Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3088 ปะทะเจ้าโลก!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3088 ปะทะเจ้าโลก! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นฉือชาง เยียวเลอและเหมิงจินสามเจ้าโลกเผ่าเลือดนั้นต่างมองดูหน้าเย่หยวนด้วยความเย้ยหยัน

ในความคิดของพวกเขานั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นได้แค่เต๋าในโหล

พวกเขาทั้งสามนั้นคือยอดฝีมือแม้ในหมู่เจ้าโลกด้วยกัน

มาจัดการกับมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นี้มันย่อมจะง่ายดายเกินไป

มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์และเจ้าโลกนั้นแม้จะห่างกันแค่หนึ่งอาณาจักรแต่มันคือตัวตนที่แตกต่างชั้นกันอย่างสิ้นเชิง

ไม่มีใครเคยก้าวข้ามความต่างนี้ขึ้นมาสู้กับเจ้าโลกได้มาก่อน!

ได้เห็นยอดฝีมือทั้งสามนั้นเยวี่ยเมิ่งลี่ก็หน้าซีดขาวลง

แต่ตอนนี้เย่หยวนก็กลับมาสงบจิตใจได้แล้ว

เขานั้นดึงดาบน้อยออกมาจากหว่างคิ้วก่อนจะถือมันไว้ในมือและยื่นไปใกล้ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่

“ลี่เอ๋อ เจ้าเข้าไปซ่อนในมิติของดาบเต๋าก่อน”

แม้ว่าโลกภายในของเย่หยวนนั้นมันจะแตกสลายไปแล้วแต่การเปิดมิติภายในดาบเต๋าแค่เพื่อให้เยวี่ยเมิ่งลี่ได้ซ่อนตัวนั้นมันย่อมจะไม่ยากเย็นเกินไป

เยวี่ยเมิ่งลี่ได้แต่ต้องทำหน้าลังเลก่อนจะส่ายหัวตอบกลับไป “พี่หยวน หากท่านจะสู้กับมันข้าก็จะขอตายกับพี่ด้วย!”

เย่หยวนหันมายิ้มให้เยวี่ยเมิ่งลี่ “ทำไมพี่หยวนของเจ้าถึงจะยอมตายง่ายๆ เล่า? พี่บอกแล้วว่าจะแต่งงานกับเจ้า พี่ไม่มีทางคืนคำแน่นอน! มันแค่สามเจ้าโลกธรรมดาๆ ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวมากมายหรอก!”

เมื่อสามเจ้าโลกนั้นได้ยินพวกเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้

“ฮ่าๆๆ ช่างเป็นคำพูดที่ยิ่งใหญ่ดีแท้! เย่หยวน เจ้านี่มันอย่างที่เขาลือกันจริงๆ ไอ้คนขี้โม้! คิดจะปลอบใจนังเด็กน้อยมันแต่เจ้าไม่คิดว่าคำพูดเช่นนี้มันจะฟังดูโง่เกินไปหรือ?” ฉือชางกล่าวขึ้น

“ก่อนๆ มานั้นบรรพบุรุษท่านคิดว่าเจ้านั้นไม่ได้เก่งกาจมากมายจึงไม่ได้คิดลงมือสังหารเจ้าเป็นจริงเป็นจัง แต่ครั้งนี้ในเมื่อเราออกมาเองแล้วเจ้ายังคิดว่าจะรอดไปได้? แค่สามเจ้าโลกธรรมดาๆ? ฮ่าๆ วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสพลังของเจ้าโลกเอง!” เยียวเลอกล่าวขึ้นตาม

เท่านี้มันก็ยิ่งทำให้เยวี่ยเมิ่งลี่กังวลกว่าเก่า

เจ้าโลกนั้นมิใช่เรื่องตลก!

หากอีกฝ่ายนั้นเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์หรือแม้แต่ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดนับสิบๆ เยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยังไม่คิดจะกังวลแม้แต่น้อย

แต่ต่อหน้าเจ้าโลกนั้นต่อให้จะเป็นเจ้าโลกที่อ่อนแอแค่ไหนมันก็ยังเป็นเจ้าโลก ตัวตนที่เย่หยวนในตอนนี้ไม่อาจจะก้าวขึ้นไปถึงได้!

เย่หยวนหันมายิ้มปลอบใจให้แก่นาง “สบายใจได้น่า พี่เคยโกหกเจ้าหรือ? ในเมื่อมันกล้ามาพี่ก็จะทำให้มันไม่ได้กลับไปแน่นอน!”

ใบหน้าสบายๆ ของเย่หยวนนั้นทำให้เยวี่ยเมิ่งลี่สงบใจลงได้บ้าง

มาถึงขนาดนี้แล้วต่อให้อยากจะหนีมันก็คงหนีไม่ได้ มันมีแต่สู้หรือตายเท่านั้น

จะบอกว่าขอตายด้วยมันย่อมจะเป็นได้แค่เรื่องตลก

เพราะนางรู้ตัวดีว่าการที่นางอยู่สู้ด้วยกันนั้นมีแต่จะเป็นภาระให้แก่เย่หยวน

คิดได้เช่นนั้นนางก็พยักหน้ารับมุดตัวเข้ามิติของดาบเต๋าไป

ในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานี้มันไม่มีที่ไหนปลอดภัยไปกว่าในดาบเต๋าแล้ว

เพราะหากเย่หยวนยังไม่ตาย มันก็จะไม่มีใครเข้าถึงตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ได้

สามเจ้าโลกเองก็ไม่คิดจะห้ามเย่หยวนใดๆ ปล่อยให้เย่หยวนได้ทำตามใจชอบไป

เพราะพวกเขานั้นมั่นใจว่าจะสามารถสังหารเย่หยวนได้ในฝ่ามือเดียว

ฉือชางยิ้มกล่าวขึ้น “เอาล่ะ โม้กันจบแล้วเราก็จะได้จบเรื่องกันเสียที!”

เขานั้นกำลังจะเข้าโจมตีแต่กลับถูกเหมิงจินห้ามไว้ก่อน “อย่าเพิ่งน่า จะอย่างไรเสียเราก็ต้องติดอยู่ในนี้เจ็ดวัน ฆ่ามันไปในกระบวนท่าเดียวนั้นจะน่าเบื่อไปไหมเล่า? ไปเล่นกับมันเสียหน่อยจะไม่ดีกว่าหรือ?”

ฉือชางที่ได้ยินต้องผงะไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มตอบไป “เอาสิ”

เหมิงจินมองดูหน้าเย่หยวนก่อนจะขยับตัวหายไปทันควัน

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเพราะสัมผัสได้ถึงอันตรายจากรอบด้านแต่ไม่รู้ว่ามันมาจากทางไหนกันแน่!

สายตาของเขานั้นไม่อาจจะมองตามอีกฝ่ายได้เลย

นี่มันคือครั้งแรกที่เขาได้ปะทะกับเจ้าโลกตรงๆ!

เขานั้นได้รู้ซึ้งถึงพลังของเจ้าโลกเป็นครั้งแรก!

ส่วนฉือชางและเยียวเลอทั้งสองคนนั้นต่างยืนมองดูเฉยๆ ราวกับไม่คิดสนใจจะลงมือ

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็ต้องขนลุกตั้งไปทั้งร่างเพราะสัมผัสได้ถึงความตายจากด้านหลัง

เขารีบปล่อยปราณเทวะโกลาหลออกมาสุดกำลังและหันหลังกลับไปเตรียมรับการโจมตี

“ฮ่าๆ เจ้าตอบสนองได้ดี แต่มันช้าไป!”

เสียงหัวเราะของเหมิงจินดังขึ้นมาข้างหูเย่หยวน

เย่หยวนหันไปและพบว่าตอนนี้ใบหน้าของเหมิงจินนั้นมันแทบจะมาถึงตัวเขาแล้ว

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็ง้างนิ้วไว้รอดีดราวกับกำลังเล่นกับเด็กๆ

ปัง!

คลื่นพลังรุนแรงกระแทกเข้าร่างเย่หยวนไป

เย่หยวนนั้นปลิวออกไปทันทีอย่างไม่อาจหยุดห้าม เขานั้นไม่รู้เลยว่าตัวเองโดนอะไรเข้าไป!

การโจมตีเล่นๆ ทีเดียวนี้มันทำให้หน้าอกของเย่หยวนยุบเป็นรู

พลังของการดีดนิ้วมันรุนแรงจนเกินความเข้าใจ!

แต่ร่างของเย่หยวนยังไม่ทันจะหยุดเขาก็ได้ยินเสียงเหมิงจินที่ข้างหูอีกครั้ง

“เจ้าคิดว่ามันจะจบแค่นี้?”

เย่หยวนนั้นเกร็งทั้งตัวพร้อมด้วยปราณเทวะโกลาหลเพื่อเตรียมรับการโจมตีครั้งที่สอง

แต่ความอันตรายนั้นก็ยังตามติดเขามาเหมือนเป็นเงา!

เย่หยวนพยายามใช้วิชาการเคลื่อนไหวออกมาจนถึงที่สุดเพื่อเปลี่ยนทิศทางการปลิวของตัวเอง

แต่เขาก็ไม่อาจจะสลัดตัวเหมิงจินได้หลุด!

ไม่ไกลออกไปฉือชางก็ต้องยิ้มกว้างขึ้น “เหมิงจินนี่มันกำลังเล่นแมวจับหนูหรืออย่างไร?”

เยียวเลอเองก็ยิ้มขึ้นกล่าว “ก่อนจะมานั้นท่านอี้เฉียบอกเหลือเกินว่าเจ้าเด็กนี่มันประหลาดมหัศจรรย์แค่ไหน ข้าก็นึกว่ามันจะทำให้ข้าสนใจได้บ้างแต่ดูท่าแล้ว มันคงได้เท่านี้!”

ฉือชางส่ายหัวตอบกลับไป “เจ้าพูดเช่นนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว! เพราะดูจากสภาพประกอบแล้วเย่หยวนมันทรงพลังจริงๆ! หากเป็นเจ้าโลกธรรมดาๆ ทั่วไปคงยากที่จะสังหารมันลงได้! นอกจากนั้นมันยังมีพลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆาที่ปิดกั้นพลังอื่นๆ นอกจากพลังของบรรพบุรุษศิลาโลหิตท่าน! คลื่นกำเนิดห้วงมิติมันจึงแทบไม่อาจจะใช้งานได้ในนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เราจะไล่ล่ายังไงก็คงตามสังหารมันได้ยาก!”

เยียวเลอยิ้มขึ้นมา “แล้วทำไม? ในมหาค่ายกลโลหิตเมฆาสุดท้ายมันก็เป็นได้แค่หนูให้พวกเราไล่จับเล่น”

ฉือชางกล่าวขึ้นตอบ “อาจจะเป็นเช่นนั้นจริงแต่ปราณเทวะโกลาหลของมันนั้นก็ทรงพลังอย่างมาก มันรับการโจมตีจากเหมิงจินได้หลายต่อหลายครั้งและยังไม่มีท่าทีว่าจะตายลง! หากมันเป็นยอดฝีมือคลื่นกำเนิดทั่วๆ ไปแล้วพวกมันคงได้ตายไปไม่รู้กี่รอบ!”

เยียวเลอยิ้มตอบกลับไป “ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่สนุกสิ หากไม่ได้เท่านี้เจ็ดวันของเราคงน่าเบื่อแย่”

คนทั้งสองหันมามองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม

การต่อสู้เช่นนี้มันทำให้ความกังวลใดๆ ก่อนหน้าของพวกเขานั้นจางหายไปสิ้น

เหมิงจินนั้นไม่ได้ใช้พลังถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำแต่ว่าเย่หยวนนั้นกลับพ่ายแพ้อย่างไม่อาจจะต่อต้านใดๆ ได้

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดขนาดไหนมันก็ไม่มีทางรอดจากแผนนี้ไปได้

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจจะฆ่าเวลาเจ็ดวันนี้ด้วยการทรมานเย่หยวนไป

ศึกของเหมิงจินและเย่หยวนนั้นยังคงดำเนินต่อไป

นี่มันคือการเล่นแมวไล่จับหนู เหมิงจินไม่ได้คิดจะรีบสังหารเย่หยวนใดๆ

ต่อให้เขาจะไม่ได้ใช้กระบวนท่าใดๆ ออกมาเย่หยวนก็ต้องรับมันไปอย่างสุดกำลังอยู่ดี

“ฮ่าๆ นี่หรือคืออัจฉริยะที่ทำให้ทุกสวรรค์ต้องปั่นป่วน? น่าผิดหวังนัก! ข้านั้นใช้แค่นิ้วเดียวแต่เจ้ากลับเอาชนะนิ้วเดียวของข้านี้ไม่ได้?” เหมิงจินหัวเราะลั่นขึ้น

ตอนนี้เย่หยวนนั้นมีเลือดไหลท่วมกายหายใจแทบไม่ทันเหนือจากการวิ่งหนีไล่ล่า จะยังมีแรงไปเถียงได้หรือ?

แต่จู่ๆ ฉือชางก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น “เจ้าคิดว่าเย่หยวนมันเร็วขึ้นหรือไม่?”

เยียวเลอที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปก่อนจะหัวเราะขึ้น “ฉือชาง เจ้าคงหลอนไปเองเพราะคำขู่จากท่านอี้เฉียแล้ว? มันจะต้องกังวลอะไรขนาดนั้น? เจ้าเด็กนี่จะอย่างไรมันก็แค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่ง! มันเร็วขึ้นหรือ? มันจะเร็วขึ้นได้แค่ไหน? เพราะข้านั้นไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย”

ฉือชางพยักหน้ารับเมื่อได้ยินเช่นกัน “บางทีข้าคงคิดมากไปเองจริงๆ ดูดีๆ แล้วมันก็ไม่ได้เร็วขึ้น”

ภายนอกมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นสภาพการรบของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันไม่ดีอย่างมาก

เพราะตอนนี้มันผ่านไปได้ครึ่งวันแล้วแต่คนนิกายยาสุดล้ำกลับบาดเจ็บล้มตายกันไปมากมาย!

เพราะครั้งนี้ด้วยการนำของอี้เฉียนั้น พวกเขาได้นำกองทัพใหญ่โตกว่าครั้งก่อนมามากมายนัก

แค่นับยอดฝีมือล้ำสวรรค์มันก็มีถึงสิบคนแล้ว!

“ฮ่าๆ หากจิตใจยังไม่อยู่กับตัวเช่นนี้เจ้าจะได้ตายเอาก่อน! เจ้าไม่ต้องกังวลให้มากไปหรอก พวกฉือชางทั้งสามคนนั้นเป็นยอดฝีมือในหมู่เจ้าโลก! เย่หยวนไม่มีทางเอาชนะได้แน่นอน!” อี้เฉียนั้นมองหน้าหมี่เทียนและหัวเราะลั่นขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3088 ปะทะเจ้าโลก!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3088 ปะทะเจ้าโลก! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นฉือชาง เยียวเลอและเหมิงจินสามเจ้าโลกเผ่าเลือดนั้นต่างมองดูหน้าเย่หยวนด้วยความเย้ยหยัน

ในความคิดของพวกเขานั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นได้แค่เต๋าในโหล

พวกเขาทั้งสามนั้นคือยอดฝีมือแม้ในหมู่เจ้าโลกด้วยกัน

มาจัดการกับมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นี้มันย่อมจะง่ายดายเกินไป

มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์และเจ้าโลกนั้นแม้จะห่างกันแค่หนึ่งอาณาจักรแต่มันคือตัวตนที่แตกต่างชั้นกันอย่างสิ้นเชิง

ไม่มีใครเคยก้าวข้ามความต่างนี้ขึ้นมาสู้กับเจ้าโลกได้มาก่อน!

ได้เห็นยอดฝีมือทั้งสามนั้นเยวี่ยเมิ่งลี่ก็หน้าซีดขาวลง

แต่ตอนนี้เย่หยวนก็กลับมาสงบจิตใจได้แล้ว

เขานั้นดึงดาบน้อยออกมาจากหว่างคิ้วก่อนจะถือมันไว้ในมือและยื่นไปใกล้ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่

“ลี่เอ๋อ เจ้าเข้าไปซ่อนในมิติของดาบเต๋าก่อน”

แม้ว่าโลกภายในของเย่หยวนนั้นมันจะแตกสลายไปแล้วแต่การเปิดมิติภายในดาบเต๋าแค่เพื่อให้เยวี่ยเมิ่งลี่ได้ซ่อนตัวนั้นมันย่อมจะไม่ยากเย็นเกินไป

เยวี่ยเมิ่งลี่ได้แต่ต้องทำหน้าลังเลก่อนจะส่ายหัวตอบกลับไป “พี่หยวน หากท่านจะสู้กับมันข้าก็จะขอตายกับพี่ด้วย!”

เย่หยวนหันมายิ้มให้เยวี่ยเมิ่งลี่ “ทำไมพี่หยวนของเจ้าถึงจะยอมตายง่ายๆ เล่า? พี่บอกแล้วว่าจะแต่งงานกับเจ้า พี่ไม่มีทางคืนคำแน่นอน! มันแค่สามเจ้าโลกธรรมดาๆ ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวมากมายหรอก!”

เมื่อสามเจ้าโลกนั้นได้ยินพวกเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้

“ฮ่าๆๆ ช่างเป็นคำพูดที่ยิ่งใหญ่ดีแท้! เย่หยวน เจ้านี่มันอย่างที่เขาลือกันจริงๆ ไอ้คนขี้โม้! คิดจะปลอบใจนังเด็กน้อยมันแต่เจ้าไม่คิดว่าคำพูดเช่นนี้มันจะฟังดูโง่เกินไปหรือ?” ฉือชางกล่าวขึ้น

“ก่อนๆ มานั้นบรรพบุรุษท่านคิดว่าเจ้านั้นไม่ได้เก่งกาจมากมายจึงไม่ได้คิดลงมือสังหารเจ้าเป็นจริงเป็นจัง แต่ครั้งนี้ในเมื่อเราออกมาเองแล้วเจ้ายังคิดว่าจะรอดไปได้? แค่สามเจ้าโลกธรรมดาๆ? ฮ่าๆ วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสพลังของเจ้าโลกเอง!” เยียวเลอกล่าวขึ้นตาม

เท่านี้มันก็ยิ่งทำให้เยวี่ยเมิ่งลี่กังวลกว่าเก่า

เจ้าโลกนั้นมิใช่เรื่องตลก!

หากอีกฝ่ายนั้นเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์หรือแม้แต่ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดนับสิบๆ เยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยังไม่คิดจะกังวลแม้แต่น้อย

แต่ต่อหน้าเจ้าโลกนั้นต่อให้จะเป็นเจ้าโลกที่อ่อนแอแค่ไหนมันก็ยังเป็นเจ้าโลก ตัวตนที่เย่หยวนในตอนนี้ไม่อาจจะก้าวขึ้นไปถึงได้!

เย่หยวนหันมายิ้มปลอบใจให้แก่นาง “สบายใจได้น่า พี่เคยโกหกเจ้าหรือ? ในเมื่อมันกล้ามาพี่ก็จะทำให้มันไม่ได้กลับไปแน่นอน!”

ใบหน้าสบายๆ ของเย่หยวนนั้นทำให้เยวี่ยเมิ่งลี่สงบใจลงได้บ้าง

มาถึงขนาดนี้แล้วต่อให้อยากจะหนีมันก็คงหนีไม่ได้ มันมีแต่สู้หรือตายเท่านั้น

จะบอกว่าขอตายด้วยมันย่อมจะเป็นได้แค่เรื่องตลก

เพราะนางรู้ตัวดีว่าการที่นางอยู่สู้ด้วยกันนั้นมีแต่จะเป็นภาระให้แก่เย่หยวน

คิดได้เช่นนั้นนางก็พยักหน้ารับมุดตัวเข้ามิติของดาบเต๋าไป

ในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานี้มันไม่มีที่ไหนปลอดภัยไปกว่าในดาบเต๋าแล้ว

เพราะหากเย่หยวนยังไม่ตาย มันก็จะไม่มีใครเข้าถึงตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ได้

สามเจ้าโลกเองก็ไม่คิดจะห้ามเย่หยวนใดๆ ปล่อยให้เย่หยวนได้ทำตามใจชอบไป

เพราะพวกเขานั้นมั่นใจว่าจะสามารถสังหารเย่หยวนได้ในฝ่ามือเดียว

ฉือชางยิ้มกล่าวขึ้น “เอาล่ะ โม้กันจบแล้วเราก็จะได้จบเรื่องกันเสียที!”

เขานั้นกำลังจะเข้าโจมตีแต่กลับถูกเหมิงจินห้ามไว้ก่อน “อย่าเพิ่งน่า จะอย่างไรเสียเราก็ต้องติดอยู่ในนี้เจ็ดวัน ฆ่ามันไปในกระบวนท่าเดียวนั้นจะน่าเบื่อไปไหมเล่า? ไปเล่นกับมันเสียหน่อยจะไม่ดีกว่าหรือ?”

ฉือชางที่ได้ยินต้องผงะไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มตอบไป “เอาสิ”

เหมิงจินมองดูหน้าเย่หยวนก่อนจะขยับตัวหายไปทันควัน

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเพราะสัมผัสได้ถึงอันตรายจากรอบด้านแต่ไม่รู้ว่ามันมาจากทางไหนกันแน่!

สายตาของเขานั้นไม่อาจจะมองตามอีกฝ่ายได้เลย

นี่มันคือครั้งแรกที่เขาได้ปะทะกับเจ้าโลกตรงๆ!

เขานั้นได้รู้ซึ้งถึงพลังของเจ้าโลกเป็นครั้งแรก!

ส่วนฉือชางและเยียวเลอทั้งสองคนนั้นต่างยืนมองดูเฉยๆ ราวกับไม่คิดสนใจจะลงมือ

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็ต้องขนลุกตั้งไปทั้งร่างเพราะสัมผัสได้ถึงความตายจากด้านหลัง

เขารีบปล่อยปราณเทวะโกลาหลออกมาสุดกำลังและหันหลังกลับไปเตรียมรับการโจมตี

“ฮ่าๆ เจ้าตอบสนองได้ดี แต่มันช้าไป!”

เสียงหัวเราะของเหมิงจินดังขึ้นมาข้างหูเย่หยวน

เย่หยวนหันไปและพบว่าตอนนี้ใบหน้าของเหมิงจินนั้นมันแทบจะมาถึงตัวเขาแล้ว

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็ง้างนิ้วไว้รอดีดราวกับกำลังเล่นกับเด็กๆ

ปัง!

คลื่นพลังรุนแรงกระแทกเข้าร่างเย่หยวนไป

เย่หยวนนั้นปลิวออกไปทันทีอย่างไม่อาจหยุดห้าม เขานั้นไม่รู้เลยว่าตัวเองโดนอะไรเข้าไป!

การโจมตีเล่นๆ ทีเดียวนี้มันทำให้หน้าอกของเย่หยวนยุบเป็นรู

พลังของการดีดนิ้วมันรุนแรงจนเกินความเข้าใจ!

แต่ร่างของเย่หยวนยังไม่ทันจะหยุดเขาก็ได้ยินเสียงเหมิงจินที่ข้างหูอีกครั้ง

“เจ้าคิดว่ามันจะจบแค่นี้?”

เย่หยวนนั้นเกร็งทั้งตัวพร้อมด้วยปราณเทวะโกลาหลเพื่อเตรียมรับการโจมตีครั้งที่สอง

แต่ความอันตรายนั้นก็ยังตามติดเขามาเหมือนเป็นเงา!

เย่หยวนพยายามใช้วิชาการเคลื่อนไหวออกมาจนถึงที่สุดเพื่อเปลี่ยนทิศทางการปลิวของตัวเอง

แต่เขาก็ไม่อาจจะสลัดตัวเหมิงจินได้หลุด!

ไม่ไกลออกไปฉือชางก็ต้องยิ้มกว้างขึ้น “เหมิงจินนี่มันกำลังเล่นแมวจับหนูหรืออย่างไร?”

เยียวเลอเองก็ยิ้มขึ้นกล่าว “ก่อนจะมานั้นท่านอี้เฉียบอกเหลือเกินว่าเจ้าเด็กนี่มันประหลาดมหัศจรรย์แค่ไหน ข้าก็นึกว่ามันจะทำให้ข้าสนใจได้บ้างแต่ดูท่าแล้ว มันคงได้เท่านี้!”

ฉือชางส่ายหัวตอบกลับไป “เจ้าพูดเช่นนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว! เพราะดูจากสภาพประกอบแล้วเย่หยวนมันทรงพลังจริงๆ! หากเป็นเจ้าโลกธรรมดาๆ ทั่วไปคงยากที่จะสังหารมันลงได้! นอกจากนั้นมันยังมีพลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆาที่ปิดกั้นพลังอื่นๆ นอกจากพลังของบรรพบุรุษศิลาโลหิตท่าน! คลื่นกำเนิดห้วงมิติมันจึงแทบไม่อาจจะใช้งานได้ในนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เราจะไล่ล่ายังไงก็คงตามสังหารมันได้ยาก!”

เยียวเลอยิ้มขึ้นมา “แล้วทำไม? ในมหาค่ายกลโลหิตเมฆาสุดท้ายมันก็เป็นได้แค่หนูให้พวกเราไล่จับเล่น”

ฉือชางกล่าวขึ้นตอบ “อาจจะเป็นเช่นนั้นจริงแต่ปราณเทวะโกลาหลของมันนั้นก็ทรงพลังอย่างมาก มันรับการโจมตีจากเหมิงจินได้หลายต่อหลายครั้งและยังไม่มีท่าทีว่าจะตายลง! หากมันเป็นยอดฝีมือคลื่นกำเนิดทั่วๆ ไปแล้วพวกมันคงได้ตายไปไม่รู้กี่รอบ!”

เยียวเลอยิ้มตอบกลับไป “ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่สนุกสิ หากไม่ได้เท่านี้เจ็ดวันของเราคงน่าเบื่อแย่”

คนทั้งสองหันมามองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม

การต่อสู้เช่นนี้มันทำให้ความกังวลใดๆ ก่อนหน้าของพวกเขานั้นจางหายไปสิ้น

เหมิงจินนั้นไม่ได้ใช้พลังถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำแต่ว่าเย่หยวนนั้นกลับพ่ายแพ้อย่างไม่อาจจะต่อต้านใดๆ ได้

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดขนาดไหนมันก็ไม่มีทางรอดจากแผนนี้ไปได้

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจจะฆ่าเวลาเจ็ดวันนี้ด้วยการทรมานเย่หยวนไป

ศึกของเหมิงจินและเย่หยวนนั้นยังคงดำเนินต่อไป

นี่มันคือการเล่นแมวไล่จับหนู เหมิงจินไม่ได้คิดจะรีบสังหารเย่หยวนใดๆ

ต่อให้เขาจะไม่ได้ใช้กระบวนท่าใดๆ ออกมาเย่หยวนก็ต้องรับมันไปอย่างสุดกำลังอยู่ดี

“ฮ่าๆ นี่หรือคืออัจฉริยะที่ทำให้ทุกสวรรค์ต้องปั่นป่วน? น่าผิดหวังนัก! ข้านั้นใช้แค่นิ้วเดียวแต่เจ้ากลับเอาชนะนิ้วเดียวของข้านี้ไม่ได้?” เหมิงจินหัวเราะลั่นขึ้น

ตอนนี้เย่หยวนนั้นมีเลือดไหลท่วมกายหายใจแทบไม่ทันเหนือจากการวิ่งหนีไล่ล่า จะยังมีแรงไปเถียงได้หรือ?

แต่จู่ๆ ฉือชางก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น “เจ้าคิดว่าเย่หยวนมันเร็วขึ้นหรือไม่?”

เยียวเลอที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปก่อนจะหัวเราะขึ้น “ฉือชาง เจ้าคงหลอนไปเองเพราะคำขู่จากท่านอี้เฉียแล้ว? มันจะต้องกังวลอะไรขนาดนั้น? เจ้าเด็กนี่จะอย่างไรมันก็แค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่ง! มันเร็วขึ้นหรือ? มันจะเร็วขึ้นได้แค่ไหน? เพราะข้านั้นไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย”

ฉือชางพยักหน้ารับเมื่อได้ยินเช่นกัน “บางทีข้าคงคิดมากไปเองจริงๆ ดูดีๆ แล้วมันก็ไม่ได้เร็วขึ้น”

ภายนอกมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นสภาพการรบของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันไม่ดีอย่างมาก

เพราะตอนนี้มันผ่านไปได้ครึ่งวันแล้วแต่คนนิกายยาสุดล้ำกลับบาดเจ็บล้มตายกันไปมากมาย!

เพราะครั้งนี้ด้วยการนำของอี้เฉียนั้น พวกเขาได้นำกองทัพใหญ่โตกว่าครั้งก่อนมามากมายนัก

แค่นับยอดฝีมือล้ำสวรรค์มันก็มีถึงสิบคนแล้ว!

“ฮ่าๆ หากจิตใจยังไม่อยู่กับตัวเช่นนี้เจ้าจะได้ตายเอาก่อน! เจ้าไม่ต้องกังวลให้มากไปหรอก พวกฉือชางทั้งสามคนนั้นเป็นยอดฝีมือในหมู่เจ้าโลก! เย่หยวนไม่มีทางเอาชนะได้แน่นอน!” อี้เฉียนั้นมองหน้าหมี่เทียนและหัวเราะลั่นขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 3088 ปะทะเจ้าโลก!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 3088 ปะทะเจ้าโลก! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นฉือชาง เยียวเลอและเหมิงจินสามเจ้าโลกเผ่าเลือดนั้นต่างมองดูหน้าเย่หยวนด้วยความเย้ยหยัน

ในความคิดของพวกเขานั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นได้แค่เต๋าในโหล

พวกเขาทั้งสามนั้นคือยอดฝีมือแม้ในหมู่เจ้าโลกด้วยกัน

มาจัดการกับมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นี้มันย่อมจะง่ายดายเกินไป

มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์และเจ้าโลกนั้นแม้จะห่างกันแค่หนึ่งอาณาจักรแต่มันคือตัวตนที่แตกต่างชั้นกันอย่างสิ้นเชิง

ไม่มีใครเคยก้าวข้ามความต่างนี้ขึ้นมาสู้กับเจ้าโลกได้มาก่อน!

ได้เห็นยอดฝีมือทั้งสามนั้นเยวี่ยเมิ่งลี่ก็หน้าซีดขาวลง

แต่ตอนนี้เย่หยวนก็กลับมาสงบจิตใจได้แล้ว

เขานั้นดึงดาบน้อยออกมาจากหว่างคิ้วก่อนจะถือมันไว้ในมือและยื่นไปใกล้ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่

“ลี่เอ๋อ เจ้าเข้าไปซ่อนในมิติของดาบเต๋าก่อน”

แม้ว่าโลกภายในของเย่หยวนนั้นมันจะแตกสลายไปแล้วแต่การเปิดมิติภายในดาบเต๋าแค่เพื่อให้เยวี่ยเมิ่งลี่ได้ซ่อนตัวนั้นมันย่อมจะไม่ยากเย็นเกินไป

เยวี่ยเมิ่งลี่ได้แต่ต้องทำหน้าลังเลก่อนจะส่ายหัวตอบกลับไป “พี่หยวน หากท่านจะสู้กับมันข้าก็จะขอตายกับพี่ด้วย!”

เย่หยวนหันมายิ้มให้เยวี่ยเมิ่งลี่ “ทำไมพี่หยวนของเจ้าถึงจะยอมตายง่ายๆ เล่า? พี่บอกแล้วว่าจะแต่งงานกับเจ้า พี่ไม่มีทางคืนคำแน่นอน! มันแค่สามเจ้าโลกธรรมดาๆ ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวมากมายหรอก!”

เมื่อสามเจ้าโลกนั้นได้ยินพวกเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้

“ฮ่าๆๆ ช่างเป็นคำพูดที่ยิ่งใหญ่ดีแท้! เย่หยวน เจ้านี่มันอย่างที่เขาลือกันจริงๆ ไอ้คนขี้โม้! คิดจะปลอบใจนังเด็กน้อยมันแต่เจ้าไม่คิดว่าคำพูดเช่นนี้มันจะฟังดูโง่เกินไปหรือ?” ฉือชางกล่าวขึ้น

“ก่อนๆ มานั้นบรรพบุรุษท่านคิดว่าเจ้านั้นไม่ได้เก่งกาจมากมายจึงไม่ได้คิดลงมือสังหารเจ้าเป็นจริงเป็นจัง แต่ครั้งนี้ในเมื่อเราออกมาเองแล้วเจ้ายังคิดว่าจะรอดไปได้? แค่สามเจ้าโลกธรรมดาๆ? ฮ่าๆ วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสพลังของเจ้าโลกเอง!” เยียวเลอกล่าวขึ้นตาม

เท่านี้มันก็ยิ่งทำให้เยวี่ยเมิ่งลี่กังวลกว่าเก่า

เจ้าโลกนั้นมิใช่เรื่องตลก!

หากอีกฝ่ายนั้นเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์หรือแม้แต่ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดนับสิบๆ เยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยังไม่คิดจะกังวลแม้แต่น้อย

แต่ต่อหน้าเจ้าโลกนั้นต่อให้จะเป็นเจ้าโลกที่อ่อนแอแค่ไหนมันก็ยังเป็นเจ้าโลก ตัวตนที่เย่หยวนในตอนนี้ไม่อาจจะก้าวขึ้นไปถึงได้!

เย่หยวนหันมายิ้มปลอบใจให้แก่นาง “สบายใจได้น่า พี่เคยโกหกเจ้าหรือ? ในเมื่อมันกล้ามาพี่ก็จะทำให้มันไม่ได้กลับไปแน่นอน!”

ใบหน้าสบายๆ ของเย่หยวนนั้นทำให้เยวี่ยเมิ่งลี่สงบใจลงได้บ้าง

มาถึงขนาดนี้แล้วต่อให้อยากจะหนีมันก็คงหนีไม่ได้ มันมีแต่สู้หรือตายเท่านั้น

จะบอกว่าขอตายด้วยมันย่อมจะเป็นได้แค่เรื่องตลก

เพราะนางรู้ตัวดีว่าการที่นางอยู่สู้ด้วยกันนั้นมีแต่จะเป็นภาระให้แก่เย่หยวน

คิดได้เช่นนั้นนางก็พยักหน้ารับมุดตัวเข้ามิติของดาบเต๋าไป

ในมหาค่ายกลโลหิตเมฆานี้มันไม่มีที่ไหนปลอดภัยไปกว่าในดาบเต๋าแล้ว

เพราะหากเย่หยวนยังไม่ตาย มันก็จะไม่มีใครเข้าถึงตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ได้

สามเจ้าโลกเองก็ไม่คิดจะห้ามเย่หยวนใดๆ ปล่อยให้เย่หยวนได้ทำตามใจชอบไป

เพราะพวกเขานั้นมั่นใจว่าจะสามารถสังหารเย่หยวนได้ในฝ่ามือเดียว

ฉือชางยิ้มกล่าวขึ้น “เอาล่ะ โม้กันจบแล้วเราก็จะได้จบเรื่องกันเสียที!”

เขานั้นกำลังจะเข้าโจมตีแต่กลับถูกเหมิงจินห้ามไว้ก่อน “อย่าเพิ่งน่า จะอย่างไรเสียเราก็ต้องติดอยู่ในนี้เจ็ดวัน ฆ่ามันไปในกระบวนท่าเดียวนั้นจะน่าเบื่อไปไหมเล่า? ไปเล่นกับมันเสียหน่อยจะไม่ดีกว่าหรือ?”

ฉือชางที่ได้ยินต้องผงะไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มตอบไป “เอาสิ”

เหมิงจินมองดูหน้าเย่หยวนก่อนจะขยับตัวหายไปทันควัน

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเพราะสัมผัสได้ถึงอันตรายจากรอบด้านแต่ไม่รู้ว่ามันมาจากทางไหนกันแน่!

สายตาของเขานั้นไม่อาจจะมองตามอีกฝ่ายได้เลย

นี่มันคือครั้งแรกที่เขาได้ปะทะกับเจ้าโลกตรงๆ!

เขานั้นได้รู้ซึ้งถึงพลังของเจ้าโลกเป็นครั้งแรก!

ส่วนฉือชางและเยียวเลอทั้งสองคนนั้นต่างยืนมองดูเฉยๆ ราวกับไม่คิดสนใจจะลงมือ

วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็ต้องขนลุกตั้งไปทั้งร่างเพราะสัมผัสได้ถึงความตายจากด้านหลัง

เขารีบปล่อยปราณเทวะโกลาหลออกมาสุดกำลังและหันหลังกลับไปเตรียมรับการโจมตี

“ฮ่าๆ เจ้าตอบสนองได้ดี แต่มันช้าไป!”

เสียงหัวเราะของเหมิงจินดังขึ้นมาข้างหูเย่หยวน

เย่หยวนหันไปและพบว่าตอนนี้ใบหน้าของเหมิงจินนั้นมันแทบจะมาถึงตัวเขาแล้ว

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็ง้างนิ้วไว้รอดีดราวกับกำลังเล่นกับเด็กๆ

ปัง!

คลื่นพลังรุนแรงกระแทกเข้าร่างเย่หยวนไป

เย่หยวนนั้นปลิวออกไปทันทีอย่างไม่อาจหยุดห้าม เขานั้นไม่รู้เลยว่าตัวเองโดนอะไรเข้าไป!

การโจมตีเล่นๆ ทีเดียวนี้มันทำให้หน้าอกของเย่หยวนยุบเป็นรู

พลังของการดีดนิ้วมันรุนแรงจนเกินความเข้าใจ!

แต่ร่างของเย่หยวนยังไม่ทันจะหยุดเขาก็ได้ยินเสียงเหมิงจินที่ข้างหูอีกครั้ง

“เจ้าคิดว่ามันจะจบแค่นี้?”

เย่หยวนนั้นเกร็งทั้งตัวพร้อมด้วยปราณเทวะโกลาหลเพื่อเตรียมรับการโจมตีครั้งที่สอง

แต่ความอันตรายนั้นก็ยังตามติดเขามาเหมือนเป็นเงา!

เย่หยวนพยายามใช้วิชาการเคลื่อนไหวออกมาจนถึงที่สุดเพื่อเปลี่ยนทิศทางการปลิวของตัวเอง

แต่เขาก็ไม่อาจจะสลัดตัวเหมิงจินได้หลุด!

ไม่ไกลออกไปฉือชางก็ต้องยิ้มกว้างขึ้น “เหมิงจินนี่มันกำลังเล่นแมวจับหนูหรืออย่างไร?”

เยียวเลอเองก็ยิ้มขึ้นกล่าว “ก่อนจะมานั้นท่านอี้เฉียบอกเหลือเกินว่าเจ้าเด็กนี่มันประหลาดมหัศจรรย์แค่ไหน ข้าก็นึกว่ามันจะทำให้ข้าสนใจได้บ้างแต่ดูท่าแล้ว มันคงได้เท่านี้!”

ฉือชางส่ายหัวตอบกลับไป “เจ้าพูดเช่นนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว! เพราะดูจากสภาพประกอบแล้วเย่หยวนมันทรงพลังจริงๆ! หากเป็นเจ้าโลกธรรมดาๆ ทั่วไปคงยากที่จะสังหารมันลงได้! นอกจากนั้นมันยังมีพลังของมหาค่ายกลโลหิตเมฆาที่ปิดกั้นพลังอื่นๆ นอกจากพลังของบรรพบุรุษศิลาโลหิตท่าน! คลื่นกำเนิดห้วงมิติมันจึงแทบไม่อาจจะใช้งานได้ในนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เราจะไล่ล่ายังไงก็คงตามสังหารมันได้ยาก!”

เยียวเลอยิ้มขึ้นมา “แล้วทำไม? ในมหาค่ายกลโลหิตเมฆาสุดท้ายมันก็เป็นได้แค่หนูให้พวกเราไล่จับเล่น”

ฉือชางกล่าวขึ้นตอบ “อาจจะเป็นเช่นนั้นจริงแต่ปราณเทวะโกลาหลของมันนั้นก็ทรงพลังอย่างมาก มันรับการโจมตีจากเหมิงจินได้หลายต่อหลายครั้งและยังไม่มีท่าทีว่าจะตายลง! หากมันเป็นยอดฝีมือคลื่นกำเนิดทั่วๆ ไปแล้วพวกมันคงได้ตายไปไม่รู้กี่รอบ!”

เยียวเลอยิ้มตอบกลับไป “ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่สนุกสิ หากไม่ได้เท่านี้เจ็ดวันของเราคงน่าเบื่อแย่”

คนทั้งสองหันมามองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม

การต่อสู้เช่นนี้มันทำให้ความกังวลใดๆ ก่อนหน้าของพวกเขานั้นจางหายไปสิ้น

เหมิงจินนั้นไม่ได้ใช้พลังถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำแต่ว่าเย่หยวนนั้นกลับพ่ายแพ้อย่างไม่อาจจะต่อต้านใดๆ ได้

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดขนาดไหนมันก็ไม่มีทางรอดจากแผนนี้ไปได้

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจจะฆ่าเวลาเจ็ดวันนี้ด้วยการทรมานเย่หยวนไป

ศึกของเหมิงจินและเย่หยวนนั้นยังคงดำเนินต่อไป

นี่มันคือการเล่นแมวไล่จับหนู เหมิงจินไม่ได้คิดจะรีบสังหารเย่หยวนใดๆ

ต่อให้เขาจะไม่ได้ใช้กระบวนท่าใดๆ ออกมาเย่หยวนก็ต้องรับมันไปอย่างสุดกำลังอยู่ดี

“ฮ่าๆ นี่หรือคืออัจฉริยะที่ทำให้ทุกสวรรค์ต้องปั่นป่วน? น่าผิดหวังนัก! ข้านั้นใช้แค่นิ้วเดียวแต่เจ้ากลับเอาชนะนิ้วเดียวของข้านี้ไม่ได้?” เหมิงจินหัวเราะลั่นขึ้น

ตอนนี้เย่หยวนนั้นมีเลือดไหลท่วมกายหายใจแทบไม่ทันเหนือจากการวิ่งหนีไล่ล่า จะยังมีแรงไปเถียงได้หรือ?

แต่จู่ๆ ฉือชางก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น “เจ้าคิดว่าเย่หยวนมันเร็วขึ้นหรือไม่?”

เยียวเลอที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปก่อนจะหัวเราะขึ้น “ฉือชาง เจ้าคงหลอนไปเองเพราะคำขู่จากท่านอี้เฉียแล้ว? มันจะต้องกังวลอะไรขนาดนั้น? เจ้าเด็กนี่จะอย่างไรมันก็แค่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่ง! มันเร็วขึ้นหรือ? มันจะเร็วขึ้นได้แค่ไหน? เพราะข้านั้นไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย”

ฉือชางพยักหน้ารับเมื่อได้ยินเช่นกัน “บางทีข้าคงคิดมากไปเองจริงๆ ดูดีๆ แล้วมันก็ไม่ได้เร็วขึ้น”

ภายนอกมหาค่ายกลโลหิตเมฆานั้นสภาพการรบของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันไม่ดีอย่างมาก

เพราะตอนนี้มันผ่านไปได้ครึ่งวันแล้วแต่คนนิกายยาสุดล้ำกลับบาดเจ็บล้มตายกันไปมากมาย!

เพราะครั้งนี้ด้วยการนำของอี้เฉียนั้น พวกเขาได้นำกองทัพใหญ่โตกว่าครั้งก่อนมามากมายนัก

แค่นับยอดฝีมือล้ำสวรรค์มันก็มีถึงสิบคนแล้ว!

“ฮ่าๆ หากจิตใจยังไม่อยู่กับตัวเช่นนี้เจ้าจะได้ตายเอาก่อน! เจ้าไม่ต้องกังวลให้มากไปหรอก พวกฉือชางทั้งสามคนนั้นเป็นยอดฝีมือในหมู่เจ้าโลก! เย่หยวนไม่มีทางเอาชนะได้แน่นอน!” อี้เฉียนั้นมองหน้าหมี่เทียนและหัวเราะลั่นขึ้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+