุรุษ ท่านคิดว่าคัมภีร์เอกภพมันจะอยู่ที่นี่หรือไม่?” เย่หยวนยิ้มขึ้นถาม

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจแต่ใบหน้านั้นยังเรียบเฉย “นี่คือห้องของศิษย์ระดับต่ำในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต พวกเขานั้นมีห้องเช่นนี้สร้างไว้เป็นหมื่นๆ เจ้าคิดว่าตัวเองเลือกห้องนี้มาแล้วก็จะเจอสมบัติหรือ? เช่นนั้นข้าคงกลายเป็นตัวตลกแล้ว? หรือว่าเจ้าคิดจะอ่านท่าทางของข้าจากคำถามนี้กันแน่?”

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าแค่เบื่อเลยหาเรื่องชวนคุยเท่านั้น ข้ารู้ว่าผีเฒ่าอย่างเจ้านั้นต่อให้ข้าจะพยายามแค่ไหนก็คงไม่มีทางอ่านสีหน้าท่าทางของเจ้าได้เช่นกัน”

พูดไปเย่หยวนนั้นก็เดินมาถึงหน้าชั้นหนังสือและหยิบสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมา

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นใจหายวาบ!

นี่มันจะน่าอัศจรรย์เกินบรรยายไปแล้ว!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3072 อัศจรรย์เกินอธิบาย!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3072 อัศจรรย์เกินอธิบาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่หยวนนั้นหยิบเอาคัมภีร์หนังแพะออกมาวางให้ทุกคนได้เห็น

พวกเขานั้นหันมามองหน้ากันด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา

“นี่คือสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ของจริง? มันไม่เห็นจะเหมือนของวิเศษใดๆ เลย!”

“สิ่งนี้มันจะธรรมดาเกินไปหรือไม่? หากเอามันให้ข้าไว้ข้าคงเผลอทิ้งอย่างไม่ทันรู้ตัวแน่”

“ที่น่าขันที่สุดก็คือคงถานนั้นคิดว่าตัวเองได้รับการยอมรับจากสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์ ที่แท้แล้วมันก็แค่ของปลอมเท่านั้น!”

คัมภีร์หนังแพะนี้มันดูธรรมดาจนเกินไป

ต่อให้จะได้เห็นแก่สายตาแล้วมันก็ยังไม่อยากเชื่อว่านี่คือสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์

เพราะว่าสภาพของมันนั้นมิใช่ของวิเศษใดๆ ทั้งสิ้น

หากบรรพบุรุษหวูเทียนไม่ยอมรับออกมาเองแล้วพวกเขาทั้งหลายก็คงไม่เชื่อว่าคัมภีร์ในมือเย่หยวนนี้คือของจริง

เมื่อรู้จักหน้าตาแล้วคนทั้งหลายก็แยกย้ายกันออกไปหาคัมภีร์เอกภพ

เย่หยวนนั้นมีกฎห้วงมิติที่เหนือล้ำ ไม่ไกลจากอาณาจักรคลื่นกำเนิดมากนัก

ตอนนี้ด้วยพลังของเขา ตัวเขาย่อมจะสามารถหนีออกไปด้วยตัวเองได้

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นแปลงกายเป็นโกลาหลหรือก็คือโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโกลาหลในคงคานิรันดร์ไปแล้ว

สิ่งที่เย่หยวนต้องทำนั้นก็แค่ฉีดปราณเทวะโกลาหลของตัวเองเข้าสู่ความโกลาหลนี้และใช้วิชาห้วงมิติออกมาเขาก็จะสามารถกลายเป็นหนึ่งเดียวกับโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้เช่นกัน

จากนั้นค่อยทิ้งตัวหนีออกไปจากโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต

แต่ด้วยวิชาห้วงมิติของเขาในตอนนี้ เขาไม่อาจจะพาใครออกไปด้วยได้เลย

เย่หยวนนั้นไม่กล้าจะชักช้าไปแม้แต่วินาทีเดียวในการหาคัมภีร์เอกภพ

ยิ่งผ่านไปนานเท่าใดพลังของเพลิงเที่ยงสุดเต๋ามันก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

ต่อให้จะเป็นไฟที่อ่อนแค่ไหนสุดท้ายมันก็ยังย่างให้เนื้อสุกได้

ตอนนี้มีคนอีกมากมายค่อยๆ ตายตกลงไป

บนท้องฟ้านั้นมันยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นไม่ขาดสาย

ศึกอันดุเดือดระหว่างบรรพบุรุษหวูเทียนและเจ้าโลกทั้งหลายนั้นกำลังถึงจุดเดือด

เจ้าโลกมากมายนั้นกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ

ภายใต้การหลอมของเพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นพวกเขาย่อมจะเริ่มสูญเสียพลังไปอย่างไม่อาจหยุดตัวเองได้

เจ้าโลกหลุนฮวยและศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเองก็ย่อมจะได้รับบาดเจ็บไปเช่นกัน

ในโลกใบนี้พลังส่วนมากของเพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นมันกำลังเผาผลาญร่างพวกเขาอยู่

คนทั้งสองนั้นมีรอยแผลไหม้ทั่วกาย

แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดมือ!

แม้ว่าจุดห้วงมิติที่โจมตีนั้นมันจะค่อยๆ คืนสภาพได้แต่มันก็ไม่ได้เร็วเหมือนก่อนแล้ว

นี่มันทำให้คนทั้งหลายเริ่มมีความหวัง!

เดิมทีแล้วมันคืนกลับสภาพเดิมในไม่กี่อึดใจ

แต่ตอนนี้มันต้องใช้เวลาซ่อมแซมหลายร้อยอึดใจ

นอกจากนั้นการโจมตีมันก็ยังไม่มีหยุดลงไป

เพื่อความหวังน้อยๆ นี้พวกเขาเหล่าเจ้าโลกทั้งหลายไม่คิดจะเก็บกักพลังใดๆ ไว้กับตัวอีก

เพราะอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็ไม่มีใครอยากจะตายลงและกลายเป็นโอสถสวรรค์ให้คนอื่นกิน!

ผลลัพธ์เช่นนั้นมันน่าสมเพชจนเกินรับ

ในโถงข้างนั้นเย่หยวนกำลังเงยหน้ามองดูสุดเพดานเพื่อตามหาภาพวาดเต๋าสวรรค์

แต่วินาทีนั้นเองที่มันปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นด้านหลังเย่หยวน

มันคือบรรพบุรุษหวูเทียน!

“เย่หยวน ยอมแพ้เถอะ! เจ้าไม่มีทางจะหาคัมภีร์เอกภพเจอหรอก! แม้ว่าเจ้านั้นจะหาภาพวาดเต๋าสวรรค์ไปเจอถึงสี่คัมภีร์แต่ว่าต่อให้เจ้าจะมีดวงเจอมันเพิ่มอีกอัน เจ้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันคือคัมภีร์เอกภพ?” บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นยืนมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าเย้ยหยัน

เงาร่างนี้มันจางจนมองทะลุได้ง่ายๆ ชัดเจนเลยว่ามันไม่มีพลังใดๆ

เขานั้นไม่เหลือพลังงานพอที่จะมาจัดการเย่หยวนในตอนนี้

เย่หยวนไม่คิดหันกลับไปมองแต่ก็ยังตอบกลับไป “ที่เจ้ามาหาข้านี้คงเพราะว่าข้าใกล้จะเจอคัมภีร์เอกภพแล้ว?”

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นผงะไปในใจแต่ใบหน้าของเขานั้นย่อมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

เฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างเขาย่อมจะไม่แสดงสีหน้าให้คนอื่นจับได้ง่ายๆ

แต่เรื่องนั้นมันไม่สำคัญกับเย่หยวน

เพราะเขานั้นเชื่อในดวงชะตาของตนเอง!

“ฮ่าๆ เจ้าจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่เถอะ! บรรพบุรุษผู้นี้แค่มาบอกเจ้าว่าพวกมันใกล้จะถูกหลอมแล้วเต็มที หากมันถูกหลอมไปแล้วจริงๆ ต่อไปจะเป็นตาเจ้าที่ต้องตายลง! เจ้านั้นยังมีเวลาพอหนีออกไปได้เองในตอนนี้!” หวูเทียนกล่าวขึ้นมา

“เจ้านั้นมองการบ่มเพาะของข้าออก เจ้านั้นมองปราณเทวะโกลาหลของข้าออก แต่เรื่องบางเรื่องเจ้านั้นก็ยังมองข้าไม่ออกหรอกเช่นดวงชะตาของข้า!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

เขานั้นไม่คิดกลัวเกรงใดๆ

ดวงชะตานั้นมันคือสิ่งที่ลึกล้ำและไม่มีใครเข้าใจได้

หากมันเป็นเต๋าแล้ว มันก็คงเป็นเต๋าที่ไม่เคยมีใครสามารถศึกษาได้มาก่อน!

ยอดเต๋าอื่นๆ นั้นมีวิธีการบ่มเพาะทั้งสิ้น

แต่ดวงชะตา เต๋านี้เพียงแค่เต๋าเดียวที่ไม่มีใครเข้าใจมันได้

และพรของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันก็เป็นสิ่งที่สะสมมาจากบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆ ทั้งหลายจนเกิดกลายเป็นพลังงานสุดวิเศษ

แน่นอนว่าในนิกายยาสุดล้ำมันย่อมจะมีคนคิดศึกษาพลังของพรนี้แต่มันกลับไม่อาจจะเข้าใจได้แม้แต่น้อย

แต่เย่หยวนนั้นเป็นสิ่งอัศจรรย์

เพราะว่าบรรพบุรุษทุกคนนั้นยอมรับเย่หยวน!

หวูเทียนย่อมจะไม่คิดเชื่อและหัวเราะตอบกลับไป “ไอ้หนู เจ้านั้นจะบอกว่าที่ตัวเองเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์ก่อนหน้ามานี้มันเพราะว่าโชคหรือ? บรรพบุรุษผู้นี้เองก็เป็นคนที่มีโชคชะตายิ่งใหญ่ แต่หากจะบอกว่าตัวเองไปเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์ด้วยโชคแล้วมันย่อมจะไร้สาระเกินไป!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้ารู้ว่าเจ้าคงไม่เชื่อแต่ตอนที่ข้ามาถึงที่นี่ข้าไม่ได้คิดหาสมบัติใดๆ และแค่เดินออกไปดูในจุดต่างๆ และเจอภาพวาดเต๋าสวรรค์เข้าในที่สุด”

หวูเทียนนั้นต้องผงะไปอีกครั้ง!

เพราะตัวตนระดับเขานั้นมีหรือที่จะถูกคำพูดหลอกลวงได้ง่ายๆ?

หวูเทียนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเย่หยวนไม่ได้โกหกใดๆ

พูดไปนั้นเย่หยวนก็เดินออกจากโถงข้างนี้มา

หวูเทียนนั้นยังไม่คิดยอมแพ้และตามหลังเย่หยวนไปห่างๆ

เย่หยวนนั้นเดาไม่ผิด เพราะที่แห่งนี้มันใกล้กับจุดที่เก็บซ่อนคัมภีร์เอกภพไว้จริงๆ

หลังจากออกโถงข้างมานั้นพวกเขาก็เดินมาถึงเรือนน้อยมากมายที่ตั้งเรียงรายสุดลูกหูลูกตา มันคือที่พักของศิษย์ทั้งหลาย

เย่หยวนนั้นเดินเข้ามาในบริเวณและหันมองซ้ายขวาราวกับแค่มาเที่ยวเล่น

หวูเทียนนั้นต้องใจสั่น

‘หรือว่าเจ้าเด็กนี่มันจะอัศจรรย์ปานนั้นจริง?’

‘มันยังมีคนที่ดวงชะตายิ่งใหญ่กว่าพ่อเจ้านี้?’

‘ข้าไม่ขอเชื่อ!’

‘อย่าไป! อย่าไป! อย่าไป!’ หวูเทียนร้องลั่นอยู่ในใจ

เขาย่อมจะรู้ว่าคัมภีร์เอกภพอยู่ที่ใด

เขาไม่ได้คิดซ่อนใดๆ เพียงแค่โยนมันทิ้งไปตามจุดต่างๆ

คัมภีร์เอกภพนั้นมันอยู่ในเรือนนี้ที่ห้องสาม

แต่ยิ่งพูดเหมือนสวรรค์ยิ่งแกล้งเพราะเย่หยวนนั้นเดินเข้าไปใกล้ห้องสาม มากขึ้นเรื่อยๆ!

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นไม่มีแรงพอจะย้ายภาพวาดเต๋าสวรรค์หนีไปที่อื่นแล้ว

การหลอมยอดฝีมือมากมายปานนั้นมันย่อมจะมิใช่เรื่องง่าย

จากนั้นเย่หยวนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้เดินเข้าห้องสาม ไป

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นต้องร้องลั่นขึ้นมาในใจ!

ห้องมันมีเป็นร้อยๆ ทำไมต้องมาเลี้ยวเข้าดูห้องนี้ด้วย?

‘สิ้นหวังนัก!’

เจ้าเด็กนี่มันจะอัศจรรย์เกินไปแล้ว!

‘จะว่าแล้วมันก็คงแค่บังเอิญมากเท่านั้น เพราะคัมภีร์เอกภพนั้นมันก็ซ่อนไว้อย่างดี บรรพบุรุษผู้นี้ไม่เชื่อหรอกว่ามันจะหาเจอ!’

แม้ว่าตอนนี้จิตใจของเขาจะปั่นป่วนแค่ไหนแต่เขาก็ยังไม่คิดแสดงมันออกมา

เขานั้นแค่ทำเหมือนเดินตามมาเยาะเย้ยเย่หยวนและเข้าห้องสามมาด้วย

ทุกสิ่งอย่างนั้นมันดูเป็นธรรมชาติ

เย่หยวนรู้หรือว่าคัมภีร์เอกภพอยู่ที่นี่?

ย่อมจะไม่รู้!

เขานั้นแค่เดินเล่นมาเรื่อยๆ และคิดอยากจะเลี้ยวเข้าดูห้องนี้เท่านั้น

บางทีโชคนั้นมันก็เป็นเรื่องที่สุดแสนวิเศษเกินเข้าใจ

ต่อให้พลิกฟ้าดินหาก็ไม่อาจเจอ

แต่นั่งอยู่บ้านเฉยๆ มันกลับจะตกลงตรงหน้า

เย่หยวนนั้นเดินวนในห้องสามสองรอบก่อนจะหันหน้าเข้าห้องอ่านหนังสือไป

“บรรพบุรุษ ท่านคิดว่าคัมภีร์เอกภพมันจะอยู่ที่นี่หรือไม่?” เย่หยวนยิ้มขึ้นถาม

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจแต่ใบหน้านั้นยังเรียบเฉย “นี่คือห้องของศิษย์ระดับต่ำในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต พวกเขานั้นมีห้องเช่นนี้สร้างไว้เป็นหมื่นๆ เจ้าคิดว่าตัวเองเลือกห้องนี้มาแล้วก็จะเจอสมบัติหรือ? เช่นนั้นข้าคงกลายเป็นตัวตลกแล้ว? หรือว่าเจ้าคิดจะอ่านท่าทางของข้าจากคำถามนี้กันแน่?”

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าแค่เบื่อเลยหาเรื่องชวนคุยเท่านั้น ข้ารู้ว่าผีเฒ่าอย่างเจ้านั้นต่อให้ข้าจะพยายามแค่ไหนก็คงไม่มีทางอ่านสีหน้าท่าทางของเจ้าได้เช่นกัน”

พูดไปเย่หยวนนั้นก็เดินมาถึงหน้าชั้นหนังสือและหยิบสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมา

บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นใจหายวาบ!

นี่มันจะน่าอัศจรรย์เกินบรรยายไปแล้ว!

…………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+